กระทู้เล็กๆที่2คับ..พระเครื่องสายใต้พุทธคุณหลักล้าน ราคาหลักร้อย ของดีราคาเบาๆคับ

สวัสดีตอนบ่ายๆคับผม..

 

อยากดูรูปจังเลยยยยยย

 

รายการที่15.

พระเนื้อดินผสมผง พิมพ์พระพุทธ หลังยันต์ ปี 06 วัดควนวิเศษ จ.ตรัง​

พระเนื้อดินผสมผง พิมพ์พระพุทธ หลังยันต์ ปี 2506 วัดควนวิเศษ จ.ตรัง เกจิสายเขาอ้อและลป.ทิม ร่วมปลุกเสกคับ..

บูชา 650 บาท+ค่าจัดส่ง 50 บาท

 

รายการที่16.

พระปิดตา ลพ.แสง วัดคลองน้ำเจ็ด จ.ตรัง​

พระปิดตา เนื้อผงผสมว่าน ลพ.แสง วัดคลองน้ำเจ็ด จ.ตรัง พระปิดตารุ่นนี้ของท่านขึ้นชื่อทางด้านเมตตาค้าขายคับ พระปิดตาเนื้อผงผสมว่าน ของพ่อท่านแสง ที่นำมาลงให้ชมวันนี้ สภาพสวยสมบูรณ์ หลังยันต์ติดชัดคับ..

บูชา 800 บาท+ค่าจัดส่ง 50 บาท​

 

รายการที่17. ชุดประหยัด แพ็คคู่คับ

พระผงเทพนิมิตร พิมพ์นาคปรก+กลีบบัวเทพนิมิตร ปี 96 อ.ชุม ไชยคีรี​

พระผงเทพนิมิตร เนื้อผงผสมว่าน 108 ชนิด ได้จัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2496 ที่วัดบรรพตพินิจ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง อ.ชุม ไชยคีรี และเกจิสายเขาอ้อร่วมปลุกเสกคับ...
พิเศษคับวันนี้ พระผงเทพนิมิตร พิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก เนื้อออกโทนแดงหายากคับ..

บูชา 1,100 บาท+ค่าจัดส่ง 50 บาท​

 

รายการที่18.

พระผงพิมพ์กลีบบัว เนื้อมหาว่านขาว อ.ศรีเงิน วัดดอนศาลา จ.พัทลุง​

พระกลีบบัวมหาว่านขาว หลังยันต์ เนื้อผงผสมว่าน อ.ศรีเงิน วัดดอนศาลา จ.พัทลุง เกจิสายเขาอ้อร่วมปลุกเสก พระกลีบบัวที่นำมาลงให้ชมกันในวันนี้ถือว่าสภาพสวยคับ ยันต์ด้านหลังติดชัดเจน..

บูชา 300 บาท+ค่าจัดส่ง 50 บาท​

 

รายการที่19.

พระผงผสมว่าน พิมพ์พระพุทธ-สังฆจาย ลพ.คล้อย วัดภูเขาทอง พิธีจันทร์เพ็ญ ​

พระพุทธเนื้อผงผสมว่าน ลพ.คล้อย วัดภูเขาทอง พิธีจันทร์เพ็ญ หลังยันต์นะ เนื้อขององค์พระออกสีขาวปนครีม ตอนนี้วัตถุมงคลของ ลพ.คล้อย กำลังมาแรงคับผม พระทั้งสองพิมพ์ที่นำมาลงให้ชมกันในวันนี้ เป็นวัตถุมงคลยุคแรกๆของท่านที่จัดทำคับ เมื่อประมาณปี 2528 พระดีพิธีใหญ่ ที่สำคัญพุทธคุณหลักล้าน แต่ราคาหลักร้อยเท่านั้นคับ...

พิเศษคับวันนี้จัดเป็นแพ็คคู่ชุดประหยัด พระพุทธเนื้อผง+พระสังฆจายเนื้อผง
บูชา 550 บาท+ค่าจัดส่ง 50 บาท

 

รอติดตามชมครับพี่

 

รอติดตามเช่นกันครับ

 

สวัสดีคับน้องโอ สบายดีนะคับช่วงนี้ ..

 

ผมก็รอชมภาพของพี่ทุกวันเช่นกันคับพี่เอ...

 

สบายดีครับพี่

แต่อีกวันสองวัน ต้องลงไปส่งงานที่หัวหินอีกแล้วครับ

 

มาเยี่ยมชมครับ ถ้ามีองค์ไหนสนใจจะโทรไปนะครับ
(smile)

 

ขอบคุณคับพี่ที่ติดตามรายการของผม..

 

พอดีเลย แล้วได้เข้าไปที่วัดด้วยป่าวโอ..

 

ขอบคุณคุณเก้า นะครับที่เอามาลงให้ชมสิ้นเดือนนี้ค่อยว่ากันครับ อิอิ

 

รอชมผลงานอยู่นะคับ อย่าให้รอเก้อล่ะ..อิๆๆ..

 

ขอบคุณคับพี่ชาวประมง แค่พี่เข้ามาชมรายการพระเครื่องของผม แค่นี้ผมก็ดีใจแล้วคับพี่ ส่วนเรื่องเช่าหรือไม่นั้นไม่เป็นไรคับไม่ว่ากันอยู่แล้ว ค่อยๆศึกษาดูข้อมูลและประวัติความเป็นมาของพระเครื่องสายใต้ก่อนก็ได้คับพี่..

 

ได้คับพี่ ยินดีคับท่าน..

 

เกร็ดความรู้ เล็กๆน้อยๆของ ชันโรง หรือ (ตัวอุง)​

งวงทางเข้าของตัวอุงที่อยู่ใต้ดินคับ​

ผมจะขอนำเสนอเรื่องราวเล็กๆที่ผมนิยมเป็นการส่วนตัวและเข้าใจว่ามีกลุ่มผู้คนที่นิยมพระเครื่องที่มีส่วนผสมของประเภทนี้อยู่บ้างนั้นคือ"ชันโรง"
ลักษณะของ "ชันโรง" ที่นำมาใช้ประกอบจัดสร้างวัตถุมงคงหรือวัตถุอาถรรพ์นั้น จะเป็นยางไม้เหนียวข้นคล้ายกับชันที่ยาเรือ ตัวชันโรงจะเก็บยางจากไม้ใหญ่ต่างๆนำมาผสมกับมูลแล้วอุดรูร่องรอยสร้างขึ้นเป็นรัง เราจะสามารถพบเห็นรังของชันโรงได้ตามโคนตันไม้ใหญ่ๆ ตามโพรงของกิ่งไม้และบริเวณดิน ชันโรงใต้ดิน ตามธรรมชาติชันโรง เป็นชื่อของผึ้งชนิดหนี่งมีรังเป็นยางเหนียว สีน้ำตาลเข้มจนถึงดำ ชันโรง ส่วนใหญ่ทำรังบนต้นไม้ ชาวเรือเอาไปอุดรอยต่อของไม้กระดานเรือ มี 2 ชนิด คือ ชันโรงบนต้นไม้และ ชันโรงใต้ดิน ซึ่งชันโรงใต้ดินเป็นของอาถรรพณ์ ปกติชันโรง ใต้ดินอยู่ที่ไหนที่นั่นจะไม่ไหม้ไฟ ชันโรงใต้ดินมีอิทธิคุณ ตามธรรมชาติเป็นมหาอุด กันไฟ กันคุณไสย์ได้ ในทางวิทยาศาสตร์ก็ให้ความยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันเลย คนโบราณจึงนำ ชันโรง ใต้ดิน มาปิดปากเบี้ยไม่ให้ปรอทหนี ความจริงชันโรงเป็นชื่อของแมลงชนิดหนึ่งที่อยู่ในตระกลูผึ้ง มีขนาดลำตัวเล็กกว่าและไม่มีเหล็กในในตัวเอง นิสัยเป็นมิตรไม่ดุร้าย มีวิถีชีวิตคล้ายคลึงกับผึ้ง เช่น มีนางพญา มีชันโรงงาน และมีชันโรงตัวผู้สามารถผลิตน้ำหวาน และขยายเผ่าพันธ์ในลักษณะเช่นเดียวกันกับผึ้ง
ในสมัยโบราณเราสามารถพบตัวชันโรงได้ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยทางภาคเหนือจะเรียกว่า แมลงขี้ตังนี หรือแมลงขี้ตึง แปลว่าแมลงที่ผลิตหรือเก็บน้ำยางได้ ทางภาคอีสานเรียก แมลงขี้สูดนิยมนำมาอุดแคน หรือถ่วงเครื่องดนตรีประเภทระนาด โปงลาง ทำให้เกิดเสียงไพเราะ ส่วนภาคใต้เรียกตัว อุง ถ้าตัวเท่าแมลงหวี่เรียกอุงแมงโลม เพราะชอบมาตอมไต่ผู้คนเวลาเดินป่าถ้าตัวใหญ่เรียก อุงหมี นอกจากนี้บางพื้นที่ยังรู้จักในชื่อ ตัวชำมะโรง อีกด้วย ชันโรงที่เป็นของดีโดยธรรมชาติ ที่ไม่ต้องปลุกเสกคือ แมลงที่ทำรังในระดับทางเดินของคน มีชื่อเรียกภาษาอีสานว่า สูดเพียงดิน หมายถึงแมลงชนิดนี้ ทำรังระดับเดียวกันกับพื้นดินแล้วทำท่อขึ้นมาจากพื้นดินครับ ซึ่งปกติแล้วแมลงชนิดนี้มักจะทำรังในที่สูงครับ เช่นโพรงไม้หรือจอมปลวกครับ สูดเพียงดิน นี้ค่อนข้างจะหายากครับ ถ้าใครเจอให้เก็บไว้เลยนะครับเป็นของดีจาก ธรรมชาติ เมื่อพบแล้วต้องทำพิธีกรรมตามตำรา แล้วขุดลงไปบางทีต้องขุดลึกถึง 1-2 เมตร จึงจะได้ชันโรงตามที่ต้องการ ส่วนชันโรงอีกชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาทำวัตถุอาถรรพ์ ก็คือชันโรงที่พบในโพรงไม้ที่ยืนตายซาก โบราณท่านว่าดีนักแล การทำชันโรงประกอบขึ้นเป็นวัตถุมงคลนั้นถือว่าเป็นพิธีกรรมที่สืบทอดมาแต่โบราณ ผู้ทำจะต้องทรงวิทยาคุณแก่กล้า และรู้จักวิธีการ "หา"ชันโรง ที่นิยมใช้กันมาแต่โบร่ำโบราณจะเป็นชันโรงใต้พื้นดินโดยจะต้องเริ่มสังเกตโพรงบนพื้นดินที่ยื่นขึ้นมาเป็นรูปกรวย ซึ่งตรงกลางจะกลวง กรวยดินนี้จะกระจัดกระจายอยู่ในละแวกเดียวกันหลายกรวย ซึ่งก็คือทางเข้าออกของตัวชันโรงที่อยู่ใต้ดินให้สังเกตบริเวณใกล้ๆ กันนั้นมักจะมีจอมปลวกขึ้นอยู่ด้วยโบราณณาจารย์นิยมนำชันโรงมาอุดก้นพระชัยวัฒน์ พระกริ่ง เนื่องจากคติความเชื่อว่าชันโรงเป็นตัวช่วยป้องกันไม่ให้วัตถุที่ลงอาคม เม็ดกริ่ง กระดาษสาเขียนยันต์ ผงใบลาน พระคาถา ที่คณาจารย์ทำพิธีและบรรจุไว้ในพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ ตลอดจนวัตถุมงคลอื่นๆ หลุดออกไปจากวัตถุมงคลหรืออุดปรอทในเบี้ยแก้ เบี้ยจั่น ปัจจุบันจะหาใครทำชันโรงประกอบขึ้นเป็นสิ่งมงคลได้ยากแล้วคนที่รู้จักก็น้อยลง และรังชันโรงก็ถูกตึกรามบ้านช่องรุกราน ต้องอพยพย้ายถิ่นฐานไปอยู่ตามท่อน้ำประปา หรือรูตามเสาไฟฟ้า ต้นไม้ที่จะเก็บยางก็ไม่มี จนดูท่าชันโรงอาจจะสูญสลายหายไปในที่สุด
คติโบราณท่านถือว่า นอกจากชันโรงจะช่วยปกปักรักษาของดีแล้ว ด้วยความที่ชันโรงเป็นแมลงไม่ดุร้าย จึงมีเสน่ห์ทางเมตตามหานิยมอีกด้วย ดังนั้น หากผู้ใดได้ครอบครองวัตถุมงคลที่ประกอบขึ้นด้วยชันโรงก็นับได้ว่าผู้นั้นได้ครบถ้วนแล้วซึ่งของที่มีคุณวิเศษและเมตตามหานิยมอีกด้วยคับ...

รูปภาพของโพรงรังตัวชันโรง ที่มีลักษณะคล้ายงวงคับ

​

ตัวชันโรง (อุง)​