กลุ่มเขากะลาเปิดใจ ทำงานกับมนุษย์ต่างดาวเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ ในวันชำระล้างโลกปี ค.ศ.2012

เปิดใจ ทำไมจึงต้องมาทำงานกับมนุษย์ต่างดาว !!!
โดยคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!--

google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2610204", true); </SCRIPT> สมาชิกเว็บพลังจิต



​

การทำงานกับมนุษย์ต่างดาว การฝึกจิต ที่ไม่มีรูปแบบ เป็นเรื่องใหม่ เป็นเรื่องเฉพาะกิจ จึงไม่อาจกล่าวให้ใคร ๆ เข้าใจได้ ดังนั้น หากจะเริ่มที่บุคคลอื่น ให้มารวมกันเพื่อทำความเข้าใจ ในงานใหญ่ระดับจักรวาลนั้น ย่อมเป็นไปได้ยาก

จึงต้องใช้รูปแบบครอบครัว ต้องทำทั้งครอบครัว เพื่อให้งานของระบบเดินไปได้ ด้วยสายสัมพันธ์ ด้วยความสามัคคีกันในครอบครัวนั่นเอง จึงมีครอบครัวเพี้ยนที่หลายคนเข้าใจ คือครอบครัวของ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน นั่นเอง

ไม่ใช่เราไม่มีปัญญา ทุกคนมีการศึกษา มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ผู้นำครอบครัวปฏิบัติธรรมสายสมถะกรรมฐานมาเกือบตลอดชีวิต ลูก ๆ ก็ปฏิบัติธรรมมาอย่างต่อเนื่อง การพิจารณาไตร่ตรองในธรรมะ จึงมีเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว

แต่สิ่งที่ทำให้ต้องตัดสินใจทุ่มเท ทั้งชีวิต เสียสละทั้งแรงกายแรงใจ หน้าที่การงาน สวนทางกับการอยากได้ใคร่ดีเหมือนทางโลกนั้น ก็เพราะการรู้ว่าจะเกิดภัยพิบัติใหญ่ ที่จะทำให้มนุษย์โลกล้มตายเป็นจำนวนมาก ยากที่จะช่วยเหลือกันได้โดยลำพัง

และมิใช่เป็นการเชื่อแบบเลื่อนลอย มิใช่เป็นการจินตนาการเอาเอง อุปาทานเอาเอง ดังที่หลาย ๆ คนเข้าใจ

การมาปรากฏยานอวกาศ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ให้ครอบครัวชื่นสำนวน เห็นอย่างชัดเจนแทบจะทุกวัน จนครอบครัวนี้ ต้องเสียสละ อุทิศตนเอง เพื่อประโยชน์ส่วนรวม จากความสบาย ไปสู่ความลำบาก จากเคยมั่งมี ไปสู่ความไม่มี จากความมีหน้าตา

หน้าที่การงาน ผู้คนสรรเสริญ ไปสู่ความเป็นผู้ถูกนินทาว่ากล่าว เป็นผู้ถูกคนกล่าวหาว่าบ้า ว่าเพี้ยนทั้งครอบครัว

แต่ภารกิจที่ได้รับทราบ มันใหญ่มากมายกว่าความเห็นแก่ได้ส่วนตัว มากกว่าหลายเท่านัก แม้ใครจะมองไม่เห็น ไม่เข้าใจ แต่ภารกิจที่ยิ่งใหญ่ก็ยังคงอยู่

จานบินก็ยังยืนยันอยู่ทุกวัน ยังมาลอยให้กำลังใจ ยามใดที่ครอบครัวนี้ท้อถอย หมดกำลังใจ จึงยังต้องลุกขึ้นสู้ใหม่ ครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ที่ยากจะเข้าใจ

เป็นตัวแทนช่วยโลกใบนี้ จากภัยพิบัติใหญ่ที่จะเกิดขึ้นนั่นเอง

เริ่มจาก ผู้นำครอบครัว ผู้รับญาณองค์พระพิฆเณศร์ และ รับการสื่อสารทางโทรจิตกับมนุษย์ต่างดาว

จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ผู้นำครอบครัว
นางสำราญ ชื่นสำนวน ภรรยา
นางบุญช่วย ชื่นสำนวน
นางสาวสุดใจ ชื่นสำนวน
นางสมจิตร แร่เพชร
นายชูชาติ ชื่นสำนวน
นางสาววาสนา ชื่นสำนวน

จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน เป็นทหาร ปฏิบัติธรรมมาทั้งชีวิต เมื่อเกษียรอายุราชการแล้ว ก็ไปทำงานเป็นตัวแทนขายรถไถไทซัน เปิดเป็นร้านเล็ก ๆ อยู่ที่อ. หนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี

ได้ทำงานเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ๆ ร่วมกับองค์เทพฯ องค์พระพิฆเณศร์ มาโดยตลอดเป็นระยะเวลา 17 ปี ปี 2523 - 2540 และเป็นผู้รับสัมผัสคลื่นจากองค์พระอินทร์ ที่มาเพื่อเทศนาธรรมโปรดมนุษย์โลก และได้รับการสื่อสารทางโทรจิตกับมนุษย์ต่าง

ดาว ในวันที่ 2 ธันวาคม 2540

เหตุใด จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน จึงได้ละทิ้งการงาน บ้านเรือน นำคณะครอบครัวเข้าสู่การปฏิบัติธรรม และพร้อมกับฝึกรับการสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว คงขอเกริ่นจากเรื่องหนังภัยพิบัติ จากภาพยนต์เรื่อง 2012 มาเทียบเคียง

เห็นความโกลาหล เห็นความวุ่นวาย เห็นการกลัวตายที่กำลังเกิดขึ้น อย่างที่มนุษย์ต่างดาวได้เคยกล่าวไว้ว่า ในวันข้างหน้าฝูงชนจะควบคุมไม่ได้ เพราะเขาต้องการหนีตายเท่านั้น

ความร้ายแรงของภัยพิบัติคงคาดเดาไม่ได้ การเตรียมการใหญ่ของหลายดวงดาวจึงมีขึ้นอย่างยาวนาน การที่ผู้จะทำงานกับมนุษย์ต่างดาวได้ต้องมีความเข้าใจ ต้องมีความมุ่งมั่นอดทน ซึ่งจะต้องนำมาใช้อย่างมากมายท่ามกลางความวุ่นวายเช่นนั้น

ดังนั้นการที่จะให้มนุษย์เสียสละความสุขความสบาย ละความมีความเป็นตัวตนที่เคยอยู่กินมีหน้ามีตา มีการมีงานเหล่านั้น ให้มาเสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ๆ โดยไม่เห็นจุดหมายปลายทางนั้นว่า จะจริงหรือไม่จะเกิดขึ้นหรือไม่

แล้วจะทำไปทำไม เป็นเรื่องที่ยากอย่างยิ่งที่จะมีใครร่วมจะเสียสละได้เช่นนั้น

ดังนั้นผู้ที่มีความเข้า่ใจเหมือนผู้ใหญ่ ที่จะให้เด็กทำอะไรสักอย่างก็ย่อมต้องหาอุบายเพื่อให้เด็กทำอย่างนั้น <O</O่จ.ส.อ.เชิดชื่นสำนวนและครอบครัวก็เช่นกัน หากให้ทำสิ่งใด ๆตรง ๆ เราก็ไม่ทำเช่นกันมนุษย์ต่างดาวจึงต้องใช้วิธีการทั้งหลอก

และล่อ ก็เพื่อทดสอบจิตใจ ในการที่จะเสียสละเพื่อคนส่วนใหญ่ได้หรือไม่นั่นเอง

มนุษย์ต่างดาวได้มาสื่อสารกับ จ่าเชิด มีการนำยานอวกาศมาบินให้เห็นให้พิสูจน์จนเกิดความมั่นใจในระดับหนึ่ง ถึงการเดินทางมาโลกมนุษย์ ว่ามาจริง เขามีจริงและจะมาให้ความช่วยเหลือได้จริง แต่ถ้าเป็นสิ่งที่เป็นวัตถุไฮเทคนั้น ครอบครัวจ.ส.อ.

เชิด หาได้สนใจไม่ เพราะไม่ได้มีความสนใจอย่างเช่นต่างประเทศเขาเสาะหากัน ​

<O</O

แต่ข้อมูลที่สื่อสารมานั้นหากเป็นเรื่องธรรมดา เราย่อมไม่ค่อยสนใจภัยพิบัติอะไรก็ตาม ไม่ได้อยู่ในความคิด ไม่ได้สนใจ ยิ่งจ่าเชิดเป็นคนบ้านนอกที่ชอบปฏิบัติธรรม ชอบความสมถะไม่ชอบคนวุ่นวายมีหรือจะอยากได้ อยากมี อยากเป็นอยากเด่นดัง

ไปไหนก็ยังไม่อยากไปด้วยซ้ำ

แต่เมื่อมีข้อมูลจากมนุษย์ต่างดาว จากยานอวกาศที่บินไปบินมา ให้เห็นอยู่ทุกวัน รวมถึงคนอื่น ๆ ที่มาร่วมเห็นด้วยเป็นประจักษ์พยานนั้นก็เริ่มมีความสนใจในการเดินทางมาโลกมนุษย์ ของมนุษย์ต่างดาวว่ามาเพื่ออะไร แต่สิ่งที่ได้รับรู้ ข้อมูลที่ได้รับ

การสื่อสารลงมา เป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างยิ่ง
<O</O
สหรัฐ พัฒนายานอวกาศ โดยผลิตกระแสคลื่นส่งออกไปนอกโลก คลื่นนั้นไปรบกวนดาวของเขา ทำให้มนุษย์ต่างดาว ที่สื่อสารกันด้วยคลื่น จึงถูกคลื่นของโลกมนุษย์รบกวน ให้มนุษย์โลกหยุดการส่งคลื่นโดยด่วน ไม่อย่างนั้น จะยิงอาวุธทำลายสหรัฐ

เพื่อหยุดยั้งการส่งคลื่นนั้น และให้ผู้รับการสื่อสาร ส่งข้อความนี้ไปยังสหรัฐอเมริกาโดยด่วน เพื่อจะได้ยุติการส่งคลื่นไปรบกวนจักรวาลอื่น
<O</O
เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ข้อมูลนั้น เป็นข้อมูลที่หลอก หรือข้อมูลที่จริง แต่ที่จริง ที่เห็น ที่พบอยู่ทุกวันก็คือ ยานอวกาศจำนวนมากมาย บินไป บินมา ให้เห็นอย่างเด่นชัด ด้วยความคิดของครอบครัวในขณะนั้นก็คือ ถ้าเราไม่แจ้งไปสหรัฐ แล้วมนุษย์

ต่างดาวก็ต้องทำลายประเทศสหรัฐ คนก็จะล้มตาย แล้วเราจะทำยังไง จะหาทางยังไงที่จะหยุดยั้งเรื่องนี้ได้
<O</O
เหมือนกับเป็นผู้รับผิดชอบโลกทั้งใบ ยังไงยังงั้น<O</O
<O
ด้วยความเป็นห่วงมนุษย์โลก ห่วงประเทศที่เจริญทางเทคโนโลยี เกรงว่าคนจำนวนมากจะเป็นอันตราย <O</Oและมนุษย์ต่างดาวก็มอบหมายภารกิจในการเป็นตัวแทนไปแจ้งแก่สหรัฐ ให้กับผู้สื่อสารด้วย คือ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน เรียกว่าเป็น

ตัวแทนของโลกใบนี้ ที่ยกให้ จ่าเชิด เป็นตัวกลางในการยุติสงครามนี้
<O
นี่คือที่มาของการตัดสินใจ ของ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ในการนัดหมายพบยานอวกาศ ที่สิงห์บุรี เพื่อให้สื่อมวลชนได้รับรู้ และหากเขามาปรากฏ สื่อมวลชนเห็นจริง ก็คงจะส่งข่าวสารนี้ไปถึงสหรัฐให้หยุดยั้งการส่งคลื่นได้ คนจะได้ไม่ถูกทำลายจาก

มนุษย์ต่างดาว และคงมีคนที่พูดอังกฤษได้ ช่วยสื่อสารไปยังสหรัฐได้ <O</Oคราวนี้เป็นเรื่องใหญ่ จะทำอย่างไรกันดี
<O</O
หากเป็นเรื่องอื่น ครอบครัวเราจะเป็นอะไร ตัวเองจะเป็นอะไร ก็คงไม่ได้สนใจมากนัก เพราะการปฏิบัติธรรมก็ย่อมเข้าใจในธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่ได้ตื่นเต้นกับความเป็นความตายของตนเอง <O</Oแต่คนตั้งหลายล้าน หากเกิดขึ้นจริงก็ย่อมมีการ

สูญเสีย
<O</O
ด้วยความเป็นห่วงคนอื่น ด้วยความเป็นห่วงมนุษย์โลก ด้วยความเห็นว่า หากเราไม่ทำ โลกจะต้องเกิดสงครามแน่นอน เป็นคนเล็ก ๆ คนหนึ่ง แต่ไปรับผิดชอบเรื่องใหญ่ระดับโลก อาจเป็นเรื่องน่าขำสำหรับคนอื่น แต่สำหรับครอบครัวนี้ การเห็นยาน

อวกาศมาปรากฏทุกวัน ย่อมเชื่อแน่ว่ามันเป็นความจริง หรือจริงในจิตขณะนั้น
<O
ซึ่งหลังจากส่งข่าวสารไป สหรัฐอเมริกาตอบกลับมาว่าได้รับข่าวสารแล้ว และจากนั้น ก็หยุดส่งคลื่นออกไปในจักรวาล
<O</O
ข้อมูลจริงหรือไม่จริงเราไม่ทราบ แต่มนุษย์ต่างดาวแจ้งว่า สหรัฐหยุดส่งคลื่นไปรบกวนมนุษย์ต่างดาวแล้ว สันติสุขก็เกิดขึ้น ระหว่างมนุษย์โลกกับมนุษย์ต่างดาว จากนั้นก็เริ่มสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวเรื่อยมา และได้พบว่าจุดประสงค์ใหญ่ของการมา

โลกมนุษย์นั้น มาเพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือโลกมนุษย์ใบนี้ ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

และต้องมีการฝึกบุคคลที่จะทำงานกับมนุษย์ต่างดาวขึ้นมา เพื่อเป็นตัวแทนรับข้อมูลข่าวสารแล้วส่งต่อให้กับมนุษย์โลก คือเป็นตัวกลาง ระหว่าง มนุษย์ต่างดาว กับมนุษย์โลก หรือเรียกว่า เป็นล่ามนั่นเอง และผู้ที่จะทำงานกับมนุษย์ต่างดาวได้ ก็คือ

ต้องละวางอัตตาในระดับหนึ่งได้แล้ว มีความอดทน มีความเพียร มีความเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม มากกว่าเห็นแก่ส่วนตน จึงจะทำงานร่วมกันได้

กระบวนการหลอกล่อ เพื่อให้ละกิเลส เพื่อให้เสียสละ มิให้มีความเห็นแก่ตนเองและพวกพ้อง ตีที่จุดอ่อนของแต่ละคน เพื่อให้ละวางอัตตาตัวตน เพื่อให้มีความเข้าใจในธรรมชาติ ในขันธ์ห้า ในอุปาทานเหล่านั้น เพื่อการปล่อยวาง แล้วนำจิตที่เบา

บางจากการยึดมั่นถือมั่นในอุปาทานขันธ์ห้าแล้วนั้น ไปทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาว

<Oในวันนี้ ถ้ามองย้อนไปในตอนนั้น ก็จะเข้าใจว่าทำไมมนุษย์ต่างดาวเขาต้องทำอย่างนั้น เพราะมนุษย์ต่างดาว วางกลไกไว้เพื่อให้ จ.ส.อ.เชิด และครอบครัว ได้เกิดกระบวนการในจิต เกิดการห่วงใยโลกใบนี้ ห่วงใยคนอื่นที่กำลังจะเกิดภัย ไม่ได้

ห่วงใยเพียงแค่ครอบครัวตนเองเท่านั้น แต่แผ่ขยายไปยังบุคคลอื่น ที่ไม่ได้รู้จักกันเลยแม้แต่น้อยด้วย

จึงพร้อมที่จะเสียสละคนเอง ครอบครัว เข้าสู่ภารกิจอันยิ่งใหญ่นั่นเอง ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ทั้งหลาย ที่เคยมีเคยเป็น และเราก็ได้รับรู้โลกธรรม 8 ในส่วนที่ตรงกันข้ามจากนั้นมา คือ การเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ การถูกกล่าวหา การถูกนินทา

การถูกมองจากคนอื่น ๆ ว่ากลุ่มเขากะลา เป็นพวกบ้า พวกเพี้ยน พวกงมงาย ไร้สาระ มาเนิ่นนานนับ 10 ปี

แต่คนพวกนี้ ก็ยังไม่หยุด ไม่เลิก ไม่พอ ไม่รู้จะบ้าบอทนทำไปทำไม อะไรก็ไม่ได้ เสียเงิน เสียทอง เสียทั้งการงาน เสียทั้งชื่อเสียง วงศ์ตระกูล เป็นพวกเสียสละอย่างบ้าบอ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน และครอบครัวจึงเข้าสู่ภารกิจ การทำงานกับมนุษย์

ต่างดาวตั้งแต่นั้นมา<!-- google_ad_section_end --> ​

​

​

เปิดใจ ทำไมจึงต้องมาทำงานกับมนุษย์ต่างดาว !!!

​

สุดใจเขากะลา สมาชิกเว็บพลังจิต​

จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน เคยทำงานบริษัท อยู่ที่อุทัยธานี มีรายได้พอกินพอใช้ ก็ต้องละทิ้งการงานเหล่านั้น เพื่อมาปฏิบัติธรรมอยู่บนเขากะลา



คุณบุญช่วย ชื่นสำนวน มีครอบครัวต้องเลี้ยงดู จึงไม่ได้เข้ามาฝึกเต็มรูปแบบ แต่ได้ให้การสนับสนุนเงินในการฝึกอย่างต่อเนื่อง



พี่สุดใจ เป็นพนักงานขององค์การโทรศัพท์ มีรายได้ มีโบนัส มีเงินเดือน มีหน้าตา มีชื่อเสียง มีรถยนต์ มีบ้าน มีร้านมินิมาร์ทเป็นของตัวเอง

ก็เสียสละ ออกจากงานมาฝึก มาปฏิบัติ โดยนำเงินที่มีนั้น ทะยอยนำมาเป็นรายจ่ายในส่วนของการประสานงาน การฝึกในช่วงนั้น เพื่อให้โครงการดำเนินไปได้








ปิดมินิมาร์ทของตนเอง เพื่ออุทิศเป็นสถานปฏิบัติธรรม ให้คนมาฟังธรรม นั่งสมาธิ และแจกเทปธรรมะฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ



คุณสมจิตร แร่เพชร ทำงานเป็นพยาบาล อยู่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ของรัฐบาล ได้ออกจากงานมา ละทิ้งความสดวกสบาย ละทิ้งเงินเดือน หน้าตาที่มี มาเพื่อสานต่อโครงการนี้ให้สำเร็จ





คุณชูชาติ ชื่นสำนวน บุตรชายคนเดียวของครอบครัว ทำงานอิสระต่าง ๆ อยู่ที่กรุงเทพฯ ค้าขาย และรับจ้างทั่วไปหลากหลายอาชีพ ก็ได้เดินทางกลับมา เพื่อเป็นสื่อกลางในการรับคลื่นจากมนุษย์ต่าง

ดาว จากดาวโลกุกะตาปากะดิกอง



คุณวาสนา ชื่นสำนวน เป็นพยาบาล อยู่โรงพยาบาลหนองบัว และโกรกพระ และเป็นผู้ปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่ยังเป็นนักเรียน ได้เห็นถึงภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้ ได้พิจารณาไตร่ตรอง ได้เห็นยานอวกาศลำใหญ่

อย่างใกล้ชิดด้วยตาตนเอง และรับรู้ได้ถึงภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ จึงยินดีออกจากงาน เพื่อดำเนินโครงการร่วมกับมนุษย์ต่างดาว



นี่คือการทำงานเป็นทีม ทำกันทั้งครอบครัว ทำในสิ่งที่คนทั่วไปยากจะเข้าใจ การทำในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ทำทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน แต่ครอบครัวนี้ ก็ยังทำกันอยู่ ทำด้วยทุนส่วนตัว ปิดมินิมาร์ททำเป็นสถานธรรม บริจาคเงินที่

เก็บมาไว้ เป็นทุนในการประสานงาน แบ่งปันกันไปเท่าที่จะทำได้ของครอบครัว

เงินทุกบาททุกสตางค์ ที่นำมาประสานงานนับ 10 ปี ก็เป็นทุนของครอบครัวในเบื้องต้น ขายทรัพย์สิน ขายข้าวของเครื่องใช้ และไม่เคยคิดที่จะอยากเรื่ยไรเงินใครแม้แต่น้อย ทำกันด้วยใจ โดยไม่เคยบอกให้ใครมารับรู้ในเบื้องลึกของการละทิ้งบ้าน

ช่องเหล่านั้น เพื่อขึ้นเขากะลา มาฝึกจิตเพื่อการปล่อยวาง และรับข้อมูลการสื่อสารจากมนุษย์ต่างดาวนี่คือสิ่งที่ยากจะอธิบาย

เพราะหากกล่าวไปก็จะหาว่าโอ้อวด ทำเป็นคนดี ทำเป็นเสียสละ ทำเป็นห่วงใยคนทั้งโลก ซึ่งผู้ที่คิดแบบนั้น เขาเองจะต้องแบกทุกข์ไปเปล่า ๆ ให้เขานินทา ให้เขาด่าว่า แล้วพิจารณาความคิด อารมณ์ ความรู้สึกในขันธ์ห้าตนเอง ว่ากำลังเป็นอย่างไร

ทุกข์ไหม ? นี่เป็นการได้ประโยชน์ตนในขณะนั้น

หากกลับเข้ามาพิจารณาขันธ์ห้าตนเองเป็นหลักแล้ว ก็ย่อมเข้าใจคนอื่น เข้าใจขันธ์อื่น ๆ ด้วย แล้วจึงไม่ต้องไปทุกข์อะไรกับสิ่งเหล่านั้น น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า

ท่ามกลางเสียงนินทา ท่ามกลางคนครหา และท่ามกลางการกล่าวหาว่าหลงผิด พร้อมความห่วงใยที่ผู้คนมากมายตักเตือนเพื่อให้เลิกลาเสียที แต่การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ที่จะต้องทุกข์ทรมานกับเหตุการณ์ภัยพิบัติในวันข้างหน้านั้น มาสาหัสเกิน

ที่มนุษย์จะช่วยกันได้

หากมนุษย์ต่างดาว ที่นำยานมาบินให้เห็น มีการเปิดมิติให้เห็น มีการสลายมวลสารย้ายจากที่หนึ่งไปยังที่หนึ่งได้ และทำให้เห็นอยู่เป็นประจำนั้น ความน่าจะเป็นที่มนุษย์ต่างดาวกล่าวไว้ ที่เตรียมการมาช่วยมนุษย์โลก และสามารถช่วยได้จริงนั้น น่าจะ

มีน้ำหนักและความเป็นไปได้มากขึ้น

แม้ไม่มีใครเข้าใจ ภารกิจยังคงดำเนินต่อไป พร้อมกับเริ่มมีความเข้าใจในกลไกของธรรมชาติมากขึ้น มีเพียงมนุษย์ต่างดาวที่ร่วมในโครงการเดียวกันเท่านั้น ที่ยังคงนำยานอวกาศบินมาให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง ข้อมูล และหลักฐานมากมาย มีทั้ง

ธรรมะ มีทั้งการบันทึกเสียงของมนุษย์ต่างดาว ที่สื่อสารผ่านมาไว้อย่างมากมาย ถูกเก็บไว้อย่างดีภายในตู้เหล็กใบนี้

นับเวลาเป็น 10 ปี ที่ยังคงถ่ายทอดเรื่องราว ทั้งเรื่องธรรมะ ในกฏของธรรมชาติ เรื่องราวของมนุษย์ต่างดาว ที่มาทำภารกิจเพื่อช่วยโลกใบนี้จากภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น และต่อจากนี้ไป ก็จะเริ่มให้ข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติ การเตรียมการให้ความช่วยเหลือ

การติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นให้มนุษย์โลกหัดใช้ในเครื่องมือและอุปกรณ์เหล่านั้นให้เชี่ยวชาญ จะเริ่มมีให้เห็นมากขึ้น จะเริ่มได้รับการถ่ายทอดไว้ให้มนุษย์นำมาใช้มากขึ้น จากนี้ไป

เพียงแต่... เรื่องจริงที่ยิ่งกว่านิยาย...เรื่องนี้ จะมีสักกี่คนที่เข้าใจ ... เท่านั้น มนุษย์ต่างดาวจึงให้ แจ้งเพื่อทราบไว้ การตัดสินใจ เป็นความเชื่อของท่านเอง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ

สุดใจเขากะลา

<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>
ที่มา http://palungjit.org/threads/ข้อความจาก-กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย-เขากะลา.86674/page-568

 

ในตัวเองผมยังสำรวจไม่หมดเลย

 

ใช่เหมือนกัน ยังสำรวจตัวเองไม่หมดเลย ปี 2012 ยังมาไม่ถึงแต่ รู้ว่าตัวเองการปฏิบัติ ยังด้อยอยู่มาก ๆ มีอะไรจะทำให้ไขว้เขว จึงต้องยึดพระรัตนตรัย มีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ หลวงพ่อ เป็นที่พึ่งสูงสุด เป็นแกราะแก้วกำบังที่ดีที่สุด

 

รู้จักตัวเองให้ดีก็พอแล้ว ^-^

 

โดนแหะคำนี้ เห็นแล้วจิ๊ดเลย เข้าตัวเต็มๆ

 

ดีจังเลยนะคะได้ทำงานกับมนุษย์ต่างดาวด้วย น่าสนใจจัง..แบบว่าอยากคุยกะมนุษย์ต่างดาว..อยากมีเป็นมนุษย์ต่างดาวมั่งอ่ะ(good)

 

จะอย่างไรเราชาวโลกคนหนึ่งซึ่งสงสัยแต่ไม่ได้ระแวง ไม่ได้ดูถูก เพียงแต่อยากทราบเหตผล และเราควรทราบ เพราะถ้ามีการช่วยเหลือจากต่างดาวจริง ผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือ ควรมีสิทธิ์รับรู้จุดประสงค์ของการช่วยเหลือบ้าง หากเรารับความช่วยเหลือนั้นแล้วไม่มีผลข้างเคียงเราชาวโลกคนหนึ่งขอขอบคุณจากใจจริง แต่ถ้าท่านมีจุดประสงค์อื่นใด เราก็ควรทราบไว้เช่นกัน

1.ทำไมมนุษย์ต่างดาวต้องช่วยเราชาวโลกด้วยเพราะเหตใด ในเมื่อทุกอย่างคือกฎธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเหตการณ์ใด

2.เทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าโลกเรานั้น ทำไมไม่ถ่ายทอดให้เรา ถ้าเป็นห่วงเราควรให้เราได้เทคโนโลยี มาคิดป้องกันตนเอง ไม่ใช่มาคอยบอกให้หลบภัย ควรให้เราสู้กับภัยมากกว่า ไม่อย่างนั้นหากเขาไม่เตือนก็คือเราต้องตายหรือ

3.เมื่อมนุษย์ต่างดาวมีดาวของเขาและเทคโนโลยีมากมาย การเข้าถึงพวกเราชาวโลก น่าจะมีวิธีที่ดีหลายอย่าง ทำไมต้องทำแบบหลบๆซ่อนๆ และเมื่อเขาบริสุทธิ์ใจ อย่างไรความบริสุทธิ์ก็ต้องแสดงให้เห็นได้ถึงความห่วงใยให้เราได้อยู่แล้ว

4.การหลุดพ้นจากสิ่งต่างๆ สุดท้ายก็คือปล่อยไปตามความเป็นไปของสิ่งนั้น แล้วการมาช่วยเรา ไม่เป็นการแทรกแซงระบบของเราหรือ...

 

ตั้งอยู่ที่ใดครับ วันนี้ผมก็ผ่านไป ไม่เห็นเจอเรย

 

อนุโมทนาสาธุครับ ถ้าเชื่อ ว่าพรุ่งนี้มีจริง อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ
บางครั้งยึดติดแต่วิทยาศาสตร์ แล้วโลกหยุดวุ่นวายไหม

 

มีหลักการและเหตุผลดีครับ

ผมก็สงสัย ทำไมต้องช่วยเรา

 

ถ้าจำไม่ผิด กลุ่มเขากะลาก็เคยอยู่ในเว้บพลังจิตนะ ตอนหลังๆเห็นว่ามีมนุษย์ต่างดาวมาติดตั้งอุปกรณ์อะไรชักอย่างให้กับคนในระบบ ในกลุ่มก็จะมีการคุยกันเกียวกับคนที่ระบบเลื่อก..และตัวเลขที่เกี่ยวกับระบบฯ...ตอนหลังๆยังไงไม่ทราบเห็นหายไปเฉยๆ..เกิดอะไรขึ้น...มาอีกทีก้อ...ชี้แจงเลย..งงงง...

 

คือ ติดตามอยู่เหมือนกัน
มนุษย์ต่างดาว มีหลายกลุ่มมาก
มีทั้งดี ทั้งไม่ดี ทั้งจริง ทั้งหลอก
ก็...เป็นห่วงเหมือนกัน
ผมว่า...
เราเอาตามแนวของพระพุทธเจ้า ดีกว่าครับ

 

ข้อ 1,4 มนุษย์ต่างดาวก็มีความเมตตาเหมือนกัน อยากที่จะช่วยเพื่อนร่วมในจักรวาลให้ได้ดี แต่ก็ช่วยได้เฉพาะคนที่เหมาะสมที่จะได้รับช่วยเหลือเท่านั้น ไม่เกินขอบเขตกฏแห่งกรรม คนชั่วก็ต้องรับกรรมไป

2. เพราะมนุษย์ในยุคปัจจุบันมีศีลธรรมน้อย ถ้าได้เทคโนโลยี อาวุธที่ร้ายแรงมาก็คงเอาไปทำสงครามฆ่ากันตายหมด ถ้าหลังจากภัยพิบัติแล้ว ช่วงที่มนุษย์มีศีลธรรมมากดีพอเหมาะแล้ว มนุษย์ต่างดาวอาจจะมาถ่ายทอดให้เราก็ได้

3. ผมเคยอ่านเจอเหตุผลอยู่ แต่จำไม่ได้ว่าเพราะอะไร ข้อนี้รอท่านอื่นมาตอบดีกว่าครับ

 

คือสงสัยอะครับ ใครรู้บ้าง ที่นี่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาวใหม

เค้าอาจจะสื่อ กับกลุ่มต่างดาวได้ อันนี้ คือสงสัย นะ....เหมือนมากๆ

Phật đài Dhammakaya - kỳ quan của Phật giáo hiện đại - Phat dai Dhammakaya - ky quan cua Phat giao hien dai

 

หรือว่าเค้าเตรียมการ รับภัยพิบัติ ซึ่งสื่อตรงถึง UFO

 

เป็นลัทธิทานนิยม บวกกับทุนนิยม
อย่าได้หลงเข้าไปเชียวนา
ถอนตัวยาก หมดเนื้อหมดตัวฟรี
ห่างนิพพานด้วย

 

ผมตอบข้อ3เองครับ

3.เมื่อมนุษย์ต่างดาวมีดาวของเขาและเทคโนโลยีมากมาย การเข้าถึงพวกเราชาวโลก น่าจะมีวิธีที่ดีหลายอย่าง ทำไมต้องทำแบบหลบๆซ่อนๆ และเมื่อเขาบริสุทธิ์ใจ อย่างไรความบริสุทธิ์ก็ต้องแสดงให้เห็นได้ถึงความห่วงใยให้เราได้อยู่แล้ว
- อันนี้มนุษย์ต่างดาว วางแผนวางระบบไว้เรียบร้อยแล้ว การที่จะมาโชว์ตัวหรือทักทายมนุษย์โต้งๆเลยไม่สามารถทำได้ เพราะเค้าต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เค้าจึงต้องไป นู่นที นั่นที ทำให้มนุษย์มีความเคยชินกับ UFO หรือพวกเค้ามากขึ้นจากการได้เห็นบ่อยๆ เค้าติดต่อกับ คนทั่วโลก ประเทศนี้จุดนึง ประเทศนั้นจุดนึง หมายถึงคนนึงอะ แต่ที่ประเทศไทยสามารถติดต่อเป็นกลุ่มได้ก็เพราะว่า ประเทศไทยประชากรส่วนมากนับถือพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นหลักเดียวกับของเค้าก็คือ ทุกอย่างล้วนเป็นธรรมชาติ ซึ่งทำให้ คนไทยซึ่งศึกษาพุทธศาสนาอยู่แล้วเข้าใจถึง ความเป็นไปของเกิดแก่เจ็บตาย นั่นเอง มีอีกเยอะแต่ก็ ดึงออกมาจากหัวได้แค่นี้

 

พวกเจ้าเข้าใจถูกต้องแล้ว ....555555

 

http://video.showded.com/watch?vdoId=15645

 

ตัวเองจะมีอะไรแม้แต่ความว่างที่ไม่ควรยึดมั่น
ตัวคนอื่นก็เป็นความว่างเปล่าติดยึดแล้วก็ทุกข์