Illuminati cards ลองทายดูว่าไพ่มีความหมาย อย่างไร

ลองทายดูว่าไพ่มีความหมาย อย่างไร?
น่าจะเกี่ยวกะไทย ?
ควบคุม Disaster ได้?

 

มันจะใช้ฮาร์ปควบคุมภัยพิบัติทางธรรมชาติ ควบคู่กับการเกิดสงครามโลกครั้งที่3 พร้่อมกัน

 

วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เกมส์ไพ่อีลูมินาติ.......Your Future on the Card !!! 15/

ไพ่ Oil Spill หรือการรั่วไหลของน้ำมันลงในมหาสมุทร ลองดูข่าวด้านล่างนี้ครับ.......

รัฐลุยเซียนาประกาศภาวะฉุกเฉินน้ำมันรั่วไหล
เดลินิวส์ / วันศุกร์ที่ 30 เมษายน 2553 เวลา 10:21 น

นายบ๊อบบี้ จินดอล ผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา ประกาศภาวะฉุกเฉินในวันนี้ (30 เม.ย.) หลังเกิดการรั่วไหลของน้ำมันดิบปริมาณมหาศาลในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งคุกคามแนวชายฝั่งที่เปราะบางของรัฐ

โดยในคำประกาศจากสำนักผู้ว่าการ ในเมืองบาตองรูจ เมืองเอกของรัฐ ได้ให้อำนาจคณะเจ้าหน้าที่ระดมทรัพยากรของรัฐ และขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง ในการรับมือกับผลกระทบจากน้ำมันดิบที่คาดเดาได้ตามแนวชายฝั่งของรัฐลุยเซียนา
ขณะที่ เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศ ทำนายว่า คราบน้ำมันดิบที่รั่วไหลจากแท่นขุดเจาะดีพวอเตอร์ โฮไรซัน ที่เกิดการระเบิด และจมลงในอ่าวเม็กซิโก จะเคลื่อนตัวถึงแนวหลายฝั่งหลายจุดของรัฐลุยเซียนาในวันนี้

นายจินดอล เผยอีกว่า แม้ทางการจะระดมกำลังเจ้าหน้าที่ รวมทั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่สามารถชะลอการรั่วไหลของน้ำมันจากแท่นขุดเจาะจมใต้ทะเล ห่างจากชายฝั่งรัฐลุยเซียนา 25 กม. ได้ และถึงวันพฤหัสบดี (29 เม.ย.) คราบน้ำมันแผ่วงกว้าง ครอบคลุมพื้นที่ทะเลราว 1,500 ตารางกิโลเมตร

ด้านนายโรเบิร์ต กิบส์ โฆษกประจำทำเนียบขาวสหรัฐ กล่าวแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า รัฐบาลประกาศให้การรั่วไหลของน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกเป็นหายนะภัยร้ายแรง ของประเทศ และประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า บริษัท บีพี เจ้าของแท่นขุดเจาะ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในบั้นปลาย สำหรับค่าใช้จ่าย และการขจัดคราบน้ำมันที่แผ่เป็นบริเวณกว้างในอ่าว อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะพยายามตอบโต้ทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ เพื่อรับมือกับปัญหานี้.

Note:เป็นที่น่าสังเกตุว่าโกลด์แมน แซค เข้าทำการช๊อตหุ้นบริษัทที่เกี่ยวข้องคือ Gulf of Mexico ก่อนหน้าที่จะเกิดอุบัติเหตุเพียงหนึ่งวันครับ
Goldman Sachs Reveals it Shorted Gulf of Mexico
Oil spill and Goldman could weigh on markets

http://jimmysiri.blogspot.com/search?q=ไพ่

 

เกมส์ไพ่อีลูมินาติ.......Your Future on the Card !!! 16/



"นัสเซอร์ อัล-บาห์รี อดีตองครักษ์ชาวเยเมน ของนายโอซามา บิน ลาดิน เผยเจ้านายเก่าพยายามเสาะหาอาวุธนิวเคลียร์ มาตลอด 15 ปี และจะไม่ลังเลหากต้องจะใช้มันในวันหนึ่ง...

นายนัสเซอร์ อัล-บาห์รี ชาวเยเมน อดีตองครักษ์ของนายโอซามา บิน ลาดิน ผู้นำเครือข่ายก่อการร้าย “อัล เคดา” ให้สัมภาษณ์ลง นสพ.อัล-คัดส์ อัล-อราบี ฉบับ 28 เม.ย.ว่า บิน ลาดิน พยายามเสาะหาอาวุธนิวเคลียร์ และจะไม่ลังเลเลยที่จะใช้มัน

บาห์รี ซึ่งอาศัยอยู่ในเยเมนพร้อมเมีย 2 คน ลูก 5 คนหลังรับโทษจำคุก เผยด้วยว่า ภูมิใจมากท่ีได้เป็นองครักษ์ ให้บุคคลผู้ยิ่งใหญ่อย่างบิน ลาดิน ซึ่งมีค่าหัวถึง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตนเคยได้รับคำสั่งให้ฆ่าบิน ลาดิน เมื่อจนมุมแทนที่จะให้ศัตรูจับเป็น ซึ่งจะเป็นความปราชัยครั้งใหญ่สำหรับอัล เคดา กลุ่มนักรบศักดิ์สิทธิ์และโลกมุสลิมโดยรวม

อนึ่ง เมื่อต้นเดือนนี้ สหรัฐฯ เตือนว่าอัล เคดา มุ่งมั่นเสาะหาอาวุธนิวเคลียร์มาตลอด 15 ปีหลัง แต่ขณะนี้ยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าอัล เคดา เข้าถึงหรือมีศักยภาพสร้างอาวุธนิวเคลียร์เองได้"

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวต่างประเทศ
29 เมษายน 2553, 18:30 น.
ไพ่ Combined Disasters (มีตัว S).......ด้านบนอาจจะเป็นข่าวเพื่อปูพื้นครับ และเมื่อเดือนก่อนประธานาธิบดีสหรัฐบารัค โอบาม่าได้จัดให้มีการประชุมในระดับโลกว่าด้วยเรื่องภัยของอาวุธนิวเคลียร์จากการก่อการร้ายครับ ข้อสรุปก็คือให้ทุกประเทศระวังและป้องกันการโจรกรรมหรือการเข้าถึงวัตถุดิบในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของกลุ่มก่อการร้ายในระดับโลก ซึ่งจุดประสงค์ที่แท้จริงของสหรัฐก็คือจะบอกกับชาวโลกว่ากลุ่มก่อการร้ายในระดับโลกอาจจะมีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในครอบครองและอาจจะมีการนำออกมาใช้ จึงเป็นที่มาของไพ่ใบนี้ครับ "Combine Disaster"


ความหมายของไพ่ก็คือ จะมีหายนะจากการก่อการร้ายในระดับโลกพร้อมๆ กันในหลายๆ เมืองที่สำคัญของโลก ซึ่งอาจจะเกิดโดยการใช้ระเบิดนิวเคลียร์เพื่อสร้างความเสียหายขนาดใหญ่ตามที่เค้าปูพื้นไว้แล้วข้างต้น ประมาณว่าเหตุการณ์ 911 หรือการถล่มตึกเวิลด์เทรดเซนเตอร์กลายเป็นเรื่องเล็กไปเลยครับ แล้วทุกอย่างจะถูกโยนไปให้กลุ่มก่อการร้ายหรือกลุ่มอัล เคดาห์เจ้าเก่าที่ไม่เคยเห็นตัวครับ หลังจากนั้นสหรัฐก็จะเสนอตัวขึ้นมาว่าเป็นผู้เสียหายและขอ "เป็นผู้นำโลก" และขอความร่วมมือหรือการสนับสนุนในการทำสงครามกับผู้ก่อการร้าย(อีกแล้ว) ครั้งที่แล้ว 911 เค้าบอกว่าเป็นพวกอัค เคดาห์ แต่ไปลงที่อิรัคที่ไม่มีอาวุธทำลายล้างสูงตามที่กล่าวอ้าง (WMD - Weapon of Mass Destruction) ยิ่งกว่านั้นไปได้สัมทานน้ำมันออกมา และไปสร้างฐานทัพสหรัฐ(Military Complex)ที่ใหญ่ที่สุดในโลกไว้แทน

และหลังจากที่ได้ใจจากเพื่อนร่วมชะตากรรมจากการก่อการร้ายครั้งใหญ่แล้ว สหรัฐก็จะทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเทศอย่างมีนัยสำคัญอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และอาจจะมีการขยายขอบเขตของสงครามก่อการร้ายไปยังประเทศเป้าหมายที่สุมไฟรอไว้นานแล้วคือเกาหลีเหนือและอิหร่าน โดยข้อหาอยู่เบื้องหลังและเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าว เป้าหมายที่แท้จริงของการบุกเกาหลีเหนือก็คือจีน และอิหร่านก็คือชาติมุสลิมทั้งหมด นี่เป็นสคริปต์ที่เค้าเขียนไว้นานมากแล้วครับ ผ่านมาหลายสิบปีแล้วอาจจะมีการแก้ไขไปบ้างในรายละเอียดและเทคโนโลยีทางอาวุธแต่ก็คงไม่มากครับคือผลักให้จีนรวมตัวกับชาติมุสลิมแล้วแถมรัสเซียให้อีกเพื่อเพิ่มสมรรถนะทางยุทโธปกรณ์ เท่านี้ทั้ง 2 ฝ่ายก็ดูเหมือนจะทัดเทียมกันแล้วครับ ถ้าไม่อย่างนั้นฝั่งสหรัฐ อังกฤษ และยุโรปรวมกันจะได้เปรียบมากเกินไป สงครามจะไม่ใหญ่พอ แล้วความเสียหายจะน้อยเกินไปที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของโลกได้หลังจากนั้นไงครับ (รายละเอียดเพิ่มเติมรวมทั้งโครงสร้างของแผนหาอ่านได้จากหนังสือปฏิบัติการมารครองโลกครับ)

ทีนี้คงพอจะสรุปได้แล้วนะครับว่าทำไมประเทศสหรัฐที่มีประชากร 300 กว่าล้านคน ถึงต้องดูดทรัพยากรของโลกเข้าไปถึง 30% ในหลายสิบปีที่ผ่านมา แล้ว 70-80% ของทรัพยากรที่ดูดเข้าไป ไปลงที่การทหาร อย่างเช่น DUMB (Deep Undergroud Military Base) หรือฐานทัพขนาดยักษ์ของสหรัฐที่ซ่อนลงใต้ดินในหลายๆประเทศทั่วโลก ซึ่งแต่ละฐานมีขนาดเท่ากับเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง ก็เป็นตัวอย่างนึงครับ
<object width="640" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/uEDAE_9v4h0&rel=0&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/uEDAE_9v4h0&rel=0&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="385"></embed></object>

 

เกมส์ไพ่อีลูมินาติ.......Your Future on the Card !!! 14/



ไพ่ Militia ( มิลิเชีย ) ก็คือประชาชนคนอเมริกัน ที่ลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลกลางโดยการรวมตัวกันเพื่อก่อตั้งกองกำลังติดอาวุธหนัก(อาวุธสงคราม) อิสระขึ้นตามหัวเมืองและรัฐต่างๆ ทั่วสหรัฐ กองกำลังเหล่านี้ก็คือประชาชนที่ตกงานอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ไร้ที่อยู่เพราะโดนยึดบ้านหรือที่อยู่อาศัย หมดสิทธิที่จะรับเงินช่วยเหลือเรื่องการว่างงาน หรือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุดตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ พวกเค้าจึงต้องจับอาวุธขึ้นต่อสู้และแย่งชิงเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง


นี่ยังไม่นับรวมไพ่ Gang War หรือสงครามระหว่างแก๊งต่างๆ ที่รอเวลาระเบิด เช่นแก๊งแม็กซิกัน แก๊งอัฟฟริกัน-อเมริกัน แก๊งอิตาเลี่ยน แก๊งรัสเซีย แก๊งเอเซียต่างๆ และยังไม่นับรวมอีกสารพัดแก๊งหรือเชื้อชาติที่ผสมปนเปกันอยู่ที่นั่นครับ ( ส่วนแก๊งคนไทยแทบจะไม่เคยเห็นครับ เพราะมักจะตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน รวมตัวกันอยู่ตามร้านอาหารไทย นอกจากนั้นก็ตั้งวงสารพัดปาร์ตี้ตามบ้านเพื่อน หรือไม่ก็รวมตัวกันที่วัดไทยในรัฐหลักๆเพื่อทำบุญ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่ากันไป )

โดยล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา FBI มีการเข้าจับกุมกลุ่ม Militia ที่นัดรวมพลใน 3 รัฐ คือ มิชิแกน, โอไฮโอ และ อินเดียนน่า และควมคุมตัวแกนนำไว้ได้ 7 คน เพื่อทำการสืบสวนขยายผลต่อไป กระแสการก่อตัวขึ้นของกลุ่ม Militia คงจะเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตราบใดที่สหรัฐยังคงเดินไปในทิศทางนี้ แล้ว Militia นี่แหละครับ จะเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลกลาง ที่ใหญ่และแข็งแกร่งที่สุดที่รัฐบาลจะต้องไล่ปรามปรามไปทั่วประเทศ หลังจากที่มีอะไรหนักๆ เกิดขึ้นและสถานการณ์เหนือการควบคุมแล้ว

พี่น้องคนไทยที่อยู่ในสหรัฐ ถ้ายังไม่ตื่นตัวหรือรับรู้ข้อมูลข่าวสารเหล่านี้ก็คงต้องดูข่าวหรือความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ของ CNN ครับ

Authorities in Michigan conduct a raid on the militia known as the Hutaree.
ภาพเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมกลุ่มมิลิเชียที่มีชื่อว่าฮิวทารี่ในรัฐมิชิแกน



At least 7 arrested after raids in 3 states
By the CNN Wire Staff
March 29, 2010 -- Updated 0230 GMT (1030 HKT)

(CNN) -- Federal authorities plan to unseal charges Monday against several people arrested in a series of weekend raids in Michigan, Ohio and Indiana, prosecutors in Detroit said Sunday. Link.......

<object width="640" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/eoHCp9S7GHQ&rel=0&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/eoHCp9S7GHQ&rel=0&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="385"></embed></object>



และแล้วก็ถึงเวลาของไพ่ Militia แล้วครับ.......

 

เกมส์ไพ่อีลูมินาติ.......Your Future on the Card !!! 13/
เรามาดูกันครับว่าใครบ้างที่เป็นบุคคลในระดับโลกที่อยู่ในเครือข่ายอีลูมินาติ หรือเป็นส่วนนึงในแผนการจัดระเบียบโลกใหม่หรือ New World Order บุคคลเหล่านี้จะเป็นเหมือนตัวหมาก ตัวแสดง หรือแม้แต้เป็นเครื่องมือในการจัดระเบียบโลกใหม่นั่นเอง

ถ้าใครที่เพิ่งเข้ามาอ่านเจอ คงจะต้องเริ่มอ่านเรื่องเกมส์ไพ่อีลูมินาติตั้งแต่โพสต์แรกๆ ครับ เพื่อที่จะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดว่าเกมส์นี้ถูกสร้างขึ้นและออกวางจำหน่ายในปี 1995 หรือ 16 ปีมาแล้ว จะมีตัวละครบางตัวที่อยู่ในไพ่แต่เราไม่เคยรู้จัก อีกไม่นานครับตัวละครเหล่านี้ก็จะปรากฏออกมา แล้วทิศทางของโลกก็ถูกจัดวางไว้ให้เดินไปตามเกมส์ที่เค้าสร้างขึ้นมานั่นเอง

 

เกมส์ไพ่อีลูมินาติ.......Your Future on the Card !!! 10/

Computer Virus, Internet Worm & Hacker เคยสงสัยไม๊ครับว่าสิ่งเหล่านี้มาจากไหน มีขึ้นมาทำไม แล้วใครทำ คำตอบอยู่ในไพ่เหล่านี้ครับ ไวรัสคอมพิวเตอร์, หนอนอินเตอร์เนต และการเจาะระบบของระบบคอมพิวเตอร์หรือที่เราเรียกว่าแฮคเกอร์นั่นเอง สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ใครอื่นครับก็คือเจ้าเก่ากลุ่มอีลูมินาตินั่นเอง การสร้างไวรัสคอมพิวเตอร์ขึ้นมาก็เพื่อขายโปรแกรมป้องกันไวรัส แต่เหนือกว่านั้นคือเป็นการเปิดช่องทางการสื่อสารและส่งข้อมูลที่เรามีกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์เครือข่ายที่เราซื้อซอฟแวร์นั้นๆมาใช้นั่นไงครับ เพราะฉะนั่นไม่ว่าโปรแกรมป้องกันไวรัสที่เราซื้อมาใช้เพื่อป้องกันไวรัส ความสบายใจหรือเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลในความเป็นจริงไม่ได้มีแค่นั้นครับ


หนอนอินเตอร์เนตสร้างขึ้นเพื่อเป็นการฝังโปรแกรมสื่อสารขนาดเล็กบางอย่างไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์เป้าหมายเพื่อดึงหรือจารกรรมข้อมูลส่วนตัวของ User หรือผู้ใช้คอมพิวเตอร์เครื่องนั้นๆ แล้วส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ต้นทาง การพัฒนาในช่วงแรกก็เหมือนกับอินเตอร์เนตคือใช้ในการทหารและการสงคราม แต่มีการพัฒนาในเชิงพาณิชย์เพื่อใช้ในด้านการเก็บข้อมูลทั้งที่ทำอย่างเปิดเผย แต่จะเป็นการทำอย่างลับซะเป็นส่วนใหญ่ แม้กระทั่งไมโครซอร์ฟเองก็ตาม และในโลกไซเบอร์นี้บริษัทที่เก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้คอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายอินเตอร์เนตไว้มากที่สุดในโลกก็คือ "กูเกิ้ล" ครับ และกูเกิ้ลก็บริษัทหนึ่งในเครือข่ายอีลูมินาติบนโลกไซเบอร์ และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมจึงมีสารพัดของ "ฟรี" ไม่ว่าจะเป็นซอร์ฟแวร์จากกูเกิ้ล ไมโครซอร์ฟ และอีกสารพัด และนี่แหละครับคือสิ่งที่เค้าได้จากการที่เราใช้บริการเหล่านี้คือสารพัดข้อมูลที่เราบันทึกไว้หรือส่งกันไปมานั่นเองครับ


ถ้าไม่เชื่อ....ลองอ่าน Disclaimer หรือ EULA ( End User License Ageement ) ที่เราจะตอบว่า Yesๆๆๆๆ โดยที่ไม่เคยอ่านนั่นตอนที่ติดตั้งซอร์ฟแวร์นั่นแหละครับ ในนั้นส่วนใหญ่เค้าจะบอกเลยว่าข้อมูลเหล่านั้นที่เราใช้ผ่านซอฟแวร์ของเค้าเป็นของเค้าครับ เค้ามีสิทธิ์ที่จะใช้และเผยแพร่ในทุกกรณี เพราะไม่ว่าเราจะลบออกแล้วจากหน้าเวบของเค้า แต่ก็ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของเค้าที่จะเก็บไว้โดยไม่สนว่าเราได้ลบข้อมูลเหล่านั้นแล้วหรือไม่

วันนี้การพึ่งพาคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเตอร์เนตในประเทศที่พัฒนาแล้วเค้าพัฒนาไปไกลมากแล้วครับ ทั้งในด้านการเงินการธนาคาร การค้าขาย แล้วเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานอย่างหนึ่งในชีวิตประจำวัน ณ เวลานี้เราอาจจะยังเห็นไม่ชัดในประเทศไทย แต่ถ้าท่านใดที่ยังใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศและอยู่เป็นเวลานานๆจะเข้าใจเรื่องการพึ่งพาเทคโนโลโยเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีครับ และในอีก 5-10 ปีข้างหน้า การพึ่งพาสิ่งเหล่านี้จะมากขึ้นๆ แม้กระทั่งในประเทศไทยเองก็ตาม

 

วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
เกมส์ไพ่อีลูมินาติ.......Your Future on the Card !!! 5/
WW III.......Preview

แม้ว่าสงครามใหญ่ครั้งหน้าหรือสงครามโลกครั้งที่ 3 จะยังดูไกลตัวครับ และเท่าที่ผมมีข้อมูลในมือ การเปิดฉากโจมตีอิหร่านโดยสหรัฐ อาจจะยังไม่เริ่มขึ้นไปอีกหนึ่งปีถึงหนึ่งปีครึ่งข้างหน้าครับ แต่แผนการณ์โจมตีและสงครามอิหร่านถูกวางไว้โดยเสร็จสมบูรณ์แล้ว สหรัฐคงจะใช้อิหร่านเป็นตัวจุดชนวนของสงครามใหญ่ครั้งหน้านี่เองครับ และวีดีโอนี้เป็นการออกมาเตือนโดยทหารระดับสูงของรัสเซียว่า สหรัฐจะทำอะไรขอให้คิดให้ดีๆ เพราะกรณีของอิหร่านไม่เหมือนกับอิรัคและอัฟกันครับ เพราะ


1.อิหร่าน อยู่ใกล้กับพรมแดนรัสเซีย ถ้าเกิดปัญหาสงครามขึ้นรัสเซียคงจะนิ่งเฉยไม่ได้
2.อิหร่าน เป็นชาติที่มีการรวมศูนย์ทางจิตวิญญานที่แข็งแกร่ง ในความหมายก็คือประชาชนในประเทศจะรวมเป็นหนึ่งแล้วร่วมกันต่อต้านสหรัฐ
3.อิหร่านมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชาติอาหรับโดยรวม ซึ่งจะหากสหรัฐเริ่มโจมตีจะทำให้มีพันธมิตรหลายชาติเข้าร่วมกับฝ่ายอิหร่าน แล้วขอบเขตของสงครามคงจะขยายวงกว้างออกไปครับ
4.กรณีอิหร่านต่างจากอิรัค เพราะอิรัคเริ่มยึดคูเวตก่อน เป็นการเปิดช่องให้สหรัฐอ้างความชอบธรรมในการเข้ายึดอิรัคในที่สุด แต่การรุกรานอิหร่านกลับหมายถึงความกระหายสงครามและการบ่อนทำลายสันติภาพในตะวันออกกลางและชาติมุสลิมโดยรวมครับ
5.ในทางลึกทั้งรัสเซียและอิหร่าน เปรียบเสมือนชาติพันธมิตรกันอยู่ในทีครับ ทั้งเรื่่องการแลกเปลี่ยนทางการค้าและการทหาร หรือระหว่างอาวุธของรัสเซียและน้ำมันของอิหร่าน และที่สำคัญที่สุดคือรัสเซียอยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีทางนิวเคลียร์ทั้งหมดของอิหร่านนั่นเอง

คำถามคือสหรัฐตระหนักถึงปัจจัยเหล่านี้หรือไม่ คำตอบคือรู้ และรู้อย่างทะลุปรุโปร่งครับ ที่รู้เพราะกลุ่ม Elites ที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลสหรัฐและยุโรปเป็นผู้จัดวางตัวหมากแทบจะทุกตัวในกระดานนี้่ครับ วันนี้เราคงเห็นแกนด้านนี้ชัดขึ้นทุกทีคือ จีน+ รัสเซีย + อิหร่านและกลุ่มชาติอาหรับ แต่แกนอีกด้านนึงถ้าใครไม่ได้ติดตามเรื่องนี้หรือประวัติศาสตร์โลกอาจจะยังมองไม่ชัดครับ แต่ในความเป็นจริงแกนอีกด้านนึงเค้ารวมกันไว้เสร็จตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 แล้วคร๊าบบ
<object width="640" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/2-uIaSRiWA4&rel=0&color1=0x234900&color2=0x4e9e00&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/2-uIaSRiWA4&rel=0&color1=0x234900&color2=0x4e9e00&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="385"></embed></object>

 

อนุโมทนา ในทุกความเห็นครับ แล้วท่านทั้งหลายคิดว่าcardที่เป็นรูปคนพนมมือและมีช้างสีทองตรงกลาง คิดว่าคืออะไร

 

นั่นสิครับ

 

ที่บลอกนี้เขาตีความตามความเห็นของเขา ก็อ่านสนุกดี
แต่ความจริงจะเป็นอย่างไรก็ไม่ใครรู้ เพราะมันเป็นกมส์อย่างหนึ่ง
อาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ เพราะคนฉลาดบางทีก็เอาข้อมูลปัจจุบันมาวิเคราะห์
แล้วจินตนาการความเป็นไปได้ในอนาคต บางทีก็เหมือนว่าใกล้เคียง
ก็ต้องใช้วิจารณญาณ ดูกันต่อไป ถ้าสนใจก็ไปดูบทความทั้งหมดได้ที่นี่
............" The Gold War " by Jimmy Siri: ผลการค้นหาสำหรับ เกมส์ไพ่อีลูมินาติ

 

ช้าง = ประเทศไทย

ทองคำ = ศาสนาพุทธ

การพนมมือไหว้ = การเคารพศาสนาพุทธในประเทศไทย



รีพลับรีกัน ?

 

เราตีความเองนะ อาจจะผิดก็ได้ ช้างอาจจะหมายถึงประเทศไทยก็ได้
หรือหมายถึงประเทศในแถบเอเชียทั้งหมด ที่มีช้างเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติ
อาทิ อินเดีย ลาว พม่า ไทย เป็นต้น และทองคำที่เป็นฐานให้ช้างยืน อาจหมายถึง
ทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ทั้งอาหาร แร่ธาตุที่มีค่าต่างๆ อัญมณี ทองคำ และแหล่งพลังงาน
ที่เปรียบเสมือนทองคำที่มีค่าสูงในตลาดโลกเสรี

พวกเขาอาจจะตั้งเป้าหมายยึดครองเอเชียโดยอาศัยพรรคการเมือง
หรือคนในชาติบางส่วนที่ไม่พอใจประเทศของตนเอง เพื่อสร้างความแตกแยก
และเข้าครอบครอง โดยอาศัยกติกาของโลกเสรี หรือแนวทางของนโยบาย
แบบ รีพับบลิคัน
สังเกตพรรคการเมืองในประเทศไทยก็ได้ ว่าพรรคไหนดำเนินนโยบายแบบ
อนุรักษณ์นิยมที่เรียกว่า เดโมแครต หรือพวกนโยบายแบบเสรีนิยม ที่เรียกว่า
รีพับบลิคัน ถ้าจะมองให้ง่ายขึ้น ก็ดูที่สหรัฐ มี 2 พรรคที่แบ่งแยกชัดเจนคือ
พรรคดีโมแครต กับพรรครีพับบลิคัน ประเทศอื่นๆก็คงจะพยายามเลียนแบบ
ประชาธิปไตยแบบ2ข้างนี้อยู่ อย่างประเทศไทยเองก็คงต้องสู้เพื่อไม่ให้ต่าง
ชาติเข้ามามีอิทธิพลในเรื่องอำนาจการการปกครองประเทศ เพราะถ้าดูจากไพ่
แสดงว่าพวกเขาพยายามจะเข้ามามีส่วนร่วมในอธิปไตยของประเทศไทย
โดยอาศัยการเมืองใหม่ ประเทศอื่นๆในเอเชียก็เช่นกัน คนไทยที่ไปเรียนต่าง
ประเทศและถูกล้างสมองก็คงมี พวกที่ชอบการเปลี่ยนแปลง ชอบของใหม่
เห็นของใหม่ดีกว่าระบบเดิมๆก็มีสิทธิตกเป็นเครื่องมือของคนต่างชาติได้มาก
รวมถึงระบบทุนนิยมต่างๆ เอาเงินมาซื้อคน ซื้อทรัพย์สินของประเทศ ก็มี
โอกาสเป็นไปได้ทั้งนั้น เหมือนวิธีการที่อิสราเอลเข้าครอบครองปาเลสไตน์
พวกเราก็ควรสนับสนุนคนไทยหัวใจไทยคนที่ทำเพื่อประเทศไทย เป็นคนดีคนมี
ศีลธรรม พรรคที่ดำเนินในแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เน้นให้การศึกษากันคน
ด้อยโอกาส คนยากคนจน ลดช่องว่างของสังคม เราก็คงจะมีโอกาสรอดจาก
พวกทุนนิยมตะวันตกได้ คนที่เงินซื้อได้ เห็นเงินเป็นพระเจ้า นี่ไม่ควรไว้วางใจ
ให้มีอำนาจในการปกครองบ้านเมือง เพราะมีโอกาสตกเป็นเครื่องมือของคน
เลวได้ง่าย

บทความเรื่องการเมืองเพื่ออ่านประกอบความเห็น

กฎหมายพรรคการเมือง :โอกาสและข้อจำกัดในการส่งเสริมและพัฒนาพรรคการเมือง โดย ศาสตราจารย์ ดร.สุจิต บุญบงการ
โดย ศาสตราจารย์ ดร.สุจิต บุญบงการ





ในการพัฒนาพรรคการเมืองในประเทศต่างๆเราจะพบว่ามีหลายประเทศที่ไม่มีกฎหมายพรรคการเมืองรองรับโดยตรง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือในประเทศเหล่านั้นการเกิดขึ้น การพัฒนาและการเจริญเติบโตของพรรคการเมืองไม่ได้อยู่ที่กฎหมายพรรคการเมือง ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งมีกฎหมายเกี่ยวกับพรรคการเมืองโดยเฉพาะในประเทศเหล่านี้พรรคการเมืองมีขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมืองบัญญัติให้เกิดขึ้น และการพัฒนาก็อยู่ในกรอบของกฎหมายดังกล่าว

ดังนั้นในการกล่าวถึงความเชื่อมโยงระหว่างกฎหมายกับพรรคการเมืองว่า กฎหมายพรรคการเมืองมีส่วนส่งเสริม หรือจำกัดการพัฒนาพรรคการเมืองอย่างไร คงต้องเริ่มต้นจากไปดูระบบพรรคการเมืองที่ไม่มีกฎหมายโดยตรงรองรับ ว่ามีการพัฒนาได้อย่างไรโดยไม่มีกฎหมายดังกล่าว ประเทศแรกที่จะขอกล่าวถึงคือ อังกฤษ เนื่องจากมีระบบพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดประเทศหนึ่ง รัฐธรรมนูญอังกฤษซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญมิใช่ลายลักษณ์อักษร ไม่ได้กล่าวถึงพรรคการเมืองแต่ก็ถือได้ว่าพรรคการเมืองเป็นองค์ประกอบทางการเมืองที่สำคัญของอังกฤษ

ถ้าจะดูจากความเป็นมาของพรรคการเมืองในอังกฤษแล้วจะเห็นได้ว่า พรรคการเมืองของอังกฤษไม่ได้เกิดขึ้นหรือจัดตั้งขึ้นเพราะกฎหมายบัญญัติให้ตั้งขึ้นได้ แต่เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของนักการเมือง เช่น พรรคอนุรักษ์นิยม เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของสมาชิกรัฐสภาในช่วงทศวรรษ 1870 ที่เป็นชนชั้นสูง และได้ขยายตัวขึ้นเพื่อรณรงค์หาเสียง เพื่อให้ได้ที่นั่งในสภามากขึ้น โดยได้จัดตั้งสมาคมพรรค (party association) ในเขตเลือกตั้ง พรรคเสรีนิยม (Liberal) เป็นการรวมกลุ่มของนักการเมืองที่เป็นชนชั้นกลาง ส่วนพรรคแรงงานเกิดจากภายนอกสภาคือเกิดจากสหภาพแรงงาน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชนชั้นแรงงานที่มีการจัดตั้งเป็น สหภาพแรงงาน พรรคทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ตั้งขึ้นมิใช่โดยกฎหมาย กล่าวอีกนัยหนึ่ง การจัดตั้งพรรคการเมืองสะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างทางชนชั้นของอังกฤษที่แบ่งออกไปเป็น ชนชั้นสูง ชนชั้นกลาง และ ชนชั้นล่างหรือชนชั้นกรรมกร การเจริญเติบโต การจัดโครงสร้างและการดำเนินงานต่างๆของพรรค เป็นไปตามเงื่อนไขต่างๆทางการเมือง เป็นเรื่องของแต่ละพรรคที่จะจัดการเพื่อให้ตนเองได้เสียงสนับสนุนจากประชาชนเพื่อให้ได้ที่นั่งในสภาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

สำหรับในกรณีของสหรัฐก็เช่นกัน มิได้มีกฎหมายพรรคการเมืองโดยเฉพาะ การเกิดขึ้นของพรรคการเมืองเป็นเรื่องของการรวมตัวของนักการเมือง หรือผู้ที่มีความคิดทางการเมืองคล้ายคลึงกัน เช่นในตอนเริ่มตั้งประเทศสหรัฐก็มีกลุ่มการเมืองแบ่งออกเป็นพวก Federalist กับพวก Anti-Federalist พวก Federalist เป็นพวกที่สนับสนุนรัฐธรรมนูญที่ยกร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และพวก Anti-Federalist เป็นพวกที่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว ต่อมาพวก Federalist กลายเป็นพรรคการเมืองใช้ชื่อว่า Federalist อีกพรรคหนึ่งมีชื่อว่าพรรค Democratic Republican พรรค Federalist มีชีวิตอยู่ไม่นานก็ยุบตัวเองไป คือเลิกไปในปี 1820 ส่วนพรรค Democratic Republican ได้แยกตัวเองออกมาเป็นพรรค Democrat เพื่อต้องการเป็นตัวแทนของคนธรรมดา หรือ Common people และได้มีการจัดตั้งพรรค Whigs ขึ้นโดยการรวมตัวกันของพรรค Democratic Republican ที่ยังหลงเหลืออยู่แต่เรียกตัวเองว่า National Republican กับกลุ่มการเมืองอื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง และพรรค Whigs นี้เองได้รวมกับพวกต่อต้านการมีทาสได้รวมกันจัดตั้งพรรค Republican ขึ้นในต้นทศวรรษ 1850 โดยมีนโยบายต่อต้านการมีทาส ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการเกิดขึ้น การยุบและการพัฒนาของพรรคการเมือง ไม่ได้เป็นไปเพราะกฎหมาย แต่เป็นเพราะสภาพทางการเมืองเป็นประการสำคัญ การพัฒนาพรรคการเมืองทั้งในกรณีของอังกฤษและของสหรัฐจึงเป็นเรื่องของตัวพรรคและสภาพแวดล้อมทางการเมืองและการสนับสนุนที่ได้รับจากประชาชน อย่างไรก็ตามมิได้หมายความว่าพรรค การเมืองไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายใดๆ อันที่จริงมีกฎหมายจำนวนไม่น้อยที่เข้าไปควบคุมกิจกรรมและการดำเนินงานในบางเรื่องของพรรคการเมืองเช่นในกรณีของพรรคการเมืองในสหรัฐที่จะส่งผู้สมัครเข้ารับเลือกตั้งในตำแหน่งประธานาธิบดี จะมีชื่อผู้สมัครของตนในบัตรเลือกตั้งในรัฐใดๆได้ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎข้อบังคับของรัฐนั้นๆ

สำหรับกรณีของประเทศไทยเราอยู่ในกลุ่มที่มีกฎหมายพรรคการเมืองโดยเฉพาะแม้ว่าในตอนเริ่มต้นของการมีพรรคการเมืองเมื่อปี พ.ศ.2489 หาได้มีกฎหมายพรรคการเมืองโดยเฉพาะไม่มีเพียงแต่บทบัญญัติให้รัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2489 ที่ให้มีการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาได้ จึงได้มีการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาโดยมิได้มีกฎหมายรองรับ พรรคที่จัดตั้งขึ้นในครั้งนั้นที่สำคัญได้แก่ พรรคสหชีพ และพรรคประชาธิปไตย เป็นต้น อันที่จริงก่อนหน้านั้น คือหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ.2475 ไม่นานนัก ก็ได้มีความพยายามจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา อันได้แก่ ความพยายามของหลวงวิจิตรวาทการที่จะจัดตั้ง “คณะการเมือง” ซึ่งหลวงวิจิตรฯแปลมาจากคำว่า political party โดยจะจัดตั้งคณะการเมืองชื่อ คณะชาติ ขึ้น ให้เป็นฝ่ายค้านของคณะราษฎร โดยใช้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยการจัดตั้งสมาคม แต่คณะราษฎรไม่ยอมให้จัดตั้ง
อย่างไรก็ตามในกรณีของประเทศไทย ได้มีความเชื่อว่าการมีพรรคการเมืองโดยไม่มีกฎหมายเฉพาะรองรับ จะทำให้พรรคการเมืองไม่รับผิดชอบ ขาดระเบียบวินัย และไม่สามารถควบคุมให้พรรค ดำเนินงานไปในแนวทางที่เหมาะสมที่ถูกต้อง

ดังนั้นจึงได้มีการบัญญัติกฎหมายเกี่ยวกับพรรคการเมืองตลอดในช่วงที่ยอมให้มีพรรคการเมือง ได้ คือตั้งแต่ครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๔๙๘ จนถึงปัจจุบัน คือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๔๑ ลักษณะของกฎหมายหรือพระราชบัญญัติพรรคการเมืองทั้งหลาย มีหลักการคล้ายคลึงกันคือ การจัดตั้งพรรคต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งสิทธิ บทบาท การดำเนินงาน และการสิ้นสุดของพรรคการเมือง ที่สำคัญก็คือการมีกฎหมายพรรค การเมืองก็เพื่อให้พรรคการเมืองมีฐานะเป็นนิติบุคคล มีความรับผิดชอบ เป็นโจทก์จำเลยในศาลได้ แต่กฎหมายพรรคการเมืองในระยะหลัง เช่น พระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๒๔ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๔๑ มีรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น เช่น บทบัญญัติบังคับให้จัดตั้งสาขาพรรค การจัดโครงสร้างภายในพรรค และการดำเนินงานของพรรคในรายละเอียด เช่น การประชุมใหญ่ของพรรคต้องดำเนินการอย่างไร
เหตุผลในการบัญญัติรายละเอียดมากขึ้นนั้น อาจเป็นไปได้ว่าเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องในกฎหมาย ฉบับก่อนๆ และเพื่อบังคับให้พรรคดำเนินการต่างๆ ให้เกิดความมั่นคงในตัวของพรรคเอง เช่น ต้องมีการจัดโครงสร้างที่เป็นระบบมีนโยบายที่ชัดเจน มีสาขาพรรคกระจายทั่วไป เพื่อให้พรรคได้รับฐานสนับสนุนที่กว้างขวางอันจะทำให้พรรคมั่นคง ไม่ต้องการให้มีการตั้งพรรคเป็นแบบท้องถิ่น นิยม หรือพรรคเฉพาะกิจเพื่อประโยชน์เฉพาะหน้าบางอย่าง

อย่างไรก็ตามพรรคการเมืองของไทยยังขาดความเข้มแข็งและมั่นคง ทั้งที่มีกฎหมายพรรคการเมือง บัญญัติออกมาใช้หลายฉบับในระยะเวลานานตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๙๘ ปัญหาจึงมีอยู่ว่ากฎหมายเกี่ยวกับพรรคการเมืองมีความจำเป็นหรือไม่เพียงใด และถ้ายังจำเป็นต้องมีอยู่จะทำอย่างไร จึงจะให้กฎหมายส่งเสริมให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็งขึ้นได้

ประเด็นแรกที่ต้องคำนึงถึงคือเรายังจำเป็นต้องมีกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่ คำตอบก็คือยังคงต้องมีกฎหมายพรรคการเมืองอยู่ เนื่องจากมีประโยชน์หลายประการ ที่สำคัญคือ เป็นผลให้ พรรคมีฐานะเป็นนิติบุคคล มีความรับผิดชอบตามกฎหมาย ถ้าจะยึดแบบอย่างประเทศสหรัฐหรืออังกฤษ ที่ไม่มีกฎหมายพรรคการเมืองโดยเฉพาะรองรับคงจะไม่ได้ จะทำให้พรรคการเมืองมีความรับผิดชอบ ได้ลำบาก แต่ขณะเดียวกันเราต้องยอมรับว่าการพัฒนาพรรคการเมืองขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ไม่ใช่อยู่ที่กฎหมายอย่างเดียวและกฏหมายจะต้องช่วยส่งเสริมให้ระบบพรรคการเมืองมีความเจริญก้าวหน้าไปในแนวทางระบอบเสรีประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถ้าจะให้กฎหมายช่วยส่งเสริมการพัฒนาพรรคการเมืองเช่นนั้น
เราจะต้องคำนึงถึงประเด็นที่สำคัญคือ จะต้องมีความสมดุลระหว่างการบังคับเพื่อให้เกิดวินัยและความรับผิดชอบกับเสรีภาพ ความสมดุลเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างขึ้น เป็นปัญหาที่โต้เถียงกันเป็นเวลานานนับพันปี นับตั้งแต่มีรัฐเกิดขึ้นก็ว่าได้ และที่สำคัญคือเรามักจะหาความเห็นพ้องต้องกันลำบากว่าความสมดุลเช่นนั้นอยู่ตรงไหน แต่ถึงจะมีความยากลำบากอย่างไรก็ต้องแสวงหาความสมดุลและสร้างมันขึ้นมาให้ได้ ความสมดุลในเรื่องนี้อาจดูได้จากการจัดตั้งพรรคการเมือง ในประเทศที่ใช้ระบบเผด็จการจะให้ความสำคัญกับความเข้มแข็งของพรรคการเมืองมักยอมให้พรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวเท่านั้นที่มีอำนาจทางการเมือง และอาจมีกฎหมายห้ามตั้งพรรคอื่นๆ แม้ในกรณีที่ยินยอมให้มีพรรคอื่นๆได้ ก็จะไม่ให้มีอิทธิพลหรืออำนาจแต่อย่างใด เสรีภาพในการจัดตั้งพรรคการเมืองถูกจำกัดอย่างมากโดยอ้างว่าการมีพรรคการเมืองหลายพรรคทำให้การเมืองไร้เสถียรภาพมีความวุ่นวาย ส่วนประเทศที่เป็นเสรีประชาธิปไตยเต็มที่ จะเน้นเรื่องเสรีภาพของการจัดตั้งพรรคการเมืองและเสรีภาพของพรรคการเมืองในการดำเนินกิจการทางการเมือง
ในระบบนี้จึงมีพรรคการเมืองได้หลายพรรคและ ต้องการเน้นระบอบหลายพรรคเช่น เยอรมนี และกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย เป็นต้น สำหรับประเทศไทย รัฐธรรมนูญได้มีเจตนารมณ์ให้การจัดตั้งพรรคการเมืองทำได้ง่าย เพราะเป็นเรื่องของสิทธิเสรีภาพทางการเมืองของบุคคลที่จะรวมกลุ่มกันทางการเมือง ดังนั้น กฎหมายพรรคการเมืองจะต้องสนองเจตนาดังกล่าวของรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามเสรีภาพในการจัดตั้งพรรคการเมืองใช่ว่าจะไม่มีขอบเขตจำกัด เช่น การจัดตั้งที่ขัดกับระบบเสรีประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขทำมิได้ หรือไม่สนับสนุนให้มีการจัดตั้งพรรคท้องถิ่นนิยมที่หัวรุนแรงหรือเข้มข้นเกินไป การยอมให้จัดตั้งพรรคการเมืองได้ง่ายนั้น มีข้อโต้แย้งว่าทำให้พรรคมีจำนวนมาก เกิดเป็นระบบหลายพรรคและโดยธรรมชาติของระบบหลายพรรคนั้นจะทำให้ระบบพรรคการเมืองมีความอ่อนแอ และส่งผลให้การเมืองไร้เสถียรภาพ หลายคนอยากให้มีเพียงระบบสองพรรคอย่างอังกฤษหรืออเมริกา แต่ระบบสองพรรคใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้โดยง่าย และระบบหลายพรรคที่ไม่มีเสถียรภาพอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆด้วย ไม่ใช่เกิดจากจำนวนพรรคที่มีมากเกินไปแต่เพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกันการหาทาง จำกัดจำนวนพรรคให้เหลือเพียงพรรคเดียวหรือมีพรรคใหญ่เพียงพรรคเดียว โดยพรรคฝ่ายค้านไม่มีหรือมีก็อ่อนแอไม่สามารถเป็นทางเลือกให้กับประชาชนได้นั้น อาจไม่เหมาะสมเพราะเป็นการปิดกั้น ทางเลือกของประชาชน ถ้าประชาชนไม่พอใจในรัฐบาลก็ไม่สามารถมีตัวเลือกเพื่อให้ประชาชนเลือกเข้ามาเป็นรัฐบาลใหม่ได้ ดังนั้นถ้าจะมีข้อจำกัดในการจัดตั้งพรรคการเมือง ก็น่าจะเป็นข้อจำกัดที่ได้กล่าวไปแล้ว คือ ขัดกับระบอบเสรีประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขกับเป็นพรรคท้องถิ่นนิยมที่รุนแรงเกินไป

ในส่วนของการดำเนินการของพรรคในระยะหลังจะเห็นได้ว่า กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง มีบทบัญญัติที่ละเอียดมากขึ้น ในการดำเนินงาน เหตุผลของการบัญญัติเช่นนั้นอาจเป็นผลมาจากในอดีตที่พรรคต่างๆมักทำงานไม่เป็นระบบ บางพรรคก็ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรคเท่านั้น จึงมีบทบัญญัติเพื่อบังคับให้พรรคดำเนินงานและบริหารกิจการภายในพรรคให้เป็นไปในลักษณะเดียวกันทั้งหมด ในด้านหลักการแล้ว พรรคแต่ละพรรคย่อมมีหลักการบริหารงานที่แตกต่างไปจากพรรคอื่นได้ ดังนั้นกฎหมายไม่ควรจะมีบทบัญญัติในด้านการดำเนินกิจการของพรรคที่ละเอียดจนเกินไปและเหมือนกันทุกพรรค บางทีเราต้องถามตัวเราว่าทุกพรรคต้องมีโครงสร้างเหมือนกัน เช่นต้องมีที่ประชุมใหญ่ มีกรรมการบริหาร มีเลขาธิการพรรค เหล่านี้เป็นต้นหรือไม่ และถ้าต้องมีเหมือนกัน อำนาจหน้าที่และการได้มาซึ่งตำแหน่งดังกล่าวจำเป็นต้องเหมือนกันหรือไม่

ในด้านของสมาชิกพรรคและการจัดตั้งสาขาพรรค รัฐธรรมนูญมีเจตนารมณ์ที่จะให้พรรค การเมืองที่จัดตั้งขึ้น เป็นพรรคที่มีฐานสนับสนุนจากประชาชนและกระจายให้กว้างขวางไม่กระจุกตัวอยู่แต่ในส่วนหนึ่งส่วนใดของประเทศ การหาสมาชิกก็ดี การจัดตั้งสาขาพรรคก็ดี ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้โดยง่าย แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าไม่มีการเร่งรัดในเรื่องนี้ พรรคการเมืองทั้งหลายอาจนิ่งนอนใจไม่ดำเนินการแต่อย่างใดในเรื่องดังกล่าว พรรคก็จะเป็นเพียงกลุ่มคนเล็กๆแคบๆ ดังนั้นในเรื่องการหาสมาชิกและการจัดตั้งสาขาพรรค เราอาจยอมให้พรรคที่จัดตั้งขึ้นถูกยกเลิกไป ถ้าหาจำนวนสมาชิกขั้นต่ำไม่ได้ในระยะเวลาที่กำหนด แต่การจัดตั้งสาขาพรรคควรมีความยืดหยุ่น โดยให้ขยายเวลาออกไปได้ ถ้าเร่งรัดอาจมีการจัดตั้งสาขาหลอกๆขึ้นมาได้ ส่วนในเรื่องการดำเนินกิจการของพรรค ควรจะให้เป็นเรื่องของแต่ละพรรค กฎหมายไม่ควรเข้าไปยุ่งมากนัก เช่นการเปลี่ยนแปลงนโยบาย หรือข้อบังคับพรรคการเมือง ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับปัจจุบัน ยังได้บัญญัติให้ต้องรายงานให้นายทะเบียนทราบ เพื่อให้นายทะเบียนตอบรับ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาโต้แย้งว่าทำไมการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวต้องให้นายทะเบียนตอบรับ เท่ากับให้อำนาจนายทะเบียนเข้ามาดูแลในเรื่องนี้โดยปริยาย ส่วนการจัดทำทะเบียนสมาชิกก็เช่นกัน และต้องรายงานการเปลี่ยนแปลงจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงต้อนายทะเบียน ซึ่งนับว่าเป็นรายละเอียดเกินไปก็ได้ ที่จะต้องรายงานให้นายทะเบียนทราบ

การควบคุมอีกประการหนึ่งที่สำคัญ ให้หัวหน้าพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคการเมือง และกรรมการสาขาพรรคการเมือง มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตน ของคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ การยื่นบัญชีดังกล่าวได้มีคำวิจารณ์ว่าเป็นการควบคุมมากเกินไป โดยเฉพาะกรรมการสาขาพรรค ทำให้หากรรมการสาขาพรรคการเมืองเป็นไปด้วยความยากลำบากเป็นอุปสรรคประการหนึ่งในการขยายสาขาของพรรค

ในด้านการยุบหรือสิ้นสุดของพรรคการเมือง ก็มีปัญหาโต้แย้งเช่นกันว่าเข้มงวดจนเกินไป ตามมาตรา ๖๕ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่ให้ยุบพรรคการเมือง ถ้าพรรคไม่ดำเนินการตามมาตรา ๓๕ คือไม่รายงานการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองในรอบปีปฏิทินที่ผ่านมา ตามวิธีที่นายทะเบียนกำหนด และแจ้งให้นายทะเบียนทราบภายในเดือนมีนาคมของทุกปี ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่มีการวิจารณ์ว่าเข้มงวดเกินไป และไม่ต้องมีการพิสูจน์ว่าจงใจไม่ยื่นหรือไม่ เพียงแต่ไม่ยื่นภายในกำหนดเวลาก็เป็นเหตุให้ยุบพรรคการเมืองได้แล้ว หรือในกรณีของมาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ ถ้าไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามาตราทั้งสองแล้วก็เป็นเหตุให้ยุบพรรคได้เช่นกัน เช่น มาตรา ๒๕ ต้องมีการประชุมใหญ่ของพรรคในการเปลี่ยนแปลงนโยบายพรรค เปลี่ยนแปลงข้อบังคับส่วนมาตรา ๒๖ เป็นบทบัญญัติกำหนดองค์ประกอบของที่ประชุมใหญ่ของพรรค ดังนั้นถ้าในการประชุมใหญ่เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อบังคับ แต่ที่ประชุมใหญ่ไม่เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ แล้ว ก็เป็นเหตุให้ยุบพรรคได้เช่นกัน กรณีเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นเหตุของการยุบพรรคที่เข้มงวดเกินไป
จากที่กล่าวมาแล้ว
จะเห็นได้ว่า ในกรณีของประเทศไทย มีความไม่ไว้วางใจในพรรคการเมือง ค่อนข้างสูง ซึ่งได้มีการออกกฎหมายบังคับใช้แก้พรรคการเมืองค่อนข้างเข้มงวด การมีกฎหมายมาบังคับใช้เช่นนี้ อาจมีผลให้พรรคการเมืองที่ไม่รับผิดชอบ หรือจัดตั้งขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ระยะสั้นบางประการ ต้องสิ้นสุดหรือถูกยุบไป แต่ความเข้มงวดของกฎหมายก็ได้มีผลให้พรรคการเมืองบางพรรคที่มีความตั้งใจดี ที่จะเป็นพรรคการเมืองที่ดี แต่ต้องใช้เวลาในการพัฒนาอาจถูกยุบเลิกไป อันเกิดจากความผิดพลาดบางประการที่ไม่ได้ตั้งใจ เช่นไม่ได้จัดทำรายงานประจำปี หรือตั้งสาขาพรรคไม่ได้ในระยะเวลาและตามจำนวนที่กำหนดไว้ในกฎหมายเป็นต้น การผ่อนคลายความเข้มงวด ของกฎหมายจะช่วยทำให้พรรคมีเสรีภาพในการดำเนินงานมากขึ้น และมีโอกาสที่จะแก่ตัวและปรับปรุงตัวเพื่อจะได้เป็นพรรคที่ดี ที่เข้มแข็งต่อไปในอนาคต
กฎหมายมองไปข้างหน้า ไม่ใช่ข้างหลัง
The law looks forwards, not backward
เพราะเหตุการณ์บางอย่างอาจนำอดีตมาชี้นำอนาคตได้ ถ้าหากพรรคการเมืองไทยยังคงมีความกระเพิ้อมไปในทิศทางที่ไม่สร้างสรรค์ โดยรัฐบาลขาดเสถียรภาพ แบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็อาจทำให้รัฐโลกมองพรรคการเมืองไปในทางลบได้ การเมือง เศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม อาจทำให้ไม่ได้รับความไว้ใจจากต่างชาติได้เช่นกัน
จากข้อมูลดังกล่าวกลุ่มข้าพเจ้ามีความเห็นด้วยว่าการที่กฏหมายมาบังคับพรรคการเมืองให้อยู่ตามกติกา เพื่อไม่ให้สำเร็จจนเกินไปนั้นเป็นที่ดี แต่หากใช้ทฤษฎีดังที่ คือ คุณทักษิณได้กล่าวว่า "ผู้ที่กำหนดกติกาผู้นั้นเป็นผุ้ชนะ" แล้วนั้นสามารถบ่งบอกว่ ถึงจะมีกติกาออกอย่างไร แต่หากคนยังไร้ซึ่งคุณธรรม จริยธรรมในการเป็นผู้ปกครองและถูกปกครอง ขาดความตระหนักถึงบทบาทสิทธิและที่ของตน นั่นคือ อิสระภาพและเสรีภาพ แห่งประชาธิปไตย การเมืองของไทยก็จะยังคงวนเวียนอยู่ในวัฏจักรประชาธิปไตย รัฐประหาร ครั้งแล้วครั้งเล่า ตลอดไป
http://www.oknation.net/blog/cuibrono/2007/07/20/entry-1

สุจิต บุญบงการ:งานนี้มีแต่เสียกับเสมอตัว

โดย : ปกรณ์ พึ่งเนตร
<!-- Begin Media Content --><SCRIPT type=text/javascript>$(function() {$('#media-content').tabs();});</SCRIPT><!-- Media Picture content --><!-- Begin More Pics-->
ศ.ดร.สุจิต บุญบงการ






ถ้าผลออกมาแล้วสังคมส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ มันก็ล้มเหลวชัดเจน แต่ถ้าสังคมส่วนใหญ่ยอมรับแล้วฝ่ายค้านยังไม่ยอม ฝ่ายค้านก็ต้องมีเหตุผลมาอธิบาย
แม้ประโยคที่ว่า "งานนี้มีแต่เสียกับเสมอตัว" จะไม่ได้ออกจากปากของ ศ.ดร.สุจิต บุญบงการ โดยตรง เพราะเขาเล่าว่าเป็นคำพูดของ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ที่เอ่ยขึ้นระหว่างขอร้องให้เขารับตำแหน่งประธานคณะกรรมการอิสระศึกษารับฟังความเห็นและเสนอแนะการพัฒนาประชาธิปไตยและการเมืองการปกครอง ก็ตาม
ทว่า อาจารย์สุจิต ก็ดูจะยอมรับความหมายของประโยคที่ว่านี้โดยดุษณี อันเป็นสิ่งที่สะท้อนชัดถึงการตระหนักรู้ผลของการรับงาน "ปฏิรูปการเมือง (รอบใหม่)" ในยามที่บ้านเมืองกำลังแตกแยกแบ่งเป็นฝักฝ่ายดังเช่นปัจจุบัน
กระนั้นก็ตาม เมื่ออาสาทำงานเพื่อชาติ ซึ่งเจ้าตัวบอกเองว่าคงเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตแล้ว...อาจารย์สุจิตก็ตั้งความหวังเอาไว้ไม่น้อยเหมือนกัน
"ผมคิดว่าถ้าเรารับงานมาแล้วและทำได้ดี ก็จะได้ข้อเสนอแนะที่ดีกับประเทศชาติ อาจแก้ไขความขัดแย้งของคนสองกลุ่มได้ระดับหนึ่ง คงไม่ใช่ออกมาแล้วคนบอกไร้สาระ เสียเวลา หรืออุดมคติเกินไป แต่สังคมต้องเข้าใจด้วยว่าการพัฒนาการเมืองต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ม้วนเดียวจบ บางปัญหาอาจจะสามารถแก้ไขได้ด้วยการปฏิรูปเพียงครั้งเดียว แต่บางปัญหาต้องแก้เป็นขั้นเป็นตอน แน่นอนว่าสังคมอยากให้จบเร็ว แต่ถ้าเร็วเกินไปก็มีแรงต้านสูง ฉะนั้นต้องหาจุดสมดุล"
ในแง่ของเนื้อหา อาจารย์สุจิต บอกว่า ก่อนจะรับทำงานชิ้นนี้ ได้สอบถามกับทางสถาบันพระปกเกล้าพอสมควรว่าจะให้ทำอะไร ซึ่งคำตอบที่ได้ก็เป็นที่น่าพอใจว่าไม่ใช่การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่เป็นการศึกษาปัญหาการเมืองและหาแนวทางแก้ไขทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง รวมถึงระยะยาว โดยเฉพาะการคลี่คลายบรรยากาศความขัดแย้ง
"การจะแก้ขัดแย้งคงไม่ใช่เอาคน 2 กลุ่มมาเจอกัน แต่เราต้องศึกษาแง่มุมและบริบทอื่นด้วย อย่างเช่นฝ่ายค้าน แม้วันนี้จะบอกว่าไม่มาร่วม แต่เราก็ต้องไปสดับตรับฟังความคิดความเห็นของเขาเหมือนกัน" อาจารย์สุจิต ระบุ
ปัญหาที่รับรู้กันดีก็คือ ข้อเรียกร้องจากแต่ละฝ่ายบนเวทีการเมืองไทยยามนี้มีความต้องการแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว เช่น ฝ่ายเสื้อแดงก็อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับเมืองไทยโดยไม่ถูกดำเนินคดีหรือรับโทษใดๆ ส่วนฝ่ายเสื้อเหลืองก็ต้องการให้ใช้กฎหมายเล่นงาน พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่บรรดาพรรคการเมืองก็อยากให้แก้ไขรัฐธรรมนูญยกเลิกโทษยุบพรรค จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับสถาปนิกออกแบบการเมืองใหม่
"เมื่อเข้าสู่กระบวนการทำงานแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ผมในฐานะประธานจะไม่ไปตั้งธงหรือชี้นำ มันเป็นเรื่องของเหตุผล เพื่อประโยชน์ชาติบ้านเมือง การเป็นประธานต้องประสานแนวคิดทุกฝ่ายให้ได้ และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน แม้แต่ในกรรมการด้วยกันเองก็อาจจะมีความคิดที่แตกต่างหลากหลาย ผมก็มีหน้าที่ขมวดประเด็นให้ชัด แต่จะไม่ไปตั้งธงล่วงหน้า" อาจารย์สุจิต อธิบายวิธีการทำงาน
"ประเด็นแก้รัฐธรรมนูญอาจจะเป็นจุดหนึ่งที่พูดถึง แต่ไม่ใช่เป้าเดียว เพราะถ้าเป้าเดียวมันง่าย แป๊บเดียวก็จบแล้ว หน้าที่ของผมไม่ใช่แก้รัฐธรรมนูญ แต่คนเข้าใจว่าระยะเวลา 8 เดือนคือแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ใช่เลย เนื่องจากปัญหาในบ้านเมืองเราขณะนี้ ถ้าเราไม่คิดตรงจุดอื่นด้วยมันจะไม่มีวันจบ และปัญหาก็ไม่ได้อยู่แค่สีเหลืองกับสีแดง"
คำตอบที่ดูจะรู้ชัดว่าต้นตอของปัญหาที่แท้จริงคืออะไร ทำให้น่าคิดต่อไปว่างานของคณะกรรมการอิสระชุดนี้ จะสะสางที่ต้นเหตุนั้นให้จบลงด้วยดีได้หรือไม่
"ต้นเหตุจริงๆ คณะกรรมการชุดนี้ไม่มีอำนาจมากพอ ฉะนั้นคงต้องหาทางอื่นบีบให้เหตุนั้นยอมรับอะไรๆ บ้าง" อาจารย์สุจิต พูดแฝงปริศนา และว่า
"ผลการทำงานของคณะกรรมการที่จะให้ได้ 100% คงยาก โดยเฉพาะเรื่องของความแตกแยก มันมีเหตุผล มีเงื่อนงำทำให้เกิดปัญหา แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด แม้สุดท้ายความสมานฉันท์จะไม่เกิด แต่ก็เชื่อว่าจะทำให้ปัญหาลดน้อยลง ผมไม่ได้หวังให้สองฝ่ายมาจับมือกัน กอดกันกลม แต่จะทำให้รอยร้าวนั้นไม่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นความรุนแรงจนอยู่ร่วมกันไม่ได้ เพราะจริงๆ แล้วเราสามารถอยู่ร่วมกันได้ในความคิดเห็นที่แตกต่าง"
อีกหนึ่งปัญหาที่คณะกรรมการอิสระซึ่งเขารับหน้าที่ประธานต้องเผชิญตั้งแต่ยังไม่เริ่ม "ตั้งไข่" ก็คือการถูกต่อต้านจากบางฝ่ายด้วยข้อหา "ไม่เป็นกลาง"
"ผมรู้ว่ามีคนไม่ยอมรับผมตั้งแต่ต้น แต่จะให้ผมทำอย่างไร เพราะจะให้ทุกคนยอมรับคงลำบาก คนบางกลุ่มย่อมไม่รู้ว่าผมคิดอะไรข้างใน แต่ผมรู้ตัวเอง และผมไม่ไปต่อสู้ ไม่มีหน้าที่ต้องพิสูจน์ว่าเป็นกลางหรือไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด มันช่วยไม่ได้ แต่ถ้าผู้ที่มอบหมายเปลี่ยนใจไม่ให้ผมทำ มันก็จบ"
อาจารย์สุจิต ซึ่งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อยที่วินิจฉัยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความผิดในคดีซุกหุ้นภาค 1 วิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ถูกมองไม่เป็นกลาง อาจเป็นเพราะทำงานมานาน และมีเพื่อนฝูงเยอะจากทุกพรรค ทุกวงการ
"ผมทำงานมา 30-40 ปี ใกล้ชิดกับฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ แต่ผมไม่จำเป็นต้องทำตามอาณัติใคร"
เช่นเดียวกับข้อกล่าวหาเป็นเครื่องมือให้รัฐบาลเพื่อซื้อเวลาอยู่ในอำนาจต่อไป อาจารย์สุจิต ก็ยืนยันคล้ายๆ กัน
"เราคงไม่ใช่เครื่องมือสำหรับซื้อเวลาให้ใคร เพราะสิ่งที่ผมจะทำไม่ได้ทำให้กิจกรรมทางการเมืองของฝ่ายค้านและรัฐบาลสะดุดหยุดลง การเมืองสองฝ่ายไม่ต้องหยุดรอ ฝ่ายค้านก็ยังยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ ส่วนรัฐบาลถ้าได้รับความไว้วางใจจากสภา ก็ยังบริหารประเทศต่อไป เรียกว่าต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง"
"ถ้าถึงวันหนึ่งรัฐบาลชุดนี้ไม่อยู่แล้ว ก็ขึ้นกับรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะส่งสัญญาณอย่างไร จะให้เราทำต่อหรือไม่ สมมติว่าไม่อยากให้เราทำต่อ เราก็ยุติ หรือไม่เราก็อาจจะทำเองในกรอบที่เล็กลง เท่าที่เราและสถาบันพระปกเกล้าจะสามารถทำได้"
อย่างไรก็ดี ท่าทีของ อาจารย์สุจิต ดูจะไม่กังวลกับแรงต้านที่เกิดขึ้นมากนัก เพราะเขาเชื่อว่าทุกอย่างจะพิสูจน์ที่ผลงานในบั้นปลาย
"ถ้าผลออกมาแล้วสังคมส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ มันก็ล้มเหลวชัดเจน ไม่ต้องรอให้ฝ่ายค้านบอก แต่ถ้าสังคมส่วนใหญ่ยอมรับสิ่งที่คณะกรรมการอิสระเสนอ แล้วฝ่ายค้านยังไม่ยอม ฝ่ายค้านก็ต้องมีเหตุผลมาอธิบายว่าทำไมถึงไม่ยอมรับ"
และสิ่งสำคัญที่สุดคือ แรงกดดันที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายทั้งของอาจารย์สุจิตเอง และสถาบันพระปกเกล้า...
"อาจารย์บวรศักดิ์ก็บอกเอาไว้ตั้งแต่ต้นว่า งานนี้มีแต่เสียกับเสมอตัว ผมก็เห็นด้วยนะ แต่เหตุผลที่ทำให้ผมยอมรับหน้าที่นี้คือสิ่งที่อาจารย์บวรศักดิ์พูดในเชิงเปรียบเปรยว่า สังคมขณะนี้กำลังมืดสลัว ต้องมีคนจุดเทียนให้สว่าง เราเปรียบเสมือนแสงเทียน แต่เทียนนั้นเมื่อส่องไปสักพักเปลวเทียนก็จะมอดดับ เหมือนกับคนที่ทำงานนี้ สุดท้ายอาจจะเสีย แต่ถ้าเราเสียแล้วคนอื่นสว่าง ประเทศชาติสว่าง ก็น่าจะลองดู"

http://www.bangkokbiznews.com/home/...สุจิต-บุญบงการ:งานนี้มีแต่เสียกับเสมอตัว.html

 

คุณ K.Kwan ตีความได้ลึกซ็้งมากเลยครับ ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องilluminati cards เท่าไหร่ แต่พอเห็นเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นมาแล้ว อย่างน้ำมันรั่ว มันอดคิดไม่ได้เลยว่ามีการเตรียมการไว้แล้ว ถ้ามีข้อมูลดีๆ กรุณาบอกกล่าวเพื่อเป็นความรู้ด้วยนะครับ

 

มาดูข่าวกัน การเคลื่อนไหวที่ไม่ธรรมดาของเศรษฐีน้ำมัน
ถึงก่อนมีสิทธิก่อนหรือป่าวก็ไม่รู้นะ เป็นแนวโน้มใหม่ของอินโดจีนหรือป่าว ต้องดูกันต่อไป

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เศรษฐีน้ำมันคูเวต เริ่มแผนทำนา 25,000 ไร่ในลาว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 มิถุนายน 2553 02:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>
ภาพจาก Flickr.com ต้นกล้าขึ้นเขียวขจีในทุ่งนาของแขวงจำปาสัก ฤดูทำนาเริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ไม่เพียงแต่ชาวนาลาวจะปลูกข้าวเลี้ยงดูเพื่อนร่วมชาติเท่านั้น หากยังมีภารกิจต้องผลิตข้าวเลี้ยงดูเศรษฐีน้ำมันอย่างคูเวตอีกด้วย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>
ASTVผู้จัดการออนไลน์-- รัฐบาลคูเวตมาตามสัญญา มอบเงิน 350,000 ดอลลาร์ให้แก่กระทรวงเกษตรและป่าไม้ลาว ศึกษาโครงการทำนาข้าวและจัดระบบชลประทานในเขตนครเวียงจันทน์ เพื่อผลิตข้าวและส่งจำหน่ายให้แก่คูเวต

สำนักข่าวสารปะเทดลาวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของอธิบดีกรมชลประทานที่ระบุว่า ปัจจุบันระบบชลประทาน 2 แห่งในเขตเมืองไซทานี นครเวียงจันทน์จัดน้ำให้นาข้าวได้เพียง 500 เฮกตาร์เศษ (3,100 ไร่เศษ) และกำลังจะพัฒนาให้ครอบคลุมนาข้าวถึง 4,000 เฮกตาร์ (25,000 ไร่) เพื่อผลิตข้าวให้พอป้อนตลาดตูเวต

สองฝ่ายร่วมกันเซ็นความตกลงเรื่องนี้ปีที่แล้ว เมื่อนายกรัฐมนตรีลาว บัวสอน บุปผาวัน ไปเยือนคูเวต ซึ่งมีการเซ็นข้อตกลงความร่วมมือกันหลายด้าน ทั้งอุตสาหกรรม การค้าและการท่องเที่ยวด้วย

ต่างไปจากในกัมพูชา ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลคูเวตได้ขอเช่าที่นาที่นั่นนับหมื่นๆ ไร่เพื่อปลูกข้าว ด้วยจุดประสงค์คล้ายกันนี้

คูเวตประเทศเล็กๆ ที่ร่ำรวยด้วยน้ำมันดิบ กำลังแสวงหาผืนดินอันอุดมในต่างแดน เพื่อผลิตข้าวและพืชอาหารชนิดอื่นๆ ส่งกลับไปเลี้ยงดูประชากร ตามแผนการที่มีมานานแล้ว แผนการเป็นจริงเป็นจังยิ่งขึ้น เมื่อเกิดยุคข้าวยากหมากแพงในต้นปี 2551 ซึ่งข้าวราคาแพงมากอย่างเป็นประวัติการและเกิดการขาดแคลนในตลาดโลก

สำหรับโครงการในลาว ผู้เชี่ยวชาญจากตะวันออกกลางกำลังจะเข้าร่วมในโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในด้านต่างๆ ด้วย เจ้าหน้าที่ของทางการกล่าว .

IndoChina - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เสื้อเเดงเป็นเครื่องมือของพวกหน้าเหลี่ยมอิลุมิเนติครับ พวกโง่ๆหน่ะตาส่วางได้เเล้ว

 

วันที่ 12 ที่ผ่านมา ยานสำรวจอวกาศ ญฮายาบุซะ ของญี่ปุ่นกลับโลกในรอบ 7 ปี
รายละเอียดในเวปยูทูป

5555 เรามั่วเอานะ ..

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=RhbbwgBNUZw"]YouTube- 12th june 2010 Hayabusa this come backed !!![/ame]

 

น่าสนใจครับ -------------

 

ขอถามตรงๆ ตามประสาคนไม่รู้ครับ illuminati คืออะไรเหรอครับ

 

ขอแนะนำให้ไปอ่านที่กระทู้นี้ แล้วจะเข้าใจมากขึ้นนะ
http://palungjit.org/threads/สัญลักษณ์-illuminati-มีอยู่ทุกที่จนน่ากลัว~.223098/