สำนักแผ่นดินไหว..พร้อม!!เตือนฉับไวใน๑๐นาที

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 29 มิถุนายน 2010.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,657
    สำนักแผ่นดินไหว...พร้อม!!


    [​IMG]


    เตือนฉับไวใน 10 นาที

    แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ รุนแรงถึง 8.0 ริคเตอร์ บริเวณเกาะสุมาตรา เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เวลา 07.58 น. (หรือเวลาสากล 00:58:50 ยูทีซี) ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่มชายฝั่งหลายประเทศ รวมถึง 6 จังหวัดริมฝั่งทะเลอันดามันของไทย ทำให้เกิดการตื่นตัวกับการระวัง รับมือเพื่อลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินลงให้ได้

    ปัญหาสำคัญก็คือ ไม่มีเทคโนโลยี หรือวิธีการใดทางวิทยาศาสตร์จะคำนวณ คาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดที่ไหน เมื่อไรจึงต้องทุ่มเทลงทุนจัดหาระบบเพื่อรับทราบและแจ้งข้อมูลเตือนภัยให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้

    [​IMG]


    ความสูญเสียที่หนักหน่วงเมื่อห้าปีก่อนนั้น ส่วนหนึ่งโทษกันว่าเพราะประชาชนไม่รู้ข้อมูลเหตุร้ายทันท่วงที จึงมิได้หลบหาที่ปลอดภัย ซึ่งก็เป็นเพราะระบบการตรวจจับแผ่นดินไหวขาดความทันสมัย แต่วันนี้ มีสำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ ในรั้วเดียวกับกรม อุตุนิยมวิทยา บางนา มีห้องศูนย์ปฏิบัติการแผ่นดินไหว ที่เต็มไปด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์รับข้อมูลจากสถานีตรวจแผ่นดินไหวอัตโนมัติ สถานีวัดระดับน้ำทะเล เพียบ

    มีเจ้าหน้าที่ส่วนเฝ้าระวังและติดตามแผ่นดินไหวและสึนามิ 13 คน ส่วนประมูลผลข้อมูลและสถิติแผ่นดินไหว 4 คน ส่วนวิจัยและพัฒนาแผ่นดินไหวและสึนามิ อีก 5 คน

    สุมาลี ประจวบ ผอ.สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว และ บุรินทร์ เวชบันเทิง ผอ.ส่วนเฝ้าระวังและติดตามแผ่นดินไหวและสึนามิ หัวหน้าทีมแรกที่ต้องรับข้อมูลและกระจายข่าวแผ่นดินไหว เปิดห้องปฏิบัติการเล่าภารกิจให้ฟัง ในจังหวะที่กระแสข่าวปล่อยแผ่นดินไหว คลื่นยักษ์ถล่มเพราะอิทธิพล ดาวเคราะห์เรียงตัวกำลังกระพือ ว่า หน่วยงานนี้จัดตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 52


    [​IMG]


    ผอ.สุมาลีบอกว่า งบประมาณสำหรับหน่วยงานและระบบเฝ้าระวัง 500 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาตกปีละ 10% ส่วนใหญ่ เป็นค่าเครื่องมือสำคัญ ประกอบด้วย สถานีตรวจแผ่นดินไหว ระบบ I 15 แห่ง, สถานีตรวจแผ่นดินไหว ระบบ II 25 แห่ง, สถานีวัดอัตราเร่งของพื้นดิน 21 แห่ง, สถานีวัดระดับน้ำทะเล 9 แห่ง, สถานีวัดการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก 5 แห่ง ซึ่งบอกตำแหน่งด้วยจีพีเอสมีความละเอียด หน่วยวัดเป็นเซนติเมตร

    การทำงานเครื่องมือเหล่านี้ บุรินทร์ แม่ทัพของส่วนเฝ้าระวังและติดตามแผ่นดินไหวและสึนามิ บอกว่า ทันทีที่สถานีตรวจวัดแผ่นดินไหว รับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นโลกก็จะส่งข้อมูลโดยอัตโนมัติเข้ามายังห้องปฏิบัติการ แจ้งเตือนทั้งภาพบนจอคอมพิวเตอร์และส่ง เสียงจากลำโพงดังลั่นกระตุ้นเจ้าหน้าที่ ซึ่งง่วนกับภารกิจอื่นให้รีบมาดู ว่าในนาทีนั้น เกิดแผ่นดินไหวระดับความแรงต่ำกว่าหรือสูงกว่า 5 ริคเตอร์

    หัวหน้าทีมที่คอยเฝ้าดูการเคลื่อนไหวที่อาจเป็นอันตรายของเปลือก ซึ่งไม่รู้จะเกิดเมื่อไหร่ พาเราเดินดูการทำงาน พร้อมกับอธิบายว่า ระบบจะตรวจสอบรายละเอียด หากไหวเกิน 5.0 ริคเตอร์ นอกจากเผยแพร่บนเว็บ ก็จะกระจายข้อมูลไปยังองค์กรต่าง ๆ และผู้เกี่ยวข้อง เช่นสำนักพระราชวัง ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และสื่อมวลชน ราว 100 ราย ทางโทรสาร และส่งข้อความสั้นหรือ เอสเอ็มเอส ถึงบุคคลและสื่อมวลชน อีก 300 ราย ภายใน 10 นาทีแรก เพื่อให้ผู้รับนำไปกระจายต่อทั้งทางวิทยุ โทรทัศน์ หากเป็นแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ความรุนแรง 7 ริคเตอร์ขึ้นไป ก็จะรายงานถึงอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อรายงานถึงรัฐมนตรีทันที พร้อมกับออกคำเตือนภัย

    ข้อมูลนี้ จะส่งต่อให้ศูนย์เตือนภัยพิบัติไปแจ้งถึงชาวบ้านในพื้นที่โดยไม่ชักช้า

    ระบบการสื่อสารที่ว่า เป็นการแจ้งแบบถึงตัวผู้เกี่ยวข้องโดยตรง และเผยแพร่ในวงกว้างทางอินเทอร์เน็ต โดยออกพร้อมกันอัตโนมัติ ทั้งเฟซบุ๊กที่ www.facebook. com/earthquake.report หรือทวิตเตอร์ ให้ติดตามกัน ที่ Twitter seismo_twitt และหากเว็บไซต์ใดต้องการเอาเชื่อมโยงเว็บกับสำนักงานให้ได้หน้าจอเหมือนกัน ก็ก๊อบปี้ โค้ด ไปแปะไว้ หรือ จะดึงข้อมูลอัตโนมัติ แบบอาร์เอสเอส ให้ข่าวหรือข้อมูลใหม่ ๆ ส่งเข้าเครื่องตลอดเวลาที่อัปเดต ไม่ต้องเสียเวลาเปิดเว็บเข้ามาค้นหา

    เครื่องมือมีความพร้อมขนาดนี้ แล้วคนล่ะ... ผอ.สุมาลี บอกว่า ข้าราชการของสำนักฯมีบ้านพักในกรมฯ ส่วนเฝ้าระวัง จะจัดเจ้าหน้าที่อยู่เวรวันละ 3 ผลัด ผลัดละ 2 คน รวม 4 ชุด และทันทีที่มีเหตุฉุกเฉิน คนที่ไม่ได้อยู่เวรก็จะวิ่งจากบ้านพักมาประจำที่ห้องปฏิบัติการทันที ช่วยกันคนละไม้ละมือ โดยเฉพาะรับโทรศัพท์ที่ชาวบ้านจะสอบถามเข้ามานับสิบนับร้อยสาย ซึ่งต้องตอบอย่างสุภาพด้วยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์

    ช่วงไหนมีการอ้างปรากฏการณ์พิลึก ๆ และลงท้ายทำนายว่าจะเกิดแผ่นดินไหวก็รับสายกันมือเป็นระวิง

    “ตอนนี้เครื่องมือและคนพร้อม ไม่ต้องถอดรูต กางวงเวียน คำนวณเองแล้ว” บุรินทร์ ผู้เคยทำหน้าที่แปลข้อมูลก่อนออกประกาศบอกกับเรา

    บุรินทร์บอกว่า ได้วางแผนป้องกันระบบมีปัญหาไว้หลายประการ เช่น เพิ่มแบนด์วิธ หรือช่องทางสื่อสารข้อมูล มีระบบสำรองของเอกชน โดยใช้ของทีโอทีเป็นระบบหลัก ถ้าไฟดับก็มีทั้งเครื่องสำรองไฟ และระบบปั่นไฟ

    ถามว่า ระบบเราพร้อมและตอบได้ขนาดนี้ จะทำอย่างไร ชาวบ้านจึงจะเลิกหวั่นไหว ไม่เผ่นหนีตามกระแสข่าวลือ คำตอบของเจ้าหน้าที่ก็คือ ความเชื่อและการหลบภัยแบบนี้จะมีต่อไป ไม่มีใครห้ามได้ จนกว่าจะถึงวันที่ตระหนักว่า คำทำนาย หรือเสียงลือเล่าอ้างนั้นไม่น่าเชื่อถือ หรือไม่น่าสนใจ

    ในขณะที่สำนักฯ แผ่นดินไหวเชื่อได้มากกว่า

    แต่ต้องเกิดจริงจึงจะบอก.

    วีระพันธ์ โตมีบุญ
    VeeraphanT@Gmail.com









    --------------------------------------

    [​IMG]

    Daily News Online > ข่าวยามเช้า > สำนักแผ่นดินไหว...พร้อม!!<!-- Custom footers -->
     
  2. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่า "เตือนได้เร็ว" เพียงอย่าเดียว

    แต่อยู่ที่ว่าการอพยพและการป้องกันความเสียหาย อย่างมีประสิทธิภาพ "ทำได้เร็วด้วยหรือไม่" ต่างหาก
     
  3. มาพบพระ

    มาพบพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    643
    ค่าพลัง:
    +1,973
    เป็นปัญหาที่น่าขบคิดนะ เตือนสึนามิ เตือนแผ่นดินไหวควรเตือนล่วงหน้าสักครึ่งวันนะ ในกทม. ถ้าเตือน 10 นาที มีหวังออกมาตายกลางถนนแน่นอน ทุกคนจะนำรถออกมากันจนเต็มถนนติดเป็นแพ เพราะปัจจุบันยานพาหนะที่เร็วที่สุดของคนไทยส่วนใหญ่มีก็รถแหละครับ น่าคิด ๆ ๆ
     
  4. damilk

    damilk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +129
    ค้นพบ หนังสืออินตก-เทพทำนาย โดยย่อ


    [​IMG]

    หนังสือใบลานสี ได้ถูกตกมาในวัดแห่งหนึ่งในจังหวัด อัตตะบือ ( ประเทศลาว ) ข้าพเจ้าได้รับรู้จากพระอาจารย์ผู้ทรงศีลองค์หนึ่งเผยแผ่ให้เลยเถิดความศรัทธาเสียสละทรัพย์พิมพ์แจกจ่ายมายังพี่น้องชาวพุทธทั้งหลาย เพื่อเป็นกุศล และเพื่อพิจารณาณด้วยตนเองถึงเหตุการณ์มหันตภัยของโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ซึ่งจะบังเกิดขึ้นตามพุทธทำนายไว้ดังนี้<O:p<O:p


    โลชังชม โทโพโส อินโตกรุณา<O:p

    พระอินทร์ พรหม ยมราช ได้สั่งไว้ว่า ถ้าบุคคลใดได้รู้แล้วจงรีบบอกให้คนอื่นฟังหรือพิมพ์แจกตามกำลังศรัทธา จะเกิดมหากุศลช่วยให้ท่านได้หลุดพ้นจากมหันตภัยพิบัติทั้งปวง ถ้าบุคคลจะลงมาเกิดพร้อมหนังสือใบลานฉบับนี้ ถ้าใครไม่มีไว้ในบ้านเรือนจะมีภูตผีปีศาจเข้ามาทำลายย่างแน่แท้

    <O:pในปีจอถึงปีกุน เมื่อเดือนหงายจะมีงูพิษอยู่บนศีรษะฉกกัดให้ถึงตาย และผู้คนทั้งหลายจะเกิดความเดือดร้อนหลายประการ
    <O:p
    ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนศึกสงครามบ่แล้ว<O:p
    ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนน้ำและไฟ<O:p
    ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนอึดข้าวปลาอาหาร<O:p
    ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนผัว-บ่เห็นหน้ากัน<O:p
    ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนมีคนตายตามทุ่งนา<O:p
    ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนบ่มีผู้เฒ่า<O:p
    ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนไปต่างประเทศบ่สะดวก<O:p
    ทุกข์ยากฮ้อน ย้อนนอนบ่หลับ

    <O:p
    ในปีจอนี้ ในเมืองจันทร์จะมีฤาษีองค์ทองคำสิกขาลาเพศออกมาเป็นพ่อค้าในปีจอขึ้น 8 ค่ำ ห้ามบ่ให้ตักน้ำอาบ น้ำกิน ตามห้วยหนองคลองบึงหลังพระอาทิตย์ตกดิน (ก่อนค่ำ) พระยายมราชจะนำเอายาพิษพ่นใส่โลกมนุษย์

    <O:p
    ในปีจอ เมืองกรุงเทพ จะแตกพังทลายตอนเวลาไก่ขัน พระแก้วมรกต หัวเชียงเมี้ยงข้าวเม็ดใหญ่จะกลับสู่เวียงจันทร์ นี่คือ พระคาถาขององค์อินทร์ พรหม ยมราช ได้เขียนไว้ในใบลาน จงเก็บรักษาไว้ให้ดีเพื่อช่วยหลุดพ้นจากภัยพิบัติได้ในยามเกิดเหตุการณ์มหันตภัย พระคาถาเขียนไว้ว่า

    ปะโต เมตัง ประระชีมัง สุคะโต จุติ จิตตะ เมตตะ นินะมัง สุคะโต จุติ
    <O:p
    พระคาถาบทนี้เขียนลงใบลาน แผ่นทอง หรือ แผ่นผ้าก็ดี ติดไว้ที่ประตูบ้านหรือในรถหรือโพกศีรษะ ยามเกิดเหตุการณ์จะช่วยให้หลุดพ้นจากภัยอันตราย<O:p></O:p>

    <O:p
    ในกาลละเวลานี้ เทพเจ้าเหล่าเทวดาผู้รักษาคุ้มครองโลกได้กราบทูลต่อพระอินทร์ว่ามนุษย์โลกทำบุญเพียง 3 ส่วน และทำบาปกรรมถึง 7ส่วน เมื่อเป็นเช่นนี้องค์อินทร์จะสั่งลงโทษมนุษย์ผู้ใจบาป ถึง 9 ข้อ นับตั้งแต่ปีจอถึงปีกุน ดังนี้<O:p
    <O:p
    1. จะให้เกิดพายุลมแรง แผ่นดินไหว
    <O:p2. จะให้เกิดอัคคีภัย<O:p
    3. จะให้เกิดอุทกภัย<O:p
    4. จะเกิดฟ้าผ่า<O:p
    5. จะเกิดร้อนเกินไป หนาวเกินไป<O:p
    6. จะเกิดสารพิษต่างๆ<O:p
    7. จะเกิดกาฬโรคต่างๆ<O:p
    8. จะเกิดข้าวยากหมากแพง<O:p</O:p
    9. จะเกิดฆาตพยาบาทเบียดเบียนกันเอง<O:p

    <O:p
    มหันตภัย 9 อย่างนี้ จะหลุดพ้นได้โดยเฉพาะผู้มีบุญ คนที่ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น รู้แล้วจงบอกต่อกันไปให้รับทำความดีมากๆ ถ้าเลยปีจอ ปีกุน ไปแล้ว ทุกคนพร้อมทั้งลูกหลาน จะได้รับความสุขกายสบายใจทุกคน ให้ทุกคนเคร่งครัดในศีล 5<O:p></O:p>

    <O:p
    นอกจากหนังสืออินตก ที่ได้กล่าวมาแล้วยังมีพระผู้ทรงศีลอีกองค์หนึ่ง ได้พบเห็นคำสอนที่จารึกไว้ในแผ่นศิลาที่พึ่งพบในภูเขาแห่งหนึ่งที่พระพุทธเจ้าได้เดินธุดงค์วิปัสสนากรรมฐานผ่านไป พระผู้ทรงศีลกล่าวว่าพี่น้องทั้งหลายถ้าไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่ดวงจิต เพราะถึงเวลาแล้วที่สวรรค์จะไม่มีความลับ ถ้าท่านเชื่อก็เป็นกุศลรู้เพียงเท่านี้ข้าพเจ้าจึงขอบอกเล่าสู่ท่านฟังตามคำกล่าวของพระผู้ทรงศีลรูปนี้ว่า ในแผ่นศิลาได้เขียนไว้โดยพระมหากัสสะปะว่า ในปีระกา ปีจอ ปีกุล เดือน 7-8 จะเกิดเหตุการณ์ร้ายตามถนนหนทาง ในเดือน 9-10 คนใจบาปจะถูกล้างผลาญให้หมดไป มีบ้านแต่ไม่มีคนอยู่มีข้าวแต่ไม่มีคนกิน มีทางแต่ไม่มีคนเดิน
    <O:p
    <O:p
    สุดท้าย พระผู้ทรงศีลได้กล่างย้ำถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหนังสือินทร์ตกเพิ่มเติมว่า ถ้าท่านผู้เคารพบูชาหรือบนว่าจะบอกแก่ผู้อื่นหรือพิมพ์แจกจ่ายให้สาธุชนทั้งหลายได้รับรู้แล้วท่านปรารถนาสิ่งใดจะได้สมใจนึก จะปราศจากภัยพิบัติทั้งปวงตลอดไป ไม่เชื่ออย่าลบหลู่<O:p
    <O:p






    พระพุทธทำนาย<O:p



    [​IMG]<O:p

    ออกจากศิลาจารึกในมหาวิหานชรเจตมหาเชตะวัน ณ สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย โดยคณะทูตไทยที่ไปอันเชิญพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อปี พ.ศ.2485 ตามคำแปลเป็นภาษาไทย ว่าดังนี้<O:p

    <O:p
    สาธุ อะระหังตา สัมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระเมตตากรุณาสรรพสัตว์ทั่วโลก ที่เกิดมาแล้วแต่ลำบากทั่วหน้า ทุกชาติ ทุกศาสนาตามธรรมชาติ เมื่ออาตมาเข้านิพพานไปแล้วครบบห้าพันปีเป็นที่สุด โลกจะหมุนไปใกล้จะถึงจำนวนที่ตถาคตทำนายไว้สองพันห้าร้อยปี มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติเสียครั้งหนึ่งในระยะเวลา 30 ปี สิ่งที่สาธุชนไม่เคยเจอะจะได้เห็น ไม่เคยพบจะได้พบ ยักษ์หินที่ถูกสาปให้หลับกลับตื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งนัก ใกล้กับ พ.ศ. 2550 ยิ่งทวีกันใหญ่ขึ้นทุกทิว่าราตรี มนุษย์นอกพระศาสนาจะรบราฆ่าฟันกันจนถึงเลือดนองเต็มพื้นดิน พื้นน้ำ จะลุกลามเผามนุษย์ไม่ขาดระยะ ต่างฝ่ายต่าทำลายเหมือนยักษ์กระหายเลือด แผ่นดินจะเป็นเปลวไฟจะตายไปอย่างละครึ่งหนึ่งจึงจะเลิกล้ม ต่างฝ่ายต่างหมดกำลังด้วยกันตามวิสัยยักษ์ร้ายนอกศาสนาซึ่งถือกำเนิดจากป่าอำมหิต ส่วนพุทธศาสนิกชนผู้ทำแต่บุญเดินตามทางตถาคตสามารถระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านใดได้บูชาพระโพธิสัตว์ผ้ากาสาวพัตร์ ก็จะรับภัยพิบัติเบาบางแต่หนีภัยธรรมชาติไม่พ้น ไฟจะลุกลามมาทางทิศตะวันออก ไหว้วัดวาอารามสมณะชีพราหมณ์ จะอดอยากยากเข็น ลูกไฟจะตกจากฟ้า เหล็กกล้าจะผุดจากน้ำ สงครามจะเกิดทั่วทิศ พระยานาคจะพ่นพิษเป็นเพลิง ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวสารจะขาดแคลน ทุกแคว้นจะอดอยาก พลูหมากจะหมดเปลือง สีเหลืองจะชนะ พระยังอยู่คู่เมืองอีกต่อไป สีขาวจะแพ้ภัยในที่สุด ครุฑจะบินกลับฐาน คนจะกลับบำรุงพระพุทธเจ้าว่าดังนี้ ชา ตะ มะ สะ ละ วา พรุพุทธชินลิตนี้ท่านให้เขียนใส่กระดาษ หรือผ้าขาวติดไว้หน้าบ้าน หรือหัวนอน ดังนี้จะมีอายุยืนยาว จะทันผู้มีบุญชื่อ พระยาธรรมิกราชา เมื่อแรกสถิตอยู่เขตอยุธยา บัดนี้ท่านเสด็จอยู่ลานช้าง ( ภาคอีสานในปัจจุบัน ) พระยาธรรมิกราชา เข้ามาปีกุน เดือน 11 เป็นเที่ยงแท้หนักหนาท่านเสด็จมาในปีระกา แรม 5 ค่ำ มหากษัตริย์มาทางทิศตะวันตก สมณะชีพราหมณ์ตามมาพอประมาณได้ 76,400 รูป ทั่วอาณาจักรสมเด็จพระบรมนักปราชญ์ได้ประกาศคาถาว่า ดังนี้ นะสัจจัง ทะ คะยังมะสำคำปัง คอยดูในปีมะโรง คนจะเดินโก่งโค คลาน ผู้ใดอยากพบผู้มีบุญชื่อพระยาธรรมิกราชให้ภาวนา ให้หมั่นรักษาศีล สดับรับฟังพระธรรมเทศนา คอยดูปีมะเส็งตลิ่งจะพัง มหาสมุทรจะชอกช้ำ อย่าเที่ยวไปกลางแจ้ง ท่านเข้ามาปีกุน เดือน 8 เป็นเที่ยงแท้ ผู้ใดไม่เชื่อจะรับอันตราย คอยดูในปีจอ คนจะพ้น ภัย สะโรนะกา โททายะโม พุทธะตะยะ ภาวนาทุกเช้าค่ำ ผู้นั้นจะมีอายุยืนนานจะได้เห็นพระธรรมมิกราช (พระโพธิสัตว์ศรีอริยเมตไนย) ในปีกุน ท่านจะเข้ามาอีก ถ้าไม่เห็นหนังสือบ้านใดผู้นั้นจะได้รับอันตรายรู้แล้วให้บอกต่อกันด้วย<O:p

    <O:p
    คำเตือน โลกมนุษย์กำลังจะเข้าสู่กาลียุค จะทำให้เกิดภับธรรมชาติจาก ดิน น้ำ ไฟ ลม จะเกิดมหาสงครามโลกครั้งที่ 3 ตามมา มนุษย์จะตายไปกว่าครึ่ง<O:p

    <O:p
    สำหรับประเทศไทย จะเริ่มเกิดตั้งแต่ปี 2550 คาดว่าจะได้รับภัยทางน้ำแล้วไฟโดยเฉพาะจังหวัดที่ติดชายทะเลและกรุงเทพฯ แผ่นดินจะยุบตัว คลื่นน้ำจะพัดเข้าถล่มความสูง 200 เมตร มนุษย์จะล้มตายมากกว่าครึ่ง น้ำจะเข้าช่องแคบสระบุรี และด้านตอนล่างของโคราชบางส่วน ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆสุดท้ายประเทศไทยจะเหลือประชากร


    ส่วนประเทศอื่นทั่วโลกจะเหลือดเพียงสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น บุคคลที่รอดชีวิตส่วนมากก็สูญเสียสติสัมปชัญญะไม่ปลอดภัยเหมือนเมืองที่นับถือพระพุทธศาสนาเพราะไม่เข้าใจบำเพ็ญฌานภาวนา ฉะนั้นอย่าหลงใหลในทรัพย์สินของตนเองให้มากนักเพราะเมื่อเข้ายุดศิวิไล เงิน ทอง จะไม่มีค่าเลยเพราะมนุษย์ยุคนั้นวัดกันที่ความดี ศีลธรรมบุญกุศลเท่านั้น
     
  5. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ที่แน่ ๆ อย่าตื่นตระหนกจนเกินเหตุ แต่ระวังไว้บ้างสักเล็กน้อยก็พอเพียงแล้วค่ะ
     
  6. kiatti1234

    kiatti1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,839
    ค่าพลัง:
    +811
    ถ้าแจ้งได้ก่อน 10 นาที ได้จริงจาดีมากถ้าไหวตัวทันดีกว่ามะรู้อะไรเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...