ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,066
    ค่าพลัง:
    +7,067
    ที่ก้อยเคยอ่านในเว็บอื่นน่ะค่ะ เค้าบอกว่ามีพระรูปหนึ่งซึ่งเป็นรูปเดียวกับที่ทำนายสึนามิในภาคใต้ท่านบอกว่า จะเกิดอุบัติภัยในทุกภาคของประเทศเลยในเดือนมีนาคม แล้วก้อยว่าผู้ที่มีญาณพิเศษในเว็บนี้ก็คงทำนายได้เหมือนๆกันใช่ไหมคะ แล้วอย่างนี้ผู้ที่จะตายในเหตุการณ์นั้นเค้าเป็นคนชั่วด้วยหรือเปล่า เหมือนแบบเบื้องบนกวาดล้างคนเลวอะไรทำนองนั้น แล้วเราจะเตรียมรับมือได้ยังไงคะ ผู้มีถือศีล มีความดี จะตายในอุบัติภัยครั้งนั้นหรือไม่ ท่านผู้รู้ช่วยตอบคำถามให้กระจ่างด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 กรกฎาคม 2017
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เตรียมตัวรับมือกับภัยทางธรรมชาติครั้งใหญ่

    รวบรวมข้อมูลเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติเหตุการณ์ต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นกำลังใกล้เข้ามาเป็นลำดับครับ ผมจะขอขึ้นกระทู้ใหม่เรื่องการเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติในทุกรูปแบบที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยอยากจะให้พวกเราช่วยกันแปะข้อมูลจากกระทู้ต่างๆ ที่กระจัดกระจายมารวบรวมไว้ที่เดียวครับ เพื่อง่ายในการสืบค้น จากนั้นท่านที่อยากเก็บไว้เป็นข้อมูลในการช่วยตัวเองและคนอื่นๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็จงพิมพ์ลงในกระดาษเพื่อเผยแพร่ครับ

    <!-- / message --><TABLE class=tborder id=post329976 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_329976 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">ภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    1. เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่
    2. พายุถล่ม
    3. แผ่นดินแยก และแผ่นดินไหว
    4. ภูเขาไฟระเบิด
    (จังหวัดทางภาคกลาง 2 ลูก, ภาคเหนือตอนล่าง 3 ลูก, อีกทั้งที่จังหวัดราชบุรี / น่าน / แพร่ / อ.ร้องกวาง )
    5. คลื่นยักษ์จากทะเล
    6. โรคระบาดที่สุดจะเยียวยา ได้แก่ VIRUSTERIA , อหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ ผู้ได้รับเชื้อจะเสียชีวิตทันที ภายใน 6 วัน
    7. คลื่นเสียงที่รุนแรง ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตจะไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนั้นมาก่อน
    8. อดอยากขาดแคลนอาหาร

    การเตรียมตัว เตรียมปัจจัยเพื่อตนเองและสมาชิกในครอบครัว

    1. เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ที่บ้านอย่างน้อย 3 - 6 เดือน
    2. เครื่องนุ่งห่มเพื่อความอบอุ่นของร่างกาย
    ได้แก่เสื้อผ้า กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าห่ม ฯลฯ เพราะในช่วงเวลานั้นอากาศจะหนาวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ
    3. เครื่องใช้ที่จำเป็น
    4. ที่อยู่อาศัย
    5. ยารักษาโรค
    6. ด่างทับทิมและคาราไมล์ (จำเป็นมาก)
    ห้ามกินอาหารที่ไม่ได้ล้างด้วยด่างทับทิม เพราะจะมีทั้งเชื้อโรคและสารกัมมันตรังสี
    ส่วนคาราไมล์ จะมีไว้รักษาโรคทางผิวหนังที่ดูเหมือนจะยากต่อการรักษา แต่เมื่อทาคาราไมล์แล้ว จะหายได้อย่างน่าอัศจรรย์
    7. ยานพาหนะ เช่น เรือ เสื้อชูชีพ
    8. เครื่องช่วยชีวิต
    9. แสงสว่าง เช่นเทียน ตะเกียงพายุ (เวลานั้น ท้องฟ้าจะมืดมิด 7 วัน เท่ากับ 1 ราตรี และจะมืดมิดรวม 7 ราตรี หรือ 49 วัน ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก)
    10. เตรียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

    การดูแลตัวเองในช่วงเวลาวิกฤติ

    1. ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้านก็ห้ามเปิด ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นญาติสนิท หรือคนที่เรารู้จักก็ตาม
    2. ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรค สารเคมีที่มนุษย์สร้าง
    3. ห้ามลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องใช้ด่างทับทิมล้างทุกครั้ง
    4. ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น เพราะช่วงเวลานั้น ประตูมิติของโลกทั้ง 3 ภพจะถูกเปิดเป็นครั้งแรก ผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องผีสาง จิตวิญญาณก็จะได้เห็น คนที่มาเยือน อาจเป็นผีเปรต ผีโขมด ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราจำแลงมาก็เป็นได้ และห้ามอยากรู้อยากเห็นโดยเด็ดขาด
    5. ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด
    6. ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม
    7. ฝึกการกินน้อย ถ่ายน้อย
    8. ระวังอากาศที่หนาวเย็น
    9. ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ เช่น งูพิษ จระเข้
    10. ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน 3 ชั้น เพราะตึกสูงเกิน 3 ชั้น จะพังทลายราบเป็นหน้ากลอง

    การเตรียมทางจิตวิญญาณ

    1. ชำระกรรมให้เบาบาง ทำได้โดย
    1.1 หยุดโลภ โกรธ หลง
    1.2 ทำจิตให้สงบ เบิกบาน เพราะวันนั้นจะมีผู้ที่เส้นโลหิตในสมองแตก เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เพราะเสียงที่ดังกึกก้องไปกระตุ้นเส้นเลือดในสมองให้แตก ดังนั้นต้องปล่อยวาง ทำจิตให้เป็นบวก จะช่วยได้มาก
    2. มีสำนึกทางจิตวิญญาณ
    3. ฝึกการละวาง
    4. มีสติรู้ตัวตลอดเวลา
    5. ฝึกการทำโมฆกรรม ขออภัยต่อเจ้ากรรมนายเวร หรือผู้ที่เราล่วงละเมิด

    การดูแลแก่นแท้ยามมีภัย

    1. ได้ยินเสียงใด ให้ละวางเสียงนั้น / รู้เห็นสิ่งใด ให้ละวางสิ่งนั้น
    ต้องไม่รับรู้ ไม่รับเห็น ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่ว่าจะได้ยินเสียงคนข้างบ้านร้องเพราะกำลังจะตาย หรือได้ยินเสียงใดที่น่าหวาดกลัว ต้องได้ยินแล้วผ่านเลยไป
    ถ้าหากละวางไม่ได้ จะเกิดอาการ “ตายก่อนตาย” (รู้ว่าตนเองจะต้องตายแน่ๆ หรือการตายทั้งเป็น)
    2. ยอมรับให้ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องมีสติตลอดเวลา
    3. อย่าอยู่นิ่งเฉย เพราะจะทำให้เกิดความกลัวมากขึ้น ควรหากิจกรรมทำ เช่น อ่านหนังสือธรรมะ เพื่อให้จิตเป็นบวก เกิดความอิ่มเอิบ
    4. สังเกตธรรมชาติก่อนนาทีวิกฤติจะเกิดขึ้น

    ก่อนเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ (ระยะ 2 ) จะมีลางบอกเหตุดังนี้

    1. ท้องฟ้ามืดมิดผิดปกติ
    2. ใบไม้จะพลิกคว่ำพลิกหงายแลดูหดหู่
    3. สัตว์ทั้งหลายจะไม่ออกมาปรากฏกายให้เห็น แต่ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านจะแลเห็นมันวิ่งลุกลี้ลุกลนผิดปกติ หรือบางตัวจะนอนนิ่งมีน้ำตาซึม
    <!-- / message --><!-- sig -->

    ( คัดลอกมาจาก หนังสือพระโอวาทแห่งองค์จิตจักรวาล ครั้งที่ 17 เรื่องพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ สื่อการถ่ายทอดพระโอวาทโดย อ.ปริญญา ตันสกุล MBA.,M.S. PARINYA TANSAKUL )
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2009
  3. kiatkiat

    kiatkiat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +826
    รบกวนสอบถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี่อีก กี่ปีครับ

    พอจะบอกคร่าวๆได้มั้ยครับ หรือว่าเป็นปีนี้เลย

    และหลังจากเกิดแล้วจะเป้นเช่นไรต่อครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 กรกฎาคม 2010
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เรื่องเวลาที่แน่นอนนั้นขอเรียนตามตรงว่าไม่ทราบครับ เพราะจริงๆ แล้วน่าจะเกิดตั้งแต่ ค.ศ.1999 ตามที่นอสตราดามุสทำนายเอาไว้ แต่เมื่อดูจากเหตุการณ์ในปัจจุบันแล้วเกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงอย่างไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนในชีวิตนี้ และจากคำบอกเล่าของครูบาอาจารย์ต่างๆ คิดว่าน่าจะเกิดภายใน 1-3 ปีนี้ครับ

    เรื่องของเวปไซต์ที่เข้าไปดูไม่ได้นั้น ผมต้องขอโทษด้วยเพราะผมเชฟเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์เมื่อ 2 ปีมาแล้วปัจจุบันเวปไซต์นี้ได้ถูกปิดไปแล้ว(สงสัยจะขัดกับความมั่นคงของชาติ)แต่คุณ Kiatkiat สามารถหาอ่านได้ตามร้านขายหนังสือทั่วไป เรื่อง วันเวลาที่ 11-11 รหัสหายนะโลก ของคุณปริญญา ตันสกุล ได้อธิบายเรื่องที่ผมได้โพสต์เอาไว้อย่างละเอียดครับ
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คัดลอกมาจากhttp://www.konmeungbua.com/webboard/

    เป็นกรรมของสัตว์โลกน่ะ ครูบาอาจารย์ท่านเคยบอกว่าระบบจะเริ่มล้างมนุษย์ ปลายปี 47 (ทีแรกคิดว่าไม่มีอะไรเกิดแล้ว จิตเกือบจะเผลอ ปรามาทครูบาอาจารย์เข้าแล้วเชียว) แล้วจะมีเหตุอื่นมาล้างเรื่อยๆ ด้วยระบบภัยพิบัติทาง ดิน น้ำ ลม ไฟ โรคระบาดและ อุบัติภัยสงคราม และจะหนักขึ้นเรื่อยๆ จนพระจักรพรรดิ์ลงมา ภัยพิบัติจึงจะสงบ

    ต่อไปที่จะวิบัติหนักๆ ก็คือ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อเมริกา ฯลฯ เราเคยถามครูบาอาจารย์ว่าไม่มีใครเปลี่ยนได้เลยหรือ ท่านบอกว่า "ไม่ได้" ท่านว่า "ปู่ยี เว้า ก็ปานพระเจ้า เว้า นั่นแหละ ในโลกนี้ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้" เพราะกรรมของมนุษย์เป็นแบบนั้น

    สำหรับเมืองไทย ต่อไปกรุงเทพฯก็มิใช่ว่าจะปลอดภัย เพราะฝ่ายรักษาภายในของ กทม. เขาเริ่มถอนระบบออกไปมากแล้ว และต่อไปภาคใต้แทบจะไม่เหลือ จะเป็นเกาะเป็นแก่งทั้งหมด ครูบาอาจารย์ท่านว่า ท่านจะเอาแค่เพชรบุรีขึ้นมา

    เราเข้าใจว่าภัยพิบัติในภาคใต้เป็นสัญญาณของยุคจักรพรรดิ์ที่กำลังจะเริ่มต้น ที่จริงมีสัญญาณอย่างอื่นด้วย แต่เป็นเรื่องของเฉพาะบุคคล เช่นเรื่อง ธาตุแก้วเจ็ดประการ ที่เริ่มมาปรากฎเข้ามาสู่ระบบแล้ว และมีสิ่งของอื่นๆอีกหลายอย่าง ที่กระจัดกระจายกันอยู่ในหลายประเทศ เป็นต้น
    ผู้ที่ไม่มีหน้าที่และเข้าไม่ถึงระบบธาตุเหล่านี้ก็จะไม่สามารถเข้าใจได้ ถ้าใครมีจิตที่เอ็กเรย์ธาตุได้ ก็จะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร อย่างแก้วมังกร และแก้ววิเศษของเทวดา ก็อาจจะเป็นของไร้ค่าในโลกมนุษย์ เพราะความไม่รู้

    ครูบาอาจารย์เคยเล่าว่า แค่นาคโก่งหลังขึ้นมา มนุษย์ก็ตายเป็นเบือแล้ว ต่อไปบางที่ก็จะหายไปทั้งเกาะ นี่ยังไม่นับภัยพิบัติจากท้าวกกนาก แถวลพบุรี ที่ในไม่ช้า(ช่วงท้ายๆของภัยพิบัติ)จะลุกขึ้นมา(ภายใน)เพื่อไปรอรับพระจักรพรรดิ์ ขณะที่ทหารลิง 18 กองพลที่เคยเฝ้ายักษ์ตนนี้อยู่ เขาก็ถอนกำลังไปอยู่ที่อื่นแล้วเมื่อตอนออกพรรษาที่ผ่านมา ครูบาอาจารย์ท่านว่ายักษ์กกนากตนนี้มีพิษมาก แค่พลิกตัวได้ พิษของยักษ์จะทำให้เกิดโรคระบาด้ายแรง มนุษย์จะตายไปครึ่งโลก แต่คนที่มีศีลธรรมก็ไม่เป็นไร

    เราค่อนข้างมั่นใจว่า ภายในปี 2560 ประเทศไทยจะได้เป็นมหาอำนาจ และไทยกับลาวจะรวมกันเป็นหนึ่ง(ประเทศเดียวกัน) ท่านไหนที่ขยันหมั่นเพียร รักษาศีล ภาวนา ก็จะได้มีโอกาสอยู่ในยุคใหม่ต่อไป ส่วนท่านที่ยังไม่มีศีลธรรมพอ ก็คงจะต้องไปตามวิถีกรรมของตนเอง

    ขออย่ามากังวลกับสิ่งที่เราเล่า หากท่านเดินตามทางบุญ ทางกุศล ที่ครูบาอาจารย์ของตนเองสอนได้แล้ว ก็คงจะเอาตัวรอดได้ ครับ และไม่มีใครเตือนใครได้ดีเท่ากับ การเตือนตนด้วยตนเอง ครับ
    ศาสนาอื่นนั้นไม่เหลือหรอครับ เมื่อถึงเวลาแล้วจะหนีตายกันมาพึ่งศาสนาพุทธกันหมดครับ เท่าที่ทราบต่อไปมหาอำนาจ อย่างเช่น อเมริกา อังกฤษ ฯลฯ จะต้องมาพึ่งพาไทย ศูนย์กลางโลกศูนย์กลางศาสนาอยู่ในเขตประเทศไทยนี่แหละ ซึ่งต่อไปที่แห่งหนึ่งในประเทศไทย จะเป็นใจกลางโลก ใจกลางศาสนาในยุคจักรพรรดิ์ ทั้งโลกจะถูกปกครองโดยสามร่มโพธิ์ศรี อัญญาสิทธิ์และอัญญาธรรม พระจักรพรรดิ์จะเป็นพระมหากษัตริย์ของโลก อย่างที่พวกยิวเขาคิดจะครองโลกกันนั้น ไปไม่ถึงดวงดาวหรอกครับเพราะวิทยาศาสตร์ถึงทางตันแล้ว

    เหตุที่เกิดในภาคใต้ซึ่งเป็นเขตพุทธศาสนายังรุนแรงขนาดนี้ ต่อไปเหตุที่เกิดในเขตศาสนาอื่นๆนั้น จะรุนแรงกว่านี้มากครับและความหายนะที่จะเกิดขึ้นนั้นก็จะมากด้วย

    ถ้าหากศึกษาถึงเชื้อของจิตวิญญาณเดิมของการมาเกิดก็จะเข้าใจว่าอย่างอิสลามและคริสต์นั้น เชื้อจิตวิญญาณเดิมหรือต้นธาตุของจิตวิญญาณ ของพวกนี้เป็นพวกยักษ์ ตระกูลต่างๆ ดังนั้นที่ครูบาอาจารย์ท่านว่าพวกยักษ์นอกศาสนาเขาตีกันนั้น ก็พวกยักษ์เหล่านี้แหละที่มีปัญหา และพวกยักษ์เหล่านี้เขาก็มาเกิดกันมากในยุคนี้ ส่วนใหญ่ในเขตไทยและใกล้เคียงจะเป็นเชื้อนาค เชื้อเทวดา เชื้อครุฑ คนในเขตประเทศไทย ส่วนใหญ่ก็วนเวียนอยู่กับการเกิดเป็นเชื้อต่างๆเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับชาติที่ทำบารมีมาเด่นๆ ว่าเคยทำบารมีมาในภพภูมิไหนมามาก ก็จะมีความเกี่ยวพันกันกับภพภูมิเหล่านั้นและเมื่อถึงเวลาก็จะเป็นการทำบารมีร่วมกันระหว่างภพภูมิ

    และบางครั้งการทำงานจากภายใน ก็จะส่งผลออกมาสู่ภายนอก แต่คนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นภายใน ที่เห็นก็คือผลที่แสดงออกมาภายนอก และพยายามอธิบายกันด้วยเหตุและผลทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นการรู้นอกแต่ไม่รู้ใน คล้ายๆกับวิทยาศาสตร์พยายามอธิบายเหตุผลภายนอก แต่ไม่เข้าใจถึงเรื่องกฏแห่งกรรมซึ่งเป็นเหตุภายใน เป็นต้น นี่คือรู้ไม่แจ้งในเรื่องนั้นๆ ก็เลยเกิดความ "ประมาท" กันต่อไป ครับ

    ต่อไปจะมีพระจักรพรรดิ์เป็นผู้ปกครองโลก พระยาธรรมมิกราชจะเป็นคล้ายพระสังฆราช และจะมีพระโพธิสัตว์อีกองค์หนึ่ง จะทำหน้าที่คล้ายนายกรัฐมนตรี ซึ่งสามร่มโพธิ์ศรีก็คือ สามโพธิสัตว์ที่ลงมาทำหน้าที่ดูแลพระพุทธศาสนา นั่นเอง เอาเป็นว่า มีผู้ที่เขาลงมาทำหน้าที่นี้กันครับ และก็มีเหล่าอัญญาสิทธิ์ อัญญาธรรม ที่ตามลงมาทำหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง บางคนก็รู้ตัวเองแล้ว บางคนก็อาจจะยังไม่รู้ตัวเองครับ ถึงเวลาแล้วก็คงจะได้เห็นว่าของจริงนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งบางท่านบางคน บางท่าน จะมีชื่อเสียงในหมู่ของเทพ เทวดา นาค ครุฑ กุมภัณฑ์ ฤษี มุนี ดาบส ฯลฯ และพวกเขาเหล่านั้นก็รอยุคพระยาธรรมมิกราชนี่แหละ แต่พวกมนุษย์ไม่รู้จักเพราะท่านเหล่านี้จะอยู่อย่างเงียบๆและลี้ลับ เป็นต้น ครูบาอาจารย์ท่านเคยเปรยๆให้ฟังว่า สำหรับผู้ทำบารมีเข้มข้นแล้วนั้น "ดังบ่ดี ดีบ่ดัง" ครับ

    จากที่ครูบาอาจารย์ท่านเล่าสู่กันฟัง สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันไกล้นี้ ไม่มีใครที่จะสามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะกรรมเป็นตัวกำหนดและยุคพระยาธรรมฯ ก็เป็นพุทธประเพณี เป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในกึ่งกลางพระพุทธศาสนา ในยุคของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ อย่างในยุคพระเวสสันดร(ซึ่งเป็นช่วงประมาณกึ่งกลางศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง) หลังจากพระเวสสันดรได้พรแปดประการจากพระอินทร์แล้ว หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดยุคพระยาธรรมฯหรือยุคพระจักรพรรดิ์ขึ้น ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าลูกชายพระเวสสันดรจะเป็นพระจักรพรรดิ์ในสมัยนั้น

    และในยุคร่วมสมัยในปัจจุบันนี้ มีบุคคลผู้หนึ่ง ทำทานบารมีจนได้พรแปดประการจากพระอินทร์แล้วเช่นกัน ดังนั้นผมก็พอจะอนุมานได้ว่า ยุคพระยาธรรมฯ นั้นเข้ามาใกล้ถึงปลายจมูกแล้วครับ ใครที่คิดจะทำบุญกุศลอะไร ก็ให้รีบเร่งทำกันได้เลยครับ หากเมื่อใดผู้ที่ได้พรพระอินทร์เขาทำอธิษฐานบารมีเพื่อดูแลพระศาสนา(ซึ่งเป็นประเพณีส่วนหนึ่งของการปรารถนาพุทธภูมิ) ระบบที่ทำหน้าที่ภายในเขาก็จะทำงาน ตามลำดับ เมื่อถึงตอนนั้นจะเห็นคุณค่าของศีลธรรม ของศีลห้า ศีลแปด ของบุญบารมีที่แต่ละท่าน บำเพ็ญเพียร สั่งสมมา ครับ

    ให้ลองนึกถึงเหตุการณ์คลื่นยักษ์ในภาคใต้ดูว่า คลื่นยักษ์ขนาดไหนที่จะทำให้ด้ามขวานไทยเหลือเป็นเกาะเป็นแก่ง และคลื่นยักษ์ขนาดไหนที่จะสามารถทำให้เกาะขนาดประเทศไต้หวัน หายวับไปได้ในพริบตา เมื่อไหร่ก็ตามที่นาคใหญ่เขาทำงาน จะสั่นสะเทือนไปทั้งโลก หากจะเทียบเหตุการณ์ในภาคใต้ที่ผ่านมา เป็นได้แค่ระดับนาคใหญ่เขาโก่งหลัง หรือสะดุ้งเพียงเล็กน้อย ลองจินตนาการดูว่าหากพวกนาคบางพวกเขามีหน้าที่ทำฤทธิ์เพื่อล้างผู้ที่มีศีลธรรมไม่เพียงพอสำหรับการอยู่ในยุคพระยาธรรม บนโลกนี้ก็จะเหลือคนไม่มาก อย่างที่พระสูตรบอกไว้ครับ

    จากคุณ คนไกล เมื่อวันที่ 30/12/2547 8:42:27
     
  6. Lucasian

    Lucasian Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +62
    น่าจะเกิดขึ้นเพียงบางส่วน

    เท่าที่อ่านมา น่าจะเกิดแค่บางส่วน

    ถ้าเป็นแบบนั้นทั้งหมด โลกเรา ก้อแทบไม่เหลืออะไรเลย จะกลายเป็นวันล้างโลกจะมากกว่า และประชากรโลกคงเหลือไม่ถึง 0.1 % แน่ครับ (แง่ดีแล้วนะ)

    บางตอนอ่านแล้วเกิดคำถามพอสมควร เช่น

    >>>>>>

    "ต่อไปที่จะวิบัติหนักๆ ก็คือ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อเมริกา ฯลฯ เราเคยถามครูบาอาจารย์ว่าไม่มีใครเปลี่ยนได้เลยหรือ ท่านบอกว่า "ไม่ได้" ท่านว่า "ปู่ยี เว้า ก็ปานพระเจ้า เว้า นั่นแหละ ในโลกนี้ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้" เพราะกรรมของมนุษย์เป็นแบบนั้น"

    " ปู่ยี เว้า " หมายถึงใคร หรืออะไรล่ะครับ?

    >>>>>>

    แล้วตอน
    "เราค่อนข้างมั่นใจว่า ภายในปี 2560 ประเทศไทยจะได้เป็นมหาอำนาจ และไทยกับลาวจะรวมกันเป็นหนึ่ง(ประเทศเดียวกัน) ท่านไหนที่ขยันหมั่นเพียร รักษาศีล ภาวนา ก็จะได้มีโอกาสอยู่ในยุคใหม่ต่อไป ส่วนท่านที่ยังไม่มีศีลธรรมพอ ก็คงจะต้องไปตามวิถีกรรมของตนเอง"

    ผมก้อคิดว่า ไทย กับ ลาว ไม่น่าจะรวมกันได้ ไม่น่าจะมีเหตุผลที่ต้องรวมกัน และผู้ใหญ่หลายท่านในประเทศลาว เอง ก้อน่าจะไม่ชอบคนไทยเท่าไร แต่ไม่ถึงกับขั้นเกลียดชังอะไรนัก คนไทยชอบไปดูถูกเค้า และเคยได้ยินจาก อาจารย์ในสถาบันวิจัยภาษา และวัฒนธรรมอะไรประมาณนี้ ในประเทศไทย บอกว่า มีคนลาวหลายคน (กลุ่ม) ที่ไม่ค่อยชอยคนไทย ซักเท่าไร

    >>>>>>

    "ถ้าหากศึกษาถึงเชื้อของจิตวิญญาณเดิมของการมาเกิดก็จะเข้าใจว่าอย่างอิสลามและคริสต์นั้น เชื้อจิตวิญญาณเดิมหรือต้นธาตุของจิตวิญญาณ ของพวกนี้เป็นพวกยักษ์ ตระกูลต่างๆ ดังนั้นที่ครูบาอาจารย์ท่านว่าพวกยักษ์นอกศาสนาเขาตีกันนั้น ก็พวกยักษ์เหล่านี้แหละที่มีปัญหา และพวกยักษ์เหล่านี้เขาก็มาเกิดกันมากในยุคนี้ ส่วนใหญ่ในเขตไทยและใกล้เคียงจะเป็นเชื้อนาค เชื้อเทวดา เชื้อครุฑ คนในเขตประเทศไทย ส่วนใหญ่ก็วนเวียนอยู่กับการเกิดเป็นเชื้อต่างๆเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับชาติที่ทำบารมีมาเด่นๆ ว่าเคยทำบารมีมาในภพภูมิไหนมามาก ก็จะมีความเกี่ยวพันกันกับภพภูมิเหล่านั้นและเมื่อถึงเวลาก็จะเป็นการทำบารมีร่วมกันระหว่างภพภูมิ"

    ในตอนนี้ เชื้อยักษ์ เชื้อนาค เชื้อเทวดา เชื้อครุฑ มีในพระไตรปิฎก หรือพระธรรมเล่มไหนมีอธิบายไว้ ผมไม่เคยรู้เลย อย่างไรช่วยให้ความรู้เพิ่มด้วย

    อีกอย่างในตอนนี้ควร censor ซักหน่อยในชื่อศาสนา ประมาณว่ามีเพื่อนต่าง ศาสนาอยู่ และไม่เคยคิดว่าพวกเค้าเหล่านั้นเป็นพวกยักษ์ (คำว่า ยักษ์ ในพระพุทธศาสนา นั้นรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร โมหะ+โทสะ )

    >>>>>>

    สุดท้ายขอถามอีกนิด
    คำนายนี้เป็นของพระพุทธองค์ หรืออัครสาวกที่ล่วงลับ หรืออริยบุคคลในปัจจุบันนี้เอง

    ผมคิดว่าพระพุทธองค์ พระองค์ท่านไม่น่าจะทำนายอนาคตอะไรออกมาในรูปแบบนี้
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
  8. คุณรู้ไหมว่า

    คุณรู้ไหมว่า บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ที่ว่าภูเขาไฟระเบิดนะมีครับ

    ที่ว่าภูเขาไฟระเบิดนะมีครับ คุณรู้ไหมว่า มีแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง เคยเป็นแนวภูเขาไปมาก่อน เป็นแนวที่มีพลังมากเสียด้วย ก็น้ำตหแจ้ซ้อน ในอำเภอเมืองปานยังไงล่ะ อยุ่จังหวัดลำปางครับ แต่ตอนนี้มันยังไม่มีแววว่าจะปะทุเท่านั้นเอง และไม่รุ้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นอีก เพราะมันอยุ่ใกล้กับบ้านแฟนผมมาก แค่ 5 กิโลเท่านั้นเอง
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เรียน เวปมาสเตอร์ที่นับถือ

    หากเห็นว่าข้อความต่อไปนี้ไม่เหมาะสม กรุณาลบทิ้งไปโดยทันที และหากท่านใดมาอ่านพบข้อความเหล่านี้ กรุณาใช้วิจารณญาณในการรับรู้ให้ดี อย่าเพิ่งเชื่อถือกับข้อความเหล่านี้ และอย่าตื่นตระหนกไปกับข้อความเหล่านี้ เพียงรับรู้ไว้เป็นข้อมูลอันหนึ่งเท่านั้น

    แผ่นดินไทยที่สาบสูญ

    บริเวณที่หายถาวรทั้งแผ่นดิน

    นราธิวาส สตูล พังงา ภูเก็ต หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์
    หมู่เกาะ ตะรูเตา หมู่เกาะทะเลตรัง ตราด เกาะช้าง
    หมู่เกาะทะเลตราด เกาะสมุย เกาะพงัน อ่างทอง ชะอำ

    บริเวณที่เหลือเพียงบางส่วน แต่จะกลายเป็นเกาะเล็กๆ

    เกาะยะลา เกาะปัตตานี เกาะพัทลุง เกาะสิชล-ขนอม
    เกาะหัวหิน เกาะหาดทรายรี-ชุมพร

    บริเวณที่หายเป็นส่วนใหญ่ จะเหลือเพียงบางส่วน

    ยะลา หาดใหญ่ พัทลุง ตรัง สุราษฎร์ธานี
    นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์
    เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา
    ชลบุรี ระยอง จันทบุรี สมุทรปราการ อุบลราชธานี
    แผ่นดินริมแม่น้ำโขงตลอดแนว กาญจนบุรี ฯลฯ

    ประเทศไทยจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน

    ได้แก่พื้นที่ในส่วนภาคกลาง อันเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ
    และบริเวณในส่วนของภาคใต้ที่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 เกาะใหญ่ๆ
    ได้แก่

    1. บริเวณตั้งแต่ชุมพรฝั่งตะวันตก ท่าแซะ ระนอง
    สุราษฎร์ธานีฝั่งตะวันตก บริเวณด้านบนของอำเภอพนม
    อ.เทียนชา อ.บ้านนาเดิม นครศรีธรรมราชตอนบน ขนอม

    2. บริเวณตั้งแต่จังหวัดกระบี่ นครศรีธรรมราช
    ที่ต่อแดนกับจังหวัดกระบี่ด้านบน ฉวาง ร่อนพิบุลย์ ชะอวด
    จังหวัดตรังด้านตะวันออก จังหวัดพัทลุงด้านตะวันตก หาดใหญ่
    จังหวัดยะลา ด้านตะวันตก

    นอกจากนี้ยังมีเกาะเล็ก เกาะน้อยที่เกิดขึ้นมาใหม่อีกหลายเกาะ
    ได้แก่เกาะสัต***บ เกาะยะลา เกาะปัตตานี
    เกาะพัทลุง เกาะสิชล-ขนอม เกาะหัวหิน เกาะหาดทรายรี-ชุมพร

    บริเวณที่จะกลายเป็นพื้นที่ติดกับทะเล

    ดินแดนที่จะ มีอาณาเขตติดกับทะเล ได้แก่
    สงขลาทางด้านตะวันตก ยะลาทางด้านตะวันออก
    หาดใหญ่ กระบี่ตอนบน ด้านที่ติดกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี
    และด้านที่ติดกับจังหวัดพังงา
    ตอนกลางของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
    ตั้งแต่ อ.พนม อ.เคียงซา จรดเขตจังหวัดกระบี่
    ชุมพรด้านใน ท่าแซะ
    ตอนล่างของเมืองประจวบคีรีขันธ์
    และถนนเพชรเกษมฝั่งตะวันออกตลอดแนว
    ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
    ถนนชลบุรี-ปากท่อ ช่วงสมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
    ตัวเมืองแปดริ้ว บ้านค่ายปลวกแดง จ.ระยอง ตัวเมืองจันทรบุรี
    และตลาดท่าใหม่วังน้ำเย็น จรด จ.สระแก้ว
    เหนือเขื่อนเขาแหลมด้านตะวันตก
    กาญจนบุรี ศรีสะเกษ อุบลราชธานี มุกดาหาร สกลนคร
    นครพนม เลย หนองคาย อำนาจเจริญ
    บ้านร่มเกล้า จังหวัดพิษณุโลก
    อุตรดิตถ์ ด้านที่ติดกับประเทศลาว น่าน ด้านตะวันออกตอนล่าง
    บ้านสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
    ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะกลายเป็นดินแดนชายฝั่งทะเล !

    ประเทศไทยเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์
    ที่จะได้รับการปกป้อง คุ้มครองรักษาไว้
    ซึ่งจะได้รับความบอบช้ำจากมหันตภัยธรรมชาติน้อยที่สุดในโลก
    และจะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำซึ่งมีความเจริญเป็นศูนย์กลางของโลกต่อไป

    ******************************************

    เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในต่างประเทศ

    เกาะฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา
    ถูกคลื่นยักษ์ที่มาพร้อมกับพายุไซโคลนกระหน่ำ
    ทั้งเกาะจะถูกลบหายไปจากแผนที่โลก

    พิลิปปินส์ ถูกพายุไซโคลนกระแทก
    ก่อนเกิดเหตุจะแลเห็นน้ำทะเลเป็นสีดำหม่นหมอง
    บรรยากาศหดหู่ เวิ้งว้าง
    ไม่นานนักจะเกิดพายุไซโคลนก่อตัวขึ้น
    พายุไซโคลนที่รุนแรง ข้างล่างดูด ข้างบนตี กระแทก
    จนกระทั่งเกาะทุกเกาะ จมหายลงไปในท้องทะเล

    ไอแลนด์เหนือและใต้ อากาศหนาวจัด
    อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน
    ในขนะเดียวกันจะถูกคลื่นยักษ์ซััดกระหน่ำ
    ในขณะที่หนาวจัดนั่นเอง

    ฮ่องกงถูกทะเลคลั่ง น้ำทะเลสูง
    ชินจุงจะหายถาวร
    เกาะสนามบินแห่งใหม่
    จะถูกคลื่นตีแตกหายไป ในทะเล
    ในบริเวณแถบนั้นจะเหลือแต่เพียงเกาะเกาลูน
    และประเทศจีนบางส่วนเท่านั้น

    เกาะมาเก๊า เผชิญพายุฝนอย่างหนัก
    รวมทั้งคลื่นยักษ์โหมกระหน่ำ
    จนกระทั่งเกาะทรุดเอียง น้ำทะเลขึ้นสูง
    ยามรุ่งเช้าหลังจากพายุสงบ
    จะเหลือเพียงโบสถ์คริสต์แห่ง หนึ่งกับบาทหลวง
    ที่กำลังสวดมนต์ภาวนาเพียง 3 รูปเท่านั้น

    นิวซีแลนด์ถูกพายุโซนร้อนถล่ม
    ฝนที่ตกลงมาจะมีเม็ดโตเท่า ลูกเห็บ
    น้ำท่วมสูงแต่เกาะจะไม่สูญหายถาวร

    สหรัฐอเมริกาจะถูกพายุที่รุนแรงถล่มอย่างหนักหน่วง
    พร้อมทั้งเกิด แผ่นดินไหวฉับพลัน 24 ริกเตอร์
    เป็นระยะเวลานานถึง 8 ชั่วโมง
    ซี่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกนี้
    อเมริกาจะถูกแบ่งออกเป็นสองซีก
    กลายเป็นเกาะ 2 เกาะ
    นิวยอร์กจะทรุดตัวเหลือเพียงบางส่วน
    นอกนั้นจะจมหายลงไปในท้องทะเล จนหมดสิ้น

    ตุรกี แผ่นดินไหวอย่างรุนแรง 16 ริกเตอร์

    คิวบา จมหายลงไปใต้ทะเล
    (ห่างจากอเมริกา 10 นาที)

    เกาะสิงคโปร์ หายไปจากแผนที่โลก
    เนื่องจากถูกพายุไซโคลนกระแทกอย่างหนัก

    อินโดนีเซียถูกพายุไซโคลนกระแทก
    จนกระทั่งหายไปจากโลก
    เหมือนเช่นที่พิลิปปินส์
    จะเหลือเพียงเกาะเล็กๆ
    ในส่วนที่เคยเป็นยอดเขาของกรุงจากาต้าเท่านั้น

    เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เกิดน้ำท่วมใหญ่
    แม่น้ำกลายเป็นทะเล
    แผ่นดินซีกตะวันออกจะจมหายไปทั้งหมด
    เกาหลีใต้จะจมหาย

    ประเทศญี่ปุ่นหายไปจากโลก
    ก่อนเกิดเหตุจะมีบรรยากาศเงียบงัน
    วังเวง หดหู่เวิ้งว้าง
    มนุษย์จะเห็นเหตุการณ์ประหลาด
    เมฆสีเทาก้อนใหญ่ 2 ก้อน
    ลอยเคลื่อนตัวเข้าหากัน
    แล้วชนกันแตกกระจายเป็นฝนเม็ดโตๆ
    ใต้ทะเล เกิดคลื่นไซโคลนขยายตัว
    พุ่งเข้าหาหมู่เกาะ
    จะกระแทกทุกเกาะเหมือนล้อมรั้ว
    เกาะทุกเกาะจมหายลงไปในทะเล

    ไต้หวัน เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง
    ตอนกลางเกาะถูกแบ่งออกเป็นสองซีก
    จากนั้นจะโดนคลื่นยักษ์กระหน่ำซ้ำเติม
    เกาะทั้งเกาะจะจมหายไป

    แผ่นดินที่สาบสูญ

    ส หรัฐอเมริกา
    (แผ่นดินถูกผ่ากลางหายสาบสูญไปหลายรัฐ
    กลายเป็นเกาะ 2 เกาะ)

    เม็กซิโก ( บางส่วนจะกลายเป็นเกาะ )

    แคนาดา ( จะกลายเป็นหมู่เกาะใหญ่ น้อยมากมาย )

    ไต้หวัน ญี่ปุ่น กัวเตมาลา เม็กซิโกซิตี้
    เบนนิส ฮอนดูลัส เอลสวาดอร์ นิคารากัว
    คอสตาริก้า ไหหลำ แผ่นดินจีนด้านตะวันออก
    เซี่ยงไฮ้ มาเก๊า พิลิปินส์ ศรีลังกา ฯลฯ

    *********************************

    วิกฤตการณ์เลวร้ายน่าหวาดหวั่น จะบังเกิดขึ้นทั่วโลก
    ความหวาดกลัว ไม่จำเป็นจะต้องรับรู้ผ่านหน้าจอทีวี
    เพราะมนุษย์ทุกคนบนโลก
    จะได้รับรู ้รสชาติแห่งความกลัวตายทุกคน !!

    มนุษย์ที่รอดชีวิตไปได้จะเข้าสู่ยุคใหม่ จะมีจิตใจที่ดีงาม
    และมีอายุขัยที่ยืนยาวจนน่าประหลาดใจ
    มีอารยธรรมเจริญก้าวหน้า
    โดยที่มิได้สร้างเทคโนโลยี่ที่ก่อปัญหา
    ให้กับโลกมากมายเช่นในปัจจุบัน
    นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อสื่อสาร
    กับเพื่อนมนุษย์จากต่างดาวได้
    ซึ่งแม้แต่ในปัจจุบันบางคนก็ไม่เชื่อว่า
    สิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงก็ตาม

    ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของโลก
    และเป็นประเทศแรกที่มีผู้สร้างยานอวกาศไปท่องจักรวาลได้
    เป็นแห่งเดียวของโลก โดยใช้พลังจิตในการขับเคลื่อน
    โดยที่ไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงในการเผาไหม้
    ให้เกิดพลังงานที่ทำลายสิ่งแวดล้อม
    และทรัพยากรธรรมชาติของโลก
    ให้เสียหายอย่างเช่นในปัจจุบัน

    นอกจากนี้ต่อมไพนีล หรือตาที่ 3 ของมนุษย์
    จะถูกฟื้นฟูขึ้นมาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
    จนสามารถเข้าถึงสภาวะนิพพานได้ง่ายขึ้นกว่าในอดีต

    ในระยะเวลาไม่นานนัก ( ภายใน 6 ปี )
    พระศรีอริยะเมตไตรยจะเปิดเผยพระองค์
    เพื่อปลอบประโลมสร้างขวัญกำลังใจ ให้กับมวลมนุษยชาติ
    ที่มีความบอบช้ำทางจิตใจ
    ซึ่งในขณะนี้พระองค์ท่านได้เสด็จลงมาบนโลกมนุษย์แล้ว
    กำลังเป็นสามเณรในพุทธศาสนา
    และพระองค์ได้มาปรากฎที่ประเทศไทยนี่เอง !!

    รายละเอียดของมหันตภัยที่จะเกิดขึ้น

    สถานที่แห่งแรกในประเทศไทย
    ที่จะได้เผชิญกับลาวาร้อนจากไฟใต้โลก
    จะเกิดขึ้นจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ของจังหวัดแรกในภาคอีสาน
    ตามรอยต่อของจังหวัดที่ติดกันเป็นแนวยาว
    เริ่มแรกจะมีลักษณะเป็นแนวแยกของแผ่นดินคดเคี้ยว
    ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
    ธารโลหะร้อนจะไหลลามแผ่ออกไปเป็นบริเวณกว้าง
    ข้ามวันข้ามคืนติดต่อกัน
    จากนั้นพายุที่รุนแรงจะนำน้ำมาดับไฟ
    ก่อให้เกิดนำท่วมและโรคร้ายที่จะระบาดอย่างรุนแรง
    จนสุดที่จะเยียวยาได้
    โดยเฉพาะอหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่
    ที่มนุษย์เชื่อว่าได้กำจัดมันจนหมดไปจากโลกนี้แล้ว
    แต่หารู้ไม่ว่ามันกำลังฟักตัว
    และจะมีฤทธิ์ร้ายแรงกว่าตอนที่ถูกมนุษย์ปราบมันไปตอนนั้นเสียอีก
    ซึ่งมันสามารถคร่าชีวิตผู้รับเชื้อได้ในระยะเวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น

    *******************************************

    ท้องฟ้ามืดมิด ฝนจะเริ่มตกหนักทั่วโลกอย่างไม่หยุดยั้ง
    น้ำจะเอ่อขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าท่วมแผ่นดินในหลายๆ พื้นที่
    พายุไซโคลนจะพัดกระหน่ำ
    ซึ่งจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 160 กม./ชม.
    พัดผ่านกรุงเทพ ผ่านช่องแม่น้ำเจ้าพระยา
    ตึกแห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา
    ที่อยู่ใกล้กับสะพานกลางเก่ากลางใหม่
    ในย่านฝั่งธนบุรีจะพังทลายลงมา
    จากการโหมกระหน่ำและความบ้าคลั่งของลมพายุ
    มีผู้เสียชีวิตในครั้งนี้มีไม่ต่ำกว่า 600 คน

    ในเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก
    ตึกสีขาวที่อยู่ริมแม่น้ำฝั่งตรงข้ามจะพังทลายตามลงมา
    ยอดตึกที่พังทลายจะแลเห็นโผล่เหนือน้ำ
    ให้เห็นเป็นอนุสรณ์ของคราบน้ำตา
    หลังคาบ้านเรือนในบริเวณใกล้เคียงจะปลิวว่อน
    เสาไฟฟ้าจะล้มระเนระนาด ด้วยความรุนแรงของลมพายุ

    *************************************

    ตึกสูงย่านประตูน้ำ ในกรุงเทพมหานคร
    ผนังตึกส่วนหนึ่งจะรูดลงมากองกับพื้น
    ด้วยความรุนแรงของลมพายุที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง
    จะสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนในบริเวณใกล้เคียง
    อย่างเหลือที่จะคณานับ

    *******************************

    เทือกเขาตะนาวศรีในเขตจังหวัดราชบุรี จะพังทลายลงมา
    เนื่องจากแผ่นดินไหวที่รุนแรง
    ซึ่งจะเปิดเผยให้เห็นถึงภูเขาไฟที่ซุกซ่อนอยู่
    หลังจากนั้นไม่นานภูเขาไฟลูกแรกในประเทศไทย
    จะระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
    เสียงดังกึกก้องกัมปนาทดังมาถึงกรุงเทพ
    ธารลาวาจะไหล ลงไปยังฝั่งพม่า
    ไม่นานนักระเบิดลูกที่สอง และลูกที่สามก็ตามมา
    ลูกที่สี่ จะรุนแรงอย่างถึงที่สุด
    ซึ่งจะสร้างความอำมหิตให้กับภาคเหนือและภาคอีสาน ต่อไป

    ********************************

    ณ บ้านกุดฉิม อำเภอหนองเรือ จัดหวัดขอนแก่น
    จะเกิดภูเขาไฟแห่งที่สองระเบิดขึ้น มีผู้เสียชีวิตประมาณ 500 คน
    เกิดแผ่นดินไหว และมีลาวาร้อนจากภูเขาไฟ
    ไหลเคลื่อนตัวทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า
    เกิดขึ้นที่บ้านโพธิ์ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย มีผู้เสียชีวิตร่วมพันคน
    เกิดภูเขาไฟระเบิดในจังหวัดกาฬสินธุ์ อย่างกระทันหัน
    จนยากที่ผู้คนในบริเวณนั้นจะตั้งตัวทัน
    และจะเกิดปรากฎการณ์ที่แปลกประหลาด
    มีจำนวนเด็กและผู้หญิงเสียชีวิตมากกว่าผู้ชาย

    จังหวัดตรัง เกาะทุกเกาะจะจมหายไป
    เนื่องจากลมพายุที่รุนแรงและทะเลคลั่ง
    ที่กลบกลื่นหมู่เกาะให้หลับลึกไปอย่างรวดเร็ว

    สมุทรปราการ จะจมหายลงไปในท้องทะเลครึ่งเมืองอย่างถาวร
    เนื่องมาจากลมพายุที่โหมกระหน่ำ
    บวกกับน้ำทะเลหนุนสูง น้ำจะท่วมอย่างรวดเร็ว
    และมีสายน้ำเปลี่ยนทิศไหลผ่าเมืองอย่างน่าหวาดกลัว
    ผู้ที่รับบาดเจ็บจากหายนะในครั้งนี้
    จะถูกนำส่งยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
    ที่อยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านสำโรง
    ซึ่งโรงพยาบาลแห่งนี้จะเป็นประตูต้นทาง
    ของกระแสน้ำที่ไหลเปลี่ยนทิศ
    แต่ก็เป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดของเมืองสมุทรปราการ

    เกาะสมุย จะถูกลบหายไปจากแผนที่โลก
    เนื่องจากแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง
    และเกิดพายุรวมทั้งคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำ
    จนกระทั่งเกาะทั้งเกาะจมหายลงไปในท้องทะเล
    อย่างไม่มีวันหวนกลับคืน

    ****************************

    เกิดแผ่นดินไหวที่ตัวเมืองบุรีรัมย์ เสียชีวิตทันที 53 คน
    ผู้บาดเจ็บที่เหลือจะเสียชีวิตอย่างมากมาย
    ในระหว่างทางไปโรงพยาบาล

    เกาะปันหยี จังหวัดพังงา เกิดน้ำท่วมสูง
    และพายุที่รุนแรงโหมกระหน่ำ
    เกาะหายสาบสูญอย่างถาวร ผู้คนเสียชีวิตทั้งเกาะ

    เขื่อนบางลาง จังหวัดนราธิวาส ถูกคลื่นจากทะเลซัดกระหน่ำ
    จนกระทั่งเขื่อนแตก น้ำไหลทะลักเข้าท่วมแผ่นดิน
    รวมทั้งน้ำทะเลที่ถาโถมเข้าใส่แผ่นดินอย่างบ้าคลั่ง
    จนกระทั่งไม่มีนราธิวาส หลงเหลืออยู่ในแผนที่โลก

    บ้านหาดเล็ก จังหวัดตราด ถูกคลื่นยักษ์ไซโคลนกระหน่ำ
    แผ่นดินหายไม่มีเหลือ

    ยะลา ถูกทะเลคลั่งโหมกระหน่ำ น้ำทะเลสูง แผ่นดินหาย
    เหลือเพียงเกาะเล็กๆ เท่านั้น ที่จะมีชื่อเรียกใหม่ว่า“เกาะยะลา”

    จังหวัดสงขลาน้ำท่วมสูง เกาะทุกเกาะจมหาย
    จะเหลือเพียงหาดใหญ่บางส่วนที่น้ำจะไม่ท่วมถาวร

    ****************************************

    ชลบุรี ชายฝั่งทะเลบางแสน ถูกคลื่นยักษ์ 4-5 เมตร
    ซัดกระหน่ำอย่างรุนแรงจนกระทั่งมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งพังพินาศ
    แต่น้ำทะเลจะไม่ท่วมถาวร

    ฉะเชิงเทรา น้ำจะท่วมถึงสองฝั่งบางปะกง จนถึงฐานหลวงพ่อโสธร

    กระบี่จะถูกพายุพัดกระหน่ำ ผืนดินทางด้านตะวันออกจะหายไป
    ชาวประมง ประมาณ 180 คน จะถูกกลืนหายไปในท้องทะเล

    ชุมพร จะเผชิญพายุฝนที่รุนแรง คลื่นจัด น้ำท่วมสูง
    ศาลกรมหลวงชุมพรจะเหลือไว้เป็นอนุสรณ์ให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์

    อุทยานภูริน นางย่อง สิมิลัน จังหวัดพังงา ถูกคลื่นยักษ์ซัดหาย

    *******************************************

    ภูเก็ต ถูกพายุถล่มอย่างบ้าคลั่ง
    จะกระทั่งเกาะทั้งเกาะหายไปจากแผนที่โลก
    มีผู ้เสียชีวิตทันทีประมาณ 40,000 – 60,000 คน

    *******************************************

    นครศรีธรรมราชน้ำท่วมใหญ่ มีผู้เสียชีวิตประมาณ 20,000 คน
    พังงา น้ำท่วม แผ่นดินจะถูกกลืนจมหายลงไปในท้องทะเล

    ปัตตานี ฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมทั้งจังหวัด
    แต่ วัดช้างไห้ ของหลวงปู่ทวด จะปลอดภัย
    รูปปั้นหลวงปู่ทวดจะแสดงปาฎิหารย์ ลอยน้ำขวางกระแสน้ำเชี่ยว
    น้ำจะแห้ง วัดช้างไห้จะกลายเป็นเกาะกลางน้ำ

    เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์จะพังหลาย กระแสน้ำที่เชี่ยวกราด
    จะทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า มีผู้เสียชีวิตทันที่ประมาณ 200 คน

    เกิดภูเขาไฟระเบิดอย่างกึกก้องกัมปนาถที่จังหวัดอุตรดิตถ์
    กาญจนบุรี เขื่อนศรีนครินทร์จะมีปัญหา
    น้ำไหลอ้อมเขื่อนท่วมด้านล่างเสียหายบางส่วน
    รวมทั้งน้ำท่วมสูงแผ่นดินหายถาวรครึ่งจังหวัด

    *****************************************

    นครราชสีมา เกิดน้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์
    กระแสน้ำจะท่วมสูงจนถึงฐานของอนุเสาวรีย์ย่าโม

    *****************************************

    ทุกจังหวัดในประเทศไทยต่างก็ได้รับความบอบช้ำด้วยกันทั้งสิ้น
    จะมากน้อยต่างกันไป บริเวณใดที่มีผู้คนมีศีลธรรมอาศัยอยู่
    อาจได้รับการปกป้อง บรรเทาภัยพิบัติให้เบาบางลงไปได้บ้าง

    ข้อมูลทุกอย่างที่กล่าวมานี้อาจเปลี่ยนแปลงได้
    แต่ระดับความรุนแรงจะไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน
    ดังเช่นภูเขาไฟที่กล่าวว่าจะเกิดในสถานที่หลายแห่งนั้น
    อาจเกิดระเบิดกึกก้องกัมปนาถรวมกันในสถานที่แห่งเดียว
    แต่จะมีความรุนแรงมากกว่าปกติ
    กล่าวคือ อาจมีลาวาจะพุ่งสู่ท้องฟ้าสูงเป็นพิเศษ
    ถึง 6 กิโลเมตร เป็นต้น

    เหตุการณ์ต่างๆ ที่กล่าวมานั้น
    จะมีอยู่วันหนึ่งที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงที่สุด
    คลื่นพลังมหาศาลจากจักรวาลจะกระแทกลงมายังโลก
    เป็นพลังงานที่เกิดจากลมพายุสุริยะ
    อันเนื่องมาจากจุดดับบนดวงอาทิตย์จุดที่ 11

    มนุษย์ทุกคนบนโลก จะได้พบกับเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว
    บรรยากาศช่วงแรกๆ จะรู้สึกหดหู่ เวิ้งว้าง ท้องฟ้าจะวังเวงพิกล
    หลังจากนั้นไม่นานนักลมจะแรงขึ้น แรงขึ้น เสียงฟ้า เสียงลม
    จะแผดเสียงกึกก้องดังที่สุด

    ตั้งแต่เกิดมาจะไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนี้มาก่อนในชีวิต
    มันเป็นเสียงของมัจจุราชที่จะพิพากษาโลกในด้านความเป็นมนุษย์
    คนชั่วทุกคนจะถูกประหารชีวิต และจะตายอย่างทรมาน
    ไม่เว้นแม้แต่ผู้นำสังคม ผู้นำเศรษฐกิจ ผู้นำลัทธิ ฯลฯ
    ส่วนคนดีจะได้รับการยกเว้นเอาไว้
    ให้ได้ทำความดีโดยไม่มีอุปสรรคต่อไป

    คัดลอกมาจาก http://www.piupun.com/newage/ ศาสตร์แห่งอภิปรัชญา .. ศรัทธาใหม่ของโลก

    ที่มา : การสื่อถ่ายทอดพระโอวาทจากพระบิดาที่อยู่นอกระบบเอกภพ ผ่านทางอาจารย์ปริญญา ตันสกุล ครั้งที่ 76
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2009
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ความรู้เรื่องนาค ยักษ์ ในพระไตรปิฎก

    เทวภูมิชั้นที่หนึ่ง ชื่อ จตุมหาราชิกาภูมิ
    หมายถึง ภูมิที่มีเทวดา ๔ องค์เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ชื่อว่าจตุมหาราชา (จตุ แปลว่า ๔) อยู่ประจำทั้ง ๔ ของภูเขาสิเนรุ คือ
    ๑. ท้าวธตรัฏฐะ อยู่ทิศตะวันออก ปกครองคันธัพพเทวดาทั้งหมด
    ๒. ท้าววิรุฬหกะ อยู่ทิศใต้ ปกครองกุมภัณฑเทวดา (เทวดาท้องใหญ่โต) ทั้งหมด
    ๓. ท้าววิรูปักขะ อยู่ทิศตะวันตก ปกครองนาคเทวดาทั้งหมด
    ๔. ท้าวกุเวระ หรือ ท้าวเวสสุวัณ อยู่ทิศเหนือ ปกครองยักขเทวดาทั้งหมด
    ที่อยู่ของเทวดาทั้ง ๔ นี้ อยู่ตรงกลางของภูเขาสิเนรุ ในระดับเดียวกับยอดเขายุคันธร อันเป็นภูเขาล้อมภูเขาสิเนรุชั้นแรก
    ท้าวมหาราชทั้ง ๔ องค์นี้ เป็นผู้รักษามนุษยโลกด้วย จึงเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า ท้าวจตุโลกบาล เทวดาที่บังเกิดอยู่ในจตุมหาราชิกาทั้งหมด เป็นบริวารอยู่ภายใต้อำนาจการปกครอง และมีหน้าที่เป็นผู้ปฏิบัติรับใช้ท้าวมหาราชทั้ง ๔
    บริวารที่ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ปกครอง ตั้งอยู่ตอนกลางของเขาสิเนรุ เสมอกับยอดเขายุคันธร อาณาเขตแผ่กว้างโดยรอบจรดขอบจักรวาล และภูเขาสัตตบรรพ์ ลงมาจนถึงพื้นแผ่นดินที่มนุษย์อยู่ ตลอดทั่วมหาสมุทรทั้งหมด
    เทวดาประเภทต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การปกครองของท้าวจตุมหาราช คือ
    เทวดาที่อาศัยอยู่ตามภูเขา (ปัพพตัฏฐเทวดา)
    เทวดาที่อยู่ในอากาศ (อากาสัฏฐเทวดา)
    เทวดาที่ตายเพราะมัวเพลิดเพลินในการเล่น (ขิฑฑาปโทสิกเทวดา) เล่นกีฬา
    จนลืมบริโภคอาหาร
    เทวดาที่ตายเพราะความโกรธ (มโนปโทสิกเทวดา)
    เทวดาที่ทำให้อากาศเย็นเกิดขึ้น (สีตวลาหกเทวดา)
    เทวดาที่ทำให้อากาศร้อนเกิดขึ้น (อุณหวลาหกเทวดา)
    เทวดาที่อยู่ในพระจันทร์ (จันทิมาเทวปุตตเทวดา)
    เทวดาที่อยู่ในพระอาทิตย์ (สุริยเทวปุตตเทวดา)
    ถ้าแบ่งเทวดาชั้นจตุมหาราชิกา ออกตามสถานที่อยู่อาศัย แบ่งได้ ๓ ประเภท
    ๑. ภุมมัฏฐเทวดา อยู่บนพื้นดิน
    ๒. รุกขัฏฐเทวดา อยู่บนต้นไม้
    ๓. อากาสัฏฐเทวดา อยู่ในอากาศ

    ภุมมัฏฐเทวดา ได้แก่เทวดาที่อาศัยอยู่ตามสถานที่ต่างๆ เช่น ภูเขา แม่น้ำ มหาสมุทร ใต้ดิน บ้าน เจดีย์ ศาลา ซุ้มประตู เป็นต้น เทวดาบางองค์ก็มีวิมานของตน ณ ที่นั้นๆ โดยเฉพาะ องค์ใดไม่มี ก็ถือเอาสถานที่ ที่ตนอาศัยอยู่ เช่น วัด บ้าน ภูเขา มหาสมุทร แม่น้ำ นั้น เป็นวิมานของตน

    รุกขัฏฐเทวดา มี ๒ จำพวก พวกหนึ่งมีวิมานอยู่บนต้นไม้ อีกพวกหนึ่งอยู่บนต้นไม้แต่ไม่มีวิมาน รุกขวิมานเป็นวิมานที่ตั้งอยู่บนยอดของต้นไม้ สาขัฏฐกวิมานเป็นวิมานที่อาศัยตั้งอยู่บนสาขาของต้นไม้ทั่วไป

    อากาสัฏฐเทวดา เทวดาจำพวกนี้มีวิมาน เป็นที่อยู่ของตนเองโดยเฉพาะ เช่น พระอาทิตย์ พระจันทร์ และดาวทั้งหลาย ทั้งภายในภายนอกวิมานประกอบไปด้วย รัตนะ ๗ อย่าง ซึ่งบังเกิดขึ้นด้วยอำนาจกุศลกรรม คือ แก้วมรกต แก้วมุกดา แก้วประพาฬ แก้วมณี แก้ววิเชียร เงิน ทอง แต่ละวิมานประกอบด้วยรัตนะไม่เท่ากัน บางวิมานมีเพียง ๑-๒ รัตนะ บางวิมานก็มีมาก สุดแต่กุศลที่ตนสร้างเอาไว้ วิมานเหล่านี้ลอยหมุนเวียนไปรอบๆ เขาสิเนรุอยู่เป็นนิจ
    ในบางแห่ง จัดเอารุกขัฏฐเทวดารวมไว้เป็นพวกเดียวกับภุมมัฏฐเทวดา

    เทวดาชั้นจตุมหาราชิกาที่มีใจโหดร้าย มีอยู่ ๔ จำพวก คือ
    ๑. เทวดายักษ์ ทั้งชาย หญิง (ยักโข ยักขินี)
    ๒. เทวดาคันธัพพะ ชาย หญิง (คันธัพโพ คันธัพพี)
    ๓. เทวดากุมภัณฑ์ ชาย หญิง (กุมภัณโฑ กุมภัณฑี)
    ๔. เทวดานาค ชาย หญิง (นาโค นาคี)

    ยักษ์ มี ๒ จำพวก จำพวกหนึ่งเป็นเทวดายักษ์ มีรูปร่างสวยงาม มีรัศมี อีกพวกหนึ่งเป็นดิรัจฉานยักษ์ รูปร่างน่าเกลียดน่ากลัว ไม่มีรัศมี พวกเทวดายักษ์นั้น บางทีมีความพอใจในการเบียดเบียนสัตว์นรกให้เดือดร้อน เมื่อมีจิตคิดอยากเบียดเบียนขึ้นมาเมื่อใด ก็จะเนรมิตตนเองเป็นนายนิรยบาลบ้าง เป็นแร้งยักษ์ กายักษ์ สุนัขยักษ์ บ้าง เที่ยวลงโทษหรือไล่จับสัตว์นรกกิน เทวดาพวกนี้อยู่ในความปกครองของท้าวกุเวระ หรือท้าวเวสสุวัณ




    คันธัพพเทวดา ได้แก่เทวดาที่ถือกำเนิดอยู่ในต้นไม้ที่มีกลิ่นหอม และจะอาศัยอยู่ในเนื้อไม้ตลอดไป แม้ต้นไม้นั้นจะผุพัง โค่นล้ม หรือถูกคนตัดเอาไปทำการก่อสร้างเป็นสิ่งต่างๆ คันธัพพเทวดาเหล่านี้ก็ไม่ยอมละทิ้งที่อยู่ของตน คงอาศัยอยู่กับไม้นั้นเรื่อยๆ ไป บางคราวยังแสดงตนให้มนุษย์เห็น เรียกกันว่า นางไม้ ถ้าเอาไม้นั้นไปทำเรือก็เรียกว่า แม่ย่านางเรือ เทวดาพวกนี้มีฤทธิ์เดชอยู่บ้าง เมื่อไม่พอใจอาจทำให้เกิดอุปสรรค รบกวนผู้อยู่อาศัย เกิดการเจ็บป่วย หรือทำอันตรายทรัพย์สมบัติให้พินาศ ถ้าพอใจก็ช่วยดูแลรักษาคุ้มครองให้คุณประโยชน์
    คันธัพพเทวดาเกิดในต้นไม้ มีกลิ่นหอม มี ๑๐ จำพวก เรียกว่า
     
  11. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,066
    ค่าพลัง:
    +7,067
    ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่สิคะ ขนาดตอนที่เกิดสึนามิ คุณ NiNe ทำนายไว้ ก็ไม่มีใครเชื่อ คิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล แล้วเป็นยังไงคะ!!! ก้อยไม่ได้บังคับให้ทุกคนเชื่อหรอกนะ เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต แต่รู้ก็ดีกว่าไม่รู้ไม่ใช่หรอคะ ถ้ามันเป็นความจริงขึ้นมา เราจะได้เตรียมตัวได้ทัน และก้อยก็ไม่คิดว่ามันจะไม่จริง เพราะโลกยุคนี้ก็สมควรที่จะได้รับหายนะแบบนั้น...
     
  12. 108man

    108man เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +1,794
    สิ่งที่แน่นอนก็อาจไม่แน่นอน นี้คือความเป็น "ธรรม"

    หลังจากเกิดซึนามี ผมก็ได้แต่เฝ้าดู TV แทบไม่ได้นอน เกือบ 1 อาทิตย์
    สิ่งที่ปรากฎในใจ ก็คือ ตัวเราเองได้สำนึกในความประมาท จึงต้องกลับมาหา
    จุดยืนของตนเอง จึงได้รู้ว่าคลื่น ไม่ได้พัดพาสิ่งต่าง ๆ ลงทะเลไป
    แต่ ได้พัดพาความ ประมาท และความชั่วร้ายจากใจ ของ ผมออกไปด้วย
    นี้คือสำนึก ที่เกิดขึ้น เพราะ อะไร
    1. ผมรู้ก่อนจากอาจารย์ ผม แต่ไม่สนใจ และในใจก็กลับคิดว่าไม่มีทางเกิดได้
    และยังคิดว่าอาจารย์ผม ยังไงอยู่ แต่จริง ๆ ท่านบอกไว้ล่วงหน้าเกือบ 7 ปี
    2. ตลอดกว่า 7 ปี ท่านให้ ฝึกอภิญญา ไม่ใช้เพื่อตนเอง แต่เพื่อให้มีสติและสามารถ
    ช่วยคนอื่น ๆ ได้ ในเวาลามีเหตุ แต่ผมก็ทำไปเรื่อย ๆ เพราะคิดแต่ว่ายังมีเวลา
    3. เวลามีการแก้ไขในการทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อแก้เคล็ด ผมก็ไม่ได้ร่วมเพราะคิดว่าแก้ไขไม่ได้

    ที่นี้ผมก็เปลี่ยนไปแล้ว และอยากจะบอกในสิ่งที่รู้มาว่า
    1. เหตุต่าง ๆ ที่รุนแรงกว่า จะต้องเกิดแน่ ๆ ตามที่ได้รับรู้ก็คล้าย ๆ กับที่สมาชิกบอก
    2. แต่ เหตุที่เราได้รับการบอกกล่าว ว่าจะเกิดวันไหน ก็ไม่สามารถเกิดได้ตรงตามวันที่ได้รับ
    ข่าว เพราะ เป็น กฏของสวรรค์ ไม่สามารถบอกให้ตรงวันได้ แต่ยกเว้นผู้ทีมีหน้าที่ให้บอกได้ซึ่ง
    ตอนนี้ที่ทราบท่านก็ไม่ยอมบกวันแต่บอกว่าจะเกิดที่ไหน ช่วงเดือนไหน
    3 แต่ เวลาที่ได้รับการทำนายแล้วก็อาจเลื่อนได้ อย่าง ซึนามี ก็เลื่อนมาเกือบ 7 ปี และความรุนแรง
    ก็น้อยลง จริง ๆ แล้ว มีเกาะต้องหายไปทั้งเกาะแต่ท่านมาช่วยไว้ ซึ่งถ้าถามว่าทำไมถึงเลื่อนได้ ก็เพราะว่า มีกลุ่มที่ทำหน้าที่ในการแก้กระจายกันไป ตามสายต่าง ๆ ที่สร้างพระ หรือ สร้างวัตถุต่าง ๆ
    ตามที่ต่าง ๆ หรือการปฏิบัติธรรมเป็นกลุ่ม ๆ ซึ่งกลุ่มนี้ก็อาจจะเป็นพวกเรา ๆ ท่าน ๆ ในที่นี้ ที่ได้ทำกันอยู่แต่ไม่รู้ตัว
    4. อาจารย์ของผมอยู่ที่อีสาน ก่อนเกิดเหตุ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2547 ท่านขีดเส้นบนแผนที่จากเหนือเกาะสุมาตราขึ้นไปทางเหนือตามแนวที่เกิดแผนดินไหว ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครเข้าใจความหมาย
    ซึ่งหลังจากเกิดซึนามิ แล้ว ท่านก็ขีดเส้นจากแถวเพชรบุรี ผ่านเมืองกาจญบุรี ไปทางเหนือ จนถึงลำปาง และจะเกิด ........ ไม่สามารถเขียนรายละเอียดได้เพราะทางรัฐบาลไม่เชื่อจะเกิดเรื่อง
    ก็คล้าย ๆ กับที่มีสมาชิก ได้เขียนมาแล้ว

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมบอกไดเลยว่าสิ่งที่รู้ก่อนย่อมเปลี่ยนแปลงเสมอ แต่ถ้าไม่รู้ก่อนย่อมไม่เปลี่ยนแปลง
    นี้คือกฏของสวรรค์ ซึ่ง ถามว่าเมื่อไม่เกิดตรงที่รู้แล้วให้รู้ก่อนทำไม นี้ก็คือความเสี่ยงและกรรมของแต่ละบุคคลที่ จะเลือกว่าจะทำการเลื่อนหรือผ่อนหนัก เป็นเบาหรือเปล่า แต่ ผมว่าเราเป็นคนไทยในดินแคนแห่งพระพุทธศาสนา จงภูมิใจได้ว่ามีผู้ทรงอภิญญา และ พระอรหันต์ ได้ช่วยเราไว้และได้ช่วยอยู่
    ก็เพราะเหตุว่า เหตุต่าง ๆ ได้ถูกเลื่อนและทำให้เบาขึ้น
    ผมไม่ได้ให้คุณ ๆ เชื่อ แต่ หวังให้คุณทำ (จนได้อภิญญา) เพราะกลุ่มคนจำนวนมากได้ถูกกำหนดมา
    ให้มาเกิดเพื่อทำหน้าที่นี้ แต่คุณอาจไม่รู้ตัวเอง แต่เมื่อถึงวันหนึ้งเมื่อเกิดเหตุก็จะรู้ตัวเอง ผมและลูก ก็ได้ถูกกำหนด ไว้ ( ทำให้รู้ว่าประเทศไทย ยังอยู่อีกหลายสิบปี เพระ ลูกผมอายุ 1.9 ปี เอง )

    ลองไปคิดดูนะครับ อย่าอยู่ในความประมาท
     
  13. แวะมา ก้อแวะไป

    แวะมา ก้อแวะไป บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ต่างความคิด ต่างจิต ต่างใจ

    >> บางคนก้อไม่อยากรู้ <<

    ไม่ต้องไปรู้อนาคต หรือเหตุการณ์ล่วงหน้าหรอก รู้ไปใช่จะมีประโยชน์ บางครั้งเป็นทุกข์เปล่า ๆ ขอเพียงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เหตุในปัจจุบัน เป็นผลของอนาคต

    ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต มีสติเข้าไว้ ปล่อยให้เป็นไปตามผลกรรมเถอาะ หากมีเหตุร้ายอย่างไรเสียผลบุญจะช่วยคลี่คลายเหตุการณ์ให้ดีเอง หรือไม่ก้อมีพระโพธิสัตว์มาโปรดให้รอดจากทุกข์ภัย

    >> บางคนก้ออยากรู้ <<

    มีบางคนอยากรู้อนาคต เพื่อระงับเหตุ เหมือนตอนที่พระพุทธองค์ทรงห้ามพระญาติไม่ให้รบกันเพื่อแย่งน้ำได้ เนื่องจากทรงทราบเหตุด้วยพระญาณ (http://www.lekpluto.com/index02/59.html, http://www.dhammathai.org/pang/pang06.php?#29)

    หรือตอนที่พระพุทธองค์เสด็จโปรดองคุลิมาลโจร ทรงระงับไม่ให้องคุลิมาลทำกรรมหนัก อันทำให้ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ในชาตินี้ (http://www.dhammathai.org/pang/pang13.php?#65)

    แต่อย่างไรก็ตาม ก้อไม่สามารถแก้ไข หรือลบผลกรรมได้ เพราะมีเหตุให้เกิดไปแล้ว

    ดังนั้นบางครั้งถึงรู้ใช่จะหนีรอดได้ เพราะมันผลที่จะต้องมาจากเหตุนั้น ต้องเกิดขึ้นแน่นอน ดังชายคนหนึ่งที่รู้ล่วงหน้าจะถูกรถชนตายจากกรรมเก่า แกพยายามอยู่แต่ในทะเล อยู่แต่ในเรือ แต่อยู่มาวันหนึ่ง แกนอนอยู่ในเรืออยู่สบาย ๆ ใกล้ท่าเรือ ไม่รู้เจ้ากรรม นายเวรที่ไหนดนให้รถขับลอยมาจากไหนไม่ทราบไปชนแกตายจนได้ ปรากฎว่าเป็นอุบัติเหตุที่แสนเหลือเชื่อได้

    บางคนอาจคิดว่าชายดังกล่าว เอาแต่หนี ไม่ย่อมแก้ไขอะไรก็มี แต่มีคนแย้งว่าผลกรรมนั้นไม่สามารถลบออกได้ แก้ไขไม่ได้ เนื่องจากมีเหตุแล้วก้อต้องมีผลตามมาก็มี สุดแล้วแต่คนคิด

    << สุดท้าย >>

    จะมีซักกี่คนที่รู้อนาคตแล้วมีศักยภาพพอที่จะระงับเหตุ (แต่ไม่สามารถลบผลกรรมได้) ดังนั้นพยายามทำดี ละชั่ว ทำใจให้บริสุทธิ์ อย่าได้ประมาท ดำรงชีพด้วยสติ มีธรรมะในใจ ดีที่สุด ถึงแม้ผู้อื่น ๆ ประมาท เรายังรอดได้ด้วยผลบุญ ไม่โดนลูกหลงหรอก ธรรมมะจะเป็นเกราะกำบังให้เอง มีสติเข้าไว้
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สามพระยาชนช้าง

    ถิ่นกาขาว = อีกานิสัยขี้ขโมย บริโภคของเน่าๆ ขาวคือ สีผิว ของชนชาติ ตะวันตก รวมกันแล้ว มันคือ การตกเป็นธาตุอาณานิคม ทางวัฒนะธรรม เศรษฐกิจ เทคโนโลยี รับมาเต็มๆ และ เจอ นิสัยอีกาขาว ไทยโดน รุมทึ้ง อะไรมั่ง ทุกคนย่อมรู้ดี

    ชาววิไล = ความเจริญ จะ พลิก มาโต ทางเอเชีย โดยเฉพาะ ประเทศ ไทย
    จะ เป็น ศูนย์ กลางของโลก ปิ่นธรณี คนดีเริ่มมีบทบาท ในกิจการบ้านเมือง ค้นพบ ทรัพยากรณ์ ธรรมชาติ ศาสนาพุทธรุ่งเรือง อีก วาระหนึ่ง ชาวไทยกินดีอยุ่ดี ทุกคน จะภูมิใจ ใน ความเป็นไทย ไม่ดูถูก คำว่าไทย เอ่ยคำว่า "ผมเป็นคนไทย" ในต่างแดน ได้ อย่างเต็มภาคภูมิ ไม่อายใคร

    เลยชาววิไลไป......ผมไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือ ผม ได้เกิด ร่วมยุค กับ เหตุการณ์ สำคัญ หลายอย่าง ที่กำลัง จะเกิด ในประเทศไทย

    มีคำทำนายอีก อัน หลัง จากนี้ ซึ่ง มีผู้เฒ่า ท่านหนึ่ง ย้ำกับผม ให้ จำไว้ พราะแก อยู่ไม่ ถึงแน่ คือ

    สามพระยาชนช้าง = เลือดจะท่วมเท้าช้าง เมื่อ สามพระยา แย่งอำนาจกัน

    เหตุการณ์ จะ ใหญ่ หรือ เล็ก ไม่รู้ อยากจะ ภาวนา ให้ ไม่เกิด

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=3786


    เมื่อปรากฏภัย ๑๐ ประการ

    1. ราชภัย ท้าวพระยาจะบังคับเบียดเบียนพลเมือง
    2. โจรภัย จะบังเกิดโจรผู้ร้ายปล้นสะดมทั่วไป
    3. อัคคีภัย ไฟจะไหม้บ้านเมืองไม่ขาดสาย
    4. อสุนีบาต ฟ้าจะผ่าสัตว์และคนล้มตายบ่อย ๆ
    5. เมทนีภัย แผ่นดินจะไหวสะท้านและแยกออกจากกัน
    6. วาตภัย จะเกิดลมพายุพัดพาบ้านเมืองพินาศ
    7. อุทกภัย น้ำท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นา
    8. ทุพภิกขภัย จะเกิดข้าวยากหมากแพงและอดอาหาร
    9. พยาธิภัย จะเกิดโรคระบาดคนและสัตว์ล้มตาย
    10. สัตถภัย จะรบราฆ่าฟันกันล้มตายร้ายแรง

    หนาแน่นขึ้นก็จะปรากฏผู้เฒ่าผมขาวหนวดเครายาวขี่ม้าขาวเหาะลอยมายังท่ามกลางเมืองเชียงใหม่ นั่นคือองสมเด็จพระศรีอริยะเมตไตรยมาปรากฏเป็นที่พึ่งแก่โลกแล้ว อย่าสงสัยเลย

    หลังจากนั้นไม่นานขุมทรัพย์ทั้ง 4 ของพระศรีอาริย์ก็จะปรากฎเกิดขึ้นในสุวรรณภูมิ ระหว่างเชียงราย ฝาง เชียงใหม่ ลำพูน เพราะขุมทรัพย์อันมหาศาล คือแก้วแหวนเงินทองจะระเบิดออกในภาคเหนือของประเทศไทย ดอยเงินดอยคำและเพชรนิลจินดาจะแตกออกทั้งลูกดอย และจะมีหลายลูกด้วยกัน กองทัพจะเข้าแย่งชิงสมบัติเหล่านี้ มืดมัวไปทั้งสี่ทิศ ทหารของชาติต่างๆ จะล้มตายไปถึง 3 ใน 4 ส่วน คงเหลืออยู่เพียงส่วนเดียวเลือดจะไหลนองเป็นห้วยน้อย จนถึงกับพวกหนูต้องว่ายข้ามต่างก็จะยิงกันจนเหลวแหลก เพราะโลภตัณหา จะรบกันถึง 7 ชาติ แต่ขุนศึกสำคัญนั้นมี 3 คน คือ

    1.พญาลายตีนเป็นกงจักร
    2.พญาแขนสั้นราว (คืนแขนสั้นข้างยาวข้าง)
    3.พญาลิ้นกาฬ (ลิ้นดำ)

    ในตำนานพระศรีอาริย์จุติ ซึ่งพระอิศวรผู้เป็นเจ้าไปนิมนต์มาเกิดนั้นกล่าวไว้เป็นปัญหาว่า"ฤทธิ์เดชของพระยาแขนสั้นยาวนั้นมากมายเหลือหลาย เหล็กกลม 7 กำยาว 4 ศอก นั่งหย่องเยาะ เอามือซ้ายขว้างไปไกลได้ถึง 7 - 8 ไร่นา" ผู้เขียนขอวิจารณ์ว่า "เหล็กกว้าง 7 กำยาว 4 ศอกนั้นคงไม่ใช่เหล็กธรรมดา คงเป็นลูกระเบิดขนาดใหญ่นั่นเอง" แก้วแหวนเงินทองนั้นใครๆ ก็อยากได้ด้วยกันทุกคน ถ้ามันมีมากขนาดเท่าภูเขาเลากา และมันเกิดประเทศใด ประเทศนั้นก็ต้องตกเป็นจุดยุทธศาสตร์ขนาดล้างโลก และนั่นก็เป็นวันตัดสินโลก(Doomsday) ได้มาถึงแล้วโดยไม่มีปัญหา

    (หาอ่านเพิ่มเติมได้จาก หนังสือพระศรีอาริย์เจ้าโลก โดยรหัสยญาณ สำนักพิมพ์ลานอโศกเพรสกรุ๊ป โรงพิมพ์สหธรรมิก)
     
  15. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,055
    เชื่อเช่นกันว่า เร็วๆนี้ จะมีการล้มตายกันอีกมาก และหลายรอบ ทั้งจากภัยภิบัติและสงครามซึ่งจะต้องตายจากอาวุธสมัยใหม่ครั้งละมากๆ โดยเฉพาะปี 2550 พระศาสนาในไทยจะกระเทือนอย่างหนัก เมื่อสุดเขตจะเหลือไม่ถึงครึ่งโลก แล้วคนจะเห็น-ยอมรับในสัจธรรมกันมาก ศาสนาพุทธจะรุ่งเรืองเป็นที่ยอมรับของชาวโลกอย่างกว้างขวาง

    ประเทศไทยก็จะเจริญขึ้น รวยขึ้นมาก ในยุคต่อไป คือยุคชาววิไล แล้วจะเป็นยุคไทยมหารัฐ ตามด้วยยุคจักรพรรดิราช ซึ่งในยุคนั้นพระมหากษัตริย์ของไทยจะทรงพระราชอิสริยยศคล้ายพระเจ้าจักรพรรดิ ทั้งนี้ก็ด้วยพระบรมโพธิสมภารแห่งรัชกาลปัจจุบันที่ทั่วโลกยกย่องสรรเสริญ จนระบอบกษัตริย์กลับเป็นที่นิยมอีกครั้ง หลายประเทศที่สิ้นวงศ์กษัตริย์ไปแล้ว ก็จะมาขออัญเชิญพระบรมวงศ์ของไทยไปเป็นกษัตริย์ อีกทั้งราชประเพณีต่างๆก็จะมีคงอยู่อย่างสมบูรณ์ที่ประเทศไทยเท่านั้น ราชประเพณีของไทยก็จะกลายเป็นแม่บทให้สถาบันกษัตริย์ของประเทศอื่น
     
  16. 108man

    108man เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +1,794
    ลองเอามาให้ดูกัน คิดอย่างไร??

    กก.จัดสร้างระบบเตือนภัย ห่วงแผ่นดินไหวกระทบน้ำในเขื่อนทะลัก

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 กุมภาพันธ์ 2548 17:05 น.



    นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานคณะกรรมการศึกษาจัดสร้างระบบเตือนภัยล่วงหน้า กล่าวว่าจากกรณีแผ่นดินไหวบนเกาะสุมาตราที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบให้รอยเลื่อนคลองมะรุม และรอยเลื่อนระนองที่พาดผ่านเกาะภูเก็ต มีการเคลื่อนตัว และรอยเลื่อนที่อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรีด้วย ซึ่งหากทั้ง 3 จุดนี้เกิดแผ่นดินไหวก็จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเกาะภูเก็ต เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี โดยทาง กฟผ.ได้ออกมายอมรับก่อนหน้านี้แล้วว่า ถ้าเกิดแผ่นดินไหวจริงๆ จะทำให้น้ำทั้ง 2 เขื่อน ไหลทะลักเข้าสู่พื้นที่โดยรอบภายในเวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งคณะกรรมการมีความเป็นห่วงในจุดนี้ และกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ถ้าหากศูนย์เตือนภัยแห่งชาติที่จัดสร้างขึ้นที่ศูนย์สื่อสารพลเรือน ถนนรัตนาธิเบศร์ ดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือน มี.ค.นี้ ก็คงจะสามารถเตือนภัยล่วงหน้าในจุดนี้ได้ และจะสามารถแจ้งเตือนไปยังประชาชนผ่านสื่อต่างๆ หอเตือนภัยตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ภายในเวลา 3 นาที

    จบ
    ----------------------------------

    ที่ผมเคยละไว้ก็คือ ตามข้างบน แต่ที่อาจารย์บอก จะส่งผลถึงกรุงเทพ ฯ อย่างมาก
    เพราะสาเหตุว่า กรุงเทพ ทั้งต่ำและ ใต้ดินก็เป็นโพรง ถ้าน้ำมาก็จะท่วมและดิน
    จะทรุด ท่านบอกว่า ถ้ามีฝนตกหนักติดต่อกัน เกิน 3 วัน ก็ให้คอยฟังข่าวเรื่องเขื่อน
    ที่เมืองกาญจน์ ถ้ารู้ข่าวก็ให้ไปที่ สระบุรี หรือ โคราช ก่อน ที่จะไปที่อื่น
    นี่คือคร่าว ๆ ช่วงหลังเลือกตั้ง
    แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันเลื่อนได้นะครับ ไม่ใช่ว่าไม่เกิดตามเวลาที่กำหนดแล้วจะไม่เกิด
    ไม่ใช่ว่าผมอยาก Post แต่มีบางท่านว่า " ไม่เชื่อหรอก เกิดเหตุแล้วก็ค่อยมาบอก "

    นี่แค่เหตุการณ์ กาญจนบุรี ยังไม่นับที่จะเกิดที่ภาคเหนืออีก
    " แต่ที่ปลอดภัยกลับเป็นอีสาน "

    เอาแค่นี้ก่อน แล้วกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2005
  17. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,055
    ท่านอาจารย์ที่ผมเคารพศรัทธายิ่งองค์หนึ่ง เมตตาบอกเล่าให้นัยยะไว้ โดยท่านเปรียบเทียบกับความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในอินเดีย ซึ่งประดิษฐานอยู่ 50+1250 ปี โดยเลข 1250 ตรงกับจำนวนพระอรหันต์ที่มาประชุมโดยมิได้นัดหมายในวันมาฆบูชาแรก จนเจริญสูงสุด ครั้น พ.ศ.1300 เกิดเหตุ
    1.มี 2 นิกาย คือ อุตตร และทักษิณ
    2.มี 2 วิทยาลัยสงฆ์
    3.มีพระมหาเถระขัดแย้งกับผู้มีอำนาจ
    4.กองทัพอิสลามทำลายพุทธศาสนาสิ้นไปจากอินเดีย

    ขณะนี้ซึ่งกำลังจะครบ 1250 อีกรอบ โดยรอบนี้พระศาสนามาประดิษฐานจนเจริญสูงสุดในประเทศไทย ก็กำลังมีอะไรคล้ายกัน
    1.มี 2 นิกาย คือ มหานิกาย และธรรมยุต
    2.มี 2 วิทยาลัยสงฆ์ คือ มหามกุฏ และ มหาจุฬา
    3.มีความขัดแย้งระหว่างพระมหาเถระ (หลวงตามหาบัว) กับผู้มีอำนาจ เรื่องรวมบัญชีสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ และเรื่องกรณีแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด้จพระสังฆราชสำหรับพรรคไทยรักไทย
    4.ผู้ที่เรียกตัวว่าเป็นมุสลิม ก่อความรุนแรงใน 3 จังหวัดภาคใต้มาปีหนึ่งแล้ว
     
  18. ppinter

    ppinter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2004
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +289
    นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานคณะกรรมการศึกษาจัดสร้างระบบเตือนภัยล่วงหน้า กล่าวว่าจากกรณีแผ่นดินไหวบนเกาะสุมาตราที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบให้รอยเลื่อนคลองมะรุม และรอยเลื่อนระนองที่พาดผ่านเกาะภูเก็ต มีการเคลื่อนตัว และรอยเลื่อนที่อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรีด้วย ซึ่งหากทั้ง 3 จุดนี้เกิดแผ่นดินไหวก็จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเกาะภูเก็ต เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี โดยทาง กฟผ.ได้ออกมายอมรับก่อนหน้านี้แล้วว่า ถ้าเกิดแผ่นดินไหวจริงๆ จะทำให้น้ำทั้ง 2 เขื่อน ไหลทะลักเข้าสู่พื้นที่โดยรอบภายในเวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งคณะกรรมการมีความเป็นห่วงในจุดนี้ และกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ถ้าหากศูนย์เตือนภัยแห่งชาติที่จัดสร้างขึ้นที่ศูนย์สื่อสารพลเรือน ถนนรัตนาธิเบศร์ ดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือน มี.ค.นี้ ก็คงจะสามารถเตือนภัยล่วงหน้าในจุดนี้ได้ และจะสามารถแจ้งเตือนไปยังประชาชนผ่านสื่อต่างๆ หอเตือนภัยตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ภายในเวลา 3 นาที
    พึงออกข่าวเตือนตอน ห้าโมงเย็น วันนี้เอง
    2 กพ 48
    ข้อมูลอิง วิทยาศาสตร์
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ข้อมูลทั้งหมดที่ผมนำมาโพสเอาไว้ ผมได้แจ้งแหล่งที่มาไว้เรียบร้อยแล้ว หาอ่านเพิ่มเติมได้ตามที่ผมได้บอกไว้ครับ ส่วนท่านจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านจะตัดสินใจเอาเอง ในความคิดส่วนตัวของผมหากเราตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ตั้งใจปฎิบัติธรรม รักษาศีล หมั่นเจริญภาวนาเอาไว้ ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร กลับจะเป็นประโยชน์กับตัวเองทั้งในชาตินี้และชาติหน้าครับ

    กระผมขอให้ข้อมูลเพิ่มเติม เป็นคาถาช่วยชีวิตซึ่งคัดลอกจากศิลาจารึกในเขตมหาวิหาร ในสวนมฤคทายวัน ซึ่งแปลได้ความดังนี้

    "ดูกร, อานนท์ พระตถาคตสงสารสรรพสัตว์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อยเต็มที คำพยากรณ์ของพระตถาคตนี้ ยังให้สัตว์ทั้งหลายตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วเชื่อหรือไม่เชื่อ ไม่บอกเล่าให้ผู้อื่นรู้กันต่อๆ ไป นับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ ต่างสิ้นสุดกันตามเวลา ผู้ใดปรารถนาจะได้เห็นหรือทันพบผู้มีบุญ ให้รักษาศีล 5 หนึ่ง เคารพยำเกรงบิดามารดา รู้จักบุญคุณของท่านมีคุณหนึ่ง ให้เจริญภาวนาในพรหมไตรสภาพหนึ่ง คาถาว่าดังนี้

    พุทธิทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา นะโมสัพพะราชา ขัตติโย อิติ ปาระมิตา ติงสา อิติ สัพพัญญูมาคะตา อิติ โพธิ มะ นุปปัตโต อิติปิโส จะเต นะโม
    (คาถาบารมี 30 ทัศ)

    รู้แล้วอย่าประมาท คนประมาทคือคนที่ตายแล้ว ให้ท่องบทภาวนารักษาศีล ย่อมอยู่รอดปลอดภัยจากภยันตรายภัยพิบัติทั้งปวงเทอญ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2005
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    หนังสือจิตจักรวาล ของคุณปริญญา ตันสกุล นั้นเขาบรรยายเอาไว้ว่าเขาสามารถสื่อสารทางจิตกับดวงจิตจักรวาลได้ คล้ายๆ กับของ ดร.เทพพนม เมืองแมน ที่สามารถติดต่อทางจิตกับมนุษย์ต่างดาวได้ เนื้อหาในหนังสือผมรู้สึกว่าจะมีความโน้มเอียงไปในทางคริสต์ศาสนา เรื่องพระเจ้าสร้างโลก สร้างจักรวาล อะไรทำนองนั้น แต่ผมอยากให้ผู้อ่านหนังสือจิตจักรวาลให้ความสนใจในเรื่องความรู้ในทางวิทยาศาสตร์ ที่หนังสือได้อธิบายไว้อย่างน่าสนใจหลายเรื่อง เช่นเรื่องสนามแม่เหล็กโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
    แกนของโลกกำลังเอียงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หรือเรื่องโลกของเรากำลังจะเปลี่ยนแปลงทางกายภาพอย่างรุนแรง เพื่อปรับความสมดุลครั้งใหญ่ เนื่องจากมนุษย์โลกได้ทำลายสิ่งแวดล้อมและสร้างมลพิษให้กับโลก จนเกิดความเสียสมดุลทางธรรมชาติ

    ในหนังสือจิตจักรวาลยังได้อธิบายเรื่องราวที่ ทางวิทยาศาสตร์ยังให้คำอธิบายไม่ได้เช่น
    เรื่องปลาวาฬและปลาโลมา ที่มาเกยตื้นตายที่ชายหาดเป็นจำนวนมาก ก็เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงทางสนามแม่เหล็กโลกทั้ง ขั้วโลกเหนือ และ ขั้วโลกใต้ ทำให้ปลาวาฬ และ ปลาโลมาเกิดการหลงทิศทาง เพราะมันใช้สนามแม่เหล็กของโลกเป็นตัวกำหนดทิศทางในการเดินทาง หรืออย่างเรื่องสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ที่เครื่องบิน และเรือเดินทะเลสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยว่า เกิดจากการพลัดหลงไปเข้าประตูมิติ จากอีกจักรวาลหนึ่ง ซึ่งเป็นจักรวาลคู่ขนานกับจักรวาลโลกของเรา คล้ายกับเรื่องสตาร์เกต ที่พวกเราเคยดูกันนั่นแหละ

    สำหรับผู้อ่านหนังสือจิตจักรวาล ของคุณปริญญา ตันสกุล ถ้าเรามองว่าเป็นความรู้จากมนุษย์ต่างดาว เหมือนเรื่องมนุษย์ต่างดาวของ ดร.เทพพนม เมืองแมน ก็จะได้ความรู้ที่เป็นประโยชน์มิใช่น้อย แต่ทั้งนี้ก็อย่าไปเชื่อถือเสียทั้งหมด เพราะอาจจะมีถูกบ้าง ผิดบ้างเป็นธรรมดา ก็เลือกเก็บเอาแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ สิ่งไหนไม่เป็นประโยชน์ก็โยนทิ้งไปซะ ก็แค่นั้นเอง..........
     

แชร์หน้านี้

Loading...