มาดูสมเด็จกัน

เอ............. ผมไม่เข้าใจเลยว่า การที่จะเช็คว่า IP ของผู้โพสมาจากไหนนั้น และสถานที่สามารถเช็คได้ต้องเป็น sever หรือ domain wabmaster อะไรเนี่ยใช่ไหม หรือมีที่อื่นสามารถเช็คได้อีกครับ งง มาก ( อย่างรัฐบาลมีสิทธิ ) แล้วทั่วไปเขาเช็คกันได้ง่ายๆ จริงหรือครับ
ขอความรู้ท่านผู้หน่อยเด้อ .............

 

ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นนี้ เราควรเก็บพระไว้ในธนาคารจะดีที่สุด การเก็บไว้ที่บ้าน ผมว่ามีความเสี่ยงสูง ผมเองยังไม่กล้าเลย

คนที่เข้ามาดูพระมีหลายรูปแบบ ผมก็เคยเจอมาบ้าง ทางที่ดี เราไม่ควรแสดงตัวจะดีที่สุด เพราะเราไม่รู้ว่าเราสนทนากับใครอยู่ หากสุดวิสัย ก็ควรแนะนำตัวย่างพอประมาณ

อนุโมทนาในความคิดดีๆครับ<!-- google_ad_section_end -->
ในความเป็นจริงแล้วหลายๆคนคงไม่ทราบเรื่องการโจรกรรมพระเครื่องผมเองรู้มาจากผู้ใหญ่บางท่านซึ่งท่านแนะนำผม ในอดีตรังพระชั้นนำบางท่านเก็บพระเยอะมากๆ แต่ท้ายที่สุดก็ต้องแจกจ่ายแก่บุตรหลานและญาติ ตลอดจนคนรักใคร่ เพราะเกรงการโจรกรรมพระเครื่อง ท่านแนะนำผมไว้ ผมเก็บพระไว้ในธนาคารตั้งแต่กลับมาอยู่ภูมิลำเนาเดิมนาน 14 ปี หากไม่นำมาถ่ายภาพเพื่อพูดคุยกับคุณwasabiและคุณxlmenผมก็ไม่ได้นำออกมาดู ตอนนี้ผมถ่ายหมดแล้วพระก็เก็บไว้ธนาคารแล้ว เวลาอยากดูก็เปิดดูในกระทู้สบายใจ และปลอดภัย หากใครเก็บพระที่คิดว่ามีราคาไว้ที่บ้านมากๆก็ต้องคิดดีๆนะครับผู้ใหญ่หลายท่านที่ขึ้นชื่อว่ารังพระ โดนโจรกรรมมานักต่อนักแล้ว

 

โอ้............. ประเด็นนี้ของคุณทรงกลด สร้างความปลอดภัยขึ้นมาก แต่อย่างที่ผมถาม การที่คนธรรมดาทั่วไปจะรู้จุดสถานที่ของ IP ที่ว่าได้อย่างไร นอกจากweb site นั้น หรือยกเว้นรัฐบาลใช่ไหม หรือมีช่องทางอื่นอีกครับ งง จิงๆ แต่สิ่งที่ดีที่สุดอย่างที่ท่าน ไฟหฟิร และคุณพ่อเลี้ยงกล่าว ผมคงต้องบอกเพื่อน ๆ และญาติให้ไปหาที่เก็บไว้ในธนาคารดีที่สุด ( แม้ว่าจะเก๊ หรือแท้ หรือพิมพ์นิยม ไม่นิยมก็ตาม) ส่วนผม แหะๆ ไม่สารถเปิดเซฟได้ เลยต้องฝากพี่ผมไว้ เขาเรียกว่ามีทองเท่าหนวดกุ้ง นอนสดุ้งจนเรือนไหว 555 คนอื่นมีมากกว่าผม ไม่รู้คิดยังไงโดยเฉพาะเจ้าเพื่อนที่ทำงานผมพึ่งวางหูไปเพราะเขาเปิดดู แล้วโทรมาหาผม เห็นว่าจะไปเปิดเซฟ ( บ้านเขามีการค้าอยู่ ) ไอ้เราอิจฉาเลย เฮ้อ..... กติกาธนาคารเรื่องมากจัง แต่ก็ดีไม่ต้องจ่ายค่าเช่า เพราะมีอยู่แค่หนวดกุ้งเอง อิอิ

 

สวัสดีครับ k.wsbs และเพื่อนๆสมาชิก.พรุ่งนี้เป็นวันพระใหญ่ขึ้น๑๕ค่ำเดือน๘หลายท่านก็ยังต้องทำงานอยู่.มีโอกาศก็อย่าลืมทำบุญกันน่ะครับ..อ้อ k.wsbs ครับ มีสมเด็จ๓องค์มาให้พิจารณา องค์แรกเป็นบางขุนพรหมหรือเปล่าครับ.เกศไชโยพิมพ์กรุวัดโพธิ์เกียบไม่แน่ใจ.อีกองค์บางขุนพรหม๐๙ใช่หรือเปล่า..เท็จจริงเป็นเช่นไร...
ขอบคุณครับ...ฝันดีทุกท่านครับ

 

อนุโมทนาสาธุ....กับคุณ ทรงกลด ด้วยครับ.....
ผมได้รับพระที่คุณทรงกลดส่งมาให้แล้วครับ....เป็นพระพิมพ์สมเด็จ 2 หน้า 2 องค์.....
เอ...ไม่ใช่สิครับต้องเรียกว่า 2 หน้า 4 องค์ แต่มี 2 อันถึงจะถูกครับ...หุหุหุ

ส่วนเนื้อหามวลสาร....พิมพ์ทรงนั้นผมไม่ขอวิจารณ์ละกันครับ....
เอาเป็นว่ารบกวนคุณวาซาบิช่วยวิเคราะห์พระ 2 องค์นี้ให้ผมหน่อยเถอะครับ....

ไม่ว่าจะแท้หรือจำลองพิมพ์ถ้าเจตนาผู้ให้ดีซะแล้วสิ่งอื่นก็ไม่ใช่ปัญหาครับ...
ยังงัยผมก็ต้องขอขอบคุณในน้ำจิตน้ำใจ....คุณทรงกลดที่ส่งพระมาให้ในครั้งนี้ด้วยครับ สาธุครับ.....

 

IP Address.......
ในโลกของ internet เป็นการเลียนแบบสภาพแวดล้อมปกติ หัวใจสำคัญคือ...สมาชิกของ network แต่ละตัวต้องมีตำแหน่งที่อยู่เป็นตัวบ่งชี้ให้ network เอง..ได้เข้าถึงและควบคุมสมาชิกหรือ node ต่างๆที่ network ต้องดูแล

ถ้าเป็น network ระดับองค์กร ....admin ของ network ก็จะรู้ตำแหน่งที่อยู่ของสมาชิกและสามารถเข้าถึง ควบคุม โดยใช้การอ้าง IP Address

ดังนั้น...ในโลกของ internet กับโลกจริง...ก็ไม่แตกต่างกันในสายตาของ hager

ถ้าถามว่า...รู้ได้ไงว่าบ้านตรูอยู่ตรงไหนของโลก?
หากท่านเป็นสมาชิก internet ขององค์การโทรศัพท์ (สมมุตินะครับ) และกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มการขอเป็นสมาชิก แบบโกหก ก็คงหาบ้านท่านยากพอสมควร

แต่ในความเป็นจริง...ท่านอาจจะลงทะเบียนและให้ข้อมูลกับหน่วยงานอื่นๆไว้ เช่นบัตรเครดิต หรืออื่นๆอีกมากมาย และชื่อ-นามสกุลของท่าน ตกเป็นส่วนหนึ่งและอยู่ใบบัญชีของ google ท่านก็อาจถูกสืบค้นหาที่อยู่ได้ แต่ถ้าท่านเปลี่ยนที่อยู่หรือย้ายบ้านบ่อย...ก็หาได้ยากอีก

การที่ท่านใช้งาน internet ไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่สำนักงาน ในเมื่อท่านเป็นสมาชิก ก็เหมือนท่านเป็นลูกบ้าน...ย่อมมีผู้ปกครองที่อยู่สูงกว่า ทั้งในระดับองค์กร ระดับประเทศ และระดับโลก

หากท่านเอง...บุกออกไปผ่านโลก internet ในระดับไหน...ก็จะมีโอกาศในสมาชิกในสังคมนั้นๆ เข้าถึงตัวท่านได้ในทางกลับกัน ทุกอย่าง...เป็น two way communication ในเมื่อท่านมีช่องทางออก ก็ย่อมมีคนอื่นอาศัยช่องทางนั้นเข้าถึงตัวท่านเช่นเดียวกัน

ถึงแม้เรามองว่ามันน่าจะยากนะ...ที่จะรู้ที่อยู่เรา
แต่...ในโลกใบนี้ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ครับ

 

ก็เหมือนอย่างที่คุณวาซาบิได้ชี้แจงไปแล้วก่อนหน้าแหละครับ.....ถ้าเป็นพระ

1. ยุคต้น : ผมใช้หลักตัดสินจากแม่พิมพ์ถ้าเป็นพิมพ์ชาวบ้านหรือเจ้าประคุณสมเด็จท่านแกะเองความสวยงามของแม่พิมพ์อาจจะสวยสู้ช่างสิบหมู่แกะถวายไม่ได้ + ยุคต้นนั้นใช้ตัวประสานพวก กล้วย ข้าว น้ำอ้อยเคี่ยว หรือ ลงรักปิดทอง...
ความสวยงามของผิวจะไม่ค่อยงามนักมีการแตกลายงาค่อนข้างมากแม้ว่าจะไม่ได้ลงรักก็ตาม

ช่วงอายุของสมเด็จท่านในยุคต้นก็น่าจะประมาณ 23-32 ปีครับ (โดยประมาณ) หรือช่วงที่เป็นพระลูกวัด

2. ยุคกลาง : พิมพ์จะแกะสวยกว่ายุคต้นเนื่องจากได้ช่างสิบหมู่มาช่วยแกะพิมพ์ถวาย
หลังจากที่ท่านเริ่มได้สมณศักดิ์ครั้งแรก ส่วนตัวประสานนั้นยังเหมือนพระยุคต้น

ช่วงอายุของสมเด็จท่านในยุคกลางก็น่าจะประมาณ 32-78 ปีครับ (ตัดช่วงอายุระหว่างยุคกลางกับยุคปลายที่หลวงวิจารเริ่มจะเข้าวัดครับ)

3. ยุคปลาย : จัดว่าเป็นยุคที่หลวงวิจารเริ่มจะเข้าวัดมารู้จักเจ้าประคุณสมเด็จโตแล้วและท่านก็เป็นหัวหน้าช่างสิบหมู่อีกทีทำให้ฝีมือในการแกะพิมพ์พระในยุคนี้จัดได้ว่าสวยที่สุด + เริ่มมีการนำน้ำมันตั่งอิ๋วเข้ามาผสมในองค์พระเพื่อลดการแตกลานเป็นครั้งแรก...

ช่วงอายุของสมเด็จท่านในยุคปลายก็น่าจะประมาณ 78-85 ปีครับ


เรื่องการตัดสินยุคของพระนั้นเป็นเพียงการคาดคะเนครับคุณพ่อเลี้ยงอย่าถือเป็นกฎตายตัว.....
เพราะบางครั้งก็มีชาวบ้านแกะพิมพ์มาถวายเองในช่วงอายุที่สมเด็จท่านอายุมากในยุคปลายก็มีครับ...

หรือจะใช้วิธีการแบ่งยุคออกเป็น 2 ยุคก็ได้ครับ คือ ยุคต้น กับยุคปลาย...
ให้ยุคปลายเริ่มจากน้ำมันตั่งอิ๋ว ถ้ามีพระพิมพ์ชาวบ้านที่ผสมตั่งอิ๋วก็ตีให้ตีเป็นพระยุคปลายไว้ก่อน....
(แต่ก็ตัดสินยากอีกเพราะบางกรณีก็อาจจะมีแหละครับที่ชาวบ้านมาแบบเร่งด่วนน้ำมันตั่งอิ๋วหมดก็อาจจะผสมเนื้อแบบยุคต้น กดไปเลย....สมมุติฐานก็คือ อาจจะเป็นไปได้ครับ หุหุหุ)

ยกเว้นประเภทพระสองคลองที่กดพิมพ์วัดระฆังในยุคต้น....แล้วนำมาใส่กรุบางขุนพรหมในยุคปลาย...อันนี้ต้องเรียกว่า พระสองยุค...สองวัดครับคุณพ่อเลี้ยง หุหุหุ

 

ดูพระสมเด็จให้หน่อยครับ

รบกวนผู้รู้ทั้งหลายช่วยด้วยครับ

 

พระของคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->keepwork<!-- google_ad_section_end -->
องค์นี้เมื่อพิจารณามวลสารพวกเกสรดอกไม้ ยังดูสดไปนิดครับ...การยุบตัว หรือหลุดตัวของเกสรยังไม่ปรากฎครับ...

ส่วนผงพุทธคุณในเนื้อพระยังไม่ผุดไม่ยุบเท่าที่ควร...

ลักษณะปูนเปลือกหอยดูมันนิดๆ ยังไม่ถึงกับหนึกนุ่มเท่าที่ควรครับ...


ส่วนองค์นี้ผิวปูนเปลือกหอยดูกระด้างมากครับ....ผิวคราบดูเหมือนผิวแต่งมาก....
การยุบตัวของมวลสารน้อยเกินไป....ผิดพิมพ์เยอะครับ


พระของคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ธรรมภณ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3581403", true); </SCRIPT>
เรียนตามตรงครับว่า....ลักษณะพิมพ์นั้นยังผิดพิมพ์ค่อนข้างมากนะครับ....
ปกติการสร้างพระพิมพ์ปรกโพธิ์นั้น...เป็นการสร้างพระเพื่อฉลองการได้รับสมณศักดิ์ในแต่ละครั้ง....ช่างที่แกะพิมพ์ปรกโพธิ์ถวายที่ถือว่าดูดีที่สุดก็คือ หลวงสิทธิ์

แต่ถ้าบังเอิญไปพบพิมพ์อื่นที่ไม่ใช่หลวงสิทธิ์แกะถวายฝีมือสกุลช่างสิบหมู่ก็ไม่น่าจะทิ้งกันมากนะครับ...ความสมมาตรน่าจะดีกว่านี้นะครับ

ลักษณะผิวเนื้อมัน แต่ไม่หนึก ยังไม่นุ่มไม่ซึ้งตาเท่าที่ควรครับ....

 

ขอปิดเบรคที่พระของคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->WINAI15<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3583097", true); </SCRIPT> นะครับ....


องค์นี้ผมไม่ทราบวัดครับ....เดี๋ยวคงต้องรอคุณวาซาบิมาช่วยดูอีกทีครับผม.....



พระสมเด็จพิมพ์เกศไชโยฐาน ๗ ชั้น องค์นี้พิมพ์สวยมากครับ....เศียรเม็ดพริกไทย มีคอ พิมพ์ทรงผมว่าผ่านนะครับ...

เนื้อเป็นปูนเปลือกหอยหนึกนุ่ม ซึ้งตาดีครับ....ผิวพระมีคราบน้ำอ้อยเคี่ยว และราน้ำตาลปกคลุมถือว่าดูดีครับ....

มวลสารเกสรดอกไม้ ผงดำเยอะมาก....

กรณีถ้าไปเจอพระที่พิมพ์สวย + องค์ประกอบอื่นๆ ดูดีใกล้เคียงมาก
ให้เช่าหาบูชาให้ถูกที่สุดครับเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะได้พระจำลองพิมพ์มาครับ....

ว่าง่ายๆ ก็คือ ถ้าเกิดพระองค์ดังกล่าวเป็นพระจำลองพิมพ์ขึ้นมา....
ถ้าเราเช่าหามาถูกก็ไม่น่าเสียดายตังส์เท่าไหร่....ดีกว่าเสียเงินเป็นหมื่นเป็นแสนแล้วกระอักเลือดเป็นกระโถนเยอะเลยครับ...หุหุหุ

อย่างองค์นี้นั้นการแตกลายงาดูดีเป็นธรรมชาติมากครับ...ผิวเนื้อคล้ายวัดระฆัง
ถ้างามแบบนี้เป็นผมห้อยได้สบายใจเลยครับ...ว่าแต่คุณ win จะยอมให้ผมยืมไปห้อยรึเปล่าหละครับ 555+

 

สำหรับ คุณxlmen ได้เสมอ ครับ หุหุ (ต้องไปขอพี่ชายก่อนน่ะครับ) องค์นี้พี่ชายเช่ามา หลักพัน ครับ พิมพ์ องค์นี้เป็นพิมพ์นิยมพิมพ์ C ใช่ไหม ครับตั้งแต่รู้จักกระทุ้นี้ได้ความรู้เยอะมาก จากไม่เคยมีความรู้เลย จริงๆๆ /ขอบคุณ คุณxlmen และคุณ wasabi san

 

หักคอพี่ชายยืมมาห้อยเลยครับคุณ WIN ของดีมีน้อยโปรดใช้สอยอย่างประหยัดว่าแล้วก็ต้องแบ่งให้น้องชายแล้วหละครับ...เหตุผลออกจะดีรับรองได้ชัวร์ หุหุหุ

ส่วนจะเรียกว่าพิมพ์ A B C D นั้นผมไม่ทราบหรอกครับ...เท่าที่ผมรู้ก็คือ ?
พิมพ์นี้ช่างอ่างทองน่าจะแกะแม่พิมพ์ตัวเดียว....แต่ปาดแม่พิมพ์ซ้ำหลายรอบเนื่องจากบล๊อคตัน....ส่วนในบันทึกของลป.คำ ระบุว่ามีทั้งพิมพ์ที่เศียรกลม มะตูม และอื่นๆ (จำไม่ได้ครับ...คริคริ)

แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกบร็อคจะเหมือนกันก็คือ ช่วงแขนนั้นจะยกเหมือนกันหมด
(เฉพาะพิมพ์ 7 ชั้น พิมพ์นิยมนะครับ)
คุณวาซาบิจะเรียกว่า "พิมพ์นักเลงโต" เพราะไหล่จะยก...วงแขนจะกว้างหนะครับ ซึ่งก็ไม่ผิดกติกาเพราะคนอ่านๆ แล้วเข้าใจง่ายดีครับ....หุหุหุ


ส่วนจะเช่ามาถูกหรือแพงนั้นไม่สำคัญหรอกครับ.....
ผมเคยเจอกรณีแบบเดียวกันนี้บ่อยไปครับ....สมเด็จท่านชอบคนจนครับท่านมักจะไปหาคนจนที่ฐานะไม่ดี....แต่นิสัยดีไปโปรดให้คนจนอย่างเราๆ นี่แหละครับให้ได้ครอบครองพระดีๆ ของท่านครับ.....

อย่างในประวัติของท่านก็มีออกจะบ่อยไปครับที่ท่านมักจะบอกแม่ค้าที่มาขอรับพระสมเด็จจากท่านไปว่า

"ถ้ารวยแล้วไม่ต้องมาหานะจ้ะ...แต่ถ้ายังจนอยู่ให้มาหาอีกบ่อยๆ นะจ้ะ"

ปรากฎว่าแม่ค้าคนนั้นค้าขายดีสุดๆ ไม่มีเวลาพักเลย...จึงต้องฝากเด็กที่ร้านให้มาทำบุญแทน...นี่พระสมเด็จท่านสุดยอดก็เพราะแบบนี้แหละครับคุณ WIN

 

พระองค์นี้นอกประเด็นไปมากแต่ผมเปิดกระทู้ใหม่ไม่เป็นและประเด็นสำคัญอยากถามคุณwasabiและคุณxlmenว่า พอจะรู้วัดที่สร้างพระพุทธชินราช องค์นี้หรือเปล่า( พระองค์นี้ไม่ใช่วัดสุทัศน์แน่ๆ)องค์เดียวกันผมถ่ายหลายหน

 

ขอบคุณ มาก ครับ คุณxlmen อยากจะบอกว่า ตอนนี้ พระองค์นี้ก็อยู่ที่ห้องผม พอดีเอามาถ่ายรูปขอคำแนะนำจากคุณxlmen และคุณ wasabi san แต่ยังไม่ได้เอาใส่กรอบ เลย ถ้าอย่างนั้น คงไม่คืนพี่ล่ะ ครับ คงเอาไว้ บุชา ละกัน คงเงียบๆๆไป พี่คงลืมไปเอง อิอิ

 

โอววว.......ถ้าไม่ใช่วัดสุทัศน์ผมก็ไม่รู้แล้วหละครับว่าพระองค์นี้ออกที่วัดไหน....?? (มึนหัวตึ้บรอบสอง 555+)

 

คุณxlmenลองหาพระกริ่งอินโดจีนมาเทียบสิครับด้านหน้าและด้านหลังจะไม่มีตราดอกเลาผมหาพิมพ์เทียบอยู่นานแล้ว

 

สายตาคุณวาซาบิช่างแหลมคมจริงๆ ครับ....ผมก็มองพลาดไปคิดว่าเป็นดินน้ำมันสีฟ้าติดพระ 555+

เอาหละสิครับ....ถ้ามีพระพิมพ์นิยมที่มีเนื้อรงค์ผสมกลายเป็นสมเด็จวังหน้า...น่าคิดมากว่าพระชุดนี้ดูท่าคนจะรู้จักน้อย หรือแทบจะไม่รู้จักเลยก็ว่าได้ครับ...

นับเป็นพระที่หาชมได้ยาก....เหนือความคาดหมายของผมจริงๆ ครับคุณอังคาร

 

สายตาคุณวาซาบิช่างแหลมคมจริงๆ ครับ....ผมก็มองพลาดไปคิดว่าเป็นดินน้ำมันสีฟ้าติดพระ 555+

เอาหละสิครับ....ถ้ามีพระพิมพ์นิยมที่มีเนื้อรงค์ผสมกลายเป็นสมเด็จวังหน้า...น่าคิดมากว่าพระชุดนี้ดูท่าคนจะรู้จักน้อย หรือแทบจะไม่รู้จักเลยก็ว่าได้ครับ...

นับเป็นพระที่หาชมได้ยาก....เหนือความคาดหมายของผมจริงๆ ครับคุณอังคาร<!-- google_ad_section_end -->

ผมว่าถ้าเพื่อนผมเขาได้ดูโพสนี้แล้วหล่ะก็ คอเขาคงผงกขึ้นมาอย่างเก่าแน่ ( ตอนนั้นเดินคอตกออกไป อิอิ )ก็ถือว่าเขามีบุญไปเน๊าะ ก็ต้องให้เพื่อนรอลุ้นต่อไป

 

รบกวนพี่ๆช่วยดูให้ด้วยครับ ขอบคุณมากครับ องค์ที่1

 

รบกวนพี่ๆช่วยดูให้ด้วยครับ ขอบคุณมากครับ องค์ที่2