ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. kowmoo

    kowmoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,896
    ขณะนี้เวลา 5.00 PM ฝนตกหนักมากกกกกกกกกกกก สี่พระยา ตลาดน้อย หัวลำโพง ตู้ดๆ
     
  2. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    นนทบุรี ฝนก็ตกครับ ลมแรงมากๆ
     
  3. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    ลาดพร้าว ตกหนักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พายุอีกต่างหาก :boo:
     
  4. บัวรองพุทธบาท

    บัวรองพุทธบาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +745
    กราบขอบพระคุณอาจารย์ครับ ที่อาจารย์เมตตาตักเตือนมาครับ
    อาจารย์กล่าวถึงโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ผมนึกถึงเรื่องหนึ่งที่คุณ
    GenerationXXX เคยได้โพสต์ไว้ครับ

    http://palungjit.org/threads/ไปทำบุญที่บ้านสบายใจมา-หลวงพ่อสมปองบอกเกี่ยวกับอนาคตอันใกล้นี้.239063/

    ตอนนั้น เป็นช่วงเดือนพฤษภาครับ นี้อาจเป็นหนึ่งในข้อมูลสนับสนุนที่สำคัญครับ จึงเอามาให้ท่านพิจารณาดูกันครับ
     
  5. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 04 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7188 ข่าวสดรายวัน


    โคราชป่วน-ไข้เลือดออกพุ่ง



    นครราชสีมา - น.พ.วรัญญู สัตยวงศ์ทิพย์ ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ระบุถึงสถานการณ์การระบาดของโรคไข้เลือดออกในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-1 ส.ค. พบผู้ป่วยที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกแล้วทั้งสิ้น 2,095 ราย เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.สีคิ้ว 1 ราย, อ.ครบุรี 1 ราย และที่ ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง 1 ราย สถานการณ์การระบาดของโรคไข้เลือดออกยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในช่วงฤดูฝนนี้จะมีการระบาดของโรคไข้เลือดออกจะยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้นอีก เนื่องจากปัญหาโลกร้อนส่งผลให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น ซึ่งเหมาะแก่การแพร่ขยายพันธุ์ของยุงลาย ทั้งนี้ จากรายงานการวิจัยของกองระบาดวิทยาพบว่าในนครราชสีมาจำนวนผู้ป่วยสะสมของปีนี้มียอดสูงสุดในรอบ 5 ปี โดยสถิติปี 2552 มีจำนวนผู้ป่วยสะสมเพียง 1,007 ราย แสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ป่วยสะสมของปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 2 เท่าตัว และยังคงมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีกในช่วงนี้

    โดยจากรายงานสถิติจำนวนผู้ป่วยเฉพาะในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา พบว่า มีอัตราผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นถึง 600 คน ซึ่งหากเทียบกับค่าเฉลี่ยมาตรฐานในห้วง 5 ปีที่ผ่านมาแล้วพบว่าเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงที่เกิดการระบาดซ้ำซาก และมีจำนวนผู้ป่วยต่อประชากรสูงสุด อย่างเช่น อ.เทพารักษ์ และอ.ขามสะแกแสง นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง เทศบาล และอบต.ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปฉีดพ่นควันกำจัดยุงลายให้กับชาวบ้านให้ครอบ คลุมทุกพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมาโดยด่วนแล้ว

    เกาะช้างเดือดร้อนน้ำท่วมหนัก



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    เดือดร้อน - ถนนสายหาดทรายขาว-บ้านมาบค้างคาว-บ้านไก่แบ้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด ชำรุดเสียหายจากเหตุการณ์ฝนตกติดต่อกันหลายวัน สร้างความเดือดร้อนให้ชาวเกาะช้างและนักท่องเที่ยวมาก


    </TD></TR></TBODY></TABLE>ตราด - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถนนสายหาดทรายขาว-บ้านมาบค้างคาว และตลอดไปจนถึงบ้านไก่แบ้ บ้านท่าน้ำ ชำรุดเสียหายจากเหตุการณ์ฝนตกติดต่อกันหลายวัน สร้างความเดือดร้อนให้ชาวเกาะช้างและนักท่องเที่ยวมาก โดยเฉพาะบริเวณแหล่งท่องเที่ยวบ้านหาดทรายขาว ซึ่งเป็นเสมือนศูนย์กลางของการท่องเที่ยวเกาะช้าง แต่บริเวณดังกล่าวเกิดน้ำท่วมขังตลอดเวลา สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการในบริเวณดังกล่าวและนักท่องเที่ยว ตลอดจนประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา ระดับน้ำสูงประมาณ 10-20 ซ.ม. และผิวจราจรเป็นหลุมเป็นบ่อตลอดเส้นทางบ้านหาดทรายขาว ทำให้รถจักรยานยนต์ที่ใช้เส้นทางสายดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง

    แม่ค้าเปิดเผยว่า น้ำท่วมขังมานานแล้ว จนผิวจราจรชำรุด ชาวบ้านเดือดร้อนไปตามกัน รถยนต์ที่แล่นผ่านไปมา เหยียบน้ำกระเซ็นใส่นักท่องเที่ยวและคนเดินถนนได้รับความเดือดร้อนทุกวัน อยากให้เทศบาลตำบลเกาะช้างเร่งหาทางแก้ไข ระบายน้ำออกจากผิวจราจรและซ่อมแซมถนนให้อยู่ในสภาพปกติ

    เทิดไท้ราชินี-สามัคคีทั่วแผ่นดิน



    เมื่อวันที่ 3 ส.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดกิจกรรมพิเศษ "มหกรรมเทิดไท้ราชินี สามัคคีทั่วแผ่นดิน" ในวันจันทร์ที่ 9 ส.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 21.30-24.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี โดยถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงห่วงใยต่อปัญหายาเสพติด จึงได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ สมทบกับงบประมาณสำนักงาน ป.ป.ส. จัดตั้งเป็น "กองทุนแม่ของแผ่นดิน" โดยมีเป้าหมายเพื่อขจัดปัญหายาเสพติดให้ได้ผลอย่างยั่งยืน โดยการรวมพลังของชุมชนร่วมแก้ปัญหายาเสพติดด้วยจิตใจที่พึ่งตนเอง และฟื้นฟูทุนทางสังคมของหมู่บ้านและชุมชนให้เข้มแข็งตามสภาพของสังคมและวัฒนธรรมในแต่ละพื้นที่ ให้ยึดโยงกับความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน

    นายสุเทพ กล่าวว่า กิจกรรมในวันที่ 9 ส.ค.นี้ รัฐบาลจะเปิดให้ประชาชนร่วมสมทบทุน "กองทุนแม่ของแผ่นดิน" สนองพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยจะทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อพระราชทานให้กับ 10,000 หมู่บ้านในการใช้เพื่อดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ดังนั้น ขอให้คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการฯ ช่วยกันกระตุ้นเชิญชวนทุกภาคส่วน ในการร่วมสมทบทุน ทั้งนี้รัฐบาลตั้งเป้าที่จะขยายไปยังหมู่บ้านอื่นๆ เพื่อใช้ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้ได้ถึง 20,000 หมู่บ้าน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนร่วมสนับสนุนสมทบทุน "กองทุนแม่ของแผ่นดิน" ได้ ที่ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกแห่งทั่วประเทศ หรือทางธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนรัชดาฯ-สี่แยกสาธุประดิษฐ์ บัญชีสะสมทรัพย์ ชื่อบัญชี "กองทุนแม่ของแผ่นดิน" เลขที่ 195-4-73956-9 สอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานป.ป.ส. 0-2640-9343, 08-9969-1212 และ 08-1931-0808

    น่านระทึกดินยุบ



    เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 ส.ค.นายสุระพงษ์ รัตนโกศล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรน่าน ได้ประสานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.น่าน หลังรับแจ้งจากนายถวิล กาบแก้ว อายุ 57 ปี รปภ. ศูนย์ฯ ว่าเกิดหลุมยุบบริเวณแปลงทดลองศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรน่าน บ้านผาตูบ ม.7 ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน เหตุการณ์ประหลาดหลุมยุบ จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณแปลงทดลอง เป็นบ่อดินกว้างและต่ำกว่าจากขอบถนนดินประ มาณ 1.5 เมตร ปกติจะไม่มีน้ำ แต่ถ้าหากฝนตกจะมีน้ำขัง ชาวบ้านมักจะมาจับกบและเขียด หลุมยุบปากหลุมกว้าง 2-3 เมตร และมีน้ำขัง คนงานนำท่อนไม้ไผ่ยาว 6 เมตร วัดความลึกมิด

    ช็อกปกไทม์-สาวอัฟกันโดนตัดจมูก



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    เหยื่ออธรรม- ภาพหญิงอัฟกานิสถานถูกสามีตัดจมูก ตามคำสั่งของผู้บัญชาการตาลิบัน บันทึกโดยโจดี บีเบอร์ ขึ้นปกนิตยสารไทม์ สหรัฐ ฉบับ 9 ส.ค.2553 พร้อมรายงานเป็นเรื่องใหญ่ของฉบับ ที่พาดหัวข่าวว่า "จะเกิดอะไรขึ้น หากเราทิ้งอัฟกานิสถาน"


    </TD></TR></TBODY></TABLE>วันที่ 3 ส.ค. นิตยสารไทม์ช็อกผู้อ่านขึ้นปกสาวชาวอัฟกานิสถานที่โดนสามีตัดจมูกตามคำสั่งของตาลิบัน หญิงสาวมีชื่อว่าไอช่า วัย 18 ปี ถูกผู้บัญชาการตาลิบันพิพากษาให้สามีตัดจมูกและหู ในความผิดที่ไอช่าหลบหนีสามีที่ทำร้ายร่างกาย

    นิตยสารแนวรักชาติของสหรัฐพาดหัวข่าวว่า "จะเกิดอะไรขึ้น หากเราทิ้งอัฟกานิสถาน" เพื่อกระตุ้นความรู้สึกชาวอเมริกันที่ถกเถียงกันถึงบทบาทของสหรัฐในศึกอัฟกานิสถานที่ยืดเยื้อมา 9 ปี ขณะที่ริชาร์ด สเตนเกล บรรณาธิการบริหารของไทม์ กล่าวว่า คิดอยู่นานว่าสมควรเอาภาพนี้ขึ้นปกหรือไม่ เพราะเป็นห่วงสวัสดิภาพของไอช่าและต้องทำความเข้าใจกับเจ้าตัวว่าเอาภาพมาขึ้นปกเพื่ออะไร ไอช่ารู้ดีว่าตัวเองเป็นสัญลักษณ์ความทารุณที่ตาลิบันทำกับหญิงอัฟกันและไทม์ยืนยันว่าจะปกปิดที่อยู่ของไอช่าเป็นความลับ

    เรื่องหลักในเล่มเล่าเกี่ยวกับเสรีภาพที่สตรีอัฟกันได้รับหลังจากที่ตาลิบันถูกโค่นล้มและความหวาดกลัวหากตาลิบันฟื้นอำนาจอีก โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลอัฟกานิสถานต้องการปรองดองด้วย แต่สตรีที่ตกเป็นเหยื่อ รวมถึงไอช่า ตั้งคำถามว่า จะปรองดองกับคนเช่นนี้ได้อย่างไร

    หมอกร้อน



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ท่ามกลางหมอกควันจากไฟป่าที่ห่มคลุมกรุงมอสโกของรัสเซีย นักท่องเที่ยวหอบลูกจูงหลาน เดินผ่านเงาของโบสถ์เซนต์บาซิล และสุสานของวลาดิเมียร์ เลนิน ผู้ก่อตั้งโซเวียตในจัตุรัสแดงที่มองเห็นสลัวเลือนรางอยู่เบื้องหลัง หลายวันที่ผ่านมา เกิดไฟป่าไปทั่วยุโรปและรัสเซียเพราะคลื่นความร้อนที่ถาโถมมาตั้งแต่เดือนมิ.ย. ยังไม่คลี่คลาย






    ดินถล่ม

    คอลัมน์ รู้ไปโม้ด

    โดย น้าชาติ ประชาชื่น



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ดินถล่ม ภูเขาพัง น่าจะมีองค์ประกอบอื่นมากกว่าแค่ฝนตกหนัก น้าชาติหาคำตอบด้วยนะ

    Jang

    ตอบ jang

    สำนักธรณีวิทยา สิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี มีคำตอบว่า ดินถล่ม (Landslide) ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเกิดจากปัจจัยหลัก 4 ประการ คือ 1.สภาพธรณีวิทยา โดยปกติชั้นดินที่เกิดการถล่มลงมาจากภูเขา เป็นชั้นดินที่เกิดจากการผุกร่อนของหินให้เกิดเป็นดิน แต่เนื่องจากชั้นหินแต่ละชนิดมีอัตราการผุพังไม่เท่ากัน ดินที่ผุพังจากหินต่างชนิดกันจะให้ดินต่างชนิดกันและความหนาต่างกัน คุณสมบัติของดินในการยึดเกาะระหว่างเม็ดดินและค่าแรงต้านทานการไหลของดินก็จะแตกต่างกันตามชนิดของดินนั้นๆ ทำให้ไหล่เขามีความลาดชันไม่เท่ากัน และต้นไม้ที่ขึ้นตามธรรมชาติบนภูเขาต่างชนิดกันตามชนิดของชั้นดินและความสูงของภูเขา

    นอกจากนั้น ลักษณะโครงสร้างทางธรณีวิทยา เช่น รอยเลื่อน รอยแตก ก็มีผลต่อการผุพัง หินที่มีรอยแตกมาก หรือที่อยู่ในเขตรอยเลื่อน จะมีการผุพังสูง เนื่องจากมวลหินที่รอยแตกมีช่องว่างให้น้ำและอากาศผ่านเข้าไปทำปฏิกิริยาทางเคมีให้หินผุพังได้ง่าย ชั้นหินในบางบริเวณหากมีการแทรกดันของหินอัคนี หรือจุดที่มีน้ำพุร้อน และแหล่งแร่จากสายน้ำแร่ร้อน จะทำให้หินมีอัตราการผุพังยิ่งขึ้น เพราะความร้อนและสารละลายน้ำแร่ร้อนที่มาจากหินอัคนีแทรกซอนจะไปทำปฏิกิริยาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในเนื้อหิน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    2.ลักษณะภูมิประเทศ เป็นผลที่เกิดจากขบวนการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก การผุพังที่แตกต่างกันของชั้นหินและลักษณะการวาง ตัวของโครงสร้างชั้นหิน เป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อเสถียรภาพของดินบนภูเขา ยิ่งบริเวณใดที่มีความลาดชันสูงยิ่งมีโอกาสที่ดินจะสูญเสียเสถียรภาพและเคลื่อนที่ลงมาตามลาดชันของภูเขาได้สูง โดยเฉพาะชั้นดินทรายร่วนที่ไม่มีแรงยึดเกาะระหว่างเม็ดดิน นอกจากนี้ลักษณะภูมิประเทศที่เป็นร่องเขาหน้ารับน้ำฝน และเป็นบริเวณที่น้ำฝนไหลมารวมกัน จะทำให้ปริมาณน้ำในมวลดินสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้บริเวณพื้นมีค่าอัตราส่วนความปลอดภัยของลาดดินลดลง มีโอกาสเกิดการเคลื่อนตัวและถล่มลงมาได้มากกว่าพื้นที่ที่ไม่ใช่ร่องเขาหน้ารับน้ำฝน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    3.ปริมาณน้ำฝน ดินถล่มที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย เกิดขึ้นเมื่อฝนตกหนักเป็นเวลานาน โดยน้ำฝนจะไหลซึมลงไปในชั้นดินจนกระทั่งชั้นดินชุ่มน้ำ ไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้ เนื่องจากความดันของน้ำในดินเพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มความดันในช่องว่างของเม็ดดินดันให้ดินมีการเคลื่อนที่ลงมาตามลาดเขาได้ง่ายขึ้น และน้ำที่เข้าไปแทนที่ช่องว่างระหว่างเม็ดดินทำให้แรงยึดเกาะระหว่างเม็ดดินลดน้อยลง ส่งผลให้ดินมีกำลังรับแรงต้านทานการไหลของดินลดลง ทำให้ความปลอดภัยของลาดดินลดลงไปด้วย

    และถ้าหากปริมาณน้ำในมวลดินเพิ่มขึ้นจนมวลดินอิ่มตัวไปด้วยน้ำ และระดับน้ำในชั้นดินสูงขึ้นมาที่ระดับผิวดิน จะเกิดการไหลบนผิวดินและกัดเซาะหน้าดิน ความปลอดภัยของลาดดินจะลดลงไปครึ่งหนึ่งของสภาวะปกติ และถ้าฝนตกต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานออกไป น้ำจะไหลลงไปในระนาบของรอยการเคลื่อนตัวและชะล้างเม็ดดินที่เป็นดินเหนียวออกไปตามแนวระนาบ ทำให้ค่าแรงยึดเกาะระหว่างเม็ดดินบริเวณระนาบการเคลื่อนตัวลดลงไปอย่างมาก ก่อให้เกิดดินถล่มลงมาตามความลาดชันของไหล่เขา

    4.สภาพสิ่งแวดล้อม จากบันทึกเหตุการณ์ดินถล่มในอดีต พบว่าการเกิดดินถล่มส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภูเขาสูงชัน และหลายพื้นที่มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยจากการศึกษาพบว่าดินที่มีรากไม้ยึดเกาะจะมีค่าแรงยึดเหนี่ยวระหว่างเม็ดดินมากกว่าดินที่ไม่มีรากไม้ ซึ่งทำให้ค่ากำลังรับแรงต้านทานการไหลของดินสูงขึ้น ชั้นดินที่มีรากพืชหนาแน่นมาก ค่ากำลังรับแรงต้านทานการไหลของดินจะเพิ่มสูงขึ้นตาม และรากพืชยังมีส่วนดูดซึมเอาน้ำที่ไหลลงไปในดินให้มีปริมาณลดลง หรือชะลอการอิ่มตัวของดินอีกทาง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2010
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ไฟป่ารัสเซียยังไม่ดับคร่า 40 ชีวิต,ไร้บ้านร่วมแสน

    [​IMG]

    เหตุไฟไหม้ป่าที่รัสเซียยังลามไม่หยุด ล่าสุดทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 รายแล้ว ขณะที่อีกราว 100,000 คนต้องหนีออกจากบ้านเรือนเพื่อเอาชีวิตรอด...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ว่า สถานการณ์ไฟไหม้ป่าในรัสเซียที่ดำเนินมาเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์แล้วยังคงไม่ดีขึ้น โดยล่าสุดเหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นหลายร้อยจุดทั่วประเทศ ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 40 คน มีบ้านถูกเผาวอดไม่ต่ำกว่า 2,000 หลังคาเรือน และยังทำให้มีประชาชนที่ต้องอพยพหนีออกจากบ้านเรือนของตนอีกราว 100,000 ราย

    รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า สถานการณ์ไฟป่าในรัสเซียยังคงไม่มีแนวโน้มจะดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่แถบชานกรุงมอสโกอันเป็นเมืองหลวงของประเทศที่เกิดไฟป่ากระจายอยู่โดยรอบหลายสิบจุด ท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนจัดเป็นประวัติการณ์มากกว่า 35 องศาเซลเซียสในขณะนี้

    อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของรัสเซียออกมาเตือนว่าสถานการณ์ไฟป่าทั่วประเทศอาจเลวร้ายยิ่งขึ้นในสัปดาห์นี้ เพราะมีแนวโน้มว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในพื้นที่หลายส่วนอาจพุ่งสูงถึง 38 องศาเซลเซียสภายในวันเสาร์ (7 ส.ค.)นี้

    ด้านเซอร์เก คิริเยนโก ผู้อำนวยการศูนย์นิวเคลียร์ของรัสเซียออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งหาทางสกัดเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้เข้าใกล้เมืองซารอฟซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกราว 500 กิโลเมตรและเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยนิวเคลียร์แห่งชาติโดยเร็ว หลังมีรายงานว่าไฟป่าได้ลามเข้ามาถึงเขตชานเมืองชารอฟแล้ว

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th

    แม่ฮ่องสอน-น้ำป่าถล่มปายรอบ 2

    [​IMG]

    เกิดน้ำป่าหลากทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ตำบลแม่ฮี้ อ.ปาย เป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ สาเหตุจากฝนตกต่อเนื่อง ประกอบกับปริมาณน้ำสะสมตามเทือกเขามีมาก ขณะที่ชาวบ้านเชื่อน้ำท่วมเกิดจากโครงการขุดลอกลำน้ำปายของจังหวัด และ อำเภอปาย

    เมื่อเวลาประมาณ 8.00 น.วันนี้ (3 ส.ค.) ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 10 หลังคาเรือน รวมทั้งพื้นที่ทำการเกษตรบ้านแม่ฮี้ ต.แม่ฮี้ อ.ปาย นอกจากนี้น้ำป่ายังได้พัดหินและทรายเข้ามาสะสมในแปลงปลูกข้าว และถั่วเหลือง ได้รับความเสียหายประมาณ 5 ไร่ และที่นาถูกน้ำป่ากัดเซาะพัดที่ดินเสียหายไปประมาณ 2 ไร่เศษ

    ชาวบ้าน บ้านแม่ฮี้ เล่าว่า ช่วงคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักลงมาเป็นระยะ ๆ จากนั้นในช่วงเช้าจึงเกิดน้ำป่าไหลหลากทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรอย่างรวดเร็ว น้ำสูงกว่า 2 เมตร และไหลแรงกว่าน้ำป่าท่วมครั้งแรก เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา

    และชาวบ้านเชื่อว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดน้ำป่าครั้งนี้ คือโครงการขุดลอกลำน้ำปายของอำเภอปาย ที่ได้รับความเห็นชอบจากทางจังหวัด มีการขุดลอกหินและทรายในแม่น้ำปาย ทำให้เกิดร่องลึก และเมื่อเกิดน้ำป่าและมีปริมาณน้ำจำนวนมากทำให้น้ำไหลจากลำห้วยแม่ฮี้ลงสู่ลำน้ำปายอย่างรวดเร็วโดยไม่ถูกสกัดจากน้ำปาย ซึ่งเดิมระดับในลำน้ำปาย กับ ลำห้วยแม่ฮี้ จะมีระดับน้ำใกล้เคียงกัน ซึ่งโครงการดังกล่าวไม่ได้ก่อประโยชน์ให้กับประชาชนแต่อย่างใด และเมื่อเกิดน้ำป่าขึ้นในทุกปีก็จะพัดเอากรวด ทราย และหิน เข้ามาทับถมบริเวณที่เคยขุดลอกไว้

    ทางด้าน นายนิเวศน์ พูนสวัสดิ์ นายอำเภอปาย เปิดเผยว่า ทางอำเภอได้จัดตั้งศูนย์เตือนภัย และประสานงานไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อรับมือกับภัยพิบัติจากฝนตกหนัก ซึ่งเมื่อเกิดเหตุขึ้นก็ได้ประสานความร่วมมือเข้าไปให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที โดยหลังเกิดเหตุทางเทศบาลอำเภอปาย , อปพร., อส. , เจ้าหน้าที่ทหารจาก ฉก.ร 7 และ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ฮี้ ได้ร่วมมือกันในการเข้าไปให้การช่วยเหลือทันที ล่าสุดได้นำกระสอบบรรจุทรายกว่า 1,000 กระสอบ นำไปทำแนวกั้นตลิ่งทรุดตัวบริเวณที่เกิดอุทกภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ปัจจุบันพบว่า ได้เกิดฝนตกหนักทั่วทุกพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยตั้งแต่เมื่อเย็นวานเป็นต้นมาได้เกิดฝนตกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่พื้นที่อำเภอปาย อำเภอปางมะผ้า และ อำเภอเมือง ส่งผลให้ลำน้ำในลำห้วยต่าง ๆ และ แม่น้ำปาย มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ได้ออกประกาศเตือนภัย ฉบับที่ 1 (7/2553) เรื่องฝนตกหนัก เนื่องด้วยร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง

    ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือทุกจังหวัด ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านของจังหวัดในภาคเหนือ ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในช่วงวันที่ 3-5 สิงหาคม 2553

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพุธ ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553

    ลำพูน-ผู้ว่าฯตรวจพื้นที่รับมือน้ำท่วม

    [​IMG]

    [​IMG]

    ผู้ว่าฯลำพูน ลงพื้นที่ตรวจฝายกักเก็บน้ำหลายจุดในพื้นที่ สั่งให้เปิดฝายเร่งระบายน้ำป่าจากลำห้วยก้อที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร พร้อมประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่เสี่ยงทั้ง 15 ตำบลใน 5 อำเภอ เตรียมรับมือพายุฝนฟ้าคะนอง

    ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้น้ำป่าตามเทือกเขาในลำห้วยก้อ ตำบลก้อ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เอ่อล้นเข้าท่วมแปลงพืชผลทางเกษตรของชาวสวนข้าวโพดเสียหายเล็กน้อย ขณะที่บ้านเรือนประชาชนยังไม่ได้รับความเสียหายเพราะอยู่ไกลจากหมู่บ้าน ขณะที่เช้าวันนี้ นาย ดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ลงพื้นที่ตรวจฝายกักเก็บน้ำขนาดใหญ่กว่า 5 จุด พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ป้องกันพลเรือนช่วยกันนำสิ่งกีดขวางทางน้ำออกให้หมด และให้เปิดประตูระบายทุกฝายเพื่อเป็นการป้องกันน้ำท่วม

    นอกจากนี้ยังประกาศเตือนประชาชน และเกษตรกรชาวสวนในพื้นที่ 15 ตำบล ใน 5อำเภอ ได้แก่ อำเภอลี้ อำเภอแม่ทา อำเภอป่าซาง อำเภอบ้านโฮ่ง และอำเภอทุ้งหัวช้าง ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม และรับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในช่วงวันที่ 2-5 ส.ค.53 พร้อมทั้งเตรียมรับมือฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 6-8 ส.ค.สำหรับพื้นที่การเกษตรซึ่งอยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดทำทางระบายน้ำออกจากแปลงปลูกเพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง

    นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กำชับให้สำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูน ผู้นำชุมชน ท้องถิ่น เตรียมความพร้อมตลอด 24 ชม.เพื่อช่วยกันเตือนภัย แจ้งข่าวสาร ประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ตามเทือกเขาให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนก็ต้องระวังพืชผลทางการเกษตรจะเสียหาย

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันพุธ ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ปลูกผัก บ้านในเมือง
    โดยหนูดี

    [​IMG]

    ฝนตกหนักแทบทุกวันแบบนี้ หนูดีเคยคิดว่า พืชผักต้องเติบโตดีแน่นอน ในฐานะคนเมืองที่ไม่เคยชินกับการปลูกผักมาก่อน หนูดีก็เริ่มต้นลงเมล็ดพันธุ์ผักเมื่อเริ่มฤดูฝนทันที และก็พบว่า ไม่มีผักขึ้นมาเลยแม้แต่ต้นเดียว เรียกว่า ถ้าเป็นข้อสอบก็คือสอบตกแบบติดเอฟเลยทีเดียวค่ะ

    หนูดีเริ่มสนใจปลูกผักเมื่อ 2-3 ปีมานี้เอง ในชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยสนใจเลยว่า ผักมาจากไหน ไม่เคยแม้กระทั่งคิดจะหาเมล็ดพันธุ์ คิดจะเตรียมดิน คิดจะปลูก เพราะแค่คิดก็เริ่มคันตัวแล้วค่ะ คนที่ไม่คุ้นเคยกับดิน อยู่ดีๆ จะให้ไปขุดดินไปจับจอบก็กระไรอยู่ สำหรับคนเมืองอย่างพวกเรา ผักหมายถึงสิ่งมีชีวิตสีเขียวที่อยู่ในถุงพลาสติกหรือวางเรียงกันอยู่ในตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ต และเรามีหน้าที่เลือกชนิดให้เหมาะกับอาหารที่เราจะทำ.... หากช่วงนั้นเราว่างพอ หรือ มีแรงบันดาลใจมากพอจะทำอาหารสักจาน

    แต่แค่หาเวลาจะทำอาหารยังยาก ดังนั้น การจะคิดนอกกรอบไปถึงขนาดที่จะปลูกผักเอง ที่แค่ฟังดูก็วุ่นวายจนไม่น่าคุ้มค่าเวลา จึงเป็นเรื่องที่ไม่เคยอยู่ในความสนใจของหนูดีเลย กระทั่งหนูดีเรียนจบแล้วกลับมาทำงานที่เมืองไทยใหม่ๆ โรงเรียนวนิษาพาเด็กนักเรียนประถมจำนวนเกือบร้อยคนขึ้นไปปั้นพระดินและปฏิบัติธรรมที่วัดสันกู่ อ.แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ หนูดีช่วยคิดตารางกิจกรรมของเด็กด้วย ก็ได้ค้นพบว่า มี “ บ้านดิน ” ของพี่โจน จันได อยู่ไม่ห่างไปจากวัดนัก วันหนึ่ง เราเลยจัดการพาเด็กไปเยี่ยมพี่โจนที่บ้านดิน ศูนย์พันพรรณ ที่ใจกลางหุบเขา อากาศดี

    พี่โจนเล่าให้เด็กฟังถึง “ เมล็ดพันธุ์ท้องถิ่น ” ที่กำลังจะสูญหาย เหมือนวัฒนธรรมและภาษาท้องถิ่นที่กำลังถูกกลืน และสูญหายไปเรื่อยๆ ทุกวัน ตอนนั้น หนูดีสงสัยว่าการที่เมล็ดพันธุ์ท้องถิ่นสูญหาย จะเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหนกันเชียว ก็เลยได้รับคำอธิบายว่า เมล็ดพันธุ์พืชท้องถิ่น เป็นสิ่งสำคัญมาก เป็นมรดกที่ยิ่งใหญ่ที่บรรพบุรุษทุกชาติจะทิ้งไว้ให้ลูกหลาน และวิธีการเก็บรักษาพันธุ์คือ การปลูกลงดินต่อเนื่องไปเรื่อยๆ แล้วเก็บเมล็ดที่ดีที่สุดไว้ทำพันธุ์ต่อ นี่เป็นวิธีที่เมล็ดพันธุ์ถูกเก็บรักษามาเป็นพันหมื่นปีแล้ว แต่ปัจจุบัน คนเริ่มลดการกินผักท้องถิ่น เริ่มกินผักตัดแต่งพันธุกรรม กินผักนำเข้า ซึ่งผักตัดแต่งพันธุกรรมนั้น จำนวนมาก “ เป็นหมัน ” คือ ให้ลูกรุ่นต่อไปไม่ได้ ในฐานะเกษตรกร นี่คือ โศกนาฏกรรมทีเดียวค่ะ

    ใครคิดว่า เมล็ดพันธุ์เป็นของถูก หนูดีเพิ่งอ่านพบ เมล็ดพันธุ์มะเขือเทศพันธุ์นอกที่ขายกันที่เมล็ดละ 26 บาท ตกกิโลกรัมละ 12 ล้านบาทพอดีๆ ปัจจุบันมีเพียงเจ้าเดียวที่ได้ลิขสิทธิ์ต่อเนื่อง 5 ปีในเมืองไทย อ่านแล้วตกใจในความแพงอย่างไม่น่าเชื่อ

    แต่เมื่อก้าวเข้ามา หนูดีก็เริ่มหลงรักโลกแห่งการเกษตรนี้เข้าแบบเต็มตัว เริ่มไปเรียนวิชาการเพาะเห็ดที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 5 วันเต็ม เริ่มรับสมัครสมาชิกนิตยสารเกษตรกรรมธรรมชาติ เริ่มอ่านวารสารเคหการเกษตร เริ่ม YouTube เข้าไปดูการทำ Composting หรือ ทำปุ๋ยหมักเองในบ้าน เริ่มวางแผนจะเลี้ยงใส้เดือนในสวน จากที่ไปช้อปปิ้งหนังสือและเสื้อผ้า ก็เริ่มเปลี่ยนมาเป็นกระถางปลูกผักและอุปกรณ์ขุดดินประเภทต่างๆ

    หนูดีขับรถไปถึงราชบุรีเพื่อซื้อกระถางสีจากร้านเถ้าฮงไถ่ จะได้ปลูกผักแบบมีสไตล์ แถมยังถือโอกาสสะสมรองเท้าบู๊ตทำสวนลวดลายเก๋ไว้อีกหลายคู่ และจากคนที่นอนประมาณ 4 ทุ่ม หนูดีเคยทำสถิติเข้าซื้อเมล็ดพันธุ์ผักไม่ตัดแต่งพันธุกรรมจาก www.seedsaversexchange.com ด้วยความสนุกสนานจนเวลาผ่านไปถึงตี 2 ไม่รู้ตัว ซื้อเมล็ดพันธุ์ผักจากฟาร์มในอเมริกาแห่งนี้ไปได้หลายพันเมล็ด เฝ้าคอยพัสดุด้วยใจจดจ่อ เมื่อมาถึงและลองปลูกดูก็พบด้วยความตื่นเต้นว่า ผักเมืองหนาวหลายประเภทปลูกในเขตรังสิตของหนูดีได้หลายต้น เช่น ดอกกะหล่ำม่วงที่ปลูกได้ต้นสูงถึงเอว ต้นรูบาร์บที่เป็นผักอวบสีแดงสดไว้ทำพายสตรอเบอรี่ ต้นโคลราบี ที่เป็นตุ่มกลมบนดินสีม่วงเข้มรสชาติเหมือนมันแกว รวมถึงข้าวโพดพันสตรอเบอรี่ที่ผลเล็กแดงน่ากินน่าดู

    นี่เป็นงานอดิเรกที่ทำให้หนูดีอยากตื่นขึ้นมาทุกเช้า แล้วรีบเข้าไปในสวนเพื่อดูว่า วันนี้ ผักหนูดีโตไปถึงไหนแล้วบ้าง และเมื่อไปเรียนการเพาะเห็ด หนูดีก็เริ่มฝันอยากเป็นเจ้าของโรงเห็ดเล็กๆในโรงเรียนด้วย นี่เป็นความฝันที่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีในชีวิตนี้

    วันนี้ แม้จะยังเป็นฤดูฝน แต่ก็มีผักหลายชนิดที่ยังขึ้นได้ ที่โรงเรียนของหนูดีกำลังขึ้นดีทีเดียว เช่น ข้าวโพด ฟักทอง ผักบุ้ง (ขึ้นได้ทุกฤดู) ผักกาดขาว กระเจี๊ยบเขียว แตงกวา ใครที่คิดว่า ชีวิตนี้ไม่ปลูกผักเองแน่ๆ หนูดีขอชวนให้ลองเข้ามาสู่โลกนี้ดูค่ะ โลกที่หนูดีไม่เคยคิดจะก้าวเข้ามา แต่วันนี้ ไม่คิดจะก้าวออกไปอีกแล้ว ลองปลูกต้นแรกดูนะคะ แล้วรับรองว่า ต้นต่อไปเราจะไม่กลัวการปลูกพืชอีกเลย

    ติดตามหนูดีที่ www.facebook.com/mindbrainwww.twiter.com/nudi_vanessa <!-- Tags Keyword -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2010
  8. muser

    muser Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +99
    เสียดายมากรู้ช้าไปจริงๆค่ะ..เพราะเพื่อนได้เป็นไข้อยู่2อาทิตย์ก็ได้เสียชีวิตลงแล้ว...ทีแรกหมอว่าเป็นไข้เลือดออก2วันต่อมาได้ใส่ท่อช่วยหายใจทางปากและอยู่มาอาทิตย์กว่าหมอบอกว่าปอดพรุนปอดเป็นรูหมดแล้ว..ทำใจ..
    เสียชีวิตด้วยอายุเพียง39ปีเองค่ะ
     
  9. kowmoo

    kowmoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,896
    HELLO HELLO ข่าวด่วน แปลไม่ออกหรอก แต่ชอบเข้าไปดู ข่าวเมืองจีน *v* มนุษย์ต่างดาวลำที่โชว์ตัวป่าวไม่รู้ ทำอะไรใครตอบที[​IMG]
     
  10. kowmoo

    kowmoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,896
    ขออภัย แก้ข่าวจ๊ะ บ่ใช่จีน เป็นประเทศอังกฤษ แต่ข้าพเจ้าไปเอารูปมาจากจีน เลยมั่วนึกว่าจีน ขออภัยนะจ๊ะ
     
  11. boyZ

    boyZ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +64
    อยากทราบอาการเบื้องต้นของเพื่อนที่เสียชีวิตนะครับ เพราะเป็นห่วงหลานที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกเหมือนกัน
    ขอบคุณครับ
     
  12. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

    เรื่องอาการป่วยอย่าได้ประมาทครับ หากเราไม่แน่ใจว่า เราเป็นอะไร เป็นหวัด หรือไข้เลือดออก อย่าหายามาทานเอง ให้หมอตรวจจะดีกว่าครับ ยิ่งถ้าเป็นหนักแล้ว อย่าย่ามใจ ต้องไปหาทันทีครับ

    ที่บ้านผมค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องป่วยมาก เนื่องจากคุณพ่อผมเป็นแพทย์ ส่วนคุณแม่ผมเป็นพยาบาล ครับ เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ประมาณ 15-16 ขวบ ผมมีอาการปวดท้องเล็กน้อย ข้างขวา ปวดธรรมดาๆ เหมือนเสียดท้อง ทั่วไปครับ คุณพ่อผม ก็เรียกจับมาตรวจซะเลย กดนั่น กดนี่ เจ็บหรือเปล่า ? ผมก็บอกว่าเจ็บ สุดท้าย คุณพ่อ ก็ไล่ผม ไปทำบัตรประจำตัวคนไข้ที่โรงพยาบาลเฉย แล้วบอกฝ่ายทะเบียนว่า "มาผ่าไส้ติ่งอักเสบ" คนป่วยอะไร จัดการเบ็ดเสร็จเลย แล้วหลังจากนั้น คุณพ่อผมนี่ล่ะครับ เป็นคนผ่าไส้ติ่งอักเสบให้ผม ส่วนพี่สาวเป็นแพทย์เหมือนกัน เป็นคนเย็บแผลให้ และสุดท้าย คุณแม่ของผม เป็นคนพยาบาล ให้ผมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2010
  13. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    จนท.ช่วยเหลือ ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ติดน้ำป่าเขาใหญ่!!!


    เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ"ติ๊ก-เจษฎาภรณ์" พิธีกรเนวิเกเตอร์ และทีมงานเกือบ 20 คน ที่ติดอยู่บริเวณน้ำตกตะคร้อในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หลังเกิดฝนตกหนักจนเกิดน้ำป่า

    เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เข้าช่วยเหลือนายเจษฎาภรณ์ ผลดี และนายพิเชษฐไชย ผลดี พิธีกรรายการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เนวิเกเตอร์ และทีมงาน รวมถึงนักศึกษาแพทย์แผนไทย วิทยาลัยแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร์ อำเภอเมืองปราจีนบุรี ที่เดินทางไปร่วมถ่ายทำรายการประมาณ 20 คน ที่บริเวณน้ำตกตะคร้อ ซึ่งห่างจากที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยาน ฯ ประมาณ 8 กิโลเมตรโดยตลอดเส้นทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง เนื่องจากเป็นทางขึ้นเขาลาดชัน ส่วนบางจุดถูกน้ำท่วมสูง มีกระแสน้ำไหล และยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง
    อย่างไรก็ตามนายเจษฎาภรณ์กล่าวภายหลังได้รับการช่วยเหลืออย่าง ปลอดภัยว่าได้เดินทางมาถ่ายทำรายการเนวิเกเตอร์บริเวณน้ำตกตะคร้อ ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งในช่วงเย็นมีบรรยากาศที่สวยงามจึงถ่ายทำเกินเวลาที่นัดหมายกับเจ้า หน้าที่ไว้ ประกอบกับมีฝนตกหนัก และมีทีมงานที่เป็นผู้หญิงหลายคนจึงต้องรอจนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ
    ขณะที่นายนิวัฒน์ เกษสุวรรณ หัวหน้าหน่วยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่าในช่วงเย็นได้เกิดฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง ซึ่งเป็นแอ่งน้ำที่เรียกว่าแก่งกฤษณา ทำให้คณะไม่สามารถเดินข้ามแก่งมาได้ ต้องรอจนกว่าระดับน้ำจะลดลง ซึ่งทางอุทยานฯจึงได้จัดรถและเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ หลังจากเห็นว่าขาดการติดต่อไปหลายชั่วโมงแล้ว ภายหลังทั้งคณะได้รับการช่วยเหลือลงมาถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ อย่างปลอดภัยแล้ว คณะได้กล่าวขอบคุณก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร


    สนับสนุนเนื้อหา [​IMG]
     
  14. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    4 ส.ค. 53


    ชีพจรลงเท้า

    สรุปแล้วคืนพรุ่งนี้ ผมต้องเดินทางขึ้นฐานผาแบ่นอย่างกระทันหัน เพื่อที่จะไป
    ดำเนินการเรื่องเจาะน้ำบาดาลเอาไว้ใช้ในยามเกิดภัยพิบัติ เวลาประมาณ
    4-5ทุ่มรถจะออกจากขนส่งรังสิตไปถึงเชียงคานเช้าเวลาประมาณ 7นาฬิกา
    จากนั้นก็จะหาที่พักในตัวอำเภอ เพื่อสะดวกในการกินอยู่ เที่ยวนี้ขึ้นไปคนเดียว
    จากนั้นก็จะโทรฯสอบถามถึงรถเจาะว่าเดินทางไปถึงเชียงคานหรือยัง?
    เพราะคืนนี้ผมได้โทรฯนัดไว้แล้ว

    ที่ผมต้องรีบเพราะผมต้องการทำให้เสร็จเพื่อความสบายใจและจะได้ดำเนินการ
    อย่างอื่นต่อไปและรถเจาะอยู่ที่เพชรบูรณ์กำลังจะย้ายไปเจาะที่นครสวรรค์
    ถ้าไม่เจาะตอนนี้ก็ต้องรอคิวถัดไป



    องค์อินทร์ - ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น
     
  15. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    วันที่ 04 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 19:15:00 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->
    <center></center>
    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]แตกตื่นดอกลานบานชูช่อที่วัดตาปะขาวปลูกนานกว่า 80 ปี[/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<style> P { margin: 0px; } </style> เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2553 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพระมหาพิชัย ธมมฺวํโส เจ้าอาวาสวัดตาปะขาวหาย เจ้าคณะตำบลหัวรอ เขต 2 ว่า ที่ลานวัดตาปะขาวหาย ม.4 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก มีปรากฏการณ์ต้นลานหนึ่งต้น กำลังชูช่อดอกขาวสะพรั่ง มีผู้ทราบข่าวเดินทางมาชมดอกลานบาน เนื่องจากหาชมได้ยากมีเฉพาะต้นลานที่วัดตาปะขาวหายที่มีอยู่หลายต้นนั้นและ ปลูกมานานร่วม 80 ปีแล้ว เพิ่งพบเห็นต้นแรกที่ออกดอกบานสะพรั่ง อาจจะเป็นต้นแรกในจังหวัดพิษณุโลกที่ได้พบเห็นการออกดอกก็เป็นได้



    [​IMG]

    [/FONT]
     
  16. จ๋าเอง

    จ๋าเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +333
    ดอกลาน บานสะพรั่งมากสุดในรอบ 6 ปี


    [​IMG]


    ดอกลานบานสะพรั่งมากสุดในรอบ60ปี (คมชัดลึก)

    ตะลึงป่าลานผืนสุดท้ายกว่า 3 หมื่นไร่ ออกดอกบานสะพรั่งมากสุดในรอบ 6 ปี ชี้เป็นวัฎจักรออกดอกแล้วต้นจะตาย มีไม้รุ่นใหม่ขึ้นทดแทน แต่สถานการณ์น่าห่วงคาดเหลือเพียงแห่งเดียวที่อุทยานแห่งชาติทับลาน

    นายตระกูล อาจอารัญ หัวหน้าเขตการจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 2 (สวนห้อม) อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจปริมาณต้นลานในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 30,000 กว่าไร่ เมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย- ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ขณะนี้ต้นลานกำลังออกดอกเตรียมที่จะผลิบานในเดือน ก.ย.นี้จำนวนมาก และคาดว่าในปีนี้จะมีต้นลานที่ออกดอกบานมากที่สุดในรอบ 5-6 ปีที่ผ่านมา สร้างความสวยงามแปลกตาให้กับบริเวณป่าลานในเขตอุทยานแห่งชาติทับลานมากที่สุดอีกปีหนึ่งอีกด้วย โดยต้นลานที่กำลังออกดอกในขณะนี้ เป็นต้นลานที่มีอายุประมาณ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งตามธรรมชาติแล้วดอกลานจะออกดอกเพียงหนึ่งครั้ง และเมื่อออกดอกแล้วลำต้นก็จะเหี่ยวตายและมีต้นลานต้นใหม่ที่เกิดจากดอกลานที่กลายเป็นเมล็ดผลิขึ้นมาแทนที่ต้นเดิม

    นายตระกูล กล่าวว่า ใช้เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจทางอากาศเหนือพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติทับลานทั้งหมด พบว่า ปริมาณของดอกลานในปีนี้มีจำนวนมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา โดยในช่วงเดือน มิ.ย – ก.ค. เป็นช่วงที่ต้นลานเริ่มผลิดอก เริ่มบานในเดือน ส.ค.และจะบานเต็มที่ในเดือน ก.ย. - ม.ค. 2553 จากนั้นจะเริ่มร่วงจนหมดในเดือน พ.ค. ทำให้ขณะนี้ทั่วทุกบริเวณของพื้นที่ในเขตอุทยาน ทับลาน จึงเต็มไปด้วยดอกลานที่กำลังบานเป็นสีขาว ครอบคลุมไปทั่ว ทั้งในพื้นที่ป่าด้านล่าง รวมไปถึงตามยอดเขา และน้ำตกต่างๆ ทำให้เริ่มมี นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาชมความแปลกตาของดอกลานมากขึ้นแล้ว

    "จากหลักฐานข้อมูลที่เราเคยสำรวจเก็บไว้ พบว่าเมื่อประมาณปี 2546-47 หรือประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ก็เคยมีจำนวนดอกลานออกดอกบานสะพรั่งจำนวนมาก ครอบคลุมทั่วบริเวณอุทยานฯ ไปหมด แต่พอปีต่อๆ มาดอกลานก็ลดน้อยลง ไม่ได้มีจำนวนมากเหมือนคราวนั้น แต่พอมาถึงปีนี้ก็กลับพบว่ามีดอกลานออกดอกมาจำนวนมากอีกครั้ง สามารถสังเกตเห็นได้ทั่วไปทั้งบริเวณต้นที่อยู่ตามริมถนน หรือเข้าไปในบริเวณป่า โดยดอกลานจะออกดอกเพียงครั้งเดียวเมื่ออายุ 60 ปีขึ้นไป ก่อนที่มันจะตายลง มีดอกเป็นสีขาว ต้นหนึ่งจะผลิตดอกประมาณ 60 ล้านดอกทีเดียว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของต้นลานทั่วประเทศกำลังน่าเป็นห่วง ล่อแหลมต่อการถูกรุกรานจนมีปริมาณลดลง เพราะถูกชาวบ้านตัดทิ้งเพื่อใช้นำพื้นที่ไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น ก่อนหน้านี้พบต้นลานมากอยู่ในหลายพื้นที่ เช่นที่ ต.ดงลาน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น หรือ ในพื้นที่หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ แต่เชื่อว่ามีเพียงที่ทับลานเท่านั้นที่ยังคงมีต้นลานหน่าแน่นมากที่สุดในประเทศไทย

    "ต้นลานเป็นต้นไม้โบราณ ที่มีประโยชน์หลายอย่าง ในอดีตใบลานจะถูกนำมาใช้ในการเขียนบันทึกต่างๆ รวมทั้งเขียนเป็นคัมภีร์ และใช้ทำเป็นเครื่องจักรสาน ส่วนเม็ดลานก่อนหน้านี้จะนำมาทำเป็นขนมหวาน เรียกว่า ลูกชิด แต่ภายหลังเลิกใช้เปลี่ยนไปใช้ลูกจากแทน นอกจากนี้ต้นลานยังมีประโยชน์ในระบบนิเวศแสดงถึงความสมบูรณ์ของป่าอีกด้วย ดังนั้นการที่ดอกลานออกดอกมากในปีนี้ จึงเป็นโอกาสดีที่ประชาชนจะได้เรียนรู้ และร่วมอนุรักษ์ต้นลาน ซึ่งถือว่าเป็นต้นไปดึกดำบรรพ์ชนิดนี้ให้เพิ่มจำนวนเพิ่มขึ้นต่อไป" นายตระกูล กล่าว

    นอกจากนี้ หัวหน้าเขตการจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 2 (สวนห้อม) กล่าวอีกว่า สำหรับนัก ท่อง เที่ยว หรือประชาชนที่สนใจอยากจะเข้ามาดูดอกลานบานในปีนี้ สามารถเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมได้ตลอดเวลา โดยในระยะช่วงเดือน ส.ค.- ก.ย.นี้จะเป็นช่วงที่ดอกลานบานอย่างเต็มที่ และมองเห็นได้ง่ายตลอดริมข้างทาง และจะค่อยๆ เข้าสู่ระยะร่วงโรยในเดือน ต.ค. ไปจนถึง เดือน พ.ค. 53 แต่ก็ยังสามารถชื่นชมดอกลานและเม็ดลานได้เพราะมีอยู่ปริมาณมาก ทั้งนี้ทางอุทยานฯ ได้จัดเตรียมแผ่นพับ รวมถึงบอร์ดให้ความรู้วิชาการเกี่ยวกับต้นลานไว้บริการสำหรับผู้ที่สนใจ รวมทั้งการจัดกิจกรรมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปลูกต้นลานโดยการใช้หนังสติ๊ก ยิงเม็ดลาน จากบริเวณผาเก็บตะวัน ไปบนพื้นที่ด้านล่างเพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าอีกด้วย

    "เม็ดลานที่จะร่วงลงและกลายเป็นต้นลานต้นใหม่นี้ ในชั่วชีวิตเราอาจจะไม่สามารถกลับมาเห็นมันออกดอกได้อีกเพราะมันจะออกดอกตอนอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่เราก็สามารถมองเห็นดอกลานของต้นลานอื่นๆ ได้ และหากไม่ได้ชมดอกลานบานจำนวนมากที่สุดในปีนี้ ก็อาจจะต้องรอไปอีก 5-6 ปี ที่ดอกลานจะบานให้เห็นเยอะๆ ขนาดนี้" หน.เขต อช.ทับลานที่ 2 (สวนห้อม) กล่าว

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับป่าลาน ที่อุทยานทับลาน สภาพจะเป็นป่าโปร่ง มีลานขึ้นอย่างหนาแน่นทั่วพื้นที่ ป่าลานนี้มีเนื้อที่ 200 ไร่ บริเวณที่ราบบนเขาละมั่ง ด้านตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ไม้ลานเป็นพืชในตระกูลปาล์ม ( Palmae) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Corypha lecomtei Becc. บริเวณป่าลานและป่ารุ่นเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่สามารถปรับตัวอยู่ในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้แก่ กระรอก หนู กระต่ายป่า พังพอน เก้ง กวางป่า เหยี่ยวขาว นกคุ่มอกลาย กิ้งก่าหัวแดง ตุ๊กแกบ้าน กิ้งก่าหางยาว อึ่งอ่างบ้าน และคางคก เป็นต้น
     
  17. จ๋าเอง

    จ๋าเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +333
    [​IMG]
    ดอกลาน ...ตรงยอด รูปทรงปิรามิด สวยแปลกตาดีจัง
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    พระไตรปิฎก อักษรในธรรมชาติ รอบตัว

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    2-3 วันที่ผ่านมา ในห้องนอนผมเอง เป็นอพาร์ตเม้นท์ครับ อยู่ ชั้น 6 หน้าต่างจะอยู่ทางทิศใต้พอดี เป็นทิศทางเดียวกับลมพัดเข้าห้อง

    ผมสังเกตและสงสัยว่า ทำไมฝ้าเพดานห้องน้ำผม มันชอบเปิด ตอนแรกนึกว่า จะมีขโมยขึ้นห้อง หรือ จะมีผีรึเปล่า

    วันนี้ตอนเย็นลมแรงมากครับ เข้ามาในห้อง ถึงขนาดเปิดประตูห้อง บริเวณทางเดิน แทบเปิดไม่ได้เลย เพราะลมมันดันประตูห้องอยู่ ผมก็ได้ยินเสียง ครืดๆ ในห้องน้ำ ผมก็เจอแล้ว นี่ล่ะตัวการ คือ ลมแรง นี่เอง ลมมันปะทะฝ้าเพดาน จนมันลอย และเปิดเองได้ครับ

    ถ้าเกิดเป็นพายุไต้ฝุ่น มันจะขนาดไหนเชียว

    มิน่า ฝรั่งจะมี พวกเทปผ้า (Duct Tape) ไว้อยู่เสมอ คอยปิดตามขอบประตู หน้าต่าง กันลม กันกระจกแตกเพราะลม ไว้ด้วยครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_5817.jpg
      IMG_5817.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.6 KB
      เปิดดู:
      1,590
  20. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865

    ขอแสดงความเสียใจด้วย ครับ

    จริงๆเรื่องแบบนี้ ใครๆก็คาดไม่ถึงแม้กระทั่งคุณหมอเอง
    โรคใหม่ๆ โรคประหลาดๆ นี่รับมือลำบาก นะครับ

    ก็คงมีแต่คุณพระรัตนตรัยและครูอุปัชฌาย์อาจารย์เท่านั้นแหละ ครับ ที่มาช่วยสงเคราะห์ให้

    ทีนี้ทราบแล้วก็ระมัดระวังด้วยแล้วกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...