บทความ เรื่อง ร่างทรง คนมีองค์ องค์แฝง กับปาฏิหาริย์ ๓

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย bumbimnick, 10 กันยายน 2008.

แท็ก: แก้ไข
  1. bumbimnick

    bumbimnick เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +160
    ไปอ่านเจอบทความค่ะ อยากเอามาให้ชาวพลังจิตเรา อ่านกันค่ะ

    เมื่อพูดถึงคำว่าร่างทรง คนหลายคนคงนึกถึงภาพคนยืนตัวสั่น
    พูดจาทำนายทายทัก พูดกันด้วยภาษาแปลกแปลก
    บ้างก็เปิดเป็นสำนักกัน บ้างเก็บเงินหรือบอกหวยกัน
    ทำสิ่งที่ลึกลับมีพิธีกรรมแปลกๆซึ่งมักมีทั้งทรงจริง
    และของปลอมหลอกกัน เพื่อหาผลประโยชน์จากการหลอกให้หลงเชื่องมงายโดยขาดสติปัญญา
    เรื่องของสวรรค์ นรก เรื่องแปลกๆ เรื่องเหลือเชื่อ อันที่เราสามารถพินิจเห็นอยู่บ่อยๆตามสื่อรายการต่างๆ ในโลกแห่งวิทยาศาสตร์อันทันสมัย
    โลกแห่งการแข่งขันทางเศรษฐกิจกันอย่างดุเดือดรุนแรงวุ่นวาย
    จนเราไม่เคยใส่ใจคำว่าคนมีองค์
    ไม่เคยคิดแม้แต่ว่ามันจะจริงหรือไม่คิดเพียงว่าเป็นเรื่องไกลตัว
    ไม่ควรไปใส่ใจให้เสียเวลา เป็นเรื่องเหลวไหล
    แท้จริงมันเป็นเรื่องใกล้ตัวเราที่สุด
    จนแทบจะพูดได้เลยว่าเป็นเรื่องของเราเองทีเดียว
    แต่น้อยคนที่จะสนใจเรื่องเหล่านี้ว่าแท้จริงคือสิ่งใดเกิดขึ้นได้อย่าง เหตุผลใดทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ เรื่องใดเป็นเรื่องจริง เรื่องใดเป็นของปลอม
    หาได้แต่โทษโชคชะตา หรือไปโทษตัวเองว่า
    ถ้าเราไม่ทำเช่นนั้นก็คงจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องลี้ลับยากที่จะพิสูจน์ให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ มันเป็นเรื่องปัจจัตตัง
    คือรู้และพิสูจน์ได้เฉพาะตน จะว่าไปแล้วคนทุกคนล้วนมีบุญเก่ากรรมเก่าติดตัวมาตั้งแต่เราเกิด
    ตั้งแต่ปฏิสนธิ มันเป็นเครื่องกำหนดกฏแห่งกรรมของทุกชีวิตที่เกิดมาในโลก ในแง่สิ่งเหนือสามัญวิสัย
    คนที่มีความซับซ้อนของภพชาติยิ่งมาก ย่อมเคยมีปฏิสัมพันธ์กับคน สัตว์ สิ่งมีชีวิต จิตวิญญาณ
    ตลอดจนสิ่งศักย์สิทธิ์มามากด้วยเราคงเคยไปก่อกรรมกับใครต่อใครไว้
    ทั้งดีและชั่วก็มาก ชาตินี้เรามาเกิด แต่คนที่เกี่ยวข้องกับเราบางคนในอดีตชาติ
    บางดวงจิตอาจมาเกิดร่วมชาติกับเราเพื่อมาชดใช้กรรมซึ่งกันและกันในชาตินี้ ซึ่งเราไม่ทราบว่าเป็นใครบ้าง
    บางคนยังไม่ได้พบกัน แต่บางคนก็อาจยังไม่ได้มาเกิดอาจยังเป็นเทวดาในสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้นฟ้า หรือในนรก
    หรือติดอยู่ในภพภูมิใดตามสัญญากรรม หรือบางคนสามารถพัฒนาจิตหนีเราไปเกิดเป็นพรหม
    เป็นมหาพรหม มหาเทพไปแล้ว ท่านก็ถือว่าท่านมีกรรมสัมพันธ์กับเรา
    จึงมีสิทธิที่จะมากำกับชีวิต ช่วยเหลือ ต่ออายุ
    ให้โอกาสเราหากเราเข้าถึงพระพุทธศาสนา คนเราหลายๆคน
    เรียกว่ามากมายนักที่มีสัญญากรรมกับเทพที่เกี่ยวข้องกับตนทั้งกรรมเก่าเกี่ยวเก่า
    กรรมใหม่เกี่ยวใหม่ตามบุคคลาธิษฐาน ท่านจึงคอยมากำกับชีวิตเราตามพื้นฐานของกฏแห่งกรรม
    แต่ก็ให้โอกาสเราทำกิจกรรมตามที่เคยสัญญากันไว้ก่อนมาเกิด
    หากใครทำได้ครบ ก็จะส่งบุญเก่าให้บุญเก่าของเราแสดงผลออกมาเป็นรางวัลชีวิต
    หากถึงเวลาที่กำหนดแล้วทำไม่ได้ หรือไม่ได้ทำเพราะส่วนใหญ่ไม่มีตัวรู้
    หลงในเทคโนโลยี แสง สี เสียงสมัยใหม่ จนลืมสัญญากรรม
    ท่านก็จะอุเบกขาวางเฉยปล่อยให้กรรมเล่นงานเราตามกฏแห่งกรรม
    คนเหล่านี้จึงมีคลื่นพลังส่งมาจากโลกเหนือสามัญวิสัย แฝงมามาก
    ส่งมาดลใจ ลองใจเราอยู่ตลอดเวลา คงมีทั้งเจ้ากรรมนายเวร
    เจ้าบุญนายคุณ และเมื่อถึงกาลที่เหมาะสมเทพท่านจะมาใช้ร่างเราเพื่อให้เราสร้างบารมีคือท่านมาโปรดมนุษย์
    ให้เข้าถึงธรรม มาจรรโลงพระพุทธศาสนา มารักษาสถาบันพระมหากษัตริย์
    มาสอนเราโดยส่งญาณอันเป็นรังสีมาสู่ตัวเรา เข้าสู่ระบบสมอง
    สู่ระบบประสาทจนเกิดแสดงเป็นอาการต่างๆให้เป็นร่างทรง
    ที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไป เพื่อที่เราจะได้สร้างบารมีสามารถฟันฝ่าวิบากกรรมไปได้
    คนบางคนที่เขาเรียกว่ามีสัมผัสที่ ๖ ล่วงรู้หรือเห็นชาติภพของตนมาก่อน ชอบเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คนที่มีชะตาชีวิตรุนแรงประเภทขึ้นสูงก็สูงไปเลย
    พอลงต่ำก็ต่ำไปเลย คนบางคนมีความสามารถทางโลกโดดเด่นมาก
    บ้างก็มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นในชีวิต บ้างก็มีตำแหน่งในสังคม
    คนพวกนี้ส่วนใหญ่เกิดจากทางในส่งผลเป็นปัจจัยทั้งสิ้น เรียกว่าคนมีองค์
    การที่คนเก่ง ด้วยหน้าที่การงาน มีฐานะตำแหน่งเป็นที่ยอมรับนับถือในสังคม หากคนเหล่านี้จะต้องมาตัวสั่น
    หรือมาเปิดสำนักคงยากที่คนเหล่านั้นจะยอมรับได้ แต่แท้จริงการพัฒนาร่างทรงต่างหากที่สำคัญ
    เพราะเมื่อเริ่มแรกเราจะตัวสั่น พูดจาภาษาเทพเร็วๆ ฟังไม่ออก
    เป็นเพราะเรายังมีตัวรู้ในองค์ญาณ ที่ยังไม่สัมพันธ์กับองค์ฌาน
    ละเอียดไม่เท่ากับรังสีที่ส่งลงมา เทพท่านส่งมา สิบคำรับได้แค่คำเดียวจึงเกิดเป็นอาการตัวสั่น
    พูดจาฟังไม่รู้เรื่องที่เรามักเรียกกันว่าพูดภาษาเทพ
    แท้จริงหากพัฒนาจิตให้ละเอียดจนสามารถรับคลื่นรังสีที่ส่งมาได้ครบถ้วน
    การพูดก็คือการพูดภาษาปกติมนุษย์นั่นเอง การตัวสั่นยังเป็นเรื่องของอิทธิฤทธิ์ เทวฤทธิ์ปาฏิหาริย์
    เราจึงยังไม่สามารควบคุมอาการได้ ซึ่งอิทธิฤทธิ์ เทวฤทธิ์ปาฏิหาริย์นั้นพระพุทธเจ้าทรงยอม
    รับแต่ทรงรังเกียจ เพราะส่วนใหญ่ง่ายในการนำไปใช้ผิดวิธี
    ผู้พบเห็นมักศรัทธาด้วยฤทธ์ไม่ใช่เข้าใจด้วยปัญญา
    หากเราฝึกฝนพัฒนาจิต พัฒนาทักษะ พัฒนาตัวรู้จนละเอียดใกล้เคียงกับรังสีเทพที่ส่งมาหาเรา
    เราก็จะเริ่มควบคุมตัวเองได้ จะแสดงอาการที่ปรกติมากขึ้นที่เรียกว่าอิทธิฤทธิ์ หรือเทวฤทธิ์อยู่ในขั้น
    ฤทธานุภาพ และเทวานุภาพ หรือสูงขึ้นจนทายใจคนได้อย่างอัศจรรย์เรียกว่า อาเทศนาปาฏิหาริย์
    ซึ่งขั้นนี้พระองค์ก็ยังคงทรงรังเกียจ จนกระทั่งสามารถพัฒนาจิตสู่ขั้นมาตรฐาน คือขั้นจิตตานุภาพ
    นั่นคือเป็นองค์แฝงไม่พบอาการผิดปกติให้เห็นได้แต่อย่างใด
    แต่ขณะที่พูดสามารถปล่อยให้ญาณหรือรังสีเทพผ่าน
    แสดงออกมาหรือพูดออกมาในลักษณะที่ผู้อื่นคิดว่าเป็นการแสดงออกของตัวเราเอง
    โดยไม่มีใครทราบนอกจากตัวเรา สามารถอธิบายธรรมให้เข้าใจโดยใช้หลักธรรมให้เห็นเด่นชัดด้วยปัญญา
    มีความสมดุลอย่างสูงในองค์ฌาน และองค์ญาณ
    คนกลุ่มนี้ชีวิตจะยิ่งโดดเด่นยิ่งขึ้นโดยปาฏิหาริย์ เรียกว่าเป็นอนุสาสนีปาฏิหาริย์ คือคำสอนมีผลจริงเป็นมหัศจรรย์
    ซึ่งพระพุทธองค์ทรงสนับสนุนถือว่าดีเยี่ยมเป็นประเสริฐ
    ทั้งนี้คนที่พบกับวิบากกรรมก็สามารถที่จะดีขึ้นจนสามารถหลุดพ้นจากวิบากกรรมได้
    หากเราสามารถทำตามสัญญากรรมข้ออื่นๆได้ครบ การพัฒนาร่างทรงสู่ญาณแฝง
    และสามารถถ่ายทอดธรรมได้อย่างมหัศจรรย์ จึงถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำสังคมก้าวไกล
    มองดูเป็นปกติธรรมดาธรรมชาติ และสังคมยอมรับกันได้ในปัจจุบัน

    ที่มา http://sahadhamma.sahapatibati.org/2007/09/blog-post_5429.html
    ;aa30
     
  2. OrangeHP

    OrangeHP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2007
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +160
    ถูกต้องแล้วคร๊าบยกนิ้วให้เลย ต้องมองเชิงลึง อย่าเพียงผิวเผินและไตร่ตรองให้รอบคอบ
     
  3. จารุง นิ่มนวล

    จารุง นิ่มนวล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +105
    คนที่ไม่ได้ฝึกสมาธิมักขาดสติอย่างนี้เสมอครับ
     
  4. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    จิตเดิมแท้ของเจ้าของร่าง จะอยู่ในลูกแก้วธรรมกาย
    จิตแฝงที่เกิดจากดวงจิตของเทพจะอยู่นอกลูกแก้วธรรมกาย
    บางคน เมื่อรับขันธ์ เป็นวิญญาณขันธ์ เทพองค์ที่ประทานวิญญาณขันธ์ให้
    อาจไม่ได้เอาจิตมาด้วย หากคนๆ นั้น มีจิตคิดเป็นตัวกูของกู จิตของเขาจะ
    แบ่งออกแล้ว ปฏิสนธิเข้ากับวิญญาณขันธ์ที่รับมานั้นทันที เกิดเป็นจิตวิญญาณใหม่
    เป็นกายทิพย์ที่แฝงอยู่ในกายสังขารตนเอง คือ จิตภาคแบ่งของตนเอง
    แต่หากบางราย รับมาทั้งจิตวิญญาณ คือ เทพลงประทับเต็มองค์ทั้งจิตและวิญญาณ
    ก็จะมีการยื้อกันในการครองร่าง ถ้าเจ้าของร่างจิตอ่อน ตกอยู่ใต้อำนาจของเทพ
    ก็จะถูกครองร่างหมด เมื่อบำเพ็ญบารมีแล้ว เทพจะได้บารมีไปหมด เจ้าของร่างไม่ได้เลย
    ได้แค่ค่าครู ค่าดูหมอ เลี้ยงชีพเท่านั้น


    ให้ใช้ตาทิพย์ตรวจดูกายในของคนทรง ดูกายในลูกแก้วธรรมกายดีๆ
    เทียบกับกายแฝง ที่อยู่นอกลูกแก้วธรรมกาย ก็จะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
     
  5. bumbimnick

    bumbimnick เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +160
    เคยได้ยินมาว่า คนที่ไม่มีองค์ จริงๆ แต่คิดว่าตัวเองมีองค์ มาเปิดสำนักกันเยอะ
    พวกนี้จะบาปมั้ยคะ เพราะเค้าไม่รู้ตัวว่าไม่มีองค์ แต่คิดว่าตัวเองมี
    อยากจะช่วยคนอื่น แล้วบาปป่าวคะ
     
  6. ดาโกต้า

    ดาโกต้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +210
    หากคนที่มีองค์คิดอยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เราเห็นว่าใช้กระแสคลื่นพลังจิตที่ส่งผ่านเข้ามาจากพลังเทพที่แฝงผ่านแนะนำการปฎิบัติตนในทางที่ดี แก้ไขจุดเสียของมนุษย์ที่ควรปรับปรุงชีวิตของเขาให้ดีขึ้น ไม่จำเป็นต้องมาเปิดสำนักเพื่อเรียกเก็บเงินหรอก การจะช่วยเหลือจริง ๆ กระทำได้จากคนใกล้ชิดที่เรามองเห็นเขาก็น่าจะเพียงพอ
     
  7. chinasungkia

    chinasungkia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +852
    อนุโมทนาแด่คุณเจ้าของกระทู้เป็นอย่างสูงที่ได้นำบทความดี ๆ มาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน

    ผมเห็นเช่นที่บทความนั่นกล่าวไว้นะครับ ไม่มีอะไรที่ต้องอธิบายเพิ่มเติมอีกแล้ว....สาธุ
     
  8. nunnapath

    nunnapath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    280
    ค่าพลัง:
    +256
    เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ จิตเราเป็นใหญ่ ไม่มีใครบังคับได้
    นอกจากเราเองพิจารณาเอาเอง
     
  9. dekmama

    dekmama สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +17
    ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่อธิบายให้เข้าใจอย่างละเอียด

    อนุโมทนา.....สาธุ
     
  10. Srijun

    Srijun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    437
    ค่าพลัง:
    +71
    อ่านแล้ว เข้าง่ายดีอะ

    เลยขุดให้ เอิ้กๆ
     
  11. สมรปราง

    สมรปราง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2008
    โพสต์:
    377
    ค่าพลัง:
    +263
     
  12. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +1,511
    ผมพอไปเจอรวมบทความพวกนี้มาครับ อยากมาแนะนำให้อ่าน
     
  13. กินรีปักษา

    กินรีปักษา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +24
    สัมผัสพิเศษร่างทรงองค์เจ้า(องค์บารมีปู่เจ้าเขาเขียว)

    ท่านอาจมาให้คุณเห็นในร่างคนไส่ชุดพรามขาว ปู่ชุดฤษี พญานาค พญางูหรือพญานกปักษาหรือให้บริวาณมาในรูปสายญานต่างๆๆไม่มีแบ่งสายปกติจะมาคุ้มครองร่างพาเข้าธรรมสัมผัสได้ถึงความใจดีของบูชามีแต่ผลไม้ดอกไม้ไม่จำเป็นต้องรับขันธ์หรือบูชาก็ได้เวลาทำบุญก็นึกถึงท่านบ้างท่านไม่เคยขอบุญเราไห้ด้วยความเต็มใจมีเหตุเตื่อนก่อนเกิดให้เราเตรียมตัวหรือจากหนักเป็นเบาพาเราไปที่ที่เขาทำบุญใหญ่โดยไม่รู้ล่วงหน้าหรือตั่งใจจะไป ช่วงเข้าพรรษาท่านจะไม่ออกมาโปรดร่างท่างเข้าป่าเป็นป่าที่สวยมากๆๆไม่มีเสียงพูดคุยทุกอย่างจะหยุดนิ่งเหมือนไม่มีชีวิตมีแต่ต้นไม้และสายลมที่จะรู้สึกได้ว่าเขามีชีวิตนอกนั้นทุกอย่างนิ่งหมดจิตจะเดินทางเร็วมากแค่คิดก็ไปจะเบามากๆๆเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2010
  14. nanthiya1

    nanthiya1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +966
    เห็นด้วยกับคุณสมรปรางจิตเทพจะแบ่งภาคได้เพราะดิฉันสังสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกันเพราะดิฉันจะมีเทพคุ้มครองดูแลอยู่ก็เลยถามท่านว่าทำไมไม่อยู่บนวิมาน ท่านบอกไม่มีปัญหาเราแบ่งภาคได้ อันนี้คุยกันแบบมโนมยธินะค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...