ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ยังเข้ามาตามอ่านทุกวัน ครับ ขอบคุณมากครับ กับสาระเด็ด ๆ แบบนี้

 

<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:9.0pt 1.3pt 9.0pt 18.0pt; mso-header-margin:35.4pt; mso-footer-margin:35.4pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอขอบคุณ..คุณเส้นทางแห่งธรรม..คุณโอ ท่าซุง..คุณNoragate..คุณกำธร นครปฐม..คุณเด็กบางแค<o></o>
คุณSpecialized..คุณโต้งชลบุรี<o></o>
ที่ติดตาม..ชม..และให้กำลังใจ..รวมถึงทุกท่านที่ได้ติดตามอ่าน<o></o>
............................................................เรื่องเก่า..สรรมาเล่า............................................<o></o>
..............ท่านอาจารย์ขยายความว่า...ในสมัยโบราณ..คนโบราณ..จะอาศัยพุ่มของต้นไม้นี้ที่มีหนาม<o></o>
หนาแน่นและพุ่มหนา..อาศัยหลบภัย..สัตว์ร้ายทั้งหลาย..เช่น..เสือ..หมี..หมาป่า..แม้กระทั่งช้างยังไม่<o></o>
กล้าบุกฝ่าเข้ามา...เลยเป็นที่มาของชื่อ..ต้นกันภัย..ส่วน..ลูกของมัน..ซึ่งมีเปลือกที่แข็งมาก..เนื้อใน<o></o>
แน่น..ยิ่งทิ้งไว้นานเนื้อในจะแข็งเกือบเท่าเปลือกเลย..สัณฐานที่กลมของมัน..จึงมาเป็นเครื่องมือล่าสัตว์<o></o>
ขนาดเล็ก..ของคนโบราณสมัยต้นประวัติศาสตร์เป็นต้นมา..ตั้งแต่คนโบราณ..คิดประดิษฐ์คันธนูขึ้นมาได้<o></o>
...ขณะเดียวกันคนแถบภูมิภาคนี้..ก็ดัดแปลงคันธนู..ที่ไว้สู้รบ..และล่าสัตว์ใหญ่..มาเป็น ..คันกระสุน..<o></o>
เพื่อทำการ..ล่าสัตว์เล็ก..เช่น..กระต่าย..หนู..แมวดาว..อีเห็น..รวมถึง..นก ฯลฯ..ที่ทราบเพราะ<o></o>
จากการขุดค้น..มนุษย์ยุคสัมฤทธ์..จน..ถึง..ยุคเหล็ก..บริเวณข้าง..โครงกระดูก..ซึ่งจะมีข้าว<o></o>
ของเครื่องใช้..และอาวุธ..เป็นของส่วนตัว..จะพบคันกระสุน..ซึ่ง..จะมีขนาดเล็กกว่าคันธนู..และ<o></o>
ลูกกันภัย..ที่ยังสามารถคงสภาพอยูได้..แม้เวลามากกว่า..พัน ปี..ซึ่งพบในหลายที่...นอกจากนี้<o></o>
มีเศษหนัง..ที่เป็นตัวจับลูก..อยู่ด้วย..ตั้งแต่ ๗๐-๘๐ ปีขึ้นไปก็ยังมี..คนพื้นบ้านที่ใช้คันกระสุน<o></o>
ล่าสัตว์อยู่ในไทย(ผมขออธิบาย..คือสำหรับผู้ที่ไม่รู้จักคันกระสุน..หน่อย..สมัยโน้นเรา..ยังประดิษฐ์ยาง<o></o>
ไม่ได้..เพราะฉะนั้น..ไม่ต้องพูดถึง..”หนังสะติ้ก”..แต่คันกระสุนมีความคล้ายกันคือ..มีแผ่นหนังที่เอาไว้<o></o>
จับ..ลูก(กระสุน)..อยู่กึ่งกลางสาย..ที่ใช้วัสดุเช่นเดียวกับสายธนู..ลักษณะการยิงก็คล้ายกับการยิงธนู..<o></o>
คือเล็งแล้วรั้งสาย...แต่แทนที่จะจับท้ายลูกธนู..เปลี่ยนมาจับหนังที่หุ้มลูกกระสุนไว้..แบบเดียวกับ..ยิง<o></o>
หนังสะติ้ก..แต่พรานที่ใช้คันกระสุนในการล่าสัตว์..ต้องมีความชำนาญในการยิง..เพราะถ้าพลาด..ลูกกระสุนไปโดนคัน..เด้งกลับมา..กระแทกหน้าตัวเอง..เจ็บสาหัส..หรือไม่งั้น..ก็ไปโดนมือตัวเองถึงขั้น<o></o>
กระดูกแตกได้)....แกบอกว่าเดี๋ยวนี้เรียกว่าเกือบ..สูญพันธ์แล้ว..สำหรับต้นกันภัย..พบเฉพาะ..ในใจกลาง<o></o>
ป่าลึก..ที่เป็นแบบเบญจพรรณ...มาพบที่นี่แกบอกว่าไม่คิดว่าจะมีใน..แถบบริเวณนี้..แล้วแกบอกอีกว่า..<o></o>
ต้วไม้ของต้นกันภัย..นี่ถือเป็นไม้มงคลในสมัยโบราณ..เพราะชื่อ..จะใช้ประกอบพิธีทางขลังต่างๆด้วย...<o></o>
.........ผมก็เลยบอกแกว่า..ผมเห็นลูกก็คิดอยู่แล้วว่าใช่..เพราะผมมีเครื่องรางที่ทำจาก..ลูกกันภัยด้วย<o></o>
.....................................................ต่อตอนหน้าครับ.......................................................<o></o>
...................................................................................................................................<o></o>
....................................................................................................................................<o></o>
................พอของเจ้าคุณนรฯชุดใหญ่ในปี๒๕๑๓..ออกมา..ก็เป็นไปดังคาด..แทบทุกรายการ..ดัง<o></o>
หมด..ราคาหลังออก ๑ เดือนพุ่งกระฉูด..ของหมุนเวียนในตลาดเยอะมาก..ที่ว่านี่นับเฉพาะ..ของแท้นะ<o></o>
ครับ...ความจริงคนภายนอก..ก็มาจองกันเยอะ..แต่ภายในวงการบางคนก็เริ่มตั้งข้อสังเกตว่า..ทำไมของ<o></o>
หมุนเวียน..เยอะจัง..ก็มีการสมมุติว่า..โรงปั๊มเหรียญก็อยู่ในวงการ..ใครก็เก็งได้..ว่าของต้องมีราคาสูงใน<o></o>
อนาคต..ถ้าเกิดระหว่างที่ปั๊มจะมีใครไปเฝ้า..ถ้าเขาปั๊มเกินมา..สัก ๕๐๐ บล็อกก็คงไม่พัง...แล้ว ๕๐๐ <o></o>
เหรียญนี่..ก็เหมือนกับเหรียญปลุกเสกทุกอย่าง..ที่นี่ก็ไม่มีทางรู้เลยซิ..(ความจริงผลของ..เจ้าคุณนรฯ<o></o>
ปี๒๕๑๒ ที่เล่าไปตอนที่แล้ว..ทำให้เริ่มมีการตอกโค๊ต..กันขึ้นแล้ว..ในปี ๒๕๑๓..โค๊ตนี่ก็เป็นรูป<o></o>
แบบของ..โค๊ตกันของเสริมมากกว่า..ได้แก่..รูปหล่อ(ปั๊ม)หลวงพ่อพรหม ปี๒๕๑๓ ตอกโค๊ต..<o></o>
“ระฆัง”..ใต้ฐาน(ตอนนั้น..หลวงพ่อพรหม..เริ่มดังเข้ามาส่วนกลางแล้ว)..ก็คงได้อานิสงค์..ในการนี้<o></o>
เพราะนอกจากกันเสริม..ยังสามารถเอาไว้คัดของที่ไม่สวยและชำรุดได้ด้วย..ทำให้มีคนเห็นประโยชน์จุด<o></o>
นี้กันมากขึ้น)...)..หลังจากพิธี..เดือน ธันวาคม ๒๕๑๓ แล้ว..คงเริ่มมีการระแวงกันมากขึ้น...พอต้นปี..<o></o>
๒๕๑๔ ในการอธิษฐานจิต..ครั้งสุดท้ายของท่าน..มีเหรียญเจ้าคุณนรฯอีกเหรียญที่อยู่ในครั้งนี้..ที่โด่งดัง<o></o>
เช่นกัน..คือ..ปรกเจร..ที่สร้างโดยเจรตำรวจยุคนั้น..พล.ต.ต.อุ่ม...จึงมีการตอกโค๊ต”ดาวกระจาย”<o></o>
ในทุกเหรียญ..และทุกเนื้อ..ก็ส่วนหนึ่งผมก็ว่า..มาจากความระแวง..และป้องกันด้วย..เพราะที่บอกชุด<o></o>
ปี๒๕๑๓..ดังเหลือเกิน...คราวนี้ทุกท่านคิดดูแล้วกัน..เหรียญจำนวน..หลายพัน..โค๊ต..มีอันเดียว...<o></o>
ผมว่าทำได้เพราะ..คงเกณฑ์ตำรวจ.มาเปลี่ยนเวรกันตอกเป็นร้อยคนมั้ง..ผมว่าถ้ามีคนเวียนกันตอกสัก<o></o>
แค่ ๕ คน..อาจถึงล้มหมอนนอนเสื่อได้..จะสังเกตเหรียญในปีต่อๆมาที่ดังๆ..ก็จะตอกกัน..เฉพาะเนื้อนวะ<o></o>
..เนื้อเงิน..เนื้อทอง..เพราะจำนวนจะไม่มาก..และเริ่มคิดเป็นการกันปลอมแถมมาด้วย..โค๊ตเริ่มมีลวดลาย<o></o>
..และละเอียดขึ้น...เพราะผลมาจาก..เหรียญปรกเจร..ที่มีการทำตัวตอกปลอมได้ใกล้เคียงมาก<o></o>
คนไม่เคยเห็นของจริง..เห็นแต่ในรูป..เสร็จลูกเดียว..เพราะตัวตอก..พัฒนาหลายเวอร์ชั่น..เรียก<o></o>
ว่า..จาก ๓.๐..เป็น ๓.๓..หรือ ๓.๓.๑ แบบSOFTWARE เลย.......................................<o></o>
..........อยากจะพูดถึงตัวตอกสักหน่อย..เพื่อความเข้าใจ..เพราะผมเชื่อว่าหลายคนก็คงไม่ทราบ....<o></o>
....ตัวตอกสมัยก่อน..ก็ใช้เหล็กอ่อนนี่แหละครับ..เพราะจะทำให้แกะง่าย..ใช้เครื่องมือเจียเล็กๆแบบหมอ<o></o>
ฟัน..ก็ทำได้แล้ว..เช่น..ดอกจันทน์..ดาวกระจาย..ระฆัง..(ธรรมจักร..อกเลา..ยากหน่อย)..เมื่อได้ตารูป<o></o>
ร่างที่กำหนดไว้แล้ว..ก็ทดลองตอกลงแผ่นตะกั่วที่อ่อนก่อน..เพื่อดูว่าผลมันออกมาป็นยังไง(แผ่นตะกั่ว<o></o>
ออนกว่าเหล็กเยอะ..ไม่ทำให้สึกหรอ)..ถ้าออกมาไม่ดี..ก็ไปแก้ไข...ถ้าใช้ได้พอใจแล้ว.....ก็จะเอา<o></o>
ส่วนปลายของแท่งเหล็กอ่อนที่แกะแล้ว...ไปทำการชุบแข็ง..แปรสภาพเป็นเหล็กกล้า..ที่มีความแข็ง<o></o>
เพราะจะต้องไปตอกพวกโลหะผสมต่างๆที่มีความแข็งพอสมควร..ต้องใช้งานเป็นหมื่นครั้ง..โดย<o></o>
ที่จะต้องไม่สึก..หรือ..บู้..ได้......................<o></o>
.............................การจะปลอม..รอยตอก..สมัยก่อน..ก็มีหลายวิธี..แต่ผมจะเล่า..หนึ่งวิธีคือ<o></o>
.เริ่มต้นด้วยเอา..เหรียญจริงมา..ควรเลือกแบบที่ติดครบ..ให้มากที่สุด..มาเป็นต้นแบบ..ทำความ<o></o>
สะอาดในรอยตอกให้สะอาดที่สุด..ไม่ให้มีขี้ฝุ่น..ผง..หรือ..คราบติดแน่นที่ฝังอยู่ออกให้หมด..<o></o>
(ยังกะโฆษณาน้ำยากำจัดคราบ..บนผ้าเลย)..เอา”ครั่ง”..ที่เขาใช้ติดเชือกส่งพัสดุทางไปรษณีย์<o></o>
กันการแกะออก..ระหว่างทางนั่นแหละ..ครั่ง(สีแดง)..นี้มีทั้ง..แบบที่มีใส้เหมือนเทียน..และแบบ<o></o>
เป็นแท่งเฉยๆ(ความจริงแนวคิด..ได้มาจากตราประทับครับ..สมัยผมเด็กๆเขาใช้กัน..ฝรั่ง..จีน..แขก..<o></o>
เขาก็ใช้กันทั้งนั้น..เพราะเมื่อหยดครั่ง(เผาแล้วมันจะเหลว)ลงไปบนพื้นผิวอะไรก็ได้..แล้วเอาตราประทับ<o></o>
กดลงไป..ครั่งพอถูกถ่ายความร้อนินดเดียว..ครั่งจะแข็งทันที..ภาพนูนสูง..ก็จะปรากฏที่ครั่ง..แต่เป็น<o></o>
Negative..พวกตราราชการ..ตรากษัตริย์..จะใช้แบบนี้ทั้งนั้น)...เอาเหรียญ..ด้านที่ไม่มีรอยตอก..ติด<o></o>
กาวชั่วคราว..กับแท่งไม้..ขนาดที่มือจับสะดวก...จับแท่งไม้นี่ไว้..เอาครั่งหยดลง..บนแผ่นแก้ว<o></o>
ที่เตรียมไว้..หยดให้หนาๆหน่อย..พอได้ความหนาพอสมควร..ก็..เอาแท่งไม้ด้านที่มีเหรียญติด<o></o>
อยู่กดลงไปและนิ่งไว้..แป๊บเดียวครึ่งจะแข็ง..ไม่ต้องห่วงเพราะครั่งจะไม่ติดกับพวกโลหะ..หรือ<o></o>
แก้ว...ค่อยๆแกะเหรียญออกจากครั่งตรงๆ....คราวนี้..รูปรอยตอก..จะไปปรากฏที่ครั่ง..เหมือน<o></o>
เป๊ะ..มีมิติ..ที่นูนขึ้นมา(เป็นnegative)..ไอ้นี่แหละที่จะเป็นต้นแบบ..เพื่อจะไปแกะเป็นตัวตอก...<o></o>
................................................ต่อตอนหน้า......................................................<o></o>
.............................................ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านกัน....ขอบคุณ..ครับ.............<o></o>
.........................................................................สวัสดี..............................................<o></o>

 

สวัสดียามเช้าครับ อย่างนี้เกาะที่คุณอาฯไปก็ต้องเคยมีคนโบราณอาศัยอยู่ใช่ไหมครับ แล้วสัญลักษณ์ที่พิมพ์ไว้มีความหมายอย่างไรครับ ขอบคุณครับ

 

...................................................
...นั่นแหละครับ..ที่ผมจะสรุปในตอนหน้า...
.......WAIT 'N' SEE ..................

 

ขอบคุณครับพี่ สำหรับความรู้ดี ๆ

 

แล้วลูกกันภัยที่คุณลุง เก็บมาสามารถนำมาเพาะปลูกได้ไหมค่ะ ?
ถ้าสูญพันธ์ไปคงเสีดายแย่เลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

......................................................
มันนานเกินไปแล้วครับ..ปลูกในบ้านไ่ม่ได้ครับ..มีแต่หนาม..แต่เมื่อสิบกว่าปี..ก่อนเห็นมีขาย..ในสนามพระี่ที่จตุจักร..ขาย..กับ..ลูกสวาท..เป็น..ลูกไม้มงคล..คงยังไม่สูญพันธ์..หรอกครับแต่หายาก..เพราะอยู่ในป่าลึก

 

...........................


อืมมมม.....นี่ถ้าผมเกิดทันท่านเจ้าคุณนร...นะ......(^_^).....

 

เรื่องโค๊ด ถ้าได้ฟังหลายๆรุ่นดังๆที่ควรระมัดระวังก็จะดีเลยค่ะ เป็นภูมิคุ้มกันไปในตัว ขอบคุณค่ะ

 

แวะมาติดตามกระทู้ แอบอ่านไม่ค่อยได้โพส

รับรู้เรื่องราวดีๆๆ หลายอย่างเลยครับ โดยเฉพาะเรื่องวัตถุมงคล

 

<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-comffice:smarttags" name="City"></o:smarttagtype><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-comffice:smarttags" name="place"></o:smarttagtype><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอขอบคุณ..คุณโอ ท่าซุง..คุณSpecialized..คุณกำธร นครปฐม..คุณ<st1lace w:st="on"><st1:city w:st="on">Lynn</st1:city></st1lace>..คุณNoragate..คุณNaijai<o></o>
คุณNuwa<o></o>
ที่ให้กำลังใจ..ติดตาม..และชม..รวมถึงทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านกัน<o></o>
........................................................สรรเรื่องเก่า..มาเล่า................................................<o></o>
........................ผมลืมเล่า..ตอนก่อนจะออกจากถ้ำ..คณะผู้สำรวจ..รวมทั้งผมด้วย..ก็มาถ่ายรูปร่วมกัน<o></o>
...อาจารย์..ก็ขอชื่อ...ตำแหน่ง..งานที่ทำไว้..เพราะจะต้องระบุ..ผู้ร่วมสำรวจ..และผู้ช่วย..แกบอกว่า.....<o></o>
เพราะต้องไปลงในรายงานการสำรวจ.............................................................<o></o>
.................หลังจากนั่งพักกันซักครึ่งชั่วโมง..อาจารย์ก็ลากลับ..พร้อมขอบคุณในความช่วยเหลือ...<o></o>
และทำให้รายการดำน้ำผมเสีย..(โปรแกรมที่ตั้งไว้เสียจริงๆ..เพราะเสียเวลารวม..ร่วมๆ ๓ ชั่วโมง)..แก<o></o>
บอกว่า..หลังจากหน่วยสำรวจของกองโบราณคดี..มาสำรวจ..ก็จะมีลงในวารสารศิลปากร..รายละเอียด<o></o>
ผลวิเคราะห์..บทสรุป..จะลงไว้ในนั้น..ให้ผมลองไปดูแล้วกันเมื่อไหร่..ไม่ทราบ.............<o></o>
.............ผมไม่ได้ติดตามหรอกครับ..เสียเวลาต้องคอยไปหา..ผมไม่ได้เป็นคนติดยึดอะไร..เสร็จแล้ว<o></o>
เสร็จเลย..ผมก็Happy..นะเพราะครั้งหนึ่งในชีวิต..ได้เคยทำในสิ่งที่ตัวเองไฝ่ฝัน..ว่าจะเป็นมาแล้ว.....<o></o>
.....เรื่อง..ของเกาะนี้..ผมสรุปไว้เอง..คิดว่าไม่น่าพลาดจาก..ข้อมูลประกอบหลายประการ..........<o></o>
........ในยุคก่อนประวัติศาสตร์...มนุษย์เราก็..สามารถ..ทำเรือ..หรือ..แพได้แล้ว..เพียงแต่ออกจากฝั่งได้<o></o>
ไม่ไกล...การประมง..ก็ทำได้ใกล้ๆชายฝั่ง..เรือหรือแพ..ก็คงเป็นเรือพาย...เกาะนี้..อยู่ห่างจากชายฝั่ง<o></o>
ด้านตะวันออกของเกาะยาวใหญ่..ไม่เกิน ๓ กม. ..เวลา..ช่วงใกล้หน้ามรสุมตะวันตกเฉียงใต้(ช่วงปลาย<o></o>
เมษา ต่อ พฤษภา..บางที่จะมี พายุฝน..เข้ามาบ้าง..ถ้า..พวกที่ออกมาหาปลา..จากฝั่งไกลหน่อย..เมื่อ<o></o>
คลื่นลมมา..ก็อาจจะกลับเข้าฝั่งไม่ทัน..จำเป็นต้องใช้..ถ้ำดังกล่าว..เป็นที่หลบ..คลื่นลมชั่วคราว...ในครั้ง<o></o>
แรกๆ..ก็คงไม่ได้..ทำรอยมือเลย..เพียงแต่พอครั้งที่สองครั้งที่สาม..ที่ใช้บริการบ่อยๆ..ก็คงอยากจารึก<o></o>
ว่าตัวเอง..ได้มาพำนักที่นี่..และอาจจะเหมาถือครองการเป็น..เจ้าของไปในตัว...การที่จะมาพิมพ์มือนี่<o></o>
ต้องเตรียมการ..นะครับ..เพราะจะต้องเตรียม..เอายางไม้..ที่มีสีแดง..หรือไม่ใช้ยางไม้ผสมกับ..ผงหินสี<o></o>
แดง..เพื่อเพิ่มความเข้มของสีด้วย..คือต้องเตรียมตัวมาทำการพิมพ์มือ..และมาที่นี่เพื่อการนี้โดยเฉพาะ<o></o>
เตรียมสีมา..และก็คงจะเตรียม..ต้นไผ่ใส่เรือมาด้วย..(ตัดกิ่งออก..เหลือที่ติดกับลำ..พอเหยียบได้แบบ<o></o>
...พะอง..ปีนต้นตาล)...คนที่มาก็คงชุดเดิม..ที่เคยมาพักกัน..อย่างที่ผมสังเกตว่า..ไม่ใช่มือคนเดียวกัน<o></o>
..ผมว่าทุกคน..ที่อยู่ในชุดที่เคยมาประจำ..ก็ลงมือ..กันแต่ละคน..โดยใช้ยางไม้ทามือ..ประทับเข้ากับ<o></o>
ผนังถ้ำ...แต่อันที่พิเศษ..อยู่ตรงกลาง..และมีวงกลม..สองอันซ้อนกันใต้มือ..คงเป็นหัวหน้า..ของกลุ่มนี้<o></o>
..วงกลมซ้อนกัน..คงจะแสดงให้เห็นว่าเจ้าของมือนี้..สถานะภาพเป็น..หัวหน้า..(คงไม่ได้บอกว่า..ชื่อเล่น<o></o>
คือ..โดนัท..เป็นแน่)..ถ้าจะถาม..ว่าทำไมต้องสองวง..ผมก็คงต้องเดาว่า..วง๒วง..มันจะเด่นกว่าวงเดียว<o></o>
เห็นชัดกว่า..ถ้าถามว่าทำไม..เป็นเหลี่ยม..เป็นดาวไม่ได้เรอะ..ก็ต้องบอกว่า..ในยุคก่อนประวัติศาสตร์<o></o>
ภาพเขียนทั้งหลาย..ส่วนใหญ่จะนิยม..โค้งๆ..กลมๆ..แต่ถ้าจะตอบแบบกวนๆ..ผมก็จะบอกว่า..ความ<o></o>
จริงทีแรกเขาก็ตั้งใจเขียนวงเดียว..แต่พอดูไปดูมามันเล็กไป..มองไกลๆ(ระยะมุมมองจริง..จาก<o></o>
ด้านล่างมากกว่า ๑๐ เมตร )..ลูกน้องที่อยู่ข้างล่าง..มันดูบอก...มองไม่เห็นเลยลูกพี่...พี่แกเลย<o></o>
คิดได้ว่า..สงสัยจะจริง..เลยเขียนวงนอก..อีกวง..อย่าลืมนะครับ..รูปทรงเรขาคณิต..ที่มนุษย์รู้จัก<o></o>
..เป็นอันแรก..คือ..วงกลม..ก็มองขึ้นไปบนฟ้า..ก็เห็นพระอาทิตย์ทุกวัน...........<o></o>
..................................................ยังไม่จบครับ..ต่อตอนหน้า..............................................<o></o>
....................................................................................................................................<o></o>
....................................................................................................................................<o></o>
...................เมื่อได้ต้นแบบมาแล้ว..ก็เอามาแกะบนด้านปลายเหล็กอ่อนเหมือนกัน(ลักษะการทำตัว<o></o>
ตอก..ก็จะเหมือนกัน)..เวลาจะแกะให้ได้ละเอียด..ต้องมีอุปกรณ์ช่วย..คือ..แว่นขยายใส่ตาข้างเดียว..<o></o>
..แบบที่ช่างซ่อมนาฬิกาใช้นั่นแหละครับ..หรือ..แว่นขยายใหญ่ที่มีขาตั้ง..ก็ต้องใช้ทักษะความชำนาญ<o></o>
...อย่าลืมนะครับ..รูปที่ตอกสมัยก่อนไม่ซับซ้อนมาก..ถ้ารูปที่รายละเอียดมากอย่าง..”อกเลา”..นั้นใหญ่<o></o>
ครับ..ไม่ๆได้ยากที่จะเลียนแบบ..แต่แค่ใช้เวลานานเท่านั้น..(แต่..ต่างจากโค๊ตยุคสิบกว่าปีมานี่..ที่เล็ก..<o></o>
และละเอียด..แต่ก็ไม่ยากที่จะปลอม..มึงใช้คอมพ์ได้..กูก็ไปจ้างอีกร้านใช้คอมพ์..มาก๊อบได้อีก)....<o></o>
...ก็เอามาตั้งอยู่กับแท่นคู่กัน..มันก็แกะได้ใกล้เคียง..เสร็จแล้วก็เหมือนกัน..ลองตอกกับแผ่นตะกั่ว..แล้ว<o></o>
เอามาเทียบกับเหรียญดู..จนกว่าจะพอใจ..แล้วก็เอาไปจ้างเขาชุบแข็งแบบเดียวกัน..เท่านี้ก็เรียบร้อย..<o></o>
.........จะตำหนิโค๊ต..ได้..ต้องเห็นของจริงก่อนเท่านั้น..ดูภาพขยายจากเน็ต..หรือจากหนังสือ..<o></o>
มันไม่ได้มิติ..และความละเอียดของรอยตอก..ถ้ารู้ว่าเขามีของจริงขอดู..ปกติ..กล้องมาตรฐาน<o></o>
ที่เราใช้อยู่ก็คือ10x แต่ดูโค๊ตต้องใช้20x-36x เพราะต้องเจาะรายละเอียดจริงจัง..ริ้วรอยเล็กๆ<o></o>
น้อยๆ..ต้องเก็บให้หมด..เก็บจุดสำคัญไว้เองจดไว้..ในสมุดบันทึก..วาดรูปประกอบด้วยจะได้ไม่<o></o>
หลง..ยิ่งได้ตำหนิโค๊ตตัวเองที่ต่างจากหนังสือยิ่งดี..เพราะโค๊ตปลอม..เวลาเขาอัพเกรดเวอร์ชั่น<o></o>
..เขาจะมาดูจากหนังสือดังๆ..ที่บอกตำหนิ..แล้วก็แก้ไขจุดดังกล่าว...............<o></o>
..........แต่ที่แสบกว่านั้น..และเคยปรากฏเป็นข่าวซุบซิบ..ภายในวงการก็คือ..ตัวตอกโค๊ตจริง..ของ<o></o>
เหรียญดัง..สองสามเหรียญ(อย่าถามผมนะครับ..ผมจำไม่ได้แล้วจริงๆ)....หาย...จากที่เก็บ<o></o>
......คือยุคเมื่อสัก ๓๐ ปีก่อน..ส่วนใหญ่ก็จะไม่ทำลายบล็อก..ที่โรงปั๊มเหรียญคืนมาให้..อย่างที่<o></o>
ผมเคยบอก..นอกจากนี่..ที่ผมบอกว่าตัวตอกที่ใช้งานเสร็จแล้ว..ก็เก็บไว้ไม่ทำลายเช่นเดียวกัน<o></o>
......พวกมิจฉาชีพ..มันก็คนในวงการเหมือนกัน..ก็รู้ว่าใครเป็นคนจัดสร้าง..เลียบๆเคียงๆถามไป<o></o>
เรื่อยๆก็รู้ว่าใครเก็บ..ถ้าเป็นของวัดทำเองจะง่ายสุด..เพราะการจัดเก็บของ..จะไม่เรียบร้อย...<o></o>
..ก็แค่จ่ายเงินให้ไอ้คนที่สามารถ..เข้าห้องถือกุญแจ..แค่นี้..ก็ได้ของแล้ว........<o></o>
............นั่นแหละครับเป็นสาเหตุที่ภายหลัง..เมื่อทำเสร็จ..ต้องให้กรรมการ..และบางทีมีสื่อมวล<o></o>
ชน..มาเป็นสักขีพยาน..ในการทำลาย..บล็อค..และตัวตอกโค๊ต..จะได้จบปัญหาไปทีเดียวเลย<o></o>
...................การทำตัวตอกโค๊ต..เดี๋ยวนี้..ก็เหมือนการแกะบล็อก..คือใช้คอมพิวเตอร์..SCAN<o></o>
ต้นแบบ..ตัวเจีย..จะรับคำสั่ง..จากคอมพ์..เจียบล็อกเอง.ไม่ต้องใช้คน..เช่นเดียวกัน..ตัวตอกนะ<o></o>
ต้นแบบที่ทำนะ..ตัวใหญ่นะครับ..ถึงทำได้รายละเอียดมาก..แล้วสั่งคอมพ์ให้ย่อ..ตามอัตราส่วน<o></o>
ที่ต้องการ..เล็กลงเท่าไหร่ก็ได้..หัวเครื่องเจียจะทำตามคอมพ์ออกมา..เหมือนเป๊ะ..แต่เล็กนิด<o></o>
เดียว..........พวกทำปลอมก็ต้องเอาเหรียญจริง..มาScan..ที่รอยตอก..แล้วสั่งให้มันกลับเป็น..<o></o>
Negative..ซะ..แล้วขยายภาพสามมิติ..ที่ได้แล้วมาแต่งให้เนียน(เพราะที่ เราScan..มาต้นแบบ<o></o>
มันเล็กมาก..ข้อมูลภาพออกมาจะหยาบ)..ไม่งั้นต้องทำต้นแบบจากเหรียญ..เดี๋ยวนี้ฮิต..ใช้ยาง<o></o>
ปั๊มแบบฟัน(ยางพิมพ์ฟัน)ของหมอฟันมากดที่รอยตอก..แล้วเอาต้นแบบนี้ไปSCAN..แล้วให้เครื่องเจียทำตัวตอกออกมา..เห็นมั้ยครับ..คนมันจะปลอมซะอย่างมันก็ทำได้...ผมถึงนับถือพวกนี้..ว่าหลักแหลม..ช่างสังเกต..และเป็นนักดัดแปลงชั้นยอด..อีกทั้งยังก้าวไปกับเทคโนโลยีอีก<o></o>
ต่างหาก................................................................................<o></o>
..................................................ต่อตอนหน้าครับ....................................................<o></o>
.....................................ขอขบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านกัน...ขอบคุณ..ครับ......................<o></o>
.............................................................สวัสดี.............................................................

 

สวัสดีวันแม่ครับทุกท่าน ยิ่งรู้เยอะยิ่งกลัวเลยครับสำหรับการทำปลอม...

 

ข้อมูลเด็ดมากครับ ถ้าหากจำได้ว่าเป็นเหรียญไหน (คิดว่าคุณลุงคงรู้แต่ไม่อยากจำมากกกว่า) ก็คงสนุกไม่น้อย รับรองวงการพระเครื่องสะเทือน และเป๋ไปเป๋มา แน่นอนครับ

 

..................................................
ถูกต้องนะครับ.................

 

.....................................................
..จำไม่ได้จริงๆครับ..มันนานมาแล้ว..พอดีเหรียญที่ว่า...ผมไม่มีด้วย..เลยจำไม่ได้

 

...................................................
อย่ากลัวเลยครับ..ยิ่งรู้มากทำให้เราจะกลายเป็นคนรอบคอบขึ้น..หาประวัติที่มา..ตรวจสอบ..ให้ถี่ถ้วน...ผมว่าดีกับ..ตัวเองด้วย...

 

เห็นคุณลุงไปเกินเรื่องหลวงปู่คำพันธ์ ในกระทู้น้องบอย อยากอ่านไวๆจังค่ะ
ขอบคุณค่ะ