พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    แล้วองค์นี้ล่ะครับ คุณน้องนู๋ เป็นยังไงมั่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010004.JPG
      P1010004.JPG
      ขนาดไฟล์:
      200.5 KB
      เปิดดู:
      63
    • P1010005.JPG
      P1010005.JPG
      ขนาดไฟล์:
      196 KB
      เปิดดู:
      61
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับธนบัตรนำโชค คุณpsombat น่าจะหลายใบอยู่ตอนนี้



    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  4. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  6. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 23 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 21 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แหน่ง, sithiphong+ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สวัสดีครับพี่หนุ่ม

    สบายดีไหมครับ

    ดูแลสุขภาพด้วยครับ
     
  7. Natachai

    Natachai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +937
    ใครรู้บ้างพระกริ่งปวเรศ รุ่น 1 กับรุ่น 6 (2434) ต่างกันอย่างไร?
    ...ตามมาติดๆครับ เจ้าของเขาสงวนลิขสิทธิ์จึงนำลิงค์มาให้ชมกัน
    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CAZONE%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} a:link, span.MsoHyperlink {color:blue; text-decoration:underline; text-underline:single;} a:visited, span.MsoHyperlinkFollowed {color:purple; text-decoration:underline; text-underline:single;} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> Picasa Web Albums - พิพิธภัณฑ์ภาพพระเ... - พระกริ่งปวเรศ...
    [FONT=&quot]คลิกลูกศรด้านบนพิจารณาองค์ที่ 1 ถึงองค์ที่ 8 แล้วเทียบกับพระกริ่งปวเรศ 2434 ไล่ตั้งแต่วงกลมที่ศรีษะพระกริ่ง ตา จมูก ปาก ใบหู ชายแขนเสื้อ จีวร แล้วจะเห็นเหมือนที่ผมเห็น...เหรอป่าวก็ไม่อาจจะบรรยายได้หมด<o>:p></o>:p>[/FONT]
    ...รุ่น 6 นี้เป็นรุ่นที่เอาแบบบล๊อกพิมพ์ของรุ่น 1 มาแกะพิมพ์แล้วแต่งให้ดูสวย...กว่ารุ่น 1 แต่ยังมีหลายๆจุดที่เห็นเด่นชัดว่าเป็นรุ่น 1....
    [FONT=&quot]Picasa Web Albums - พิพิธภัณฑ์ภาพพระเ... [/FONT][FONT=&quot]คลิกดูในแต่ละรูปมีรูปซ้อนด้านในมีภาพน่าใสใจหลากสีสั[/FONT]น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2010
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เนคเทคทำเครื่องตรวจบัตรเครดิตปลอมสำเร็จ


    เนคเทคทำเครื่องตรวจบัตรเครดิตปลอมสำเร็จ (ไอเอ็นเอ็น)

    เนคเทค ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องตรวจบัตรเครดิตปลอม เป็นเครื่องแรกของโลก และได้นำเครื่องต้นแบบ ใช้ในธนาคารแล้ว 2 แห่ง

    ดร.ศรัณย์ สัมฤทธิ์เดชขจร ผู้อำนวยการฝ่ายหน่วยปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีโฟโทนิกส์ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) เปิดเผยว่า เนคเทค ได้พัฒนาเครื่องตรวจสอบบัตรเครดิตปลอม โดยอาศัยความรู้ของแสงอิเล็กทรอนิกส์ และโปรแกรมมิง ซึ่งจะประมวลผลข้อมูลออกมาในรูปแบบโฟโทนิกส์ ให้สามารถตรวจสอบบัตร จริงและปลอมได้อย่างละเอียด

    โดยเมื่อเสียบบัตรเครดิต ที่ต้องการตรวจสอบในช่องเสียบบัตร เครื่องจะประมวลผลไม่เกิน 1 วินาที บนหน้าจอ หากปรากฏตัวอักษรสีเขียว แสดงว่าเป็นบัตรจริง แต่หากปรากฏเพียงแถบสีเขียว หรือ หน้าจอว่าง แสดงว่าเป็นบัตรปลอม

    ซึ่งจากการนำบัตรวีซ่า และมาสเตอร์การ์ด 500 ใบ มาทดสอบ พบว่า สามารถตรวจสอบได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นเครื่องแรกของโลก ที่สามารถตรวจสอบได้ทั้งบัตรวีซ่า มาสเตอร์การ์ด ขณะนี้ ได้จดสิทธิบัตร และขายให้กับบริษัทเอกชนเรียบร้อยแล้ว และมีเครื่องต้นแบบใช้ในธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักวิจัยเนคเทค ต้องพัฒนาต่อยอด จะนำไปทดลองกับบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรส และไดเนอร์สคลับ ซึ่งขึ้นอยู่กับบริษัทผู้ผลิตบัตรที่สนใจ โดยมั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์กับหน่วยงานธุรกิจทางการเงิน หน่วยงานความมั่นคง และหน่วยงานต่างประเทศที่สนใจ


    ที่มา ไอเอ็นเอ็น
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เจ้าของฟอร์จูนเนอร์ผวา-แก๊งแสบใช้ 5 นาทีขโมยเรียบ
    http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000110784
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>10 สิงหาคม 2553 15:14 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>พิษณุโลก - รวบแก๊งโจรกรรม “ฟอร์จูนเนอร์” ตามออเดอร์ หลังตระเวนลักรถมาแล้วทั่วประเทศ ล่าสุด ดอดขโมยรถหรูเจ้าของร้านปืนชื่อดังพิษณุโลก ขับเข้ากรุง แต่ไปไม่รอด เจอตำรวจพยุหะคีรี เห็นผิดสังเกตรวบตัวได้พร้อมของกลาง ก่อนขยายผลต่อ เผยใช้วิธีถอดกล่องคอมพิวเตอร์โจรกรรมในเวลา 5 นาที

    วันนี้ (10 ส.ค.) พล.ต.ท.สุรสีห์ สุนทรศารทูล ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.ประสาน บุญะปาน รอง ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สะอาดพรรค รอง ผบ.ช.ภ.6, พล.ต.ต.จำลอง น้อมเศียร ผบก.สส.ภ.6, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบุรีกูล ผบก.จว.พิษณุโลก ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งขโมยรถยนต์รายใหญ่ ซึ่งสามารถจับกุมนายสุรชัย หรือ ดำ สุกสว่าง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 455/66 ม.8 ต.หนองจระเข้ อ.หนองแค จ.สระบุรี พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กท-541 พิษณุโลก ที่จอดไว้ริมฟุตปาทหน้าร้านปืนกำธร ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก

    สืบเนื่องจากคืนวันที่ 9 ส.ค.53 นายสุทธิพงษ์ ชีพธำรง อดีตนายก อบต.อรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลก เจ้าของร้านปืนกำธร จอดรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ไว้ที่หน้าร้านเหมือนทุกคืนตามปกติ แต่เช้ามารถหาย ต่อมาตำรวจด่านตรวจ อ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์ สามารถจับผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง เนื่องจากเห็นว่านายสุรชัย หรือ ดำ สุกสว่าง ขับรถฟอร์จูนเนอร์มาคนเดียว และขับอย่างรีบร้อน

    เมื่อเจอด่านพยุหะคีรี ตำรวจที่ด่านฯตรวจ มองว่า นายสุรชัย ไม่น่ามีฐานะขับรถหรูได้ อีกทั้งยังพบว่า ภายในรถยังมีรอยงัดจึงเชิญตัวพร้อมตรวจสอบรถคันดังกล่าว

    ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 6 ขยายผล จึงทราบว่า ในคืนวันเกิดเหตุโจรกรรมรถหน้าร้านปืนกำธร ได้นำรถเก๋งหรู ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นคัมรี่ สีขาว ทะเบียน ฏฐ-9176 กรุงเทพฯ มาใช้กระทำความผิดด้วย คือ จอดดูต้นทางฝั่งตรงข้าม จึงจะติดตามขยายผลจับกุมแก๊งโจรกรรมรถหรูรายนี้ต่อไป โดยล่าสุดสามารถจับกุมหญิงคนหนึ่ง พร้อมกับรถโตโยต้าคัมรี่คันดังกล่าวแล้ว และกำลังติดตามจับกุม นายบุญมา หรือ ม่อน วันเนาว์ ที่มีคดีในหลายท้องที่ และนายสันต์ทัศน์ หรือพิชิต แสงฤดู ที่ร่วมกันกระทำความผิดครั้งนี้ต่อไป

    ทั้งนี้ จากสอบสวน นายสุรชัย ให้การรับสารภาพ ว่า ได้ร่วมกับพวกตระเวนขโมยรถยนต์มาทั่วประเทศหลายสิบครั้ง เน้นรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ตามออเดอร์ แบ่งให้ทีมงานทำ เริ่มจากถอดไฟเลี้ยว ช็อตระบบสัญญาณกันขโมย แล้วใช้เครื่องมือทำลายกุญแจประตู แม้ล็อกไว้ 3 ระบบก็ตาม จากนั้นจะถอดกล่องคอมพิวเตอร์ และนำกล่องที่เตรียมมาสตาร์ทเครื่องแทน แต่ละครั้งทำงานไม่เกิน 5 นาที หากติดเครื่องป้องกันมาก็ไม่เกิน 10 นาที ทว่าตำรวจที่ด่านพยุหะฯเห็นคนขับแต่งตัวไม่น่าเป็นเจ้าของรถยนต์ และมั่นใจเมื่อพบร่องรอยงัดแงะจึงถูกจับ

    นายสุทธิพงษ์ ชีพธำรง อดีตนายกอบต.อรัญญิก เจ้าของร้านปืนกำธร เจ้าของรถที่ถูกโจรกรรม เผยว่า ตนซื้อรถแค่ 4 เดือน เช้าวันที่ 9 สิงหาคม 2553 จอดรถยนต์ไว้หน้าร้านปืน ตั้งแต่สามทุ่ม ใส่ล็อกเทค กุญแจโซโล กุญแจอัจฉริยะที่บริษัทอ้างว่า ป้องกันสุดๆ จากนั้นก็ขึ้นไปนอนเช้าลงมาตกใจรถหายขนาดป้องกันสุดความสามารถแล้วยังขโมยไปได้

    “เมื่อตำรวจโทรศัพท์มาบอกตนว่า จับคนร้ายขโมยรถที่ จ.นครสวรรค์ ก็ปลื้มในฝีมือตำรวจภาค 6”

    นายประดิษฐ์ เดชประไพ เจ้าหน้าที่เทคนิค บริษัท โตโยต้าพิษณุโลก จำกัด สำนักงานใหญ่ ที่เดินทางมาตรวจสอบวิธีการโจรกรรมรถ ยอมรับว่า แก๊งโจรกรรมรถรายนี้ เตรียมพร้อมและศึกษาระบบป้องกันรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์อย่างดี เพราะใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ที่ผ่านมา ไม่เคย พบการโจรกรรมลักษณะนี้ เพราะรุ่นนี้เป็นระบบอีโมบีไลเซอร์ ที่มีกล่องอัจฉริยะ ติดตั้งกับตัวรถ หรือ ระบบล็อกเทค ที่ลูกกุญแจ ระบบสตาร์ทจะทำงานต้องเป็นกุญแจของตัวรถเท่านั้น ถ้าเป็นกุญแจอื่นรถจะสตาร์ทไม่ติด แต่แก๊งนี้ได้ใช้วิธีถอดระบบอัจฉริยะออก แล้วนำกล่องอิเลกทรอนิกส์ของตนเองมาติดตั้งแทน และใช้กุญแจที่เป็นเหล็กแหลมบิดสตาร์ทได้ ซึ่งตนคงต้องรวบรวมปัญหาและนำเสนอให้โตโยต้าแก้ไขต่อไป

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 36 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 35 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>psombat </TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    สวัสดีวันแม่แห่งชาติล่วงหน้า 1 วัน

    ขอคุณแม่ของทุกๆคน มีสุขภาพ พลานามัย แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญแด่ลูกๆทุกคนครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เปิดมุมมองวันแม่แบบเด็ดๆ กับท่าน ว. วชิรเมธี </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>11 สิงหาคม 2553 14:16 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>“น้ำทุกหยดล้วนมีต้นน้ำ” - โลกนี้ไม่มี “แม่กระป๋อง”ขาย เอ็นคอนเส็ปท์ อี แอคเคเดมี่ ชวนเยาวชนไทยวัยโจ๋ ร่วมเสวนาไขปัญหากับพระชื่อดังเนื่องในวันแม่'53

    ในทุกปีที่วันแม่ได้เวียนมาบรรจบ เยาวชนไทยหลาย ๆ คนก็มีหลาย ๆ มุมคิดต่อ “วันแม่” บางคนวางแผนว่าปีนี้จะทำอะไรให้คุณแม่บ้าง .. ทำการ์ดอวยพรให้แม่ อยู่ปรนนิบัติแม่ ขอเงินแม่ ชวนแม่ไปวัด หรือ เด็กวัยรุ่นบางคนที่บังเอิญกำลังต้องเป็นแม่ อาจกำลังวางแผนทิ้งลูก !

    ล่าสุด กลุ่มนักเรียน นักศึกษาวัยใส พร้อมด้วย โรงเรียนกวดวิชาภาษาอังกฤษ เอ็นคอนเส็ปท์ อี แอคเคเดมี่ นำโดย ครูพี่แนน อริสรา ธนาปกิจ รองผู้อำนวยการและหัวหน้าทีมเอ็ดดูเทนเนอร์ ได้จัดทริปพิเศษ “ลมหายใจแห่งพระคุณแม่” ร่วมสนทนาธรรมกับพระสงฆ์ชื่อดัง ได้แก่ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว. วชิรเมธี และ พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโล วัดนาป่าพง พร้อมนำคำถามในใจคุณแม่และคุณลูกไปขอข้อธรรม โดยมีตัวอย่างหัวข้อธรรมดังนี้


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> [​IMG]
    พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว. วชิรเมธี

    [​IMG]
    </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>และ พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโล วัดนาป่าพง </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ตัวแทนเยาวชน - “วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์และไม่พร้อมจะดูแลลูก จำเป็นต้องเอาลูกไปไว้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หรือทิ้งให้คนอื่นเลี้ยง ถือว่าบาปไหมคะ”

    ว.วชิรเมธี - “คำว่าบาปมี 2 ความหมายนะ บาปปัจจุบันคือความเดือดเนื้อร้อนใจ รู้สึกผิดไปทั้งชีวิต มีลูกแต่เอาลูกไปทิ้งถังขยะ วางใต้ต้นไม้ วางป้ายรถเมล์ ทำเป็นลืม บาประยะยาวในอนาคตอันไกลคือ คุณจะเป็นคนที่ถูกทิ้งเหมือนกัน ทางแก้ก็คือ ชายหนุ่มหญิงสาว ถ้าคุณมีความรัก คุณต้องมีความรับด้วย คือความรับผิดชอบ “ความรักให้มาพร้อมกับความรับ” หากไม่พร้อมต้องหาวิธีป้องกัน หนักกว่านั้นคือทำแท้ง พอถึงวันแม่ หรือวันหนึ่งที่คุณเป็นแม่คนจริง ๆ ขึ้นมา คุณจะสะเทือนใจแค่ไหน ฉันเป็นแม่ที่ทำแท้งลูก แล้วคิดว่าวิญญาณลูกที่ถูกทำแท้งจะคิดถึงเราในแง่ดีไหม ..


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ตัวแทนเยาวชน - “เวลาที่เราคุยกับคุณแม่ทีไร ต้องเกิดมีปากเสียง ทะเลาะ ไม่เข้าใจกันทุกครั้ง จะทำอย่างไรดีคะ”

    ว.วชิรเมธี - แม่บางคนชอบสอนลูกด้วยวิธีการเปรียบเทียบลูกตัวเองกับลูกคนอื่น ... “ดูลูกคนอื่นเขาสิ....” เป็นวิธีการสอนที่ไม่ฉลาด เพราะจะทำให้ลูกรู้สึกไม่ดี กับตัวอย่างที่ถูกยก และเป็นการประจานลูกต่อหน้าคนอื่น ลูกจะรู้สึกย่ำแย่มาก บางครั้งแม่อาจใช้วิธีพูดชาประชดประชันลูก ด่าทอ จะทำให้ลูกขาดความเชื่อมั่น วิธีการพูดของคนเรามันสำคัญมาก พูดเป็นทำให้ปากเราเป็นช่อดอกไม้ หากพูดไม่เป็นปากของเรากลายเป็นหอกพุ่งใส่อกคนอื่นๆ ดังนั้น ฝากคุณพ่อคุณแม่ ทั้งหลาย คำพูดมันเป็นศิลปะ เปลี่ยนคำด่าเป็นคำแนะนำ เปลี่ยนการประชดประเทียบ เป็นการให้กำลังใจดีกว่า ขอให้เชื่อไว้อย่างหนึ่ง การพูดให้กำลังใจได้ผลกว่าการพูดเหน็บแนม .. คำชมเป็นสิ่งที่มนุษย์อยากฟัง เปลี่ยนการตอกตะปูใส่หัวใจของลูก เป็นการโยนช่อดอกไม้ใส่มือลูกจะดีกว่า

    ตัวแทนเยาวชน - “ถึงวันแม่ทีไร ลูกหลายคนนึกถึงแม่ที่ทิ้งไป แม่ที่เป็นคนไม่ดีด้วยความเจ็บปวดทุกครั้ง ควรปฏิบัติอย่างไรดี”

    ว.วชิรเมธี - “ลูกที่ฉลาดถ้าเห็นว่าแม่ผิดพลาดต้องบอกตัวเองว่าหนึ่ง เราต้องไม่ซ้ำเติมท่าน เพราะถือว่าในฐานะมนุษย์ทุกคนย่อมมีสิทธิ์ผิดพลาดกันได้ทั้งนั้น ให้อภัยท่านเถอะนะ แล้วบอกตัวเองว่า ความผิดพลาดของแม่จะต้องเป็นบทเรียนให้เรา ในยุคสมัยของแม่ แม่เคยเป็นแม่ที่ใช้ไม่ได้ แต่ในยุคสมัยของฉัน ฉันจะเป็นแม่ชั้นนำให้ดู พลาดที่แม่แล้วมาแก้ที่ลูก ถ้าทำได้อย่างนี้ อย่าไปซ้ำเติมใครให้เป็นบาปเป็นกรรมกับตัวเอง นี่คือทางออกที่ดี และเป็นทางสายกลางสำหรับลูกที่ระลึกถึงแม่ที่ไม่ได้ดังใจ”


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>วันแม่มีความสำคัญมากกว่าแค่จะระลึกถึงพระคุณแม่ แต่มีความหมายเชิงบวกอีกอันหนึ่ง ยิ่งแม่กับลูกมีปัญหาแคลงใจ ก็ควรมาพูดคุยกัน เคลียร์กัน อภัยให้กัน ลูกก็ควรทิ้งพยศ ลดมานะ ละฐิทิ ...หากวันหนึ่งเราไม่มีแม่ แล้วเราเดินเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตจะเจอแม่กระป๋องตามเชลฟ์ไหม วันแม่เป็นวันแห่งการเริ่มต้นสร้างความสัมพันธ์ที่ปกติของแม่และลูกได้ ขอให้เป็นวันเจรจาสันติภาพ ให้มีแม่มีลูกกลับมาสู่อ้อมกอดกันอีกครั้ง

    ครูพี่แนน - “ถ้าหาก คุณพ่อคุณแม่ ของเราเสียไปหมดแล้ว พอถึงวันแม่ควรปฏิบัติตัวเช่นไรคะ”

    ว.วชิรเมธี - “แม้แม่ไม่อยู่แล้ว แต่สายสัมพันธ์นั้นไม่ได้ขาด เมื่อวันแม่มาถึงก็ควรไปทำบุญอุทิศให้ท่าน ประการที่สอง คุณสมบัติของท่านยังอยู่ในตัวเรา ลองถามตัวเองดูว่า เราได้ใช้กายนี้ใจนี้ที่ท่านให้มา คุ้มไหม ใช้ร่างกายและจิตใจที่แม่ให้มาเพื่อไปทำความดี หรือใช้เพื่อไปทำเลว ถ้าคุณลูกทำดีตลอด คุณก็ทำดีในนามของแม่ด้วย แม่กำลังไปทำกับคุณด้วย อย่างวันนี้เรามาคุยกับพระ ก็เท่ากับแม่ที่ล่วงลับดับขันธ์ได้มาฟังกับเราด้วย แต่ถ้าลูกใช้รูปกายนี้เพื่อไปติดอยู่ในอบายมุข ในยาเสพติด เฮโรอีน ฝิ่น กัญชา ยาม้า ยาบ้า ยาอี ตลอดจนถึงอบายมุข คบคนชั่วเป็นมิตร ขี้เกียจ หรือว่าเป็นคนเลว เป็นคนโป้ปดมดเท็จ หรือว่าคอรัปชั่น เหล่านี้ ความชั่วทั้งหมดนะ ทำหรือเปล่า ถ้าลูกทำ ได้โปรดรับรู้ว่าลูกกำลังพาแม่ไปทำชั่ว ...โปรดรู้ด้วยว่าสายสัมพันธ์แห่งความเป็นลูกและสายสัมพันธ์แห่งบุญจะถูกถ่ายโอนไปถึงคุณแม่ทุกคราไป”

    วันต่อมา ครูพี่แนน พร้อมทีมผู้ปกครองและเยาวชน ได้พากันเดินทางไปกราบพระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโล ณ วัดนาป่าพง อันเงียบสงบ ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนาอันเขียวขจีลึกเข้าไปจากปากคลอง 10 ถนนรังสิต-นครนายก ปทุมธานี


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระอาจารย์คึกฤทธิ์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ตัวแทนเยาวชน : “ถ้าพ่อแม่อยากไปปฏิบัติธรรมะ แต่ลูกห้ามไว้เพราะกลัวจะไปอยู่ลำบากที่วัด ไม่ทราบว่าบาปมั้ย และระหว่างการปฏิบัติธรรมที่วัด กับปฏิบัติเองที่บ้าน จะได้ผลเท่ากันไหมคะ”

    พระอาจารย์คึกฤทธิ์ : กาย วาจา จิต อยู่ที่ไหนมันก็ดีที่นั้น ไม่ใช่อยู่วัดแล้วจะต้องดีที่วัด ในเรื่องการห้ามแม่ไม่ให้ไปวัดนั้น โยมลองคิดดูแล้วกัน ขนาดแค่การห้ามคนไม่ให้ทาน พระตถาคตบอกว่าแค่ห้ามผู้อื่นให้ทาน ผู้นั้นไม่ใช่มิตร เป็นอมิตร เป็นการทำอันตรายต่อลาภของปฏิคา 6 ผู้รับทานกำลังจะได้รับทานนั้น เราดันไปห้ามอีก แล้วเป็นการขุดรากตัวเองด้วย ตัวเองกำลังจะได้อานิสงส์จากการให้ทานนะ นี่ขนาดแค่ให้ทานนะ แล้วห้ามคนจะปฏิบัติธรรมซึ่งมีอานิสงส์มากกว่าการให้ทานเป็นร้อยเท่า โยมคิดว่ามันน่าจะควรไหม

    ตัวแทนเยาวชน : อยากทราบว่าจะมีวิธีไหนที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจในตัวเราได้บ้าง เพราะไม่ใช่เด็กเรียนเก่ง

    พระอาจารย์คึกฤทธิ์: ก็ไม่จำเป็นต้องเอาความเก่งมาเป็นเครื่องวัด เราก็ฝึกมีธรรมะไปด้วย เวลาเรามีธรรมะเดี๋ยวเราก็จะพลิกตัวกลับมาได้ มันจะรู้สึกนึกได้ พระพุทธเจ้าให้ฝึกจิต ถ้าจิตดีแล้วทุกอย่างดีหมด เธอปรารถนาสิ่งใดเธอจะได้สิ่งนั้นตามปรารถนา ปัญหาอุปสรรคมันจะลดลงไปเรื่อย ๆ


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ตัวแทนเยาวชน : เวลาทะเลาะกับคุณแม่ คุณแม่มักพูดว่าไม่น่าเกิดมาเลย รู้อย่างนี้เอาขี้เถ้ายัดปากเสียดีกว่า ทำให้รู้สึกน้อยใจและโกรธท่าน เถียงท่านในใจว่าก็ไม่ได้บอกให้แม่ทำให้เกิดมานี่ ไม่ทราบว่าคิดแบบนี้ผิดไหม

    พระอาจารย์คึกฤทธิ์ : แม่คิดอกุศล พูดอกุศล ก็เป็นเรื่องของแม่นะ ภพอันเป็นอบายเกิดกับแม่ ไม่ได้เกิดกับเรานะ แต่ถ้าเราอกุศลตอบ ภพอันเป็นอบายก็เกิดกับเรา ถ้าเกิดแม่รักษาจิตได้แล้ว แต่เรารักษาจิตไม่ได้ เราไปด่าแม่ อกุศลเกิดขึ้น อบายเกิดกับเราไม่ได้เกิดกับแม่ ดังนั้น ทุกคนต้องระมัดระวังตัวเอง ต้องรักษาจิตตัวเองไม่ให้ไปตกในอกุศล อกุศลเกิดขึ้นแล้วพระศาสดาบอกว่า ให้เธอรีบทิ้งให้ไวที่สุด เปรียบเหมือนถ้าไฟลุกไหม้เสื้อผ้าโยมอยู่ตอนนี้ โยมคงต้องดับให้ไวที่สุด เมื่ออกุศลเกิดขึ้นพระศาสดาบอกว่า เธอต้องใช้ความเพียรอย่างแรงกล้า อย่างไม่ถอยกลับ ใช้สติ การระลึกได้ สัมปชัญญะ ความรู้ตัวอย่างแรงกล้า เพื่อที่จะดับอกุศลนั้นอย่างเร่งด่วน โยมไม่ต้องไปต่อล้อต่อเถียง ใครว่าเรา พระพุทธเจ้าบอกว่าให้ตั้งใจฟังเขาให้ดี ถ้าเขาว่าถูก ก็ดีแล้วเราก็ไปแก้ไข ถ้าเขาว่าผิด ก็บอกว่าสิ่งนี้ไม่มีในเรา อย่าพึงทำความพอใจ ความไม่พอใจตรงนั้น

    ตัวแทนเยาวชน : ทุกวันนี้ คุณพ่อคุณแม่ต้องการให้เรียนหนังสืออย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องช่วยทำงานบ้านเลย ท่านคิดอย่างไร

    พระอาจารย์คึกฤทธิ์ : ก็จะทำให้ลูกขาดความรับผิดชอบ ไม่รู้จักการใช้ชีวิต ต้องมอบความรับผิดชอบให้ลูกบ้าง ให้รู้จักดูแลตัวเอง ห้องของตัวเองต้องดูแลเป็น เรียนอย่างเดียวมันจะรอดไหม ด็อกเตอร์นะเต็มประเทศไปหมด แต่ด็อกเตอร์ที่ชุ่ย กิริยามารยาทไม่ดี ขาดความรับผิดชอบ คนเขาก็ไม่เอาเหมือนกันนะ ถ้าความรู้เท่ากันมา 10 คน เค้าก็ต้องเลือกคนที่มารยาทดี มีความรับผิดชอบ มีวินัย มีความเกรงอกเกรงใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องถูกฝึกตั้งแต่เด็ก เราจะโดดเด่นกว่าคนอื่นก็เพราะว่าเรามีคุณสมบัติพวกนี้ ความรู้เดี๋ยวมันก็เรียนทันกันได้ อีกอย่างโยมต้องมีธรรมมะ ตัวธรรมะมันจะทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา เพราะฉะนั้นโยมต้องรู้ว่า อะไรที่จะเป็นเหตุให้เจริญก้าวหน้าในทางโลกและทางธรรม ต้องสร้างเหตุอย่างไร


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ทั้งนี้ ครูพี่แนน ได้กล่าวถึงกิจกรรมพิเศษ“ลมหายใจแห่งพระคุณแม่” นี้ว่า สถาบันครอบครัวนับว่าสำคัญที่สุด เพราะเป็นสถาบันพื้นฐานในการสร้างคน แนน หวังว่า เทปบันทึกการสนทนาธรรมพิเศษที่จะนำไปถ่ายทอดในวันแม่ไปถึงเยาวชนและผู้ปกครองใน 30 สาขาทั่วประเทศ จะเป็นประโยชน์กับหลาย ๆ คน

    “ผู้ที่มีความรู้สารพัดรู้ แต่ไม่รู้ว่าพ่อแม่มีพระคุณอย่างไร นับว่ามีความรู้ที่สูญเปล่า ขอให้ระลึกถึงต้นน้ำของเรา คนทุกคนล้วนมีต้นน้ำ ไม่มีใครเกิดมาจากสุญญากาศ ไม่มีเกิดมาจากก๊อกน้ำ ไม่มีใครเกิดมาจากไอพ๊อด ให้นึกถึงคุณแม่คุณแม่เสมอ และตอบแทนท่านด้วยความกตัญญูกตวเที สุภาษิตจีนกล่าวว่า ร้อยความ ดี ...ความกตัญญูมาเป็นที่หนึ่ง” - ว.วชิรเมธี

    “ ไหว้พระ หมื่นองค์ แต่ไม่เคยกราบพ่อแม่เลย ก็เท่ากับ เป็นคนไม่มีคุณค่าอะไรเลย”

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"โสภณ ฉิมจินดา" มนุษย์ล้อผู้มี "แม่" เป็นแรงใจ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>11 สิงหาคม 2553 07:02 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=240 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=240>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"โสภณ ฉิมจินดา"</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>"ไม่ว่าผมจะถ่ายหนัก ถ่ายเบา เปลี่ยนผ้าอ้อม แม่ก็ทำให้ผม ซึ่งผมรู้สึกว่าสิ่งนี้มันควรจะเป็นหน้าที่ของลูกที่ต้องทำให้กับแม่มากกว่า"

    คำสารภาพความในใจจากปากลูกผู้ชายคนหนึ่งซึ่งปัจจุบันโชคชะตาได้เล่นตลก เปลี่ยนชีวิตจากมนุษย์ที่มีร่างกายปกติ กลายเป็นมนุษย์ล้อที่ไม่สามารถเดิน และช่วยเหลือตัวเองได้

    "โสภณ ฉิมจินดา" หรือ "โส" คือผู้ชายที่เอ่ยประโยคดังกล่าวกับทีมงาน Life & family ปัจจุบันเขาเป็นมนุษย์ล้อที่ออกเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วประเทศด้วยการโบกรถพร้อมกับวีลแชร์คู่ใจ ซึ่งเขายอมรับว่า อุบัติเหตุที่ทำให้เขาต้องกลายเป็นมนุษย์ล้ออย่างเช่นทุกวันนี้ เป็นเหมือนฝันร้ายที่สุดในชีวิต ขณะเดียวกัน ก็ทำให้เขาได้เห็นโลกในอีกมุมหนึ่ง โลกที่ความหมายของคำว่า "ครอบครัว" ชัดเจนมากขึ้น

    "โสภณ" เล่าย้อนไปก่อนที่ชีวิตจะพลิกผันว่า เขาเติบโตในครอบครัวระดับปานกลาง โชคดีที่บ้านอยู่ใกล้กับวัด จึงได้มีโอกาสศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของศาสนาพุทธ ประกอบกับการเลี้ยงดูของบ้านที่เปิดกว้างและให้อิสระกับลูก ภายใต้กรอบของความถูกต้อง ทำให้เขามีโอกาสเรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง อยู่มาวันหนึ่ง เขามีโอกาสทำกิจกรรมค่ายอาสาพัฒนาชุมชนร่วมกับรุ่นพี่ในโรงเรียน และทำให้เขาได้ค้นพบตัวเองว่า นี่คือสิ่งที่เขาชื่นชอบ และก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางของมนุษย์ล้อคนนี้

    "ในช่วงที่เรียนชั้นประถมมีโอกาสได้รู้จักกับรุ่นพี่ที่ทำค่ายอาสาพัฒนาชุมชน ผมได้เรียนรู้การใช้ชีวิต และได้ประสบการณ์จากค่ายอาสาตั้งแต่ตอนที่เรียนอยู่ชั้นป. 5 ได้สัมผัสชีวิตคนในชนบท ได้พบเห็นผู้คนที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมให้ผมเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือสังคม มาจนถึงช่วงที่เรียนจบมหาวิทยาลัยจึงทำงานเป็นช่างภาพอิสระ และทุก ๆ ปี ผมกับเพื่อนจะมีการวางแผนเพื่อออกไปช่วยเหลือเด็กที่ยากไร้ในต่างจังหวัดปีละครั้ง"

    แต่แล้ววันหนึ่ง ขณะที่เขาเดินทางไปดูสถานที่ของเด็กด้อยโอกาสที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อเตรียมจัดหาสิ่งของจำเป็นเข้าไปช่วยเหลือ เขาก็ต้องประสบอุบัติเหตุรถตกเหว ทำให้กระดูกสันหลังหัก และเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัว



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>โสภณกับคุณแม่</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>*** จุดเปลี่ยนของชีวิต

    7 ปีหลังจากนั้น โสภณเล่าว่า เป็นวิกฤติของครอบครัวเลยก็ว่าได้ เพราะช่วงเวลาที่เขาประสบอุบัติเหตุนั้น ธุรกิจของครอบครัวก็ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจจนล้มไม่เป็นท่า จากบ้านที่เคยมีทุกสิ่งทุกอย่าง ก็กลายเป็นว่าไม่เหลืออะไรเลย ด้วยภาวะของลบกับลบมาเจอกัน เขายอมรับว่า ณ เวลานั้น เป็นช่วงที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต และคงไม่มีอะไรแย่เกินกว่านี้อีกแล้ว แต่ทุกคนในครอบครัวก็ลุกขึ้นมานับ 1 ด้วยกันใหม่อีกครั้ง กลายเป็นอีกหนึ่งบทของการต่อสู้ฝ่าฟันที่มีการเดิมพัน คือความอยู่รอดของคนในบ้าน

    สำหรับโสภณแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ตัวเองดีว่าไม่สามารถช่วยเหลืออะไรครอบครัวได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นกลับเป็นภาระของคนในครอบครัวอีก แต่เขาก็ตั้งสติ และหาทางให้ตนเองกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิมให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ต้องเป็นภาระของครอบครัว ส่วนหนึ่งก็เพื่อผู้ที่ได้ชื่อว่า "แม่" เพราะตลอดระยะเวลาการรักษาอาการบาดเจ็บ คุณแม่ของเขาเป็นคนที่ดูแลทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะเขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลยได้แต่นอนนิ่งๆ อยู่บนเตียง พูดได้ว่าทั้งสองคนแทบจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา โดยที่คุณแม่จะคอยดูแลในทุกๆ เรื่องกับภาวะที่เป็นอยู่อย่างปฏิเสธไม่ได้

    "ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำความสะอาดเวลาที่ผมถ่ายหนัก ถ่ายเบา เปลี่ยนผ้าอ้อม หรือแม้แต่ต้องเช็ดเท้าให้ผม บางทีมันทำให้ผมรู้สึกว่า สิ่งนี้มันควรจะเป็นหน้าที่ของลูกที่ต้องทำให้กับแม่มากกว่า แต่แม่ต้องทำให้ผมทุกอย่าง ในใจ ณ เวลานั้นคิดว่า เราต้องเข้มแข็งนะ อย่างน้อยๆ เราต้องช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง เพื่อพ่อแม่และคนรอบข้างของเรา" โสภณเล่าความในใจ

    "ตอนที่พักรักษาตัวอยู่ ต้องใช้เงินไปเปลี่ยนอุปกรณ์ทางการแพทย์เพียงครั้งละ 70 บาท แต่เราก็ไม่มีเงินไปหาหมอ ต้องรอให้แม่ได้เงินจากการขายของที่ตลาดนัดก่อน และสิ่งนี้ก็เป็นแรงผลักดันที่ทำให้ผมอยากจะกลับมาเดินได้อีกครั้ง เพราะสงสารพ่อแม่ที่ต้องทำงานจนเหน็ดเหนื่อย เพื่อหาเงินมารักษาผม ส่วนอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถรักษาอาการป่วยของผมได้นั้น คือการให้กำลังใจของคนในบ้าน ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยแสดงออก เพียงแค่ทุกคนเข้าใจและยิ้มให้กันมันก็ช่วยเติมเต็มให้ทุกคนกลับมายิ้มได้อีกครั้ง"



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สัมผัสชีวิตของเด็กด้อยโอกาสในต่างจังหวัด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>*** กำลังใจจาก "แม่" สู่ชีวิตใหม่

    ในวันนี้ที่โสภณกลับมามีชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง เขาเล่าว่า คุณแม่ก็ยังทำหน้าที่ของคนที่เป็นแม่อยู่เหมือนเดิม คอยเป็นห่วงและดูแลลูกตลอดเวลา ในฐานะของลูกโสภณบอกว่า เขาจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้เพื่อทุกคนในครอบครัว เพราะคนที่จะคอยอยู่เคียงข้างเมื่อเจอกับวิกฤตของชีวิต คือพ่อแม่และคนในครอบครัวของเราเอง

    หลังจากชีวิตพลิกผันให้ต้องพิการ และใช้ชีวิตบนรถเข็น เขาไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้เหมือนเมื่อก่อน แต่ด้วยความเป็นคนชอบเดินทาง จึงไม่อยากให้ความพิการมาเป็นอุปสรรค เขายังเลือกทำตามความฝันให้เป็นจริงกับการพาแม่ไปโบกรถเที่ยว เพื่อให้แม่มีความสุขกับสิ่งที่แม่เคยบอกว่า "เมื่อลูกมีความสุข แม่ก็มีความสุขด้วย"

    "ผมได้ประสบการณ์ที่ดีหลายอย่างจากความพิการ และได้เรียนรู้ชีวิตว่า มันไม่มีอะไรแน่นอน แต่สิ่งที่แน่นอนของชีวิต คือเวลาช่วงปัจจุบันที่เรายังมีลมหายใจและมีความรู้สึกอยู่ ควรทำวันนี้ให้มันดีที่สุด ทำให้คนในครอบครัวและคนรอบข้างมีความสุขมากที่สุด"

    อย่างไรก็ดี นักเดินทางคนนี้ ฝากทิ้งท้ายให้กำลังใจทุกๆ คนว่า คนพิการมีคุณค่าในตัวเอง และต้องคิดว่าทุกปัญหามันมีทางออก เพราะถึงที่สุดหรือว่าเจอทางตันในวันที่เรายังทำมันไม่เต็มที่ ลองเปลี่ยนมุมมองให้ตัวเองใหม่ อยู่ร่วมกับความพิการ ใช้ความเข้าใจ และยอมรับความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น และใช้มันเป็นแรงผลักดันในอยู่ในสังคมอย่างมีคุณค่าต่อไป

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นิ่งเหวยอี้ว์ซุ่ย,ปู้เหวยหว่าฉวน: ยอมเป็นหยกแหลกลาญไม่ขอเป็นกระเบื้องสมบูรณ์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>11 สิงหาคม 2553 13:46 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
    《宁为玉碎,不为瓦全》



    宁(nìng) อ่านว่า นิ่ง แปลว่า ยอม
    为(wéi) อ่านว่า เหวย แปลว่า เป็น
    玉(yù) อ่านว่า อี้ว์ แปลว่า หยก
    碎(suì) อ่านว่า ซุ่ย แปลว่า แตกสลาย
    不(bù) อ่านว่า ปู้ แปลว่า ไม่
    瓦(wǎ) อ่านว่า หว่า แปลว่า กระเบื้อง
    全(quán) อ่านว่า ฉวน แปลว่า เต็ม สมบูรณ์




    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> [​IMG]</TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพจาก sucaitianxia.com </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ในสมัยคริสตศักราชที่ 550 ยุคราชวงศ์เหนือ อัครเสนาบดี “เกาหยาง” กุมอำนาจเด็ดขาดในราชสำนักแผ่นดินเว่ยตะวันออก (ตงเว่ย) จึงบีบให้กษัตริย์ “เสี้ยวจิ้งตี้ (หยวนซ่าน)” สละราชบังลังก์ แล้วตั้งตนขึ้นเป็นกษัตริย์แทน สถาปนาราชวงศ์ฉีเหนือ (เป่ยฉี) ขึ้นมา

    เกาหยางเป็นคนโหดเหี้ยมทารุณ เพื่อกำจัดเสี้ยนหนามที่อาจจะกลับมาทิ่มแทงในอนาคต จึงตัดสินใจสังหารเสี้ยวจิ้งตี้พร้อมทั้งราชโอรสทั้งสามไปในปีคริสตศักราชที่ 551 ทว่าการก่อกรรมทำชั่วอย่างมากมายเช่นนั้น ทำให้ในใจของเกาหยางอัดแน่นไปด้วยความหวาดกลัว​

    ครั้งหนึ่งเกาหยาง เอ่ยถามคนสนิทว่า "ยุคปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (ซีฮั่น) ครั้งที่พระญาตินาม “หวังหมั่ง” แย่งชิงอำนาจมาจากตระกูลหลิวสำเร็จ เหตุใดภายหลังจึงปล่อยให้ “หลิวซิ่ว (ฮั่นกวงอู่)” ช่วงชิงอำนาจกลับไปได้สำเร็จ?" คนสนิทของเกาหยางไม่ทราบเหตุผลอันใด เพียงแต่ตอบเพื่อเอาใจนายเหนือหัวว่า "เป็นเพราะหวังหมั่งไม่ขุดรากถอนโคน กวาดล้างราชนิกูลตระกูลหลิวไปให้หมดสิ้นในคราวเดียว" เมื่อเกาหยางได้ฟังก็เห็นว่าคำกล่าวนี้มีเหตุผล จึงได้นำมาใช้ โดยออกคำสั่งให้กวาดล้างสังหารพระญาติราชนิกูลตระกูลหยวน ของเสี้ยวจิ้งตี้ ให้สิ้นซากจากแผ่นดิน ไม้เว้นแม่แต่เฒ่าชราหรือทารก ส่งผลให้คนตระกูลหยวนระส่ำระสาย รู้สึกหวาดกลัว เพราะไม่รู้ว่าวันใดตนจะถูกฆ่าตาย จึงได้จัดการพบปะในหมู่เครือญาติเพื่อหารือ​

    ในการหารือของตระกูลหยวน มีคนผู้หนึ่งเสนอว่า ทางที่ดีควรจะเปลี่ยนชื่อสกุลใหม่ จาก หยวน (元) เป็น เกา (高) แต่พระญาตินาม “หยวนจิ่งห้าว” คัดค้านความคิดนี้อย่างหัวชนฝา โดยกล่าวว่า "ลูกผู้ชายยอมเป็นหยกแหลกลาญ ไม่ขอเป็นกระเบื้องสมบูรณ์ ยอมตายอย่างกล้าหาญ ดีกว่ามีชีวิตอยู่อย่างอัปยศอดสู"

    ภายหลัง หยวนจิ่งห้าว ถูกทางการสังหารไปในที่สุด ส่วนเกาหยางเองนั้นป่วยหนักเสียชีวิตไปภายหลังจากนั้นไม่นาน ราชวงศ์ฉีเหนือจึงสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็วในคริสตศักราชที่ 577​

    สำนวน "ยอมเป็นหยกแหลกลาญ ไม่ขอเป็นกระเบื้องสมบูรณ์" เดิมใช้ในความหมายว่า ยอมตายไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี ภายหลังมักใช้หมายถึงการยึดมั่นในหลักความเชื่อ-อุดมการณ์ของตนอย่างแน่วแน่ แม้จนตัวตายก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง

    ที่มา baike.baidu.com

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เริ่มใช้จริง ใบสั่งออนไลน์ 30 สิงหาคมนี้

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    จากกรณีที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แจ้งว่า วันที่ 30 สิงหาคมนี้ บช.น.จะนำเครื่องออกใบสั่งออนไลน์แบบมือถือ หรือ เครื่องอี-ทิกเก็ต (e-ticket) มาให้ตำรวจจราจรใช้ลงพื้นที่กวดขันวินัยจราจร แทนการออกใบสั่งกระดาษในปัจจุบัน

    โดยจะเริ่มนำร่องใน 9 สถานี ได้แก่ สน.วัดพระยาไกร สน.ลุมพินี สน.ทองหล่อ สน.ท่าเรือ สน.ทุ่งมหาเมฆ สน.บางโพงพาง สน.พระโขนง สน.บางนา สน.คลองตัน และงาน 5 (ตรวจพิเศษ) กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) นั้น

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) รับผิดชอบงานจราจร เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ริเริ่มจัดทำ ใบสั่งออนไลน์ ออกโดยเครื่องอี-ทิกเก็ต (E-Ticket) เพื่อความสะดวกรวดเร็วและแม่นยำ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรผู้ออกใบสั่ง จะออนไลน์ข้อมูลระหว่างเครื่องออกใบสั่ง ไปยังฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

    "ในใบสั่งจะพิมพ์ข้อมูลรถที่ถูกออกใบสั่ง ข้อมูลผู้ขับขี่ ข้อหาที่กระทำผิดกฎจราจร วัน เวลา สถานที่ที่กระทำผิด จุดที่ต้องไปเสียค่าปรับ และท้ายใบสั่งจะมีแถบบาร์โค้ด และเมื่อเจ้าหน้าที่ขอใบขับขี่จากผู้ขับขี่มา ก็จะตรวจสอบด้วยการรูดใบขับขี่ชนิดใหม่ (ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์) ที่มีแถบข้อมูลกับตัวเครื่องออกใบสั่งออนไลน์ หากเป็นใบขับขี่เดิมหรือบัตรประชาชน จะใช้วิธีกดหมายเลขบัตรแทน ทำให้สะดวกรวดเร็วและแม่นยำ ทั้งนี้ จะมีการเปิดตัวพร้อมสาธิตการใช้งานเครื่องออกใบสั่งออนไลน์ในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ ที่ บก.จร." พล.ต.ต.ภาณุ ระบุ


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ข่าวสด
    [​IMG]
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สาวใหญ่เชียงราย ถูกหลอกโอนเงิน สูญ 1.4 แสนบาท


    [​IMG]




    สาวใหญ่เชียงราย ถูกหลอกโอนเงิน สูญ 1.4 แสนบาท (ไอเอ็นเอ็น)


    สาวใหญ่ชาวเชียงราย โร่แจ้งตำรวจถูกมิจฉาชีพ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารดัง หลอกโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม สูญ 1.4 แสนบาท เร่งตรวจสอบแล้ว


    นางเพียรศิลป์ สะท้าน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 246 หมู่ 21 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย สีหน้าตื่นตระหนก ถือสลิปบัตรเอทีเอ็ม เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สมชาย เด่นตี สารวัตรเวร สภ.เมืองเชียงราย ว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.45 น.ที่ผ่านมา ได้มีชายไม่ทราบชื่อ โทรศัพท์เข้ามือถือของตน อ้างว่า โทรมาจากธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งตนเป็นหนี้บัตรเครดิต จำนวน 144,860.40 บาท โดยได้พูดจาหว่านล้อมต่าง ๆ นา ๆ จนตนหลงเชื่อ จึงไปทำธุรกรรมที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย หน้าห้างสรรพสินค้าพิริยะ ถนนเด่นห้า-ดงมะดะ ต.รอบเวียง


    ทั้งนี้ได้โอนเงินจำนวน 144,860.40 บาท เข้าบัญชีหมายเลข 9120058756 ของธนาคารกรุงเทพ จำกัด พอมารู้ตัวอีกที ปรากฏว่า ตนไม่มีบัตรเครดิตของธนาคารดังกล่าวเลย จึงรู้ว่าถูกคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเอาเงินไป จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน และขอให้ตำรวจติดตามตัวคนร้ายด้วย โดยทางตำรวจจึงได้ลงบันทึกไว้ตามความประสงค์ พร้อมประสานไปยังธนาคาร ที่รับโอนเงินเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

    กระปุกดอทคอม
     
  18. Natachai

    Natachai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +937
    http://www.tantee.net/board/user/topic_view.php?board=somkiert&bid=1&sid=198

    ไหนๆ ก็ไหนๆละ ลิงค์พระกริ่งปวเรศ ่คลิกที่รูปขยายใหญ่ศึกษาเนื้อหาและทรงพิมพ์...รู้ไว้ใช่ว่า...
    เขาว่าไว้ ดังนี้...นำออกให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ครอบครอง โดยการบริจาคเพื่อนำปัจจัยส่วนหนึ่งไปดำเนินการโครงการด้านศาสนาและสังคม เพื่อความมั้นคงของชาติ...พระกริ่ง 1 องค์ + พระสมเด็จฯ 1 องค์ ราคา 8 ล้านบาท(7+1) คุยกันได้ถ้าสนใจ...หุหุหุ

    คุณหนุ่มจัดให้ 1 ชุดสองฝ่ามือ(หนึ่งถุงใหญ่)ทำไมให้เยอะจัง...ราคาทำบุญต่างกันฟ้ากับเหว...เห็น...รู้...ทราบ...พูดได้เพียง...ช้าอด...หมดแล้วหมดเลย...ใช่ป่าวครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2010
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาทำน้ำพันช์ธัญบงกชกินกันดีกว่าค่ะ
    http://palungjit.org/attachments/a.1087296/


    http://palungjit.org/attachment.php?attachmentid=1087296&stc=1&thumb=1&d=1281604895

    น้ำพันช์ธัญบงกช (แม่บ้าน)

    วันนี้เราจะพาคุณไปฉีกกฎน้ำพันช์แบบเดิม ๆ ด้วยการนำเอารากบัวจีน และกลีบบัว มาทำเป็นเครื่องดื่มมากคุณค่า ที่มีชื่อเก๋ ๆ ว่า น้ำพันช์ธัญบงกช ...ใครที่ชอบทานน้ำพันช์อย่าได้พลาด รับรองอร่อยชัวร์ !!

    [​IMG] ส่วนผสม

    [​IMG] รากบัวจีนหั่นแว่น 200 กรัม

    [​IMG] กลีบบัวสดสีชมพู 2 ถ้วยตวง

    [​IMG] น้ำมะนาว 2 ½ ช้อนโต๊ะ

    [​IMG] น้ำตาลทราย ¾ ถ้วยตวง

    [​IMG] น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง

    [​IMG] เกลือป่น ¼ ช้อนชา

    [​IMG] โซดาแช่เย็น ½ ขวด

    [​IMG] น้ำแข็งเกล็ดเล็ก 1-1 ½ ถ้วยตวง

    [​IMG] ดีบัวสายหั่นแว่น (สำหรับตกแต่ง)

    [​IMG] วิธีทำ

    [​IMG] 1. นำรากบัวจีน กลีบบัว และน้ำเปล่าใส่หม้อต้มโดยใช้ไฟปานกลางต้มประมาณ 20 นาที หรือจนรากบัวสุก ยกลงตักเอารากบัวจีน และกลีบบัวออก เติมน้ำมะนาว 1 ช้อนชา (ถ้าต้องการให้น้ำเป็นสีชมพู) ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น คนให้ส่วนผสมละลายทิ้งไว้ให้เย็น

    [​IMG] 2. ผสมน้ำมะนาวที่เหลือกับส่วนผสมในข้อที่ 1 ให้เข้ากัน ชิมรส จัดเสิร์ฟใส่แก้วใสรูปทรงตามชอบ เติมน้ำแข็งและโซดาตกแต่งด้วยดีบัวสายบนปากแก้วให้สวยงาม





    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


    ที่มา กระปุกดอทคอม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2010
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

แชร์หน้านี้

Loading...