ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

<o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-comffice:smarttags" name="City"></o:smarttagtype><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-comffice:smarttags" name="place"></o:smarttagtype><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอขอบคุณ..คุณ<st1lace w:st="on"><st1:city w:st="on">Lynn</st1:city></st1lace>..คุณSpecialized..คุณโอ ท่าซุง..คุณโต้ง ขลบุรี..คุณ๑๕ค่ำ..คุณTorr200925<o></o>
คุณกำธร นครปฐม<o></o>
ที่ติดตาม..ชม..และให้กำลังใจ..รวมถึงท่านผู้อ่านทุกท่าน<o></o>
...................................................เรื่องเล่า..เก่าๆ..สรรมาให้...........................................<o></o>
.............เคยมีเรื่องเล่าเก่าแก่..สืบมาจากบรรพบุรุษของคนแถวปากคลองท่อทองแดงว่า..ตอนที่พม่า<o></o>
เข้าตีเมืองกำแพงเพชร..สมัยอยุธยา..ชาวบ้านเล่าว่า..พม่าล้อมเมืองกำแพงเพขร(ชากังราว)..อยู่หลาย<o></o>
เดือน..ก็ยังตีไม่แตก..ทหารกำแพงเพชรก็ไม่เสียขวัญต่อสู้อย่างทรหด..และไม่เหนื่อยล้า..จนพม่าแปลก<o></o>
ใจ..เพราะฝ่ายแม่ทัพ..และทหารพม่าเองชักท้อ..เสียไพร่พลไปมาก..จึงสั่งให้สำรวจให้รอบๆกำแพง<o></o>
ทำไม..ไม่มีปัญหาเรื่อง..น้ำและอาหารเลย...ปรากฏว่าหน่วยสืบของพม่า..ได้ไปพบ..ส่วนของท่อ(ท่อ<o></o>
ทองแดง)..ชักน้ำจากแม่น้ำปิง..จากตลิ่ง..ซึ่งปากท่อ..จมอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำมาก(อันนี้พบว่าเป็นเรื่องจริง<o></o>
เพราะตอนเจอ..ท่ออยู่ต่ำกว่าระดับตลิ่งไม่น้อยกว่า ๔ เมตร)..ซึ่งพม่าที่ตั้งค่ายอยู่ใกล้ๆ..ยังไม่รู้เลย...<o></o>
..ท่อถูกฝังอยู่ใต้ดิน..โดยแนวท่อพุ่งไปเลียบคลองคูเมือง(แนวเดียวกับคลองท่อทอแดงเดิม)....<o></o>
.......แม่ทัพพม่า..จึงใช้วิธีโหด..ฆ่าตัดหัว..รวมทั้งตัวคนไทย..หลายคนแล้วยัดเข้าไปในท่อ..คือนอกจาก<o></o>
จะไม่ให้น้ำไหลเข้าเต็มที่..แต่กะจะให้ศพคนไทยที่อืดและเน่า..ทำให้น้ำที่..ไหลเข้าไปในเมือง..เป็นน้ำ<o></o>
เสีย..และอาจะทำให้เกิดโรคระบาดภายในเมือง..ได้...แล้วเรื่องเล่าพื้นบ้านก็จบตรงนั้น..โดยไม่มีเรื่องต่อ<o></o>
..แต่ตามประวัติศาสตร์..ที่ผมศึกษา..เมืองกำแพงเพชร..เป็นเมืองที่ตีแตกยากที่สุดจริง..ตามเรื่องเล่า<o></o>
....................การปรับปรุงคลองท่อทองแดง..ก็เริ่มตั้งแต่..ปากคลอง..เป็นต้นมา..โดยจะมีประตูระบาย<o></o>
น้ำปากคลองตัวใหญ่..จะสร้างที่ปากคลองเพื่อควบคุมปริมาณน้ำเข้าคลอง..และขุดลอกขยายขนาด<o></o>
คลอง..และมีการดาดคอนครีต..เพื่อให้น้ำไหลสะดวก...ซึ่งสภาพคลองท่อทองแดงช่วงต้น..ที่วิ่งเลียบ<o></o>
คลองคูเมือง..ด้านนอกนั้น..คงเกิดจากการรื้อท่อเดิมที่ชำรุด..หรือ..ตันในสมัยโบราณ..เพราะแม่น้ำปิง<o></o>
เป็นแม่น้ำที่ตะกอทรายสูงมาก..ฉะนั้นท่อถ้าปราศจากการดูแลเป็นประจำ..เพื่อลอกเอาทรายออกไม่นาน<o></o>
ท่อจะตันแบบเอาไม่ออกต้องรื้อทิ้งอย่างเดียว..ซึ่งเหตุการณ์ตอนเสียกรุงครั้งที่๒..ในกำแพงเมือง..ก็ไม่<o></o>
มีใครอยู่แม้หลังจากที่พระเจ้าตากกู้ชาติได้..ก็เป็นเมืองร้างไปแล้ว...นั่นแหละผมว่าแค่..๔หรือ ๕ ก็ตัน<o></o>
สนิทได้..ขนาดคูเมืองที่สมัยก่อนจะมีน้ำไหลเข้ามาเต็ม..ตอนที่ผมไปนั้นหมดสภาพ..แห้งแหงแก๋..ต้นไม้<o></o>
ขึ้นกันเพียบ..ไม่ได้รับการเหลียวแล..เท่าที่ควร.......<o></o>
.................................................ต่อตอนหน้าครับ......................................................<o></o>
.....................................................................................................................................<o></o>
...................................................................................................................................<o></o>
...........ในเรื่องจริงเป็นยังไงผมไม่ทราบ..แต่ผมคาดว่า..ตอนเดิมที่จะทำเหรียญรุ่น ๒ นั้น..ผมว่าเขา<o></o>
คงไม่ได้ตั้งใจจะใช้บล็อกรุ่นแรก..หรอก..ไม่งั้นคงเก็บดีกว่านี้..ไม่ปล่อยให้สนิมขุมขึ้น...ผมว่าพวกกรรม<o></o>
การวัดที่จะสร้าง..คงจะให้มีการออกรูปแบบใหม่ไว้..พอเอามาดูกันแล้วมันสวยสู้ของเดิม..ไม่ได้..ผลสรุป<o></o>
..เลยออกมา..ให้ใช้บล็อกด้านหน้า..เป็นบล็อกเก่า..แต่ต้องมีการดัดแปลงให้แตกต่าง..จะได้ไม่สับสน<o></o>
..แล้วแกะบล้อกด้านหลังใหม่...เพราะบล็อกด้านหลังธรรมดามากเป็นยันต์ของท่านเฉย..ไม่ได้โดดเด่น<o></o>
สวยงามอะไร..ออกจะธรรมดามาก(ไม่เหมือนเหรียญหลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่วนอก..ที่สวยทั้งด้านหน้า<o></o>
และด้านหลัง)....ทีนี่..จะดัดแปลงบล็อกด้านหน้ายังไง..ให้แตกต่างแต่ยังต้องคงความสวยไว้ได้..แต่ผม<o></o>
ว่า..เป็นความบังเอิญ..มากกว่าที่..เหรียญรุ่นแรก..นั้นตรงขอบด้านบน(ดูรูปตามLinK..ที่ผมให้ไว้ตั้งแต่<o></o>
ตอนที่แล้วประกอบด้วย)..ซึ่งเขียนคำว่า”หลวงพอเงิน”..ซึ่ง..ไม่มีไม้เอกที่..ตัว”พ”..นั้น..ไม่ได้เป็นตัว<o></o>
นูนเหมือนเหรียญทั่วไป..แต่เป็น”ตัวจม”..คือเป็นหลุม..หรือ..เป็นร่องลงไป...ผมว่าเมื่อเอาบล็อก<o></o>
เดิม..ไปปรึกษากับที่โรงปั๊มเหรียญ..เขาเห็นจุดดีตรงนี้..ก็เลยง่ายเลย..เหรียญก็สวย..และแตก<o></o>
ต่างจากเดิมแน่นอน..ก็โดยการเอาคำว่า..”หลวงพอเงิน”..ออกซะ..ด้วยการทำง่ายๆโดย..ปาด<o></o>
(หรือ เจีย)..ตัวหนังสือที่บล็อก..เพราะมันนูนขึ้นมา(อย่างที่ผมกล่าวไป..ตอนที่แล้ว..ว่าเป็น..<o></o>
NEGATIVE)ออกซะ..ให้เรียบเสมอพื้น..แค่นี้ก็เสร็จแล้ว..แล้วไปใส่ชื่อ..หลวงพ่อที่..บล็อกที่จะ<o></o>
แกะใหม่ด้านหลังแทน...นั่นแหละครับ..จึงออกมาเป็นเหรียญรุ่น๒ ที่ด้านหน้า..ไม่มีคำว่า“หลวงพอเงิน”<o></o>
แต่สิ่งที่มาแทนคือ..ปื้นนูนๆที่จริงเป็นตุ่มเล็กๆที่ติดๆกัน..จากหลุมที่บล็อกซึ่งเกิดจากการล้าง<o></o>
สนิมออก..มีอยู่ ๒ แห่งใหญ่ๆ..กับอีก ๒ แห่งเล็กๆ..แต่ในภาพรวม..เหรียญก็ยังสวยอยู่ดี(ดูรูปเหรียญ<o></o>
รุ่น๒ ตามLinkข้างล่าง)..แต่พอ..๓..๔..๕..ขี้กลาก..ก็เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ..แต่นั่นละ..เหรียญสวย..ผิว<o></o>
จะแย่หน่อย..คนก็ยังชอบอยู่ดี....นี่คือ..เหรียญขี้กลากเหรียญแรกที่ผมนำเสนอ..และมีที่มาที่ไปชัดเจน<o></o>
..และยอมรับทั่วไป.................<o></o>
.....................ส่วนเหรียญที่สอง..เป็นเหรียญขี้กลาก..ที่ไม่มีจำนวนครั้งมากเท่า..เหรียญแรก..คือใช้<o></o>
จริง..อาจถึง ๓ แต่ ๒กับ ๓..จะเป็นช่วงเวลาใกล้กัน..คือ..ทำไม่พอ..เลยต้องทำครั้งที่ ๓ ขึ้นมาในเวลา<o></o>
ปีเดียวกัน......แต่ครั้ง๒และ๓..ก็รวมเรียกรุ่น..เป็นครั้งเดียวกัน....เหรียญนี้..หลวงพ่อ..อยู่เลย..หลวงพ่อ<o></o>
องค์แรก(หลวงพ่อเงิน)..ไปทางเส้นทางไปปักษ์ใต้...อยู่เพชรบุรีครับ..เมื่อปี ๒๕๑๐-๑๑ ที่สนามกลางมี<o></o>
คนรู้จัก..หลวงพ่อองค์นี้ไม่มาก..เพราะทุกคน..มุ่งไปที่..หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ..เท่านั้น...<o></o>
หลวงพ่อองค์นี้ก็เป็นพระ..รุ่นเดียวกัน..เหรียญท่านส่วนใหญ่ไปอยู่ที่..เจ้าพ่อ..และ..มือปืน..ซะเป็นส่วน<o></o>
มาก..ใช้เวลานานมาก..เป็นสิบกว่าปี..(หลังจากปี ๒๕๑๑)..ถึงจะเริ่มมีชื่อเสียง..แต่สังเกตจากความขลัง<o></o>
ของท่านได้เพราะ..ลูกศิษย์ท่านแต่ละองค์..รวมไปถึง..หลานศิษย์ด้วยซ้ำ..ก็มีชื่อเสียงในปัจจุบัน...เป็น<o></o>
เกจิ..ระดับแนวหน้าในเมืองเพชรทั้งนั้น........มาถึงตรงนี้ทุกท่านก็คงรู้ว่า..คือใคร..แต่ที่งงก็คือ..มีเหรียญ<o></o>
ขี้กลากด้วยเหรอ...มีครับ..แถมยุคแรกๆ..มีสื่อที่ไม่ได้สืบที่มาให้แน่..ไปลงว่าเป็นเหรียญที่ทำครั้ง<o></o>
เดียวกันกับ..เหรียญปกติที่ไม่เป็นขี้กลาก..กว่าจะรู้กันจริงๆก็เล่นเอา..หลายปี...........<o></o>
............หลวงพ่อที่ผมพูดถึงคือ....หลวงพ่อ(ทอง)ศุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี..ครับ.....<o></o>
.........บล็อกที่ว่า..คือ..บล็อกปี ๒๔๙๘...ที่เป็นรุ่นนิยม..นั่นแหละครับ...........................<o></o>
...........................................ต่อตอนหน้าครับ........................................................<o></o>
...................................ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านกัน...ขอบคุณ..ครับ.....................<o></o>
...........................................................สวัสดี.........................................................
http://www.easyamulet.com/user_product.php?catid=11&catsubid=17&id=3608<o></o>

 

สวัสดีตอนดึกๆครับคุณลุง และสวัสดีพี่ๆทุกท่านครับ เมืองกำแพงเพชรผมเคยไปมาครั้งนึงครับเห็นคุณลุงพูดถึงแล้วก็อยากไปอีก

 

คิดว่าคงจะเป็นของสุดหายาก ตะกรุดโทนสมเด็จพระนเรศวรที่สร้าง ปี 2512 พร้อมเหรียญ 4 มหาจักรแน่เลยครับคุณลุง สวัสดีคุณลุงด้วยครับ...(smile) อ้อลืมไป...ผมเองมีกะเค้าดอกหนึ่ง ก็มหาระงับ ปี 2523 ใหญ่สะใจโก๋มากๆ...ประสบการณ์ก็ยังไม่มีครับ...แต่ดีที่สุดคือไม่มีประสบการณ์นะครับผมว่างั้น...

 

สวัสดียามเช้าครับ ขอบคุณครับ...

 

.................................................
ขอบคุณครับที่บอก..ผมพวกของหายากมากๆ..ไม่ทราบหรอกครับ..แต่ต้องทราบไว้อย่างหนึ่งครับ..ที่บอกว่า..สร้างปี๒๕๑๒..นั่น..ช่วงนั้นสนามกลาง..และผู้นิยมพระเครื่องทั่วไป..ยุคนั้น..ไม่นิยม..พวกเครื่องรางของขลังแบบสมัยนี้..ยกเว้นที่เป็นสุดยอด..และไม่มีใครเอาตะกรุดโทนห้อยคอด้วย...ตะกรุด..ที่พอมีการซื้อขายในตลาดก็มีน้อยมาก...ดังนี้
๑.ตะกรุดโสฬส..หลวงปู่เอี่ยม
๒.ตะกรุด..ของ..หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม
๓.ตะกรุด ใบลานบังปืน ของหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย
๔. ตะกรุดจักรพรรดิ..ของ หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช
...คือ..ตะกรุดที่ไม่มีประสพการณ์สูง..และไม่มีเอกลักษณ์ชัดเจน..ก็จะไม่เล่นกัน...
อย่างเช่น..ตะกรุดหลวงปู่ศุข..เพราะมีทั้งถักไม่ถัก..ก็จะเหมือนๆกับ..อาจารย์ในยุคเดียวกัน..วงการจึงไม่เล่นกัน.............
...ฉะนั้นจึงขออภัยที่ไม่ทราบครับ..ผมคนรุ่นเก่า..ผมว่าเมื่อ๓๐กว่า ปีก่อน..คงมีน้อยคนมาก..ที่รู้จักตะกรุดนี้..ผมเข้าสนามตั้งแต่ปี..๒๕๑๐ ก็ไม่เคยทราบ..ก็บอกไปตรงๆว่า..ยุคนั้นเขาไม่สนใจเรื่องตะกรุดเท่าไหร่

 

ขอบคุณครับพี่ modpong สำหรับบทความดี ๆ ครับ ผมเองไม่ได้เป็นเซียนพระครับ เพียงแต่ชอบพระเครื่อง และวัตถุมงคลต่าง ๆ ครับ ก็อาศัยถามผู้รู้ และได้อ่านบทความดี ๆ เหมือนอย่างของพี่นี่แหละครับ ได้ความรู้ดี มาสาระ สมกับชื่อกระทู้ครับ ขอบคุณอีกครั้งครับพี่

 

ขอบคุณ สำหรับ บทความ และ ลิงคิ์ภาพงามๆค่ะ คุณลุง

 

สวัสดีค่ะ มาให้กำลังใจและรอฟังต่อนะคะ

 

อ๋อย...ที่คุณลุงเอ่ยมา...มันระดับตำนานทั้งนั้นเลยนะครับ...หา(แท้และทัน)ยากไม่พอยังแพงแบบว่า...อดข้าวเป็นปีเลยด้วยครับ...catt23

 

<o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-comffice:smarttags" name="City"></o:smarttagtype><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-comffice:smarttags" name="place"></o:smarttagtype><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอขอบคุณ..คุณเด็กบางแค..คุณโอ ท่าซุง..คุณSamuzza..คุณSpecialized..คุณกำธร นครปฐม<o></o>
คุณNaijai..คุณ<st1:city w:st="on"><st1lace w:st="on">Lynn</st1lace></st1:city><o></o>
ที่ชม..ให้กำลังใจ..และติดตาม..รวมถึงทุกท่านที่ได้ติดตามอ่าน...........<o></o>
.....................................................เรื่องเล่า..เก่าๆที่สรรมา.............................................<o></o>
............ขณะระหว่างที่ขุดเปิดหน้าดิน..จะเป็นปากประตูปากคลอง..ซึ่งจะอยู่บริเวณตลิ่ง..ฝั่งซ้ายของ<o></o>
แม่น้ำปิง..โดยมีการทำบ่อก่อสร้างไม่ให้น้ำเข้าบริเวณที่ขุด..ซึ่งนำรถแบ็คโฮ(BACK-HOE)หรือรถขุด..<o></o>
ขุดเศษดิน..เศษไม้..ออกได้พบ..ท่อนซุงขนาดใหญ่หลายท่อน..ก่อน..ผมพอดีวันนั้นอยู่ตอนที่ขุด..ความ<o></o>
จริงในใจก็ฝังเรื่อง..ท่อทองแดง..มาตลอด..ผมคิดอยู่ว่าเมื่อขุดให้ได้ระดับฐานรากของปากประตู..ซึ่งต่ำ<o></o>
กว่าตลิ่ง..ร่วมห้าเมตร..ถ้ายังมีบางส่วนของท่ออยู่ต้องเจอแน่...ขณะที่ขุดก็นายช่างควบคุมงานดูแลอยู่..<o></o>
..ซักพักได้ยิน..เสียงรถเร่งเครื่อง..ซึ่งตอนนั้นผมเดินไปที่จุดอื่น..พอได้ยิน..ก็รีบกลับ..โดยผมยืนอยู่ที่<o></o>
ตลิ่ง..สักพัก..ก็งัดเหมือนท่อนไม้แหว่งๆ..แต่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่แหว่งเองเป็น..ร่องรอยตบแต่งจากมือมนุษย์<o></o>
..ท่อนยาวซัก ๕ หรือ ๖ เมตรได้...นายช่างที่คุมงานอยู่มันก็รู้ว่าไม่ใช่ท่อนซุงธรรมดา...พอดีมันหันมา<o></o>
ที่ตลิ่งเจอผม..ก็เลยถาม..พี่นี่มันเป็นอะไร..ผมนะคิดไว..อยู่แล้ว..จากรูปทรงที่เห็น..มันคือส่วนประกอบ<o></o>
๑ใน ๔ ส่วนที่ประกบกันแล้วเป็น..รูปท่อ..เพราะมันมีรอยถากเป็น..๑ใน๔ ของส่วนโค้งวงกลมไปตลอด<o></o>
แนว..ผมก็เลยตะโกนบอกลงไป..ว่า..เฮ้ย..นี่แหละ..ส่วนประกอบของ..ท่อทองแดง..ละ..เอาขึ้นมา<o></o>
ที่สนามหน้า OFFICE..เลย.......(ดูรูปที่post..ไว้..เป็น..รูปตัดขวางขวางครับ)..ความจริงผมยังไม่<o></o>
ได้เห็นรายละเอียดชัดเจน..แต่มั่นใจ..เลยบอกไปเลย...คราวนี้จะต้องเอาขึ้นตลิ่ง..ต้องใช้สลิงมัด..แล้ว<o></o>
เดินรถแบ็คโฮ..เข้ามาใกล้ตลิ่ง..แล้วยกขึ้นมา..โดยมีคนเป็นสิบ..รอรับ...ผมก็ไม่ทราบว่าบังเอิญหรือ..<o></o>
ปาฏิหารย์..แต่เรียกว่าทำให้..คนประมาณสามสิบที่อยู่ตรงนั้น..ต้องตะลึง..กันหมด..หลายคนต้องยกมือ<o></o>
ไหว้..อธิษฐาน..รวมทั้งผมด้วย...เพราะขณะนั้นเป็นตอนบ่าย..ฟ้าแจ้ง..ไม่ใช่หน้าฝน..แต่ขณะที่<o></o>
จะยกขึ้นตลิ่ง..ฟ้ามืดทันที..ผมเองยัง..งง...แล้วตามมาด้วย..ลมพายุอย่างมหากาฬ..เรียกว่า<o></o>
ยืนเฉยๆไม่ได้ต้องหาอะไรยึดไว้..ไม่งั้นตัวปลิว..หลังคาบ้านพัก..ปลิวกระเด็นกันเลย..ทุลักทุเล<o></o>
มาก..กว่าจะมาวางนอน..บนสนามหญ้าได้..ผมก็ขออภัย..ต่อสิ่งศักสิทธิ์..ที่เกี่ยวข้องถ้าได้ล่วง<o></o>
เกิน..และที่เอา..ท่อขึ้นมานี้..เพื่อเป็นหลักฐาน..ทางประวัติศาสตร์..ให้ลูกหลานได้ชื่นชมกัน..<o></o>
ขอให้ดำเนินการ..เอาขึ้นมาสำเร็จด้วย...พอ..ลากท่อมาวางบนสนามหญ้าเสร็จ..ฟ้าแจ้งทันที<o></o>
ลมหยุด..ไม่เชื่อ..ก็ต้องเชื่อครับ<o></o>
...................................................ต่อตอนหน้าครับ...........................................................<o></o>
...................................................................................................................................<o></o>
...................................................................................................................................<o></o>
.......เนื่องจาก..เหรียญปี..๙๘..ของหลวงพ่อศุข..นี้ดำเนินการจัดสร้าง..โดยศิษย์เอก(ศิษย์องค์แรก..<o></o>
เรื่องเก่ง..ใครเก่งกว่าใคร..พระกันเอง..เขาไม่วัดกันหรอกครับ..ไอ้พวกคนธรรมดานี่แหละไปคิดกันเอง<o></o>
..ฉะนั้น..คำว่าเอกของผม..หมายถึง ๑..หรือ แรก..ให้เข้าใจตามนี้..เดี๋ยวไอ้พวกลูกศิษย์ของหลวงพ่อ<o></o>
องค์อื่น..ที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อศุข..เหมือนกัน..จะร้อนตัว..ออกมาโวย..ไม่ต้องโวยครับให้เข้าใจ<o></o>
ความหมายของผมตรงนี้)และเป็นศิษย์ก้นกุฏิขนานแท้..ของหลวงพ่อศุข..ที่ธุดงค์มาพร้อมกับหลวงพ่อ<o></o>
จากสมุทรสงครามกันสององค์..คือ..หลวงพ่อจันทร์ วัดมฤคทายวัน..ชะอำ..เพชรบุรี..ท่านจึงได้เก็บ<o></o>
บล็อกนี้ไว้..หลังจากสร้างเสร็จ..พอปี ๒๕๐๐ กึ่งพุทธกาล..พระอาจารย์ทั้งหลาย..ก็จะออกเหรียญกัน..<o></o>
ตัวท่านเอง..ก็เลยเอาบล็อคที่เก็บไว้เดิม..นำมาทำใหม่..เพื่อเป็นของท่านเอง..และเผื่อให้อาจารย์ของ<o></o>
ท่านด้วย..แต่เพื่อให้แตกต่าง..และเป็นที่ระลึกของการฉลอง๒๕พุทธศตวรรษด้วย..ท่านจึงให้มีการแปะ<o></o>
ชันนางโรงที่ด้านหลัง..ทุกองค์..และทุกเนื้อ..โดยชันนางโรงด้านหลัง..จะมีความหนามากกว่า..รุ่น<o></o>
ปี๙๘..และกดประทับรูป..พระลีลาลงไป..ตอนที่ชันนางโรงยังไม่แข็งตัว..ทำให้เกิดรูปพระลีลา<o></o>
ฝังอยู่กับชันนางโรง..(บางเหรียญมีปิดทองที่รูปพระด้วย)...ส่วนเหรียญด้านหน้าก็เหมือนกับปี<o></o>
๙๘ทุกประการ(บล็อค”อิ”ติด..มีแน่..แต่..”อิ”ลอย..ผมแน่ใจ)..เพียงแต่มี..สภาพคล้ายขี้กลาก<o></o>
กระจายไปทั่ว..เพราะท่านเก็บไว้ไม่ดี..ปล่อยให้สนิมขึ้น...เหรียญรุ่นนี้นอกจากหลวงพ่อจันทร์<o></o>
เอง..จะปลุกเสกเดี่ยวก่อน..แล้ว...ท่านก็นำเหรียญทั้งหมด..ไปให้หลวงพ่อศุข..ปลุกเสกเดี่ยว<o></o>
ซ้ำอีกครั้ง...แล้ว..เหรียญส่วนหนึ่ง..ท่านก็มอบให้ไว้กับอาจารย์ท่าน..เพื่อไว้แจกญาติโยมที่วัด<o></o>
โตนดหลวง...ส่วนที่เหลือ..หลวงพ่อจันทร์ท่านก็นำกลับวัดมฤคทายวัน..แล้วไปแจกญาติโยม<o></o>
ที่เป็นลูกศิษย์ท่านด้วย...หลังจากเวลาผ่านไปนานๆ..ผู้คนล้มหายตายจากกันไปเยอะ..ก็เลยไม่<o></o>
ทราบที่มา..แต่ที่ทำให้คนสับสน..เพราะ.ผู้ที่ไปหาหลวงพ่อศุข..แล้วท่านแจกเหรียญรุ่นนี้ไป..ก็<o></o>
นึกว่า..เป็นของหลวงพ่อศุข..แต่เหลือค้างมาตั้งแต่ปี ๙๘ เพราะเหรียญเหมือนกัน..เป๊ะ...<o></o>
...ส่วน..พวกหัวหิน..ชะอำ..ค่าย ตชด.นเรศวร..ที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจันทร์..ที่ไปหาหลวงพ่อ<o></o>
จันทร์..ท่านก็แจกเหรียญนี้เช่นกัน..เลยมีบางคนคิดว่า..หลวงพ่อจันทร์ไปเอามาจากอาจารย์<o></o>
ท่าน(หลวงพ่อศุข)..มาแจก..ทั้งๆที่เป็นเหรียญของท่าน(ท่านเล่าให้ผมฟังว่า..ตราบใดที่อาจารย์<o></o>
ท่านยังอยู่ท่านจะไม่ทำรูปท่าน..เพราะเหมือนการตีเสมออาจารย์..ถ้าท่านจะทำเหรียญก็จะทำ<o></o>
เพื่อบูชาครู..คือเป็นรูปอาจารย์ท่านเท่าน้น..ที่ท่านเล่าให้ผมฟังทั้งหมด..เป็นเหตุการณ์ในช่วง<o></o>
ปี ๒๕๑๕ )..เลยเป็นที่มาของ..เหรียญหลวงพ่อศุข..ออกวัดมฤคทายวัน..ในภายหลัง...โดยที่<o></o>
เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว..เหรียญที่สร้างปี๒๕๐๐นี้..เขา(สนามกลาง)ถือว่า..เป็นรุ่น๙๘..ทั้งหมดแต่<o></o>
เป็นพิมพ์พิเศษ..หลังพระลีลา(แพงกว่า..ปี๙๘..จริงๆซะอีก)...................<o></o>
.........................ที่ผมเอาทั้งสองเหรียญนี้มาเล่า..ให้ทราบ..เพื่อท่านทั้งหลาย..เวลาที่เห็น..เหรียญขี้<o></o>
กลาก..จะได้ทราบว่า..ไม่ใช่ทั้งหมด..ที่เป็นของเสริม..และไม่ได้ปลุกเสกด้วย...เวลาผมดูในเน็ต..ผมก็<o></o>
เห็นมีหลายเหรียญ..จากหลายอาจารย์ที่เป็นขี้กลาก...ก็อ้างความเป็นมากัน..แต่มันเฉพาะกลุ่ม..หรือ<o></o>
ส่วนบุคคล..ที่ยังไม่สามารถแสดงหลักฐานจริงๆจังๆทำให้ส่วนกลางเขายอมรับได้..เมื่อท่านเสี่ยงโดย<o></o>
อาจจะเกิดจากความเคลิ้มในเรื่องที่เล่า..พอถึงเวลาจะออกตัว..ปล่อยของ..ราคาไม่ใช่..แถมตีเป็นเหรียญ<o></o>
เก๊...ท่านก็จะช้ำเปล่าๆ..ก่อนคิดจะเช่าแบบนี้..ก็ไปเห่..หรือสอบถามประวัติที่มาจากพวกเซียนส่วนกลาง<o></o>
ซะก่อน..จะได้สบายใจ<o></o>
......................................ต่อตอนหน้าครับ.................................................<o></o>
............................................ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านกัน.....................................<o></o>
..........................................................สวัสดี..................................................................

 

สวัสดียามเช้า ๆ ครับลุง ยังตามอ่านอยู่เสมอ ๆ ครับ

 

พระบูชาบางองค์มีเทวดารักษา บ้านไหนเอาใจใส่สวดมนต์กันทั้งครอบตรัว เทวดาจะมาอวยพร
บางพระเกจิ ศิษย์ซื้อของสนามมาให้ปลุกเสก เกิดความขลังขึ้นมาได้ ทั้งๆที่ของพวกนี้นเป็นของตลาดไมได้มีชนวนมวลารพิเศษแต่อย่างไร อาศั้ยพลังจิตของงท่านเองและคุณพระรัตนตรับ ครู เทวดา

มีโอกาสผมแวะดูตามแผงพระเผื่อเจอของที่ถูกใจไม่แพงไปนัก ก็จะเช่าไว้ ทีนี้เวลาเข้าห้องน้ำก็จะเจอพ่อค้าขายพระเครื่องในห้องน้ำ บางคนฉี่เสร็จไม่ล้างมือ ออกจากห้องน้ำก็เข้าแผงขายเลย มือก็หยิบพระมาส่อง หยิบให้ลูกค้าได้ชมได้เลือกกัน ก็อึ้งนะ พวกแขกขายโรตี ก็เช่นกันตีแป้งตบแป้ง พอปวดฉี่เดินเข้าหาที่เหมาะๆ ฉี่เสร็จน้ำก็ไม่มีให้ล้าง มือก็มาจับแป้งตบตีแป้งโรตี คนก็มารอซื้อกัน ผมเลิกกินไปนานแล้ว เห็นมาหลาย

 

สวัสดียามเช้าครับ ขอบคุณครับ...

 

เข้ามาติดตามสาระดีๆ ครับ
ขอบคุณคร๊าบ...

 

ขนาดเจอเพียง 1/4 ยังมีความกว้างขนาดนั้นเลยนะคะ คุณ ลุง คนสมัยก่อนนี้สุดยอดจริงๆเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

......................................................
ตอนหน้า..ผมจะเล่าถึงความชาญฉลาดของคนไทยสมัยโบราณ..ทำไมถึง..ต้องทำเป็นแบบนี้..และข้อดี..ของมัน..เป็นยังไง....

 

อ่านเรื่องท่อทองแดงแล้ว ภูมิใจกับบรรพบุรุษของเราคนไทยขึ้นไปอีกค่ะ นึกถึงเวลาดูสารคดีเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่ชนชาติต่างๆในสมัยก่อนเขาใช้ปัญญาอันชาญฉลาดวางโครงสร้างผังเมืองได้อย่างน่าอัศจรรย์
รออ่านที่จะกล่าวถึงตอนต่อไปนะคะ

 

<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-comffice:smarttags" name="City"></o:smarttagtype><o:smarttagtype namespaceuri="urn:schemas-microsoft-comffice:smarttags" name="place"></o:smarttagtype><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:9.0pt 1.3pt 9.0pt 18.0pt; mso-header-margin:35.4pt; mso-footer-margin:35.4pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอขอบคุณ..คุณโต้ง ชลบุรี..คุณศรศิลป์(ยินดีต้อนรับครับ)..คุณโอ ท่าซุง..คุณFox2oo8<o></o>
คุณSpecialized..คุณ<st1:city w:st="on"><st1lace w:st="on">Lynn</st1lace></st1:city>..คุณNaijai<o></o>
ที่ให้กำลังใจ..ชม..และติดตาม..รวมถึงท่านผู้ติดตามอ่านทุกท่าน<o></o>
......................................................สรรมาเล่า..เรื่องของเก่า...........................................<o></o>
......พอผมได้มาดูใกล้ๆ..ต้องกลับไปเอาน้ำมากระแป๋งนึง..พร้อมผ้ามาเช็ดล้าง..ก่อนอื่นเห็นเหตุการณ์<o></o>
ที่พึ่งผ่านมาหยกๆ.เลยต้องขอขมาก่อน..แล้วทำการล้างและเช็ดเศษดินบางส่วน..ที่จะได้เห็นเนื้อไม้ได้<o></o>
ชัดๆ..ก็ปรากฏอย่างที่คาดคือ..ไม้สักทอง..ชิ้นเดียวทั้งอัน..สังเกตรอยบ่าได้ชัดก็เข้าล็อค..ว่า..ท่อนที่<o></o>
เห็น..เป็นแค่ ๑ ใน จำนวนทั้งหมด ๔ ท่อน..เพราะลักษณะบ่า..ทั้งสองข้างก็แสดงให้เห็น..ว่าจะต้องมี<o></o>
อีก ๒ ชิ้นที่มี..บ่าเช่นเดียวกันมาประกบ..แต่เนื่องจากด้านใน(ดูรูปที่ผมpostไปตอนที่แล้วประกอบด้วย)<o></o>
ลักษณะเป็นเว้าเป็น ๑/๔ ของ..วงกลม..ฉะนั้น..ส่วนที่เหลือ..ก็ต้องอีก ๓ ชิ้น..พอมาประกบกัน..ก็จะเป็น<o></o>
ดังรูปที่ผม post ไว้..ด้านในก็จะเป็นวงกลม..ด้านนอกเป็น สี่เหลี่ยม..ถัดจากส่วนปลายมาไม่เกิน ๑ ฟุต<o></o>
เห็น..ร่องรอยที่บากไว้..เป็นร่องตื้นๆแต่มีความกว้างประมาณ ๖ นิ้ว..เป็นแนวขวางกับด้านยาว..ตลอด<o></o>
ด้านนอก..คราวนี้ผมก็ถึงบางอ้อ..ของคำว่า..ท่อทองแดง..ร่องบากแบบนี้ต้องไว้เพื่อแผ่น..อะไรสัก<o></o>
อย่าง..เพื่อไว้รัดชิ้นส่วนทั้ง ๔ อันเข้าไว้ด้วยกัน..ชิ้นส่วนนี้จะต้องจมอยู่ใต้น้ำอยู่ตลอดเวลา..และ<o></o>
ต้องทนทานไม่ผุพังง่าย..และมีความเหนียว..การใช้เชือกเป็นไปไม่ได้..เพราะไม่นานก็เปื่อย<o></o>
ขาด..หนังก็เช่นกันถ้าจมอยู่ใต้น้ำ..ก็เปื่อยเช่นกัน..คราวนี้ก็เหลือแต่โลหะ..โลหะที่แข็งแรงที่สุด<o></o>
ที่ประดิษฐ์ได้ตอนนั้นคือ..เหล็ก..แต่เหล็กแข็งจริงแต่เมื่อทำเป็นแผ่น..นอกจากจะดัดได้ยาก..<o></o>
ปัญหาคือ..เกิดสนิมง่ายและไม่นานก็จะขาด....สัมฤทธิ์..เกิดสนิมยากกว่าเหล็กนิดหน่อย..แต่<o></o>
เปราะ..ไม่เหนียว....ก็เลยเหลือ..เพียงอย่างเดียวที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทุกด้าน..คือ..ทองแดง<o></o>
เพราะ..๑. ทองแดงเหนียวกว่าทุกโลหะ..เมื่อตีเป็นแผ่นสามารถดัดได้ง่าย..รับแรงดึงได้ดี...<o></o>
๒. ทองแดง..เมื่ออยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน..จะไม่เกิดสนิมมาก..เท่าเหล็ก..จะเกิดขึ้นแต่<o></o>
ผิว..ไม่เป็นลักษณะเป็นสนิมขุมแบบเหล็ก..ที่กร่อน..และกินลึกลงไปเรื่อย....<o></o>
......สรุปคือ..ท่อรัดทองแดง...พอนานๆเข้า..ก็เหมือนกับที่เราๆท่านๆเข้าใจ..กันอยู่แบบไทยๆ<o></o>
ก็คือ..หดให้สั้นเพื่อที่จะเรียกง่ายกลายเป็น..ท่อทองแดง..........................<o></o>
...........ตอนนี้มาเข้าเรื่องวัสดุทำตัวท่อ..ทำไมต้องเป็นสัก..ผมว่าคนไทยย่อมเข้าใจในคุณสมบัติของ<o></o>
ไม้สัก..พอสมควร..ก่อนอื่น..ผมจะทำตัวเหมือนนายช่างผู้ออกแบบประดิษฐ์..ตามคำสั่งของเจ้าเมืองก่อน<o></o>
..คือ..มีโจทย์มาให้ดังนี้.....(อันนี้..เรียกว่า..ย้อนรอยอดีต..ในการคิดและแก้ไขปัญหา..ของโจทย์)<o></o>
๑. ทำท่อ.ลอดใต้ตลิ่ง..เพื่อพรางตาข้าศึก..ไม่ให้รู้ว่า..น้ำที่เข้าไปใช้ในกำแพงเมืองมาจากไหน<o></o>
๒. ท่อจะต้อง..จมอยู่ใต้น้ำ..ในระดับลึกพอสมควร..เพราะถ้า..เข้าช่วงแล้ง..ปากท่ออาจโผล่<o></o>
ให้ข้าศึกเห็นได้<o></o>
๓. ท่อต้องใหญ่..เท่าที่จะใหญ่ได้..เพราะ..น้ำที่ต้องใช้ในเมือง..มีปริมาณมาก..<o></o>
๔. ท่อต้องแข็งแรงทนทาน..และต้อง..สามารถให้คนเข้าไป..ล้างตะกอนทรายจากน้ำปิงที่มี<o></o>
ปริมาณมากที่จะทำให้ท่อตันได้<o></o>
.............เมื่อมีโจทย์มาผมผู้ออกแบบ(ในชีวิตจริงของผม..ก็เป็นวิศวกรผู้ออกแบบระบบส่งน้ำ..และระบบ<o></o>
ระบายน้ำ..มาร่วม ๓๐ ปีอยู่แล้ว)ก็ต้อง..แก้โจทย์..ให้ได้<o></o>
................................................ต่อตอนหน้าครับ...................................................<o></o>
...................................................................................................................................<o></o>
...................................................................................................................................<o></o>
....................ผมก็จบเรื่องเหรียญขี้กลากไปในตอนที่แล้ว...กลับมาเข้าชีวิต..วัยเรียนผมที่ผ่านทั้ง<o></o>
เหตุการณ์ในชีวิต..ทั้ง ตุลา๑๖..และ ตุลา๑๙ ซึ่งเป็นช่วง..การเรียนระดับอุดมศึกษาของผม..หลากหลาย<o></o>
..มาก...ผมใช้เวลาเรียนระดับปริญญาตรีอยู่ ๕ ปี..จบเอาต้นปี ๒๕๒๐..โอ้โหตอนนั้น..หลวงพ่อพรหม<o></o>
วัดช่องแค..ครองยุทธจักรอย่างแท้จริง..หลวงพ่ออื่นมาบ้าง..แว๊บๆ..แล้วก็จาง..แต่หลวงพ่อพรหม<o></o>
แน่นอนมาก...หลวงพ่อทิมเชียร์กันปั่นกันยังไง..ยังไง..ก็ทานหลวงพ่อพรหมไม่ได้..พวกฉลาดเริ่มจับตั้ง<o></o>
แต่ปี ๒๕๑๒ นี่..รวยเป็นเศรษฐีไปเลยหลายคน..(หลวงพ่อกวยนี่ยังเป็นแค่พระดังท้องถิ่น..แต่ชัยนาทนี่<o></o>
ที่ดังเข้ามาในส่วนกลางนี่..เป็นหลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ)..ขนาดพระของหลวงปู่เพิ่ม..ยังอัพราคา<o></o>
ทาบ..หลวงพ่อพรหมไม่ได้..มีเฉพาะเบี้ยแก้อย่างเดียว..ที่ซื้อง่ายขายคล่อง..สวนของหลวงพ่อเกษมก็ยัง<o></o>
เฟื่องอยู่สำหรับรุ่น๒-๓ปีแรก..แต่ที่มาแรงมากๆเข้าส่วนกลางอีกองค์คือ..หลวงปู่ดู่ วัดสะแก.......นอก<o></o>
จากนี้ที่ค่อยๆแรงมาเรื่อยๆและเรื่อย..เข้ามาทำเนียบTOP CHART..คือ..หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่....<o></o>
..ส่วนอีกองค์จากปักษ์ใต้ขึ้นทำเนียบฯเช่นเดียวกันคือ อาจารย์นำ วัดดอนศาลา..และท่านก็เริ่มทำให้<o></o>
วงการ..เริ่มรู้ว่าเมืองไทยก็มีสำนักวิทยายุทธ...ที่เก่าแก่ไม่แพ้..เส้าหลิน..คือ..สำนักเขาอ้อ....<o></o>
.................ขณะที่อาจารย์พึ่งดังมาในส่วนกลางใหม่ๆ..ออกของ..ปุ๊บ..ราคาพุ่งปั๊บ.อยู่นั้นอาจารย์รุ่นเก่า<o></o>
ที่อยู่ในทำเนียบระดับมาตลอด..ยี่สิบปี..ก็สร้างปรากฏารณ์และความตะลึงให้กับวงการ..ในตอนปลายปี<o></o>
๒๕๒๐ ต่อต้นปี ๒๕๒๑ อาจารย์องค์นั้นก็คือ..อมตะอาจารย์...ที่..ตอนนี้เป็นเจ้าคุณไปแล้ว.....<o></o>
พระสังวรวิมล(โต๊ะ)..วัดประดู่ฉิมพลี..ผู้ครองยุทธจักรมาอย่างต่อเนื่อง...ด้วยการส่ง..วัตถุมงคล<o></o>
..ล้ำเลิศ..ของท่าน..พร้อมๆกัน..๒ชุด..คือ..กริ่งเปงย้ง(๕๐๐ องค์)พร้อม..พระชัยวัฒน์<o></o>
..อีกชุดนึงคือ..กริ่งสายฟ้า(๒๕๒๐ องค์)พร้อม..พระชัยวัฒน์...ความแรงตั้งแต่ยังไม่ได้จัดสร้าง<o></o>
พอเปิดจอง..ปุ๊บ..หมดทันที..(เพราะจองกัน..เป็นภายในล่วงหน้าไปเยอะแล้ว)..แถมหลังจาก<o></o>
จองไม่ถึงอาทิตย์...เริ่มมีการขายใบจองกัน..ด้วยราคา..ตั้งแต่๒๐ เท่าของราคาจอง...พอใกล้<o></o>
วันจะรับพระราคาใบจอง..ก็ขึ้นไปถึง ๑๐๐ เท่า..แถมขายได้ด้วย..เพราะคนที่ซื้อไป..มีทั้งอยาก<o></o>
ได้เก็บไว้ใช้เอง..อีกสว่นก็คือนักเก็งกำไร..เพราะในวงการใครก็รู้ว่า..ราคาไปถึงหมื่นได้แน่<o></o>
....เพราะอะไร..ผมจะมาวิเคราะห์..เมื่อ ๓๐ กว่าปีให้...ตอนหน้า<o></o>
.........................................ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามอ่านกัน.....................................<o></o>
...................................................สวัสดี.....................................................................<o></o>

<!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
<!--[endif]--><o></o>