ความสุข

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย dhamaskidjai, 9 สิงหาคม 2010.

  1. dhamaskidjai

    dhamaskidjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,855
    ค่าพลัง:
    +5,727
    [​IMG]

    ความสุข เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา และพากันแสวงหา ด้วยวิธีการต่าง ๆ ตามแต่ระดับของสติและปัญญา ที่จะอำนวยให้ได้ แต่ถ้าระดับของสติและปัญญา อ่อนลงมากเท่าไร ? การแสวงหาความสุขนั้น ๆ ก็ย่อมจะพาเอาความทุกข์ พ่วงเข้ามาด้วยมากเข้าเท่านั้น จะเห็นได้ว่า

    บางคนไปหลงเสพความทุกข์ แต่เข้าใจว่าเป็นความสุข เช่น การกินเหล้า กินเบียร์ สูบบุหรี่ กินหมาก ดมทินเนอร์ สูดไอระเหย สูบกัญชา ตลอดจนเครื่องดื่มบางชนิด เป็นต้น

    โดยหลงไปว่า สิ่งเหล่านั้นเป็นสุข หรือยอดของความสุขไป กว่าจะรู้ตัวก็เกิดโรคร้ายแรงเสียแล้ว ชีวิตทั้งชีวิตก็มาดับสลายลง กับสิ่งที่ไร้สาระ อย่างน่าเวทนายิ่งนัก

    ความสุขโดยพื้นฐาน ได้แก่ความพอใจ แต่ความพอใจนั้น มันจะซ่อนพิษภัยและโรคร้ายต่าง ๆ ไว้ด้วยหรือไม่ ? ก็จะต้องขึ้นอยู่กับระดับของสติและปัญญาในแต่ละคนด้วย

    การได้เรียนรู้เรื่องของความสุข ตามแนวคำสอนของพระพุทธเจ้า และจากประสบการณ์ จึงจัดว่าเป็น "กำไรของชีวิต" ที่ทุกท่านไม่ควรจะพลายเลย

    หนังสือเล่มนี้ แม้ว่าจะเล็กก็คงจะเล็กแบบ "เล็กพริกขี้หนู" เพราะได้"เจาะเอาแต่แก่น" ของความสุขมาเสนอไว้ทั้งสิ้น แม้ว่าทางที่จะบรรลุความสุข จะยังมีอีกมาก แต่ก็ได้แตกแขนงไปจากนี้ทั้งสิ้น

    จากประสบการณ์พบว่า การที่คนเราจะมีชีวิตอยู่โลกนี้ อย่างมีความสุขตามอัตภาพ ไม่ว่าในเพศของคนคู่หรือคนเดี่ยวก็ตาม ถ้าได้ยึดถือแนวคำสอนของพระพุทธเจ้าเป้นเครื่องนำทางอย่างถูกต้องแล้ว ก็ย่อมจะไม่ก่อปัญหาที่เป็นทุกข์ร้ายแรงใด ๆ ขึ้นได้เลย

    นั่นก็หมายความว่า จะไม่ต้องกินยาแก้ปวดหัว ไม่ต้องกินยานอนหลับ ไม่ต้องกินยาระงับประสาท และไม่ต้องกินยาฆ่าตัวตาย เพราะถูกความทุกข์มันเล่นงานเอาเสียจนงอมพระรามนั่นเอง

    หนังสือเล่มน้อยนี้ จะเป็นมัคคุเทศก์ช่วยนำทาง ให้ท่านผู้อ่านได้พบกับ"ลายแทงความสุข" ในรูปและแบบต่าง ๆ ตามแต่จริตนิสัยของผู้อ่าน ด้วยการประหยัดทั้งเวลา และทรัพย์ในกระเป๋าอีกด้วย

    แต่หนังสือเล่มนี้ จะบรรลุสู่ความสุขตามชื่อขอหนังสือ หรือตามความต้องการของผู้อ่าน ได้มากน้อยเพียงใด ? หรือจะเป็นเพียงชื่อของหนังสือ ก็อยู่ที่ว่า

    ท่านผู้อ่านนี่แหละ จะน้อมนำเอาข้อเสนอแนะ ไปปฏิบัติได้จริง และปฏิบัติได้ต่อเนื่องมากน้อยแค่ไหน ? ถ้าเพียงแต่เห็นด้วยวิธีการและพอใจ แต่ไม่มีผลของ"การกระทำ" ให้ครบวงจรติดตามมา หนังสือเล่มนี้ก็คงไม่พ้นคำว่า "เป็นเสือกระดาษ" ที่จะต้องถูกวางทิ้งไว้ในที่ใดที่หนึ่งอย่างไม่แยแส หลังจากที่มันได้ผ่านสายตาท่านไปแล้ว !

    อยากขอถามแบบ "จิตสู่จิต" ว่าท่านเป้นอีกคนหนึ่งใช่ไหม ? ที่รู้ว่าอะไรชั่วแล้วไม่ละ ? และรู้ว่าอะไรดีแล้วไม่ยอมทำ ? (ขอให้ตอบตัวเองในใจว่าจริงหรือไม่จริง ?)

    ถ้าท่านเป็นคนดังว่ามานี้ เห็นทีว่า "ทางสู่ความสุข" จะถูกปิดตันสำหรับท่านเสียแล้ว !
    แต่จะอย่างไรก็ตาม ผู้เขียนยังมีความเชื่อมั่นว่า ท่านต้องเป็นคนหนึ่งละ ที่ปรารถนาความสุข ด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้าท่านไม่ปรารถนาความสุขแล้ว ท่านก็คงจะไม่ซื้อหนังสือเล่มนี้ หรือหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านอย่างแน่นอน !

    เมื่อผู้เขียนเป็นหมดเดาที่ถูกใจท่านเช่นนี้แล้ว ก็ขออย่าให้ท่านซึ่งมีความทุกข์อยู่ หรือปรารถนาความสุขอยู่ แล้วมันก็จะขาดวงจรอยู่เพียงแค่นั้นเลย !

    ขอให้ท่านเป็นคนหนึ่ง ที่ได้ใช้ลายแทงในหนังสือเล่มนี้ เป็นมัคคุเทศก์นำทางไปสู่ความสุขให้ครบวงจร โดยเร็วพลันเถิด

    ผู้เขียนจะช่วยท่านได้อย่างมาก หรือสูงสุดก็เพียงแต่ "ชี้บอกทางสู่ความสุข" ให้เท่านั้น แต่การกระทำต้องเป็นหน้าที่ของท่านผู้อ่านเอง สมตามพุทธวจนะ (๒๕/๔๓) ที่ว่า

    ความเพียรพยายาม พวกเธอต้องทำเอาเอง
    ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้ชี้บอกทางให้เท่านั้น !

    หนังสือสู่ความสุข
    เรียบเรียง โดย ธรรมรักษา
    http://www.dhammajak.net/book/sukha/sukha.php
     
  2. dhamaskidjai

    dhamaskidjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,855
    ค่าพลัง:
    +5,727
    ความสุขที่แท้จริง

    [​IMG]

    ผมเคยอ่านนิทานเรื่องหนึ่งนานมาแล้ว เรื่องมีอยู่ว่า อาจารย์ท่านหนึ่งลากเส้นตรงขึ้นมาเส้นหนึ่ง แล้วบอกให้นักเรียนลองทำให้เส้นตรงเส้นนี้สั้นลงโดยไม่ต้องลบ นักเรียนต่างหาวิธีทำให้เส้นตรงนั้นสั้นลงไม่ได้เพราะทุกคนติดอยู่กับภาพลักษณ์ของการลบเส้นเดิมทิ้งไปเพื่อให้เส้นเดิมสั้นลงไป อาจารย์ท่านนั้นจึงขอให้นักเรียนรายหนึ่งเขียนเส้นตรงเส้นใหม่ที่ยาวกว่าเส้นเดิม ภายหลังจากที่นักเรียนลากเส้นตรงเส้นใหม่ที่ยาวกว่าเดิมแล้ว อาจารย์ท่านนั้นอธิบายให้นักเรียนฟังว่า

    "การที่มีคนลากเส้นตรงขึ้นมาเส้นหนึ่ง ไม่ว่าเส้นตรงที่ลากมาจะยาวแค่ไหน เราสามารถทำให้เส้นตรงนั้นสั้นลงไปได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปลบเส้นของคนอื่นให้สั้นลง แต่เราสามารถทำให้เส้นของคนอื่นสั้นลงโดยที่เราลากเส้นของเราให้ยาวขึ้น ยิ่งเราลากเส้นยาวออกไปมากเท่าไหร่เส้นเดิมที่ลากไว้ก็จะสั้นลงไปทุกที เปรียบเหมือนการที่ใครซักคนทำในสิ่งหนึ่งที่ดีอยู่ประสบความสำเร็จอยู่ เราไม่ควรให้ความอิจฉาริษามาก่อให้จิตของเรารุ่มร้อนและหาทางกลั่นแกล้งคนๆนั้นด้วยการหาทางทำลาย เหมือนกับการพยายามลบเส้นของคนอื่นให้สั้นลง ตรงกันข้ามควรจะยินดีกับความสำเร็จของคนอื่น เหมือนกับที่เรามองความยาวของเส้นตรงที่คนอื่นลากไว้ แต่เราหาทางพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆเหมือนกับการพยายามลากเส้นตรงเส้นใหม่ให้ยาวขึ้นเรื่อยๆโดยไม่ไปลบเส้นของคนอื่น เส้นตรงที่เราลากก็จะยาวขึ้นเรื่อยๆ โดยเส้นเดิมที่เราลากไว้ก็จะสั้นลงไปเรื่อยๆโดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปลบออกให้สั้นลง"

    การคิดในเชิงสร้างสรรค์แบบนี้ทำให้จิตใจของเราโปร่งสบาย ไม่รุ่มร้อน เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่ได้แข่งกับใครแต่เราแข่งกับตัวของเราเองอยู่ตลอดเวลาและเราไม่ได้ไปสร้างศัตรูหรือไปก่อเวรกับคนอื่น ตรงกันข้ามการแข่งขันระหว่างกันเป็นไปในทางเกื้อกูลกันทำให้ระบบโดยรวมมีการเติบโตอยู่ตลอดเวลาไปในทางที่เป็นบวก คงไม่สำคัญว่าคุณต้องชนะคนทั้งหมด สิ่งสำคัญคงอยู่ที่คุณพยายามชนะตัวของคุณเองอยู่ตลอดเวลาต่างหาก เพียงแต่เมื่อใดคุณสามารถชนะตัวของคุณเองได้ ชัยชนะที่ได้ก็จะมีความหมายและทำให้คุณเกิดความภูมิใจ และถ้าคุณยังไม่หยุดพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง คุณก็จะชนะตัวคุณไปเรื่อยๆ เมื่อคุณมองย้อนกลับมาเมื่อไหร่คุณก็จะมีแต่ความภูมิใจในชัยชนะที่ขาวสะอาด ชัยชนะที่เป็นแรงขับดันให้คุณพยายามพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

    การประสพความสำเร็จในชีวิตของแต่ละคนมีอยู่หลายวิธี บางครั้งผู้คนต่างพยายามเลียนแบบเส้นทางประสพความสำเร็จของผู้อื่น แต่เมื่อเดินตามเส้นทางนั้นกลับพบว่าไม่ประสพความสำเร็จนัก ความสำเร็จในชีวิตของผู้คนคงไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบอย่างเดียวกันเสมอไป และเส้นทางไปสู่ความสำเร็จก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเส้นทางเดียวกันเสมอไป สิ่งสำคัญน่าจะอยู่ที่ความสุขใจที่ได้เลือกเส้นทางที่เหมาะกับตนเองมากที่สุดมากกว่า

    จงอย่าพยายามเลียนแบบเส้นทางไปสู่ความสุขของผู้อื่น เพราะนิยามความสุขของผู้คนต่างกัน ความสุขที่เราเห็นผู้คนอื่นมีความสุขกันอยู่ ถ้าเราไปอยู่ในสถานะนั้นเราอาจจะไม่มีความสุขอย่างที่เราเข้าใจก็ได้ สุขและทุกข์แท้จริงอยู่ที่ใจของเรากำหนดต่างหาก ลองมองทุกอย่าง อย่างเป็นกลางๆ ไม่เอาความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลง อคติ มาครอบงำ แล้ววันหนึ่งเราอาจจะค้นพบความหมายของคำว่าความสุขที่แท้จริงของตัวเราเอง

    <cite>www.love4home.com</cite>
     
  3. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ไว้ต้องเข้าไปอ่านบ้างแล้วค่ะ
     
  4. ิbilliboy

    ิbilliboy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +273
    ขอบคุณครับ ได้ข้อคิดดี
     
  5. Snowdrop~

    Snowdrop~ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +56
    ขอบคุณค่ะ หวังว่าจะค้นพบความสุขที่เป็นเส้นทางของเรา : )
     

แชร์หน้านี้

Loading...