แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 15 พฤษภาคม 2010.

  1. นำทาง

    นำทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,181
    ค่าพลัง:
    +7,865
    ...........
    สวัสดียามเช้าทุกท่านครับ
     
  2. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,748
    สวัสดีครับ ทุกๆ ท่าน
    เอาเท่าที่ผมพอจะทราบก็แล้วกันนะครับ
    การสักยันต์ หากเรารักษาได้ ความเข้มขลังก็จะติดกับตัวเราตลอดเวลา
    หากแขวนพระ เมื่อวันใดที่ถึงคราว ก็จะลืมไปซะดื้อๆ
    สักมาแล้ว ห้ามโดนน้ำสบู่ สามวัน อันนี้สำคัญมากๆ
    ข้อห้าม แล้วแต่ครูบาอาจารย์ท่านจะตั้งไว้ครับ
    แต่ข้อหลักๆ คือ ศีลข้อสาม ,ห้ามด่าบุพการี และลักขโมย
    ส่วนเรื่องฟักแฟงแตงโม ไชโยโห่หิ้ว ก็แล้วแต่ข้อห้ามของวิชา และครูบาอาจารย์
    เอาเท่านี้ก่อนละกันครับ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2010
  3. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    สวัสดีค่ะ คุณอาอุดมเดช.....วันนี้มาเล่าเรื่องให้น้องๆหลานๆฟังอีกนะคะ
     
  4. Tawatchai1889

    Tawatchai1889 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    6,406
    ค่าพลัง:
    +16,785
    เท่าที่ทราบ ถามไถ่มา ที่ไม่ให้โดนสบู่ 3 วัน เพราะถ้าสบู่ไปโดนแผลสักจะไม่แห้ง และเป็นแผลเป็น จึงให้อาบด้วยน้ำธรรมดก่อน ให้แผลแห้งก่อนครับ เวลาแผลเริ่มหาย คันยิบๆ:cool:
     
  5. spartanmaya

    spartanmaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    598
    ค่าพลัง:
    +2,809
    ข้อคิดดีๆ จากชายชราที่จากไป (อยากให้อ่าน) จาก FWD. Mail

    แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป

    โดย พิษณุ นิลกลัด





    สัปดาห์สุดท้ายของปี 2548
    ผมไปงานสวดและงานเผาศพผู้ชายวัย 81 ปีที่ผมรู้จักเขา มายาวนาน 30 ปี

    ไม่ใช่ญาติ แต่สนิทกันรักใคร่เสมือนญาติ


    ก่อนเสียชีวิตไม่กี่วันเขาสั่งลูกและภรรยาแบบคนไม่ครั่นคร้ามความตายว่า
    สวดสามวันแล้วเผา
    ไม่ต้องบอกใครให้วุ่นวาย
    อย่าเศร้า
    อย่าร้องไห้
    ทุกคนต้องมีวันนี้
    เพียงแต่เขาอยู่หัวแถวเลยต้องไปก่อน

    แล้วลูกเมียก็ทำตามคำสั่ง
    สวดสามวันเผา
    งานสวด 3 คืนมีคนฟังพระสวดคืนละ 14 คน

    คือเมีย ลูก หลาน เขย สะใภ้ และผมซึ่งเป็นคนนอก

    เป็นงานศพที่มีคนไปร่วมงานน้อยที่สุดเท่าที่ผมเคยไปฟังสวด
    วันเผามีเพิ่มเป็น 17 คน
    สามคนที่เพิ่มเป็นเพื่อนบ้านที่เคยคุยด้วยเกือบทุกเย็น
    คนหนึ่งเป็นแม่ค้าล็อตเตอรี่ที่เคยยืมเงินแล้วไม่มีสตังค์จ่าย เลยเอาล็อตเตอรี่ทยอยผ่อนใช้หนี้แทนเงินงวดละสองใบคนหนึ่ง
    และคนสุดท้ายเป็นหญิงที่ผู้ตายเคยผูกปิ่นโตทุกมื้อเย็น
    ทั้งสามคนบอกว่าเกือบมาไม่ทันเผา
    เคราะห์ดีที่แวะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่บอกว่าเสียชีวิตไปแล้ว 3 วัน
    หลังฌาปนกิจพระกระซิบถามเจ้าหน้าที่วัดว่าเจ้าของงานจ่ายเงินค่าศาลาสวดพระอภิธรรมแล้วหรือยัง
    พระท่านคงไม่เคยเห็นงานศพที่มีคนน้อยแบบที่ผมก็รู้สึกตั้งแต่สวดคืนแรก
    จริงๆ แล้วผู้ตายเป็นคนค่อนข้างมีสตังค์
    ทำงานธนาคารแห่งประเทศไทยจนเกษียณอายุที่ ตำแหน่งหัวหน้าหน่วย
    แต่ด้วยความที่รักและศรัทธาอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อดีตผู้ว่าการแบงค์ชาติ
    จึงดำเนินชีวิตแบบไม่ปรารถนาให้ใครเดือนร้อน แม้กระทั่งวันตาย
    ผมสนิทกับเขาเพราะเขามีความฝันในวัยเด็กอยากเป็นนักประพันธ์แบบไม้เมืองเดิม
    ที่เขาเคยนั่งเหลาดินสอและวิ่งซื้อโอเลี้ยงให้
    เมื่อตัวเองเป็นนักเขียนไม่ได้ พอมาเจอะผมที่เป็นนักข่าวก็เลยถูกชะตาและให้ความเมตตา
    การมีโอกาสได้พูดได้คุยกับเขาตามวาระโอกาสตลอด 30 ปี

    ทำให้ได้แง่คิดดีๆมาใช้ในการดำรงชีวิต

    วันหนึ่งเขารู้ว่าขโมยยกชุดกอล์ฟของผมไปสองชุดราคา 4 แสนกว่าบาท
    เขาปลอบใจผมว่า

    'ของที่หายเป็นของฟุ่มเฟือยของเรา

    แต่มันอาจเป็นของจำเป็นสำหรับลูกเมียครอบครัวเขา
    คิดซะว่าได้ทำบุญ จะได้ไม่ทุกข์'
    เขามีวิธีคิด'เท่ๆ' แบบผมคิดไม่ได้มากมาย เป็นต้นว่า

    สุขและทุกข์อยู่รอบตัวเรา

    อยู่ที่ว่าเราจะเลือกหยิบเลือกคว้าอะไร

    คงเป็นเพราะเขาเลือกคว้าแต่ความสุข
    ช่วงปีสุดท้ายของชีวิตเขาต่อสู้กับโรคชรา เบาหวาน หัวใจ ความดัน เกาต์
    และไตทำงานเพียง 5 เปอร์เซ็นต์โดยไม่ปริปากบ่น
    แถมยังสามารถให้ลูกชายขับรถพาเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์

    โดยที่ตัวเองต้องหิ้วถุงปัสสาวะไปด้วยตลอดเวลา

    เนื่องจากไตไม่ทำงาน ปัสสาวะเองไม่ได้

    6 เดือนสุดท้ายของชีวิตต้องนอนโรงพยาบาลสามวันนอนบ้านสี่วันสลับกันไป

    เวลาลูกหลานหรือเพื่อนของลูกรวมทั้งผมด้วยไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล
    เขามีแรงพูดติดต่อกันไม่เกิน 10 นาที

    แต่ 10 นาทีที่พูดมีแต่เรื่องสนุกสนาน

    เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากคนไปเยี่ยมไข้
    ทุกคนพูดตรงกันว่า

    คุณตาไม่เห็นเหมือนคนป่วยเลย

    ตลกเหมือนเดิม'

    พอแขกกลับ ลูกหลานถามว่าทำไมคุยแต่เรื่องตลก

    เขาตอบว่า

    'ถ้าคุยแต่เรื่องเจ็บป่วย

    วันหลังใครเขาจะอยากมาเยี่ยมอีก'
    เขาเป็นคนชอบคุยกับผู้คนไม่ว่าจะอยู่บนเตียงคนไข้หรืออยู่บนรถแท็กซี่
    บ่อยครั้งที่นั่งรถถึงหน้าบ้านแล้ว
    แต่สั่งให้โชเฟอร์ขับวนรอบหมู่บ้านเพราะยังคุยไม่จบเรื่อง

    แล้วจ่ายเงินตามมิเตอร์!

    4 เดือนสุดท้ายของชีวิตแพทย์ที่รักษาโรคไตมาตั้งแต่สมัยเป็นแพทย์อินเทิร์น

    จนกระทั่งเป็นหัวหน้าแผนกแนะนำให้พักรักษาตัวในโรงพยาบาลให้แข็งแรงแล้วค่อยกลับบ้าน
    แต่อยู่ได้ 4 วันเขาวิงวอนหมอว่าขอกลับบ้าน
    หมอซึ่งรักษากันมา 16 ปีไม่ยอม
    เขาพูดกับหมอด้วยความสุภาพว่า

    'ขอให้ผมกลับบ้านเถอะ
    ผมอยากฟังเสียงนกร้อง'

    คุณหมอไม่รู้หรอกว่าคนคิดถึงบ้านมันเป็นอย่างไร
    เพราะพอเสร็จงานหมอก็กลับบ้าน'
    หมอได้ฟังแล้วหมดทางสู้ ยอมให้คนไข้กลับบ้าน
    แต่กำชับให้มาตรวจตรงตามเวลานัดทุกครั้ง
    1 เดือนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
    เขาสูญเสียการควบคุมอวัยวะของร่างกายเกือบทั้งหมด
    เคลื่อนไหวได้อย่างเดียวคือกะพริบตา
    แต่แพทย์บอกว่าสมองของเขายังดีมาก
    เวลา ลูก เมียพูดคุยด้วยต้องบอกว่า
    'ถ้าได้ยินพ่อกะพริบตาสองที'

    เขากะพริบตาสองทีทุกครั้ง!
    เห็นแล้วทั้งดีใจและใจหาย
    เขายังรับรู้ แต่พูดไม่ได้
    นี่กระมังที่เรียกว่าถูกขังในร่างของตนเอง
    สิบวันก่อนพลัดพราก ภรรยากระซิบข้างหูว่า
    ' พ่อสู้นะ '
    เขาไม่กะพริบตาซะแล้ว
    ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้สองเดือนเคยตอบว่า


    ' สู้ '
    เขาสู้กับสารพัดโรคด้วยความเข้าใจโรค
    สู้ชนิดที่หมอออกปากว่า

    ' คุณลุงแกสู้จริงๆ '
    ตอนที่วางดอกไม้จันทน์
    ผมนึกถึงประโยคที่แกพูดกับลูกเมื่อสี่เดือนก่อนว่า
    'โรค ภัยมันเอาร่างกายของพ่อไปแล้ว

    อย่าให้มันเอาใจของเราไปด้วย'

    'แง่คิดดีๆ จากชายชราที่จากไป '

    สอน ให้เรารู้ว่า...
    เราเกิดมาพร้อมกับจิตใจบริสุทธิ์
    และมันสมองมหัศจรรย์
    ที่จะสามารถเรียนรู้
    แยกแยะเรื่องดีๆและสิ่งร้ายๆในชีวิต
    จงใช้โอกาสดีๆที่ร่างกายและจิตใจของเรา
    ยังทำอะไรๆได้อย่างที่สมองสั่ง

    จงเรียนรู้
    และสร้างประโยชน์สุข
    ให้กับตนเองและผู้อื่นอย่างพอเพียง
    และดำรงชีวิตอย่างพอเพียงทางเศรษฐกิจ!

    หากทุกๆครั้งที่เรียนรู้
    เราล้ม
    เราพลาดอาจจะรู้สึกท้อบ้างในบางที
    แม้ไม่มีกำลังกายที่จะลุกในทันที..แต่ข้อให้มีกำลังใจที่จะสู้ ต่อไป
    ถ้าเราเรียนรู้...ก็จะทำให้เราพบว่า

    การล้มหรือพลาดครั้งต่อไป
    เราจะไม่เจ็บเท่าเดิม
     
  6. namo_2009

    namo_2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,432
    ค่าพลัง:
    +10,228
    พระครูพิทักษ์วีรธรรม หรือ หลวงพ่อสืบ ปริมุตโต เจ้าอาวาสวัดสิงห์,เจ้าคณะตำบลท่าพระยาและอีกตำแหน่งของท่านคือ รองประธานมูลนิธิปิยสีโล(รองจากหลวงปู่เจือ) เป็นที่ทราบกันดีว่า หลวงปู่เจือและหลวงพ่อสืบนั้นจะมีความสนิทและมักคุ้นกันมาตั้งแต่สมัยท่านหลวงพ่อสืบยังเป็นเด็กโดยหลวงพ่อสืบมักจะเรียกหลวงปู่เจือว่าพี่เจือ จนแทบจะพูดได้ว่าถ้ามีการปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงปู่เจือต้องมีหลวงพ่อสืบร่วมปลุกเสก และถ้ามีการปลุกเสกวัตถุหลวงคลของหลวงพ่อสืบก็จะมีหลวงปู่เจือท่านร่วมปลุกเสก จากเรื่องราวตรงนี้เองความผูกพันฉันท์พี่และน้องได้กลายเป็นความผูกพันธ์ของศิษย์และอาจารย์เมื่อหลวงพ่อสืบท่านได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับหลวงปู่เจือ หลวงปู่เจือท่านก็ได้รับหลวงพ่อสืบเป็นศิษย์และถ่ายทอดวิชาทำเบี้ยแก้ให้หลวงพ่อสืบได้ศึกษา ซึ่งโดยนิสัยส่วนตัวของหลวงพ่อสืบนั้นถ้าท่านยังศึกษาวิชาจากครูบาอาจารย์ของท่านไม่ถ่องแท้แบบรู้แจ้งฯท่านก็จะไม่จัดสร้างวัตถุมงคลออกมาเพราะท่านเกรงว่าถ้าทำออกไปแล้วไม่ดีจริงหรือใช้ไม่ได้จริงๆก็จะเสียชื่อถึงครูบาอาจารย์ของท่าน หลวงพ่อสืบท่านจึงเพียรพยายามศึกษาวิชาการทำเบี้ยแก้ตลอดมา จนกระทั่งถึงวันฤกษ์งามยามดีในพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล รุ่นไตรมาส ของวัดสิงห์ หลวงปู่เจือท่านก็มาร่วมปลุกเสกด้วยที่วัดและท่านหลวงปู่เจือก็ได้อนุญาตและทำการจับมือหลวงพ่อสืบตีเบี้ยแก้นำฤกษ์หรือที่เรียกว่าเบี้ยครู (เสมือนกับว่าหลวงพ่อสืบท่านได้สำเร็จวิชาการทำเบี้ยแก้จากหลวงปู่เจือแล้ว)
    หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาหลวงพ่อสืบท่านก็ได้ตั้งใจและเพียรทำเบี้ยแก้ในนามของวัดสิงห์ขึ้นด้วยตัวของท่านหลวงพ่อสืบและลูกศิษย์ภายในวัดสิงห์ที่ช่วยร่วมแรงร่วมใจกันจัดสร้างทำเบี้ยแก้ขึ้น โดยไม่มีการว่าจ้างโรงงานหรือบุคคลอื่นมาจัดสร้างให้ เพื่อไม่ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของผู้เป็นครูบาอาจารย์ และไม่ทำให้ตัวหลวงพ่อสืบท่านเสียสัตย์ที่ว่า “ของๆเรา ถ้าจัดทำออกไปแล้วต้องดีจริงและใช้ได้จริงๆ”ดังที่ทุกท่านได้เห็นและรับทราบจากประสบการณ์ในเรื่องเหรียญและตะกรุดของท่านหลวงพ่อสืบมาโดยตลอด

    ยืมมาจาก web ข้างบ้านครับ:cool:
     
  7. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    รอยร้าวจากตะปู

    มีเด็กน้อยคนหนึ่งอารมณ์ไม่ค่อยจะดี พ่อของเขาจึงให้ตะปู
    กับเขา 1 ถุงและบอกเขาว่า ทุกครั้งที่ลูกรู้สึกไม่ดี โมโห หรือโกรธใคร
    ก็ตาม ให้ตอกตะปู 1 ตัวลงไปที่รั้วหลังบ้านก็แล้วกัน

    วันแรก ผ่านไป
    เด็กน้อยตอกตะปูเข้าไปที่รั้วถึง 37 ตัว วันที่ 2 และ วันที่ 3 และแต่
    ละวันที่ผ่านไป ผ่านไปจำนวนตะปูก็ค่อยๆลดลง ลดลงๆ เพราะเด็กน้อย
    รู้สึก ว่า การรู้จักควบคุมตัวเองให้สงบ ง่ายกว่าการตอกตะปูตั้งเยอะแล้ววันหนึ่ง หลังจากที่เขาสามารถ ควบคุมตัวเองได้ดีขึ้น
    ใจเย็นมากขึ้น เขาเดินไปหาพ่อเพื่อบอกว่า เขาคิดว่าเขาไม่จำเป็นที่
    ต้องตอกตะปูอีกแล้ว เพราะเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว เขาสามารถควบคุม
    ตัวเองได้ดีขึ้น ไม่มุทะลุเหมือนแต่ก่อนแล้วพ่อยิ้มแล้วบอกลูกชายว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ลองพิสูจน์
    ให้พ่อดู ทุกๆครั้งที่ลูกสามารถควบคุมอารมณ์ฉุนเฉียวของตัวเองได้
    ให้ถอนตะปูออกจากรั้วหลังบ้านที่ละ 1 ตัว

    วันแล้ววันเล่า เด็กชาย
    ก็ค่อยๆถอนตะปูออกทีละตัว ๆ จนในที่สุด วันหนึ่งตะปูทั้งหมดก็ถูก
    ถอนออกเด็กชายดีใจมากรีบวิ่งไปบอกพ่อของเขาว่า ผมทำได้แล้วครับ
    ในที่สุดผมก็ทำได้สำเร็จพ่อ ไม่ได้พูดว่าอะไร แต่จูงมือลูกของเขาไปที่รั้วนั้น แล้วบอก
    ลูกทำได้ดีมากทีนี้ลองมองกลับไปที่รั้วสิ เห็นมั๊ยว่ารั้วมันไม่เหมือนเดิม
    มันไม่เหมือนกับที่มันเคยเป็นก่อนหน้านี้

    ลูกจำไว้นะ ว่าเมื่อไหร่ที่เราทำ
    อะไรลงไปด้วยการใช้อารมณ์ สิ่งนั้นมักจะเกิดรอยแผล เหมือนกับการ
    เอามีดไปกรีดหรือแทงใครเข้า ต่อให้ใช้คำว่า..ขอโทษ..สักกี่หน
    ก็ไม่อาจจะลบรอยแผลหรือความเจ็บปวดที่เกิดกับเขาคนนั้นได้

    ลูก จงจำ คำว่า ..ขอโทษ..ไว้เสมอนะ ไม่ว่าเขาจะยกโทษให้เรา หรือ ไม่ก็ตามนะ
    จำไว้อีกด้วยว่า สิ่งที่มันเกิดขึ้น รอยร้าวที่เกิดขึ้นกับเขา
    เขาอาจจะไม่มีวันลืมมันได้......ตลอดไปสิ่งที่สำคัญคือ รู้ทันความโกรธให้เร็วที่สุด ทันทีที่สติรู้ทันว่า
    เราปล่อยให้ความโกรธครอบงำ อย่างน้อยมันจะหยุดเพ่งโทษคนอื่น
    วางความยึดมั่นว่าเราถูกลงเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ไขสถานการณ์
    ดีกว่าปล่อยให้ความยึดว่า ตัวเองถูกเสมอ หรือฐิทิมานะมาทำลาย
    ทุกอย่างรวมทั้งชีวิตตัวเราเอง


    ขอบคุณต้นฉบับที่ไม่รู้ว่าเป็นใครด้วยครับ
    <o></o>
     
  8. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    ผมชอบบทความนี้ครับ:cool:
     
  9. อุดมเดช

    อุดมเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +2,710
    คึกคักดีเหลือเกินบ้านนี้ หายไปอาทิตย์เดียวอ่านไม่ทันแล้ว มีครบทุกรส ทุกวัย เรื่องสักยันต์ต้องระวังให้จงดีเพราะอยู่กับตัวตลอด บางอาจารย์ครูแรงมาก ทำผิดที่ครูกำหนดโดยไม่ตั้งใจ ป่วยแทบตายก็เคยมี บางคนคลุ้มคลั่งไปเลย เดี๋ยวนี้ข้อห้ามหลายอย่างมันทำยาก เช่นลอดใต้สะพาน ลอดใต้บันได กินของในงานศพ อาบน้ำร่วมกับผู้หญิงมีประจำเดือน แนะนำว่าหาแหวนพระหรือเครื่องรางก็ดีเช่นกัน เพราะยังมีข้อห้ามน้อยกว่า ได้ผลดี แหวน ลพ.กวย แหวน ลป.ดู่ แหวน ลพ.จง แต่ข้อห้ามเหมือนกันคือ ห้ามด่าแม่คนอื่นเด็ดขาด ข้ออื่นๆยังพอแก้ไข
     
  10. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    สวัสดีครับ คุณอาอุดมเดช หายไปนานเลยนะครับคิดถึงครับ(f)
     
  11. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735

    โมทนาด้วยครับ สักวันผมจะไปวัดท่าซุงให้ได้เลยครับ...(^_^)..คิดไว้นานล่ะ.....

    วันนี้แขวนเหรียญของหลวงพ่อรุ่น(กูผู้ชนะ) รู้สึกฮึกเหิมในการทำงานมากครับ...แม้จะวุ่นวายไปด้วยสารพัดพิษรอบด้านก็ไม่หวั่นเลยครับ..(^_^)...

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 118.jpg
      118.jpg
      ขนาดไฟล์:
      128.2 KB
      เปิดดู:
      629
    • agtht.jpg
      agtht.jpg
      ขนาดไฟล์:
      151.5 KB
      เปิดดู:
      595
  12. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    สวัสดีครับคุณอาอุดมเดช....หายไปหลายวันเลยนะครับ...สบายดีนะครับ..(^_^)...
     
  13. namo_2009

    namo_2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,432
    ค่าพลัง:
    +10,228
    เอาเมืองระยองมาฝากครับ เผื่อมีท่านใดสนใจมาเที่ยวจะได้รับข้อมูลที่ดีๆไปครับผม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. Tawatchai1889

    Tawatchai1889 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    6,406
    ค่าพลัง:
    +16,785
    ขอบคุณครับสุดหล่อ:cool:
     
  15. Tawatchai1889

    Tawatchai1889 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    6,406
    ค่าพลัง:
    +16,785
    ขอบคุณครับ ผู้มีต้องปฏิบัติตัวดี
     
  16. Tawatchai1889

    Tawatchai1889 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    6,406
    ค่าพลัง:
    +16,785
    ชื่อรุ่นดีจริงๆครับ ชนะทุกอย่าง ไพรีพินาส
     
  17. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,748
    ขอบคุณครับที่พูดความจริง เพราะหลักฐานมันฟ้องที่หน้าผมอยู่ทนโท่
    จะเถียงก็เถียงไม่ได้ เพราะหลักฐานมันฟ้อง...

    อ้าว....น้าต๋อย ผิดคิว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2010
  18. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ด้วยความเห็นใจครับ เรื่องจริงของชีวิตข้าราชการทหารไม่ได้โก้เก๋อย่างที่เห็น เงินใช้ไม่ถึงสิ้นเดือน อยากได้อะไรก็ต้องเป็นระบบเงินผ่อนสวัสดิการ นายทำอะไรถูกหมด ลูกน้องทำดีนายรับไป นายทำผิด ลูกน้องรับแทน อย่างมากเจ้านายพูดแค่ว่าขอบใจมากนะ เท่านั้น ระบบชั้นยศยังค้ำคออยู่จึงทำอะไรไม่ได้มากเต็มความสามารถ ต่างจากตะวันตกที่เอาความสามารถเป็นเกณฑ์ในการมอบหมายความรับผิดชอบของงาน คนที่เคยร่วมคอบบร้าโกลด์กับอเมริกัน คงจะเคยเห็นระบบการสั่งงานของเขา มันเป็นระบบมากที่สุด หากเป็นงานของเขาแล้ว ต่อให้นายพลจากที่อื่นมาสั่ง เขาก็ไม่ฟังไม่ทำตาม แต่ของไทยเรา นายจากที่ใหนมาก็สั่งไปคนละอย่าง ไม่เข้าแนวทางเดียวกัน

    เมื่อบาดเจ็บหรือพิการก็ได้แค่เหรียญเชิดูเกียรติ แต่อนาคตที่สูญเสียไปใครเล่าจะชดเชยให้ แม้จะอึดอัดมากแบบนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ติดอยู่กับทหารของไทยทุกนายคือ เกียรติและศักดิ์ศรี ที่ตีค่าราคาไม่ได้ เป็นสายเลือดเข้มข้นที่อธิบายไม่ถูก ขอชื่นชมทหารทุกนายที่เสียสละเพื่อคนอีกมากที่ไม่เคยรู้เรื่องเบื้องหลังแห่งศักดิ์ศรีของเขาเหล่านั้น ทหารดีๆมีมากมายแต่ไม่มีข่าวให้ได้รับรู้ แต่เจ้านายดีๆมีน้อยเหลือเกิน

    ทหารที่ดีๆนั้น แม้เขาจะกินข้าวกับน้ำพริกทุกมื้อ นั่งรถหลวงไปทำงาน มีเงินติดกระเป๋าแค่ยี่สิบ แต่เขามีความทรนง องอาจ กล้าหาญ รักศักดิ์ศรี ดุจพญาเสือ และที่สำคัญ ต้องไม่มีลายหมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2010
  19. Suppasit_S

    Suppasit_S เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,147
    ค่าพลัง:
    +3,869
    เป็นวิธีการสอนที่ยอดมากครับ เป็นกระทู้ที่อ่านแล้วสบายใจจริงๆครับ อาจจะไม่ค่อยโพสท์ (เขียนไม่เก่ง) แต่ติดตามอ่านตลอดครับทุกท่าน
     
  20. ลูกวัด

    ลูกวัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,071
    ค่าพลัง:
    +5,194
    รอยร้าวจากตะปู เรื่องเล่าจากพี่หนุ่มแต่ละเรื่องได้แง่คิดดีมากๆเลยครับ เป็นศิลปการสอนคน ผมว่าสมาชิกในกระทู้นี้มีหลายคนที่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองรวมทั้งตัวผมด้วย จากบทความ จากเรื่องเล่าประสบการณ์จริงของตัวพี่หนุ่มเอง ผมได้นำแง่คิดอะไรหลายๆอย่าง เพื่อปรับปรุงตัวเอง เช่นตอนนี้ก็กำลังหันมาฝึกสมาธิใหม่หลังจากที่ได้ห่างหายมานาน

    ขออนุโมทนาบุญกับพี่หนุ่มครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...