พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. Natachai

    Natachai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +937
    :cool: คนมาจากไหนเยอะจริงๆ
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"เข้าใจ-ดูแล" สูตรลับพิชิตใจพระในบ้าน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>1 กันยายน 2553 08:18 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=240 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=240>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พญ.สิรินทร ฉันศิริกาญจน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> คงไม่แปลกเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น สภาพร่างกายที่เสื่อมถอยลง ย่อมทำให้การดูแลสุขภาพทำได้ไม่เต็มที่เหมือนเช่นเคย บุคคลที่เข้ามารับหน้าที่ดูแลจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญ และเอาใจใส่ให้ถูกวิธี ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ

    พญ.สิรินทร ฉันศิริกาญจน ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดประเด็นเกี่ยวกับความสำคัญของการดูแลผู้สูงอายุในการเสวนา "รักพ่อแม่...ต้องดูแลอย่างเข้าใจ" ที่จัดโดยสำนักพิมพ์ more of life ในเครือบริษัท รักลูกกรุ๊ป ว่า เมื่อพูดถึงผู้สูงอายุ สิ่งที่ผู้ดูแลต้องใส่ใจ คือการดูแลทั้งกายและใจ เนื่องจากปัญหาอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องของสุขภาพ เพราะการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายถือว่าเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่ปัญหาดังกล่าวมีปัจจัยจากหลายด้าน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ความรักความอบอุ่นของคนในครอบครัว เพราะเมื่อใดที่ผู้สูงอายุล้มป่วย การดูแลจิตใจถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

    "การดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุในบ้านไม่ให้เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ใช่ดูแลแค่เรื่องการกินการอยู่เพียงเท่านั้น เนื่องจากอาการป่วยที่แสดงออกมานั้นเป็นผลลัพธ์มาจากการมีสุขภาพจิตที่ย่ำแย่ ทำให้ภูมิด้านทานต่ำลงก่อให้เกิดโรคภัยได้ง่าย บางคนอยู่เฉยๆ ก็มีอาการเบื่อหน่าย เหงา ซึมเศร้า ไม่มีกำลังใจในการต่อสู้กับเชื้อโรค จึงทำให้อาการเจ็บป่วยนั้นรุนแรงมากขึ้น"

    ดังนั้นการดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุในบ้าน พญ. สิรินทร กล่าวแนะนำว่า วัยชราก็เปรียบเสมือนกับต้นไม้ใหญ่ที่แก่ตัวลง ต้องรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี เช่นเดียวกับผู้สูงอายุที่ต้องการให้ลูกหลานมาดูแลเอาใจใส่และได้อยู่ในบ้านที่อบอุ่นพร้อมหน้าพร้อมตากัน ลูกหลานบางคนคิดว่าการที่ให้พ่อแม่อยู่ในบ้านที่มีทั้งความสะดวกสบาย ใหญ่โต มีพยาบาลมาคอยดูแลท่านอย่างใกล้ชิดคือความสุขแล้ว แต่ไม่ได้สนใจว่าความสุขที่แท้จริงที่ท่านต้องการคืออะไร

    "บางคนพาพ่อแม่ย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ในตัวเมือง ที่มีแต่ความสะดวกสบาย ส่วนตัวเองก็ออกไปทำงานนอกบ้าน ปล่อยให้พ่อแม่อยู่ในความดูแลของพยาบาล หรือบางคนซื้อข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าที่มีราคาแพงให้พ่อแม่ แต่ท่านกลับใช้ของเดิมที่มีอยู่ และบอกกับลูกว่า ซื้อมาทำไมให้สิ้นเปลือง เราก็ควรเข้าใจในความหวังดีของท่านด้วย คนเป็นลูกต้องอย่ายึดติดกับวัตถุสิ่งของ เพราะผู้สูงอายุเปลี่ยนแปลงยาก อย่าเอาสิ่งแวดล้อมที่เราเคยชินมายัดเยียดให้กับท่าน"

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แต่ก็มีบ่อยครั้งที่ผู้สูงอายุบางคนจะอาละวาด เมื่อไม่ได้ดั่งใจอะไรบางอย่าง ถึงกับบอกว่า "ไม่ต้องมายุ่ง ฉันดูแลตัวเองได้" ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ บอกว่า ผู้ดูแลหรือลูกหลานควรมีการพูดคุยกับท่านอย่างเข้าใจว่า ทำไมเรื่องนี้ต้องห้าม อันนี้ทำไมทำไม่ได้ เช่นเรื่อง "อาหาร" ที่มักจะเป็นสาเหตุให้เกิดความไม่เข้าใจกัน ผู้สูงอายุบางคนป่วยเป็นโรคเบาหวาน แต่ก็ชอบกินของหวาน ลูกหลานก็คอยต่อว่าห้ามปรามไม่ให้กิน ควรจะบอกว่า มันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ลูกเป็นห่วงและไม่อยากให้พ่อแม่ต้องมีล้มป่วยอีก ดังนั้นควรกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพจะดีกว่า

    อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุรายนี้บอกว่า ผู้สูงอายุจะรู้สึกรำคาญกับเสียงสูง ดังนั้นไม่ควรตะโกนโหวกเหวกใส่ท่าน ควรพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลเป็นคำสั้นๆ ที่สื่อความหมายได้ดี อีกอย่างควรถนอมน้ำใจกัน เพราะผู้สูงอายุจะอ่อนไหวกับคำพูดที่สะเทือนใจ บางคนก็เก็บความรู้สึก เพราะกลัวว่าลูกหลานจะลำบากใจ จนเกิดอาการซึมเศร้า เบื่ออาหาร จนล้มป่วยได้ อีกทั้งในบางครั้งพ่อแม่อยากจะช่วยลูกทำงานบ้าน แต่ลูกกลับบอกว่า "แม่ไม่ต้องช่วยหรอก เดี๋ยวจะยิ่งเลอะเทอะกันไปใหญ่" ซึ่งในความเป็นจริงงานบ้านบางอย่างผู้สูงอายุสามารถทำได้ แต่ลูกหลานกลับมองว่าจะสร้างความวุ่นวายและเดือดร้อน การที่ให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมกับงานในบ้าน ทำให้ท่านคิดว่าตัวเองมีค่าและสามารถช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ของคนในบ้านอีกด้วย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=240 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=240>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"ครอบครัวโห่กุศลสินธุ์"</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ด้าน "จิต-จิตตพัฒน์ โห่กุศลสินธุ์" ที่จูงมือคุณพ่อมาร่วมกิจกรรมนี้ เล่าให้ทีมงานฟังว่า ปกติที่บ้านจะใส่ใจดูแลคุณพ่อคุณแม่เรื่องอาหารการกิน ต้องให้ท่านรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะที่ผ่านมา เนื่องจากที่บ้านเป็นครอบครัวของคนจีน จึงมีความนิยมรับประทานอาหารจำพวก หมู เห็ด เป็ด ไก่ และอาหารทอดๆ ย่างๆ ทำให้คุณพ่อมีไขมันในเลือดสูง

    อีกประการหนึ่งคือการพาคุณพ่อไปปฏิบัติธรรม ซึ่งพี่จิตบอกว่า "พี่จะพาคุณพ่อไปปฏิบัติธรรมอยู่บ่อยๆ เพื่อให้ท่านมีจิตใจที่สงบ เพราะเชื่อว่าการที่ทำให้พ่อแม่มีจิตใจที่สงบ เมื่อถึงเวลาที่ทุกคนไม่อยากให้มันเกิด แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหน หากมีการเตรียมตัว เตรียมใจ ให้พ่อแม่จากไปอย่างสงบและไม่มีความกังวลใจใดๆ ท่านจะมีความสุข และสิ่งๆ นี้คงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่พี่จะได้ตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ได้ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าชาติหน้าหรือภพหน้าเราจะได้เกิดมาเป็นลูกของท่านอีกหรือไม่"

    ทั้งนี้ พี่จิตยังได้ฝากข้อคิดเตือนใจกับลูกๆ ทุกบ้านว่า การดูแลผู้สูงอายุในบ้านไม่ใช่เรื่องยากและไม่เหลือบ่ากว่าแรงของคนเป็นลูก เพียงเราเข้าใจในความต้องการของท่าน อย่าให้ท่านมาทำตามสิ่งที่เราต้องการ แม้มันจะเป็นความหวังดีของเราก็ตามแต่มันก็ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงของท่านเลย บางคนบอกว่าผู้สูงอายุยิ่งแก่ก็ยิ่งดื้อ ไม่มีเหตุผล อยากให้ลูกหลานทุกคนลองคิดถึงตอนที่เรายังเป็นเด็กท่านเลี้ยงดูเรามาทั้งๆ ที่ตอนเด็กเราก็ดื้อ ซน งอแง ปวดหัว เป็นไข้ไม่แพ้กัน แต่ทำไมท่านถึงอดทนและเลี้ยงดูเราจนเติบใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้ได้ อย่าคิดว่าสิ่งของราคาแพงจะมีค่ามากกว่าความรักความอบอุ่นที่มีให้แก่กันเลย</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    Life & Family - Manager Online -
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เปิดประสบการณ์หนี้บัตรเครดิต ชีวิตจริงที่ผิดมากกว่าสองครั้ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>26 สิงหาคม 2553 17:11 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ใครหลายคนอยากเป็นคนมี "เครดิต" กับบัตรพลาสติกใบเล็ก ๆ ที่พกแล้วดีมีสิทธิประโยชน์มากมาย แต่เรื่องเล่าของคนที่ผิดพลาดจากการใช้งานบัตรเครดิตก็มีออกมาเตือนใจไม่น้อย จึงไม่แปลกที่จะยกฐานะของบัตรเครดิตมาเปรียบเทียบกับดาบสองคม แถมคมที่อยู่ในด้านมืดของบัตรเครดิตนี้ก็พร้อมจะทำลายผู้ใช้ด้วยความประมาท หรือใช้ด้วยความโลภให้บาดเจ็บเจียนตายได้อย่างง่ายดายเสียด้วย

    ทีมงานได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณเอก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ผู้ที่ยอมรับว่าชีวิตเขากำลังล้มเหลวว่า เขาเป็นหนึ่งในคนที่หลงใช้ชีวิตผิดพลาด มีหนี้ท่วมตัวจนถึงขั้นล้มละลาย ผ่านเครื่องมือทางการเงินที่มีชื่อว่า "บัตรเครดิต" โดยคุณเอกเริ่มต้นเรื่องราวของเขาว่า เขามีบัตรเครดิตครั้งแรกตั้งแต่ยังเรียนในระดับอุดมศึกษาอยู่เลยทีเดียว

    "ตอนนั้นใช้บัตรเสริมของคุณพ่อ โดยยอดการใช้จ่ายคุณพ่อเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด พี่น้อง 3 คนมีบัตรเสริมกันทุกคน แต่ละคนรูดใช้จ่ายกันอย่างไร ไม่มีใครทราบ สิ้นเดือนคุณพ่อเป็นคนเคลียร์ให้" คุณเอกเล่าย้อนถึงรูปแบบการใช้เงินของตนเองในอดีต

    เมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เขาเข้าทำงานในบริษัทมีชื่อแห่งหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ภูมิใจแก่พ่อแม่เป็นอันมาก ในฐานะที่ลูกชายคนโตได้ดีทั้งด้านการเรียนและการงาน ท่านทั้งสองจึงปล่อยให้เขาบริหารชีวิตด้วยตัวเอง ขณะเดียวกัน ในยุคนั้น บริษัทบัตรเครดิตกำลังเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายมาเป็นกลุ่มบัณฑิตจบใหม่ เขาตัดสินใจสมัครใช้งาน เพื่อให้มีบัตรเครดิตของตนเอง คุณเอกยอมรับว่า เพื่อน ๆ รุ่นเดียวกันก็ได้รับข้อเสนอดี ๆ จากบริษัทบัตรเครดิตเช่นนี้หลายราย

    จากคน ๆ หนึ่งที่เคยใช้แค่บัตรเสริม เมื่อมีบัตรเครดิตใบที่ 1 สถาบันทางการเงินก็เริ่มยื่นข้อเสนอให้เขามีบัตรใบที่สอง สาม สี่ มาเรื่อย ๆ จนถึงวันที่เขาหมดตัวล้มละลายนั้น เขามีบัตรพลาสติกเหล่านี้ในกระเป๋ามากกว่า 10 ใบ คุณเอกเล่าถึงสาเหตุของการวางแผนทางการเงินที่ผิดพลาดว่า นอกจากรูดบัตรแล้ว ยังมีการกดเงินสดออกมาใช้ล่วงหน้า ซึ่งค่าธรรมเนียมของการกดเงินสดเหล่านั้น ทางคุณเอกไม่ได้ศึกษาให้ดีเสียก่อน

    "ทางบัตรเครดิตเองก็มีบริการผ่อนชำระ จ่ายแค่ขั้นต่ำของยอดที่ต้องชำระก็ได้ ทำให้ชะล่าใจ จ่ายแค่นิดเดียว พอจ่ายแค่ขั้นต่ำ เงินเดือนที่เหลือเยอะขึ้นก็เลยเอาไปใช้จ่ายมากขึ้น หนี้ก็เริ่มมากขึ้น ๆ ๆ สุดท้ายก็ต้องสมัครบัตรใหม่ เพื่อกดเงินด่วนออกมาจ่ายชำระหนี้บัตรเครดิตใบเก่า เป็นวัฏจักรเช่นนี้ บัตรก็เริ่มมีเยอะขึ้น ๆ จนในที่สุด ยอดหนี้ก็เยอะเกินกว่าที่เงินเดือน ๆ หนึ่งจะสามารถจ่ายได้"

    ในเวลานั้น เขาอ้างว่า เหตุที่ใช้เงินเกินตัวเพราะอยู่ระหว่างการสร้างฐานะ และเริ่มต้นชีวิตครอบครัวของตัวเองด้วยการมีลูกชาย 1 คน ส่วนภรรยาก็ไม่ได้ทำงาน จึงเป็นเหตุให้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของครอบครัว เขาต้องรับผิดชอบคนเดียว

    เมื่อมีปัญหาทางการเงิน เขาจึงตัดสินใจกลับไปขอความช่วยเหลือจากทางบ้าน แต่ก็ต้องอึ้งเป็นคำรบสอง เมื่อทราบว่า พ่อของเขาซึ่งเคยเป็นหัวหน้าครอบครัวคนเก่ง หาเงินให้ลูก ๆ ใช้จ่ายมาตลอดนั้นก็ประสบปัญหาทางการเงินเช่นเดียวกัน โดยหนี้ที่พ่อของเขาก่อขึ้นนั้น ล้วนมาจากการใช้จ่ายภายในครอบครัวทั้งสิ้น


    "มาทราบว่าพ่อเองก็เจอปัญหาเช่นเดียวกัน จนพ่อต้องออกจากงาน และเอาเงินที่เก็บสะสมไว้ตลอดการทำงาน 30 กว่าปีไปใช้หนี้จนหมด ทำให้ย้อนนึกถึงตอนที่เด็ก ๆ ที่เรารูดบัตรพ่อไปใช้ แต่พ่อไม่เคยบ่น ไม่เคยว่า เราจึงไม่รู้เลยว่าพ่อเองก็มีปัญหาทางการเงินเช่นกัน ตอนนี้จึงเท่ากับว่า เราต้องรับผิดชอบทั้งครอบครัวตัวเองและพ่อแม่ เพราะหนี้ของพ่อทำให้เงินเก็บหลังเกษียนหมดลง"

    เมื่อไม่สามารถพึ่งครอบครัวได้ คุณเอกจึงตัดสินใจบ่ายหน้าไปหาญาติพี่น้อง โดยเขาได้รับความช่วยเหลือจากคุณลุงผู้เป็นพี่ชายของพ่อ ด้วยคุณลุงท่านนี้เป็นคนที่ค่อนข้างมีหน้าที่การงานมั่นคง อีกทั้งยังเป็นโสด ไม่มีครอบครัว เขาจึงขอหยิบยืมเงินจากคุณลุงจำนวน 1 ล้านบาทเพื่อไปใช้หนี้

    แม้คุณเอกจะเล่าว่า เขาต้องยอมให้คุณลุงท่านนี้ดุด่าว่ากล่าวอยู่นานหลายชั่วโมงถึงการบริหารเงินที่ผิดพลาดด้วยความผิดหวัง เพราะเขาเป็นหลานที่คุณลุงรักมาก กว่าที่เขาจะได้รับเงินก้อนนี้มา แต่ในอีกมุมหนึ่ง นี่ก็เป็นวิธีหาเงินที่ง่าย และรวดเร็วที่สุดแล้ว

    แต่เงินที่ได้มาง่าย ๆ ก็ไม่ได้สร้างบทเรียนอะไรให้กับชีวิต ....

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ทันทีที่ได้เงินมา แทนที่เขาจะนำไปจ่ายชำระหนี้ของบัตรเครดิตแต่ละใบให้หมด แล้วเลิกใช้งานบัตรเครดิตเหล่านั้น เริ่มต้นชีวิตใหม่ เขากลับนำเงินบางส่วนมาใช้ในชีวิตประจำวัน ขณะที่ยอดหนี้ก็ยังเดินหน้าคิดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง

    คุณเอกบอกว่า เขารอจนถึงวันครบกำหนดชำระ จึงค่อยไปจ่ายเงิน แต่ทันทีที่จ่ายเงินชำระหนี้ไปแล้ว บัตรเครดิตใบนั้นของเขาก็ประหนึ่งกลับมามีชีวิต เขาสามารถรูด-กดเงินสำรองมาใช้ได้อีกครั้ง!!

    เขาทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนในที่สุด เงิน 1 ล้านบาทที่ได้รับมาก็หมดลง โดยที่หนี้ของเขาไม่ได้หมดตามไปด้วย</B>

    อย่างไรก็ดี หนี้ที่เกิดขึ้นในวันนี้ เขาไม่สามารถจะบากหน้ากลับไปหาคุณลุงท่านเดิมได้อีกต่อไปแล้ว เขาจึงมองหาญาติพี่น้องของพ่อคนต่อไป รายแล้วรายเล่า จนทุกคนได้แต่ส่ายหน้าเมื่อเขาและพ่อแวะเวียนไปหา

    "หลัง ๆ ไม่มีใครช่วยแล้ว ก็ต้องหาทางช่วยตัวเอง แต่ก็ยังดีที่คุณลุง (คุณลุงท่านแรกที่เคยให้ยืมเงิน 1 ล้านบาท) ยังช่วยค่าใช้จ่ายของพ่อบ้าง ตอนนี้งานที่ทำอยู่ก็ต้องลาออก เพราะบริษัททวงหนี้ได้ทำให้ความน่าเชื่อถือของเราหมดลง คนในองค์กรก็ไม่ยอมรับอีกต่อไป เลยก็ต้องมองหางานเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำไปก่อน" คุณเอกเล่า

    ส่วนครอบครัวนั้น เขาเล่าว่า กำลังมีปัญหากับภรรยา จากที่ก่อนหน้านี้ ครอบครัวของภรรยาเชื่อว่าเขาเป็นคนมีฐานะดี มีรายได้สูง จึงตั้งความหวังกับเขาเอาไว้มาก เมื่อทราบความจริงว่า เขาในตอนนี้อยู่ในสภาพเกือบ ๆ จะล้มละลาย เงินไม่มีให้เหมือนเดิม ก็ปฏิบัติต่อเขาเปลี่ยนไป

    "ตอนนี้ก็แยกกันอยู่ กลับมาอยู่บ้านพ่อ แล้วให้พ่อช่วยเลี้ยงลูกให้ เงินที่ใช้ก็เป็นของคุณลุง แล้วก็พยายามหางานทำอยู่" คุณเอกยอมรับแบบไม่อาย

    หลายคนที่เคยประสบปัญหาทางการเงินเช่นเดียวกับคุณเอก อาจมีทางออกให้กับตัวเอง ทั้งการหักดิบ ตัดบัตรทิ้ง ยกเลิกทุกอย่าง และก้มหน้าก้มตาใช้หนี้จนหนี้หมด จนสามารถเริ่มต้นชีวิตได้ใหม่ แต่สำหรับคุณเอกนั้น แม้ครึ่งชีวิตที่ผ่านมา เขาได้ทำลายมันให้ย่อยยับลงไปจากพฤติกรรมการใช้เงินที่ผิดพลาด ทุกวันนี้ เขาก็ยังไม่แน่ใจกับตัวเองนักว่าจะสามารถเข้าใจ หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินได้หรือไม่

    "อยากฝากถึงคนที่เริ่มต้นใช้บัตรเครดิต ขอให้ใช้อย่างระมัดระวัง อย่าคิดว่าจ่ายขั้นต่ำก็พอ เพราะจะทำให้วินัยทางการเงินเราเสีย และอาจส่งผลถึงครอบครัวได้ในที่สุด" คุณเอกกล่าวทิ้งท้าย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    Life & Family - Manager Online -
     
  4. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    คนใต้ขอยืนยันว่าข้าวยำ หร่อยจังฮู้ แวะมาทางใต้อย่าลืมทานนะครับ[/QUOTE]


    ------------------------------------------


    แน่นอนครับ ถ้าไปทางใต้ ต้องไม่พลาด

    ถ้าพลาด แสดงว่า ไปไม่ถึงภาคใต้ครับ


    .[/QUOTE]
    ข้าวยำอร่อยกว่า ขอยืนยัน!
    ทานครั้งแรกที่บ้านนายกฯนครหาดใหญ่
    ถ้าผมไม่ได้ทำงานที่นี่ สงสัยได้ทำที่หาดใหญ่แน่เลย :)
    ผมว่า..ถ้าเราเข้าถึงจริงๆ คนใต้เป็นคนจริงใจ น่ารักมากๆนะครับ ไม่ใช่ตามที่เคยรับรู้มาจากเพลง คนใต้ใจดำอะไรทำนองนั้น ...

    อ่อ...ผมประทับใจยังไม่หาย เมื่อทุกคนรับรู้ว่าผมรักและเคารพหลวงปู่ทวดนะ
    ข้าราชการท่านหนึ่งมอบพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านปี 05 ให้ผม ส่วนอีกท่านหนึ่งขับรถพาผมไปไหว้หลวงปู่ทวดถึงวัดช้างให้ ปัตตานี ในระหว่างที่เขาถล่มมัสยิสกรือเซะอ่ะครับ เหอๆๆ เขาไม่กลัว เรากลัวอยู่แต่มีศรัทธามากกว่า หุหุ ก็รอดมาจนบัดนี้แลฯ
     
  5. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618



    ------------------------------------------


    แน่นอนครับ ถ้าไปทางใต้ ต้องไม่พลาด

    ถ้าพลาด แสดงว่า ไปไม่ถึงภาคใต้ครับ


    .[/QUOTE]
    ข้าวยำอร่อยกว่า ขอยืนยัน!
    ทานครั้งแรกที่บ้านนายกฯนครหาดใหญ่
    ถ้าผมไม่ได้ทำงานที่นี่ สงสัยได้ทำที่หาดใหญ่แน่เลย :)
    ผมว่า..ถ้าเราเข้าถึงจริงๆ คนใต้เป็นคนจริงใจ น่ารักมากๆนะครับ ไม่ใช่ตามที่เคยรับรู้มาจากเพลง คนใต้ใจดำอะไรทำนองนั้น ...

    อ่อ...ผมประทับใจยังไม่หาย เมื่อทุกคนรับรู้ว่าผมรักและเคารพหลวงปู่ทวดนะ
    ข้าราชการท่านหนึ่งมอบพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านปี 05 ให้ผม ส่วนอีกท่านหนึ่งขับรถพาผมไปไหว้หลวงปู่ทวดถึงวัดช้างให้ ปัตตานี ในระหว่างที่เขาถล่มมัสยิสกรือเซะอ่ะครับ เหอๆๆ เขาไม่กลัว เรากลัวอยู่แต่มีศรัทธามากกว่า หุหุ ก็รอดมาจนบัดนี้แลฯ[/QUOTE]

    ผมอยู่สงขลาก็ไปไหว้วัดพะโค๊ะแทนครับ เมื่อก่อนไปวัดช้างให้บ่อย แต่เดียวนี้ไม่ค่อยได้ไป ขนาดไปงานญาติที่ปัตตานียัง งง เลยครับว่านี้ไม่ใช่ชายแดนแน่รึนี่ มีแต่ด่านกับรถหุ้มเกราะเต็มไปหมดเลยครับ ขนาดผมแวะจอดรถข้างทางทหารผ่านมาเจอบอกว่าอย่าจอดเลยไปจอดปั๊มดีกว่าไม่ปลอดภัย ขนาดกลางวันนะครับ อยากให้ปกติไวๆจริงๆจะได้ไปซื้อบูดูตานีรวมถึงไปไหว้หลวงปู่ทวดและเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวบ่อยๆ
     
  6. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ข้าวยำอร่อยกว่า ขอยืนยัน!
    ทานครั้งแรกที่บ้านนายกฯนครหาดใหญ่
    ถ้าผมไม่ได้ทำงานที่นี่ สงสัยได้ทำที่หาดใหญ่แน่เลย :)
    ผมว่า..ถ้าเราเข้าถึงจริงๆ คนใต้เป็นคนจริงใจ น่ารักมากๆนะครับ ไม่ใช่ตามที่เคยรับรู้มาจากเพลง คนใต้ใจดำอะไรทำนองนั้น ...

    อ่อ...ผมประทับใจยังไม่หาย เมื่อทุกคนรับรู้ว่าผมรักและเคารพหลวงปู่ทวดนะ
    ข้าราชการท่านหนึ่งมอบพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่านปี 05 ให้ผม ส่วนอีกท่านหนึ่งขับรถพาผมไปไหว้หลวงปู่ทวดถึงวัดช้างให้ ปัตตานี ในระหว่างที่เขาถล่มมัสยิสกรือเซะอ่ะครับ เหอๆๆ เขาไม่กลัว เรากลัวอยู่แต่มีศรัทธามากกว่า หุหุ ก็รอดมาจนบัดนี้แลฯ[/QUOTE]

    ผมอยู่สงขลาก็ไปไหว้วัดพะโค๊ะแทนครับ เมื่อก่อนไปวัดช้างให้บ่อย แต่เดียวนี้ไม่ค่อยได้ไป ขนาดไปงานญาติที่ปัตตานียัง งง เลยครับว่านี้ไม่ใช่ชายแดนแน่รึนี่ มีแต่ด่านกับรถหุ้มเกราะเต็มไปหมดเลยครับ ขนาดผมแวะจอดรถข้างทางทหารผ่านมาเจอบอกว่าอย่าจอดเลยไปจอดปั๊มดีกว่าไม่ปลอดภัย ขนาดกลางวันนะครับ อยากให้ปกติไวๆจริงๆจะได้ไปซื้อบูดูตานีรวมถึงไปไหว้หลวงปู่ทวดและเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวบ่อยๆ[/QUOTE]

    ความปรารถนาของคุณปฐม คือความปรารถนาของพวกเราคนไทยส่วนใหญ่ที่รักความสงบทุกคนครับ ก็อยากใหถึงวันนั้นเร็วๆนะครับ
     
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ผมอยู่สงขลาก็ไปไหว้วัดพะโค๊ะแทนครับ เมื่อก่อนไปวัดช้างให้บ่อย แต่เดียวนี้ไม่ค่อยได้ไป ขนาดไปงานญาติที่ปัตตานียัง งง เลยครับว่านี้ไม่ใช่ชายแดนแน่รึนี่ มีแต่ด่านกับรถหุ้มเกราะเต็มไปหมดเลยครับ ขนาดผมแวะจอดรถข้างทางทหารผ่านมาเจอบอกว่าอย่าจอดเลยไปจอดปั๊มดีกว่าไม่ปลอดภัย ขนาดกลางวันนะครับ อยากให้ปกติไวๆจริงๆจะได้ไปซื้อบูดูตานีรวมถึงไปไหว้หลวงปู่ทวดและเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวบ่อยๆ[/QUOTE]

    ความปรารถนาของคุณปฐม คือความปรารถนาของพวกเราคนไทยส่วนใหญ่ที่รักความสงบทุกคนครับ ก็อยากใหถึงวันนั้นเร็วๆนะครับ[/QUOTE]

    หากจะเก็บกวาดกันจริงๆ ไม่ได้ยากเย็นเลยครับ ที่ยากเพราะทำไม่ได้ หรือไม่ได้ทำก็ไม่ทราบ ให้ปราบปรามยากเข้าไว้ งบประมาณจะได้ตั้งเพิ่มกันทุกปี ลองดูมาตรการนี้ไม๊ครับ ภายใน 10 วันรู้เรื่อง

    -เอาทหารปิดล้อมแนวตะเข็บชายแดนภาคใต้ให้หมด ตั้งด่าน
    -ประกาศให้พลเมืองดีอพยพออกจากพื้นที่ไปยังจังหวัดข้างเคียงให้หมดภายใน 3 วัน
    -จากนั้นเอาทหารเดินดาหน้าเรียงหน้ากระดานลุยจากเหนือจรดใต้ จากนั้นเก็บกวาดให้หมดภายใน 7 วัน เพราะถือว่าประกาศแจ้งเตือนไปแล้ว ให้เวลาแล้ว ไม่ออกแสดงว่าเป็นผู้ก่อการร้าย เอาให้เด็ดขาดครับ แบบนี้ไม่หมดให้มันรู้ไป

    ก่อกวนรายวันแบบนี้ พลเมืองเขาเริ่มจะชาชินกับการวางระเบิด การฆ่า เห็นเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว พลเมืองนับวันจะร่อยหรอลง การแบ่งแยกดินแดนก็เป็นของง่ายสำหรับเขาไป เห็นแล้วเศร้าใจครับ ทางใต้ก็จะแบ่งแยกดินแดน ทางอีสานก็จะถูกกินดินแดน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2010
  8. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ความปรารถนาของคุณปฐม คือความปรารถนาของพวกเราคนไทยส่วนใหญ่ที่รักความสงบทุกคนครับ ก็อยากใหถึงวันนั้นเร็วๆนะครับ[/QUOTE]

    หากจะเก็บกวาดกันจริงๆ ไม่ได้ยากเย็นเลยครับ ที่ยากเพราะทำไม่ได้ หรือไม่ได้ทำก็ไม่ทราบ ให้ปราบปรามยากเข้าไว้ งบประมาณจะได้ตั้งเพิ่มกันทุกปี ลองดูมาตรการนี้ไม๊ครับ ภายใน 10 วันรู้เรื่อง

    -เอาทหารปิดล้อมแนวตะเข็บชายแดนภาคใต้ให้หมด ตั้งด่าน
    -ประกาศให้พลเมืองดีอพยพออกจากพื้นที่ไปยังจังหวัดข้างเคียงให้หมดภายใน 3 วัน
    -จากนั้นเอาทหารเดินดาหน้าเรียงหน้ากระดานลุยจากเหนือจรดใต้ จากนั้นเก็บกวาดให้หมดภายใน 7 วัน เพราะถือว่าประกาศแจ้งเตือนไปแล้ว ให้เวลาแล้ว ไม่ออกแสดงว่าเป็นผู้ก่อการร้าย เอาให้เด็ดขาดครับ แบบนี้ไม่หมดให้มันรู้ไป

    ก่อกวนรายวันแบบนี้ พลเมืองเขาเริ่มจะชาชินกับการวางระเบิด การฆ่า เห็นเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว พลเมืองนับวันจะร่อยหรอลง การแบ่งแยกดินแดนก็เป็นของง่ายสำหรับเขาไป เห็นแล้วเศร้าใจครับ ทางใต้ก็จะแบ่งแยกดินแดน ทางอีสานก็จะถูกกินดินแดน[/QUOTE]
    จริงอย่างที่คุณเพชรว่าครับ ญาติผมที่อยู่นราธิวาสพ่อเขาค้าขายมานานพูดภาษายาวีได้มีสวนมากมาย โดนยิงตายต้องอพยพครอบครัวมาอยู่สงขลา ที่สวนพวกนั่นเลยได้ฟรีเลย มีกล้องวรจรปิดด้วยพอเอาไปให้ตำรวจเงียบสนิท เลยต้องย้ายบ้านหนี เดียวนี้พวกนั้นเขาใช้แผนส่งลูกหลานมารุกเรื่อยๆครับ เดียวนี้พวกเขาย้ายมาอยู่สงขลาเพียบเลยครับ บอกว่าส่งมาเรียน ถ้าทหารตำรวจทำอะไรรุนแรงเดียวพวก สิทธิมนุษยชนก็คงออกมาอีกละครับพี่ แต่ถ้าทหารตำรวจชาวบ้านตาดำตายไม่เห็นออกมาเลยเวรกรรมแท้ ทหารตำรวจที่อยู่ที่นั่นน่าเห็นใจมากครับผม
     
  9. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เกือบลืมว่า วันนี้ขึ้นเดือนใหม่แล้ว สำหรับเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
    ได้ถวายพระบรมฯเพิ่มเติมพียงสามวัดเองนะครับ
    สรุปว่าเกินร้อยวัดไปแล้วโดยปริยาย
    โมทนาสาธุครับ!
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    สนใจเมื่อไหร่ก็บอก

    [​IMG]


    ดังนั้น หากเป็นคนจริง แล้วคุณเข้ามาอ่านในกระทู้พระวังหน้าฯ ก็รับคำท้าได้เลย ผมก็เป็นคนจริง เป็นคนที่พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ สั่งสอนมาว่า ให้เป็นคนจริง

    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>




    ----------------------------------

    ผมขอยุติเรื่องนี้ไว้แต่เพียงเท่านี้

    ส่วนเหตุผล ขอให้ไปคุยกันในคณะครับ



    .



    .



    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948



    การใช้บัตรเครดิต ขอให้ระลึกและพึงสังวรไว้ว่า เราได้นำเงินในอนาคตมาใช้

    ดังนั้น การใช้บัตรเครดิต ต้องมีวินัยทางการเงินอย่างดีเยี่ยม รู้อะไรควรจ่าย อะไรไม่ควรจ่ายครับ

    .
     
  12. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    ผมเป็นคนนึงที่มีบัตรเพียง 1-2ใบเท่านั้น และจำใว้เสมอว่า "ก่อนรูดบัตรแล้วต้องจ่ายตังค์ครับ ไม่ได้รูดฟรีๆๆ"
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    บูชาพระขรรค์-พระแสงขรรค์สลีศรีกัณไชย บรรจุคตปรอทหิน-ชมพูนุชและมวลสารพันแปด

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=bottom><TD width="100%">PaLungJit.com > พลังจิต > พระเครื่อง - วัตถุมงคล </TD></TR><TR><TD class=navbar style="FONT-SIZE: 10pt; PADDING-TOP: 1px" colSpan=3>[​IMG] ร้องเรียนและปัญหา

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post3730771 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 01:05 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #282 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->DevilBitch<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3730771", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jan 2005
    สถานที่: เดินทางตามสายธารเวลา เพื่อค้นหา ค่าของตน ที่ได้เกิดเป็นคนภพนี้ อยากมอบสิ่งดีๆให้จากกำลังใจที่ล้นเปี่ยม ก่อนลา
    อายุ: 42
    ข้อความ: 4,914
    Groans: 1
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 8
    ได้รับอนุโมทนา 3,543 ครั้ง ใน 1,254 โพส
    พลังการให้คะแนน: 761 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_3730771 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->น้องจอนนี่(<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->joni_buddhist<!-- google_ad_section_end -->) คงผูกใจเจ็บกับยายผีป่าเป็นอันมาก ไม่รู้เราทำกรรมทำเวรสืบต่อกันมาแต่ปางไหน ทราบว่าน้องจอนนี่เคยอ้างกับกัลยาณมิตรของยายผีป่าว่า "ตนในอดีตชาติ เคยเกิดเป็นรัชกาลที่ 3" ก็แสดงว่า น้องจอนนี่ระลึกชาติได้ ผลบุญบารมีคงสูงมาก เคยเกิดเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินต้องมีพรหมวิหารธรรมสมบูรณ์ ขอโมทนาถ้าเคยเป็นจริง เห็นจริง แต่ยายผีป่าเคยได้นำความนี้ไปถามพระรูปหนึ่งที่ลูกศิษย์ท่านมากมาย ท่านหัวเราะเบา ๆ ....

    .........................................

    ส่วนเรื่องที่ยายผีป่าเคยไปท้วงติงเรื่องพระวังหน้า น้องจอนนี่ก็เคยยอมรับแล้วไม่ใช่หรือว่า "พระวังหน้ามีจริง"

    ยายผีป่าไม่ได้ปกป้องคนเอาพระปลอมมาขาย แต่บอกว่า "พระวังหน้ามีจริง" ส่วนที่เขาเอามาปล่อยให้บูชาไม่ว่าจะเอาปัจจัยไปเพื่ออะไร" ของจริงหรือไม่จริงนั้นอีกเรื่องหนึ่ง

    อันเรื่องราคาวัตถุุมงคลนั้น ถามว่า เอาอะไรมาเป็นตัววัด

    มีเพื่อนคนหนึ่ง ยายผีป่่าให้ของราคาไม่มาก แต่เขาบอกว่า ของนี้มากค่าสำหรับเขา

    การนำเงินไปทำอะไรนั้น น้องจอนนี่จ๋าย้อนกลับไปดูเอานะว่าเอาไปทำอะไรบ้าง อย่างทำพระขรรค์นี่ ค่าทำ ค่าเดินทาง ค่าประสานงาน นำเข้าพิธีต่าง ๆ ขอบอกว่าเข้าเนื้อ


    สินค้าในเวบมีมากมายหลายราคา ใครอยากได้แนวไหน แบบไหน รู้กำลังใจของตนเลือกเอา

    ยายผีป่่ามีเจตนาการทำ การนำมาใช้

    อยากรู้ว่าทำอะไรกันบ้าง น้องจอนนี่ไปพักบ้านยายผีป่่าบ้างไหม ใครอยากรู้อยากเห็นอะไร มาคลุกคลีกันเลย

    "อ่านกระทู้ให้รอบคอบก่อนมาติเตียนผู้อื่น คนที่ฝึกอบรมจิตมาดีนะคะ เขาย่อมรู้อะไรควร อะไรไม่ควร ไม่ใช่ว่าสักแต่รอยำยายผีป่าเพราะว่าไม่ถูกชะตากัน เคยกัดเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ยายผีป่่าเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ นะ แต่เวลาใครมาด่า เคยขอนัดพบตัวต่อตัว ไม่เคยเห็นออกมาเจอกันเลยสักคน เบอร์ก็ทิ้งไว้ให้แล้ว มีอะไรมาเจอกันเลย ผิดถูกควรเปิดอกกันเลย "

    ถ้าไม่อยากย้อนกลับไปอ่านเพราะอคติกับยายผีป่่าอยู่แล้ว จำไว้เลยนะคะว่า

    ยายผีป่าประกาศเตือนคนที่จะมาบูชา มาซื้อ มาขอไว้เสมอว่า


    "มาตรฐานของยายผีป่่าคือ ให้ฟรี กับโครตแพง"


    มีใครเอาปืนไปจ่อให้มาซื้อไหม ไม่เคยเจอหน้ากันเลยก็มี ทำไมพวกเซียนเขาถึงขายพระได้ราคาสุดแพง ทำไมตาสีตาสามีพระดีและแท้แน่นอน กลับขายไม่ได้ราคา หรือโดนกดราคา เพราะว่าอะไร ทุกคนรู้แก่ใจ แต่ถามว่า ถ้ายายผีป่่าตั้งราคา 10 ล้าน หรือ 1000 ล้าน คนที่เขาชอบเขามีกำลังซื้อก็ซื้อสิคะ แต่คนที่ไม่มีกำลัง เขาก็ไม่สั่ง แค่ติดตามเฉย ๆ

    "ทุกคนต้องรู้กำลังใจของตน รู้จุดประสงค์ ไม่ใช่ให้ใครมาจูงจมูก ตื่นศรัทธาจริต"


    ใครที่เข้าอ่านทุก ๆ กระทู้ของยายผีป่า ถ้าอ่านอย่างมีสติ และไม่มีอคติ จะเห็นว่า ทุกอย่างมีการสอนแอบแฝง ขึ้นกับว่า คุณรู้เห็น และนำไปใช้เป็นไหม



    อย่างน้องจอนนี่ ยายผีป่่าขอบอกว่า อีโก้สูงเกินไป อยู่กับปัจจุบันให้มากกว่านี้หน่อยนะคะ


    ปล. วันนี้เข้ามา เพราะมาถ่ายเอกสาร

    ใครอยากเจอยายผีป่าตัวเป็น ๆ พรุ่งนี้ยายผีป่านัดทนายความไว้ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ และนัดพบกัลยาณมิตรอีกสองท่าน ยายผีป่่าตัดผมซอยสั้น ร่างผอมลงเหลือ 48 กิโลกรัมแล้ว ขับรถยนต์ฟอร์ดสีดำ มีประทุน 3638 บบ.


    เข้ามาหาเลยค่ะ

    บอกว่า "ผมเกลียดยายผีป่า ผมไม่ญาติดีด้วย" มีอะไรว่าไป บอกมาให้หมด

    ที่ว่ามานี่ไม่ใช่อะไร เพราะยายผีป่่าขี้เกียดที่จะมาอะโหสิกรรมกันเวลามาในสภาพวิญญาณ


    ก็ขอเล่านะเพราะเพิ่งพบวิญญาณบุคคลท่านที่เคยต่อว่ายายผีป่าไปพบถึง 2 วันพระ ซึ่งยายผีป่าไม่ทราบเลยว่าท่านตายไปแล้ว จนต้องโทรศัพท์ถามเพื่อนว่า

    "เขาด่าฉันเหรอ บอกเขานะ ฉันเหนื่อยหน่ายแล้ว อย่ามาสนใจคนอย่างฉันเลย เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ที่จะมาสนใจคนอย่างฉัน"



    มีกัลยาณมิตรที่เพิ่งติดตามอ่าน แต่ก็โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ และเตือนว่า

    "รู้สึกว่ากำลังใจพี่เอื้อมเดือนตกไปหน่อยไหม"


    ก็ตอบไปว่า

    ไม่โกรธใครนะ แต่มีโมโหตัวเองบ้าง


    ที่โมโหตัวเองเพราะลืมคำสอนหลวงพ่อที่ท่านสอนว่า

    "อย่าทำตัวเป็นขี้ข้าคน"



    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอโทษคนที่มาด่า มามีอคติกับดิฉัน คุณคือผู้ที่คิดว่าตนคือผู้ค้นหาความจริง ผู้พิทักษ์โลก ขอบคุณจริง ๆ<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ------------------------------------------------------------------------
     
  14. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    สวัสดีครับท่านกูรู
    วันนี้ภาวะตลาดค่อนข้างขายเยอะนะครับ ผมว่าถ้าจะผ่านไปได้ ต้องฝาหรั่งเท่านั้นครับ
    ขอความเห็นหน่อยครับ
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( เจริญ ญาณวรเถระ ) วัดเทพศิรินทราวาส

    [​IMG]


    ไหว้ 5 ครั้ง
    ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( เจริญ ญาณวรเถระ )
    วัดเทพศิรินทราวาส
    คัดลอกจาก http://www.konmeungbua.com/saha/Lung...pu_armpan.html

    ในวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ไม่ว่าเวลาไร ตามแต่เหมาะต้องไหว้ให้ได้ 5 ครั้งเป็นอย่างน้อย ในคราวเดียวนั้น ถ้ามีดอกไม้ธูปเทียนก็บูชา ถ้าไม่มีก็มือ 10 นิ้วและปากกับใจ ควรไหว้จนตลอดชีวิต คือ


    ครั้งที่ 1 พึงนั่งกระโหย่งเท้าประณมมือว่า

    นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ฯ 3 หน

    แล้วว่าพระพุทธคุณ คือ
    อิติปิโส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควาติ ฯ

    หยุดระลึกถึงพระปัญญาคุณทรงรู้ดีรู้ชอบสิ้นเชิง พระบริสุทธิคุณทรงละความเศร้าหมองได้หมด พระกรุณาคุณทรงสงสารผู้อื่นและสั่งสอนให้ปฏิบัติตามของพระพุทธเจ้า จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ


    ครั้งที่ 2 ว่าพระธรรมคุณ คือ

    สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโน สนฺทิฆฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปนยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญญูหีติ ฯ

    หยุดระลึกถึงคุณพระธรรมที่รักษาผู้ปฏิบัติตามไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ


    ครั้งที่ 3 ว่าพระสังฆคุณ คือ
    สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ อุชุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ญายปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ สามีจิปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฐปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนยฺโยทกฺขิเนยฺโย อญฺชลิกรณีโย อนุตฺตรํ ปุญฺญกฺเขตฺตํ โลกสฺสาติฯ

    หยุดระลึกถึงคุณ คือ ความปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติถูก ปฏิบัติชอบ ของพระอริยสงฆ์ จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ

    นั่งพับเพียบประณมมือตั้งใจถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะไม่ถือสิ่งอื่นยิ่งกว่าจนตลอดชีวิต ว่าสรณคมน์ คือ
    พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
    ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
    สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
    ทุติยมฺปิ พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ
    ทุติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
    ทุติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
    ตติยมฺปิ พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ
    ตติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
    ตติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ

    ครั้งที่ 4 ระลึกถึงคุณมารดาบิดาของตน จนเห็นชัดแล้ว กราบลงหน 1 ฯ

    ข้า ฯ ขอ กราบไหว้คุณท่านบิดาและมารดา
    เลี้ยงลูกเฝ้ารักษา แต่คลอดมาจึงเป็นคน
    แสนยากลำบากกายไป่คิดยากลำบากตน
    ในใจให้กังวลอยู่ด้วยลูกทุกเวลา
    ยามกินพอลูกร้องก็ต้องวางวิ่งมาหา
    ยามนอนห่อนเต็มตาพอลูกร้องก็ต้องดู
    กลัวเรือดยุงไรมดจะกวนกัดรีบอุ้มชู
    อดกินอดนอนสู้ ทนลำบากหนักไม่เบา
    คุณพ่อแม่มากนักเปรียบน้ำหนักยิ่งภูเขา
    แผ่นดินทั้งหมดเอามาเปรียบคุณไม่เท่าทัน
    เหลือที่ จะแทนคุณ ของท่านนั้น ใหญ่อนันต์
    เว้นไว้ แต่เรียนธรรม์ เอามาสอนพอผ่อนคุณ
    สอนธรรมที่จริงให้ รู้ไม่เที่ยงไว้เป็นทุน
    แล้วจึงแสดงคุณ ให้เห็นจริงตามธรรมดา
    นั่นแหละจึงนับได้ ว่าสนองซึ่งคุณา
    ใช้ค่าข้าวป้อนมาและน้ำนมที่กลืนกิน ฯ

    ครั้งที่ 5 ระลึกถึงคุณของบรรดาท่านผุ้มีอุปการคุณแก่ตน เช่น พระมหากษัตริย์และครูบาอาจารย์ เป็นต้นไป จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ

    ข้า ฯ ขอนอบน้อมคุณแด่ท่านครู ผู้อารี
    กรุณาและปรานีอุตส่าห์สอนทุก ๆ วัน
    ยังไม่รู้ ก็ได้รู้ ส่วนของครูสอนทั้งนั้น
    เนื้อความทุกสิ่งสรรพ์ดีชั่วชี้ ให้ชัดเจน
    จิตมากด้วยเอ็นดูอยากให้รู้เหมือนแกล้งเกณฑ์
    รักไม่ลำเอียงเอนหวังให้แหลมฉลาดคม
    เดิมมืดไม่รู้แน่เหมือนเข้าถ้ำเที่ยวคลำงม
    สงสัยและเซอะซมกลับสว่างแลเห็นจริง
    คุณส่วนนี้ควรไหว้ ยกขึ้นไว้ ในที่ยิ่ง
    เพราะเราพึ่งท่านจริงจึงได้รู้ วิชาชาญ ฯ

    (บทประพันธ์สรรเสริญคุณมารดาบิดา และ ครูบาอาจารย์ของ ท่านอาจารย์ จางวางอยู่ เหล่าวัตร วัดเทพศิรินทราวาส ลิขสิทธิ์เป็นของ ท่านเจ้าคุณพระโศภนศีลคุณ (หลวงปู่หลุย พาหิยาเถร) วัดเทพศิรินทราวาส)

    ต่อไปนี้ไม่ต้องประณมมือ ตั้งใจพิจารณาเรื่อง และร่างกายของตนว่า จะต้องแก่ หนีความแก่ไปไม่พ้น จะต้องเจ็บ หนีความเจ็บไปไม่พ้น จะต้องตาย หนีความตายไปไม่พ้น จะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น มีกรรมเป็นของตัว คือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นอนิจจังไม่เที่ยง ไม่แน่นอน เป็นทุกข์ลำบากเดือดร้อน เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของตน ฯ ครั้งพิจารณาแล้ว พึงแผ่กุศลทั้งปวงมีการกราบไหว้เป็นต้นนี้ อุทิศให้แก่ท่านผู้มีคุณมีมารดาบิดา เป็นต้น ตลอดจนชั้นสูงสุด คือพระมหากษัตริย์ ทั้งเทพยดามนุษย์และสัตว์ทั้งหลายว่า จงเป็นสุข ๆ อย่ามีเวรมีภัยเบียดเบียนกันและกัน รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด ฯ


    การไหว้ 5 ครั้งนี้ ถ้าวันไหนขาด ให้ไหว้ใช้ 5 ครั้งในวันรุ่งขึ้น ถ้านั่งกระโหย่งเท้าไม่ได้ ก็นั่งพับเพียบ ถ้าไม่ได้ ก็นอนไหว้ เมื่อยกมือไม่ขึ้น ก็ปากกับใจ ถ้าทำได้อย่างนี้เป็นเครื่องพยุงตนให้เป็นคนดี ไม่ให้เป็นคนชั่ว และให้ตั้งอยู่ในที่ดี ไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว ถ้าผู้ใดประพฤติได้เสมอตลอดชีวิต ผู้นั้นจะอุ่นใจในตัวของตัวเอง มีความเจริญงอกงามไพบูลย์ยิ่ง ๆ ขึ้นเสมอทุกคืนทุกวัน คุ้มครองป้องกันภยันตรายปราศจากความเสียหายที่ไม่เหลือวิสัย และ ตั้งตัวได้ในทางคดีโลกและทางคดีธรรม เต็มภูมิเต็มขั้นของตน ๆ ทุกประการ จบเท่านี้ ฯ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ( เจริญญาณวรเถระ )

    http://72.14.235.104/search?q=cache:...h&ct=clnk&cd=7

    [​IMG]

    สมเด็จพระพุทธโฆษจารย์ นามเดิม เจริญ สุขบท เกิดในรัชกาลที่ 5 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2415 ที่จังหวัดชลบุรี เป็นบุตรนาย ทองสุก และนางย่าง

    เมื่ออายุ 8 ปี ได้เป็นศิษย์ของท่านเจ้าคุณชลโธปมคุณมุณี (พุฒ ปุณณกเร) ปฐมวัยอาวาสวัดเขาบางทราย เมื่ออายุ 12 ปีได้บรรพชาที่วัดเขาบางทราย

    และเข้าศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดราชบพิธอุปสมบทเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2435 ที่วัดเขาบางทราย จังหวัดชลบุรี พ.ศ.2439 ได้ศึกษาพระวินัยปิฎกในสำนัก สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส ที่วัดเทพศิรินทราวาส

    "ตาบุญ (พระยาธรรมปรีชา) ผู้เป็นอาจารย์สอนบาลีของ
    เจ้าพระคุณสมเด็จฯ มอบช้างเผือกส่งเข้ามาให้ "

    สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยา วชิรญาณวโรรส ออกพระโอษฐ์รับสั่งเมื่อครั้งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเร) สอบไล่ภาษาบาลี ในมหามงกุฎราชวิทยาลัยได้ที่ 1ทุกชั้นเป็นลำดับมา

    พ.ศ.2441 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระราชาคณะที่พระอัมราภิลักขิต เป็นผู้อำนวยการศึกษามณฑลปราจีนบุรี ต่อมาได้ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสได้เลื่อนสมณศักดิ์เรื่อยมา พ.ศ.2471 โปรดให้สถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์

    พ.ศ.2476กรรมการเถรสมาคมมีมติให้ท่าน เป็นประธานกรรมการมหาเถรสมาคมบัญชาการคณะสงฆ์แทนพระสังฆราชเจ้าซึ่งสิ้นพระชนม์ ประมวลเกียรติคุณพิเศษสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเร)เป็นพระเถระบริหารงานพระศาสนาถึง 5 แผ่นดิน คือแต่รัชกาลที่ 5-9 เป็นพระราชาคณะแต่อายุ 28 ปี เป็นสมเด็จพระราชาคณะแต่อายุ 57 ปี นับเป็นพระเถระที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พรรษาน้อยกว่า พระเถระหลายรูปเป็นเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส แต่อายุ 28 ปี ถึง 80 ปีรวม 53 ปี นับว่ายาวนานที่สุดไม่มีใครเทียบได้
    เมื่อสอบนักธรรม หรือบาลีจะสอบได้ที่ 1 ทุกชั้นทุกประโยคเป็นรูปเดียวในสังฆมณฑล ดำรงตำแหน่งแม่กองธรรมสนามหลวง แม่กองบาลีสนามหลวง องค์เดียวกัน

    ในวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ.2494เวลา 10.30 น. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ญาณวรเระ)มรณภาพด้วยโรคเนื้องอกที่ตับรวมอายุได้ 80 ปี พรรษาที่ 59

    ความคิดเห็นส่วนตัวผม
    ท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถระ) ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต (ตรึก จินตยานนท์) ท่านบอกกับผู้ที่ไปกราบท่านว่า ขอให้ทุกๆวันได้ไหว้ 5 ครั้ง จะได้เป็นศิริมงคลกับตนเอง จะเหมือนกับชื่อของท่าน (เจริญ) ครับ ท่านเจ้าคุณนรเอง ก็มีความเคารพในท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ)มาก โดยท่านเจ้าคุณนรเอง เวลาเดินผ่านกุฎิของท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(เจริญ)ทุกครั้ง ท่านเจ้าคุณนร ก็จะก้มลงกราบที่กุฎิอยู่ทุกครั้งครับ
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันที่ 14 สิงหาคม 2550
    ขอเพิ่มเติมเรื่องราว ไหว้ 5 ครั้ง
    http://www.saktalingchan.com/index.p...icle&Id=262016

    [​IMG]


    เจ้าพระคุณสมเด็จ พระพุทธโฆษาจารย์ ญาณวรเถร​

    เจ้าพระคุณสมเด็จ พระพุทธโฆษาจารย์ ญาณวรเถร
    วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร

    1. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ได้เป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวงนี้ เมื่อพระคุณท่านมีอายุเพียง 27 ปี มีพรรษา 7 ยั่งยืนตลอดมาเป็นเวลาช้านานถึง 53 ปีฯ

    2. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯได้รับพระราชทานสมณศักดิ์สถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะ นั้นมีอายุเพียง 56 ปี เท่านั้น ฯ

    3. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ เป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งธรรมเนียมการเทศนาธรรมในวันอาทิตย์ขึ้นเป็นแห่งแรก เริ่มเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2471 ติดต่อกันมาถึงปัจจุบันนี้ นับเป็นเวลา 45 ปี ล่วงแล้ว ฯ

    4. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมหาเถรสมาคมบัญชาการคณะสงฆ์แทนพระองค์สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ แลบัญชาการคณะสงฆ์โดยตรงสืบต่อมาเป็นเวลา 5 ปี ( ตั้งแต่ พ.ศ. 2476 ถึง พ.ศ. 2481 ) ฯ

    5. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ได้ถวายพระธรรมเทศนามงคลวิเสสกถาติดต่อกันถึง 4 รัชกาล คือตั้งแต่รัชกาลที่ 6-7-8-9 เป็นเวลาถึง 25 ปี ฯ

    6. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ มีสัทธิวิหาริก-อันเตวาสิก มากที่สุดถึง 6,666 องค์ ฯ

    7. เจ้าประคุณสมเด็จ ฯ เป็นต้นกำเนิดตำราไหว้ 5 ครั้งให้ศิษยานุศิษย์ปฏิบัติตาม หากผู้ใดไหว้ครบ 1 ปี เป็นกำหนด ผู้นั้นจักได้รับรูปที่ระลึกจากองค์ท่านด้านหน้าเป็นรูปองค์ท่าน ด้านหลังเป็นรูปยันต์ภควัม จากกรึกนามองค์ท่านเป็นอักษรย่อ โดยลำดับแห่งราชทินนามนั้น ๆ กระทั่งครั้งสุดท้ายได้จารึก 3 อักษรว่า พ.ฆ.อ. ซึ่งย่อจากราชทินนามว่า พุทธโฆษาจารย์ สมเด็จพระราชาคณะ ฯ

    8. สัทธิวิหาริกของเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ที่มีอายุยืนยาวที่สุด คือ ท่านเจ้าคุณพระโศภณศีลคุณ ( หลวงปู่หลุย พาหิยเถร ) ซึ่งเป็นสัทธิวิหาริกองค์ที่ 23 ปัจจุบันอายุ 92 ปี พรรษา 67 ( เกิด 9 สิงหาคม 2426 ) ยังเดินลงโบสถ์ลงสวดมนต์ทำวัตรได้เป็นประจำทุก ๆ วัน เป็นพระเถราจารย์องค์สำคัญ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือยิ่งของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ ฯ

    9. สัทธิวิหาริกของเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ที่ประพฤติปฏิบัติยอดเยี่ยม และเป็นพระเถระองค์สำคัญที่มีเกียรติคุณโด่งดังในปัจจุบัน คือ ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ ฯ ธมมฺวิตกฺโก ซึ่งเป็นสัทธิวิหาริกองค์ที่ 1740 ฯ

    ไหว้ 5 ครั้ง ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดเทพศิรินทราวาส

    ในวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ไม่ว่าเวลาใด ตามแต่เหมาะ ต้องไหว้ให้ได้ 5 ครั้งเป็นอย่างน้อย ในคราวเดียวกัน ถ้ามีดอกไม้ ธูปเทียน ก็บูชา ถ้าไม่มีก็มือ 10 นิ้วและปากกับใจ ควรไหว้จนตลอดชีวิต คือ

    ครั้งที่ 1 พึงนั่งกระโหย่งเท้าประนมมือว่า นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสฺมพุทฺธสฺส ฯ 3 หน แล้วว่าพระพุทธคุณ คือ อิติปิ โส ภควา อรหสมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสาน&deg; พุทฺโธ ภควาติ ฯ หยุดระลึกถึงพระปัญญาคุณทรงรู้ดีรู้ชอบสิ้นเชิง พระบริสุทธิคุณทรงละความเศร้าหมองได้หมด พระกรุณาคุณทรงสงสารผู้อื่นและสั่งสอนให้ปฏิบัติตาม ของพระพุทธเจ้า จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ

    ครั้งที่ 2 ว่าพระธรรมคุณ คือ สฺวากฺขาโต ภควตา ธฺมโม สนฺทิฏฐิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปนยิโก ปจฺ จตฺต เวทิตพฺโพ วิญฺญหีติ ฯ หยุดระลึกถึงคุณพระธรรมที่รักษาผู้ปฏิบัติตามไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ

    ครั้งที่ 3ว่าสังฆคุณ คือ สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ อุชุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสฺงโฆ ญายปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสฺงโฆ สามีจิปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสฺงโฆ ยทิทฺ จฺตตาริ ปุริสยุคานิ อฏฐ ปุริสปุคฺคลา เอส ภควโต สาวกสฺงโฆ อาหุเนยฺโย ปาหุเนฺยโย ทกฺขิเณยฺโย อญฺชลิกรณีโย อนุตฺตรฺ ปุญฺญกฺเขตตฺ โลกสฺสาติ ฯ หยุดระลึกถึงคุณ คือ ความปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติถูก ปฏิบัติชอบของพระอริยสงฆ์ จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ

    นั่งพับเพียบประนมมือ ตั้งใจถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ไม่ถือสิ่งอื่นยิ่งกว่าจนตลอดชีวิต ว่าสรณคมน์ คือ

    พุทฺธสรณคจฺฉามิ
    ธมฺมสรณคจฺฉามิ
    สงฺฆสรณคจฺฉามิ ฯ
    ทุติยมฺปิ พุทฺธสรณคจฺฉามิ
    ทุติยมฺปิ ธมฺมสรณคจฺฉามิ
    ทุติยมฺปิ สงฺฆสรณคจฺฉามิ ฯ
    ตติยมฺปิ พุทฺธสรณคจฺฉามิ
    ตติยมฺปิ ธมฺมสรณคจฺฉามิ
    ตติยมฺปิ สงฺฆสรณคจฺฉามิ ฯ

    ครั้งที่ 4 ระลึกถึงคุณมารดาบิดาของตน จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ

    ครั้งที่ 5 ระลึกถึงคุณของบรรดาท่านผู้มีอุปการคุณแก่ตน เช่น พระมหากษัตริย์ และครูบาอาจารย์เป็นต้นไป จนเห็นชัดแล้วกราบลงหน 1 ฯ

    ต่อนี้ไปไม่ต้องประนมมือ ตั้งใจพิจารณาเรื่องและร่างกายของตนว่า จะต้องแก่ หนีความแก่ไปไม่พ้น จะต้องเจ็บ หนีความเจ็บไปไม่พ้น จะต้องตาย หนีความตายไปไม่พ้น จะต้องพลัดพราก จากของรัก ของชอบใจทั้งสิ้น มีกรรมเป็นของตัว คือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นอนิจจัง ไม่เที่ยงไม่แน่นอน เป็นทุกข์ลำบากเดือดร้อน เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของตน ฯ ครั้นพิจารณาแล้ว พึงแผ่กุศลทั้งปวงมีการกราบไหว้เป็นต้นนี้ อุทิศให้แก่ท่านผู้มีคุณ มีบิดามารดาเป็นต้น ตลอดจนชั้นสูงสุด คือ พระมหากษัตริย์ ทั้งเทพดามนุษย์และสัตว์ทั้งหลายว่า จงเป็นสุข ๆ อย่ามีเวรมีภัยเบียดเบียนกันและกัน รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด ฯ

    การไหว้ 5 ครั้งนี้ ถ้าวันไหนขาด ให้ไหว้ใช้หนี้ 5 ครั้งในวันรุ่งขึ้น ถ้านั่งกระโหย่งเท้าไม่ได้ ก็นั่งพับเพียบ ถ้าไม่ได้ ก็นอนไหว้ เมื่อยอมือไม่ขึ้นก็ปากกับใจ ถ้าทำได้อย่างนี้ เป็นเครื่องหยุดตนให้เป็นคนดีไม่ให้เป็นคนชั่ว และให้ตั้งอยู่ในที่ดีไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว ถ้าผู้ใดประพฤติได้เสมอจนตลอดชีวิต ผู้นั้นจะอุ่นใจในตัวของตัวเอง มีความเจริญงอกงามไพบูลย์ยิ่งๆ ขึ้นเสมอทุกคืนทุกวัน คุ้มครองป้องกันภยันตรายปราศจากความเสียหายที่ไม่เหลือวิสัย และตั้งตัวได้ในทางคดีโลกและทางคดีธรรม เต็มภูมิเต็มชั้นของตน ฯ ทุกประการ จบเท่านี้ ฯ
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ปัจฉิมโอวาท
    ของ
    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ญาณวรมหาเถระ
    วัดเทพศิรินทราวาส

    ไม่ตายควาวนี้ ก็ตายคราวหน้า อย่างเศร้าโศก เสียทีที่ศึกษาปฏิบัติมา ร้องให้เศร้าโศก ก็ร้องไห้เสร้าโศกสังขารที่
    เกิดแก่เจ็บตายนั้นเอง ที่ไม่ร้องไห้เศร้าโศกนั้นมิใช่จะเป็นคนใจไม้ใส้ระกำอะไร

    ธรรมของพระก็คือ
    สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา
    สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา
    สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา
    ย่นลงก็ สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา
    สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา แล้วปรินิพพาน
    ไม่ต้องเกิดมาแก่ มาเจ็บ มาตายอีก

    (มีบัญชาให้บันทึกไว้เมื่อเช้าวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๙๔)
     
  19. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    หวยออกเลขท้ายสองตัวนี้จริงหรอพี่ ...

    [​IMG]
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ผมเคยบอกในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ บ่อยๆว่า พระสมเด็จ ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านอธิษฐานจิตนั้น มีมากมาย ไม่ต้องไปหาเช่าองค์เป็นล้าน

    ที่ผมนำไปให้ร่วมทำบุญในงานผ้าป่า พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า องค์ละ 500 บา่่ท ดีกว่าพระสมเด็จวัดระฆัง หลายร้อยเท่านักครับ

    เพราะพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า ที่ผมนำไปให้ร่วมทำบุญ เป็นรุ่นที่นำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง ในพิธีอุปราชาภิเษก พ.ศ.2411

    ไม่ดีกว่าหรือครับ


    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 20 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 18 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, psombat+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    หุหุหุ


    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...