เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

พระปรอทหลวงปู่ละมัยของแท้ยังมีให้เช่า ที่วัดนะคร้บ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Ong, 5 กุมภาพันธ์ 2010.

สถานะของกระทู้:: กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

หน้า 200 ของ 417

ญานธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

28 เมษายน 2010

โพสต์:

2,936

ค่าพลัง:

+14,705
ไปอ่านเจอมาครับ เขียนแก้เหงาครับ (อ้างอิง
<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 12"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 12"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><link rel="themeData" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_themedata.thmx"><link rel="colorSchemeMapping" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_colorschememapping.xml"><style>  </style><script type="text/javascript"> var message = "เอะอะ! คลิ้กขวาไม่ได้น่ะค่ะ อยากได้อะไรติดต่อเทพจำแลงค่ะ"; if (document.layers) { document.captureEvents(Event.MOUSEDOWN); document.onmousedown=clickNS4; } else if (document.all&&!document.getElementById) { document.onmousedown=clickIE4; } document.oncontextmenu=new Function("alert(message); return false"); </script><script type="text/javascript" src="%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%971_files/AC_RunActiveContent.js"></script><script type="text/javascript" src="%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%971_files/function.js"></script><script src="%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%971_files/jsapi" type="text/javascript"></script><script type="text/javascript"> google.load("jquery", "1.3.2"); google.load("swfobject", "2.1"); var language = 't'; </script><script src="%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%971_files/jquery.js" type="text/javascript"></script><script src="%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%971_files/swfobject.js" type="text/javascript"></script><script src="%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%971_files/DD_roundies.js" type="text/javascript"></script><script type="text/javascript"> DD_roundies.addRule('.corner-top', '5px 5px 0 0', true); DD_roundies.addRule('.corner-bottom', '0 0 5px 5px', true); DD_roundies.addRule('.corner-tidy', '5px', true); </script><script src="%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%971_files/thickbox-compressed.js" type="text/javascript"></script> [FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]เล่นแร่แปรธาตุ ปรอทวิเศษ (สำเร็จ) [/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]การแปรธาตุหนึ่งไปสู่อีกธาตุหนึ่ง ที่มีคุณลักษณะทางกายภาพและเคมีให้ต่างไปจากเดิมนั้น [/FONT][FONT=&quot]ชาว สยามในสุวรรณภูมิมีวิทยาการในเรื่องนี้มาช้านานจากตำนานพบว่าได้รับการถ่าย ทอดมาจากชาวชมพูทวีปที่ได้รับความรู้นี้มาจากไอยคุปต์โบราณอีกทอดหนึ่ง[/FONT][FONT=&quot] เรื่องการเล่นแร่แปรธาตุนี้เป็นเรื่องจริงที่มิใช่เพียงตำนานที่เล่าขานนอก จากการแปรธาตุให้เป็นสิ่งที่มีค่ามากขึ้นยังพบว่ามีการใช้ในการสรรสร้าง วัตถุที่ประจุพลังจิตอีก เรื่องราวเหล่านี้พบในเอกสารโบราณหลายฉบับทั้งยังมีกล่าวในพระไตรปิฏกตอนที่ กล่าวถึงโลกจินไตยว่าอันคติเรื่องโลกนั้นแบ่งได้สองสาขาคือ[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]๑. มนิกาวิชชาคือความรู้เรื่องจิตศาสตร์อันได้แก่ ความรู้ทางจิต การบำเพ็ญจิตในลักษณะต่างๆทั้งก่อนพุทธกาลและในขณะนั้นเช่นการสะกดจิต การฝึกปราณยามะ การเพ่งกสิณ[/FONT][FONT=&quot]
[FONT=&quot] ๒. ตัชชารีวิชชา อันนี้คือความรู้เรื่องเครื่องลางของขลัง ๔ ประการคือ[/FONT][/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]๒.๑ มูลตัชชารี ความรู้เรื่องต้นไม้ว่านยาที่มีอานุภาพต่างๆ[/FONT][FONT=&quot]
[FONT=&quot]๒.๒ มันตาตัชชารีวิชชา ได้แก่ความรู้เรื่องเวทมนต์ต่างๆที่หลายท่านคุ้นเคยกันดี[/FONT]
[FONT=&quot]๒.๓ อังกตัชชารีวิชชา ได้แก่ความรู้เรื่องการทำเครื่องลางของขลังพวกพระเครื่อง ผ้ายันต์ ตะกรุดพิสมรต่างๆ[/FONT]
[FONT=&quot]๒.๔ ธาตุตัชชารีวิชชา คือความรู้เรื่องแร่ธาตุต่าง ที่มีอิทธิฤทธิ์รวมทั้งวิชาเคมียุคดึกดำบรรพ์ เรียกว่ารสายนเวทที่เป็นความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุต่างๆ เช่นการแปรธาตุตะกั่วเป็นทองคำ (สีสัน-ลักษณะโครงสร้างภายนอก) การแปรธาตุปรอทเป็นของแข็งที่เรียกกันว่าปรอทสำเร็จธาตุกายสิทธิ์วิชาเรื่อง [/FONT][/FONT][FONT=&quot]การแปรธาตุนี้เกือบเหลือเป็นเพียงแค่ตำนานเพราะมีผู้รู้สืบทอดน้อยลงวิชาประการต่างๆก็พลอยสาบสูญไปกับผู้ที่รู้วิชาเหล่านั้น[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot] [FONT=&quot]การ แปรธาตุนั้นถือเป็นการร่ำเรียนพระเวทขั้นสูงเพราะต้องใช้ทั้งความรู้และสติ ปัญญาในการไขปริศนาแห่งวิชาให้เข้าใจทั้งต้องมีพลังจิตในระดับอัปมัญญาสมาธิ[/FONT][FONT=&quot] (ฌานสมาบัติ) จึงจะสามารถทำสำเร็จ เท่าที่พบในประวัติศาสตร์ของชาวสยามนั้นมีวิชาการที่กล่าวถึงเรื่องนี้อยู่ มากทั้งปรากฏหลักฐานในพระเครื่องรางของขลังที่ผู้มีความรู้พระเวทสายนี้สรร สร้างบรรจุไว้ตามกรุเจดีย์ต่างๆ แสดงถึงความรุ่งเรืองของรสายนเวทในสมัยนั้น หากท่านเป็นนักนิยมพระเครื่อง คงรู้จักเครื่องลางเช่นลูกปรอทกรอก็เป็นประดิษฐกรรมอย่างหนึ่งและพระเครื่อง ที่ทรงฤทธานุภาพสูงที่บรรจุในกรุโบราณมาแต่สมัยศรีอโยธยารามเทพนคร ที่สรรสร้างด้วยพระเวทสายเล่นแร่แปรธาตุก็คือ พระกรุวัดท้ายย่าน จังหวัดชัยนาท ที่ปรากฏมีผู้เรืองวิทยาคมสูงส่งสืบทอดอย่างไม่ขาดสายจนปัจจุบัน ความเข้มขลังของพระกรุนี้นักนิยมพระรุ่นเก่าถึงขนาดดูแท้ปลอมด้วยการอาราธนา กำพระเครื่องนี้ แล้วนำเข็มฉีดยาแทงหากว่าเข็มทะลุผ่านชั้นเนื้อไปได้ก็ถือว่าพระเครื่องท้าย ย่านองค์นั้นปลอม นี่คือกฤติยาคมที่ผ่านพ้นอดีตจนมาพิสูจน์ความจริงแท้ในโลกปัจจุบัน[/FONT][/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot] นอกจากพระกรุวัดท้ายย่านจะมีอิทธิคุณเข้มขลังแล้วท่านทราบไหมว่าพระเครื่อง ชุดนี้สร้างจากวิชาเล่นแร่แปรธาตุที่ปรากฏในตำนานสยามคือวิชาปรอทสำเร็จธาตุ กายสิทธิ์นั่นเองเมื่อผ่านกาลเวลานานนับร้อยปีประกอบกับความร้อนเย็นในกรุ พระปรอทนั้นก็กินตัวกรอบไม่คงทนทำให้พระชุดนี้ตกแตก บรรดานักนิยมพระเครื่องที่ไม่เดียงสาก็คิดว่าพระท้ายย่านนั้นมีส่วนผสมสร้าง จากแร่พลวง(วุลแฟรม)ชนิดหนึ่งเท่านั้นและท่านทราบอีกหรือไม่ว่าพระชุดนี้มิ ได้ใช้การหลอมเทด้วยความร้อน !!!! แต่เป็นการปั้นอัดพิมพ์โลหะกายสิทธิ์นั้นด้วยวิชาพระเวทขั้นสูงที่น่าตื่นตะ หนกที่หลอมโลหะด้วยพระเวทแล้วชุบให้แข็งตัวหลายท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ อาจบอกว่าเหลือเชื่อไม่น่าเป็นไปได้แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง[/FONT][FONT=&quot]

[/FONT][FONT=&quot]ก่อน ที่จะมาถึงการหลอมปรอทโดยไม่ใช้ไฟที่มีนักวิทยาคมหลายท่านสงสัยว่าจริงหรือ[/FONT][FONT=&quot] ? บางท่านถึงกับกล่าวปรามาสไปก็มีว่าเป็นเรื่องเล่นกลหลอกลวงหรือบางรายกล่าว แบบขอไปทีว่าถึงทำได้แล้วไงจะขลังจริงหรือ อันนี้เป็นเรื่องต่างความคิดต่างความเชื่อกันคงไปบังคับกะเกณฑ์กันไม่ได้แต่ ที่นำมาเล่าให้ฟังนี่ก็เพื่อสืบตำนานเรื่องราวที่เป็นความเชื่อทางวัฒนธรรม ประการหนึ่งของไทยเราจะขอปูพื้นความรู้เรื่องปรอทวิเศษหรือปรอทสำเร็จที่ เป็นของวิเศษในความเชื่อของผู้ศึกษาวิทยาคมว่าใครหากทำได้เเล้วก็นับว่า บรรลุจุดสูงสุดในวิชาวิทยาคมประการหนึ่งเเบบเดียวกับที่เราศึกษาวิชาความรู้ ภาคสามัญแล้วได้ปริญญาอย่างไรอย่างนั้นจึงขอคัดตำราการหุงปรอทสำเร็จแบบ หนึ่งซึ่งจริงในเมืองไทยมีตำราแบบที่ว่าด้วยการหุงปรอทนี่เท่าที่พบไม่น้อย กว่ายี่สิบตำราครับการหุงปรอทตำรับนี้ที่ได้จากตำราเก่าอายุหลายร้อยปีเล่ม หนึ่งกล่าวถึงการหุงปรอทและสรรพคุณไว้จึงขอคัดมาเป็นพื้นความรู้เพื่อกล่าว ถึงเนื้อความต่อๆไปดังนี้ครับ[/FONT][FONT=&quot]
[FONT=&quot]ปรอทเป็นของเหลวและไหลกลอกกลิ้งได้เช่นเดียวกับน้ำ หลักวิทยาศาสตร์ปรอทนั้นจะมีอาการหดตัวเมื่อถูกความเย็นและพองตัวเมื่อถูก ความร้อน ตามวิชาการแพทย์ก็ต้องใช้ปรอทเป็นเครื่องวัดระดับความร้อนของคนไข้ หลักอุตุนิยมวิทยาก็ใช้ปรอทเป็นเครื่องวัดอุณหภูมิเป็นต้น[/FONT]
[FONT=&quot]เพราะความคุมตัวกันไม่ติดของปรอท และเป็นธาตุชนิดหนึ่งที่มีอาการประหลาดนี้เอง ในโบราณกาลจึงถือว่าปรอทนั้นหากผู้ใดมีวิชาสามารถทำคุมตัวกันได้ และประกอบพิธีโดยหลักไสยศาสตร์อันถูกต้องครบถ้วนแล้วฤทธิอันเกิดจากวิทยาคม ซึ่งรวมอยู่ในปรอทนั้นอาจจะสามารถนำผู้ที่เป็นเจ้าของให้เกิดอิทธิฤทธิและ กระทำปาฏิหาริย์ต่างๆได้ ดังอุปเท่ห์โบราณดังนี้[/FONT][/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot] [FONT=&quot]๑. ผู้ใดอมปรอทไว้ ผู้นั้นจะมีรูปร่างดังพระมหาจักรพรรดิ (หมายถึง ความมีเดช ฤทธิ์ และความงามเป็นที่เสน่หากระมังอันนี้รวมถึงอานุภาพที่คล้ายกับเหล็กไหลใน ตำนานที่เด่นเรื่องคุ้มครองป้องกันด้วย)[/FONT]
[FONT=&quot] ๒. เสียงไพเราะ ดังท้าวมหาพรหม (หมายถึง พูดถูกใจบุคคล เป็นเสน่ห์ พูดอะไรมีคนเชื่อถือกระมัง)[/FONT]
[FONT=&quot] ๓. ไปป่าหิมพานต์ยาม ๑ ก็ถึง (คงหมายถึงการปาฏิหาริย์ ล่องหน)[/FONT]
[FONT=&quot] ๔. ไป ๔ ทวีป ในนิ้วมือเดียว (เช่นเดียวกับข้อ ๓ หรืออาจหมายถึงกายทิพย์ก็ได้)[/FONT]
[FONT=&quot] ๕. คิดอะไรสำเร็จความปรารถนา[/FONT]

[/FONT][FONT=&quot]เครื่องรางของขลัง ในมิติวิทยาศาสตร์[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]ใน ทางวิทยาศาสตร์นั้นมีการค้นคว้าวิจัยในเรื่องธาตุที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของ สสารทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในโลกโดยแบ่งแยกสาขาการศึกษาออกเป็นวิชาที่เรียก ว่า ฟิสิกส์ โดยมีการค้นคว้าถึงองค์ประกอบภายใน ก็พบว่า โดยแท้จริงวัตถุทั้งหลายนั้นมีองค์ประกอบจากอนุภาคที่เล็กละเอียดเข้าเกาะ กุมกันอยู่อย่างมากมายเรียกว่า[/FONT][FONT=&quot] “อะตอม” (Atom) และยังวิจัยให้ลึกลงไปในส่วนประกอบของอะตอมก็พบว่าโดยแท้จริงนั้นเป็นการรวม กลุ่มของพลังงานที่มีการเกาะกลุ่มกันอยู่ได้ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏขึ้นในจักรวาลก็คือพลังงาน ดังนั้นหากเราหยิบก้อนดินหรือก้อนหินขึ้นมาสักก้อนหนึ่งก็จะพิจารณาได้ว่า เป็นกลุ่มก้อนของพลังงานเล็กๆจำนวนมากมายที่รวมตัวกันจนมีสถานะและคุณสมบัติ ตามที่เราเห็นอยู่ในขณะนั้น วัตถุทั้งหลายจึงกล่าวได้ว่า “มีพลังงานในตัวทั้งสิ้น”แต่พลังงานที่มีอยู่นั้นสามารถแสดงความโดดเด่นออก มาในรูปการแผ่รังสีหรือการนำ ผ่านตัวนำออกมาแสดงภาวะปรากฏในสภาวะแวดล้อมได้มากน้อยกว่ากันนั้นเพียงใด ความเชื่อเรื่องพลังงานในวัตถุนี้มีมานานกว่าพันปีตามที่ปรากฏในประวัติ ศาสตร์ศาสนาที่เป็นอารยะธรรมหนึ่งของมนุษย์ที่ยืนยันได้ค่อนข้างชัดเจนว่า “มนุษย์ยุคโบราณรู้เรื่องฟิสิกส์ มิติพลังงานของสสารดีพอๆกับที่มนุษย์ยุคปัจจุบันค้นพบ” [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot] ความรู้เหล่านี้ไม่มีที่มาแน่นอนว่ามาจากไหน? ค้นคว้าได้เอง หรือใครเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้นี้มา ทุกอย่างมักจบลงที่นิยายปรำปรา ว่าเป็นความรู้จากสิ่งที่เรียกว่าเทพเจ้าที่มีภาวะบางประการสูงส่งกว่าความ เป็นมนุษย์ เรื่องราวหนึ่งของความรู้มนุษย์ในยุคโบราณนั้นมีประเด็นที่น่าสนใจประการ หนึ่งคือ “เชื่อว่าวัตถุหรือสสารบางประการหากนำมาติดตัวก็อาจเกิดผลที่ส่งเสริมกับตัว ผู้สวมใส่ได้” โดยมีการรวบรวมความรู้นี้ไว้อย่างค่อนข้างมีแบบแผน ที่รู้จักการใช้วัตถุธาตุตามธรรมชาติ ที่อาจได้จาก แร่ธาตุ สัตว์ พืช หรือการผสมผสานองค์ประกอบเหล่านั้นนำมาใช้ติดตัวโดยอาศัยคุณสมบัติทาง ธรรมชาติของสิ่งนั้นและอาจ มีการกำหนดขั้นตอนพิธีกรรมที่ดำเนินการในลักษณะที่เหนี่ยวนำวัตถุธรรมเหล่า นั้นจนมีการแสดงพลังงานออกสู่ภายนอกตามที่ต้องการซึ่งอาจเรียกว่าการ “ปลุกเสก” การเหนี่ยวนำสสารเพื่อให้เกิดผลนั้น ทำให้เกิดวัฒนะธรรมอย่างหนึ่งคือเครื่องรางของขลัง ที่มนุษย์รู้จักเพียงว่านำมาติดตัวแล้วเกิดผลในทางที่ดีหรือเหนี่ยวนำเรื่อง ราวต่างๆมาสู่ผู้สวมใส่ตามที่ตั้วงคงความปรารถนาไว้ ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นนั้นเป็นประสบการณ์เฉพาะตัวที่ไม่อาจหามาตรฐานมา ตรวจสอบเปรียบเทียบวัดค่า ได้ จึงเป็นเพียงวัฒนะธรรมหรือพฤติกรรมสังคมที่เป็นกลุ่มความเชื่ออย่างหนึ่ง[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]ในแง่วิทยาศาสตร์ [/FONT][FONT=&quot]ที่ พยายามศึกษาค้นคว้าเพื่อหาความเป็นจริงที่มีมาตราฐานของสิ่งที่ถูกพบเห็นเรา อาจเรียกเครื่องรางว่า[/FONT][FONT=&quot] “วัตถุธรรมประจุพลังงาน” ที่มีความหมายถึงการสามารถมีผลกระทบต่อสิ่งมีชิวิต หากอยู่ใกล้ พลังงานทีแผ่ออกจากวัตถุเครื่องรางถูกตั้งสมมุติฐานต่างๆนานนาทั้งประเด็น ที่เป็นไปได้และมุมมองความเห็นที่ว่าเป็นแค่ความเชื่อที่ไม่อาจเห็นสาระที่ เป็นจริงได้ แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏเป็นสิ่งที่ยืนยันหรือปฏิเสธสมมุตติฐานเหล่านั้นว่า น่าจะค้นคว้าต่อไปหรือยุติเรื่องไร้สาระนั้น การค้นคว้าประเด็นทางวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบใหม่ๆจะเริ่มจากสิ่งที่ชวนฉงนสงสัย แล้วสืบสาวความจริง จึงมีนักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งที่ลงทุนค้นคว้าเรื่องราวเหล่านี้โดยยอมตัว เข้าไปศึกษาเป็นนักบวชในลัทธิต่างๆแล้วนำมาประมวลผลว่า “ความเชื่อเรื่องเครื่องรางของมนุษย์นั้น มีส่วนของความจริงอยู่” ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องศึกษาหรือตั้งประเด็นให้เหมาะสมในการค้นคว้า ปรากฏการณ์เกี่ยวกับเครื่องรางของขลังที่สามารถแสดงอำนาจบางอย่างเหนือภาวะ ปกติทางธรรมชาติ[/FONT][FONT=&quot]

[/FONT][FONT=&quot]ความ เป็นจริงของเครื่องรางและความงมงายมักมาพร้อมกันเสมอหากผู้ที่เข้าไปเกี่ยว ข้องใช้ความปรารถนาส่วนตัวเข้าตัดสินเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวข้องมากเกินไป และความเป็นจริงที่เกิดขึ้นนั้นก็มิได้หมายความว่าครั้งต่อๆไปจะเกิดขึ้น ทั้งนี้เพราะปัจจัยหรือองค์ประกอบที่จะทำให้ประสบการณ์ของเครื่องรางที่เกิด ขึ้นมาแล้วนั้นเกิดอีกครั้งมีมากและละเอียดอ่อน ความไม่แน่นอนในเรื่องผลลัพธ์จึงเป็นประเด็นสำคัญที่เรื่องนี้ถูกมองข้าม...[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]ประวัติและความเป็นมาของ"ปรอท" [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot] ปรอท ตามคติของการสร้างวัตถุมงคล เป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ โดยในสมัยโบราณท่านกล่าวไว้ว่า ให้นำแร่ปรอทมาใช้เป็นส่วนผสม ส่วนหนึ่งในการรักษาโรคต่างๆ ของยาแผนโบราณ และบางส่วนก้อใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ในอีกส่วนหนึ่งก็มีการทำให้แข็งตัวตามตำราที่สืบทอดกันมาจากโบราณ ที่เรียกขานกันว่าเป็นการเล่นแร่แปรธาตุ เพราะวงการนักนิยมเครื่องรางของลัง เชื่อถือกันว่า ปรอท เป็นแร่ธาตุที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และมีอานุภาพ อยู่ในตัวเอง แม้นจะเก็บไว้นานก้อคงสภาพไม่แปรเปี่ยนเป็นสีอื่น ปรอทที่แท้จริงจะมีสีขาว ถ้าขัดถูจะดูสดใสขึ้นในทันที จะดูเป็นสีใหม่อยู่เสมอ พิสูจน์ได้โดยเอาถูกับตะกั่วซองบุหรี่ จะร้อนไหม้ขึ้นในทันที เอาหลังแตะกันจะเห็นเป็นยาง เอาถูอลุมิเนียมจะเป็นขุยขึ้นมา เอาถูที่มือ จะป็นสีดำ จึงจะเป็นของแท้ถูกต้องตามตำรา สรรพคุณของปรอท ใช้ได้กว้างขวาง เหมาะแก่ท่านที่อยู่ตามชนบท ต่างๆ เช่น ตามไร่ นา ป่า เขา ควรมีพระปรอทติดตัวไว้บูชา ป้องกันอันตรายได้หลายอยาง บรรพบุรุษนับถือกันจริงๆ ยิ่งนำมาสร้างเป็นพระหลวงปู่ทวดเหยีย่บน้ำทะเลจืด ถือได้ว่าย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์หลายอย่าง เพราะหลวงปู่ทวด เป็นสุดยอดพระนิรันตราย พระเนื้อปรอทหลวงปู่ทวดนี้ นำพกติดตัว เมื่ออันตรายใช้ได้ทันที อาทิ แช่น้ำเป็นน้ำพุทธมนต์ หรือ ดื่มกินเพื่อักษาโรคต่างๆ อานุภาพ ของพระเนื้อปรอทตามตำนานที่เชื่อถือกันมาแต่โบราณ [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot]1. เมื่อถูกของมีคม ใช้ถูปากแผล ห้ามเลือด และแผลจะปิดทันที [/FONT][FONT=&quot]
[FONT=&quot]2. กันไข้ป่า ไข้พิษ ต่างๆ [/FONT]
[FONT=&quot]3. ดูดพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ใช้น้ำสุราล้างพระปรอท ปิดแผล [/FONT]
[FONT=&quot]4. ดูดพิษงู [/FONT]
[FONT=&quot]5. ป้องกันภูติ ผีปิศาจ และคุณไสย [/FONT]
[FONT=&quot]6. เวลาเดินทางไกล อาราธนาติดตัว หรือแช่ทน้ำมนต์ ประพรหมยานพาหนะป้องกันภยันตรายต่างๆ [/FONT]
[FONT=&quot]7. ปวดฟันให้อมพระปรอทไว้ [/FONT]
[FONT=&quot]8. ป้องกันยาพิษ ยาสั่ง [/FONT]
[FONT=&quot]9. ทารักษาโรคผิวหลังกลากเกลื้อน [/FONT]
[FONT=&quot]10. เป็นฝี ใช้พระเนื้อปรอท ล้างน้ำสุรา ปิดที่หัวฝี การเล่นแร่แปรธาตุหุงหาปรอท ตามตำหรับโบราณนี้ เป็นเรื่องที่หาพระคณาจารย์ ผู้ที่มีวิชาทำได้ยากยิ่ง ดังนั้นพระปรอทจึงเป็นสิ่งสำคัญหายาก จึงควรเก็บักษาไว้ให้ดี เพราะตำราที่ใช้หุงปรอทนั้นเป็นตำรับที่ตกทอดมาแต่โบราณ เป็นการรักษา ของเก่าที่มีมาแต่ครั้งบรรพบุรุษไม่ให้สูญหายไปกับกาลเวลา[/FONT][/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
[FONT=&quot] [FONT=&quot]วิ ทยาศาตร์ ยังไม่สามารถ เข้าใจคำว่าไสยศาตร์ได้หมด เพราะไสยศาตร์เดิมนั้นคือการเข้าใจธรรมชาติเพื่อหักล้างหรือสร้างธรรมชาติ ทั้งคนและสัตว์สิ่งของต้องการ พระพุทธเจ้า ท่านทรงทราบเรื่อง โมเลกุล อะตอม และ อณุภาคของสรรพสิ่ง การคลื่นที่ของมวลสาร คลื่น มาหลายพันปีแล้ว[/FONT][/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]

[FONT=&quot]ท่านๆ ลอง หาคำตอบแบบวิทยาศาตร์ว่า งูทุกตัวกลัวเชือกกล้วยหรือไม่ งูฝรั่งกลัวเชือกกล้วยหรือเปล่า ถ้ากลัวมันกลัวอะไรในนั้น แล้วเพราะอะไรมันถึงกลัว แล้วจะรู้ว่าธรรมชาติซ่อนอะไรไว้ก่อนที่จะสร้างสิ่งต่างขึ้นมา[/FONT][/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
<u1></u1>
แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 กันยายน 2010

ญานธรรม, 6 กันยายน 2010

#3981
- ถูกใจ x 3
- ดูรายการ
ญานธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

28 เมษายน 2010

โพสต์:

2,936

ค่าพลัง:

+14,705
มาดูวิธีดักจับปรอทกันแปลกดีไม่รู้จริงหรือเปล่า

การทำปรอทเป็นสรรพยามีสรรพคุณมากมากจึงมีกระบวนการทำตามแบบโบราณดังนี้ใช้ วิธีการดักจับปรอทตามน้ำคลำ, น้ำที่เน่าเหม็นปรอทจะมากินสิ่งที่เน่าเหม็น มีกรรมวิธีการดักจับหลายวีธี
การทำปรอทให้บริสุทธิ์

นำปรอทมาใส่ในชามกระเบี้องเคลือบนำข้าวที่หุงสุกใหม่ๆทิ้งเอาไว้ให้เย็น แล้วนำมาใส่ให้ท่วมปรอทคลุกเคล้าข้าวสุกกับปรอทให้เข้ากันด้วยไม้หรือ กระเบื้องเคลือบพยายามบี้บดให้ปรอทแตกตัวสัก 15 นาทีหรือจนปรอทแตกตัวเป็นเม็ดละเอียดจะเห็นว่าข้าวสุกจะติดสีดำมากมาย สุดท้ายล้างด้วยน้ำสะอาดโดยการเทน้ำสะอาดใส่ลงไปล้างหลายๆครั้งแล้วถ่ายน้ำ ออกหรือเทน้ำออกให้ระมัดระวังตามสมควร เนื่องจากปรอทมีน้ำหนักมากจะไม่เกาะติดสิ่งใดๆการล้างออกจึงทำได้ไม่ยากนัก

นำปรอทมาแช่น้ำปลาร้าหมั่นคนสักพักหนึ่งคนบ่อยๆทิ้งเอาไว้สัก 1 คืน รุ่งเช้าให้ล้างน้ำปรอทด้วยน้ำสะอาดเหมือนกับขั้นตอนแรกหลายๆ ครั้ง ให้นำเอาตะใคร้ทั้งต้นทั้งใบมาตำให้ละเอียด นำไปคลุกเคล้ากับปรอทคนให้เข้ากันทิ้งไว้อีก 1 คืน นำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาดแบบเดียวกับการล้างน้ำในขั้นตอนแรก

เอาปรอทมาแช่น้ำมะดันหรือมะกรูดหรือน้ำมะนาวหมั่นคนบ่อยๆทิ้งเอาไว้ 1 คืนวันรุ่งขึ้นให้นำไปล้างด้วยน้ำสะอาด เสร็จแล้วนำเอามาใส่เอาไว้ในขวดแก้วปิดฝาให้แน่นเพื่อกันมิให้ปรอทดูดเอา สิ่งที่เป็นพิษเข้ามาปะปนอีก ปรอทที่ได้มานี้ยังเป็นของเหลว เชื่อกันว่าปรอทที่ผ่านวิธีการกรองเอาพิษออกแล้วนี้มีความบริสุทธิ์ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์

การทำปรอทให้แข็งแบบโบราณ
แบบ ที่ 1 ให้สะกดด้วยอาคมโดยนำเอาปรอทใส่ลงในกระทะเอาไม้สนเกี๊ยะจุดไฟใส่ใต้กระทะ เป็นเชื้อเพลิงจากนั้นบริกรรมเติมไฟแต่ไม่ให้ร้อนมาก ชั่วเวลาหนึ่งให้ใส่ทองคำลงไป เพื่อล่อให้ปรอทแทรกตัวเข้าไปอยู่ในทองคำและแข็งตัว เมื่อปรอทแข็งตัวแล้วก็จะผ่อนไฟจน กระทั่งหยุดใส่ไหและเย็นลงในเวลาต่อมา ขั้นตอนต่อไปเป็นการบูชาเจ้าป่าเจ้าเขาก่อนที่จะเอาปรอทแข็งตัวแล้วนำเอาไป ใส่เอาไว้ในพานวางตั้งเอาไว้หน้าหิ้งพระ คลุมด้วยทองคำเปลว
แบบ ที่ 2 ใช้ปรอท,ดีบุก,น้ำตะใคร้, จุนสี, กัมมะถัน, น้ำประสานทองอย่างละเท่าๆกัน สำหรับจุนสีและน้ำประสานทองมีพาให้ระมัดระวังหน่อยต้องนำมาให้ความร้อนให้ แตกตัวก่อน เรียกว่าการฆ่าพิษ นำทั้งหมดมากวนรวมกันให้เข้ากันจนเป็นสีรุ้ง การหุงนำไปตั้งในเตาแก๊สก็ได้แล้วนำเอาไปเทลงในแบบพิมพ์ต่างๆ เมื่อปรอทแข็งตัวได้รูปแล้ว นำเอามาแต่งด้วยกระดาษทรายละเอียด และนำเอาไปใช้ตามเจตนารมณ์ต่อไป
ญานธรรม, 6 กันยายน 2010

#3982
- ถูกใจ x 4
- ดูรายการ
nut1663 เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2009

โพสต์:

702

ค่าพลัง:

+2,691
ผมได้เคยคุยกับครูบาอาจารย์ที่ท่าน หาและหุงปรอท แบบวิธีที่คุณ ญาณธรรมนำมาลงอยู่นะครับ ท่านว่าแก้คุณไสย์ดีนักแล

เราก็มึน เอ่ยปากขอดื้อๆ ท่านร้องเฮ้ยเลย อิอิ ท่านทำไว้ชิ้นเดียวครับ

เชิญร่วมบุญกฐิน-สร้างวิหารพระหยกขาวมณี-มอบวัตถุ

nut1663, 6 กันยายน 2010

#3983
- ถูกใจ x 5
- ดูรายการ
nut1663 เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2009

โพสต์:

702

ค่าพลัง:

+2,691
เอ ...... สอง ซือเจ้ หายไปทั้งคู่เลย แอบไปเที่ยวไหนกัน
เชิญร่วมบุญกฐิน-สร้างวิหารพระหยกขาวมณี-มอบวัตถุ

nut1663, 6 กันยายน 2010

#3984
- ถูกใจ x 4
- ดูรายการ
D-Dom เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

6 พฤษภาคม 2010

โพสต์:

582

ค่าพลัง:

+937
ฉบับปรับปรุงแก้ไข วันที่ 6 กันยายน 2553 เวลา 14:33 น.

กำหนดการเดินทาง อย่างไม่เป็นทางการ ครับ 19 กันยายน 2553

คณะตอกคตปรอท ที่ยืนยัน กันนะ ครับ

สำหรับผู้เดิน ทางโดยรถตู้

1. ญาณธรรม ....... ตอกคตปรอท (เดินทางจากสระบุรี)
2. nut1663 ....... ตอกคตปรอท (เดินทางจากชลบุรี)
3. D-Dom ...... ตอกคตปรอท (เดินทางจาก บางแค กทม.)
4. aoffy_s ...... ตอกคตปรอท (เดินทางจาก สมุทรปราการ)
5. คุณชาวฟ้า ...... ตอกคตปรอท (เดินทางจาก วิภาวดี 16 กทม.)
6. คุณร่มบุญ.......ตอกคตปรอท (เดินทางจาก .....)
7. นาย สมพล.......ตอกคตปรอท (เดินทางจาก มีนบุรี กทม.)
8. คุณสัญญา ...... ตอกคตปรอท (เดินทางจาก .....)
9. ภัทรอังคาร (ไปกราบหลวงปู่ ไม่ได้ตอกเพราะตอกไปเมื่อคราวที่แล้วครับ แล้วน้าแอ๊วบอกว่าไม่จำเป็นต้องตอกเพิ่ม) (เดินทางจากชลบุรี)
10. คุณTanagrit........(ไปกราบหลวงปู่และบูชาอื่นๆ) (เดินทางจาก นวมินต์ กทม.)
11. h_pisit ........ (ไปกราบหลวงปู่และบูชาอื่นๆ) (เดินทางจาก ........ )

สำหรับผู้เดินทางไปเอง

1-2. gasnaka ตอกคตปรอท 2 คน (ขับรถไปเองจากหนองคาย)
3-6. Ma-Li ตอกคตปรอท อาจารย์ suttip + น้องชาย + อาจารย์หนุ่ย + พี่ชายจากนครปฐม รวมแล้ว 4 ท่าน (สำหรับกลุ่มของผมจะออกเดินทางจากย่านปทุมธานี แล้วแวะไปรับคุณหนุ่ย ที่อยุธยา..แล้วก็เดินทางไปวัดหลวงปู่เลยครับ)
7-8. louis07 ...... ตอกคตปรอท 2 คน (ขับรถไปเอง เดินทางจากกทม.)
9. then ...... ตอกคตปรอท 1 คน (ขับรถไปเอง เดินทางจากนครสวรรค์)
10-11. หยกเขียว ...... ตอกคตปรอท 2 คน (ขับรถไปเอง เดินทางจากเลย)
12-13. 9046 + เพื่อน อีก 2 ผมตอกแล้วครับ แต่เพื่อนผมจะตอกคตปรอท 1 คน (ขับรถไปเองจากตาก)
14. Palita N ...... ตอกคตปรอท (เดินทางไปเอง ยังไม่ทราบจากที่ไหน)
15. คุณใบโพธิ์.....ตอกคตปรอท 1 ท่าน (เดินทางไปเอง ยังไม่ทราบจากที่ไหน)
16. ekkorn9 ........(ไปกราบหลวงปู่และบูชาอื่นๆ รวม 3-4 คน) (ขับรถไปเองจากศรีราชา)

ผู้ร่วมเดินทาง ที่จะตอกคตปรอท รวม 23 คน
ช่วยดูด้วยนะครับ ว่าถูกต้องหรือเปล่า ช่วยแย้งด้วยนะ ครับ

สรุปเรื่องค่าใช้จ่ายให้อีกครั้งครับ จากข้อมูลที่คุณญาณธรรมเคยให้ไว้และคุณ panamool มาเพิ่มเติมให้ครับ

1.ค่าครูตามกำลังวันเช่นวันอาทิตย์กำลังวัน6 คูณ300 เท่ากับ 1800 บาท (เราไปกันวันอาทิตย์)
2.ค่าปรอทองค์ละ 3200 บาท
3.ค่าบายศรีไหว้ครูบาอาจารย์ประมาณ500-800 บาทคุณอุ้มจะไปสั่งทำให้ๆช่วยกันทำบุญตามศรัทธา ไม่เน้นว่าต้องเท่าไหร่
- ค่ารถตู้คันละ 5000 บาท ถ้าได้สมาชิกครบ 10 ก็จะเฉลี่ยคนละ 500 บาท
- ส่วนจะรู้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายแน่นอนเท่าใดนั้น ต้องรอให้มีการสรุปก่อน(คือรอให้สมาชิกรถตู้ครบสิบครับ)

ว่า แต่ ว่า ใครยังไม่ได้ PM รบกวนทุกท่าน ช่วย PM เบอร์ติดต่อ ชื่อ และที่อยู่ หรือสถานที่ๆ จะเริ่มเดินทาง เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูล ไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้ติดต่อ นัดหมายได้สะดวก นะ ขอรับ

แต่ตอนนี้ต้องรอสรุป อีก ครั้งผมกำหนด คร่าวๆ วันที่ 13 กันยายน จะสรุป วันเดินทางอีก ครั้ง เดี๋ยวต้องรบกวน พี่ญานธรรม โทรเช็ค อีก ครั้ง หนึ่ง ครับ แต่ตอนนี้สรุปว่า คือ วันที่ 19 กันยายน ก่อนนะ ครับ เพราะฉะนั้นรบกวน ช่วยยืนยัน ให้อีก สักครั้ง นะ ขอรับ ใช้สีนี้ ครับ

แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2010

D-Dom, 6 กันยายน 2010

#3985
- ถูกใจ x 3
- ดูรายการ
D-Dom เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

6 พฤษภาคม 2010

โพสต์:

582

ค่าพลัง:

+937
เอ๋ คนปั่นกระทู้ ปาย หนาย กัน หมด เนี่ย

โปรดแสดง ตัว ด่วน ด่วน

D-Dom, 6 กันยายน 2010

#3986
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
pana_mool เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

29 พฤศจิกายน 2006

โพสต์:

1,696

ค่าพลัง:

+7,048
ญานธรรม said: ↑

[FONT=&quot] [FONT=&quot]๑. ผู้ใดอมปรอทไว้ ผู้นั้นจะมีรูปร่างดังพระมหาจักรพรรดิ (หมายถึง ความมีเดช ฤทธิ์ และความงามเป็นที่เสน่หากระมังอันนี้รวมถึงอานุภาพที่คล้ายกับเหล็กไหลใน ตำนานที่เด่นเรื่องคุ้มครองป้องกันด้วย)[/FONT]
[FONT=&quot] ๒. เสียงไพเราะ ดังท้าวมหาพรหม (หมายถึง พูดถูกใจบุคคล เป็นเสน่ห์ พูดอะไรมีคนเชื่อถือกระมัง)[/FONT]
[FONT=&quot] ๓. ไปป่าหิมพานต์ยาม ๑ ก็ถึง (คงหมายถึงการปาฏิหาริย์ ล่องหน)[/FONT]
[FONT=&quot] ๔. ไป ๔ ทวีป ในนิ้วมือเดียว (เช่นเดียวกับข้อ ๓ หรืออาจหมายถึงกายทิพย์ก็ได้)[/FONT]
[FONT=&quot] ๕. คิดอะไรสำเร็จความปรารถนา[/FONT]

[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
Click to expand...

พี่ๆ น้องๆ เราก็มีพระปรอท หรือ เหรียญปรอท กันแทบครบทุกคน
มีท่านใด ที่ทำได้ดังข้างบนบ้างไหมครับ
ผมก็ลองอมปรอทดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเพื่อเป็นการศึกษา ด้วยความเคารพหลวงปู่ ครูบาอาจารย์ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
หรือทั้งห้าข้อนั้นต้องเป็นผู้สำเร็จปรอทถึงจะทำได้ ไม่ใช้ผู้คนชนชั้นไม่เอาไหนอย่างผม อย่างมากก็ได้แต่ครอบครองเพื่อบูชา โดยมีความหวังว่าจะทำให้เราดีขึ้นในทุกๆ เรื่อง เพื่อเผชิญชีวิต ในโลกปัจจุที่มากมายด้วยสิ่งที่ไม่รู้ ไม่เห็น ภัยอันตรายเพียบ บังเอิญเจอสิ่งที่ไม่ดีก็โดนไป

pana_mool, 6 กันยายน 2010

#3987
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
ญานธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

28 เมษายน 2010

โพสต์:

2,936

ค่าพลัง:

+14,705
panamool said: ↑

พี่ๆ น้องๆ เราก็มีพระปรอท หรือ เหรียญปรอท กันแทบครบทุกคน
มีท่านใด ที่ทำได้ดังข้างบนบ้างไหมครับ
ผมก็ลองอมปรอทดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเพื่อเป็นการศึกษา ด้วยความเคารพหลวงปู่ ครูบาอาจารย์ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
หรือทั้งห้าข้อนั้นต้องเป็นผู้สำเร็จปรอทถึงจะทำได้ ไม่ใช้ผู้คนชนชั้นไม่เอาไหนอย่างผม อย่างมากก็ได้แต่ครอบครองเพื่อบูชา โดยมีความหวังว่าจะทำให้เราดีขึ้นในทุกๆ เรื่อง เพื่อเผชิญชีวิต ในโลกปัจจุที่มากมายด้วยสิ่งที่ไม่รู้ ไม่เห็น ภัยอันตรายเพียบ บังเอิญเจอสิ่งที่ไม่ดีก็โดนไป
Click to expand...

ใจเย็นครับพี่ตู่ที่เอามาโพสต์ให้ดูก็ให้อ่านกันเล่นๆ

ญานธรรม, 6 กันยายน 2010

#3988
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
nut1663 เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 เมษายน 2009

โพสต์:

702

ค่าพลัง:

+2,691
panamool said: ↑

พี่ๆ น้องๆ เราก็มีพระปรอท หรือ เหรียญปรอท กันแทบครบทุกคน
มีท่านใด ที่ทำได้ดังข้างบนบ้างไหมครับ
ผมก็ลองอมปรอทดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเพื่อเป็นการศึกษา ด้วยความเคารพหลวงปู่ ครูบาอาจารย์ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
หรือทั้งห้าข้อนั้นต้องเป็นผู้สำเร็จปรอทถึงจะทำได้ ไม่ใช้ผู้คนชนชั้นไม่เอาไหนอย่างผม อย่างมากก็ได้แต่ครอบครองเพื่อบูชา โดยมีความหวังว่าจะทำให้เราดีขึ้นในทุกๆ เรื่อง เพื่อเผชิญชีวิต ในโลกปัจจุที่มากมายด้วยสิ่งที่ไม่รู้ ไม่เห็น ภัยอันตรายเพียบ บังเอิญเจอสิ่งที่ไม่ดีก็โดนไป
Click to expand...

เคยคิดเหมือนกันนะ อยากไปเที่ยวป่าหิมพานต์ เด็ดดอกมัคคลีผล ฮาๆๆๆๆ

เชิญร่วมบุญกฐิน-สร้างวิหารพระหยกขาวมณี-มอบวัตถุ

nut1663, 6 กันยายน 2010

#3989
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
pana_mool เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

29 พฤศจิกายน 2006

โพสต์:

1,696

ค่าพลัง:

+7,048
ญานธรรม said: ↑

ใจเย็นครับพี่ตู่ที่เอามาโพสต์ให้ดูก็ให้อ่านกันเล่นๆ
Click to expand...

5555 ผมก็อยากให้มีใครทำได้ จะได้ขอเรียนวิชา เบื่อรถติดครับ
อยากไปหาหลวงปู่ จะได้แว๊ปไป
เขาว่ามัคคลีผลในป่าหิมพานสวยมากๆ อยากเห็นๆแต่ถ้าจะเด็ด คงต้องใช้ฝีมือแย่งกับพี่นัท กระมัง55555

แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 กันยายน 2010

pana_mool, 6 กันยายน 2010

#3990
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
h_pisit เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

21 กุมภาพันธ์ 2008

โพสต์:

384

ค่าพลัง:

+1,272
แหม แย่งกันเด็ดมัคคลีผล
ถามคนทางบ้านหรือยังครับ ให้เด็ดหรือเปล่า 5555

panamool said: ↑

5555 ผมก็อยากให้มีใครทำได้ จะได้ขอเรียนวิชา เบื่อรถติดครับ
อยากไปหาหลวงปู่ จะได้แว๊ปไป
เขาว่ามัคคลีผลในป่าหิมพานสวยมากๆ อยากเห็นๆแต่ถ้าจะเด็ด คงต้องใช้ฝีมือแย่งกับพี่นัท กระมัง55555
Click to expand...

h_pisit, 6 กันยายน 2010

#3991
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
pana_mool เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

29 พฤศจิกายน 2006

โพสต์:

1,696

ค่าพลัง:

+7,048
h_pisit said: ↑

แหม แย่งกันเด็ดมัคคลีผล
ถามคนทางบ้านหรือยังครับ ให้เด็ดหรือเปล่า 5555
Click to expand...

ตอนแรกก็ว่าจะชวนท่านไปด้วยกันนะครับ
เผื่อจะได้มาคนละนาง แต่ผมว่าท่านคงไม่ได้ไปกับผมหรอก
ก็รักภรรยาขนาดนั้น 555555

ว่าแต่พีระมิต ที่ได้ไปตอนนี้ใช้เป็นหรือยังครับ เห็นผลอะไรบ้างครับ

แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 กันยายน 2010

pana_mool, 6 กันยายน 2010

#3992
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

4 ตุลาคม 2007

โพสต์:

1,675

ค่าพลัง:

+2,309
ไม่ทราบว่าปรอดทองคำดำ กับปรอทชมพูนุชต่างกันอย่างไรคับเห็นบางท่านบอกว่าคืออย่างเดียวกัน แล้วเนื้อไหนราคาสูงกว่ากัน

Shinray01, 6 กันยายน 2010

#3993
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
เจษฎา เยี่ยมคำน เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

วันที่สมัครสมาชิก:

13 มกราคม 2008

โพสต์:

3,332

ค่าพลัง:

+5,413
เท่าที่ผมเคยอ่านมา ผู้ที่จะใช้ปรอทในการเดินทางได้นั้นต้องสำเร็จฌานและทำการท่องคาถาจนปรอทเปลี่ยนเป็นสีม่วงและกลายเป็นสีทองจากนั้นปรอทจะส่งเสียงหวีดออกมาแล้วจึงจะอธิฐานให้พาไปที่ต่างๆได้ครับ

เจษฎา เยี่ยมคำน, 6 กันยายน 2010

#3994
- ถูกใจ x 3
- ดูรายการ
pana_mool เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

29 พฤศจิกายน 2006

โพสต์:

1,696

ค่าพลัง:

+7,048
Shinray01 said: ↑

ไม่ทราบว่าปรอดทองคำดำ กับปรอทชมพูนุชต่างกันอย่างไรคับเห็นบางท่านบอกว่าคืออย่างเดียวกัน แล้วเนื้อไหนราคาสูงกว่ากัน
Click to expand...

ผมเข้าใจว่าเป็นคนละอย่างครับ
ปรอทชมพูนุช รูปร่างเป็นพระปิดตา 5,000 บาท
ปรอททองคำดำ เป็นเหรียญสิบสองนักษัตร 12,000 บาท

pana_mool, 7 กันยายน 2010

#3995
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
pana_mool เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

29 พฤศจิกายน 2006

โพสต์:

1,696

ค่าพลัง:

+7,048
เจษฎา เยี่ยมคำน said: ↑

เท่าที่ผมเคยอ่านมา ผู้ที่จะใช้ปรอทในการเดินทางได้นั้นต้องสำเร็จฌานและทำการท่องคาถาจนปรอทเปลี่ยนเป็นสีม่วงและกลายเป็นสีทองจากนั้นปรอทจะส่งเสียงหวีดออกมาแล้วจึงจะอธิฐานให้พาไปที่ต่างๆได้ครับ
Click to expand...

สุดยอดครับ ก็หวังว่าจะทำได้สักวัน ในอนาคต

pana_mool, 7 กันยายน 2010

#3996
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
ญานธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

28 เมษายน 2010

โพสต์:

2,936

ค่าพลัง:

+14,705
Shinray01 said: ↑

ไม่ทราบว่าปรอดทองคำดำ กับปรอทชมพูนุชต่างกันอย่างไรคับเห็นบางท่านบอกว่าคืออย่างเดียวกัน แล้วเนื้อไหนราคาสูงกว่ากัน
Click to expand...

<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 12"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 12"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><link rel="themeData" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_themedata.thmx"><link rel="colorSchemeMapping" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_colorschememapping.xml"><style>  </style>[FONT=&quot]ราคาที่วัด
พระปิดตาปรอทชมพูนุช องค์ละ [/FONT][FONT=&quot]5000 [/FONT][FONT=&quot]บาท มีคนมาเหมาไปหมดตอนเหลือหลักหลายสิบองค์เมื่อประมาณ ต้นเดือนสิงหาคมหรือปลายเดือนกรกฏาคมนี่แหละครับ เนื้อองค์พระจะแกร่งมาก และไม่กินทองคำครับ[/FONT]
[FONT=&quot]พระปิดตาปรอททองคำดำที่วัดหมดแล้วครับเหลือแต่ [/FONT]<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 12"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 12"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><link rel="themeData" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_themedata.thmx"><link rel="colorSchemeMapping" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_colorschememapping.xml"><style>  </style>[FONT=&quot]พระสิบสองราศรี แบบทองคำดำ องค์ละ [/FONT][FONT=&quot]12000 [/FONT][FONT=&quot]บาท[/FONT]
แถมนิดหนึ่ง เอามาจากพี่ๆในกระทู้นี่แหละครับไม่รู้หน้าไหน
<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 12"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 12"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><link rel="themeData" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_themedata.thmx"><link rel="colorSchemeMapping" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_colorschememapping.xml"><style>  </style> [FONT=&quot]พี่เค้าถาม อ.ย่ามแดง ว่า ปรอทต่างเนื้อกันอย่าง เนื้อสัตตะ ทองคำดำ หรือ ปรอทเพชร นี่ต่างกันมั้ยครับ[/FONT] [FONT=&quot]อ.บอกถ้าในเรื่องพุทธคุณคงไม่ต่างแต่ถ้ามูลค่าแล้ว ต่อไปทองคำดำจะกลายเป็นทองคำแท้ครับ[/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]

ญานธรรม, 7 กันยายน 2010

#3997
- ถูกใจ x 4
- ดูรายการ
D-Dom เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

6 พฤษภาคม 2010

โพสต์:

582

ค่าพลัง:

+937
ฉบับปรับปรุงแก้ไข วันที่ 7 กันยายน 2553 เวลา 09:33 น.

กำหนดการเดินทาง อย่างไม่เป็นทางการ ครับ 19 กันยายน 2553

คณะตอกคตปรอท ที่ยืนยัน กันนะ ครับ

สำหรับผู้เดิน ทางโดยรถตู้

1. ญาณธรรม ....... ตอกคตปรอท (เดินทางจากสระบุรี)
2. nut1663 ....... ตอกคตปรอท (เดินทางจากชลบุรี)
3. D-Dom ...... ตอกคตปรอท (เดินทางจาก บางแค กทม.)
4. aoffy_s ...... ตอกคตปรอท (เดินทางจาก สมุทรปราการ)
5. คุณชาวฟ้า ...... ตอกคตปรอท (เดินทางจาก วิภาวดี 16 กทม.)
6. คุณร่มบุญ.......ตอกคตปรอท (เดินทางจาก .....)
7. นาย สมพล.......ตอกคตปรอท (เดินทางจาก มีนบุรี กทม.)
8. คุณสัญญา ...... ตอกคตปรอท (เดินทางจาก .....)
9. ภัทรอังคาร (ไปกราบหลวงปู่ ไม่ได้ตอกเพราะตอกไปเมื่อคราวที่แล้วครับ แล้วน้าแอ๊วบอกว่าไม่จำเป็นต้องตอกเพิ่ม) (เดินทางจากชลบุรี)
10. คุณTanagrit........(ไปกราบหลวงปู่และบูชาอื่นๆ) (เดินทางจาก นวมินต์ กทม.)
11. h_pisit ........ (ไปกราบหลวงปู่และบูชาอื่นๆ) (เดินทางจาก ........ )

สำหรับผู้เดินทางไปเอง

1-2. gasnaka ตอกคตปรอท 2 คน (ขับรถไปเองจากหนองคาย)
3-6. Ma-Li ตอกคตปรอท อาจารย์ suttip + น้องชาย + อาจารย์หนุ่ย + พี่ชายจากนครปฐม รวมแล้ว 4 ท่าน (สำหรับกลุ่มของผมจะออกเดินทางจากย่านปทุมธานี แล้วแวะไปรับคุณหนุ่ย ที่อยุธยา..แล้วก็เดินทางไปวัดหลวงปู่เลยครับ)
7-8. louis07 ...... ตอกคตปรอท 2 คน (ขับรถไปเอง เดินทางจากกทม.)
9. then ...... ตอกคตปรอท 1 คน (ขับรถไปเอง เดินทางจากนครสวรรค์)
10-11. หยกเขียว ...... ตอกคตปรอท 2 คน (ขับรถไปเอง เดินทางจากเลย)
12. Palita N ...... ตอกคตปรอท (การเดินทางถ้าไม่จากตัวเมืองเพชรบูรณ์ ก็จากนครสวรรค์ค่ะ)
13-14. 9046 + เพื่อน อีก 2 ผมตอกแล้วครับ แต่เพื่อนผมจะตอกคตปรอท 1 คน (ขับรถไปเองจากตาก)
15. คุณใบโพธิ์.....ตอกคตปรอท 1 ท่าน (เดินทางไปเอง ยังไม่ทราบจากที่ไหน)
16. ekkorn9 ........(ไปกราบหลวงปู่และบูชาอื่นๆ รวม 3-4 คน) (ขับรถไปเองจากศรีราชา)

ผู้ร่วมเดินทาง ที่จะตอกคตปรอท รวม 23 คน
ช่วยดูด้วยนะครับ ว่าถูกต้องหรือเปล่า ช่วยแย้งด้วยนะ ครับ

สรุปเรื่องค่าใช้จ่ายให้อีกครั้งครับ จากข้อมูลที่คุณญาณธรรมเคยให้ไว้และคุณ panamool มาเพิ่มเติมให้ครับ

1.ค่าครูตามกำลังวันเช่นวันอาทิตย์กำลังวัน6 คูณ300 เท่ากับ 1800 บาท (เราไปกันวันอาทิตย์)
2.ค่าปรอทองค์ละ 3200 บาท
3.ค่าบายศรีไหว้ครูบาอาจารย์ประมาณ500-800 บาทคุณอุ้มจะไปสั่งทำให้ๆช่วยกันทำบุญตามศรัทธา ไม่เน้นว่าต้องเท่าไหร่
- ค่ารถตู้คันละ 5000 บาท ถ้าได้สมาชิกครบ 10 ก็จะเฉลี่ยคนละ 500 บาท
- ส่วนจะรู้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายแน่นอนเท่าใดนั้น ต้องรอให้มีการสรุปก่อน(คือรอให้สมาชิกรถตู้ครบสิบครับ)

ว่า แต่ ว่า ใครยังไม่ได้ PM รบกวนทุกท่าน ช่วย PM เบอร์ติดต่อ ชื่อ และที่อยู่ หรือสถานที่ๆ จะเริ่มเดินทาง เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูล ไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้ติดต่อ นัดหมายได้สะดวก นะ ขอรับ

แต่ตอนนี้ต้องรอสรุป อีก ครั้งผมกำหนด คร่าวๆ วันที่ 13 กันยายน จะสรุป วันเดินทางอีก ครั้ง เดี๋ยวต้องรบกวน พี่ญานธรรม โทรเช็ค อีก ครั้ง หนึ่ง ครับ แต่ตอนนี้สรุปว่า คือ วันที่ 19 กันยายน ก่อนนะ ครับ เพราะฉะนั้นรบกวน ช่วยยืนยัน ให้อีก สักครั้ง นะ ขอรับ ใช้สีนี้ ครับ

D-Dom, 7 กันยายน 2010

#3998
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
D-Dom เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

6 พฤษภาคม 2010

โพสต์:

582

ค่าพลัง:

+937
Palita N
สำหรับยามะตูมนิ่มของหลวงปู่เท่าที่ทราบและจำไม่ผิดนะคะเห็นพี่แอ๋วบอกว่าช่วยไม่ให้ผมหงอกด้วยนะคะ หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
ขออนุโมทนาบุญกับสมาชิกบ้านปรอททุกๆท่านค่ะ

อันนี้มีใคร ทราบหรือยัง ครับ เผื่อจะมีคนสนใจเป็นพิเศษ ฮ่าฮ๋าฮ่า
ส่วนผมอายุยังน้อย แต่ก็มีแหลม แหลม ขึ้นมาบ้าง ก็สนใจเหมือนกัน นิ อิอิ

ไปดีกว่าอยู่คนเดียว ผี หรอก

D-Dom, 7 กันยายน 2010

#3999
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
ญานธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

28 เมษายน 2010

โพสต์:

2,936

ค่าพลัง:

+14,705
ไปขุดมาให้อ่านครับจะได้ไม่เหงา เดียวดาย
อ้างอิง <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 12"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 12"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><link rel="themeData" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_themedata.thmx"><link rel="colorSchemeMapping" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_colorschememapping.xml"><style>  </style> http://palungjit.org/forums/[FONT=&quot]วิชาแปลธาตุ-ปรอท-[.17/FONT]116007.html [FONT=&quot] ของหมอพล[/FONT]
<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 12"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 12"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><link rel="themeData" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_themedata.thmx"><link rel="colorSchemeMapping" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CWaiwit%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtmlclip1%5C01%5Cclip_colorschememapping.xml"><style>  </style> [FONT=&quot]เรียน ท่าน.....ที่นับถือ..... ทุกท่านครับ[/FONT]
[FONT=&quot]ผมเคยไปเรียน วิชชา ปรอท....กับ ท่านอาจารย์ พันเอก ชม สุคันธรัต.....[/FONT]
[FONT=&quot]เรียนมาหลายอย่าง.....ท่านบอกผมว่า ... หลวงตาดำในดง[/FONT] [FONT=&quot]สั่งให้ผมเรียน...เพื่อเป็นพื้นฐานของ "อภิญญา".... ตอนนั้น ผมเป็น[/FONT] [FONT=&quot]สามเณรน้อย อยู่.....ก็เรียนๆๆๆ ไป[/FONT] [FONT=&quot]ตามที่ท่านบอก....ท่านบอกว่า....อีกหน่อย วิชชา เหล่านี้[/FONT] [FONT=&quot]จะสูญหายไปหมด......ให้ผมเรียนไว้.....เพื่อช่วยคน.....เพราะ มีหลายวิชชา[/FONT] [FONT=&quot]สามารถช่วยคนได้......[/FONT]
[FONT=&quot]วิชชาปรอท เอง.....ก็สามารถใช้รักษาโรค[/FONT] [FONT=&quot]ได้หลายโรค.....(ใช้พิษฆ่าพิษ).....เพราะรังสีของปรอท[/FONT] [FONT=&quot]มีอำนาจฆ่าเชื้อโรคได้......แต่ต้องสะกดพิษก่อน..........ท่านอาจารย์ชม[/FONT] [FONT=&quot]เคยรักษาโรคมะเร็งให้คนหายมามาก.....ท่านว่า[/FONT] [FONT=&quot]รักษาได้ทุกโรค....ที่มีเชื้อโรคเป็นมูลเหตุ.....บางคน ใกล้ตาย.....แต่ถ้า[/FONT] ... "[FONT=&quot]ทวาร" ยังไม่เปิด...."ธาตุ" ยังไม่แตก....."ลมหายใจ" ยังไม่ขาด......[/FONT] "[FONT=&quot]กรรมดี" ยังรักษา.......ก็ยังสามารถช่วยให้รอดตายได้[/FONT]
[FONT=&quot]ส่วน... "ปรอทสำเร็จ"[/FONT] .....[FONT=&quot]ต้องเป็นผู้ที่มีพลังจิตสูง....มีอาคมแก่กล้า......จึงจะสามารถทำได้[/FONT] .....[FONT=&quot]มีฤทธิ์เสมอด้วย... "เหล็กไหล" ......([/FONT] "[FONT=&quot]เบี้ยแก้"....ที่ศักดิ์สิทธิ์ นั้น......ก็เนื่องจาก อำนาจแห่ง[/FONT] "[FONT=&quot]ปรอท".....ที่ผ่านการปลุกเสกแล้วนั่นเอง.....จะเพิ่มอานุภาพให้กับ ปรอท[/FONT] [FONT=&quot]มากขึ้นไปอีก.......[/FONT] [FONT=&quot]เป็นรองก็แต่........พระพุทธคุณ......เหล็กไหล......และ[/FONT] ..."[FONT=&quot]ปรอทสำเร็จ"....เท่านั้น....)[/FONT]
[FONT=&quot]ผมเคยเสก "ปรอท" เข้าตัว.....ตามที่ ท่านอาจารย์ ชม สอน.....ปรากฏว่า[/FONT] [FONT=&quot]ตบทีเดียวหายหมด....ครั้งแรก ผมก็ตกใจ....นึกว่า[/FONT] [FONT=&quot]มันหายไปไหนหมด......ท่านอาจารย์ ชม....หัวเราะชอบใจ....บอกให้ผม[/FONT] [FONT=&quot]กำหนดจิตที่กลางฝ่ามือ....เพ่งถึง ปรอท.....พักเดียว[/FONT] [FONT=&quot]มาจากไหนก็ไม่รู้.....เต็มมือ....คราวนี้ ท่านบอก[/FONT] [FONT=&quot]ไม่ต้องตบมือแล้ว.....ให้กำหนดจิตอย่างเดียวพอ.....ผมก็ลองทำดู.....มันก็[/FONT] [FONT=&quot]ซึมหายไปหมดทันที.....ท่านชมผมว่า.....ผมมีสมาธิดีมาก......เรียนอะไรก็ง่าย[/FONT] .....[FONT=&quot]ท่านบอกว่า วิชชาเหล่านี้ต้องระวังให้มาก.....มีคุณอนันต์[/FONT] [FONT=&quot]โทษมหันต์.....ดีดนิ้วทีเดียว ทำให้คนตายได้....เรียกว่า[/FONT] "[FONT=&quot]ธนูมือ".....เลือดจะไหลออกจากทวารทั้ง [/FONT]9 ......[FONT=&quot]ตายทันที........ท่านสอนผมอีกหลายอย่าง....ผมไปค้างที่บ้านท่าน แถว[/FONT] [FONT=&quot]เตาปูน......[/FONT]3 [FONT=&quot]วัน [/FONT]3 [FONT=&quot]คืน.......เมื่อปี [/FONT]2538......[FONT=&quot]รุ่งเช้า[/FONT] [FONT=&quot]วันที่สอง.....ผมไม่รู้ จึงเอามือไปจับฝากระติกน้ำของผม[/FONT] [FONT=&quot]ที่ทำด้วยตะกั่ว......สักพัก เห็นควันลอยขึ้นมาจากฝากระติก......พอไปจับดู[/FONT] [FONT=&quot]ก็รู้สึกร้อนมาก.....ฝากระติก นั้น ค่อยๆ[/FONT] [FONT=&quot]สลายกลายเป็นผงสีขาวเหมือนขี้เถ้า......ค่อยๆ[/FONT] [FONT=&quot]เป็นรูพรุนตามที่นิ้วมือผมไปสัมผัส......พอท่านอาจารย์ ชม[/FONT] [FONT=&quot]มาเห็นเข้า......ก็รีบสั่งให้ คนรับใช้ของท่าน นำฝากระติก นั้น ไปต้มน้ำ[/FONT] [FONT=&quot]ให้ปรอทระเหยไปให้หมด........ท่านสั่งไว้ว่า อย่าเรียก ปรอท[/FONT] [FONT=&quot]มาที่ปาก......เพราะจะทำให้ฟันหลุดได้ และ ถ้าเสก[/FONT] [FONT=&quot]ปรอทเข้าตัวแล้ว......ห้ามไปโดนทองคำ[/FONT] [FONT=&quot]เพราะจะกลายเป็นผงขี้เถ้าเหมือนกัน.......ท่านบอกว่า .... เข้าป่า[/FONT] [FONT=&quot]ไม่ต้องไปกลัวอะไรเลย........สบายมาก.....มีแค่ น้ำกิน[/FONT] [FONT=&quot]อย่างเดียวอยู่ได้เป็นเดือน.......ปัจจุบันนี้ ผมปฏิบัติธรรม[/FONT] [FONT=&quot]อย่างเดียว......เรื่อง "ฤทธิ์" นั้น.......ปล่อยวางหมดแล้ว.......[/FONT]
[FONT=&quot]หลวงปู่ชื้น[/FONT] [FONT=&quot]พุทธสโร....วัดญาณเสน....อยุธยา.....ครูบาอาจารย์ของผมอีกองค์หนึ่ง.....ก็[/FONT] [FONT=&quot]สำเร็จวิชชา "ปรอท".....ในสมัยที่ท่านยังแข็งแรง.....ความจริง[/FONT] [FONT=&quot]ท่านสำเร็จธรรม นานแล้ว......แต่อยู่ว่างๆ เลยทำดูเล่นๆ......ทำจนได้[/FONT] "[FONT=&quot]ปรอทสำเร็จ" .....และ แปรธาตุ ตะกั่ว เงิน และ ปรอท...หากใช้ ทองคำหนัก [/FONT]1 [FONT=&quot]บาท.....จะได้ ทองคำหนัก [/FONT]10 [FONT=&quot]บาท.....โดยใช้สมุนไพร ชื่อ ...[/FONT] "[FONT=&quot]สุวรรณขีด".....ด้วย......พอทำได้ ท่านก็โยนทิ้งลงน้ำไปหมด.......ท่านว่า[/FONT] [FONT=&quot]ทิ้งลงแถว สะพานทางเข้าวัดเชิงท่า นั่นเอง......เพราะตอนท่านทำ[/FONT] [FONT=&quot]ท่านทำร่วมกับอดีตเจ้าอาวาสวัดเชิงท่า......ใกล้ๆ วัดญาณเสน[/FONT] [FONT=&quot]นั่นเอง.....อาจารย์ของหลวงปู่ชิ้น....ชื่อ พระอาจารย์ เสน[/FONT] [FONT=&quot]เตชะธัมโม......เป็นพระธุดงค์.....พลังจิตสูงมาก....เคยมีทหารมาขอของดีท่าน[/FONT] .....[FONT=&quot]ท่านเลยเอาเศษผ้าเหลืองเก่าๆ มาเขียนอักขระ [/FONT]3 [FONT=&quot]ตัว ว่า....เพ เพ[/FONT] [FONT=&quot]เพ....(เป็นอักษรขอม)....ทหาร ก็ดีใจ เอาไปลองปืนทันที......ปรากฏว่า[/FONT] [FONT=&quot]นัดแรก ยิงไม่ออก.......นัดที่สอง ยิงออก แต่ไม่โดนผ้ายันต์เลย (ทั้งๆที่[/FONT] [FONT=&quot]จ่อยิงใกล้ๆ).......พอ นัดที่สาม ยิงออกอีก แต่คราวนี้[/FONT] [FONT=&quot]ลูกกระสุนดันวิ่งย้อนกลับ เฉียดหน้า คนลองยิงไปเลย.......[/FONT]<o></o>
[FONT=&quot]หลวงปู่ชื้น[/FONT] [FONT=&quot]ท่านบวชกับ หลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ แห่ง สระบุรี......หลวงพ่อยอด[/FONT] [FONT=&quot]ก็เป็นพระที่ไม่ธรรมดา องค์หนึ่ง.......[/FONT]
[FONT=&quot]ก่อนที่ท่านจะละสังขารไม่กี่ปี.....ท่านได้สั่งให้ผมไปหาต้น.....(ต้นอะไร[/FONT] ....[FONT=&quot]ก็จำชื่อไม่ได้แล้ว[/FONT] [FONT=&quot]ต้องขออภัยด้วย)....มา........แล้วท่านจะทำ..."ปรอทสำเร็จ"....ให้......ผม[/FONT] [FONT=&quot]หาอยู่ [/FONT]3 [FONT=&quot]ปี......หาไม่ได้......เลยอดได้......"ปรอทสำเร็จ"....[/FONT]
[FONT=&quot]แต่[/FONT] [FONT=&quot]ท่านก็ให้ความเมตตาผมมาก........มากจนสุดจะบรรยาย......มีอะไรดีๆ....ท่านจะ[/FONT] [FONT=&quot]ให้ผมหมด......สอนผมทุกอย่าง........ผมรักและเคารพบูชาท่านมาก......เคยเอา[/FONT] [FONT=&quot]เท้าของท่าน......มาวางบนศรีษะ......มารู้ภายหลังว่า...หลวงปู่ดู่[/FONT] [FONT=&quot]วัดสะแก....เรียกท่านว่า....หลวงพี่ชื้น.....และ ยกย่องว่า......ท่านเป็น[/FONT] "[FONT=&quot]พระทองคำ" ด้วย.....[/FONT]

[FONT=&quot]สมัยที่ท่านยังแข็งแรง ท่านจะสงเคราะห์คนที่เป็น โรคริดสีดวงทวาร.....ด้วย[/FONT] [FONT=&quot]วิชชา[/FONT] "[FONT=&quot]สูญฝี".....โดยจะตอกตะปูที่เสาไม้.....แล้วบริกรรมคาถา.....เพ่งจิตไปที่[/FONT] [FONT=&quot]ผู้ป่วย......ไม่เกิน [/FONT]3 - 7 [FONT=&quot]วัน......หายสนิท......ปัจจุบัน[/FONT] [FONT=&quot]สรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย......ท่านเคยป้อนข้าวผม[/FONT] [FONT=&quot]ตอนที่ผมเป็นเณรน้อยด้วย......ก่อนป้อน ท่านจะเสกคาถานานมาก....ป้อนให้ผม[/FONT] 3 [FONT=&quot]คำ......แล้วให้พรว่า......จงสำเร็จทุกอย่าง......ผมก็ก้มลงกราบที่เท้าท่าน[/FONT] ......[FONT=&quot]บางครั้ง ผมก็จะป้อนข้าวให้ท่าน (ถ้าไปตอนฉันเพลพอดี หรือ[/FONT] [FONT=&quot]ไปถึงตั้งแต่ [/FONT]8 [FONT=&quot]โมงเช้า แล้วอยู่ยาว....)[/FONT] ........[FONT=&quot]ไปหาท่านทุกครั้ง.....ท่านก็จะท่องกลอนธรรมะให้ผมฟัง.....เป็นกลอน[/FONT] [FONT=&quot]ธรรมะที่ไพเราะมากๆ......ท่องกลอนเสร็จ......ท่านก็จะเอามือของท่านมากุมที่[/FONT] [FONT=&quot]หัวของผมไว้.....แล้วสวด บทสัจจกิริยคาถา (นัตถิเม ฯ[/FONT] ).....[FONT=&quot]แล้วกล่าวอัญเชิญพระรัตนจักรชัยสิทธิ์.......พร้อมกับประพรมน้ำมนต์[/FONT] [FONT=&quot]จนตัวผมเปียกชุ่ม.....เสร็จแล้ว ท่านก็จะสอนธรรมะต่อ......บางที[/FONT] [FONT=&quot]ก็ให้นั่งสมาธิตามท่าน......โดยท่านจะคุมจิตให้......ตอนหลัง[/FONT] [FONT=&quot]ก่อนท่านจะละสังขาร ได้สั่งให้ผมไปต่อวิชชากับหลวงปู่ทวด.....(ท่านเรียก[/FONT] [FONT=&quot]หลวงปู่ดู่.....ว่า หลวงปู่ทวด...)......ท่านบอกให้ผมไปนั่งสมาธิที่[/FONT] [FONT=&quot]วัดสะแก.....แล้วหลวงปู่ทวดจะมาสอน......ตอนนั้น[/FONT] [FONT=&quot]ผมยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่นัก......พอไปนั่งที่วัดสะแกจึง[/FONT] "[FONT=&quot]รู้"......รู้ว่าอะไรเป็นอะไร.....และต้องทำอย่างไรต่อไปอีก.......ค้นหา[/FONT] [FONT=&quot]ตัวเองเจอแล้ว......สบายตัวแล้ว.....ไปมาทุกสำนัก.....ทั้ง วิชชาธรรมกาย[/FONT] [FONT=&quot]มโนมยิทธิ ยุบหนอพองหนอ ฯลฯ.......ไปมาหมด.......ก็ดีหมดทุกสำนัก[/FONT] [FONT=&quot]ทุกวัด........แต่พอมาเจอทางของตัวเองแล้ว.......ก็จบ......ไม่ต้องดิ้นรน[/FONT] [FONT=&quot]แสวงหาอะไรแล้ว.....มันพอแล้ว......อิ่มแล้ว......เหลือแต่...[/FONT] [FONT=&quot]พยายามละสังโยชน์ [/FONT]10 .....[FONT=&quot]และ .... หมั่นสร้างบารมี [/FONT]10 ..... [FONT=&quot]เท่านั้น......[/FONT]

[FONT=&quot]สุดยอดในด้านอธิบายธรรมให้เข้าใจง่าย......ต้อง..... หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง[/FONT]

[FONT=&quot]สุดยอดแห่งบารมีธรรม.......ต้อง .....หลวงปู่ทวด ...(หลวงปู่ดู่ วัดสะแก)[/FONT]

[FONT=&quot]สุดยอดแห่งการปฏิบัติในยุคปัจจุบัน..........ต้อง..... หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต[/FONT]

[FONT=&quot]ครูบาอาจารย์ทุกรูปทุกองค์......ต่างก็มีคุณธรรมความดี......ผม[/FONT] [FONT=&quot]ขอกราบนอบน้อมแด่ทุกท่านทุกองค์.......ขอน้อมนำคำสอนและบารมีธรรมของทุกท่าน[/FONT] [FONT=&quot]ทุกองค์มาสถิตอยู่ภายในตัว ด้วยเทอญ.........จนกว่าจะถึงซึ่ง[/FONT] "[FONT=&quot]พระนิพพาน"......เทอญ[/FONT]

[FONT=&quot]ขอคารวะ.....ทุกท่าน[/FONT]

[FONT=&quot]หมอพล.....[/FONT]<o></o>

[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]

ญานธรรม, 7 กันยายน 2010

#4000
- ถูกใจ x 8
- ดูรายการ

หน้า 200 ของ 417

สถานะของกระทู้:: กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...