วิธีแก้อารมณ์ที่โดนมารหลอกขณะปฏิบัติกรรมฐาน

ขอบคุณสำหรับข้อมูลจ้าพี่ตั้มhello4(f)

 

อนุโมธนาบูญเจ้าคะ ขอบคุณข้อมูลดีๆๆ

 

ไม่เข้าใจค่ะ งงมากๆอธิบายให้ชัดเจนกว่านี้ได้ไหมคะ

 

หากว่ามันเป็นนิมิตต่างๆ ที่เกิดขึ้น รับทราบไว้เฉยๆ อย่าเพิ่งเชื่อตามนั้น
จนกว่าเหตุการณ์มันเป็นไปตามนิมิตถึงน้อมใจเชื่อ
แต่ให้เชื่อเฉพาะเรื่องที่เป็นไปแล้ว
เรื่องที่ยังไม่เป็นไปก็อย่าเพิ่งเชื่อต่อไปตามเดิม



ขอบพระคุณมากค่ะ
บางที ก็เป็นเสียงที่เป็นลักษณะปริศนาธรรม
ติงเคยเอามานั่งคิด ก็คิดไม่ตก จึงวางเฉยเสีย
​

 

ขออนุโมทนาด้วยค่ะ การระลึกถึง พระพุทธองค์ พระสงฆ์ ก็เป็นพุทธานุสติแล้ว อย่างว่า
มารไม่มีบารมี ไม่เกิด

 

กำลังสงสัยเรื่องนี้อยู่พอดี
อนุโมทนา สาธุคับ
​

________________________________________________________________________

เล่ม 1. หนทางแห่งการพ้นทุกข์.rar
เล่ม 2. หนทางแห่งการบรรลุ.rar

 

ไม่ต้องงงครับ<O</O
ต้องปฏิบัติก่อน (นั่งสมาธิ เจริญสมถะ-วิปัสสนาก่อนครับ)<O</O
<O</O

เวลาเรานั่งสมาธิ ทั่วไปก็ได้ยินสอนให้ภาวนาว่า "พุทโธ" ใช่ไหมครับ<O</O
เมื่อภาวนาไปแล้วบางครั้ง อาจจะเห็นภาพอะไรขึ้นมา แสงสีอะไรขึ้นมา<O</O
ไม่ต้องสนใจ รู้แล้ววาง คือรับรู้ว่าเห็น ว่ารู้สึก ไม่ต้องไปสนใจภาพนั้น แสงนั้น<O</O
<O</O

แต่บางครั้งก็มีการใช้ภาพพระพุทธรูป หรือภาพพระสงฆ์มาเป็นนิมิตเพื่อนึกถึงให้เป็นพุทธานุสสติหรือสังฆานุสสติ เมื่อภาวนาไป ๆ ภาพที่ใช้เป็นนิมิตนั้นบางทีอาจมีการเปลี่ยนไป เช่นจากประทับนั่ง เป็นไสยาสน์ เป็นประทับยืน ทรงเดินอย่างนั้น ให้กำหนดรู้เอาไว้เฉย ๆ แต่บางครั้งนั้นจะมีการแทรกของมาร(ต้องไปทำความเข้าใจเรื่องมารเอาเองครับ) เช่นการแสดงภาพพระพุทธเจ้าแสดงแสง สีรัศมี (ฉัพพรรณรังสี) โดยมารจะแปลงเป็นพระพุทธเจ้าถ้าเช่นนี้ให้เราถือเอารูปนั้นเป็นองค์ภาวนา ถ้านิมิตนั้นบอกอะไร ไม่ต้องสนใจอย่าถาม อย่าเชื่อในสิ่งที่บอก ให้รับรู้เอาไว้ เท่านั้น จะแม่นไม่แม่น อย่าพึ่งสนใจ เพราะเรามักจะสนใจในเรื่องนี้กันมาก จนสมาธิเสีย และกลายเป็นมิจฉาทิฐิกันมาก <O</O
ถ้าถามว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นมาร อันนี้ ต้องใช้ประสบการณ์พอสมควร ผู้ที่ปฏิบัติมาในระดับหนึ่งจะเริ่มรู้และเข้าใจ แต่จะชนะหรือไม่ก็แล้วแต่ความสามารถครับ จึงบอกว่าให้รับรู้เอาไว้เฉย ๆ เมื่อมีภาพหรือนิมิต ปรากฏเป็นภาพพระ ก็ให้กำหนดภาพนั้นเอาไว้ นึกว่านี้คือภาพพระพุทธรูป ถือเป็นพุทธานุสสติ ถ้าเป็นภาพพระสงฆ์ ถือว่าเป็นสังฆานุสสติ ท่านถึงได้บอกว่าแกล้งแล้วเราได้ดี ซึ่งขึ้นอยู่ที่เราเองครับ<O</O
สิ่งที่บอกทั้งหมดนี้ถือเป็นเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้นเองครับ จากการปฏิบัติจริง ๆ ผู้ปฏิบัติจริง ต้องเอาจริง ตั้งใจจริง จึงจะได้เห็นของจริง<O</O
<O</O

หากมีใครกล่าวว่าเฝือบ้าง มั่วบ้าง หลอกบ้าง หากไม่ได้มาทางสายนี้ย่อมไม่เข้าใจ และเห็นว่าไม่เป็นแก่นสารเป็นธรรมดา ดังนั้นถ้าจะไปถามใคร จงถามผู้ที่มีความเข้าใจในการปฏิบัติแบบนั้น จึงจะได้รับคำตอบที่ถูกต้อง เพราะคนเราต่างจริต ต่างนิสัย ย่อมมีความชอบ ความเข้าใจต่างกันครับ <O</O
ผมยังไม่ใช่ผู้มีความรู้ความสามารถใด ๆ เพียงแต่ใช้ความรู้ ความสามารถของครูบาอาจารย์เอาความเลวของตัวเองมาแนะนำ ไม่อยากให้คนอื่นเลวตามผม เท่านั้น

 

กลัวอยู่อย่างเดียวคือ...จิตตัวเองหลอกตัวเอง หรือที่เค้าเรียกกันว่า"อุปาทาน" อันนี้น่ากลัวที่สุด ....สาธุๆๆ

 

อนุโมทนา สาธุ สาธุ ครับ อย่าให้จิตแล่นไปสู่อารมณ์ภายนอก ถ้าเผลอเมื่อรู้ตัวให้รีบดึงกลับมา ความฝันหรือจินตนาการสำหรับบางเรื่อง ก็เปรียบได้ดั่งละครที่เรามีจิตนาการไปกับเรื่องจนเกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน อยากจะดูและตามดูมันไปเรื่อยๆเพื่ออยากรู้ตอนจนของมัน แต่หากว่าเรามัวไปหลงติดอยู่กับสิ่งเหล่านั้น โดยที่มันเป็นแค่ภาพลวงตา จับต้องม่ได้ ไม่มีตัวตน
วิธีละง่ายๆ ก็คือ อย่าไปดูสิ่งที่ถูกเห็นเหล่านั้น ให้ดูผู้เห็น แล้วสิ่งที่ไม่อยากเห็นนั้นก็จะหายไปเอง สาธุ

 

เคยนั่งแล้วเห็นพระพุทธรูปที่บ้าน แต่มีเสียงบอกว่าให้จ้องไปไม่มีอะไรให้ดูไปเฉยๆ แล้วสักพักพระพุทธรูปนั้นก็หายไปเหลือแต่โครงร่างที่เป็นเหมือนคนเท่านั้นเหมือนเราล่องลอยอยู่ในอวกาศเลยทีเดียว

 

ขอบคุณครับมีประโยชน์มากๆครับ

 

อนุโมทนาสาธุ การนั่งสมาธิดิฉันไม่ทราบเป็นไงทำมาสองปีกว่ายิ่งพยายามเข้มขึ้นงัยกลับมีความรู้สึกถอยหลังไปเรื่อย เหนื่อยค่ะแต่จะไม่ท้อ รู้สึกยิ่งอ่านมากยิ่งรู้มากเลยคิดไปก่อนรึเปล่าไม่ทราบ เพราะแต่ก่อนไม่คิดมากพยายามสงบดูเหมือนจะไปได้สวยมากๆเลย เข้าทักทายแค่นั้นค่ะ

 

ขอบคุณครับมีประโยชน์มากๆครับ<!-- google_ad_section_end -->