ร่างทรง มีจริงหรือ?

ตามความเชื่อของคนไทย(จำนวนไม่น้อย)นับถือร่างทรงมาก จะเห็นได้ว่าร่างทรงที่ไหนดังๆ ก็กรูกันไปหา ไปขอหวย ไปให้สะเดาห์เคราะให้ (เคยเห็นอยู่บ่อยๆ) ก็เลยอยากจะรู้ว่า จริงๆเป็นจริงเช่นนั้นไหม แล้วถ้าเป็นจริงเหตุใดองค์เทพฯจึงลงมาประทับร่าง หรือถ้าไม่เป็นจริง แล้วสิ่งที่อยู่ในร่างของมนุษย์คนนั้นๆ คืออะไร ช่วยไขให้หายข้องใจด้วยเทอญ<!-- google_ad_section_end -->

 

ค้นที่จิตจึงเห็นแจ้ง ค้นที่ตาเห็นแค่ตา ค้นที่ปากรู้แค่ลมปาก

จริงหรือไม่คงเป็นเรื่องของผู้เป็นร่างทรง มากน้อยต่างกัน บุญบารมีรับได้มากน้อยต่างกัน จึงเห็นต่างกันรับร่างต่างกัน ผู้เป็นร่างดีแล้วจึงสงบ

 

อื่มๆๆ
เป็นคำถามที่น่าสนใจเหมือนกัน สำหรับคนไทย แล้วหากว่าเราสังเกต การทรงเจ้านั้นก็คงมีมากในแถบประเทศไทย ไม่ค่อยพบในประเทศอื่นๆ
ถามว่าการทรงนั้นมีจริงหรือไม่นั้น อันนี้อยู่ที่ประสบการณ์ส่วนบุคคล และหากคนที่มีอภิญญา มีฌาน หรือได้มโนมยิทธินั้น ก็จะสามารถพิสูจน์ได้โดยง่ายไม่ได้ยาก หากคนธรรมดาทั่วไปนั้น ก็อาจจะต้องสังเกตเรื่องของคำสอนเป็นหลักว่า สอนอะไร หากว่าสอนให้ดำเนินอยู่ในทางแห่งความดี สอนเรื่องมรรค เรื่องผล หวังการหลุดพ้น อันนั้นก็น่าเขื่อได้ในระดับหนึ่งว่าเป็นจิตแห่งเทพในระดับสูง หากไม่ใช่แล้วก็อาจจะเป็นสัมภเวสี หรือว่าเป็นวิญญาณอื่นก็ได้
อย่าไปนึกว่าเขาทำอะไรไม่ได้ หากเขามีกำลังใจแก่กล้า และคนที่มีวาสนาต้องกันกับเขาเขาก็สามารถใจกำลังใจตนเองบังคับให้คนนั้นทำอะไรตามที่ใจเขาต้องการได้เช่นกัน ดังนั้นการที่ว่าร่างทรงจริงนั้นหรือไม่ อันนี้ก็ต้องไปพิสูจน์เอา
แต่สิ่งที่ควรใส่ใจนั้นคืออะไร ควรใส่ใจว่าเขาเป็นร่างทรงจริงหรือไม่ หรือเปล่า หรือสนใจใจเราว่า ดีแล้วหรือยังดีกว่าหรือไม่ หากว่าใจเราเองดี ไม่มีกิเลสสะสมแล้ว รู้อยู่แล้วว่ากิจอันควรทำไม่มีแล้ว ดังนี้ แล้วจะไปเดือดร้อนทำไมว่าร่างทรงนั้นจะมีจริงหรือไม่

 

เป็นไปได้ยากมากๆครับ ปกติแล้ว กายของมนุษย์เป็นกายหยาบที่ประกอบไปด้วยสิ่งโสโครกมากมาย ถ้าศีลไม่บริสุทธิ์ กุศลไม่มาก เทวดาที่ครองร่างเทวกายไม่อยากยุ่งด้วยหรอกครับ
ส่วนมากที่มาประทับทรงจริงๆ เป็นพวกมหิทธิกาเปรตมากกว่าครับ หรือไม่ก็เทวาอันธพาลที่ต้องการเครื่องสังเวย ยิ่งเป็นการประทับทรงพระโพธิสัตว์อย่างพระโพธิสัตว์กวนอิม ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยครับ บอกได้เลยว่าสัญญาวิปลาสแล้ว

 

ขออนุญาติตอบตามสมควรคร่ะ ควรไม่ควรเเล้วเเต่ว่าเเต่ละท่านจะขบคิดกัน
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความคิดจากเยาวชนไทยคนหนึ่งค่ะ

การที่จะมีญานต่างๆได้นั้น ย่อมเเตกต่างกันออกไป เเล้วเเต่บุญบารมีของเเต่ละคนที่ได้สั่งสมมาในอดีตชาติ เป็นเรื่องของบุญกุศล ของใครของมัน ของฉันของเธอ ไม่สามารถตักเเบ่งมาวัดตวงกันได้
ขออนุญาติยกตัวอย่างเรื่องกระปุก หากมีคนสองคน มีกระปุกคนละหนึ่งใบ คนเเรก หยอดเหรียญลงไปอย่างตั้งใจสะสม วันละ หนึ่งเหรียญ สองเหรียญ ทุกๆวันๆมิได้ขาด กับอีกคนหนึ่งที่หยอดครั้งละเหรียญเเต่นานๆทำที
ลองทายดูสิ ว่าใครจะไเ้เหรียญเต็มกระปุกมากมายกว่ากัน????

เพราะฉะนั้นหากเวลาปฏิติ นั่งสมาธิหรือการเพ่งญานหรือสิ่งใดก็เเล้วเเต่นั้น จึงเเตกต่างกันออกไปใครสะสมมากก็ได้เยอะ เพียงสะกิดหน่อยหนึ่งก็ตื่น เเต่ใครที่ไม่มีติดตัวมาเลยนั้นยากทีเดียวที่จะได้เหนเเสงธรรม
ที่กล่าวมาเ้เล้วทั้งหมดนี้หมายถึงเรื่องการบุญบารมีเเต่ละคน

ต่อมาข้าพเจ้าขออนุญาติอธิบายเรื่องมุมมอง หรือ ทิฐิ ที่มักจะเกิดขึ้นในจิตใจขอบคนปัจจุบัน บางคนจะคิดว่าตนเองนั้นเก่งเเล้ว เรานั้นศึกษามานานเเล้วจึงตั้งจิตว่าความรุ้ที่ตนเองได้มานั้นประเสริฐเเล้วไม่มีใครเทียบได้เเละรุ้ได้มากกว่าเราเเล้ว นั่นเเหละที่ เรียกว่า มิจฉาทิฐิ
คนที่มีมิจฉาทิฐินั้นมักจะปักใจเชื่อในความคิดของตัวเองก่อนเสมอ เเละยากนักที่จะคิดว่าความคิดผุ้อื่นนั้นถูกต้องเเละเถรตรงกว่าทางของตัวเองเสมอ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของมนุษย์
การที่ได้กล่าวมาว่า เรื่องนั้นไม่จริงเรื่องนี้ไม่จริงนั้นเป็นเรื่องมิควร เพราะทั้งสามโลกนี้มิได้มีสิ่งใดมั่นคงเเละถาวร
ยก ตย ง่ายๆเรื่องของการ ต้นไม้ ให้เรามองว่าเเต่ก่อรต้นไม้นั้นยังเล็กก็ยังอาศัยการเจริญเติบโตเเละเเปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ค่อยผลิดอกออกผลเเละร่วงโรยไปที่สุด

 

เเม้ว่าต้นไม้ที่มีรากเเข็งเเรงยังสามารถโรยราเเละเเปรเปลี่ยนได้ สิ่งต่างๆก็ย่อมเกิดขึ้นเเละดับไปเเล้วได้เช่นกัน มนุษย์มีกายหยาบก็จริง เเต่หากว่าผุ้นั้นมีกายที่บริสุทธิ์ ละเว้นจากการทานเนื้อสัตว์ ละเว้นจากอบายมุขทั้งปวงเเล้ว หมั่นภาวนาเเละรักษาศีล ซึ่งข้าพเจ้าเองมั่นใจว่า สิ่งเหล่านี้เเหละที่ฟ้าดินจะเล็งเห็นเองว่าใครที่สมควรได้รับเมตตาในการลงมาโปรดเพื่อช่วยปลดปล่อย

ตามที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมาเเล้วนี้ไม่ทราบว่าท่านที่ได้เเสดงความเห็นว่าไม่มี เเละไม่จริงนั้นตามที่ข้าพเจ้าได้อ้างอิง ทำได้เเล้วหรือยัง????
ผุ้ที่จะมีจิตใจพระโพธิสัตว์นั้นหาได้เป็นกันง่ายไม่ หากเเต่ต้องสั่งสมบุญบารมีเเละบุญฤทธิ์มาหลายเเสนหลายร้อยชาติ เเละละเเล้วซึ่งชื่อเสียงเเละเงินทอง เเละลาภยศต่างๆ ไม่หลงไหลในอบายมุขใดๆ ซึ่งผู้ที่ท่านอวโลกิเตศวรเจ้าจะมาประทับจิตได้ั้น ั้น จะต้องเป็นบุคคลที่มีภาวะจิตสะอาดตามที่ได้กล่าวมาเเล้วนี้ หากเเม้ว่าจะอ้างว่า ได้ทำการปฏิับัติมาอย่างดี ได้รับการสั่งสอนจากสถานที่ปฏิบัติที่มีชื่อชั้นเยี่ยม นั่นก็มิได้เป็นเครื่องหมายว่าเป็นสิ่งดีที่สุด ถูกต้องที่สุดเเละมิได้เป็นเครื่องหมายว่าหลุดพ้นเสียด้วย เหตุใดเล่า จึงไม่คิดหาทางพ้นทุกข์เสียดีกว่า ว่าต่อไปนี้ทำอย่างไรหนอจะพ้นทุข์ ดีกว่าการมานั่งเสียเวลาว่า สิ่งใดจริง สิ่งใดลวง มันมีคุณค่ามากมายขนาดนั้นเชียวหรือกับคำตอบนี้
ก่อนจะตัดสินสิ่งใดต้องดูปัจจัยต่างๆเป็นสำคัญหาใช่การเพียงเเต่มองผ่านๆไม่ นั่นมิใช่วิถีทางเเห่งผู้ที่มีธรรมจะกระทำกัน เพราะู้ผุ้ที่มีจิตใจดีนั้นย่อมจะเล็งเห็นความทุกข์ของเหล่าเวนัยสัตว์มาก่อนเสมอเเละอยากจะช่วยเหลือให้พ้นทุกข์
การได้หลุดพ้นนั้นเล่าต่างหากที่เป็นเหตุที่ควรจะถูกพูดถึง มิใช่การยกย่องว่าร้ายเเก่ใครๆ


ฉากฉะนั้นการจะตัดสินสิ่งใด อย่าได้ใช้เพียงเเค่จิตใจของเราเพียงอย่างเดียวมาตัดสินหากเเต่ต้องมีความยุติธรรมเเละมองเห็นสิ่งนั้นอย่างเป็นจริง มีสิ่งใดในโลกนี้บ้างที่จริงเเท้เเน่นอนอย่างที่สุด ????
สิ่งใดบนโลกใบนี้มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า อย่าได้คิดว่าไม่มีเลย

ข้อความนี้เป็นความเห็นเพียงหนึ่งเสียงที่ตั้งใจช่วยเหลือเหล่าผู้ตกยาก เพื่อฉุดช่วยคนที่มีดวงตามืดบอดเเละจิตใจเต็มไปด้วยทิฐิเเห่งตนเอง หากไม่ถูกใจผุ้ใด หรือบิดเบือนคำสอนของพุทธองค์ ข้าพเจ้าก็ขออภัยด้วย ควรมิควร เเล้วเเต่สวรรค์จะเเลเห็นตามสมควร