ขอเชิญร่วมบูรณพระบรมธาตุและพระพุทธบาทสี่รอยฯทั่วสากลภิภพ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

อนุโมทนาด้วยครับ เคยไปกราบมาครั้งนึงที่นั่นมีพระอยู่ท่านนึง ประวัติท่านจบโทจากนอกครับ ท่านดูน่าเลื่อมใสมากครับ

 

โมทนาบุญ

​

พระพุทธบาทสี่รอยจำลอง วัดป่าดาราภิรมย์ จำลองจากพระพุทธบาทสี่รอย ที่แม่ริม จ.เชียงใหม่
(verygood) ​

 

ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

​

รอยพระบาทสี่รอยปัจจุบันนี้มีการค้นพบใหม่หลายแห่งครับ แต่ที่พระพุทธบาทสี่รอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และที่พระธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร เป็นพระบาทสี่รอยที่มีการค้นพบมาแต่เดิม โดยรอยที่แม่ริมจะเหยียบชิดริมด้านซ้ายของขอบพระบาท อาจจะเป็นที่มาของคำว่า"แม่ริม" ส่วนที่พระธาตุเชิงชุมจะเหยียบซ้อนกันลงไปตรงจุดกลาง
ท่านใดมีรูปช่วยลงให้หน่อยครับ โดยเฉพาะคนสกลนคร ลืมไปแล้วว่าที่พระธาตุเชิงชุม เป็นรอยพระบาทซ้ายหรือขวาครับ ขอบคุณมากครับ
​

 

รอยพระบาทที่สกลนครคับ

รอยพระบาทจำลองคับ
(อยู่ในวิหารข้างพระธาตุคับ)

พระธาตุเชิงชุมคับ​

ปล.ผมอยู่สกลมาตั้งนานไม่ค่อยรุ้เรื่องของพระธาตุรบกวนพี่sravnaneอธิบายและเล่าความเป็นมาให้ฟังเรื่องรอยพระบาท,พระธาตุจักได้โมทนาบุญนะคับ...
​

 

ขอโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

​

ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ กระทงสวยมากค่ะ ขอโมทนานะค่ะ โชคดีจริงๆค่ะที่ได้มีโอกาสลอยกระทงถวายในพระบาทสี่รอย เรียกว่าถึงรอยพระบาทเลยนะค่ะ อยากหาโอกาสสักครั้งไปลอยบ้างค่ะ ตอนนี้ขอร่วมโมทนาก่อนนะค่ะ
(verygood) (verygood) (verygood) (verygood) ​

 

ขอร่วมโทนาบุญฯ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

 

ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

​

ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ เป็นรอยพระบาทข้างขวา เหมือนกับที่แม่ริมเลยครับ ประวัติพระธาตุเชิงชุมและรอยพระพุทธบาทฯ มีความเกี่ยวพันกับตำนานพระอุรังคธาตุ(พระธาตุพนม) ใครพอทราบประวัติลงให้ทีครับ เพื่อจะได้โมทนากันครับ
(verygood) (verygood) (verygood) (verygood) ​

 

รอยพระพุทธบาทสี่รอย ในประเทศไทย

​

รอยพระพุทธบาทสี่รอยในประเทศไทย ที่พบแล้วมีหลายแห่งเช่นที่ วัดเขาพระศรีสรรเพชร์ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี วัดเขายายหอม อ.เทพย์สถิตย์ จ.ชัยภูมิ
วัดภูแฝด อ.เมือง จ.ชัยภูมิ พระตำหนักแดง ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี อันนี้น่าจะใกล้บางกอกมากที่สุดครับ ฯลฯ
รบกวนใครมีรูปหรือประวัติช่วยลงให้หน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ
(verygood) (verygood) (verygood) (verygood)
​

 

(i) (i) (i) (i) (i) (i) (i) (i) (i)
(f) พระตำหนักแดง ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี (f)

(i) รูปพระบาทอ่างศิลาบางส่วนครับ (i)
(i) เอามาให้โมทนาบุญ(i)
(i) น้อมถวายบุญทั้งหมดนี้เป็นพุทธบูชาครับ(i)
(i) ขอโมทนาบุญทุกท่านครับ(i)



(i) (i) (i) (i) (i) (i) (i) (i) (i) ​

 

ร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

​

ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ ขอบารมีพระและพรหมเทพเทวาทั้งหลายที่ได้ปกปักรักษาพระศาสนาฯ ให้พุทธศาสนิกชนเจริญร่งเรืองตั้งมั่นในธรรม และมกำลังสามารถรักษาพระศาสนาให้คงอยู่ตลอดกาลนานเทอญฯ
(verygood) (verygood) (verygood) (verygood) ​

 

ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

​

ขอร่วมดมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ ดีมากเลยครับ ขอบารมีพระและพรหมเทพเทวาที่ปกปักรักษาพระศาสนาฯ ให้เหล่าพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์มีบารมีเต็ม ได้รับการพยากรณ์โดยเร็วพลันทุกๆท่าน เพื่อเป็นกำลังใหญ่ในการค้ำจุนพระศาสนาตลอดไปครับ
(verygood) (verygood) (verygood) (verygood)
​

​

 

ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

​

เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าของเราได้เสวยพระชาติเป็นพญากวางทอง,พระรถเสน ฯลฯ ได้มาอาศัยสถานที่แห่งนี้บำเพ็ญเพียรบารมีฯ ครั้นพระองค์ได้ตรัสรู้แล้วได้เสด็จมาสรงน้ำในอ่างน้ำและประทับรอยพระบาทฯ ตามพุทธประเพณีของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ในกัปล์นี้
ในบริเวณจะมีรอยพระบาทเกือกแก้วสี่รอย(เป็นสระน้ำขนาดใหญ่พอสมควร) และรอยอื่นๆอีกมาก

(i) ปล.หากมีรูปอื่นพร้อมแผนที่การเดินทางด้วยก็ดีครับ ​

 

โมทนาทุกบุญด้วยครับเป็ประโยชน์แก่เหล่าพุทธภูมิโดยแท้

 

ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง

(i) ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ดีมากครับ ที่ได้ให้ข้อมูลให้สามารถเข้าถึงพระบาทสี่รอยได้สะดวกขึ้นครับ ที่นี่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯเท่าไรครับ สาธุ สาธุ สาธุ
(verygood)

 

รูปบางส่วนและแผนที่ครับ

 

ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ ขอบารมีพระคุ้มครองรักษา
รอยพระบาทสี่รอยให้คงอยู่จนครบห้าพันปี และจนถึงสมัยพระศรีอาริย์ ตามพุทธพยากรณ์ด้วยเทอญ
(verygood) (verygood) (verygood) (verygood)

 

วันก่อนผมไปศาลเจ้าพ่อหอกลอง มีการบอกบุญผ้าป่าที่จะนำไปถวายพระพุทธบาทสี่รอยที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ด้วยครับ เมื่อวานไปอีกครั้ง กองผ้าป่ายังอยู่ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะนำไปถวายกลางๆ เดือนธันวาคมนี่แหละครับ

 

ประวัติพระธาตุเชิงชุม

ประวัติพระธาตุเชิงชุม​

พระธาตุที่เห็นในปัจจุบันนี้เป็นพระเจดีย์ที่สร้างใหม่ครอบเจดีย์องเดิมอีกชั้นหนึ่ง แต่จะสร้างครอบไว้ในสมัยใดไม่มีหลักฐานบอกไว้ ส่วนชื่อของพระธาตุองค์นี้ แยกเป็น 3 พยางค์ คือ ธาตุ - เชิง - ชุม

คำว่า ธาตุ หมายถึง พระเจดีย์เป็นที่บรรจุพระบรมธาตุ

คำว่า เชิง เป็นคำสุภาพทั่วไป ที่เรียกว่า ตีน เช่นตีภูเขา เรียกว่า เชิงเขา
ตีนหีบว่า เชิงหีบ เป็นต้น

ส่วนคำว่า ชุม ย่อมาจากคำว่า ประชุม หรือ ชุมนุม หมายถึงมารวมกัน

เมื่อรวมทั้ง 3 พยางค์เข้าด้วยกันเป็นคำเดียวว่า "ธาตุเชิงชุม" ก็หมายความว่า
"เป็นที่รวมแห่งรอยเท้า" แต่เป็นปัญหาว่ารอยเท้าของใครที่มารวมกันอยู่ในเจดีย์ ที่ไม่สามารถจะมองเห็นได้ จึงจำต้องอาศัย "ตำนาน" ที่เล่าไว้เป็นหลักฐานใน "ประวัติพระธาตุพนม" ใจความดังนี้

ในตอนต้นพุทธกาล พระเจ้าอินทปัฐนคร ได้แต่งตั้งให้ ขุนขอมราชนัดดา ยกพลมาตั้งเมืองขึ้นที่ฝั่งหนองหารหลวงตรงท่านางอาบ ให้ชื่อว่า "เมืองหนองหารหลวง" เพื่อให้ควบคุมบ้านเล็กเมืองน้อยบนที่ราบสูงลุ่มแม่น้ำโขงตอนกลาง ขุนขอมมีโอรสองหนึ่งชื่อว่า เจ้าสุรอุทกกุมาร พอพระชนม์ได้ 15 พรรษา พระราชบิดาก็สิ้นพระชนม์ จึงได้ขึ้นเป็นพระยาเสวยราชสมบัติต่อมา พระยาสุรอุทกมีโอรส 2 องค์ คือ เจ้าภิงคาร 1 เจ้าคำแดง 1

(i) หลังจากเมืองถล่มและพระราชบิดาสิ้นพระชนม์แล้ว พระกุมารทั้งสองจึงได้พาไพร่พลที่เหลือจากจมน้ำตายไปอาศัยที่ ดอนโพนเมือง ริมฝั่งหนองหารด้านตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อหาชัยภูมิที่จะสร้างเมืองใหม่ พอถึง "ภูน้ำรอด" ริมฝั่งหนองหาร (คือวัดพระธาตุเชิงชุมปัจจุบันนี้) เห็นว่าสมควรตั้งบ้านเมืองได้ จึงตั้งที่สักการะบูชาพระภูมิเจ้าที่ พร้อมตั้งสัตยาธิษฐานว่า

"ข้าพเจ้าจะสร้างบ้านแปลงเมือง ณ ที่นี้ของเทวาอารักษ์ผู้พิทักษ์สถานที่นี้ จงอภิบาลคุ้มครองไพร่ฟ้าประชาชนให้เป็นอยู่สุขสืบไป"

(i) ในขณะนั้น พญาสุวรรณนาคราช ผู้มีเกล็ดเป็นทองคำก็สำแดงตัวให้ปรากฎ ถือน้ำเต้าทองคำอันเต็มด้วยน้ำหอมอันเป็นทิพย์บอกว่า

"ข้าพเจ้าเป็นสุวรรณนาคราชเฝ้าพิทักษ์รอยพระพุทธบาทอยู่ที่ภูน้ำรอดนี้"

(i) ดังนี้แล้วจึงเอาน้ำหอมรดทรงอภิเษกเจ้าภิงคาร ให้เป็นพระยาเสวยเมืองมีชื่อว่า พระยาสุวรรณภิคาร แล้วพระบาทท้าวเธอจึงพาไพร่พลสร้างเมืองขึ้น ณ ที่นั้น เรียกว่า "เมืองหนองหารหลวง" สืบมา

ในตำนานอุรังคนิทาน หรือเรียกว่า ตำนานพระธาตุพนม กล่าวต่อไปว่า เมื่อองค์สมเด็จพระบรมศาสดาเสด็จมาถึงเมืองหนองหารหลวง พระยาสุวรรณภิงคาร มีความเลื่อมใสจึงทูลอาราธนาองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อเข้าไปฉันภัตตาหารในปรางค์ปราสาทของพระองค์

(i) ครั้นพระศาสดาทรงทำภัตกิจเสร็จแล้วจึงมีพุทธฎีกาตรัสเทศนาสั่งสอนพระราชา แล้วเสด็จลงจากพระราชวังแสดงรอยพระบาทไว้ ณ ที่นั้น ต่อพระพักตร์พระยาสุวรรณภิงคาร แล้วทรงกระทำปาฎิหารย์ให้เป็น "แก้วมณีออกจากพระบาท 3 ลูก" โดยลำดับ ซึ่งทรงกระทำปาฏิหารย์ให้ออกมาอีกลูกหนึ่งเป็นลูกที่ 4

เมื่อพระยาสุวรรณภิงคารทอดพระเนตรเห็นดังนั้น ก็บังเกิดอัศจรรย์ยิ่งนึกว่าเหตุใดหนอ แก้วมณีจึงออกมาจากพระบาทของพระศาสดาได้ ในขณะนั้น องค์สมเด็จพระภควันต์บรมศาสดาจึงตรัสว่า

(i) "ดูรา...มหาราช! สถานที่นี้เป็นที่ประดิษฐานรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าท้ง 3 พระองค์ แก้วมณีจึงออกมาจากที่นี้ 3 ลูก คือ
รอยพระบาทของ พระกกุสันโธ ,พระโกนาคม, พระกัสสป
พระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์นี้ ได้เสด็จไปรับบิณฑบาตใน เมืองศรีโคตบูร แล้วมาฉันที่ ภูกำพร้า (พระธาตุพนม) แล้งจึงเสด็จมาประดิษฐานรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี้ ส่วนแก้วมณีลูกที่ 4 นั้น คือตถาคตนี้เอง เมื่อตถาคตได้มาแสดงรอยพระบาทรวมอยู่ในที่นี้ แล้วเข้าสู่นิพพานไปแล้ว ดังนั้นในที่นี้จังเป็นที่ว่างเปล่า

เมื่อพระราชาได้รทรงสดับพระพุทธวาจาดังนี้แล้ว จึงถวายบังคมแล้วกราบทูลถามองค์สมเด็จประทีปแก้วว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นพระองค์จักประดิษฐานรอยพระบาทไว้ด้วยเหตุอันพระพุทธเจ้าข้า

(i) ดูก่อน...พระมหาบพิตร สถานที่เป็นบ้านเมืองตั้งพระพุทธศาสนาอยู่ได้นั้น แม้มีเหตุควรไว้ พระพุทธเจ้าทั้งหลายก็หามีไว้ไม่ด้วยเหตุว่า เป็นที่หวงแหนแห่งหมู่เทวดาและพญานาคทั้งหลาย และบ้านเมืองก็จักเสื่อมสูญพระพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมไว้ยังรอยพระบาทให้ไกลบ้านเมือง พระพุทธศาสนาก็จักตั้งอยู่ระหว่างท้ายเมืองและหัวเมือง

เมื่อพระพุทธเจ้าได้ไว้รอยพระบาทที่ท้ายเมืองใต้นั้น พระพุทธศาสนาจักตั้งรุ่งเรืองในเมืองนั้นก่อน แล้วจึงย้ายห่างมาใต้ตามรอยพระบาท เมื่อไว้รอยพระบาทระหว่างหัวเมืองพระพุทธศาสนาก็จักตั้งในเมืองนั้น แล้วจึงย้ายห่างไปทางเหนือ ที่รอยพระบาทอันพระพุทธเจ้าได้ประดิษฐานไว้นั้นก็ไปตั้งเมือง คนทั้งหลายจึงจักตั้งอยู่เป็นปกติ

(i) ส่วนเมืองหนองหารหลวงนี้ (สกลนคร) เมื่อพระพุทธเจ้าได้มาชุมรอยพระบาทไว้ สมัยพระยาองค์ใดเสวยราชสมบัติ พระยาองค์นั้นได้สรางบุญสมภารมาแล้วตั้งแต่แสนกัปทุก ๆ พระองค์ ถึงเมืองหนองหารน้อย (อุดรธานี) ก็ดุจเดียวกัน และทั้งสองเมืองนี้เมื่อตั้งก็เกิดพร้อมกัน ด้วยเหตุที่เสด็จมาแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

ครั้นสิ้นชั่วพระยาทั้งสองนี้ เทวดาและนาคทั้หลายที่รักษา "หนองหารหลวง" และ "หนองหารน้อย" ก็จักได้ให้น้ำไหลนองเข้ามาหากัน ท่วมรอยพระบาทและบ้านเมือง คนทั้งหลายจึงได้แยกย้ายกันไปตั้งเมืองเล็ก เมืองน้อยตามริมหนองนั้น จักได้ไปรับเอาจารีตประเพณี และกิจการบ้านเมืองในราชธานีใหญ่ที่พระพุทธศาสนาตั้งรุ่งเรืองอยู่ ณ ที่นั้น

(i) เมื่อพระพุทธเจ้าทั้งหลายเสด็จเข้าสู่พระนิพพานไปแล้ว พระอรหันต์ทั้งหลายจักได้นำเอาพระบรมธาตุมาประดิษฐานไว้ริมแม่น้ำธนนที (แม่น้ำโขง) บ้านเมืองพระพุทธศาสนาจักตั้งรุ่งเรืองไปตามริมแม่น้ำอันนั้น

เมืองฝ่ายเหนือกลับไปตั้งอยู่ฝ่ายใต้ ส่วนฝ่ายใต้กลับไปตั้งอยู่ฝ่ายเหนือ เมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางนั้นประเสริฐมีอานุภาพยิ่งนัก ท้าวพระยาทังหลายที่มีบุญสมภารจักได้เสวยราชสมบัติ บ้านเมืองค้ำชูพระพุทธศาสนาแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

(i) ครั้นสิ้นพระพุทธศาสนาแล้ว ราชธานีบ้านเมืองทีอยู่ริมแม่น้ำเหนือก็กลับไปฝ่ายเหนือ เมืองราชธานีอันเป็นที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายเสด็จเที่ยวบิณฑบาตเป็นต้นว่า เมืองศรีโครตบูร ก็กลับมาตั้งอยู่ที่เก่า เมืองราชธานีที่ตั้งอยู่ ณ ท่ามกลางนั้น ก็กลับมาตั้งอยู่ริมหนองหารดังเก่า เพื่อรอท่าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

ครั้งนั้น ท้าวพระยาทั้งหลายที่มีบุญสมภาร ก็บังเกิดขึ้นตามราชธานีนั้น ๆ อันนี้หากเป็นจารีตประเพณีสืบ ๆ มาแห่งแม่น้ำธนนที พระพุทธศาสนาก็จักตั้งอยู่แต่ทิศเบื้องเหนือและทิศเบื้องใต้ ส่วนทิศตะวันตกและทิศตะวันออกไปตามริมแท่น้ำอยู่เป็นปกติ

(i) ดูรา...มหาราช! ตถาคตเทศนา "ศาสนานครนิทาน" ดังกล่าวแล้ว เพื่อเหตุนั้นจึงว่าไม่มีคนอยู่ในเมืองหนองหาร แม้ว่ามีคนอยู่ในริมหนองหารทั้งสองนั้น ท้าวพระยาที่มีบุญสมภาคเป็นเอกราชนั้น จักตั้งอาณานิคมในพระพุทธศาสนาอันใหญ่นั้นก็ไม่มี เท้าที่มีก็เป็นแต่ปลายเขตแดนพุทธศานาตามกาลสมัยนั้น ๆ

เมื่อพระยาสุวรรณภิงคารได้ทรงสดับรัตนปัญหาดังนั้น ก็ทรงโสมนัสซาบซึ้งในพระทัยยิ่งนัก และมีพระราชประสงค์จะตัดยังพระเศียรของพระองค์ เพื่อบูชารอยพระพุทธบาท ทันใดนั้น พระนางเทวี ได้เข้าไปทูลห้ามไว้ว่า

(i) เมื่อมหาราชเจ้ายังมีพระชนม์อยู่ จักได้สร้างพระราชกุศลเพิ่มเติมต่อไป ไม่ควรที่พระองค์มาทรงกระทำเช่นนี้

เมื่อพระบาทท้าวเธอได้ทรงสดับพระวาจาของพระนางเทวีตรัสห้าม ดังนั้นจึงถอดพระมงกุฎออกมาบูชา พระศาสดาจึงตรัสซ้ำพระสัทธรรมเทศนาโปรดเป็นครั้งที่สองอีกว่า

(i) "ดูรา....มหาราช! รอยพระบาทอันตถาคตได้ไว้ให้แก่พญานาราชที่ แผ่นกระดานหิน ฝั่งแม่น้ำใหญ่ ชั่วช้างร้องและงัวร้องได้ยิน เพื่อหมายแห่งหัวเมืองและท้ายเมืองอันจักเป็นราชธานี พระพุทธศาสนาก็จักรุ่งเรืองยิ่งใหญ่นักในที่นั้น

เมื่อพระยาสุวรรณภิงคารพร้อมด้วยพระราชเทวี ได้ทรงสดับพระสัทธรรมเทศนาเรื่อง "พระบาทลักษณ์" จึงทรงมีพระปิติปราโมทย์ยิ่งนัก แล้วทรงสร้างอุโมงด้วยหินปิดรอยพระพุทธบาทพร้อมทั้งมงกุฎ เหตุนั้นจึงได้เรียกชื่อว่า พระธาตุเชิงชุม มาเท่าถึงกาลบัดนี้

(f) (f) (f) (f) (f)

 

ขอร่วมโมทนาบุญนะครับ

(f) ขอร่วมโมทนาบุญนะครับ ดีครับใกล้กรุงเทพมากเลย การเดินทางก็สะดวก ถ้าผ่านไปแถวนั้นคงมีโอกาสแวะเข้าไปกราบครับ
(f) (verygood) (f)

 

ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่างนะครับ

(i) ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่างนะครับ น่าสนใจมากครับ ประเทศไทยของเราเป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธศาสนามาแต่ครั้งโบราณกาลจริงๆครับ และขอให้เป็นตลอดไปนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ
(f) (verygood) (f)