อยากทราบว่าในตัวคนมีเทพฯ คุ้มครองมีลักษณะแบบไหน

เอวันนี้ เพื่อนคุณตุ๋ยที่อยู่ที่เมืองไทย ไม่เข้ามา สงสัยจะมีธุระ เมื่อเช้าคล้ายๆจะเห็นเข้ามา..นะคะ ...

..เมื่อวานที่บอกว่าจะไป บ้านครู ตกลงยังไม่ได้ไปเพราะ พอแต่งตัวแล้ว รู้สึกไม่ใคร่สบายตัวเท่าไหร่นะคะ.... เลยขอพักไว้ก่อน แต่อีกสักประเดี๋ยว ศิลามณี ก็ว่าจะไปเพราะรู้สึกว่าดีขึ้นแล้ว ...บ้านครูของ ศิลามณี ท่านอยู่ไกลออกไปจากตัวเมืองมากคะ เวลาถ้าคุณพ่ออยู่ด้วย ศิลามณี จะให้ท่านทราบแค่ว่าไป บ้านครู... อยู่ใกล้ๆแถวๆนี้ ... คิกๆคักๆ ถ้าท่านทราบว่าต้องขับรถ ออกไปไกลมาก มีหวังร้องกรี๊ดนะคะ คุณตุ๋ย

.... พอสองทุ่ม ที่นั้นก็จะมีสวดมนต์ไหว้พระ จากนั้นถ้ามีคนไข้ ท่านก็จะช่วยรักษา โดยมีครูบาอาจารย์ อีกหลายๆท่านที่ใส่ชุดขาว...ช่วยดูแล และ รักษาให้ เป็นรายๆไป... มีทั้งที่เจ็บป่วย และ มีทั้งที่มีอาการผิดปกติทางใจ เช่น มีอาการลอย พูดคำตอบคำ หรือ ว่า บางรายพูด แต่ภาษาต่างชาติ ก็มีคะ... นัยว่าโดนผีสาวญี่ปุ่น ที่โดนยิงตายที่เมืองไทย.... เข้าสิง.. วันที่ศิลามณีไปเจอนั้น ลูกศิษย์ของครูที่ท่านเป็นชาวญี่ปุ่น ไม่ได้มาด้วยไม่งั้น ท่านคงช่วยสื่อสารให้.. ศิลามณีก็ อยากจะทราบเหมือนกัน ว่าเป็นผีญี่ปุ่นจริงๆ หรือว่าคนป่วยคิดไปเอง....

นอกจากรักษาแล้ว ที่นั้นก็มีสอนให้ทำสมาธิคะ คือ หลังจากสวดมนต์ไหว้พระแล้ว เขาก็จะแยก คนป่วยก็รักษาไป เข้าไปหาตามคิว ... คนที่จะมานั่งสมาธิ ก็จะแยกไปอีกศาลาหนึ่ง...

ศิลามณี เองก็ใส่ชุดขาว พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ท่านบอกว่า ศิลามณี รักษาได้....แต่ตั้งแต่บวชจิต ใส่ชุดขาวแล้วยังไม่เคยรักษาใคร...อีกประการหนึ่ง ไม่ใคร่ได้มีโอกาส มาบ้านครูบ่อยนัก.. ถ้าไปที่นั้น ศิลามณี ชอบไปทำสมาธิอย่างเดียวคะ กับไปกราบครูบาอาจารย์

 

คุณตุ๋ยคะ ศิลามณี ตอบเมลย์ไปแล้วนะคะ

 

คนไหนคะ คนนั้นเหรอเขาอยู่ต่างประเทศคะ เขาไม่ได้อยู่เมื่องไทยก็รู้จักกันในเวป นี่แหละ เพื่อนที่เมื่องไทยเขายังเล่นไม่เป็นคะมีอยู่คนเดี๋ยวคะ ส่วนมากตุ๋ยไม่ค่อยมีเพื่อนหรอกคะ ฟังๆ แล้วคุณศิลามณีเนี่ยคุณพ่อจะรักมากนะคะ ก็ดีแล้วคะน่าไปร่วมวงดูกับเขานะฟังคุณศิลามณีเล่ามาน่าสนใจคะคุณน่าจะลองรักษาดูนะคะเดี๋ยวคราวหน้าคุณ ศิลามณี ลองรักษาดูนะคะแล้วเอามาเล่าให้ฟังนะคะ

 

ตอบกลับแล้วคะ ลองเข้าไปอ่านดู มีรูปสวยๆ ด้วยคะ

 

สงสัยจะอีกนาน ละคะ คุณตุ๋ย เรื่องรักษา... ว่าแต่ว่าเช็คเมลย์หน่อยนะคะ ศิลามณีส่งไปแล้วคะ

 

มารออ่านเรื่องของลูกชายคนเล็ก คุณตุ๋ยลืมแล้วยัง ศิลามณี มาทวงคะ

 

ยังไม่ลืมคะ วันนี้เป็นวันอาทิตย์งานเยอะต้องรอเสร็จงานก่อน กว่าจะเล่าได้ คุณ ศิลามณีก็คงหลับไปแล้วแหละคะ ไว้พรุ่งนี้คุณคงได้อ่าน เพราะเวลาต่างกันคะ

 

เข้ามาสวัสดีทักทายเพื่อนๆพี่ๆและสมาชิกในกระทู้ทุกท่านค่ะ:VO


หายไปเข้ามาอีกทีกระทู้ก็วิ่งไปหลายหน้าเลย มัวแต่ไปเข้ากระทู้ผี โดนขังวิญญาณและเดอะช็อคของพี่ป๋องอยู่ค่ะ เกี่ยวกับผีทั้งนั้น:boo:ได้ตามไล่อ่านข้อความของเพื่อนสมาชิกถึงได้ทราบว่าคุณตุ๋ยจะไปบวชชีพรหมณ์ด้วย(ขอโมทนาด้วยนะคะ ^-^) ถ้าได้ไปเจอประสบการณ์แปลกๆระหว่างที่บวช อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังอีก ของสมาชิกท่านอื่นด้วยนะคะ(smile)

;20

 

ตอนนี้ ตุ๋ยก็พอจะว่างจากงานแล้วก็เล่าเรื่องชายคนเล็กที่ฝันไปเที่ยว นรก สวรรค์ มาให้ฟังเรื่องนี้มันนานมาแล้วตั้งแต่เขา อายุ 10 ขวบเห็นจะได้ ผ่านมาสองปีแล้ว เขามาเล่าว่า เขาฝันว่าไปนรกสวรรค์ กับแม่ (ตุ๋ย) ตุ๋ยเลยถามไหนลองเล่า

ให้ฟังชิว่าไปอย่างไร เขาบอกว่าสถานที่เขาไปมันน่ากลัว มีต้นไม้ใหญ่มากและต้นไม้มีสีแดงและผมเห็นมีผู้หญิงผู้ชายที่ไม่มีเสื้อผ้ากำลังปีนขึ้นต้นไม้กันใหญ่เลยและข้างล่างต้นไม้มีหมา ตัวใหญ่มากๆ กำลังกัดกินคนที่ตกลงมาหมามีหลายตัว

ตัว ใหญ่มากและก็สีดำ ข้างบนยอดมันมีนกด้วย แม่พาผมเดินดูผมกลัวมากและมีคนอีกกลุ่มหนึ่งกำลังถูกตีด้วยแส่ คนที่ถูกตีรูปร่างผอมน่าเกียจ แล้วคนที่ตีเขาละ รูปร่างแบบใหนตุ๋ยถาม เขาตอบสูงใหญ่ ไม่ใส่เสื่อ มีแต่เหมื่อนเขาใส่กางเกงขาสั่น เขาพูดว่าจะว่ากางเกงก็ไม่ใช่ ในความคิดของตุ๋ยอาจจะเป็นเห็นจุงกระเบนระมังแบบยักษ์ ที่วัดธรรมกายทำ พระเขาไม่เคยเห็นก็เลยอธิบายไม่ถูกแล้วตุ๋ยก็ถามต่อมีหลายคนไหม หมายถึงคนถูกตีและคนตี เขาบอกมีหลายคน ผมกลัวพอมองออกไปก็เป็นทะเล ขวางแต่เป็นทะเลสีเลื่อด เขาก็เล่าต่อว่า ผมบอกให้แม่พาผมออกไปจากตรงนี้ ในความฝันนะคะ แม่ก็พาผมว่ายน้ำ ที่เป็นทะเลสีเลือด

นั่นแหละ และตุ๋ยก็ถามต่อแล้วอย่างไงต่อ เขาก็เล่าต่อทะเลนั้นมีคลื่นสูงมากเหมือนขั้นบัดได และเขาก็เล่าว่าผมกับแม่ก้าวพ้นจากทะเลนั้น ผมมองไปลอบๆ มันเป็นท้องฟ้ากว้าง พอมองออกไปข้างหน้ามันมีกำแพงเป็นสีทองสวยมากแม่ก็พาผมมาที่ประตู ประตูก็เปิดออกแล้วแม่ก็พาผมเดินเข้าไป มีคนเฝ้าประตูอยู่หนึ่งคน

พอเขาเห็นผมและแม่เขาก็พยักหน้าให้แม่และแม่ก็พยักหน้าให้เขาแล้วแม่ก็พาผมเดินเข้าไป ตุ๋ยเลยถามว่าเขาแต่งตัวอย่างไร ลูกชายตุ๋ยก็ตอบว่าเขาแต่ชุดสีขาวกางเก่งขาสามส่วนเสื้อแขนสั้นสีขาวที่นิ้วมือเขามีแหวนด้วย และเขาก็มีหมวกใส่ด้วยหมวกแหลมๆ ในความคิดของตุ๋ยความหมายที่ว่าหมวกของลูกชายก็คงจะเป็นชฎานั่นเอง แต่เขาไม่รู้จักเพราะเขาไม่เคยเห็นก็เลยพูดแบบนั้น และเขาก็เล่าต่อแม่ก็พาผมเดินเข้าไปผมมองไปที่พื้นมันมีแต่เพชรและพลอยสีสวยๆทั้งนั้น ผมมองออกไปข้างหน้าเห็นมีบ้านหลายหลังสวยๆทั้งนั้นแล้วแม่ก็พาผมไปหยุดอยู่บ้านหลังหนึ่ง แล้วแม่ก็บอกว่าเป็นบ้านแม่ ผมมองเข้าไปเห็นมีเด็กวิ่งเล่นด้วย ตอนนั้นผมเกิดอาการหิวขึ้นมา อย่ากจะกินมันฝรั่งทอด พอผมนึกจะกินมันฝรั่งทอดก็มาพอดีผมจะยิบใส่ปากผมก็ตื่น

นี่แหละคะเรืองราวที่เขาฝันได้ไปเที่ยว นรก สวรรค์ เขาจะพูดเป็นภาษาอังกฤษแต่ตุ๋ยแปลอีกที เขาไม่เคยรู้จักเรื่องนี้สักเท่าไรก็ฝันเสียเป็นเรื่องเป็นราวเลยตุ๋ยได้โอกาสก็สอนเขาเสียเลยนั้นและ ลูกไปเห็นมาแล้วอย่าดื้อกับพ่อแม่ถ้าดื้อกับพ่อแม่ก็จะไปตกนรก ให้หมาตัวใหญ่ๆ รุมกัดรุมกิน ถ้าลูกทำดีกับพ่อแม่ลูกก็จะได้ขึ้นสวรรค์ เห็นแต่ของสวยๆ งานๆ ลูกชายคนเล็กตุ๋ยก็กลัวอยู่พักหนึ่ง ตอนนี้ก็ลืมแล้วเริ่มดื้อ เหมือนเดิน แต่พี่สาวเขาและพี่ชายอีกคนไม่เคยฝันแบบนี้คะ

 

คะถ้าได้ไปพบประสบการณ์ แปลกๆ ในสมาธิ ตุ๋ยก็จะมาเล่าให้ฟังถ้า กะทู้นี้ไม่ตกไปเสียก่อนที่จริงประสบการณ์ที่ฝึกสมาธิ ที่พบปีที่แล้วก็มีแต่ก็ยังไม่ได้เอามาเล่าคะ

 

ก็คงอย่างที่ครูบาอาจารย์คุณ ศิลามณีว่าแหละคะ ก็คงจะเป็นเทวดาอีกพวกหนึ่งที่บุญน้อย เขาก็เลยตอ้งสร้างบุญเพิ่มโดยใส่บาตกับพระธุดงค์ ความเป็นอยู่ของพวกเขาก็คงจะคล้ายๆกับ มนุษย์แต่เขาคงจะดีกว่ามนุษย์ตรงที่เขาถือศิลเค่รงคัด ระมังคะ

 

แวะมาทักทายค่ะ คุณตุ๋ย,คุณศิลามณี ท่าทางคุณจะคุยกันอยู่ 2คนนะคะ คนอื่นๆไปไหนกันหมดล่ะ? ตกลงกระทู้นี้เป็นกระทู้อะไรกันแน่คะ? เห็นมีครบทุกรสชาดเลย น่าสนุกนะคะ...(วันหลังจะแวะมาใหม่ค่ะ)

 

สวัสดีคะ เมื่อวานหายไปเลย ....และนึกขึ้นได้ว่าเป็นวันอาทิตย์ คุณตุ๋ยเคยบอกว่าเป็นวันที่ยุ่งสุดๆ...เลยใช่ไหมคะ .... คิกๆๆ ชอบใจที่ลูกคนเล็ก ของคุณตุ๋ยฝันจังคะ...ศิลามณีว่าท่านเทพที่ดูแลคุณตุ๋ยอยู่ ... ท่านทำตามคำพูดที่บอกคุณตุ๋ยไว้...ว่าจะช่วยขัดเกลาลูกคนเล็กให้ นี่ไง!.....ท่านพาลูกคุณตุ๋ยไปเที่ยวสะเลย...

 

คุณตุ๋ย เคยไปเที่ยวเชียงใหม่ หรือ ยังคะ .....แล้วเคยไปที่ พระธาตุดอยสุเทพไหมคะ ...ศิลามณี จะเล่าเรื่องไก่แก้ว.. เอ..ชักจะจำชื่อไม่ได้แล้วสิว่า ชื่อไก่พลอย หรือ ไก่แก้ว กันแน่.. ...

เรื่องนี้ฟังมาอีกที จากแม่ชี ที่ท่านจำวัด อยู่ที่พระธาตุดอยาสุเทพนะคะ ท่านเล่าว่า สมัยก่อนโน้นตั้งนานแล้ว ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพนี่ มีไก้แจ้ตัวหนึ่ง เอาชื่อไก่แก้ว ละกันนิ เขาจะคอยเตือนผู้คน ที่ขึ้นมากราบไหว้.. สักการะพระธาตุดอยสุเทพ ให้ถอดรองเท้าก่อนขึ้นไปกราบ ....

โดยการจิก จิกที่รองเท้านะคะ ใครไม่ถอดรองเท้านะ ขึ้นไปไหว้ทั้งๆที่ใส่รองเท้านี้ คุณพ่อไก่แก้วนี่...จะไล่จิกๆๆ ที่เท้านั้น เป็นการเตือน "เธอจ๋า ขึ้นมากราบไหว้ พระธาตุนี่ ต้องถอดรองเท้านะจ๊ะ ....นี่แน่..ยังไม่รู้เรื่องอีก... ไม่ถอดเหรอ จิกๆๆ เลย.."

ศิลามณี เคยเห็นรูปที่เขาถ่ายไก่แก้ว ตัวนี่ด้วยคะ เป็นไก่แจ้สีขาว ตัวเล็ก น่ารักดี แต่เขาตายไปทั้งนานแล้วคะ...ถ้าเพื่อนๆไปเที่ยวพระธาตุดอยสุเทพ ลองถามหาภาพของไก่แก้วดูนะคะ

 

ตอนนั้นยังรับสัมผัสท่านไม่ได้ก็เลยไม่รู้ว่าตังเองมีเทพฯ คุมครองหรือเปล่าฟังเขาพูดกันเทวดาประจำตัว ตุ๋ยก็นึกวาดภาพว่าเทวดาประจำตัวเป็นอย่างไรเพราะไม่เคยได้รับรู้ และได้รับสัมผัสแต่พอเมือต้นปี ท่านให้ตุ๋ยรู้และสัมผัสได้ ก็เลยเข้าใจ ว่าท่านอยู่ใกล้ตัวเราหรือบางครั้งก็แฝงอยู่ในตัวเรานี่เอง ตุ๋ยรู้ได้เพราะเวลาบันทึกเรื่องราวคุยกับท่านกลิ่นหอมจะพุ่งมาจากตัวมันแปลกมากไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้
เมื่อคิดย้อนหลังก็คงจะเป็นอย่างคุณ ศิลามณี ว่าท่านคงจะรู้ว่าลูกชายคนเล็กดื้อ ก็เลยต้องพาไปเทียวดูในสิ่งที่เขาไม่เคยเห็น แต่เด็กเห็นแล้วก็ลืม ตอนนี้ก็เริ่มดื้อใหม่ อีกแล้ว ตุ๋ยเห็นจะต้องไปขอให้ท่านมาช่วยอีกสักครั้งเสียระมังทีนี้บอกให้ไปดูนรก นานๆ หน่อย เขาจะได้จำไปจนโตเลย

 

นั้นซิคะก็คงจะมี ตุ๋ยกับคุณ ศิลามณี คุยกันอยู่สองคน เพื่อนคนอื่นๆ ก็คงอ่านอยู่ไม่เป็นไรคะ กะทู้มีหลายสี สัน พอดีตุ๋ยสงสัยเรื่องเทวดาประจำตัวคุยไปคุยมาก็เลยยาวเลยคะ ว่างๆ ก็มาทักทายใหม๋นะคะ

 

สวัสดีคะ คุณตุ๋ยมาแล้วเหรอคะ ..........วันนี้จะคุยอะไรกันดีละ

 

อืมร์ เมื่อวานตอนที่ไป บ้านครูบาอาจารย์ มีรายหนึ่งที่ไปขอความช่วยเหลือ จากครูบาอาจารย์ท่าน...เป็นสองสามีภรรยา ตอนแรกที่ ศิลามณี เห็นรู้สึกทันทีว่าเขาทั้งสองมีความทุกข์ โดยเฉพาะผู้ชาย หน้าเขาดูเศร้าๆอย่างไรไม่ทราบ พอลองสอบถามไป ปรากฏว่าเป็นปัญหาครอบครัว เป็นรักสามเศร้านะคะ ผู้ชายมีลูกกับภรรยาคนนี้ และ ก็มีกับภรรยาคนที่ 2 นี่ด้วย เอาเข้าไป...ภรรยาที่มาด้วยก็คิดมาก และ ทุกข์มากเช่นกัน ถึงขนาดจะฆ่าตัวตาย......

ศิลามณี เคยได้ยินจากครูบาอาจารย์ ท่านเคยพูดให้ฟังนะคะว่า การฆ่าตัวตายเป็นเรื่องบาปมากๆ...ถึงเราตายไปจากโลกนี้ก็ใช่ว่าจะ ทำให้หายพ้นทุกข์ ... หากตรงกันข้าม กลับต้องท้นทุกข์ทรมาน มากกว่าตอนที่ยังมี ชีวิตอยู่เสียอีกคะ ตายไปแล้วต้องตกนรก และ ถ้ามาเกิดใหม่แล้ว ก็จะต้องฆ่าตัวตายแบบนี้ไปอีก 500 ชาติ....

ปัญหามีไว้แก้ ไม่ใช่มีไว้ให้หนี..

 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลจั กทําเหตุอัศจรรย์ในช่วงนี้ คอยตามข่าวพระองค์ท่านให้ดี แล้วไม่ต้องไปเผยแพร่ที่ไหนหล่ะเอามาให้อ่านแค่ตรงนี้เท่านั้น

 

คุณอาภากรเมื่อไหร่จะเอารูปมาให้ดูละคะ ...แล้วเมื่อวานไปชมรมนักปฏิบัติธรรมกับเขาหรือเปล่า สนุกไหมคะ