คู่บารมีหรือคู่เวรคู่กรรม

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 11 ตุลาคม 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    [​IMG]


    ถาม : หลวงพ่อคะ คู่บารมี คู่กรรม นี่คล้ายกันไหมคะ ?

    ตอบ : มันอันเดียวกันเลย แต่ใช้คำพูดต่างกันเท่านั้น เอาเป็นว่า คนเราที่เกิดมาแล้วจะแต่งงานอยู่กินด้วยกัน แบ่งเป็น ๒ ประเภท ประเภทแรกภาษาบาลีเรียกว่า บุพเพสันนิวาส คำว่า บุพเพ แปลว่า แต่ปางก่อน สันนิวาส คือการอยู่ร่วม เคยอยู่ร่วมกันมาแต่ปางก่อน คือเป็นเนื้อคู่กันมาก่อน อันนี้เราเรียกว่า คู่บารมี หรือคู่เวรคู่กรรม ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีทั้งหมด บางชาติผลของอกุศลคือ บาปเข้ามาส่งผล ก็อาจจะตีกันหัวร้างข้างแตกไป แต่ยิ่งตีกันเท่าไหร่ลูกดกทุกที ถ้าหากชาติไหนกุศลกรรมส่งผลให้ ก็อาจจะดีแสนดีเสียจนยิ่งกว่าพระก็มี

    อีกอย่างหนี่งก็คือว่า แต่งงานกันเพราะว่าเกื้อกูลกันจนเห็นใจกัน ในปัจจุบันจะเริ่มต้นนับหนึ่งกันในชาตินี้ ชาติต่อๆ ไปอาจจะเจอหรือไม่ได้เจอก็ได้

    ดังนั้นว่าเรื่องของคู่บารมีหรือเนื้อคู่ ใช้คำว่าเนื้อคู่ดีกว่า มีทั้งบุพเพสันนิวาส และเกื้อกูลกันในปัจจุบัน เป็นได้ทั้งนั้นแหละ คนไหนที่หมอบอกว่าเนื้อคู่ไม่มี ไม่จริงหรอก กวักมือข้างถนนตามมาเป็นฝูงเลย

    ถาม : พวกเกย์ล่ะครับ เกย์นี่เนื้อคู่ผู้ชายหรือครับ ?

    ตอบ : จริงๆ อย่าไปตำหนิเขานะ เรื่องของการสร้างบุญสร้างบารมี วาระเวลามาถึงมันจะเป็นอย่างนั้น เรื่องการสร้างบารมีอันนี้ไม่ต้องเรียกร้องสิทธิสตรี ว่ากันตามความเป็นจริง ผู้หญิงบารมีจะน้อยกว่าผู้ชาย

    การสร้างบารมีจะมี ๓ ระดับ ๙ ขั้น คือ สามัญบารมี-ขั้นต้น อุปบารมี-ขั้นกลาง ปรมัตถบารมี-ขั้นสูง แล้วแต่ละขั้นจะมีหยาบ กลาง ละเอียด ถ้าหากว่ายังเป็นสามัญบารมี อุปบารมี ไม่เกินขั้นกลางจะต้องเกิดมาเป็นผู้หญิงก่อน พอเริ่มเป็นอุปบารมีขั้นปลายเขาจะกลับเป็นผู้ชาย ตอนเริ่มใกล้จะเป็นผู้ชายจะติดนิสัยผู้ชายมาเรียกกันว่า "ทอม" แต่พอเริ่มเป็นผู้หญิงมาเป็นผู้ชายใหม่ๆ ก็กลายเป็น "ตุ๊ด" มันเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ว่า ปัจจุบันพวกท่านทั้งหลายที่อยู่ระหว่างอุปบารมีมันเกิดมาก เราอย่าไปตำหนิเขา อันนี้ไม่ต้องไปตำหนิใคร

    ถาม : ไม่ใช่ว่าเขาเป็นอะไรหรือครับ ?

    ตอบ : ไม่ใช่อะไรผิดปกติเลย เป็นเรื่องปกติ แต่ว่ามีผู้หญิงบางประเภท ต่อให้เป็นปรมัตถบารมี คือ ขั้นสูงสุดแล้วก็ต้องเกิดเป็นผู้หญิงอีก ท่านทั้งหลายเหล่านี้มี

    ประเภทที่ ๑. เนื้อคู่ของพระโพธิสัตว์ เพราะว่าเขาอธิษฐานตามกันมา ต่อให้สร้างบารมีมาถึงขั้นนั้นแล้วก็ต้องเกิดเป็นผู้หญิง

    ประเภทที่ ๒. ผู้ที่จะมาเป็นแม่ของพระพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย อย่าง สันดุสิตเทพบุตร อย่าลืมว่าเทพบุตรลงมาเกิดเป็น นางสิริมหามายา ผู้ชายใช่ไหมแต่ต้องมาเกิดเป็นผู้หญิงเพราะว่า เขาอธิษฐานมาว่าจะต้องมาเป็นแม่ของพระพุทธเจ้า

    ส่วนประเภทที่ ๓ คือ เป็นผู้ชายแล้วแรดมาก แหม! พวกเจ้าชู้มากนี่มันจะโดนบังคับด้วยแรงกรรม ให้เกิดมาเป็นผู้หญิง เพื่อใช้โทษที่ตัวเองแรดมา (ขออภัยที่ใช้คำง่ายเกินไป)

    เพราะฉะนั้น ๓ ประเภท ต่อให้เป็นปรมัตถบารมีแล้วก็ต้องเกิดเป็นผู้หญิง คนไหนที่เปิดเผยแล้วก็พูดจาอย่างชนิดที่เรียกว่า กระจ่าง ชัดเจน นิสัยใจคอกว้างขวางเหมือนผู้ชาย อะไรนั่น ให้ระแวงไว้ก่อนว่าเขาเคยเป็นผู้ชายมา

    ถาม : แล้วอย่างเราเกิดมาอย่างนี้ ต้องมาเก็บกวาดบ้าน ทำกับข้าว รีดผ้าที่เราทำแบบนั้แสดงว่าก่อนหน้านี้เราเกิดเป็นผู้หญิงบ่อยหรือครับ ?

    ตอบ : ผู้ชายทุกคนต้องเป็นผู้หญิงมาอยู่แล้ว อาจจะไม่เคยเป็นผู้หญิงบ่อยก็ได้ เพียงแต่ชาตินี้ผู้หญิงเขามอบความไว้วางใจให้ ในเมื่อเขามอบความไว้วางใจให้ก็ทำไปเถอะ



    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ (ต่อ)
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2010
  2. no-ne

    no-ne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,198
    ค่าพลัง:
    +3,380
    กราบอนุโมทนาในคำสอนของพระอาจารย์ค่ะ ดิฉันยังอยากทราบอยู่อีกเรื่องนึงค่ะ ว่าภิกษุณีสงฆ์ในสมัยพุทธกาล ที่มิได้เป็นพุทธมารดา หรือคู่บารมีของพระพุทธองค์ เช่นพระเขมาเถรี พระอุบลวรรณาเถรี พระรูปนันทาเถรี พระโสณาเถรี พระสุภาเถรีฯลฯ เหตุใดชาติสุดท้ายของท่าน ถึงได้เป็นหญิงคะ เพราะโดยส่วนตัวก็มีความปรารถนาสาวกภูมิ และอยากบวชเป็นภิกษุณีสงฆ์ค่ะ ใช่เป็นผู้ที่เคยได้ตั้งใจไว้อย่างดิฉันหรือเปล่า แล้วก็ยังอยากทราบอีกอย่างค่ะ ว่าสำหรับกะเทย ที่เป็นกะเทยจริงๆ คือกายเป็นชายแต่ใจเป็นหญิง และใช้ชีวิตแบบเดียวกับผู้หญิงทุกอย่าง ทั้งความคิด คำพูด และการกระทำ รวมถึงการแต่งตัว รสนิยม แม้แต่ฝันก็ยังฝันแบบที่ผู้หญิงฝันอะคะ ยกตัวอย่าง ก็คือแบบน้องปอย ตรีชฎา และ คุณ นก ยลลดา ที่บัญญัติศัพท์ใหม่ว่าเป็นผู้หญิงข้ามเพศ เป็นเพราะเหตุใดคะ และจะพ้นจากกรรมได้อย่างไร และถ้าปรารถนาจะพบคู่บารมี ตั้งแต่ที่เป็นบัณเฑาะว์ จะเป็นการหวังสูงเกินไปสำหรับเพศของตนหรือเปล่าค่ะ อยากทราบจริงๆ ผู้รู้กรุณาตอบด้วยเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2010
  3. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260

    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p

    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา </O:p>
    *
    [​IMG]
     
  4. natna

    natna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2010
    โพสต์:
    406
    ค่าพลัง:
    +1,290
    ทำให้เราเข้าใจคำว่า คู่บารมี หรือคู่เวรคู่กรรม มากขึ้น อนุโมทนาค่ะ
     
  5. deneta

    deneta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    2,711
    ค่าพลัง:
    +5,720
    อนุโมทนาสาธุครับ
    [​IMG]
     
  6. yupanatuk

    yupanatuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +418
    อนุโมทนา สาธุ นี่ก็พึ่งจะรู้เหมือนกัน!
    "หากว่ายังเป็นสามัญบารมี อุปบารมี ไม่เกินขั้นกลางจะต้องเกิดมาเป็นผู้หญิงก่อน พอเริ่มเป็นอุปบารมีขั้นปลายเขาจะกลับเป็นผู้ชาย ตอนเริ่มใกล้จะเป็นผู้ชายจะติดนิสัยผู้ชายมาเรียกกันว่า "ทอม" แต่พอเริ่มเป็นผู้หญิงมาเป็นผู้ชายใหม่ๆ ก็กลายเป็น "ตุ๊ด" มันเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ว่า ปัจจุบันพวกท่านทั้งหลายที่อยู่ระหว่างอุปบารมีมันเกิดมาก เราอย่าไปตำหนิเขา อันนี้ไม่ต้องไปตำหนิใคร" ขอบคุณที่ให้ความกระจ่าง
     
  7. บุตรอำพร

    บุตรอำพร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +66
    รู้เสียทีว่าผมเกิดมาเป็นเกย์เพราะอะไร...แต่ที่ไม่เข้าใจทำมัยผมถึงไม่พบคู่แท้สักที..มีความรักครั้งใดสุดท้ายก็เจ็บทุกครั้ง
     
  8. -:- Zen Lifestyle -:-

    -:- Zen Lifestyle -:- Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +26
    ขออนุโมทนาสาธุค่ะ

    แต่อ่านแล้วรู้สึก ไม่เห็นด้วย กับข้อความที่ว่า…<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    " ตอนเริ่มใกล้จะเป็นผู้ชายจะติดนิสัยผู้ชายมาเรียกกันว่า "ทอม" แต่พอเริ่มเป็นผู้หญิงมาเป็นผู้ชายใหม่ๆ ก็กลายเป็น "ตุ๊ด" มันเป็นเรื่องปกติ "<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    ผู้หญิงบารมีน้อยกว่าผู้ชาย.. จริงค่ะ แต่หนูคิดว่า<o:p> </o:p>
    <o:p></o:p>
    ทอม ดี้ ตุ๊ด เกย์ กระเทย เก้ง กวาง เลสเบี้ยน น่าจะบารมีน้อยกว่าผู้หญิงนะคะ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p></o:p>เพราะเห็นได้จากเพื่อนๆ บุคคลที่รู้จัก และคนทั่วไปที่มิใช่ชายจริงหญิงแท้ ล้วนผิดหวังในเรื่องของความรักและการมีเพศสัมพันธ์อันผิดศีลธรรม(ผิดศีลข้อ 3 บุพการีไม่ยอมรับในคู่รักรวมทั้งรสนิยมทางเพศของบุตรหลานนั่นล่ะค่ะ) <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หนูคิดว่าคนเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ต้องการความรักและการยอมรับทางสังคมมากถึงมากที่สุดหากแต่ก็ยังผิดหวังอยู่เรื่อยไป ทั้งในเรื่องการงานในหลายอาชีพยังไม่ยอมรับบุคคลประเภทนี้เพราะเข้าใจว่าพวกเขาเป็นวิตถาร คือยังไม่เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องของกรรม(มันจะเลิกเป็นไม่ได้จนกว่าจะหมดกรรม) แต่พวกเขาโชคดีมากที่เกิดในประเทศไทยอันมีพระพุทธศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ คนไทยไม่ถือสา เพราะหนูมีเพื่อนไทยอิสลามที่ไปอยู่ซาอุ เขาบอกว่ามุสลิมเป็นเพศที่สามไม่ได้เพราะมันบาป เราเป็นคนแท้ๆจะไปอะไรกับเพศเดียวกันได้ยังไง สัตวมันยังไม่ทำเลย

    (คริสตศาสนาก็เป็นตุ๊ดไม่ได้เหมือนกัน..เขาจะตราหน้าว่าคนนั้นเป็นคนเลว ) <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    อีกทั้งตุ๊ดเพื่อนพี่น้องของหนูยังพูดกับปากว่า พวกเขาไม่สามารถพบรักแท้ได้หรอกฉะนั้นจึงแรดๆไปวันๆ แก้คันแก้เหงาแบบแอบๆ(อันหลังนี้หนูพูดเอง) มุสลิมบางครอบครัวถึงขั้นให้ลูกชาย(เป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยของหนูเอง)แต่งงานกับคนที่พ่อแม่หมั้นหมายหลังจากที่เรียนจบ แล้วผู้หญิงก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฝ่ายชายเป็นเพศที่สาม .. เวรกรรม เขาก็ต้องผิดศีลข้อ 3-4 อีก ถือว่าไปหลอกลวงฝ่ายหญิง ทั้งโกหกพ่อแม่อีกต่างหาก .. <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    อ้อ.. หากจะกล่าวถึงการบวชในพระพุทธศาสนา เพศที่สามก็บวชเป็นพระไม่ได้ใช่ไหมล่ะคะ เพราะมันไม่ได้บุญ.. อีกทั้งยังบาปอีก หลอกลวงผู้อื่นและยังหลอกตัวเองด้วยซ้ำ .. เวรกรรมแท้ๆ

    เป็นผู้หญิงยังสามารถบวชเป็นสามเณรีและภิกษุณีได้(ที่ต่างประเทศ) <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    เห็นไหมคะว่ามันแตกต่างกันมากแค่ไหนระหว่างผู้หญิงกับเพศที่สาม.. หญิงดีกว่าเยอะ<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    และหนูก็เข้าใจว่าการที่พวกเขาเป็นเพศที่สามนี้เป็นเพียงแค่เศษกรรมจากการผิดศีลข้อ3เท่านั้น เมื่อก่อนอาจจะไปใช้กรรมในนรกขุมไหนใดๆมาก่อนแล้วอันนี้หนูก็ไม่ทราบ พอมาเกิดเป็นคนบนโลกแล้วก็ยัง ส่วนใหญ่ก็ยังคงผิดศีลกันอยู่บ่อยๆ .. <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    การจะแก้เศษกรรมเหล่านี้ได้น่าจะถือศีลแปดตลอดชีวิตก็จะเป็นการดี(อันนี้หนูเดา) <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    อีกทั้งหญิงที่จะเกิดเป็นชายในชาติหน้าน่าจะเป็นหญิงแท้ที่เป็นบุคคลอันไร้ซึ่งราคะจริตแต่งามเพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติกุลสตรี คือ ไม่ต้องแต่งองค์ทรงเครื่องเพื่อล่อตาล่อใจไอ้เข้เพศตรงข้ามแต่ก็สามารถดึงดูดใจผู้พบเห็นและคู่บารมี(รวมทั้งคู่เวรคู่กรรม)เท่านั้น ..(อันนี้หนูเดา คิดเองอีกแล้วค่ะ)
    <o:p></o:p>
    ฝ่ายชายก็เช่นกัน........ (ลองคิดเล่นๆดูนะคะ สนุกดี)<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    อ่อ.. สังเกตดูสิ เพศที่สามส่วนใหญ่จะราคะจริต .. <o:p></o:p>

    หนูเพียงแค่แสดงความคิดเห็นเท่านั้น ไม่ได้ปรามาสแต่อย่างใด <o:p></o:p>
    แค่ใช้ความรู้สึกมองดูความจริง ไม่อิงตรรกะค่ะ....
    <o:p></o:p>
    หากผิดถูกประการใดก็ข้อตำหนิติเตือนและคำแนะนำด้วยค่ะ


    (kiss) .. ขอบพระคุณค่ะ .. (kiss)
     
  9. SUGARSPAIN

    SUGARSPAIN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +64
    กะเทยคนหนึ่งสวยมากมาย สวยเกินกว่าสตรีเเท้ๆ หลายร้อยพันคน ความเป็นอยู่ของเธอก็หรูหราสุขสบาย แถมยังมีแต่บุรุษรุมล้อมปองรัก เหล่านี้เป็นกรรมหรือเป็นบุญอย่างไรคะ? แต่ว่าเธอบอกใครไม่ได้ว่าเธอเป็นกะเทย แม้ว่าเธอจะแปลงเพศแล้วก็ตาม.. เธอไม่กล้าที่จะพูดมันออกไป.. จึงขอกราบเรียนถาม... เรียนถาม.. ถามท่านให้ความกระจ่างค่ะ
     
  10. D-white

    D-white เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2010
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +210
    ขอบคุณมากค่ะที่นำสาระดีๆมาเผียแผ่ อนุโมทนา สาทุ ด้วยค่ะ
     
  11. cheterk

    cheterk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    512
    ค่าพลัง:
    +1,568
    อนุโมทนาครับ การส่งผลมาเกิดต้องตั้งผังอธิญานให้ดี

    อนุโมทนาครับ การส่งผลมาเกิดต้องตั้งผังอธิญานให้ดี ว่าให้เกิดเพศสัมนาอยู่ในพระพุทธศาสนาด้วย
     
  12. WindowsA2M

    WindowsA2M เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +116
    ขออนุโมทนาด้วยคนคะ ไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน เมื่อเกิดมาคู่กันแล้วก็ต้องช่วยกันสร้างบารมีค่ะ
     
  13. บุตรอำพร

    บุตรอำพร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +66
    ขอชี้แจงครับ
    ไม่เห็นด้วยกับความเห็นของคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->-:- Zen Lifestyle -:-<!-- google_ad_section_end -->
    เริ่มจากข้อแรกที่คุณบอกว่า ทอม ดี้ ตุ๊ด เกย์ กระเทย เก้ง กวาง เลสเบี้ยนน่าจะบารมีน้อยกว่าผู้หญิงนะคะ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>เพราะเห็นได้จากเพื่อนๆบุคคลที่รู้จักและคนทั่วไปที่มิใช่ชายจริงหญิงแท้ล้วนผิดหวังในเรื่องของความรักและการมีเพศสัมพันธ์อันผิดศีลธรรม(ผิดศีลข้อ 3 บุพการีไม่ยอมรับในคู่รักรวมทั้งรสนิยมทางเพศของบุตรหลานนั่นล่ะค่ะ)<O:p></O:p>

    1.เรื่องของความรักไม่ว่าเพศใดก็ผิดหวังได้ด้วยกันทั้งนั้นและที่บอกว่าการมีเพศสัมพันธ์อันผิดศีลธรรม ผิดศีลข้อ 3 ก็ถ้าผู้หญิงหรือชายแท้ประพฤติตนสำส่อนทางเพศนั่นก็ถือว่าผิดศีลข้อ3และยิ่งไปกว่านั้นบุพการีก็คงไม่ยอมรับเช่นกันหรือคุณว่าไม่จริง
    2.ที่บอกว่า หนูคิดว่าคนเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ต้องการความรักและการยอมรับทางสังคมมากถึงมากที่สุดหากแต่ก็ยังผิดหวังอยู่เรื่อยไป ผมคิดว่าคนทุกคนต้องการความรักและการยอมรับทางสังคมเช่นเดียวกันทั้งนั้น และเรื่องของความรักทุกคนก็ผิดหวังได้เหมือนกันทั้งนั้นไม่ใช่เฉพาะเพศที่ 3 เท่านั้น
    3.ที่บอกว่า อีกทั้งตุ๊ดเพื่อนพี่น้องของหนูยังพูดกับปากว่าพวกเขาไม่สามารถพบรักแท้ได้หรอกฉะนั้นจึงแรดๆไปวันๆแก้คันแก้เหงาแบบแอบๆ(อันหลังนี้หนูพูดเอง) อันนี้คุณคงต้องกลับไปดูแล้วว่าสังคมเพศที่ 3 ที่คุณพบเจออยู่เป็นสังคมที่ไม่ได้มีการยกระดับจิตใจของมนุษย์เลยสังเกตุได้จากความคิดที่ว่าแรดไปวันๆแก้คันแก้เหงา ซึ่งความคิดแบบนี้จะไม่มีในหมู่ผู้เจริญแล้ว
    4. ที่ว่า เพศที่สามก็บวชเป็นพระไม่ได้ใช่ไหมล่ะคะ เพราะมันไม่ได้บุญ.. อีกทั้งยังบาปอีก อันนี้ก็ไม่จริงแค่เพียงผู้บวชระลึกไว้เสมอว่าตนเองเกิดในกายที่เป็นบุรุษเพศ ตัดกิเลศ ทำจิตให้ว่างปล่อยวางทุกสิ่ง ในช่วงระยะเวลาที่บวชครองศีลมิให้พร่องแค่นี้ก็ได้บุญมากโขแล้ว และไม่เป็นบาปอย่างที่คุณบอกด้วย (อีกอย่างพวกผมไม่ต้องไปบวชที่ต่างประเทศด้วย)
    5. ที่ว่า หญิงที่จะเกิดเป็นชายในชาติหน้าน่าจะเป็นหญิงแท้ที่เป็นบุคคลอันไร้ซึ่งราคะจริตแต่งามเพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติกุลสตรีคือ ไม่ต้องแต่งองค์ทรงเครื่องเพื่อล่อตาล่อใจไอ้เข้เพศตรงข้ามแต่ก็สามารถดึงดูดใจผู้พบเห็นและคู่บารมี และ เพศที่สามส่วนใหญ่จะราคะจริต .. <O:p></O:p> อันนี้ถ้าหมายถึงการปฏิบัติตนกับการแต่งกายแล้วก็คงต้องขอให้เหตุผลเหมือนข้อที่ 3 คือคุณคงต้องย้อนกลับไปดูสังคมเพศที่ 3 ที่คุณรู้จักว่าเป็นแบบไหน ซึ่งผู้ที่ยกระดับจิตใจแล้วก็ยังมีอีกมากมาย และอีกอย่างเดี๋ยวนี้ผู้หญิงที่คุณบอกว่าเป็นกุลสตรีแต่งกายยิ่งกว่าเพศที่ 3 มีก็เยอะแยะแถมประพฤติตนในทางเสื่อมก็มาก
    6. ที่ว่า เรื่องการงานในหลายอาชีพยังไม่ยอมรับบุคคลประเภทนี้เพราะเข้าใจว่าพวกเขาเป็นวิตถาร อันนี้ต้องชี้แจงว่าถ้าบุคคลเหล่านั้นมีความสามารถดีจริงก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้งานดีๆ ซึ่งคนที่เป็นเพศที่3ที่มีหน้าที่การงานมีความสามารถก็มีให้เห็นอยู่มากมาย และตัวผมเองก็เป็นข้าราชการ รับใช้แผ่นดินใต้เบื้องพระยุคลบาท ซึ่งผมก็ยังไม่เห็นว่าตัวผมจะด้อยกว่าใครเลย

    *ทั้งนี้เป็นเพียงเพื่อการชี้แจงความเห็นเท่านั้นหากมีสิ่งใดทำให้ไม่พอใจผมต้องขออโหสิกรรมไว้ ณ ที่นี้ด้วย*
    เพศมิไช่เครื่องวัดว่าบุคคลนั้นเป็นคนดีหรือเลวทุกอย่างขึ้นอยู่กับตน สาธุ สาธุ สาธุ

    <O:p
     
  14. no-ne

    no-ne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,198
    ค่าพลัง:
    +3,380
    ขอออกความคิดเห็นหน่อยนะคะ ว่าคำที่คุณ -:- Zen Lifestyle -:- ใช้ในการตอบกระทู้ ค่อนข้างแทงใจเพศที่สามเลยทีเดียวนะคะ ถ้าไม่ได้ฝึกจิตฝึกใจให้ละวางทิฐิมานะบ้างแล้วเนี่ย อ่านแล้วต้องมีเคืองมากแน่เลย เพราะเหมือนคุณกำลังดูถูกเพศที่สามเลยอะค่ะ ถ้าคุณไม่ได้มีเจตนาดูถูก ดิฉันก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย และเห็นด้วยกับคุณบุตรอำพรนะ ว่าพวกเราก็มีหลากหลายนะ มีทั้งดีและชั่วเหมือนชายจริงหญิงแท้นั่นแหละค่ะ เพราะฉะนั้นควรพิจารณาเป็นรายบุคคลไปนะ และบุคคลที่เป็นกะเทย เกย์ ตุ๊ด ทอม ดี้ นี้ก็มีทุกข์ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ของเพศที่สาม ที่เพศแท้ไม่มีทางเข้าใจได้ด้วยความคิดของตนแน่นอนนะ และดิฉันก็มีความเชื่อถือในคำของพระอาจารย์เป็นอย่างยิ่งนะคะ ไม่คิดสงสัยในคำสอนของท่านค่ะ แต่จะพิสูจน์ด้วยประสบการณ์ที่ได้จากการปฏิบัติธรรมจะดีกว่า เรามานึกคิดคาดเดาเอาเอง
     
  15. SUGARSPAIN

    SUGARSPAIN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +64
    :cool: เริศ...


     
  16. SUGARSPAIN

    SUGARSPAIN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +64
    :cool: คำกล่าวของคุณนุ่มนวล น่าประทับใจค่ะ

     
  17. ทิพย์ปทุโม

    ทิพย์ปทุโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +2,471
    ;aa31สงสัยชาติที่แล้วเป็นชาย นิสัยเดิม ๆ มันเลยติดมาcatt13
     
  18. surachai_1819

    surachai_1819 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2010
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +50
    ชาติกำเนิด ไม่ไช่ตัวกำหนดว่าบุคคลนั้น ดีหรือชั่ว กรรม ต่างหากที่เป็นตัวกำหนด
     
  19. pradet66728541

    pradet66728541 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +1,221
    " อดีตอย่าไปสนแม่งมัน อนาคตไปคิดหาส้นตีนอะไร ต้องอยู่กับปัจจุบันซิ "

    คำสอนหลวงปู่ละมัย สวนสมุนไพร เพชรบูรณ์ (ท่านบอกอบ่างนี้จริงๆ)

    อนุโมทนา
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...