ใครเชื่อว่าการนิพพานเป็นแบบนี้บ้าง

คือผมไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับศาสนาพุทธมากนัก เนื่องจากสมองเหลือน้อยเต็มที ไม่รู้ผมชอบคิดอะไรเองคนเดียวเลยเกิดความคิดว่าการนิพพานคือ การที่จิตลอยอยู่นิ่งๆในอวกาศ สามารถดูความเป็นไปของโลกได้ สามารถดูกิจกรรมคนอื่นทำอะไรได้เป็นความฝัน คล้ายๆกับที่เคยฝันไว้เลย คือเป็นแบบคล้ายเล่นเกมมุมมองแบบบุคคลที่ 3 อะ ก็ตรงกับคำว่า ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย แล้วอะ หรือว่าผมเข้าใจอะไรถูก อะไรผิดก็โปรดชี้แนะด้วย นี่แหละที่สุดแห่งธรรมของผม

 

เคยได้ยินคำนี้ไหมครับ

"ทิศที่ไม่เคยไป ก็คือ มรรคผลนิพพาน แม้แต่ฝันก็ยังไม่เคยฝัน"

คำนี้ ผมได้ยินจากการเข้าฟังธรรม ของแม่ชีทศพร ในเว็ป ครับ
ลองหาดูครับ

www.tumdtv.com
do.tumdtv.com
www.thossaporn.com

 

นิพพาน ไม่ใช่การคิดครับ

 

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ท่านเคยตรัสไว้ประโยคหนึ่งเกี่ยวกับนิพพานว่า
"นิพพานนั้น ปุถุชนไม่สามารถสัมผัสได้ แม้ในความฝัน" เพราะฉนั้นอย่าเดา
อย่าจินตนาการไปเลยครับ ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพ้อเจ้อไปก็เสียเวลาเปล่าๆ
สติปัญญาของปุถุชน ก็ได้แค่เดาเอานึกเอา แต่ไม่มีทางเข้าถึงสภาวะนิพพานได้เลย
องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังตรัสอีกว่า

มีเรื่องอยู่ 4 อย่าง ที่ปุถุชนไม่ควรนำมาคิดเอาเอง ได้แก่
1. เรื่องกฏแห่งกรรม
2. เรื่องนิพพาน
3. เรื่องฌาณสมาบัติและอภิญญา
4. เรื่องจักรวาลและโลก

(ถ้าผมพิมพ์ผิด ก็ขออภัยด้วยครับ)

 

ถ้าคุณ จขกท...เข้าใจ ความทุกข์ คือรู้ว่า สิ่งที่คุณเขียนมานี้ได้จากการที่คุณ ได้รู้จักความทุกข์ได้ดีแล้วนั้น เหตุของทุกข์คุณปล่อยวางได้เสียสิ้นแล้วนั้น และความดับทุกข์คุณทำให้ประจักษ์และแจ่มแจ้งแล้ว นั้น...สิ่งที่เหลือจากนั้น สิ่งที่เข้าใจจากนั้น สิ่งที่ประจักษ์แจ่มแจ้งจากนั้น.......ค่อยขยายความคำว่านิพานก็ได้นะครับ....(ความเห็นส่วนตัววครับผิดอย่างไรขออภัยด้วยนะครับ...คงต้องไปห้องน้ำแล้วครับ..ร่างกายนี้ มันก็เป็นธรรมชาติของมันนะครับ ไม่แน่นอนจริงๆ...)

 

http://palungjit.org/posts/32514

 

คุณเจ้าของกระทู้ถ้าคุณอยากรู้ก็ปฎิบัติเองดิค่ะ เป็นปัตจัตตัง รู้ได้เฉพาะตนค่ะ ถูกอย่างคุณบัวรองพุทธบาทพูดเอาไว้ค่ะว่า เป็นอจินไตย

 

จริงๆแล้วจากคำที่ครูบาอาจารย์ท่านเล่า พระนิพพานคือเมืองแก้วครับ เป็นเมืองที่มีความสวยวิจิตรงดงามกว่าสวรรค์มาก โดย พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ และ พระอรหันต์ทั้งหลายอาศัยอยู่ครับ ผู้ที่จะไปพระนิพพานได้ต้องปราศจากกิเลสทั้งหลายและละสังโยชน์ 10 ประการได้หมดครับ เป็นเมืองที่ปราศจากทุกข์ มีแต่สุขล้วนๆ ครับ ไม่มีโรคภัย ไข้เจ็บ ไม่แก่ ไม่ตายอีก ไม่ต้องเจอทุกข์ของกิเลสด้วย น่าอยู่ไหมครับ จขกท.

ปล. หากผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะครับ

 

ความรู้ใหม่เป็นอจินไตย ไม่สามารถคิดหรือจินตนาการเองได้
สาธุ อนุโมทนา

http://www.sangthipnipparn.com/home.html

 

เอาเป็นว่าเรื่องอย่างนี้เข้าใจแต่อธิบายไม่ถูกต้องรับรู้ด้วยจิตอย่างเดียวละมั้ง อะไรที่คิดแล้วสบายใจก็เชื่อต่อไปเหอะ อย่าเอามาคิดมากอีกเลย

 

นิพพานคือ ความว่างเปล่า ที่ ไม่ว่างเปล่า ถูกมั้ยครับ

 

ต้องลงมือปฏิบัติ

ทุกอย่างเข้าใจได้จากการเรียนรู้เท่านั้น ไม่สามารถนึกคิดหรือจินตนาการเอาได้
และการเรียนรู้นั้นมันต้องค่อยเป็นค่อยไป เรียนวันเดียว จะให้เข้าใจสมการไอส์ไตน์เลยคงไม่ได้ เอาแค่ 1+1 ให้ได้ก่อน และต้องชำนาญก่อนค่อยไปเสต็ปต่อไป ถ้าท้อก็จบ



ความรู้ เป็นอจินไตย คือ รู้ได้ด้วยตนเองเท่านั้น
เช่น ถ้าเราไม่เคยกินทุเรียน ต่อให้คนที่เคยกินทุเรียนทั้งโลกมาบอกคุณ คุณก็ไม่สามารถรู้ได้ ว่าอร่อยยังไง

 

นิพพาน คือ ความดับไม่เหลือ..........ของกิเลส.
พุทธทาส ภิกขุ.

 

อันนี้ต้องไปถามพระอริยะนะจ้ะ
ผมไม่รู้ เพราะยังไม่บรรลุธรรมขั้นสูงสุดในโลก

 

*** นิพพาน ****

ผู้ที่สำเร็จ เขาจะเข้าไปได้
เมื่อละสังขารแล้ว ก็นั่งใบไม้เข้าไป ถ้าไม่มีใบไม้ก็เข้าไปไม่ได้ ได้แต่ไปดูข้างนอก
ใบไม้เหมือนเป็น พาสปอร์ตวีซ่า ถ้าไม่มีเขาก็ไม่ให้เข้า
จะเหาะสูงแค่ไหน ก็เป็นกำแพงสูงขึ้นมา
สมัยก่อนเป็นใบสักใหญ่ แต่เดี๋ยวนี้แต่ละคนชาติกำเนิด ถิ่นเกิดก็ไม่เหมือนกัน
ใบไม้ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ขึ้นกับต้นกำเนิดของแต่ละคนมาจากต้นอะไร
เมื่อไปถึงประตู ใบไม้ก็มีข้อมูลของตนเองทั้งหมด รายงานแสดงออกมา
เขาก็ให้เข้าไปได้ ข้างในก็เป็นปราสาท
ปราสาทของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เป็นไปตามรูปใบไม้
อย่างใบมะม่วง ก็ยอดแหลมๆ เหมือนแบบในอังกฤษที่เป็นยอดแหลมๆ
ใบไม้บางอย่างกลมมน ปราสาทก็เหมือนแบบพระที่นั่งอนันตสมาคม
ใครชอบสีแบบไหน ปราสาทสิ่งต่างๆก็เป็นสีนั้น เช่นสีบานเย็น
ส่วนผู้ที่สำเร็จเขาไปแล้ว ก็เป็นพระพุทธรูปขึ้นมา
คือ กายสังขารไม่มีแล้ว มีแต่ตัวกระทำ ตัวกระทำก็เป็นพระพุทธรูป
เป็นพระพุทธรูปที่มีเกศ เป็นทองคำ เป็นเงิน เป็นทองแดง...
มีเกศนี่ หมายถึง ทะลุท้องฟ้าขึ้นไปแล้ว
คือ มีปัญญาเหนือมนุษย์เหนือสัตว์โลกไปแล้ว

ใบไม้ จึงมีความสำคัญมาก
ใครไม่มีใบไม้ ก็เข้าไปนิพพานไม่ได้
สัจจะ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ไม่มีสัจจะ ก็ไม่มีใบไม้ คือ ไม่มีแก่นสาร

- " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->

http://palungjit.org/threads/สมเด็จ...กับ-ช่วงกึ่งพุทธกาลของพระโคดม.178195/page-115

 

ในความว่างอันยิ่งใหญ่ สิ่งที่เรียกว่านิพพานนั้นไม่มี
ไม่มีสิ่งใดเป็นอริยะ
ท่านจะพบได้ เมื่อท่านไม่มองหา
เป็นการมองสิ่งที่มองไม่เห็น รู้สิ่งที่ไม่ได้รู้ ฟังสิ่งที่ไม่เคยได้ยิน
นั้นแหละนิพพานล่ะ

 

"สิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรไปทำความผูกพัน เพราะเป็นสิ่งที่ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง"...
...ผู้ทำความสำคัญมั่นหมายนั้น เป็นทุกข์แต่ผู้เดียว...โดยความไม่สมหวังตลอดไป
(คำสอนของหลวงปู่"มั่น"น่ะ อ่านแล้วดี เลยนำมาฝากให้ทุกคนที่สนใจ)

 

*** นิพพานเป็นอย่างไร ****

ใครไม่เคยไป เขาก็บอกไม่ได้หรอก
ว่านิพพานมีหน้าตาอย่างไร
ผู้ทำได้ตามเยี่ยงอย่างพระพุทธเจ้า ท่านจึงบอกได้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

นิพพาน คือ อะไรครับ ?

อ่านของหลายคนแล้วงงครับ

 

เป็นภูมิที่แปลกมาก...ที่ไม่ขึ้นตรงกับคาบเวลา....แม้อรูปพรหมขั้นสูงสุดเวลาการเกิดดับแทบหาไม่เจอและไม่รู้จะสิ้นสุดยังไงก็ยังมีวันที่จะหมดตามเงื่อนไขของเวลา ในทุกภพภูมิมักมีคาบเวลา เกี่ยวข้องเสมอ ไม่มากก็น้อยแต่นิพพานสูญซึ่งกาลเวลาคล้ายวงกลม เมื่อเกิดแล้ว
หาจุดสิ้นสุดไม่เจอ....