ประสบการณ์ที่ได้จากการสวดคาถาเงินล้าน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย PrinceCharming, 18 พฤศจิกายน 2010.

  1. PrinceCharming

    PrinceCharming เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +773
    ผมเริ่มสวดคาถาเงินล้านของหลวงพ่อฤาษีฯ มาตั้งแต่ประมาณวันที่ 20 ตุลาคม 2553 ครับ นับจนบัดนี้ก็ยังรวมเวลาได้ไม่ถึง 1 เดือน แต่มีประสบการณ์ที่ดีมากอยากนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

    ก่อนอื่นผมต้องบอกว่าก่อนที่ผมจะมีบุญได้มาสวดคาถาเงินล้านของหลวงพ่อ ผมเป็นคนเห็นแก่ตัวมาก ผมเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของครอบครัวครับ พ่อแม่รัก ตามใจแทบทุกอย่าง อยากได้อะไรก็หามาให้ ทำให้หมด จนผมติดนิสัยรักสบาย อยากได้อะไรก็ต้องได้ พ่อผมไม่ค่อยพูดหรอกครับ แต่แม่นี่สิพูดกับผมอยู่เสมอว่าแม่เกลียดที่สุดคือผู้ชายที่เห็นแก่ตัว แม่ไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งนี้จะมาเกิดกับลูกแม่เอง

    เชื่อไหมครับ ตั้งแต่เล็กจนโตผมไม่เคยเก็บเงินหยอดกระปุกได้เลย พยายามทีไรก็เหลว พอเก็บได้สักพักก็จะไปหยิบเอามาใช้จนหมด บางทีแม่เอาไปเก็บให้ที่แบงค์ผมก็แอบเอาสมุดบัญชีแม่ไปเบิกมาเองโดยไม่บอกแม่(บัญชีเป็นชื่อผม แม่ผมเค้าบอกว่าเค้าไว้ใจผมอะครับ ว่าจะไม่แอบไปเบิกเอง)

    แต่ผมมีนิสัยที่ดีประการหนึ่งนั่นคือถ้าจะทำอะไรแล้วทำจริง ประเภทที่ว่าถึงจะตายก็จะทำให้สำเร็จ ประกอบกับการที่ศรัทธาในหลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีมาก ทำให้ผมคิดที่จะทำคาถาเงินล้านทุกวันวันละ 9 จบ ก่อนนอนก็นั่งภาวนาคาถาจนหลับไปเลย และภาวนาเวลาเผลอๆระหว่างวันด้วย พร้อมทั้งใส่บาตรวิระทะโยวันละสิบบาททุกวัน(อยากทำเยอะกว่านี้เหมือนกันแต่ยังเป็นนักเรียนอยู่ครับ) ทั้งหมดนี่ทำไม่ขาดจริงๆนับแต่วันที่เริ่มจนบัดนี้

    สิ่งที่เปลี่ยนไปจนน่าตกใจมีด้วยกันสามประการหลักๆครับ เริ่มจากแม่ผมที่มักจะน้อยเนื้อต่ำใจและไม่ชอบนิสัยเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ของผม เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เองได้เอ่ยปากชมผมครับ แม่บอกว่า ผมเปลี่ยนไปมาก แม่ดีใจเหลือเกินที่ลูกแม่เป็นคนมีน้ำใจและรู้จักที่จะเป็นผู้ให้ ผมว่าแม่ผมสังเกตเอาจากการกระทำผมมาเรื่อยๆแหละครับ เพราะปกติแม่ผมจะชมผมยากมากถ้าแม่ไม่เห็นผมทำจนเป็นนิสัยจริงๆ

    แม่ยิ้มแบบมีความสุขแล้วแม่ก็ถามว่าอะไรที่ทำให้ผมเปลี่ยนไป ผมก็มานั่งคิดๆๆ คิดไปคิดมาก็นึกได้ว่าคงเป็นเพราะการสวดคาถาเงินล้านนี่ละ เพราะตั้งแต่สวดคาถานี้มาผมไม่ผิดศีลข้อสองและข้อห้าเลยเด็ดขาด การแอบหยิบแอบลักเป็นไม่มี และผมต้องทำบุญทุกวันๆละสิบบาท เป็นสิ่งที่ทำให้กำลังใจทรงตัว เพราะบางทีผมใช้เงินไม่คิดจนเหลือไม่ถึงสิบบาท ผมก็ต้องยอมอดในส่วนอื่นเพื่อทำสิบบาทให้ได้ทุกวัน

    นอกจากนี้ตอนสวดคาถาผมก็ไม่คิดอยากได้อะไร ไม่อยากรวยไม่อยากทั้งหมด นึกถึงพระพุทธเจ้าและพระปัจเจกพุทธเจ้าเท่านั้นเวลาสวด ด้วยถือว่าท่านเป็นเจ้าของคาถา ก็ทำไปด้วยความเคารพ คิดว่ากำลังใจที่ผมละเว้นจากการอยากได้ของคนอื่นระหว่างการสวดคาถา 9 จบ และการที่ใส่บาตรวิระทะโยทุกวันนี่ละที่ทำให้ผมค่อยๆเปลี่ยนไป มีกำลังใจดีขึ้นในการให้

    ประการที่สอง ไม่กี่วันมานี่ผมฝันประหลาดมาก ปกติผมเป็นคนชอบซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใช้ ชอบมาก ทุกอยากจะแบรนด์บ้างไม่แบรนด์บ้างก็ไม่เป็นไรแต่กระเป๋านี้ขอ ชอบใส่ไปเดินสยาม เดินห้าง แต่คืนนั้นผมฝันว่า ผมไปเจอกระเป๋าแบรนด์ดังใบหนึ่งที่แพงมากและสวยถูกใจผมมาก ซึ่งราคากระเป๋ามันพอดีกับจำนวนเงินของผมที่เหลืออยู่ในกระเป๋าพอดีเป๊ะ ซึ่งหากซื้อไปจะต้องลำบาก กินเกลือไปอีกหลายวัน แต่ก็ตัดสินใจซื้อ

    พอกลับมาบ้าน(ในฝันอยู่นะ)เห็นน้องชายผมที่ยังเด็กอยู่ ใช้กระเป๋าเก่ามาก เป็นกระเป๋าใบเก่าของผมที่ไม่ใช้แล้ว แม่ขอไปให้น้องใช้ไปโรงเรียน ผมตัดสินใจยกกระเป๋าใบนั้นให้น้องทันทีโดยไม่เสียดาย พอน้องได้กระเป๋าใหม่ น้องดีใจมาก ผมเห็นน้องดีใจผมก็รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก แล้วก็ตกใจตื่น เชื่อไหมครับตื่นมาแล้วผมยังจำความรู้สึกดีใจที่ได้ให้กระเป๋าใบนั้นกับน้องได้ดี มันอิ่มใจบอกไม่ถูกเลยครับ

    ประการสุดท้ายเป็นเรื่องเกี่ยวกับการให้นี่ละครับ ทุกวันนี้ผมมีความสุขเสมอที่ได้เป็นผู้ให้ ไม่ว่าจะเป็นให้เงินหรือให้การช่วยเหลือด้านอื่นๆ ทุกวันนี้ใครมาบอกบุญก็จะทำแบบอยากทำมาจากใจเอง และหลายๆครั้งก็หาเองตามเวบไซต์ว่ามีใครบอกบุญอะไรที่ไหน ทำหมดไม่อั้น ได้เงินมาตอนนี้แทนที่จะเอาไปกินอาหารร้านหรูๆ ซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ผมก็ไม่เอาแล้ว อยากทำบุญอยากที่จะให้ แล้วเหลือเงินไว้พอกินพอใช้ เพื่อนฝูงจะกินอะไรจะใช้อะไรก็แบ่งบ้าง ให้บ้าง ไม่คิดอะไรมาก ก็รู้สึกว่ามีความสุขดีกว่าแต่ก่อน

    เวลาผู้ใหญ่ขอให้ช่วยทำงาน ช่วยยกของ แต่ก่อนผมก็จะบ่น ไม่พอใจ ว่าทำไมต้องเป็นเรา เมื่อย ร้อน ทำแล้วเดี๋ยวเหงื่อออกก็ต้องอาบน้ำอีก เสียเวลา แต่ตอนนี้ผมรู้สึกมีความสุขมากเลยครับที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น ได้ทำให้เค้ามีความสุขด้วยอะไรเล็กๆน้อยๆที่เราพอช่วยได้

    สุดท้ายแล้วครับ สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่านิสัยผมได้เปลี่ยนไปจริงๆก็คือคำพูดอีกคำของแม่ หลังจากที่ผมอธิบายสิ่งที่ผมปฏิบัติและข้อห้ามและข้อควรปฏิบัติระหว่างเจริญคาถาเงินล้านให้แม่ฟัง แม่บอกว่า แม่อยากจะไปกราบขอบคุณหลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีสักหลายๆครั้งเลยที่ทำให้ลูกแม่เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ เพราะแม่รู้ว่าไม่ว่าแม่จะทำยังไง จะพูด จะบอกจะสอนยังไงผมก็ไม่เคยเชื่อ และก็คงไม่เชื่อต่อไปอีกแน่นอนในอนาคต

    ส่วนผลทางด้านโชคลาภผมว่าถ้าได้ก็ดีครับเป็นผลพลอยได้ แต่ถ้าไม่ได้ผมก็ถือว่าแค่นี้ก็ทำให้ชีวิตผมดีขึ้นมากๆๆๆๆๆแล้วครับ

    ผมขอใช้กระทู้นี้เผยแผ่เกียรติคุณและความดีแห่งคาถาเงินล้านให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อเป็นการทดแทนพระคุณท่านเจ้าของคาถา หลวงพ่อปาน และหลวงพ่อฤาษีฯครับ ถึงแม้ผมจะยังต้องปฏิบัติต่อไปเรื่อยๆให้ถึงที่สุดของความดี แต่ ณ ตอนนี้ผมขอบคุณหลวงพ่อจริงๆครับ

    ^_____________________________^
     
  2. kim9

    kim9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +2,179
    สาธุครับคุณ ขอให้หมั่นทำ หมั่นสร้างอริยทรัพย์ ไปเรื่อยๆน๊ะครับ
    ทำไปเถอะครับ ใครเค้าจะว่าบ้า เราก็บ้าความดี พยายามถือศีล 5 ให้ครบน๊ะครับ

    และเรื่องของคำพูด กรรมบท 10 นี่พยายามเอาให้ผ่านให้รอดนะครับ ...........วาจานี่สำคัญครับ และถ้าเราพยายามถือศีล 5 ให้ครบ ทำแต่ความดี คิดดี,พูดดี สิ่งที่คุณจะได้กลับคืนมานี่ มันจะเปลี่ยนแปลงตัวของคุณไปทั้งชีวิต.
    ผมได้อ่านข้อความของคุณผมก็ดีใจแทนตัวคุณ และครอบครัวของคุณมากๆเลยครับ

    เวลาที่เราจะทำอะไรก็ให้นึกถึง หลวงพ่อปาน และหลวงพ่อฤาษีลิงดำให้มากๆน๊ะครับ
    อายุไม่ใช่สิ่งสำคัญ เพราะทุกอย่าง ขึ้นอยู่ที่จิตใจอย่างเดียวเท่านั้น ขอให้คุณเจริญๆ ทั้งทางโลกและทางธรรมน๊ะครับ
     
  3. kim9

    kim9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +2,179
    อ้อ ...รบกวนลองทำตามที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านสอนน๊ะครับ
    สิ่งนี้นี่ประเสริฐที่สุดแล้วครับ


    สังโยชน์ 10


    1) นักปฏิบัติเพื่อมรรคผล ที่ท่านปฏิบัติกันมาและได้รับผลเป็นมรรคผลนั้น ท่านคอยเอา สังโยชน์ เข้าวัดอารมณ์เป็นปกติ เทียบเคียงกับสังโยชน์ว่า เราตัดอะไรได้เพียงใด แล้วจะรู้ผลปฏิบัติตามอารมณ์ที่ละนั้นเอง ไม่ใช่คิดเอาเองว่า เราเป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ ตามแบบคิด ตามแบบเข้าใจเอาเอง

    2) สำหรับญาติโยมพุทธบริษัท ที่ปฏิบัติพระกรรมฐาน จะได้ทราบอารมณ์ของจิตว่าท่านทั้งหลายทำเวลานี้ถึงไหนแล้ว ความจริงก่อนที่จะบรรลุมรรคผล พระพุทธเจ้าไม่ทรงสรรเสริญ แต่ว่าพระพุทธเจ้าเองท่านทรงยืนยัน ท่านเป็นพระพุทธเจ้าเป็นภาระของท่าน แต่ว่าบุคคลใดเป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ อันนี้ท่านทรงยืนยัน อันนี้จำเป็น
    แต่ว่าส่วนใหญ่พระสาวกก็ จะไม่ยืนยัน คือ ว่าจะแนะนำให้เข้าใจเอง ฉะนั้นสำหรับญาติโยมพุทธบริษัทก็เช่นเดียวกัน อาตมาก็ขอนำ สังโยชน์ 10 มาเป็นเครื่องวัดกำลังใจ
    สังโยชน์ 10 ประการ 3 ข้อ เป็นคุณธรรมของพระโสดาบันหรือสกิทาคามี คือ
    - สักกายทิฏฐิ สำหรับพระโสดาบันกับพระสกิทาคามี ตัวนี้เป็นตัวปัญญานะ เป็นตัวตัดกิเลสทั้งหมด แต่ว่า พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า พระโสดาบันก็ดี พระสกิทาคามีก็ดี มีปัญญาเล็กน้อย มีสมาธิเล็กน้อย แต่มีศีลบริสุทธิ์ ศีลบริสุทธิ์นี่ตามฐานะ ถ้าฆราวาสก็คือศีล 5 คือ ศีล 5 เป็นสำคัญ ยังไม่ถือศีล 8 ถ้าถือศีล 8 เป็นพระอนาคามี คือว่าถ้ามีศีล 5 บริสุทธิ์แน่นอน แล้วก็ใช้ได้ สักกายทิฏฐิ ถ้าญาติโยมมีความคิดอยู่เสมอว่าชีวิตต้องตาย เราไม่ประมาทในชีวิต หมายความว่าพยายามหลบความชั่ว คือบาปไว้เสมอ
    - วิจิกิจฉา ไม่สงสัยในความดีของพระรัตนตรัย คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์
    - สีลัพพตปรามาส รักษาศีล 5 เคร่งครัด แล้วก็ขอแถมอีกนิด
    - อุปสมานุสสติกรรมฐาน นึกถึงพระนิพพานเป็นอารมณ์ ถ้าจิตทรงตัวอย่างนี้ได้จริง ขอให้ทราบว่า พระพุทธเจ้าทรงเรียกผู้นั้นว่า พระโสดาบัน หรือ สกิทาคามี วัดใจเอาเองก็แล้วกันนะ

    3) สังโยชน์ทั้ง 10 ถ้าท่านพิจารณาวิปัสสนาญาณแล้ว จิตค่อย ๆ ปลดอารมณ์ที่ยึดถือได้ครบ 10 อย่าง โดยไม่กำเริบอีกแล้ว ท่านว่าท่านผู้นั้นบรรลุอรหัตตผล เครื่องวัดอารมณ์ที่พระพุทธเจ้าตรัสจำกัดไว้อย่างนี้ ขอนักปฏิบัติจงศึกษาไว้ แล้วพิจารณาไปตามแบบ ท่านสอนเอาอารมณ์มาเปรียบเทียบกับสังโยชน์ 10 ทางที่ดีควรคิดเอาชนะกิเลสคราวละข้อ เอาชนะให้เด็ดขาด แล้วค่อยเลื่อนเข้าไปทีละข้อ ข้อต้น ๆ ถ้าเอาชนะไม่ได้ ก็อย่าเพิ่งเลื่อนไปหาข้ออื่น ทำอย่างนี้จะได้ผลเร็วเพราะข้อต้นหมอบแล้ว ข้อต่อไปไม่ยากเลย จะชนะหรือไม่ชนะ ก็ข้อต้นนี่แหละ เพราะเป็นของใหม่ และมีกำลังครบถ้วนที่จะต่อต้านเรา ถ้าด่านหน้าแตก ด่านต่อไปง่ายเกินคิด ขอให้ข้อคิดไว้เพียงเท่านี้

    4) เราจะต้องมีสติอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสติตัวสำคัญ นั่นคือ จะต้องมีความรู้สึกว่า
    - สักกายทิฏฐิ อัตภาพร่างกายนี้มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา เราจะไม่มีการติดอกติดใจอยู่ในร่างกายของเรา และร่างกายของบุคคลอื่น เราถือเสมือนว่าร่างกายเป็นสภาวะอันหนึ่ง ๆ หรือ บ้านเช่าที่เราใช้อาศัยอยู่ชั่วคราวเท่านั้น
    - วิจิกิจฉา เราไม่สงสัยในคำสั่งและคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใช้ปัญญาพิจารณาพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระชินวรอยู่เสมอ
    - สีลัพพตปรามาส เราจะรักษาศีลให้ครบถ้วนไม่ลูบคลำศีล
    - กามฉันทะ เป็นฉันทะ เป็นภัยสำหรับเรา เราพยายามหาทางทำลายกามฉันทะให้พินาศไปจากจิต
    - เราจะตัดปฏิฆะ คือ ความกระทบกระทั่งกับอารมณ์ของจิต ด้วยอำนาจความโกรธ ความพยาบาทให้สิ้นไป
    - เราจะไม่หลงใหลใฝ่ฝันติดอยู่เฉพาะในรูปฌาน
    - เราจะต้องไม่ติดอยู่เฉพาะในอรูปฌาน ใช้ปัญญาใคร่ครวญ พิจารณาศีลของเราให้เป็นปกติ อย่าให้มันด่าง มันพร้อย มันขาดทะลุ อย่าให้มันบกพร่อง ถ้ามีปัญญาเสียอย่างเดียว ไม่มีอะไรยาก และก็ใช้ปัญญาพิจารณาว่าร่างกายของตน ร่างกายของสัตว์ ที่เรียกว่า รูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัส เอาร่างกายคนก็แล้วกัน คนก็ดี สัตว์ก็ดี วัตถุก็ดี มันสกปรกหรือสะอาดให้ พิจารณาใน กายคตานุสสติ และอสุภกรรมฐาน หาความจริงในร่างกายของคนและสัตว์ แม้แต่ของเราให้ได้ว่ามันมีอะไรน่ารักตรงไหน มันมีอะไรยืนยงคงทนตรงไหน มันมีสภาวะทรงตัว หรือว่ามันสลายตัวไปในที่สุด ต้องเอาชนะอารมณ์นี้ให้ได้นะ อย่าไปติดในตัวรักไม่ได้ ต้องเป็นตัวคลายความรัก
    แล้วก็พิจารณาอารมณ์ที่เราโกรธ อารมณ์ที่กระทบกระทั่ง คือ ปฏิฆะ อารมณ์ที่เข้ามากระทบกระทั่งสร้างความไม่พอใจ มันเป็นประโยชน์ มันเป็นประโยชน์อะไร จึงไม่พอใจในบุคคลอื่น ที่เขากล่าวอย่างนั้น เขาทำอย่างนั้น เราก็ใช้ปัญญาพิจารณาว่าเราไม่พอใจ ที่เราโกรธเขา ที่เราเกลียดเขาคิดอาฆาตมาดร้ายเขา เพราะเรามันเลว ถ้าเราดีเสียอย่างเดียว ถ้าใครเขาจะว่าอะไร มันก็ไม่หนัก ที่พระพุทธเจ้าท่านกล่าวว่า นินทา ปสังสา นินทาและสรรเสริญเป็นของธรรมดาของโลก เขาสรรเสริญเราว่าดี ถ้าเราเลว มันก็ไม่ดีไปตามคำที่เขาพูด เขานินทาว่าเราเลว ถ้าเราดี เราก็ไม่เลวไปตามเขาพูด
    - มานะ เราจะตัดมานะความถือตัวถือตน ว่าเราดีกว่าเขา เราเสมอเขา เราเลวกว่าเขาให้หมดไป นึกไว้เสมอนะ อย่าลืมไม่ได้ และก็ใช้ปัญญาพิจารณาต่อไปว่า การที่เราจะยึดถือตัวตน ถือเรา ถือเขา ถือพวก ถือหมู่ ถือคณะ ว่าเราดีกว่าเขา เราเลวกว่าเขา เราเสมอเขา มันไม่มีประโยชน์ คนเกิดแก่ เจ็บ ตาย เหมือนกัน ไม่ควรจะเอาอะไรเข้าไปเปรียบเทียบ ให้เป็นการแข่งขัน หรือถ่อมเกินไป ไม่ควรคิด คิดว่าทุกคนเกิดมาก็แก่เหมือนกัน ป่วยเหมือนกัน ตายเหมือนกัน รักสุขเหมือนกัน เกลียดทุกข์เหมือนกัน เราเป็นเพื่อนกันได้แบบสบาย จะเสมอหรือไม่เสมอ จะดีกว่า จะสูงกว่า จะต่ำกว่าฉันไม่รู้ รู้อย่างเดียวว่า ฉันเป็นมิตรที่ดีของท่าน เท่านี้พอ
    - อุทธัจจะ ใช้ปัญญาเข้าควบคุมกำลังใจว่าอารมณ์ใดที่จะเกิดขึ้นนั้น เราไม่ต้องการ เรามุ่งเฉพาะพระนิพพานอย่างเดียว
    - อวิชชา ใช้ปัญญาจำแนกแจกลงไปว่า อวิชชาตัวเกาะ เกาะในอารมณ์ที่เป็นอนุสัย ยังมีความหลงใหลใฝ่ฝัน ท้อแท้อยู่ในความคิดว่า
    ถ้าเราเป็น พระอนาคามีเราก็มีความสบาย ไม่ควรจะมีความทะเยอทะยานมากเกินไปให้มันเหนื่อย ก็ใช้ปัญญาสอนมันว่า ถ้าสิ่งใดก็ตามที่เรายังไม่ทำสำเร็จกิจ เราก็จะต้องทำต่อไป ไหน ๆ เมื่อเวลามันมีก็ทำลายให้มันพินาศไปให้มันหมดกิจไปเสีย ขึ้นชื่อว่ากิเลสทั้งหมด อย่าให้ปรากฏว่ามีในจิต

    5) อารมณ์ที่จะพึงสนใจมากที่สุด หรือโดยตรงนั้นคือ สังโยชน์ 10 ตัวตัดอยู่ตรงนี้ เราจะทำอะไรก็ตาม ถ้าไม่สามารถตัดสังโยชน์ได้แม้แต่หนึ่ง ก็ไม่มีผลในการปฏิบัติ เหนื่อยมาเกือบตาย กิเลสก็ยังท่วมตัวอยู่ ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ไม่มีเวลาจำกัดก็แย่ บางท่านที่มีความฉลาด เริ่มปฏิบัติไม่กี่วันก็สามารถกำจัดกิเลส เข้าถึงเขตแห่งความเป็นความเป็นพระอริยเจ้าได้ อันนี้ได้กำไรมาก





    อะจีรัง วะตะยัง กาโย ปะฐะวิง อะธิเสสสะติ ฉุฑโฑ อะเปตะวิญญาโณ นิรัตถังวะ กะลิงคะรัง
    ร่างกายนี้ ไม่ช้าก็มีวิญญาณไป ปราศจากวิญญาณแล้ว ร่างกายก็ถูกทอดทิ้งเหมือนกับท่อนไม้ที่ไร้ประโยชน์
     
  4. waythai

    waythai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,499
    ค่าพลัง:
    +15,192
  5. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,632
    อนุโมทนาครับ ขอให้เจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปตลอดกาล
     
  6. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p

    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา </O:p>
    *
    [​IMG]
     
  7. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,632
    คาถาเงินล้าน มีท่านหนึ่ง (ขอสงวนนาม) เพราะเป็นระดับ ผอ.หน่วยงานรัฐแห่งหนึ่ง เขาสวดบทนี้เป็นประจำ เคยสวดตั้งแต่ เพชรบูรณ์ ถึง กทม.(ขับรถสวดตลอดทาง) ปรากฏว่าถูกลอตเตอรี่ 5 หมื่นบาท แต่พี่เขาทำบุญแบบไม่อั้นเหมือนกัน ที่มีประสบการณ์เงินกระเป๋าจะไม่ค่อยพร่อง บางที่จ่ายเงินซื้อของไปแล้ว แต่ดูเหมือนเงินจะเหลือเท่าเดิม ตอนแรกผมคิดว่าเราจำจำนวนผิดหรือเปล่า แต่ทบทวนไปเราจำได้ เพราะนับก่อนออกจากบ้าน (เป็นพันบาท) แต่หลวงพ่อบอกไว้อย่าทักหรือพูด ให้ทำเฉยๆไว้
     
  8. ucon888

    ucon888 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2009
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +992
    สวดอยู่แทบจะทุกวันเหมือนกันครับ ทีแรกก็อยากรวย แต่หลัง ๆ มานี่สวดเพราะเคารพเลื่อมใสจริง ๆ ก็สวดวันละประมาณ 30 จบ

    หลวงพ่อบอกว่าเป็นคาถาที่มีมานานแล้ว แสดงว่าบทสวดนี้รจนาขึ้นมากี่กัปป์กี่กัลป์แล้วก็ไม่รู้ ผมรู้สึกว่าเข้มขลังดีมาก
    ขอโมทนากับทุกท่านที่สวดคาถานี้เป็นประจำครับ
     
  9. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,151
    ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ และอนุโมทนาบุญด้วยนะครับ:cool:

    ทุกๆวันนี้ผมก็สวดวันละ๓๐จบ แม้บางวันจิตใจร้อนรนฟุ้งซ่านสับสนแต่ก็พยายามสวดให้ครบครับ.....ถ้าไม่ได้สวดคาถาเงินล้านแล้วอึดอัดใจมากๆ
     
  10. vietnam

    vietnam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    337
    ค่าพลัง:
    +2,684
    ขอโมทนากับสิ่งที่ตั้งใจปฏิบัตินะครับ

    ถ้าตั้งใจทำเรื่องดีใด ๆ เรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมหรือบุคคลอื่น ๆ

    จะมีอุปสรรคบ้าง ก็ขอให้สมหวังทุกประการครับ ^_^
     
  11. PrinceCharming

    PrinceCharming เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +773
    ขอบคุณทุกความเห็นครับ

    จะปฏิบัติต่อไปเรื่อยๆครับ

    ^________________^
     
  12. waythai

    waythai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,499
    ค่าพลัง:
    +15,192
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 พฤศจิกายน 2010
  13. bosssky

    bosssky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +679
    พระคาถาเงินล้านปฏิบัติให้ได้ชีวิตดีขึ้นจริงๆ

    มีบางท่านที่กล่าวปรามาศพระคาถานี้ว่าเป็นเรื่องงมงายจะเป็นไปได้อย่างไรเอาแต่ท่องคาถาแล้วจะมีเงิน(คิดว่าเป็นไปไม่ได้แต่ไม่ปฏิบัติดูก็จะไม่รู้)เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ครับใครที่ไม่เชื่อ แต่ต้องเอาจริงนะครับ ไม่ใช่พิสูจน์สามวัน เจ็ดวันเลิก ลองทำดูครับสำหรับใครที่ต้องการความคล่องตัวในฐานะการเป็นอยู่ เคล็ดการสวดที่จะต้องรู้คือเวลาสวดคาถาต้องไม่อยากมีอยากเป็นอยากได้อยากดี วางใจเฉยๆจืดๆท่องเพื่อจิตสงบพอนึกท่องในใจเวลาว่าง ท่องๆๆๆๆๆแต่ใจสบายใจเย็นๆ
    ประสบการณ์ของผมที่ท่องพระคาถานี้เป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างมากสมัยก่อนเมื่อปี 2539 ยังอยู่คนเดียวรับราชการใหม่ๆเงินเดือนใช้ชนเดือนไม่เหลือเก็บ พอจะขอสาวไม่มีเงินซื้อทองจึงต้องพึ่งพระคาถานี้ผมทำเป็นกรรมฐานเลยเช้ามาสวดมนต์นิดหน่อยแล้วนั่งกรรมฐานประมาณ 30 นาที กลางคืนก่อนนอนสวดมนต์เสร็จนั่งกรรมฐานสวดคาถานี้ ผลปรากฏว่าเดือนนั้นพอสิ้นเดือนมีเงินเหลือซื้อทองได้ 1 บาท(ทองตอนนั้นบาทละ4,000 กว่า) คือปฏิบัติไปสักพักก็มีงานพิเศษมาให้ทำมีรายได้เพิ่มแล้วจะใช้จะซื้ออะไรเราจะตระหนี่มากขึ้น ปฏิบัติจนซื้อทองได้ 5 บาท แล้วความเป็นอยู่ก็จะคล่องตัวดีเรื่อยๆจากที่เริ่มจากชีวิตราชการเริ่มจากศูนย์ก็ได้จับเงินล้านเมื่อห้าปีที่แล้ว แต่มนุษย์เมื่อสบายขึ้นก็หลงระเริงในกิเลสตัณหา จนประสบปัญหาทำธุรกิจขาดทุนเงินล้านหมด เมื่อมีทุกข์ก็เห็นธรรม ที่พระท่านว่าเห็นทุกข์จึงเห็นธรรม ก็เริ่มหาธรรมไม่ทิ้งธรรมะของพระพุทธเจ้า และไม่ทิ้งในการถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ ที่สำคัญครูบาอาจารย์พระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีฯ)กับเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรที่ท่านเมตตากับผมมาก มีเรื่องทุกข์ร้อนอะไรจะขอท่าน โดยการบนด้วยพระแสงประทัดจุดบูชาถวายท่านสำเร็จทุกอย่างที่ขอ แม้ครั้งหนึ่งเกิดปวดท้องเพราะนิ่วในไต ใครเคยเป็นจะรู้มันปวดข้างหลังตรงเอวและจะรู้สึกอยากอาเจียน เป็นตอนไปกรุงเทพพอดีไปเยี่ยมญาติ กำลังขับรถมันปวดจนทนไม่ไหวต้องจอดแล้วอาเจียนคิดว่าคงต้องเข้าโรงพยาบาลแน่ขณะนั้นจิตก็นึกถึงเสด็จเตี่ยแล้วนึกอธิษฐานจิตให้ท่านช่วยให้หายปวดกลับบ้านจะจุดประทัดถวายท่าน 1,000 นัด ไม่น่าเชื่อไม่ถึง 2 นาทีอาการปวดเริ่มเบาลงจนสามารถขับรถต่อได้แล้วก็เลยไปเที่ยวทะเลต่อจนกลับมาถึงบ้านก็ได้ถวายประทัดให้ท่าน ครั้งที่ธุรกิจล้มก็จุดธูปขอท่านช่วยให้ฟื้นตัวเร็วๆ สิ่งที่ผ่านไปถ้าเป็นกรรมเก่าขอชดใช้ หากไม่ใช่กรรมเก่าขอสิ่งที่หมดไปกลับคืนมาโดยเร็ว จนเดี๋ยวนี้ก็ไม่เดือนร้อนอะไรแล้วด้วยบารมีเสด็จเตี่ยครับ
    จึงอยากบอกเล่าประสบการณ์ท่านที่ชอบพระเครื่องชอบสะสมพระเครื่องและต้องการให้ชีวิตความเป็นอยู่คล่องตัวขึ้น ต้องหันมาปฏิบัติบ้างหรือไม่ก็หมั่นทำทานบ่อยๆ ใครที่ไม่ชอบสวดมนต์เลยก็เอาสะหน่อย แค่อาราธนาพระขึ้นคอ ตั้งนะโม 3 จบ กับบทอิติปิโสทั้งสามห้อง เสร็จแล้วตั้งจิตอธิษฐานกับพระที่ห้อยคอ จบแล้วก็ท่อง อิทธิฤทธิพุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะจงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะอุนี้ด้วยเถิดฯ.
     
  14. sancity

    sancity Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +86
    ขอน้อมอนุโมทนาบุญด้วยครับ

    อ่านไป เห็นความตั้งใจจริงๆ ยอดเยี่ยมครับ!!!
    เพียงชั่วระยะเวลาไม่กี่วัน เปลี่ยนไปถึงขนาดนี้

    หากผ่านไปเป็นปีๆ ชีวิตพลิกประสพผลสำเร็จมากกว่านี้แน่ๆ เป็นกำลังใจนะครับ

    (เราก็สวดเป็นประจำทุกวันเช่นกัน)
     
  15. PrinceCharming

    PrinceCharming เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +773
    จริงแล้วที่ผมเขียนเล่ามาเป็นแค่ในส่วนของความโลภน่ะครับที่ลดลง

    แต่ว่าผมยังแก้ไม่ได้สักทีเรื่องความโกรธนี่ละ ทำยังไงๆก็ไม่ลดลงเลย อารมณ์รุนแรง โมโหร้าย อาละวาด สารพัดจะเลวเลยครับเรื่องนี้ ชอบไปมีเรื่องกับคนเค้าไปทั่ว ใครทำอะไรไม่ถูกใจหน่อยเป็นไม่ได้

    ยิ่งพอได้มาสวดมนต์เป็นประจำแล้วด้วย รู้สึกว่าจิตมั่นคงขึ้น มีพลัง ยิ่งไปกันใหญ่เลยครับคราวนี้

    แก้ยังไงดีอะครับตรงนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2010
  16. vietnam

    vietnam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    337
    ค่าพลัง:
    +2,684

แชร์หน้านี้

Loading...