มาดูสมเด็จกัน

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย wasabi san, 25 พฤศจิกายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ทรงกลด999

    ทรงกลด999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,284
    ค่าพลัง:
    +1,510
    เมื่อวานไปเดินท่าพระจันทร์มาครับ ได้เจออะไรหลายอย่าง ร้านเช่าพระใหม่บางร้าน ถึงขั้นเอาหนังสือพระวางไว้หน้าร้านเลย บอกพี่สั่งได้ เอาทรงไหน แบบไหน วัดไหน ตามตำราเลย ขนาดพระในนี้ที่ผมเคยลงว่าพุทธคุณแรงยังมีเลยครับ แต่เนื้อหายังไกล และยังมีของท่านอื่นอีกหลายท่านที่เคยลงรูป แกล้งไปถามเท่าไร บอกพระเขาเล่นเหมือนกัน แสดงว่าผู้อ่านเยอะพอควรครับ ถึงขั้นเอาไปก็อบได้ คนดูอาจจะมากกว่าหนังสือพระบางเล่ม ว่างๆลองไปเดินเล่นดูนะครับ
     
  2. kiatti1234

    kiatti1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,839
    ค่าพลัง:
    +811
    เรียนคุณ วาซาบิอีกรอบครับ สรุปว่า สมเด็จจิ๋วของผมและคุณบุพนิมิตแท้ไหม(อีกรอบ)เหมือนว่า มีนิดนึงอ่ะครับ
     
  3. chaiyaput

    chaiyaput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +1,146
    ขอบคุณครับท่านอาจารย์ ผมอยากเรียนถามท่านอาจารย์ทั้งสองว่า
    1).พระของสมเด็จโตจริงๆแล้วมีเนื้อขาวแบบนี้ไหมครับ (ผมยังมีแบบนี้อีกหลายองค์ ยังไม่ได้ถ่ายรูป)
    2).พระของสมเด็จโต มีเนื้อแบบสีเหลืองของขมิ้นไหมครับ และมีเนื้อสีแดงไหมครับ
    3).เรื่องมวลสารในพระสมเด็จ ถ้าเจอผงตะไบเงิน ตะไบทอง ผสมอยู่ถือว่าพระองค์นั้นไม่ใช่ของสมเด็จโตใช่ไหมครับ
    ขอบคุณมากครับ[/QUOTE]
    อาจารย์ครับ ขอเพิ่มอีกองค์ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8106.JPG
      IMG_8106.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      3,271
    • IMG_8108.JPG
      IMG_8108.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.5 MB
      เปิดดู:
      208
  4. kepper

    kepper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +128
    รบกวนคุณ วาซาบิ ช่วยดูหลวงพ่อปานให้ด้วย ครับ
    ขอบคุณ ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_2426.JPG
      SAM_2426.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      259
    • SAM_2427.JPG
      SAM_2427.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      149
    • SAM_2428.JPG
      SAM_2428.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      148
  5. wasabi san

    wasabi san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    2,009
    ค่าพลัง:
    +5,915

    เรียนอย่างนี้ พิมพ์ของคุณkiatti1234 น่าจะไม่แท้ครับ เพราะมวลสารที่เห็นคล้ายพระที่ทำล้อพิมพ์ครับ

    ส่วนพระของคุณบุพนิมิต ยังพอมีลุ้น เนื่องจากมีคราบความเก่า ทรงพิมพ์นี้ออกไปทางเจดีย์เล็กครับ แต่ต้องดูคราบไขด้วยถ้าเป็นกรุเจดีย์เล็ก
     
  6. wasabi san

    wasabi san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    2,009
    ค่าพลัง:
    +5,915
    อาจารย์ครับ ขอเพิ่มอีกองค์ครับ

    [​IMG]

    [/QUOTE]

    องค์นี้แค่มองกรอบพิมพ์ก็ต้องตกไปแล้วครับ เป็นพระถอดพิมพ์มา ส่วนมวลสารไม่ดีครับ สามารถพบพระชุดนี้เป็นกองๆตามแผงที่เขาขายกัน ต้องออกห่างครับ

    1).พระของสมเด็จโตจริงๆแล้วมีเนื้อขาวแบบนี้ไหมครับ

    ไม่มีครับ ตามที่ทราบมาเนิ้อพระสีขาวจะมีแต่พระวัดพระแก้วที่มีสีขาวผสม ขาวล้วนๆไม่เคยเห็นครับ

    2).พระของสมเด็จโต มีเนื้อแบบสีเหลืองของขมิ้นไหมครับ และมีเนื้อสีแดงไหมครับ

    คำว่าสีเหลืองขมิ้น เป็นเพียงเปรียบคำ ไม่มีสีเหลืองขมิ้น หรือสีแดง ถ้าเม็ดจุดสีเหลืองมีครับ เป็นรงค์ที่ได้มาจากการผลิตชามเบญจรงค์ ช่างหลวงได้ถวายสมเด็จโตไว้ครับ จะพบในพระยุคต้นๆ

    3).เรื่องมวลสารในพระสมเด็จ ถ้าเจอผงตะไบเงิน ตะไบทอง ผสมอยู่ถือว่าพระองค์นั้นไม่ใช่ของสมเด็จโตใช่ไหมครับ

    เท่าที่เคยเห็นมา น่าจะมีผสมในพระวัดพระแก้วครับ ส่วนวัดระฆังมีแต่สมเด็จไกเซอร์ที่สร้างปี 2390 ฉลองครบรอบอายุ 60 ปี ชุดนี้น่าจะมีไม่มีผงตะไบ ส่วนที่สร้างในวาระพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสยุโรปในปี 2411 สร้างได้ประมาณ 300 องค์ แม่พิมพ์เกิดชำรุด จึงสร้างได้เท่านั้น ชุดนี้จะมีผงตะไบทองผสม
     
  7. wasabi san

    wasabi san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    2,009
    ค่าพลัง:
    +5,915
    ส่วนเนื้อนี้ไม่ชอบเลยครับ ยิ่งพิจารณาผงยาที่อุดพระแล้ว ลักษณะไม่ใช่ครับ

    [​IMG]
    ลองดูองค์นี้ ผงยาสวยมาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. kiatti1234

    kiatti1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,839
    ค่าพลัง:
    +811
    ขอบคุณ คุณวาซาบิและท่านผู้รู้ด้วยครับให้ความสว่างทางปัญญา
     
  9. THANIT LINE

    THANIT LINE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +261
    มาติดตามให้กำลังใจยามดึกครับ
     
  10. kiatti1234

    kiatti1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,839
    ค่าพลัง:
    +811
    รบกวนคุณวาซาบิและหลายๆท่านอีกเหมือนเดิมครับ วัดปากน้ำผมไม่รู้ว่าเป็นรุ่นไหนอ่ะแล้วแท้ไหมครับ ดูไม่เป็นรบกวนช่วยบอกจุดสังเกตด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. chaiyaput

    chaiyaput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +1,146
    องค์นี้แค่มองกรอบพิมพ์ก็ต้องตกไปแล้วครับ เป็นพระถอดพิมพ์มา ส่วนมวลสารไม่ดีครับ สามารถพบพระชุดนี้เป็นกองๆตามแผงที่เขาขายกัน ต้องออกห่างครับ

    1).พระของสมเด็จโตจริงๆแล้วมีเนื้อขาวแบบนี้ไหมครับ

    ไม่มีครับ ตามที่ทราบมาเนิ้อพระสีขาวจะมีแต่พระวัดพระแก้วที่มีสีขาวผสม ขาวล้วนๆไม่เคยเห็นครับ

    2).พระของสมเด็จโต มีเนื้อแบบสีเหลืองของขมิ้นไหมครับ และมีเนื้อสีแดงไหมครับ

    คำว่าสีเหลืองขมิ้น เป็นเพียงเปรียบคำ ไม่มีสีเหลืองขมิ้น หรือสีแดง ถ้าเม็ดจุดสีเหลืองมีครับ เป็นรงค์ที่ได้มาจากการผลิตชามเบญจรงค์ ช่างหลวงได้ถวายสมเด็จโตไว้ครับ จะพบในพระยุคต้นๆ

    3).เรื่องมวลสารในพระสมเด็จ ถ้าเจอผงตะไบเงิน ตะไบทอง ผสมอยู่ถือว่าพระองค์นั้นไม่ใช่ของสมเด็จโตใช่ไหมครับ

    เท่าที่เคยเห็นมา น่าจะมีผสมในพระวัดพระแก้วครับ ส่วนวัดระฆังมีแต่สมเด็จไกเซอร์ที่สร้างปี 2390 ฉลองครบรอบอายุ 60 ปี ชุดนี้น่าจะมีไม่มีผงตะไบ ส่วนที่สร้างในวาระพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสยุโรปในปี 2411 สร้างได้ประมาณ 300 องค์ แม่พิมพ์เกิดชำรุด จึงสร้างได้เท่านั้น ชุดนี้จะมีผงตะไบทองผสม[/QUOTE]
    ขอบพระคุณท่านอาจารย์มากครับ
     
  12. อังคาร99

    อังคาร99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2010
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +1,178
    เมื่อวานไปเดินท่าพระจันทร์มาครับ ได้เจออะไรหลายอย่าง ร้านเช่าพระใหม่บางร้าน ถึงขั้นเอาหนังสือพระวางไว้หน้าร้านเลย บอกพี่สั่งได้ เอาทรงไหน แบบไหน วัดไหน ตามตำราเลย ขนาดพระในนี้ที่ผมเคยลงว่าพุทธคุณแรงยังมีเลยครับ แต่เนื้อหายังไกล และยังมีของท่านอื่นอีกหลายท่านที่เคยลงรูป แกล้งไปถามเท่าไร บอกพระเขาเล่นเหมือนกัน แสดงว่าผู้อ่านเยอะพอควรครับ ถึงขั้นเอาไปก็อบได้ คนดูอาจจะมากกว่าหนังสือพระบางเล่ม ว่างๆลองไปเดินเล่นดูนะครับ

    ที่เน้นสีแดงหมายความว่าอย่างไรครับ
    ไม่ว่าพระของคุณทรงกรด หรือท่านอื่นที่เคยนำมาถาม เขาเอาไปก๊อปเลยเหรอครับ
    หุหุหุ ผมเข้าใจถูกต้องไหม ถ้าเป็นอย่างนั้น จริงน่ากลัวมากครับ โหะๆๆ

    ว่าแต่ร้านอยู่ตรงไหนเอ่ย ชักอยากไปดูแหล่วเพื่อเป็นความรู้ด้วย อิอิอิ
     
  13. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    สวัสดีคะ พี่ๆทุกคน

    พอดีไปได้อะไรมานิดหน่อยเลยหยิบมาฝากคะ อาจจะนอกเรื่อง หากว่าพี่ๆเซียนท่านใดอ่าน และ ต้องการแสดงความคิดเห็นขัดแย้ง บางจุดก็จะขอบพระคุณยิ่งคะ เพราะ ยาอ่านก็ไม่ทราบว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้องหมดหรือไม่ ก็ฝากรบกวนพี่ๆช่วยพิจารณาเนื้อหาและข้อมูล เพื่อให้ได้ความถูกต้องยิ่งๆขึ้นด้วยคะ ยาก๊อปมาให้หมดทั้งดุ้นเลยคะ เผื่อมีพี่ๆคนไหนไปเห็นและสนใจเช่าพระ กริ่งปวเรศ คะ

    [​IMG]


    บล๊อกนี้ มีวัตถุประสงค์เขียนขึ้นมาเพื่อ เก็บรวมรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เกี่ยวกับ พระเครื่องที่ผู้เขียนมี และพบว่ามีคุณค่าทางจิตใจ เช่น พระกริ่งปวเรศ เนื้อ นวโลหะ ซึ่งในวงการพระเครื่องฯ ล้วนแต่อ้างอิงตำรา ที่ไม่มีตัวตน(หรือตนเองไม่เคยสัมผัส) อีกทั้งคนที่นำมาอ้างบางเรื่อง ยังไม่เข้าใจลึกซึ่งของเนื้อหาที่ตนเองนำมากล่าวอ้าง .........แลกเปลี่ยนความคิดเห็น Email: dr.natachai@gmail.com *****โทร:081-801-8010







    ยินดีต้อนรับ

    พระกริ่งปวเรศ พ.ศ. 2434 เนื้อสัมฤทธิ์ดำ หรือ เนื้อนวโลหะกลับดำ อายุ 119 ปี พระกริ่งฯ รุ่นนี้ มีพุทธนุภาพครอบจักวาล ดังคำกล่าวที่ว่า "องค์เดียวเที่ยวทั่วโลก"

    พระกริ่งปวเรศ พ.ศ. 2434 เนื้อนวโลหะรุ่นนี้ สามารถพบเห็ตได้จาก 3 แหล่ง

    1. สือทอดจากผู้ครอบครองดั่งเดิมตั้งแต่ พ.ศ. 2434

    2. ออกจากกรุ...
    3. อยู่ในตลาดพระเครื่อง
    ผู้เขียนได้พระกริ่งปวเรศองค์แรกมาเป็นองค์ครู แต่พอพบเห็นพระกริ่งปวเรศ พ.ศ. 2434 องค์ที่ 2 บอกตรงๆ ทำไมใหม่จัง เมื่อวิเคราะห์พิจารณาให้ละเอียดดีๆ จะพบว่าเป็นพระเก่า เนื่องจากพระกริ่งฯ รุ่นนี้โลหะธาตุที่นำมาหลอมหล่อเป็นองค์พระกริ่งฯได้อัตราส่วนผสมโลหะธาตุที่สุดยอดมาก อีกทั้งผู้เขียนยังพบ พระทุกองค์ได้ทาน้ำมันปืนบางๆรักษาเนื้อองค์พระ เพื่อป้องกัน เกิดการผุกร่อนที่เกิดจากการทำปฏิกริยากับอากาศ จึงทำให้พระกริ่งปวเรศรุ่นนี้สมบูรณ์เหมือนกับพระที่สร้างเมื่อ 119 ปีที่ผ่านมา

    ชาว พุทธทั่วๆไปมักจะมีพระเครื่องแต่ละคนล้วนแต่มีมากกว่า 1 องค์ทั้งสิ้น ผู้เขียนมีพระเครื่องที่ทรงคุณค่าจึงได้สร้างบล็อกนี้เพื่อเก็บข้อมูลพระ เครื่องของฉันขึ้น เพื่อให้ได้ชื่นชมบารมีของผู้สร้าง ผู้อธิฐานจิต และเป็นพุทธานุสติ


    ตระกูลของสัมฤทธิ์ที่ถูกต้องตามสูตรโบราณมีอยู่ 5 ตระกูล คือ สัมฤทธิ์ผล สัมฤทธิ์โชค สัมฤทธิ์ศักดิ์ สัมฤทธิ์คุณ และสัมฤทธิ์เดช รวมเป็นสัมฤทธิ์ 5 ตระกูล อันมีความพิสดารดังต่อไปนี้

    1. สัมฤทธิ์ผล คือสัมฤทธิ์แดง หรือตรีโลหะ มีมงคลความหมายถึง พระรัตนตรัยเป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อสาม ผสมด้วยโลหะธาตุ 3 ชนิด คือ ทองแดง เป็นส่วนใหญ่และเจือด้วยเงินกับทองคำ สัมฤทธิ์ตระกูลนี้มีวรรณะแดงคล้ายนาก แต่มีผิวเจือด้วยวรรณะคล้ำๆ คล้ายสีมะขามเปียก โบราณถือว่าเป็นมงคลวัตถุ อำนวยผลนานาประการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเมตตามหานิยม

    2. สัมฤทธิ์โชค คือสัมฤทธิ์เหลือง หรือปัญจโลหะ เป็นโบราณนิยามหมายถึงเบญจขันธ์ (ขันธ์ 5) คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อห้า ได้แก่ ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี เงิน ทองคำ มีวรรณะเหลืองคล้ายเนื้อกลองมโหระทึก หรือขันลงหิน มีแววนกยูงภายในเนื้อ เป็นสัมฤทธิ์ที่ให้คุณหนักไปทางด้านลาภผล กับความสำเร็จ

    3. สัมฤทธิ์ศักดิ์ คือสัมฤทธิ์ขาว หรือสัตตโลหะเป็น มงคลนามหมายถึง โพชฌงค์ 7 คือ องค์ธรรมเป็นเครื่องตรัสรู้ มี 7 ประการ ได้แก่ สติ ธัมมวิจยะ วิริยะ ปิติ ปัสสัทธิ สมาธิ และอุเบกขา สัมฤทธิ์ศักดิ์เป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเจ็ด ประกอบด้วย ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ปรอท เหล็กละลายตัว เงิน และทองคำ สัมฤทธิ์ตระกูลนี้มีวรรณะหม่นคล้ำน้อยๆ แต่มีแวววรรณะขาวผสมผสานอยู่ นับถือกันว่าอำนวยผลในด้านอำนาจ มหาอุด คงกระพัน แคล้วคลาด

    4. สัมฤทธิ์คุณ คือสัมฤทธิ์เขียว หรือนวโลหหมาย ถึงนัยของธรรมอันสูงสุดในพระศาสนา อันได้แก่ นวโลกุตรธรรม อันมี มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 สัมฤทธิ์คุณเป็นทองสัมฤทธิ์เนื้อเก้า เช่นเดียวกับสัมฤทธิ์เดช ประกอบด้วย ทองแดง ตะกั่ว สังกะสี ปรอท เหล็กละลายตัว ชิน จ้าวน้ำเงิน เงิน และทองคำ แต่สัมฤทธิ์ตระกูลนี้แก่ส่วนผสมของเนื้อเงินมากกว่าธรรมดา ฉะนั้น เนื้อภายในจึงมีวรรณะสีจำปาอ่อนหรือนากอ่อน แต่ผิวเนื้อเมื่อกลับคล้ำเพราะถูกไอเหงื่อ จะมีวรรณะคล้ำเจือเขียวเตยหม่นแกมเหลืองอ่อนคล้ำมีแววขาวโดยตลอดเนื้อ สัมฤทธิ์ชนิดนี้อำนวยคุณวิเศษเช่นเดียวกับสัมฤทธิ์เดชทุกประการ

    5. สัมฤทธิ์เดช คือสัมฤทธิ์ดำ หรือนวโลหะ เป็นสัมฤทธิ์เนื้อเก้า เช่นเดียวกับสัมฤทธิ์คุณ แต่มีสัดส่วนการผสมได้เกณฑ์ถูกต้องตามมูลสูตรมากที่สุด ดังนั้นภายในจึงมีวรรณะจำปาแก่ หรือสีนากแก่ผิวเนื้อเมื่อกลับคล้ำจะดำสนิทประหนึ่งนิลดำ นำโลหะมากระทบกันเสียงดังก้องดั่งเสียงลูกแก้ เรียกกันว่า"สัมฤทธิ์เนื้อกลับ" โบราณถือว่าสัมฤทธิ์นวโลหะทั้ง 2 ประเภทนี้เป็นสัมฤทธิ์ที่สมบูรณ์ที่สุด หรือเป็นยอดของสัมฤทธิ์ อำนวยผลในด้านมหาอุตม์อันสูงส่ง คืออำนาจตะบะเดชะ มหานิยม ลาภผล ความสำเร็จ คงกระพัน แคล้วคลาด ทุกประการ สูตรผสมเนื้อสัมฤทธิ์เดช หรือนวโลหะ นี้เป็นตำรับของสมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว ยุคกรุงศรีอยุธยา

    อัตราส่วนผสมของโลหะทั้ง 9 ชนิด ประกอบด้วย

    1. ชิน (ดีบุก+ตะกั่ว)
    2. จ้าวน้ำเงิน(พลวงเงิน)
    3. เหล็กละลายตัว
    4. ตะกั่วเถื่อน
    5. ปรอท
    6. สังกะสี
    7. ทองแดง หรือ บริสทธิ์
    8. เงิน
    9. ทองคำ

    เนื้อ สัมฤทธิ์นวโลหะ ส่วนผสมมีผู้กล่าวอ้างกันไปอ้างกันมา แต่ไม่เคยนำหลักฐานของจริงมาอ้างอิง เปรียบเสมอการกล่าวลอยๆ ถึงอัตราส่วนผสมของโลหะแต่ละชนิดไล่น้ำหนักเรียงตัวเลขสวยงามตั้งแต่เลข 9, 8, 7, 6, 5, 4, 3, 2, 1 น้ำหนัก(บาท) เห็นได้ทั่วๆไปมีดังนี้
    1.ชินน้ำหนัก 1 บาท (1 บาท = 15.2 กรัม)
    2.จ้าวน้ำเงิน น้ำหนัก 2 บาท (แร่ชนิดหนึ่ง สีเขียวปนน้ำเงิน)
    3.เหล็กละลายตัว น้ำหนัก 3 บาท
    4.บริสุทธิ์ทองแดงบริสุทธิ์น้ำหนัก 4 บาท
    5.ปรอท น้ำหนัก5 บาท
    6.สังกะสี น้ำหนัก 6 บาท
    7.ทองแดง น้ำหนัก 7 บาท
    8.เงิน น้ำหนัก 8 บาท
    9.ทองคำ น้ำหนัก 9 บาท

    ข้อ เท็จจริง ผู้เขียนมีความเห็นว่าอัตราส่วนผสมทั้งหมดนี้ ตำราเขียนไว้เป็นราคาค่าของเงินที่ซื้อ ไม่ใช่น้ำหนักของโลหะที่ใช้ มีผู้กล่าวอ้างถึงอัตราส่วนของโลหะที่วิเคราะห์ไม่ตรงตามสูตร เนื่องจากต้องเพิ่มโลหะเช่นทองแดงฯลฯ ลงไปเพื่อจะได้หล่อครบจำนวนที่ต้องการหลอมหล่อ อ้างชนวนบ้าง อ้างเพื่อหล่อขันน้ำมนต์เพิ่มบ้าง

    ผู้เขียนตั้งข้อสังเกตุ ผู้สร้างนำตำราสูตรที่คิดและวางแผนตั้งแต่ต้น จะใช้อัตราส่วนผสมในตำราทำไม แสดงว่าคนสร้างมั่ว? หรือว่าคนที่กล่าวอ้างคิดไปเอง? อีกทั้ง 1 บาท = 15.2 กรัม ในสมัยอยุธยาคุณคิดว่าผู้เขียนตำรารู้จักจริงหรือ?


    จาก การวิเคราะห์เนื้อโลหะด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ X-ray Fluorescence Spectrometer รุ่น EDX-720 หรือเรียกสั้นๆว่าเครื่อง XRF

    มี ผู้นำพระกริ่งฯ ไปทำการตรวจสอบที่กรมวิทยาศาสตร์บริการหรืออาจจะเป็นที่อื่นก็ได้ เช่นในหนังสือพระเครื่อง อภินิหาร ฉบับที่ 131 ปีที่ 11 เดือนพฤศจิกายน 2553 หน้า 32-33 ก็ได้มีการนำพระกริ่งเทพโมฬี นำไปตรวจสอบด้วยเครื่อง XRF ผลการวิเคราะห์ของเครื่องทีได้มีโลหะธาตุกลุ่มเดียวกัน ส่วนเรื่อง % ของโลหะที่สรุปผล ย่อมต้องแตกต่างกันไปในแต่ละองค์และแต่ละรุ่นที่สร้าง หากเป็นช่างคนละกลุ่มวัสดุมาจากต่างสถานที่ย่อมได้ % ไม่เท่ากัน อัตราส่วนแร่โลหะธาตุที่เป็นส่วนผสม ผู้เขียนมีความเห็นว่าเป็นความลับของเฉพาะกลุ่มต่อให้เป็นตำราเล่มเดียวกัน หลอมหล่อ 10 ครั้งก็จะได้เนื้อธาตุโลหะที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

    สรุปผลออกมาโลหะที่ตรวจพบมี 9 ชนิดตามที่มีผู้กล่าวอ้างว่าเป็นตำรา แต่อัตราส่วนไม่ได้เป็นไปตามอัตราส่วนที่มีผู้ได้กล่าวอ้างไว้เป็นทฤษฏีตัวเลขสวยหรู หากสังเกตุสักนิด จะพบว่าส่วนผสมอันที่จริงเป็นความลับ อ้างอิงการทดสอบจาก �Щ�͹.��� | ���õ��ͧ���͹�Ź�

    และ ผู้เขียนได้นำพระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 ทดสอบด้วยเครื่องมือระบบสแกนสมัยใหม่ X-ray Fluorescence Spectrometer รุ่น EDX-720 หรือเรียกสั้นๆว่าเครื่อง XRF ทำงานด้วยระบบลำแสงเลเซอร์ ผลที่ได้เป็นการผสมผสานหลอมหล่อของโลหะ 9 ชนิด ได้กลุ่มโลหะเหมือนกัน กับผู้ที่นำพระกริ่งฯคนละสำนักไปทดสอบก่อนหน้านี้ แต่อัตราส่วน % ของพระกริ่งฯทั้งสองสำนักจะต่างกันสิ้นเชิง

    ผลที่ได้ย่อมเป็นการสื่อ ให้ทราบถึงอัตราส่วนผสมของช่างแต่ละกลุ่มหรือต่างกลุ่มกันจะไม่เหมือนกัน เนื่องจากโลหะที่นำมาเป็นส่วนผสมมาจากสถานที่ต่างกัน ยิ่งคนสร้างคนละกลุ่มกันด้วยแล้ว ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่อัตราส่วนจะเท่ากัน แต่จะมีข้อสังเกตุ โลหะที่นำมาผสมจะมีส่วนประกอบของโลหะ 9 ชนิด เมื่อหลอมหล่อเป็นพระกริ่งฯสำเร็จเป็นองค์พระ จะได้เนื้อสัมฤทธิ์ประเภทนวโลหะ ซึ่งเป็นการยืนยันด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้ผลน่าเชื่อถือมีความแม่น ยำสูง

    ข้อความต่อไปนี้นำมาเป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งยืนยันว่าทำไม การสร้างพระกริ่งฯของแต่ละสำนักทำไมถึงมี % ของโลหะธาตุที่ต่างกันมาก สาเหตุเหนื่องจากในตำราไม่ได้เขียนถึงอัตราส่วนของแร่แต่ละชนิดที่นำมาหลอม หล่อเพื่อสร้างพระกริ่งปวเรศต้องใช้จำนวนเท่าใด? เขียนไว้เพียง " เนื้อโลหะที่บริสุทธิ์ 9 ชนิดนำมาหลอมรวมกัน มีฤทธิ์ต่างๆ ได้กล่าวคำเขียนบรรยายไว้ในตำรา" ผู้เขียนมีความเห็น...ในตำราบอกแต่เพียง โลหะที่ต้องใช้มีประเภทใดเท่านั้น จากลิงค์ ประวัติความเป็นมาของพระกริ่งสำนักวัดสุทัศน์เทพวราราม และวัดช้าง นครนายก

    "สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทว) วัดสุทัศเทพวรารามรายละเอียดบางส่วนเกี่ยวกับทรงสร้างพระกริ่งฯ ได้กล่าถึง สมเด็จฯ
    ภายหลังจากที่ได้รับตำราการสร้างพระกริ่งมาแล้วพระองค์ก็ทรงค้นคว้า มุ่งแสวงหาแร่ธาตุที่มีคุณมีอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ มาทดลองหล่อผสม หาวิธีการที่จะทำเนื้อโลหะให้เกิดความบริสุทธิ์และมีฤทธิ์สมดังคำบรรยายที่มีเขียนไว้ในตำรา และทรงค้นคว้าอย่างจริงจังดังปรากฏตามคำบอกของท่านเจ้าคุณราชวิสุทธาจารย์ (แป๊ะ) วัดสุทัศน์ฯ และอาจารย์นิรันดร์ แดงวิจิตร ว่า เมื่อคราวจัดงานพระศพของเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ลงไปใต้ถุนตำหนัก เพื่อสำรวจสถานที่ที่เตรียมจัดงานพระศพได้พบก้อนแร่หลายชนิด พบอ่างเคลือบประมาณ 10 กว่าใบ พบครกเหล็กขนาดใหญ่วัดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 14 นิ้วฟุต มีรอยตำมาอย่างมากจนก้นทะลุ พบสูบนอนทำด้วยไม้สัก แต่ผุจวนจะหมด แสดงว่าเลิกค้นคว้ามานาน พบเบ้าหลอมแร่ที่แตก ๆ จำนวนมากเป็นกองโต พร้อมกับก้อนแร่เป็นจำนวนมาก เป็นที่น่าเสียดายว่าขณะนั้นเป็นการเวลาที่รีบเร่ง เพราะกำลังจัดงานพระศพ ประกอบกับการเสียใจในการจากไปของท่าน ทำให้ผู้ที่พบทั้งสองท่านไม่ได้คิดว่าจะอนุรักษ์ความเพียรพยายามของสมเด็จฯ ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังดูจึงได้ทำการเกลี่ยดินและกระทุ้งจนแน่น เทพื้นซีเมนต์ทับ ทำให้หลักฐานหมดไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อทรงพระชนม์อยู่เคยรับสั่งกับอาจารย์นิรันดร์ แดงวิจิตร ขณะอุปสมบทว่า ค้นหาแร่ธาตุที่นำมาสร้างพระกริ่ง ถ่านหมดไปหลายลำเรือ เป็นความจริงตามหลักฐานปรากฏ และเป็นหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าทรงพยายามค้นคว้าอย่างจริงจัง ด้วยเจตนาที่ต้องการความเข้มขลัง"

    พระแท้ทำอย่างไรย่อมเป็นพระแท้ ขออนุญาตนำคำพูดของ นายยกสมาคมพระเครื่องไทย คุณพยัฆ คำพันธ์ กล่าวไ้ว้ตอนหนึ่งดังนี้ "หนึ่งอย่าเล่นพระด้วยหู สองอย่างเชื่อว่าเขาเล่าว่า เรา ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป จริงหนีจริงไม่พ้นหรอดครับ พระเครื่องนี่เป็นสิ่งที่ล่ำค่าอยู่แล้ว จะถามจะมาเปรียบเทียบกัน พระที่แท้ก็เหมือนเพชรแท้ เหมือนทองคำแท้ ไปไหนถ้าจะแท้คือต้องแท้ ถ้าของปลอม ไปไหนปลอม ก็ต้องปลอม "ไม่จำเป็น ว่าต้องเป็นของใคร"

    เมื่อมีพระแท้ย่อมมีพระเก๊ปลอมเรียนแบบ...หากเป็นพระเก๊ทำอย่างไรย่อมเป็นพระเก๊...จะให้บอกว่าเป็นพระแท้ย่อมเป็นไปไม่ได้

    ชีวิต เป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยงพระเครื่องเป็นสมบัติผลัดกันชม ตายไปก็ไม่สามารถเอาติดตัวไปได้ ที่ไปได้มีแต่ตัวฉัน ร่างกายก็ไม่ใช่ของฉัน ร่างกายไม่มีในฉัน ร่างกายนั้นคือขันธ์ 5

    [​IMG]

    กริ่งชุบทองคำ หมุด เดิมๆ1

    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 มีลักษณะองค์พระกริ่ง 3 รูปแบบ คือ 1.เนื้อนวโลหะแผ่นประสานก้นฐานทองแดง 2.เนื้อนวโลหะแผ่นประสานก้นฐานทองแดง หน้าผากหมุดทองคำแผ่นประสานก้นฐานทองแดงปิดด้วยแผ่นทองคำบางๆมียันต์กำกับ 3.เนื้อทองคำแผ่นปิดประสานทองคำ และองค์พระกริ่งทุกรูปแบบแม่เหล็กไม่ดูด ได้บรรจุเม็ดกริ่งไว้ภายในฐานบัวพระ...เม็ดกริ่งเป็นโหละผสมสูตรพิเศษเนื้อ ภายในสีเงิน อายุผ่านไป 119 ปีกลับเป็นสีอมทองคำ และแม่เหล็กดูดติด...พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 องค์ซ้ายมือและขวามือเนื้อทองคำทั้งองค์ ช่างสิบหมู่ได้ตบแต่งเกาองค์พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 ให้มีความคมชัดลึก
    [​IMG]
    ทำน้ำพุทธมนต์ รักษาโรคภัยทั้งหมด

    [​IMG]
    วิธีนำพระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 สามารถนำมาอธิฐานจิตทำน้ำมนต์ได้ 108 • รักษาโรคภัยไข้ทุกชนิด เช่นโรคภัยไข้เจ็บ โรคจากสารนิวเคลียร์-เคมี • รักษาสิ่งอัปมงคล ต้องธรณีสารอุบาทว์แปดประการ ต้องน้ำมันผีต้องน้ำมันพราย ต้องเดรัจฉานวิชาคุณไสย คุณผี คุณคน อวิชา ต้องเสน่ห์ยาสั่งยาแฝด ต้องคุณสิบสองภาษา ต้องมนต์ดำมนต์แดง ติดเนื้อหนังมังสา • ต้องโรคเวร ให้ทุเลาเบาหาย ฯลฯ
    [​IMG]
    คาถาฐานกริ่งหมุดทองคำ

    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 แผ่นปิดทองหุ้มฐานด้านล่าง มีคาถาแถวบนตัวแรกซ้ายมือ (น) ตัวที่ 2 สระ(ะ) ตัวที่ 3 (น) กลับด้าน...ความหมายของคาถาบทนี้ย่อมาจาก นะ โม พุท ธา ยะ และท่อง คาถาย้อนกลับหลัง ยะ ธา พุท โม นะ...แถวล่างคล้ายกับตัว M 3 ชั้นเรียงซ้อนกัน ซึ่งคือตัว พะ หมายถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    [​IMG]
    หนังสือพระพันตา

    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศฯ เป็นพระกริ่งยอดนิยม(ยุคเก่า)...ผู้สร้าง: สมเด็จกรมพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยลงกรณ์ วัดบวรนิเวศวิหาร แขวงบางลำพู เขตพระนคร กทม...ศิลปะ: ยุครัตนโกสินทร์ (พุทธศิลป์ มหายาน)...อายุการสร้าง: 120 – 135 ปี (สร้างราวปี พ.ศ.2417 – 2435) เนื้อพระ: เป็นโลหะผสม 9 ชนิด (นวโลหะ)...กรรมวิธีการสร้าง: หลอมโลหะเทหล่อโบราณด้วยการขึ้นขี้ผึ้งจากหุ้นแม่พิมพ์ดินเผาแบบประกบหน้า หลัง (สั่งทำจากประเทศจีน) แล้วนำมาเข้าเบ้าดิน เทโลหะสำรอกไล่ขี้ผึ้ง สำเร็จเป็นองค์พระแล้วนำมาบรรจุเม็ดกริ่ง เชื่อมปิดก้นด้วยแผ่นโลหะผสม ตกแต่งนอกย้ำรายละเอียดเพื่อความเรียบร้อยงดงาม...พุทธคุณ: คุ้มครองป้องกันภยันตราย กำจัดโรคภัย เสริมสง่าราศี เจริญด้วยสติปัญญา โภคทรัพย์...พุทธลักษณะ: เป็นรูปจำลอง “พระไภษัชคุรุ” ปางมารวิชัยประทับนั่งอยู่เหนือบัว 2 ชั้น(คว่ำ-หงาย) ด้านหน้า 7 คู่ ด้านหลัง 1 คู่ บรรจุเม็ดกริ่ง ปิดก้นด้วยโลหะผสม...ราคาประมาณการ: ด้วยศักดิ์ศรีที่ได้รับการยกย่องเป็น “ต้นตระกูล” พระกริ่งไทย และด้วยประวัติการสร้างที่สูงส่ง เป็นพระของชนชั้นเจ้านาย จำนวนพระมีน้อยมาก เมื่อมีพระแพร่ออกมาสู่นักนิยมพระเครื่อง จึงเกิดการแข่งขันกันด้วยราคาแลกเปลี่ยนสูงมหาศาล เช่น พระกริ่งองค์นี้ที่เพิ่งปรากฏสู่วงการได้รับการยืนยันความน่าเชื่อถือได้ว่า มีมูลค่าถึง 30 ล้านบาท(สามสิบล้านบาท)...อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากพระพันตาเรื่อง...พระกริ่ง ปวเรศ
    [​IMG]
    เบ้าพระกริ่ง

    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 ที่พบเป็นพระกริ่งที่สร้างหล่อทีละองค์ พระกริ่งบางองค์เห็นมีร่องรอยประกบชัดเจน พบแกนชนวนอยู่ภายในฐานกริ่งขององค์พระ มีแกนชนวนหล่ออยู่ตรงกลางดังรูปขวามือที่ผู้เขียนได้ตั้งสมมุติฐานของแบบ เบ้าพิมพ์ประกบ เบ้าพิมพ์เป็นเบ้าดินเผาจากประเทศจีน ผู้เขียนได้ทำการวิเคราะห์บางองค์มีแร่โลหะที่พบเฉพาะในดินเหนียวจึงทำให้ เชื่อได้ว่าพระกริ่งปวเรศ พ.ศ. 2434 ใช้แม่แบบพิมพ์เนื้อดินอย่างแน่นอน เนื่องจากในสมัยนั้นเริ่มแรกจีนเป็นผู้สร้างพระกริ่งจีนใหญ่ จึงมีการพัฒนาแบบประกบหล่อพระกริ่งจีนที่งดงาม คณะผู้สร้างพระกริ่งปวเรศฯจึงได้ออกแบบองค์พระกริ่งปวเรศและนำมาเป็นเบ้า หล่อพระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 เมื่อเทเสร็จแทบจะทุกองค์จะมีความสวยสดงดงาม บางองค์จะมีการเกาแต่งรอยประกบบ้างเล็กน้อย หากสักเกตุที่ซอกแขนกับลำตัวองค์พระกริ่งบางองค์จะพบรอยประกบ และทุกองค์มีการปิดฐานก้นด้วยแผ่นทองแดงประสานด้วยตะกั่ว สำหรับโค๊ด ลับเม็ดงานั้น ได้มีการตอกไว้อยู่ในตำแหน่งเดียวกันทุกองค์ ส่วนใหญ่จะมี 1 โค๊ด ที่พบมากที่สุด 7 โค๊ด จะถือการตอกผิดตำแหน่งเป็นของปลอมก็มิสมควร ต้องพิจารณาให้ละเอียด….. พระกริ่งปวเรศที่คนโบราณนิยมกัน มีอยู่เนื้อเดียว คือเนื้อนวโลหะผิวกลับดำ เมื่อขัดด้วยน้ำยาขัดโลหะจะพบเนื้อในสีจำปาอ่อน และเมื่อทิ้งไว้ถูกกับอากาศสักระยะเวลาหนึ่งก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเข้มมาก ขึ้น และเมื่อนานไปเนื้อจะกลับดำอีกครั้ง การอุดก้นที่พบอุดด้วยแผ่นทองแดง มีเครื่องหมายลับไว้กันปลอมแปลง แต่เป็นกริ่งที่หายากมีเทคนิคการตอกให้ซ้ำที่บริเวณเดิมทุกองค์ และมีผู้เจนจัดชนิดชี้เป็นชี้ตายได้น้อยแทบไม่มีเลย นอกจากจะมีองค์ที่เป็นองค์ครูแล้วนำเอาองค์อื่นมาเทียบเคียง...กรณีนี้คือ เล่นแบบเซียนพระ...ส่วนกรณีที่ 2 นำพระกริ่งฯขอความเมตตาจาก "พระสุปฏิปันโน" “พระอริยสงฆ์” หลายรูปที่มี “พระอภิญญา” ขอท่านช่วงสงเคราะห์ตรวจเช็คให้ว่า องค์ผู้อธิฐานจิต ใช่ สมเด็จกรมพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยลงกรณ์ หรือไม่? ทันสมัยที่ท่านฯมีพระชนชีพอยู่หรือไม่? หากตรวจวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ XRF เพื่อวิเคราะห์โลหะธาตุที่ผสมอยู่ในองค์พระกริ่งฯ จะพบโลหะธาตุที่เรียกว่าสมฤทธิ์เนื้อนวโลหะมีกลุ่มโลหะธาตุหลัก 9 ชนิด ผลการวิเคราะห์ถ้าหากในองค์เดียวกันแร่ทองคำที่พบบริเวณเศียรพระจะมีเนื้อ ทองคำมากกว่าบริเวณฐานพระกริ่ง ภายในฐานเมื่อหล่อเสร็จจะได้รับการคว้านตบแต่งให้เม็ดกริ่งวิ่งไปมาได้สะดวก และเป็นการควบคุมน้ำหนักขององค์พระกริ่งฯให้แต่ละองค์มีน้ำหนักใกล้เคียงกัน
    [​IMG]
    เบ้าประกบ

    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 บริเวรเศียรพระกริ่งและที่บริเวณซอกคอ ในกรอบสี่เหลี่ยมสีเหลือง จะพบรอยประกบของแม่พิมพ์ชัดเจน จากการเกาแต่งของช่างที่ทิ้งร่องรอยไว้ในองค์พระกริ่ง เนื่องจากผู้เขียนไม่สันทัดในการถ่ายรูป จึงทำให้ได้มองมุมที่ไม่ชัดเจน รอยประกอบนี้บางองค์ช่างจะแต่งได้เนียนมองไม่เห็น บางองค์จะเห็นที่หน้าตัก ข้างลำตัว ฐานกลับบัว แต่ละองค์เห็นมากบ้างน้อยบ้าง
    [​IMG]
    เบ้าประกบในซอกแขน

    [​IMG]
    รอยประกบพระกริ่งปวเรศ พ.ศ. 2434 เนื้อนวโลหะ ในซอกแขนที่พบมีหลายองค์หากใช้กล้องส่อง จะเห็นได้ชัดเจน และในซอกแขนองค์นี้เห็นสีผิววรรณะความเก่าของอายุ 119 ปีได้ชัดเจน ที่มองเห็นเป็นเส้นบางๆสีเข้ม เป็นน้ำมันที่ทาบนผิวของพระกริ่งเมื่อ 119 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นองค์ที่ยังไม่ได้ผ่านการล้างหรือทำความสะอาดมาก่อน ในซอกแขนของพระกริ่งฯ องค์ไหนที่น้ำมันปืนทาได้ไม่ทั่วถึงจะเห็นมากน้อยต่างกันดังรูป
    [​IMG]
    ประวัติการสร้างพระกริ่งปวเรศรุ่นแรก

    [​IMG]

    [​IMG]
    ประวัติการสร้างกริ่งปวเรศรุ่นแรก.

    [​IMG]
     
  14. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    ต่อฉบับที่สองนะคะ

    ประวัติการสร้างพระกริ่งปวเรศ รุ่นแรก จาก เว็บมงคลดอดคอม [​IMG] กริ่งทองคำ1

    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 เนื้อทองคำทั้ององค์ ทั้งสององค์ช่างฯในสมัยนั้นได้ทำการตบแต่งองค์พระกริ่งเพื่อให้มีความคมชัด ช่างที่ตบแต่งพระกริ่งทั้งสององค์นี้เป็นช่างคนละชุดดังนั้นฝีมือตบแต่งองค์ พระกริ่งไม่เหมือนกัน...หากมององค์ซ้ายมือจะพบเห็นพระกริ่งองค์นี้แทบทุกสัด ส่วนล้วนผ่านการตบแต่ง...ผู้ครอบครองเดิม เป็นอดีตอธิบดีกรมรถไฟ ผู้รับมาอีกทอดให้ข้อมูลอดีตอธิบดีกรมรถไฟท่านนี้ "ได้พระกริ่งฯมาจากวังสุโขทัย" พระกริ่งปวเรศเนื้อทองคำ พ.ศ.2434 ในสมัยที่สร้างมีำจำนวนทั้งหมด 8 องค์
    [​IMG]
    กริ่งทองคำหลัง1

    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 ด้านหลัง ผ่านการตบแต่างก่อนเพื่อความคมชัดสวยงาม พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 องค์ขวามือได้มีการตอกโค๊ตถึง 7 โค๊ตด้วยกัน จากตำราที่มีคนเขียนไว้...ถ้าหากเชื่อตามตำรา..เฉพาะองค์นี้ได้มีช่างฯตบ แต่งทั้งหมด 8 คน.....การตบแต่งช่างฯจะแต่งองค์พระให้มีความคมชัดทุกสัดส่วน
    [​IMG]
    ทองคำข้างซ้าย1

    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 ด้านข้าง เนื้อทองคำ ฝีมือช่างฯได้เกาตบแต่งเพื่อความคมชัดและสวยงาน เมื่อ 119 ปี(พ.ศ.2553) ผ่านการตบแต่งย้ำรอยต๊กตู่ให้ชัดร่องลึกกว่าเดิม และองค์พระผ่านการขัดตบแต่งทุกซอกทุกมุมแปลกตาไปอีกแบบหนึ่ง
    [​IMG]
    ทองคำด้านขวา2

    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 ด้านข้างขวา อีกมุมมองหนึ่งของรูปที่เป็นสืบให้เห็นฝีมือช่างเมื่อ 119 ปีที่ผ่านมา
    [​IMG]
    ทองคำ ก้น1

    [​IMG]
    ก้นพระกริ่งปวเรศ พ.ศ. 2434 เนื้อทองคำ
    [​IMG]
    พระกริ่งพรหมมุณี

    [​IMG]
    องค์ซ้ายมือพระกริ่งปวเรศเนื้อทองคำ พ.ศ.2434..........องค์ขวามือพระกริ่งจีนใหญ่หรือพระกริ่งพรหมมุณี องค์นี้เนื้อทองคำเช่นกัน ซึ่งเป็นองค์หนึ่งที่สวยงามผ่านการตบแต่งจากช่างฯในสมัยก่อน...องค์นี้ผู้ ครอบครองเดิมให้ข้อมูล "ได้มาจากวังสุโขทัย" พระกริ่งจีนใหญ่ของวัดสุทัศน์...ฝีมือการแต่งของช่างชาวบ้านรุ่นหลังฝีมือ ยังห่างไกลสู้ฝีมือช่างสิบหมู่ไม่ได้
    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศต้นฉบับหรือแต่ง

    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศ 2 องค์นี้ผ่านการแต่ง ผู้เขียนไม่ได้เห็นของจริงพบจากเว็บ 20392
     
  15. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    ต่อคะ

    พระกริ่งปวเรศ 2 องค์นี้ผ่านการแต่ง ผู้เขียนไม่ได้เห็นของจริงพบจากเว็บ http://www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=phrakruang&id=20392 พิมพ์ทรงรายละเอียดต่างๆเหมือนกับ พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 ที่แตกต่างของพระ 2 องค์นี้คือ 1.องค์พระกริ่งได้ผ่านการแต่งเกาใหม่ 2.โค๊ดเม็ดงาด้านหลังตอกกลับด้านกัน(กรณีนี้) อาจจะเป็นความตั้งใจในการตอกของช่างก็ได้ และพระกริ่งปวเรศ 2 องค์นี้นับได้ว่าเป็นการตบแต่งของช่างระดับชั้นครูที่เกาแต่งได้ละเอียด คมชัด แม้นแต่ท่อนแขนก่อนถึงข้อมือยังตบแต่งให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด [​IMG] พระกริ่งปวเรศต้นฉบับหรือแต่ง1

    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศ 2 องค์นี้ ผู้เขียนวิเคราะห์ เม็ดงาที่กลับด้านเป็นความตั้งใจตอกของช่างสมัยโบราณและเป็นพระกริ่งปวเรศสร้างเมื่อ พ.ศ.2434
    [​IMG]
    กริ่งทองคำแต่ง

    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศองค์นี้เป็นพิมพ์คนละพิมพ์กับพระกริ่งปรวเรศ พ.ศ.2434 องค์นี้ผู้ครอบครองอ้างเป็นเนื้อทองคำ องค์นี้ผ่านการตบแต่ง และมีตอกโค๊ดเม็ดงาด้านหลัง 2 เม็ด รูปนี้น่าจะเปิดแฟลซ จึงทำให้เห็นเป็นสีผิวขององค์พระดังรูป องค์นี้ไม่ได้เห็นพระองค์จริงและไม่ได้ผ่านการตรวจสอบองค์อธิฐานจิตและผู้สร้าง จึงตอบไม่ได้ว่าจริงหรือเก๊ ผู้ครอบครองตั้งราคาที่ 9 ล้านบาท อ้างอิงจาก http://www.bunamulet.com/pracenterdetail.php?qid=1759&t=กริ่งปวเรศ เนื้อทองคำ ตอก 2 โค๊ต(มิย)
    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศเดิมขัดน้ำยา

    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศวรรณะสีผิวดั่งนิลดำ อายุ 119 ปี ขวามือขัดด้วยน้ำยา wenol เผยให้เห็นเนื้อในก่อนจะกลับดำ
    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศ วรรณะเดิมๆ

    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศ เป็นของสูงค่าอมตะเป็นพระกริ่งองค์แรกที่กำเนิดในแผ่นดิน สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงสร้างขึ้นเพื่อประทานแก่เชื้อพระวงศ์เจ้านายที่ทรงคุ้นเคยสนิทสนม และ เจ้านายที่ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ มีจำนวนน้อยมาก ทรงสร้างด้วยเนื้อนวโลหะ พุทธลักษณะ พระกริ่งปวเรศ ทรงสร้างขึ้นโดยอาศัยเค้าจากพระกริ่งจีนที่นิยมเรียกกันว่าพระกริ่งใหญ่ใน ปัจจุบัน โดยที่พระกริ่งนี้สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กระมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ทรงสร้างขึ้นจึงนิยมเรียกกันทั่วไปว่า พระกริ่งปวเรศ ในอาณาจักรพระเครื่องนับถือกันว่า พระกริ่งปวเรศเป็นพระโลหะที่มีค่านิยมสูงและยากยิ่งที่จะเสาะแสวงหาไว้ สักการะบูชา จึงเป็นปูชนียวัตถุที่มีคุณค่าทางพุธศิลป์และทางจิตใจ กล่าวได้ว่า พระกริ่งปวเรศเป็นพระกริ่งรุ่นแรกที่สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ การสร้าง ในปี พ.ศ. 2434 (บรรณานุกรมหอสมุดแห่งชาติ มหามกุฎราชวิทยาลัย หน้า 5 วรรค 2) กรมพระยาปวเรศฯ ไม่ได้ออกแบบ จัดสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ทรงได้รับมหาสมณุตมาภิเษก ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 8 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ออกแบบโดยช่างสิบหมู่(ผู้ออกแบบหลัก) บรมวงศานุวงศ์(นายทุน) และไวยาวัชกรวัดบวรนิเวศ(ฝ่ายพิธีการ) สมัยนั้น จึงมีหลายแบบพิมพ์ทรง บางแบบใช้แม่พิมพ์เก่าก็มี โลหะก็ไม่เหมือนกัน บางองค์ก็แบบพิมพ์ใหม่ รวมทั้งที่อยู่ในขันน้ำมนต์ และยอดไม้เท้าของพระองค์ท่าน จำนวนการสร้างไม่ได้กล่าวไว้ ..............จากรูป พระกริ่งปวเรศ (ผู้สร้างสมเด็จวังบูรพา) พ.ศ.2434 ............พระกริ่งฯที่เป็นของแท้ ย่อมตรวจสอบได้ พระกริ่งฯขวามือผิวเดิมๆ อายุ 119 ปี(พ.ศ.2553) วรรณะกลับดำดั่งสีนิล, ซ้ายมือและองค์กลางขัดด้วยน้ำยา wenol เสร็จใหม่ๆเพื่อให้เห็นเนื้อในองค์กลางเนื้อสัมฤทธิ์เดชมีสีผิวเนื้อเงินวาวอมเหลืองจางๆ, องค์ซ้ายมือสัมฤทธิ์คุณสีผิวเนื้อเงินวาวอมเขียวนิดๆ เนื่องจากมีส่วนผสมของเนื้อเงินมาก รูปด้านหลังขวามือสุด พระกริ่งสีผิววรรณะเดิมๆ อายุ 119 ปี(2553), องค์ซ้ายมือกับองค์กลางขัดด้วยน้ำยา wenol เผยให้เห็นสีผิวด้านใน พระกริ่งกลับดำเป็นสีนิลตามตำราส่วนผสมการสร้างพระกริ่งดั้งเดิมของ สมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว (วัดใหญ่ชัยมงคล) จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อมาตำราได้ตกมาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระปรมานุชิโนรส วัดพระเชตุพนฯ จนกระทั่งตำราตกทอดมาถึง สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ จึงได้ทรงสร้าง "พระกริ่งปวเรศ" ขึ้นใช้โลหะ 9 อย่างผสมตามสูตรเรียกว่า "นวโลหะ" มีคุณสมบัติพิเศษหากกระทบกันเสียงดังคล้ายกับเสียงลูกแก้วมากระทบกัน ซึ่งเป็นเนื้อโลหะที่แข็งแกร่งในตัว
    [​IMG]
    ไฟแฟลช

    [​IMG]
    ถ่ายด้วยการเปิดแฟลช จะได้วรรณะสีผิวอีกแบบหนึ่ง
    [​IMG]
    ด้านหน้า 36 ชั่วโมง

    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 ภายหลังขัดน้ำยา wenol ผ่านไป 36 ชั่วโมง
    [​IMG]
    พระกริ่ง4.5วัน108ชั่วโมง

    [​IMG]
    พระกริ่งฯ วรรณะสีผิวขัดด้วยน้ำยา wenol ผ่านไป 4.5 วันหรือ 108 ชั่วโมง
    [​IMG]
    ผ่านไป 39 วัน

    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศเนื้อสัมฤทธิ์คุณขัดด้วยน้ำยาขัดโลหะ wenol ผ่านไป 39 วัน สีผิววรรณะกลับดำให้เห็นทั่วทั้งองค์ เป็นคุณสมบัติหนึ่งตามสูตรส่วนผสมนวโลหะจากการนำโลหะ 9 ชนิดมาหลอมรวมกันเพื่อสร้างเป็นพระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434
    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศฯ ขัดด้วยขี้ผึ้งเบอร์ 28a

    [​IMG]
    พระกริ่งปวเรศฯ ขัดด้วยขี้ผึ้งเบอร์ 28a เป็นการเคลือบผิวพระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434ให้เห็นการกลับของสีผิวชัดเจน
    [​IMG]
    เม็ดกริ่ง+แผ่นปิดก้น

    [​IMG]
    เม็ดกลมๆทางซ้ายเป็นเม็ดกริ่งที่บรรจุอยู่ภายในพระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2434 เป็นเม็ดกริ่งสีเหลืองเงางามปล่อยทิ้งให้สัมผัสอากาศผ่านไปนานก็ยังแวววาวดั่งคุณสมบัติของทองคำมีขนาด 1.5 มิลลิเมตร ด้านขวามือเป็นแผ่นปิดก้นพระกริ่งฯ รอบๆจะเห็นรอยเชื่อมระหว่างแผ่นปิดก้นกับฐานพระกริ่งฯ ซึ่งก็คือกรรมวิธีการเชื่อมประสานปิดด้วยตะกั่ว+ดีบุก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2010
  16. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
  17. bikarn

    bikarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,524
    เรียน คุณ wsb.s. & คุณ xlmen วันนี้มารบกวน 4 รูป ครับ เอาวิชาไปลองมาครับ

    องค์สุดท้ายหักเมื่อวานนี้ครับ นอนไม่หลับทั้งคืน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC04993.JPG
      DSC04993.JPG
      ขนาดไฟล์:
      384.5 KB
      เปิดดู:
      332
    • DSC04994.JPG
      DSC04994.JPG
      ขนาดไฟล์:
      369.2 KB
      เปิดดู:
      174
    • DSC04921.JPG
      DSC04921.JPG
      ขนาดไฟล์:
      132.9 KB
      เปิดดู:
      209
    • DSC04991.JPG
      DSC04991.JPG
      ขนาดไฟล์:
      343.7 KB
      เปิดดู:
      330
    • DSC04992.JPG
      DSC04992.JPG
      ขนาดไฟล์:
      381.7 KB
      เปิดดู:
      199
    • DSC04931.JPG
      DSC04931.JPG
      ขนาดไฟล์:
      145.4 KB
      เปิดดู:
      155
    • DSC04989.JPG
      DSC04989.JPG
      ขนาดไฟล์:
      332.1 KB
      เปิดดู:
      255
    • DSC04990.JPG
      DSC04990.JPG
      ขนาดไฟล์:
      275.3 KB
      เปิดดู:
      166
    • DSC04941.JPG
      DSC04941.JPG
      ขนาดไฟล์:
      142.9 KB
      เปิดดู:
      151
    • DSC04996.JPG
      DSC04996.JPG
      ขนาดไฟล์:
      494.8 KB
      เปิดดู:
      358
    • DSC04997.JPG
      DSC04997.JPG
      ขนาดไฟล์:
      348.2 KB
      เปิดดู:
      159
  18. ทรงกลด999

    ทรงกลด999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,284
    ค่าพลัง:
    +1,510
    ลองหาดูนะครับ ผมไม่แนะนำดีกว่าว่าร้านไหน แต่ไม่น่าเกินความสามารถครับ เห็นแล้ว
    อนาจใจเหลือเกินถ้าเลือกได้ผมเป็นขอทานดีกว่าทำพระครับ
     
  19. ทรงกลด999

    ทรงกลด999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,284
    ค่าพลัง:
    +1,510
    มีอีกแหล่งที่ทำพระครับ แถวจรัญสนิทวงศ์ รับตามออเดอร์ เกรดต่างๆ
     
  20. kiatti1234

    kiatti1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,839
    ค่าพลัง:
    +811
    เจ็บปวดนะคำนี้..............
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...