อย่าดูถูกความหลง คนหลง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Tboon, 22 พฤศจิกายน 2010.

  1. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ความหลงเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากพบ ไม่อยากเจอด้วยกันทั้งนั้น

    แต่แท่ที่จริงแล้วตัวความหลงเองมันก็มีคุณค่าอยู่ในตัวของมันเหมือนกัน

    คุณค่าของความหลงอาจไม่ได้อยู่ที่ตอนกำลังหลง แ่ต่ความหลงมีคุณค่าอย่างมหาศาลเมื่อผู้หลงนั้นรู้ตัวว่าตนได้หลงไปเสียแล้ว

    เพราะนั่นหมายความว่า เราเริ่มรู้ตัวแล้ว เมื่อเริ่มรู้ตัว กระบวนการเรียนรู้ใหม่ย่อมเกิดขึ้น

    เจ้าความหลงเหล่านั้นจะกลายเป็นบทเรียนอันสำคัญที่ทำให้ผู้่รู้จักแล้ว ไม่หลงไปในทางนั้นอีก

    มันคือการสั่งสมปัญญาบารมีดี ๆ นี่เอง

    พูดอย่างนี้ไม่ได้ส่งเสริมให้คนหลง แต่บนหนทางแห่งการศึกษานี้ ตราบใดที่ยังไม่ถึงจุดหมายปลายทาง ย่อมต้องมีการลองผิดลองถูกกันอยู่ตลอดเวลา

    วันนี้เราอาจจะกำลัีงลองผิดหรือว่าลองถูกกันอยู่ก็ได้ ที่ว่าแน่บางทีก็อาจจะไม่แน่ก็ได้ อย่าประมาท พึงเปิดใจ ให้อภัย และรับฟังซึ่งกันและกัน

    อย่าได้พากันคิดดูถูกความหลงหรือคนหลงนะ ความไม่รู้ย่อมมาก่อนความรู้เสมอ อย่าปรามาสกัน

    จิตของผู้ปรามาสย่อมเป็นอกุศล เป็นมลทินในใจ พึงเร่งชำระสะสางกิเลส ชำระสะสางมลทินในใจของตนเองเสียแต่เนิ่น ๆ

    หากไม่รู้จักมลทินในใจของตนเองก็แสดงว่า เราเองก็ยังหลงเหมือนกันนั่นแล

    ในหมู่ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบพึงละเว้นการยกตนข่มท่าน พึงประกอบด้วยจิตเมตตาไม่มีประมาณ พึงให้อภัยซึ่งกันและกัน พึงสังวรระวังใจของตนเองเป็นหลัก

    หากทำได้เช่นนี้แล้วความเจริญย่อมมีมาสู่เราอย่างแน่นอน...


    สาธุขอให้ทุกท่านโชคดี...สัพเพสัตตาฯ หมั่นพากันละภพในใจตนเองเสียให้สิ้นกันเถิด
     
  2. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ภาษาไทยโบราณวันละคำ

    ภาษาไทยโบราณวันละคำ โพสนี้เสนอคำว่า "หลงไหล"

    หลงไหลเป็นภูมิปัญญาคนไทยโบราณ ที่สร้างคำขึ้นมาใช้ส่วนใหญ่ เพื่อสอนธรรมะ
    ไปในตัว เคยมีตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมายังสุวรรณภูมิ เมื่อสนทนาสอน
    ธรรมกันก็ไม่อาจจะเข้าใจได้ เลยให้คนสุวรรณภูมิลองพูดภาษาของตนให้ฟัง พอ
    สดับแล้วพระพุทธองค์ก็ใช้คำของคนสุวรรณภูมิสอนธรรม และ ตรัสชมเพิ่มเติมว่า
    "ภาษานี้เป็นภาษาที่ดี มีความหมายในตัวที่ดีทุกคำ เข้าใจง่าย"

    กลับมาที่ "หลงไหล"

    เมื่อพระพุทธองค์ใช้คำว่า "โมหะ" แสดงถึงอาการหลง คนไทยที่
    ฟังธรรมคงมองออกถึง อาการไหลไปคิด ความคิดจะเกิดขึ้นก็ต่อ
    เมื่อจิตไหลไปตามอนาตนะ ไปหยิบจับสิ่งที่ผ่านอยาตนะเข้ามา เมื่อ
    จิตไม่รู้อยู่ที่ปรมัตถ์ จิตจะเกิดการให้ค่า จากปัญจทวารวิถีจิต เคลื่อน
    ไปเป็น มโนทวารวิถีจิต ตรงนี้จะปรากฏสภาพธรรมเป็นอาการ "ไหล"

    ทำให้ นอกจากคำว่า "หลง" แล้ว มันก็มีสภาพ "ไหล" ด้วย

    หากเห็นอาการไหลไปคิด ก็จะเห็น อาการหลง

    สรุปแล้ว หลงไหล เป็นคำโบราณที่สร้างขึ้นเพื่อสอน อนุชนรุ่นหลัง
    ขอให้ใส่ใจพิจารณาให้แลเห็น ก็จะเห็นคุณของการไหล ซึ่งจะทำให้
    เห็นความหลง

    เมื่อไม่หลงไหล คุณของการเห็นย่อมทำให้ จิตตั้งมั่น รู้เห็นตามความ
    เป็นจริง แลเห็นอภิชญาโทมนัสในกาลก่อนถูกกัจดลงเสียได้ ก็จะได้
    ปัญญาอันเกิดจาบรรพบุรุษไทยได้สร้างไว้ให้

    ขอขอบพระคุณ "คุณลุงTboon" ฮับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2010
  3. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ความโง่..หรือ งมงาย..บางครั้งก็เป็นสะพานข้ามให้เราไปสู่ความจริง หรือฉลาดได้..?

    เพียงแต่ว่าความโง่และ..งมงายนะ ใครเคยทำไหม ทำเป็นรึปล่าวก่อนที่จะมาว่าฉัน ชิมิ..เอกวีร์เคยทำปล่าวแฮะๆๆ
     
  4. น้องไหม

    น้องไหม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2006
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +20
    ขอบคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ ได้ข้อคิดดีมากๆ เพราะตัวเองก็เคยทำ ต่อไปจะพยายามฝึกจิตใจให้มีสติตามอริยมรรคมีองค์แปด คือ สัมมาทิฐิ=ความเข้าใจถูกต้อง สัมมาสังกัปโป=ความใฝ่ใจถูกต้อง สัมมาวาจา=การพูดจาที่ดีที่ถูกต้อง สัมมากัมมันโต=การกระทำที่ถูกต้อง สัมมาวายาโม=ความเพียรที่ถูกต้อง สัมมาสติ=การระลึกที่ถูกต้อง สัมมาสมาธิ=การตั้งมั่นที่ถูกต้อง
     
  5. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,165
    คนที่รู้มีมาก คนปฏิบัติมีน้อย
    คนที่เผยแพร่มีมาก คนเข้าใจมีน้อย

    จงอย่าดูหมิ่นคนที่หลงงมงาย ทุกคนเป็นคนดีได้ในพริบตา

    บางส่วนในคำสอนของ ปรมาจารย์ ตั๊กม้อ ครับ
     
  6. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,458
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    เห็นด้วยครับ เราทุกคนต่่างก็เคยหลงมาด้วยทุกคน ทุกวันนี้ ผมก็ยังหลงอยู่ ความหลงจะสิ้นสุดในวันที่เราเข้านิพพานได้เท่านั้นครับ ผมคิดอย่างนี้จริงๆ ถ้ายังต้องกลับมาเกิด เเก่ เจ็บ ตายกันอีก สุดท้าย เราก็ยังไม่พ้นความหลงอยู่ดี เจริญในธรรมครับทุกคน
     
  7. จิตปรุง

    จิตปรุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +802
    ตัวเราเองที่กำลังหลง
     
  8. tangtawee

    tangtawee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +8
    เห็นกระทู้ข้างบนแล้ว ตรงกับตัวเองมาก ขอร่วมเป็นสมาชิกด้วยคนนะครับ
     
  9. tangtawee

    tangtawee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +8
    จะเป็นกรรมเก่าที่เคยมีมาหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ผมเคยมีคู่มาแล้ว 2 คน พอมาถึงคนปัจจุบัน ผมรักเขามาก ถึงขั้นว่าหลงเลยก็ว่าได้ เขาสามารถเติมเต็มในสิ่งที่ผมไม่
    เคยได้รับจากใครมาก่อน เข้าอกเข้าใจเราทุกอย่าง ทุกวันนี้รักมากจนถึงขั้นว่าหึงหวง
    เอาการเลยก็ว่าได้ ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทุกวันนี้จิตใจไม่ค่อยจะสงบ ระแวง
    คนรักตลอดเวลาว่าเขาจะไปมีคนใหม่หรือเปล่า เขาจะนอกใจหรือเปล่า ทำสมาธิก็ไม่ทำให้จิตใจสงบเลย ผมควรจะทำอย่างไรดีแนะนำหน่อยครับ
     
  10. Phusaard

    Phusaard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    436
    ค่าพลัง:
    +349
    แม้ความมืดช่วยให้เห็นคุณค่าของความสว่าง
    แต่ในความมืดเองนั้นก็ทำให้เราก้าวเดินไปไม่ถูกทาง

    อนุโมทนา ครับ
     
  11. สุปราณะ

    สุปราณะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    206
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +122

    ดูความอยากสงบไปค่ะ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น รู้ลงไปด้วยใจที่ไม่ปรุงแต่ง ต้องใจถึง ๆ
    การที่เราทำสมาธิด้วยความอยากสงบนั้น เป็นการทำสมาธิด้วยกิเลส นี้เป็นเหตุให้ไม่สงบ

    "อยากสงบ จะไม่สงบ"

    ถ้านั่งสมาธิแล้วฟุ้งซ่านหนัก นั่งไม่ไหว ก็ทำงานบ้าน หรือหาอะไรทำที่ชอบ แล้วดูกาย ดูใจไป
    เมื่อจิตที่จดจ่อกับงานบ้าน/สิ่งที่ทำอยู่ แล้วเผลอ หรือหลงไปคิด ไปฟุ้งซ่าน ก็ให้รู้ทัน แล้วกลับมาอยู่ที่สิ่งที่เรากำลังทำอยู่
    ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จิตจะเป็นสมาธิเองค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2010
  12. tangtawee

    tangtawee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +8
    ขอบคุณมากครับที่ช่วยแนะนำ จะลองเอาไปฝึกดู แล้วจะรายงานผลให้ทราบเป็นระยะครับ...:cool:
     
  13. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633
    สำคัญมากครับ ความหลง(โมหะ) บุคคลผู้ยังไม่มีความหลง ย่อมม่สามารถบรรลุมรรคผลได้

    บุคคล ๑๖ จำพวกที่ไม่สามารถบรรลุมรรคผลได้ กล่าวถึงเด็กที่อายุไม่ถึง ๗ ปี ย่อมไม่สามารถ

    บรรลุมรรคผลได้ เพราะเด็กที่อายุ ยังไม่ถึง ๗ ปีถือว่ายังไร้เดียงสาอยู่ ไม่มี ราคะโทสะ โมหะ
     
  14. tangtawee

    tangtawee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +8
    จริงๆแล้วเด็กที่ไร้เดียงสา น่าจะสำเร็จมรรคผลได้เร็วกว่าผู้ใหญ่ที่มีกิเลส โทสะ โมหะไม่ใช่เหรอครับ
     
  15. อวตาร.

    อวตาร. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +633

    ปัญหาที่ ๓ ถามถึงการสำเร็จธรรมของบุคคล
    " ข้าแต่พระนาคเสน พวกที่ปฏิบัติชอบได้ธรรมาภิสมัยเหมือนกันทั้งนั้นหรือ? "
    " ขอถวายพระพร บางพวกก็ได้ บางพวกก็ไม่ได้ "
    " ใครได้ ใครไม่ได้ พระผู้เป็นเจ้า ? "
    " ขอถวายพระพร พวกที่ไม่ได้นั้น มีอยู่หลายจำพวกด้วยกัน คือ
    <CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=7 width=436><TBODY><TR><TD vAlign=top width="50%">
    เดรัจฉาน ๑ ​
    </TD><TD vAlign=top width="50%">
    เปรต ๑ ​
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">
    มิจฉาทิฏฐิ ๑ ​
    </TD><TD vAlign=top width="50%">
    ผู้ลวงโลก ๑ ​
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">
    ผู้ฆ่ามารดา ๑ ​
    </TD><TD vAlign=top width="50%">
    ผู้ฆ่าบิดา ๑ ​
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">
    ผู้ฆ่าพระอรหันต์ ๑ ​
    </TD><TD vAlign=top width="50%">
    ผู้ทำสังฆเภท ๑ ( ทำสงฆ์ให้แตกกัน ) ​
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top colSpan=2>
    ผู้ทำโลหิตุปบาท ๑ ( ทำพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต ) ​
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">
    ผู้เป็นไถยสังวาส ๑ ​
    </TD><TD vAlign=top width="50%">
    ผู้ไปเข้ารีตเดียรถีย์ ๑ ​
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">
    ผู้ประทุษร้ายนางภิกษุณี ๑ ​
    </TD><TD vAlign=top width="50%">
    ผู้มีอาบัติสังฆาทิเสสติดตัว ๑ ​
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">
    บัณเฑาะก์ ๑ (กระเทย) ​
    </TD><TD vAlign=top width="50%">
    อุภโตพยัญชนก ๑ ( คนสองเพศ ) ​
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="50%">
    เด็กอายุต่ำกว่า ๗ ขวบ ๑ ​
    </TD><TD vAlign=top width="50%">
    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    พวกเหล่านี้ถึงปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ธรรมาภิสมัย"
    พระเจ้ามิลินท์ตรัสแย้งว่า
    " ข้าแต่พระนาคเสน บุคคล ๑๕ จำพวกเบื้องต้น เป็นพวกทำผิด จะได้ธรรมาภิสมัยหรือไม่ก็ช่างเถอะ แต่จำพวกที่ ๑๖ คือเด็กอายุต่ำกว่า ๗ ขวบนี้แหละเป็นปัญหา เพราะเด็กอายุต่ำกว่า ๗ ขวบ ยังไม่มีราคะ โทสะ โมหะ มานะ มิจฉาทิฏฐิ อรติกามวิตกอย่างใดอย่างหนึ่ง ธรรมดาผู้ที่ห่างไกลจากิเลส สมควรจะรู้แจ้งแทงตลอดซึ่งอริยสัจ ๔ ไม่ใช่หรือ ? "
    พระนาคเสนอธิบายว่า
    " ขอถวายพระพร ข้อนี้ขอจงทรงฟังเหตุผล คือถ้าเด็กอายุต่ำกว่า ๗ ขวบ รู้จักเกิดราคะ โทสะ โมหะ รู้จักมัวเมาในสิ่งที่ควรมัวเมา รู้จักยินดี ไม่ยินดี รู้จักนึกถึงกุศลอกุศล ก็จักมีธรรมาภิสมัยได้ แต่เด็กอายุต่ำกว่า ๗ ขวบนั้น จิตมีกำลังน้อย ส่วนพระนิพพานเป็นของใหญ่ ของหนัก จึงไม่อาจรู้แจ้งแทงตลอดนิพพานได้ เปรียบเหมือนบุรุษมีกำลังน้อย ไม่อาจยกภูเขาสิเนรุราชได้ฉันนั้น หรือเปรียบเหมือนหยาดน้ำอันเล็กน้อย ไม่อาจซึมไปทั่วแผ่นดินใหญ่ได้ หรือเปรียบเหมือนเปลวไฟเล็กน้อยไม่อาจทำให้สว่างทั่วโลกได้ หรือเปรียบเหมือนตัวหนอนไม่อาจกลืนช้างได้ฉะนั้น "
    " ข้าแต่พระนาคเสน ตามที่พระผู้เป็นเจ้าแก้มานี้ โยมเข้าใจดีแล้ว"
     
  16. tangtawee

    tangtawee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +8
    เมื่อวันเสาร์ 25 ธ.ค. ที่ผ่านมาได้กลับบ้าน (หาเตี่ย) เสียที พ่อผัวลูกสะใภ้คู่นี้เขาคุยกันถูกคอจัง..ไม่สนใจเราเลย (ใครเป็นลูกกันแน่วะเนี่ย) ไม่ได้กลับบ้านมานาน...มากแล้ว มีโอกาสได้พาคุณนายเธอไปไหว้พระที่วัดหลวงปู่ศุข (วัดมะขามเฒ่า) รู้สึกอิ่มบุญมาก...แต่คุณนายเธอบ่นปวดหัว..(อากาศคงร้อน) ขากลับเราก็เลยพามาแวะกราบสักการะหลวงพ่อธรรมจักร วัดธรรมามูลวรวิหาร โห..565 ขั้น ไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย ไหนจะพยุงพุงตัวเองแล้วยังต้องพยุงคุณหนูเธออีก โอย..เมื่อยแต่ก็สุขใจดี ได้ทำบุญร่วมชาติคงต้องเจอกันอีกชาติหน้า..ชัวร์ ขากลับรับบุญมาหนักเลยเรา ใครสนใจ ไปเที่ยวได้ที่ จ.ชัยนาท บ้านเราเอง...
     
  17. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    มันเป็นการชดเชยปมในใจอย่างหนึ่ง...ปมในอดีต

    ต้องเอาธรรมะเข้าไปล้างปมในใจนั้นจึงจะหายได้
     
  18. tangtawee

    tangtawee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +8
    แม่เคยพาไปดูดวงที่วัดป่าโมก เขาทักว่าคนนี้เป็นคู่แท้ เมื่อชาติที่แล้วเราเคยไปหลอกเขาไว้เยอะ ชาตินี้เขาเลยมาเอาคืน แม่ก็เลยให้หลวงตาที่วัดผูกดวงให้ซะเลย กลัวพลาด...
     

แชร์หน้านี้

Loading...