พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Jin, 14 กุมภาพันธ์ 2005.

  1. Jin

    Jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,996
    ค่าพลัง:
    +3,342
    พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรเขต ๘ เป็นนายตำรวจชาวเมืองนครศรีธรรมราช ที่ได้สร้างเกียรติประวัติในตำแหน่งหน้าที่จนเป็นที่รู้จักและยอมรับกันทั่วไปในภาคใต้และในจังหวัดอื่นๆ ที่ท่านได้ดำรงตำแหน่งอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝีมือในการปราบปรามโจรผู้ร้าย นอกจากนั้นท่านยังเป็นผู้สนใจวิชาการทั่วไป โดยสนใจทางด้าน ประวัติศาสตร์ คติชนวิทยา และไสยศาสตร์เป็นพิเศษมีข้อเขียนปรากฏอยู่ในหนังสือ และวารสารต่างๆหลายเรื่อง ปัจจุบันคนทั่วไปนิยมเรียกท่านสั้นๆ ว่า
     
  2. Jin

    Jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,996
    ค่าพลัง:
    +3,342
    from another source

    ขุนพันธ์"มือปราบ! ผู้ปิดตำนานเสือปล้น

    หากสืบเรื่องราวถอยหลังจะเห็นได้ชัดว่า "เสือ" ในยุคสมัยก่อนไม่ได้เกรงกลัวต่ออาญาแห่งกฎหมายเท่าไหร่นัก ด้วยเหตุที่สภาวะสังคมที่บีบคั้นอย่างหนึ่งและความยากจนอย่างหนึ่ง แต่ทั้งหมดนั้นเมื่อผู้ใดกระทำผิดแล้วก็ถูกดูดเข้าสู่วงเวียนแห่งกรรมดิ่งลึกเข้าไปอีก การยอมมอบตัว หรือการยอมจำนนจึงแทบไม่มีให้เห็น ฉะนั้นการเปิดฉากไล่จับกันอย่างเอาเป็นเอาตายจนถึงขั้นวิสามัญฆาตกรรมจึงกลายเป็นเรื่องปกติในสังคมยุคนั้น

    มากมายเหลือเกินที่เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อในการเข้าปะทะกันของทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกับฝ่ายเสือร้าย แต่นายตำรวจผู้หนึ่งที่สร้างวีรกรรม การปราบปรามเสือร้ายทุกทิศทางทำให้เกิดฉายา"รายอกะจิ" ซึ่งคุณสัมพันธ์ ก้องสมุทร ได้บันทึกคำจำกัดความของ รศ.ประพนธ์ เรืองณรงค์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสงขลาฯ ไว้ว่า เป็น"วีรบุรุษพริกขี้หนู" ซึ่งหมายถึง พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช มือปราบเสือที่เลื่องชื่อในอดีต

    ไพฑูรย์ อินทศิลา จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์เข้าสัมภาษณ์ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ไว้ในวันที่ 5 ตุลาคม 2546 ขุนพันธรักษ์ราชเดช นับเป็นแบบอย่างตำรวจไทยที่น่ายกย่อง ข้อมูลต่าง ๆ จากนี้ เสมือนเป็นแผ่นหน้าประวัติศาสตร์แห่งวงการตำรวจไทย และเป็นทั้งข้อคติเตือนใจให้อนุชนรุ่นหลังตระหนักถึง"เสือ" อาชญากรแผ่นดินที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง

    ท่านขุนฯ ได้พูดถึงเสือในยุคสมัยนั้นว่า เสือในขณะนั้นเป็นสิ่งที่ใครต่อใครก็อยากเป็นอยู่แล้ว เพราะนั่นย่อมหมายถึง ความยิ่งใหญ่ ความโหดร้าย และคำว่า"เสือ" กระตุ้นให้เกิดความระห่ำ ความกล้าใจพองโตและฮึกเหิม เสือพวกนี้จะมีอิทธิพล มีสมัครพรรคพวกมาก อีกทั้งในเวลานั้นการปราบปรามเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะต้องไล่ล่าบุกป่าฝ่าดงแหวกคมหนามเข้าไปในถิ่นของมัน ยิ่งถ้าเสือตัวนั้นเป็นเสือทางภาคใต้ปราบยากกว่าเสือภาคกลาง เพราะเสือภาคใต้มีวิชา มีของดี ของขลัง ติดตัว แต่ทางภาคกลางไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้มากนัก แต่ให้ความสำคัญกับจำนวนของสมัครพรรคพวก

    "เสือแต่ละรายมีพฤติกรรมโหดเหี้ยมกว่าในปัจจุบัน แต่ถ้าจะว่าไปแล้วเสือในสมัยนั้นจะยึดถือและรักษาคำสัตย์ ท่านขุนฯได้เปรียบเทียบเสือในแต่ละยุคสมัยไว้น่าคิด เมื่อสังคมเปลี่ยน จิตใจคนก็อาจเปลี่ยนตามได้เหมือนกัน การรักษาสัจจะนี้เองผลักดันให้เกิดการตกลงกันระหว่างฝ่ายเสือ กับฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการเข้าร่วมปราบปรามเสือในก๊กอื่น ๆ เช่น ชุมเสือฝ้าย ได้มีการพูดคุย และส่วนหนึ่งก็ถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่ให้ร่วมกันปราบปรามเสือ ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่เสือชุมอื่น ๆ เป็นอย่างมาก

    ท่านขุนฯ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของเสือร้าย และเหตุการณ์เป็นช่วง ๆ อย่างในภาคใต้ เช่นเสือสังข์ เสืออะแวสะดอ ตาและ ส่วนเสือในภาคกลาง ก็ 4 เสือสุพรรณ อันประกอบด้วย เสือฝ้าย เสือใบ เสือมเหศวร และเสือดำ นั่นคือชื่อบรรดาเสือที่มีอำนาจ มีอิทธิพลอย่างมาก แต่การปราบเสือที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด คือการปราบขุนโจรอะแวสะดอ ตาและ เจ้าพ่อแห่งขุนเขาบูโด จ.นราธิวาส ขุนโจรผู้นี้มีความโหดเหี้ยม และมีเป้าหมายที่น่ากลัวมาก โดยต้องการที่จะแบ่งแยกแผ่นดินอิสลามใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุกครั้งที่ทำการปล้นตามหมู่บ้านจะจงใจเลือกเหยื่อที่เป็นคนไทยนับถือศาสนาพุทธเท่านั้น เมื่อปล้นแล้วจะฆ่าเจ้าของบ้านตายด้วยวิธีที่โหดเหี้ยมพิสดารทุกรายไป อย่างการจิกผมแล้วใช้"กริช" ซึ่งเป็นอาวุธประจำตัวมาทิ่มแทงที่คอจากนั้นจะกดกริชหมุนเอาเนื้อ หรือหลอดลมออกมา

    สิ่งที่ท่านขุนฯ ยอมรับขุนโจรอะแวสะดอ ตาและ ก็เห็นจะเป็น ความที่มันมีของขลังอยู่จริง ท่านขุนฯ เคยยิงปะทะซึ่ง ๆ หน้ามาแล้ว แต่ก็ทำอะไรมันไม่ได้ การติดตามปราบปรามเกิดปะทะกันอีกครั้ง หลังจากกระหน่ำกระสุนยิงแล้วไม่สามารถเอาชีวิตมันได้ ท่านขุนฯ จึงวิ่งเข้าไปชกต่อยกันพัลวันร่วมครึ่งชั่วโมง จึงจับมันใส่กุญแจมือได้

    และจากการตรวจสอบพบว่า กระสุนที่ยิงตามลำตัวไม่ถูกมันเลย ส่วนกระสุนที่ซัดเข้าที่ปาก 9 นัด มันอมกระสุนไว้ในปากโดยที่ไม่มีร่องรอยบาดแผลใด ๆ ฟันก็ไม่หัก ขุนโจรผู้นี้ยังคายหัวกระสุนทั้ง 9 นัด ลงกลางโต๊ะสอบสวน

    เห็นชัดว่า คาถาอาคมในยุคสมัยก่อนมีบทบาทมากที่ทำให้"เสือ" มีความกล้า และไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ วิชาอาคมนั้นมีมากมาย อย่างวิชามหายันต์ วิชาตรีนิสิงเห ไทยศาสตร์ขาว ผ่านพิธีเสกว่านกิน พิธีหุงข้าวเหนียวดำ พิธีเสกน้ำมันงาดิบ พิธีแช่ยาแช่ว่าน คาถาอาคมนั่นก็คือส่วนหนึ่งที่สร้างความฮึกเหิมให้กับเสือแล้วยังมีเครื่องรางของขลังอีกหลายอย่าง เช่น พระประหนังอยุธยา แหวนพระรอด ตะกรุดโทน เป็นต้น

    หลังจากการคุมขังโจรผู้นี้แล้ว ไม่เกิน 10 วัน เหมือนมันรู้ว่าจะถูกตัดสินประหารชีวิต จึงตัดสินใจกินยาพิษฆ่าตัวตาย

    ไม่เพียงแต่ ขุนโจรอะแวสะดอ ตาและ ที่ต้องใช้เวลาเป็นอย่างมากในการไล่ล่า ยังมี"เสือสังข์" เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาในการติดตามหลายเดือน อาวุธปืนก็ทำอะไรมันไม่ได้เหมือนกัน พอมีจังหวะในการปะทะ ท่านขุนก็บุกใส่เปลี่ยนจากการยิงเป็นการเข้าแลกด้วยมือเปล่า หมัด เท้า เข่า ศอก รวมทั้งใช้ปากกัด เสือสังข์ตัวใหญ่มาก เสือสังข์กัดขุนพันธ์ไม่ยอมปล่อย ขุนพันธ์จึงใช้ง่ามหัวแม่เท้าขวาหนีบพวงสวรรค์เสือสังข์ และกดให้เสือสังข์ชิดติดกับพื้น มันชักมีดพร้าที่เหน็บอยู่ที่เอวมาเชือดคอ แต่คมมีดเอาขุนพันธ์ไม่อยู่ ในที่สุดเสือสังข์ก็สิ้นฤทธิ์และตายในที่สุด ท่านขุนฯ ยอมรับว่าการปราบเสือสังข์นั้นทำให้ท่านเกือบเอาตัวไม่รอด.

    ประวัติของ...พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช

    ชื่อเดิม บุตร์ พันธรักษ์ เป็นบุตรคนที่ 2 ของนายอ้วน-นางทองจันทร์ พันธรักษ์ เกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2442 ที่หมู่บ้านอ้ายเขียว หมู่ 5 ตำบลดอนตะโก อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นนักเรียนโรงเรียนนายร้อยห้วยจระเข้ รุ่นปี พ.ศ. 2468 ขณะเรียนได้รับการตั้งยศตั้งแต่ปีแรกยศสิบตำรวจตรี ตรีบุตร์ พันธรักษ์ เป็นครูสอนมวยไทยให้กับนักเรียนนายร้อยตำรวจทุกรุ่น รับราชการที่จังหวัดพัทลุง ได้รับเงินเดือนครั้งแรก 80 บาท และเข้าไปถวายตัวเป็นลูกศิษย์สำนักเขาอ้อสายวัดดอนศาลา"ตักศิลาแห่งไสยศาสตร์" ศึกษาวิชาวิทยาคมชั้นสูงจนแกร่งกล้าปราบเสือร้ายชื่อดังที่แหกคุกเมืองตรังออกมาชื่อ"เสือสังข์" ซึ่งเป็นเสือร้ายที่มีอิทธิพลจากผู้ใหญ่หลายคนสนับสนุน และปราบสำเร็จ จากนั้นก็ปราบปรามเสือร้ายเรื่อยมาจนได้รับการแต่งตั้งเป็นร้อยตำรวจโท

    และทางราชการได้ขอพระราชทานบรรดาศักดิ์จาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน โปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น"ขุนพันธรักษ์ราชเดช"

    ตลอดระยะเวลาที่รับราชการที่ผ่านมา ขุนพันธรักษ์ราชเดช ผู้หาญกล้าเสียสละเพื่อประชาชน โดยยึดมั่นปณิธานไว้...

    "เคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่ กรุณาปรานีต่อประชาชน
    อดทนต่อความเจ็บปวด ไม่หวั่นไหวต่อความลำบาก
    ไม่มักมากในลาภผล บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน"
     
  3. Jin

    Jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,996
    ค่าพลัง:
    +3,342
    hes the man!

    ภูมิปัญญาการปราบปรามของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช
    วีระ แสงเพชร
    งานวิจัยนี้ มุ่งศึกษาภูมิปัญญา การปราบปรามของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช โดยการเก็บข้อมูลจาก พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช และครอบครัว ผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้เห็นเหตุการณ์ และผู้ที่เคยถูกพล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ปราบ ด้วยวิธีการสังเกต สัมภาษณ์ แบบเจาะลึก พร้อมถ่ายภาพประกอบ เท่าที่จำเป็น แล้วนำเสนองานวิจัยแบบพรรณนาวิเคราะห์

    ผลการวิจัยพบว่า พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งเป็นนายตำรวจมือปราบ คนสำคัญของกรมตำรวจ ซึ่งรับราชการในช่วงปี พ.ศ.2472
     
  4. Des

    Des เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,264
    ค่าพลัง:
    +303
    นี่คือรูปของท่านขุนน่ะค่ะ ....
    เท่ห์ๆ ท่านอายุ 108 ปี อายุยืนค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • borirak.jpg
      borirak.jpg
      ขนาดไฟล์:
      7.1 KB
      เปิดดู:
      1,179
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2005
  5. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,773
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    เคยอ่านแล้ว มันมากกกกกกกก
     
  6. Jin

    Jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,996
    ค่าพลัง:
    +3,342
    ฮีโร่ผมเลย คาเมนถ้ามีเวลา ลงประวัติ อ ชุม ไชยคีรี ได้ ไหมครับ
     
  7. Jin

    Jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,996
    ค่าพลัง:
    +3,342
    หนังสือ สั่งซื้อได้ที่ไหนบ้างครับ
     
  8. Tom

    Tom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2005
    โพสต์:
    266
    ค่าพลัง:
    +289
    มีคำถามครับ "โรคคุดทะราด" คือโรคอะไรครับ
     
  9. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,790
    ค่าพลัง:
    +7,482
    โรคเรื้อนครับ

    <DD></DD>
     
  10. Tom

    Tom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2005
    โพสต์:
    266
    ค่าพลัง:
    +289
    ขอบคุณครับปู่NiNe
     
  11. Jin

    Jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,996
    ค่าพลัง:
    +3,342
    นาม : บุตร พันธรักษ์

    กำเนิด : พ.ศ.2442

    ปัจจุบัน : อายุ104 ปี (ยังมีชีวิตอยู่)

    ยศก่อนเกษียณ : พล.ต.ต.ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช


    สายวิชา :

    เชี่ยวชาญเพลงมวยเสียมก๊ก (มวยไทย)

    เพลงดาบสายทักษิณ กระบี่กระบอง และวิชาการต่อสู้อีกหลายแขนง

    เป็นศิษย์ฆราวาสแห่งสำนักเขาอ้ออันเกรียงไกร

    สืบทอดยอดวิชาหลายแขนง อาทิ ยอดวิชาคงกระพัน

    นะจังงัง มหาอุด ผิวกายคงทนต่อศาสตราวุธ

    นอกจากนี้ยังเชี่ยวชาญในวิชาแพทย์แผนโบราณ ว่านและสมุนไพรต่าง ๆ


    อาวุธคู่กาย :

    เดิมมีปืนเมาเซอร์ ต่อมาได้ฝึกวิชาคงกระพัน

    ชาตรีจนแตกฉาน จึงไม่จำเป็นต้องพกปืนอีก

    แต่อาศัยเพียงสนับมือและเพลงมวย

    ในการปราบปรามเหล่าโจรร้าย เสือร้ายก๊กต่าง ๆ

    ภายหลังได้รับมอบศาสตราวุธชนิดหนึ่ง

    เชื่อกันว่าเป็นดาบที่ตกทอดมาจาก พระยาพิชัยดาบหัก

    ฝักดาบมีถุงผ้าสีแดงห่อหุ้ม ตัวดาบมีความคมกล้ายิ่งนัก

    ในระยะหลังการออกปราบปรามโจรร้าย

    ท่านขุนพันธ์จึงอาศัยเพียงดาบเล่มนั้น

    กับสนับมือออกปราบปราม เหล่ามิจฉาชีพตลอดมา

    จนได้ฉายา " ขุนพันธ์ดาบแดง " เป็นที่ครั่นคร้ามของพวกมิจฉาชีพทั่วไป

    แม้แต่เสือฝ้ายเองก็เคยติดสินบนท่านถึง 2000บาทเพื่อไม่ให้ปราบปราม


    ผลงาน :

    กำหราบชุมโจรมานับไม่ถ้วน อาทิ เสือฝ้าย เสือดำ เสือมเหศวร

    (ที่ชาวเสียมก๊กเอามาทำเป็นหนังฟ้าทะลายโจร แต่ตัวจริงถูกปราบโดยท่านผู้นี้)

    โดยเฉพาะโจรแถบทางใต้ล้วนร้ายกาจทั้งสิ้น ดังนั้นขุนพันธ์จึงต้องใช้กลยุทธ์ข่มนาม

    อาทิ การตัดหัวเสียบไว้หน้าโรงพัก เอาหัวโจรร้ายมาทำที่เขี่ยบุหรี่

    เช่น หัวเสือสายแห่งสุราษฎร์ธานี

    ตลอดชีวิตรับราชการ พล.ต.ต.ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช

    ได้สร้างเกียรติประวัติในตำแหน่งหน้าที่มากมาย

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกียรติประวัติในการปราบปรามโจรผู้ร้ายคนสำคัญๆ

    ของแคว้นต่างๆ ที่ท่านไปประจำอยู่

    จนเป็นที่เลื่องลือของคนทั่วไป เป็นที่ครั่นคร้ามของโจรก๊กต่างๆ

    เป็นที่รักใคร่ของชาวประชาราษฎรทั้งปวง

    นับได้ว่าท่านเป็นนายตำรวจมือปราบคนสำคัญคนหนึ่งของเสียมก๊ก

    และด้วยฝีมือในการปราบปรามนี้เองทำให้ท่านได้รับการเลื่อนยศและตำแหน่งสูงขึ้นเป็นลำดับมา

    แม้เกษียณแล้วท่านก็ยังสร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติบ้านเมืองเสมอมา


    การต่อสู้ครั้งสำคัญ :

    ดวลกับจอมโจรอะแวสะดอ เจ้าพ่อเขาบูโดแห่งแคว้นนราธิวาส

    อาแวสะดอเป็นจอมโจรที่ปล้นฆ่าเฉพาะคนไทยพุทธ

    ทางราชการพยายามปราบหลายครั้ง

    แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงเรียกตัวท่านขุนพันธ์มา

    จอมโจรผู้นี้มีวิชาคงกระพันเป็นเยี่ยม

    ท่านขุนพันธ์ยืนยันว่า อะแวสะดอถูกยิงหมดลูกโม่

    จนร่างล้มฟุบลง แต่กลับลุกขึ้นมาได้

    และบ้วนกระสุนทิ้งออกมาจากปาก

    ท่านขุนพันธุ์เห็นดังนั้นจึงล้วงสนับออกมาสวมที่มือ

    แล้วเข้าต่อสู้ประชิดตัว อาศัยความชำนาญในวิชาป้องกันตัว

    จึงสามารถจับตัวจอมโจรอาแวสะดอได้


    ชีวิตปัจจุบัน :

    มีความสุขตามอัตภาพของชายชราผู้หนึ่ง

    ใช้ชีวิตอย่างสงบ สมถะ เรียบง่าย


    ท่านขุนพันธ์ฝากถึงไต้เฮียบรุ่นหลัง :

    " เมื่อเราตักน้ำใส่โอ่งแล้วมันรั่วหมด จะไปโทษโอ่งไม่ได้
     
  12. khunsri1972

    khunsri1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    203
    ค่าพลัง:
    +924
    น่าทึ่งมากค่ะ ขอกราบเท้าในความเป็นคนจริงของท่านค่ะ
     
  13. kritsadakrit

    kritsadakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +147
    ปัจจุบันท่านถึงแก่กรรมแล้วนะครับ ยังไม่ถึงปีเลย
     
  14. star_nok

    star_nok Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +96
    ขณะนี้ศพของท่านตั้งอยู่ที่ศาลา 100 ปี ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าภาพเปิดสวดพระอภิธรรมทุกวันเสาร์ และคาดว่าจะทำพิธีพระราชทานเพลิงศพประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ครับ
     
  15. CLUB CHAY

    CLUB CHAY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    507
    ค่าพลัง:
    +1,412
    ชาวนครฯรักขุนพันธ์ครับ

    ขออนุโมทนาครับ ตำนานและกระแสของท้าวจตุคามรามเทพ เลื่องลือไปทั่วประเทศได้ก็เพราะท่านขุนพันธ์ครับ ชาวนครศรีธรรมราชทุกคนรักและเคารพขุนพันธ์ครับ
     
  16. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ควรนำหนังสือเรื่องราวของท่านเป็นหนังสือหลักสูตรตำรวจทั้ง นักเรียนพล นักเรียนนายสิบ นักเรียนนายร้อยสามพราน อย่างยิ่งครับ ตำรวจดีๆยังมีแบบอย่างครับ โดยเฉพาะยอดคนแห่งสำนักเขาอ้อท่านนี้ครับ
     
  17. star_nok

    star_nok Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +96
    ล่าสุดขณะนี้ได้มีการจัดสร้างองค์พ่อจตุคามรามเทพรุ่น มือปราบสิบทิศ ให้บูชา เพื่อหารายได้สร้างอนุสาวรีย์ท่านขุนพันธ์ไว้ ณ หน้ากองกำกับการตำรวจจังหวัดนครศรีธรรมราช เสร็จและเปิดภายในเดือนกุมภาพันธ์ ปี50
    ข่าวว่าสร้างจำนวนจำกัดโดยให้ตำรวจทั่วประเทศจองก่อน คาดว่าจะเป็นรุ่นที่มาแรงอีกรุ่น
     
  18. ศิวิไลซ์

    ศิวิไลซ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +737
    เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ผมอยู่นครศรีธรรมราช บ้านท่านอยู่ในซอยชื่อซอยขุนพันฯ ซึ่งอยู่หน้าสถานีตำรวจ ผมเดินไปเรียนพิเศษผ่านหน้าบ้านท่านทุกวันเลย
    แต่ไม่มีโอกาสได้ไปกราบ ตอนนี้คงสายไปซะแล้ว
    แต่ก็ยังดีใจที่ได้ไปกราบศพท่านที่ตั้งอยู่ที่ศาลาร้อยปีที่วัดพระมหาธาตุฯ นครศรีธรรมราช เข้าไปแล้วรู้สึกเหมือนมีพลังมาก ๆ ครับ
    ท่านมีลูกศิษย์มากมาย ถ้าอยากอ่านประวัติของท่านลองไปซื้อหนังสือเล่มนึงมาอ่านดู ชื่อหนังสือว่า ขุนพันธรักษ์ราชเดช นี่แหละครับ
    ไม่ทราบหมดแล้วยัง ผมเคยไปหาซื้อ ไปที่ร้านซีเอ็ด หรือร้านหนังสืออะไรก็ได้ แล้วไปบอกพนักงานว่าช่วยเซิร์ชชื่อนี้ให้หน่อย เซิร์ชทั้งผู้แต่ง แล้วก็ชื่อหนังสือครับ รู้สึกจะมีวางขายอยู่ประมาณ 3 แบบ คนเขียนคนละคนกัน แต่เป็นงานเขียนที่สัมภาษณ์ท่านทั้งนั้นครับ
    ผมอ่านแล้วรู้สึกทึ่งมากเลย โดยเฉพาะเวลาที่ท่านเล่าวีรกรรมเวลาที่ท่านออกจับโจร ท่านวางแบบแยบคายมาก ถ้าอ่านแล้วรับรองต้องทึ่งมาก
    ตอนท่านมีชีวิต ท่านยังเป็นท่านขุนคนสุดท้ายในประเทศไทยที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยครับ ตอนนี้ท่านเสียไป ในประเทศไทยก็ไม่มีใครที่มียศท่านขุนอีกแล้ว
    ท่านอายุยืนมากครับถึง 108 ปี มีคนว่ากันว่าที่ท่านลาโลกไปนั้น ท่านถอดจิตออกไปเอง ท่านไม่ได้เสียชีวิตด้วยสังขารครับ
    เห็นได้จาก ก่อนท่านเสียชีวิตไม่นาน ท่านได้ทำพิธีปลุกเสกท้าวจตุคามรามเทพ (ซึ่งโด่งดังเป็นที่เลื่องมือมากในภาคใต้ตอนนี้)ขึ้นมา โดยใช้ชื่อรุ่นว่ารุ่น 108 ปีขุนพันฯ เหมือนท่านกำลังจะบอกว่านี่เป็นสิ่งยิ่งใหญ่สิ่งสุดท้ายที่ท่านจะทำให้ก่อนท่านจะถอดจิตไป แล้วเมื่อท่านเสียชีวิต ท้าวจตุรคามรามเทพ รุ่นของท่านก็ดังจริงๆ ครับ ซึ่งผมไปสอบถามราคามา ซื้อขายกันที่ราคา 6-7 หลักก็มีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2007
  19. Poseidon

    Poseidon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +185
    นับถือท่านมากๆๆๆๆๆๆ ครับ

    ประสบการณ์ของท่าน ฟัง อ่าน แล้วมันส์มากเลย
     
  20. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,561
    ค่าพลัง:
    +2,122
    (verygood) นับถือๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...