พระดีศีรอยุธยา (ถ้าผ่าน จ.อยุธยา แนะนำให้ไปกราบท่านครับ)

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย pjo2517, 22 มกราคม 2011.

  1. pjo2517

    pjo2517 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +482
    สวัสดีครับพี่น้องเว็ปพลังจิต วันนี้กระผมมีพระดีแนะนำให้ไปกราบ ในยามที่พี่ๆน้องๆผ่านจ.อยุธยา จะได้แวะไปกราบท่านให้เป็นมงคลครับ เพราะผมแวะผ่านจ.อยุธยาทีไร กระผมเป็นต้องแวะไปกราบท่านทุกๆครั้งไปครับ
    ท่านเป็นพระที่อารมณ์เยือกเย็น พูดเป็นกันเอง และอารมณ์ดี ท่านมักหัวเราะเวลาเจอศิษย์ที่คุ้นเคย หรือฆราวาสที่คุ้นเคย ยามกระผมแวะไปกราบท่าน ท่านมักหัวเราะอย่างสดชื่น ทำให้กระผมเองก็พลอยสดชื่นไปด้วยครับ แถมไปกราบท่านทีไร เวลาท่านเกิดเมตตาเรา ท่านมักจะให้ของดี ของขลังให้เป็นกำลังใจเสมอๆครับ
    ถ้ [​IMG] [​IMG] [​IMG]าใคร มีโอกาสได้ไปกราบท่าน จะรู้ว่าท่านเป็นพระที่มีดีในตัวท่านครับ กระผมจึงได้ขออนุญาติสัมภาษณ์ประวัติท่านไว้นานมาแล้ว เพราะทีแรกกะว่าจะทำประวัติ วัดนี้ด้วย แต่เนื่องจากว่า ท่านเป็นพระที่ไม่บอกบุญใคร ใครอยากทำบุญกับท่านก็ทำ ใครไม่ทำท่านก็เฉย ท่านไม่เคยบอกบุญอะไรเลย กระผมไปกราบท่านมานานหลายครั้งแล้ว ไม่เคยได้ยินว่าท่านจะบอกบุญอะไรกับกระผมสักครั้งเลย มีแต่จะสงเคราะห์สิ่งต่างๆกับกระผมเสียมากกว่าครับ
    จนในบางครั้งกระผมรู้สึกว่าท่านให้เรามากกว่าที่เราให้ท่านเสียอีก ในบางครั้ง จนรู้สึกว่ากระผมควรที่จะเปิดเผยประวัติท่าน ที่กระผมเคยสัมภาษณ์ท่านไว้นานให้พี่ๆน้องๆชาวเว็ปด้รู้จักกันบ้างครับ
    เพราะในยามนี้ ท่านก็มีอายุถึง 71 ปีแล้วปี 2554 นี้ครับ แถมท่านยังเป็นโรคร้ายที่ใครๆก็ไม่อยากจะเป็นอีกด้วยครับ (ท่านเป็นโรคมะเร็งที่ต่อมลูกหมากครับ) ท่านเป็นโรคเดียวกับอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งโด่งดังมากในเรื่องอัฐิกลายเป็นพระธาตุ ซึ่งผมก็รู้จักในหนังสือพระธาตุสมัยก่อนครับ
    แต่โรคร้ายนี้ ก็มิได้ทำให้ท่านตะหนก หวาดกลัวในภัยของโรคนี้เลยครับ กระผมเคยไปกราบท่านที่โรคพยาบาลแห่งหนึ่งที่ จ.อยุธยา ตอนท่านเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งนี้ แต่ที่สุด หมอก็ได้แต่ให้ยาท่านฉันเพื่อยับยั้งไม่ให้โรคกำเริบ สุดท้ายท่านก็เลิกไปหาหมอ และที่สุดท่านก็ต้องปล่อยตามสภาวะของธาตุขันต์ มีหลายครั้งที่กระผมถามถึงเรื่องโรคร้ายนี้ ท่านก็บอกว่ามันยังไม่เจ็บปวดอะไร เพียงแต่หมอเขาให้ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ต่อไป แต่ท่านบอกกระผมว่าไม่ไปแล้ว ช่างมัน แถมท่านยังหัวเราะดัง อารมณ์เบิกบานอีกด้วยครับ
    มีอีกมากมายที่กระผมประทับใจหลวงพ่อท่าน จนยากเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำเขียนให้ได้อ่านกันหมด วันนี้ผมจึงขออนุญาติลงภาพและประวัติท่านก่อนนะครับ ติดตามกันต่อเลยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 01.jpg
      01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      136.8 KB
      เปิดดู:
      160
    • 16.jpg.jpg
      16.jpg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      269.7 KB
      เปิดดู:
      166
    • 17.jpg.jpg
      17.jpg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      119.1 KB
      เปิดดู:
      205
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2011
  2. pjo2517

    pjo2517 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +482
    ชาติกำเนิด
    พระครูประภัศรญาณสุนทร(นิพนธ์) เจ้าอาวาสวัดกล้วยชื่อเดิม นายนิพนธ์ สวัสดิ์ิสุข
    ท่าน เกิดเมื่อวันอังคารที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๔๘๓ ขึ้นแรม ๓ ค่ำเดือน ๖ ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรี อยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รูปร่างสันทัด ผิว ดำแดง บิดารับราชการตำรวจ มียศเป็นจ่า สิบตำรวจ แต้ม สวัสดิ์สุข มารดาชื่อ บาง สวัสดิ์ิสุข มีพี่น้องร่วมบิดาและมารดาดียวกัน ๙ คน คือ
    ๑.พระครูประภัศรญาณสุนทร (นิพนธ์ สวัสดิ์สุข)
    ๒.นายสุพจน์ สวัสดิ์สุข
    ๓.นางอุดม สวัสดิ์ิสุข
    ๔.นางสมศรี สวัสดิ์ิสุข
    ๕.น.ส.สมปอง สวัสดิ์สุข
    ๖.นางสมทรง สวัสดิ์สุข
    ๗.ถึงแก่กรรมไปนานแล้ว
    ๘.จ่าสิบเอกเรืองชัย สวัสดิ์สุข
    ๙.นางอุ่นเรือน สวัสดิ์สุข
    หลวงพ่อนิพนธ์ท่านบวชเณร ตอนอายุ ๑๙ ปี และเมื่ออายุครบ ๒๑ ปี ท่านได้บวชเป็น พระภิกษุ สังกัดมหานิกาย ณ.วัดกล้วย โดยมีพระอุปัชฌาคือ
    พระ ครูศีลกิตติคุณ (หลวงพ่ออั้น) วัดพระญาติ และมีพระอาจารย์ เที่ยงเป็นพระอนุสาวนาจารย์ โดยได้รับฉายาว่า (ญาณสํวโร) และได้มาพักพำนักอยู่กับ พระครูโบราณบุรารักษ์ (ทรง สุขสวัสดิ์) ณ วัดปราสาท ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายของบิดาท่านนั้นเอง และเป็นลุงแท้ๆของท่านเอง
    ที่ท่านได้มาบวชนั้นเป็นเพราะว่าบิดาของท่าน ตั้งใจให้ท่านบวช เพื่อศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ และได้ศึกษาความรู้อยู่กับ หลวงลุงของท่านเองด้วย โดยท่านก็ปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของบิดา
    คือท่านสามารถสอบนักธรรมโทได้ในปี ๒๕๐๕ ท่านได้อยู่ใน สมณะเพศ และได้ช่วยหลวงลุงของท่านในกิจการงานต่างๆ ท่านเป็นพระที่ชอบพัฒนา สมถะ รักความสงบ สันโดด ไม่ชอบอยู่กันเป็น หมู่คณะใหญ่ๆ บ้านเกิดท่านก็อยู่ใกล้กับวัดกล้วย ในสมัยตอนที่หลวงปู่ต่วนท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดกล้วย ท่านกำลังสร้างเสนาสนะต่างๆ ภายในวัด ท่านจึงได้ขอหลวงพ่อนิพนธ์จากหลวงลุงของท่านซึ่งอยู่วัดปราสาทในขณะนั้น
    เนื่องจากหลวงลุงของท่านและหลวงปู่ต่วนท่านคงรู้จักมักคุ้นกันอยู่ ท่านจึงยิมยอมอนุญาตให้หลวงพ่อนิพนธ์ไปอยู่ช่วยงานบูรณะโบสถ์ที่วัดกล้วย เมื่อปี พศ. ๒๕๒๕ ซึ่งเป็นปีที่ฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี พอดี
    เมื่อหลวงพ่อนิพนธ์มาอยู่ที่วัดกล้วยนั้นสมัยก่อน วัดกล้วยยังมีสภาพเป็นป่าเป็นสวนอยู่ท่านและพระในวัด โดยมีหลวงปู่ต่วนเป็นเจ้าอาวาส ก็ได้พัฒนาก่อสร้างเสนาสนะต่างๆให้มั่นคง และถาวรเพื่อใช้เป็นที่ปฏิบัติศาสนกิจของหมู่สงฆ์ จนสำเร็จเสร็จสิ้นโดยปัจจุบัน เราจะเห็นได้ว่าภายในวัด มีถาวรวัตถุให้เห็นเป็นรูปธรรม เช่น โบสถ์ ศาลาวัด กุฏิสงฆ์ เมรุเผาศพฯลฯ เป็นต้น
    ซึ่งภายหลังเมื่อหลวงปู่ต่วนท่านได้มรณะภาพไปแล้ว ตอนนั้นที่วัดกล้วยยังว่างจากเจ้าอาวาส หลวงพ่อนิพนธ์เป็นแต่เพียงผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสเท่านั้น ต่อมาพระธรรมมุณี(วัย) เจ้าอาวาสวัดพนันเชิง ต.พระนครศรีอยุธยา อ.กะมัง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งขณะนั้นท่าน ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดอยู่ ท่านจึงได้แต่งตั้งให้หลวงพ่อนิพนธ์เป็นเจ้าอาวาสี่วัดกล้วย เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๐ ต่อจากหลวงปู่ต่วน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจน กระทั่งถึงปัจจุบัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg.jpg
      1.jpg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      155.2 KB
      เปิดดู:
      175
    • 14.jpg.jpg
      14.jpg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      155 KB
      เปิดดู:
      107
    • 19.jpg.jpg
      19.jpg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      118.7 KB
      เปิดดู:
      126
    • 20.jpg.jpg
      20.jpg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      122.5 KB
      เปิดดู:
      102
    • 21.jpg.jpg
      21.jpg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      115.4 KB
      เปิดดู:
      104
  3. pjo2517

    pjo2517 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +482
    หลวงพ่อกับความสมถะ
    หลวงพ่อนิพนธ์นั้นท่านเป็นพระที่เงียบ สงบ นิ่ง และปล่อยวางได้ดี ถ้าใครที่เข้าใกล้ ท่านจะรู้ว่า ท่านเป็นพระที่รักความสงบ ขยัน และอดทนต่อสภาวะรอบข้าง เข้ากับผู้คนได้ ทุกชนชั้น เท่าที่ผู้เรียบเรียงหนังสือเล่มนี้ใกล้ชิด และคุ้นเคยกับท่าน ท่านมีจริยวัตรเรียบง่าย ไม่ยุ่งยากวุ่นวาย ท่านมีอารมณ์ที่ร่าเริงแจ่มใส
    อยู่ตลอด มีจิตเมตตาผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก และมัก ช่วยเหลืดคนอยู่เสมอๆ
    ท่านเป็นผู้มี ทะมะความอดกลั้น มีขันติ ความอดทน และมีความเพียรเป็นยอด เนื่องจากว่าที่วัดของท่าน มีสุนัขมากมาย ไหนจะแมวอีก บางทีก็เห็นลิงตัวใหญ่ๆมาอีก ล้วนแล้วแต่มารบกวนท่าน ด้วยการทำความ เลอะเทอะให้ท่านต้องมีภาระกวาด เช็ด ถู อยู่เป็นประจำ ผู้เขียนเคยเห็นท่านกวาด และ เช็ดถูศาลาเป็นประจำ บางทีท่านก็ล้างห้องน้ำเอง ท่านค่อยๆทำของท่านไปเรื่อยๆ อย่างนั้น บางครั้งผู้เขียนก็อดใจไม่ได้ ที่จะขานอาสา เป็นผู้กวาดถูให้ท่านแทน นี่เป็นความอดทน ที่ท่านทำอยู่ คือปกติที่ผู้เขียนเห็นมาโดยมาก พระที่เป็นเจ้าอาวาสวัด ท่านมักมีลูกวัด คอย ช่วยเหลือดูแล แต่ท่านกลับทำเองผู้เดียว และ ไม่ปริปากขอร้องให้ใครช่วยเหลือเลย ท่าน มีความอดกลั้น แม้แต่ทุกวันนี้ท่านจะมีอายุถึง 71 แล้ว ท่านก็ยังทำหน้าที่ของท่านอย่างนี้ทุกวันๆครับ
    ท่านเป็นพระที่มีเมตตา ท่านไม่เคยใช้อำนาจที่มี พูดให้พระหนุ่มหรือเณรน้อยทำงานอะไรให้เลย ท่านทำงานของท่าน ด้วยความเพียรเพ่งให้งานเสร็จ ตามที่ท่านกำหนด จึงนับได้ว่าท่านเป็นพระ ผู้มีจริยวัตรงดงามอีกรูปหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันนี้ ท่านทำงานเสมือนปฏิบัติธรรมไปพร้อมๆกัน คือไม่ยึดติด ไม่ยึดมั่น และพยายามที่จะวางอุเบกขา ปล่อยวาง อยู่โดยตลอด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 22.jpg.jpg
      22.jpg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      100.7 KB
      เปิดดู:
      102
    • 1.jpg.jpg
      1.jpg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      155.2 KB
      เปิดดู:
      104
  4. pjo2517

    pjo2517 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +482
    ปัจจุบัน บางผู้บางนามก็รู้จักท่านในนามว่า หลวงพ่อแก่ หรือบางผู้บางคนก็จะรู้ในนามหลวงพ่อนิพนธิ์ ก็แล้วแต่ว่าจะสะดวกเรียกชื่อท่านอย่างไร ท่านก็หัวเราะร่าเริงอย่างนั้น ท่านค่อนข้างปล่อยวางในทุกๆเรื่อง
    ในบางครั้งมีคน ตกรถ ตกลา มาขอความช่วยเหลือ ท่านรู้ว่ามาแบบขอทานตั้งใจมาขอเงิน ท่านก็ปล่อยวาง เมตตาเขาเหล่านั้นตามอัตตภาพ เหมือนที่หลวงพ่อเคยกล่าวให้กระผมฟังว่า หลวงปู่ต่วนท่านเคยบอกว่า ขอทานพวกนี้หน่ะ เทพพนม เป็นการให้เกรียรติ์พวกคนขอทานเหล่านี้ครับ
    ผมสังเกตุ เวลามีใครมาตื๊อขอโน่น ขอนี่ ท่านก็นิ่งเฉย สุดท้ายท่านก็ให้ทุกรายไป ท่านเป็นพระที่เมตตามากๆองค์หนึ่งเท่าที่ผมเคยเห็นในชีวิต บางทีบุคคลเหล่านั้นที่มาขอความเมตตา กระผมรู้ทั้งรู้ว่าเขาตั้งใจมาโกงมาหลอกหลวงพ่อ กระยังเข้าไปกราบเตือนหลวงพ่อแบบลับตาคนเหลานั้นแล้ว แต่หลวงพ่อก็ไม่วายที่จะเมตตาคนเหล่านั้น อย่างไม่มีเหตุผล
    สิ่งที่ประทับใจในคำพูดบางคำ ที่หลวงพ่อท่านทำให้ผมดู แล้วสอนทิ้งท้ายให้ตราตรึงใจเสมอ คือคำว่า
    "เราเอาของเขามามากแล้ว เราก็ต้องให้เขาคืนไปบ้าง"
    คำนี้จะถือว่าเป็นคำปลงใจ หรือปล่อยวาง หรือเข้าใจถึงกรรมบางอย่างของท่านเองก็อาจเป็นไปได้ โดยมากท่านจะกระทำให้ผมเห็นมากกว่าที่จะสอนด้วยวาจาครับ คืนนี้เล่าท้าวความแค่นี้ก่อนนะครับ วันหน้าจะมาเล่าอะไรแปลกๆเกี่ยวกับท่านให้อ่านกันใหม่ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 18.jpg.jpg
      18.jpg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      148.5 KB
      เปิดดู:
      113
    • 2.jpg.jpg
      2.jpg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      184.2 KB
      เปิดดู:
      115
    • 9.jpg.jpg
      9.jpg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      122.5 KB
      เปิดดู:
      93
    • 11.jpg.jpg
      11.jpg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      146.2 KB
      เปิดดู:
      107
  5. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,030
    ค่าพลัง:
    +53,093
    ขอบคุณครับ ว่าแต่น่าจะมีที่อยู่หรือแผนที่เพิ่มเติมนะครับ คนอื่นๆเข้ามาอ่าน - ชม และได้คิดจะไปถูกนะครับ
     
  6. banana man

    banana man เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +606
    ท่านสร้างวัตถุมงคลรึเปล่าครับ
     
  7. Noi55

    Noi55 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +25
    ต้องไปกราบบางแล้ว .... ขอบคุงคับ
     
  8. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    ขอคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ

    จะหาโอกาสไปกราบท่านบ้างครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...