พลังมหัศจรรย์ วัตถุมงคลหลวงพ่อกวย อยากให้มีไว้ใช้

พิจารณาดูแล้ว เนื้อเป็นผงน้ำมันครับ
แต่ไม่แก่น้ำมัน

 

สวัสดีครับคุณพฤศจิกา
ที่หายไปก็ไม่ได้ไปไหนหรอกครับ ไปทำกิจกรรมการกุศลอื่นๆ
แล้วก็ท่องเว็บไปตามภาษาคนพอมีเวลาหนะครับ

กำลังคิดจะถ่ายภาพพระหลวงพ่อกวยที่สะสมไว้ไม่มาก
มาลงให้ชมกัน
ใครมีความชำนาญก็ วิจารณ์กันได้นะครับ
กระทู้นี้ไม่มีเรื่องผลประโยชน์แต่อย่างใด

เพื่อการศึกษาร่วมกัน
และแลกเปลี่ยนเป็นวิทยาทานกันและกันครับ

 

สวัสดีครับพี่เม้าท์
องค์นี้พี่ได้สัมผัสแล้วไหมครับ น่าจะขนลุกด้วยพลังมากมายนะครับ

ปล.ผมคือคนที่ให้พี่จับพลังลูกอมในวันงานหลวงปู่เชิญไงครับ

 

มิได้เจตนาล่วงเกิน คงไม่เป็นไรมั้งครับพี่ถิรวุษ

แต่คงจะเตือนให้พี่สตาร์ทไม่ติด

ขลังมากๆ ครับ

 

อ๋อ ครับ นึกว่าใครที่ไหน
คุณนพพร นี่เอง

ผมได้สัมผัสแล้วครับ พลังงานมากทีเดียว
แต่ไม่สันทัดเรื่องพิมพ์ทรง จึงต้องให้ผู้รู้ช่วยแนะนำครับ

มีโอกาสพบกันครั้งหน้า เอาวัตถุมงคลของคุณนพพร มาให้ชมกันอีกนะครับ

ลูกอมนั้นดีมาก คอนเฟิร์ม แต่จำไม่ได้แล้วว่าของท่านใดสร้าง

 

เมื่อตอนที่ผมเริ่มสนใจหาวัตถุมงคลของหลวงพ่อกวย
ผมได้ไปพบ พระพิมพ์สมเด็จ เหมือนมีอะไรเคลือบผิวอยู่ด้านหน้า
ส่วนด้านหลังเหมือนมีชันโรงติดอยู่ เข้าใจว่าพระดังกล่าวติดอยู่กับอะไรสักอย่าง
ครั้งนั้นผมไปเจอวางแบกะดินอยู่ริมกำแพงธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์
เดี๋ยวนี้เขาห้ามวางแล้วครับ

คนขายเป็นหญิงแม่ลูก ลูกยังเล็กอยู่
พอผมหยิบขึ้นมาดู
โอ้โห... ทำไมถึงแรงอย่างนี้
จึงนำมาเป็นตัวอย่าง สาม องค์
องค์ละห้าบาท เท่านั้นครับ

วันถัดมามีคนอยากได้ ผมก็ไปหาร้านแบกะดินนี้อีก
ปรากฏว่า ไม่มีแล้ว
คนขายบอกว่า มีคนมาเหมาไปหมด ร่วมๆ ยี่สิบองค์

ผมจึงถามว่า พระชุดนี้ได้มาจากไหน
คนขายบอกว่า พวกช่างรับเหมาก่อสร้างในวัด เอามาฝากไว้ให้บูชา

จากนั้นมาก็ไม่พบร้านนี้อีก


ผมได้นำตัวอย่างพระที่ได้ ไปเที่ยวสอบถาม
ได้ข้อมูลว่า เป็นพระหลวงพ่อกวย
หลวงพ่อทำติดแผงไม้ ทำเป็นตู้ก็มี
มีวัดหลายวัดมารับไปบูชา

ใจผมคิดว่าจะเป็นไปได้หรือ
พระหลวงพ่อ พลังดีๆ จะหาได้ง่ายๆอย่างนี้หรือ

 

ไปเดินดูตามแผงพระท่าพระจันทร์ ก็ไม่มีเพราะแบบที่ว่านี้
มีอยู่แผงหนึ่ง เห็นมีวางอยู่องค์ เป็นพิมพ์สังขจาย องค์เท่าปลายนิ้วก้อย
ลักษณะเหมือนเคลือบแลกเกอร์ หลังมีชันติดอยู่ แบบเดียวกับพระสมเด็จที่ผมได้มา
คนขายบอกว่าเป็นพระหลวงพ่อกวย

เท่านั้นแหละครับ
ผมก็ตั้งจิตอธิษฐานถึงหลวงพ่อ ทันทีว่า
ถ้าพระชุดนี้เป็นของหลวงพ่อสร้างจริง
อยากได้รับคำยืนยันจากใครก็ได้ที่รู้จริง อีกสักคน

หลังจากนั้นไม่นาน
ผมก็ไปพบพระลักษณะดังกล่าวที่ริมกำแพงธรรมศาสตร์
ตอนนั้นเย็นแล้ว
เขาเอามาวางเป็นตู้ มีกระจก ดูเก่ามาก
มีชื่อวัดเขียนติดกระจก(วัดอะไรจำไม่ได้เพราะลบออกไปแล้ว)
ภายในมีพระติดไม้อยู่ร่วมร้อยองค์
หลายพิมพ์ ทุกองค์เคลือบแลกเกอร์ทั้งหมด

ผมถามคนขายว่า พระตู้นี้ของที่ไหน
เขาบอกว่า ของหลวงพ่อกวย
เท่านั้นแหละครับ ผมก็จัดแจงเจรจาจนได้มาเป็นเจ้าของ
นำเข้าห้องพระบูชาจนทุกวันนี้

ชมตัวอย่างพระกันครับ
หากพบเจอที่ไหน หาเก็บไว้ได้เลย

 

พี่ท่านครับ น่าทึ่งมากๆครับที่จับ พลังได้นะ
ไม่ทราบว่าพี่ท่าน จับ พลัง 2 องค์นี้ให้ผมหน่อยครับ
ของผมเอง ลองสักครั้งจะเป็นไรครับ pm หรือตอบในกระทู้นี้ก็ได้ครับผม (ขอบพระคุณครับ)

ใครบอกว่า 2 องค์นี้ยัดวัด ผมไม่สนครับ แต่ผมใช้แล้ว โอ มากๆขอบอก

เคยโดนปาหินมาแล้วเดี๋ยวว่างจะถ่ายให้ดูครับแค่ลอยสกิดนิดเดียว แต่ก้อนหินเท่า

กำปั้น ครับ

ตอนนั้นพระสมเด็จปรกโพธิ์แขวนในรถ หลังรูปเก่งห้อยคออยู่ แต่เดี๋ยวนี้ เอาใว้ที่หิ้งใหม่ครับ

 

ยังมีอีกหลายคนที่ไม่ทราบว่าพระลักษณะนี้ใช่ของหลวงพ่อกวยหรือเปล่า
เพราะไม่พบเห็นกันนัก

ที่ท่านทำใส่ตู้ไม้ไว้ สันนิษฐานว่ามอบไปไว้ยังวัดต่างๆ
เพราะตู้ที่ผมได้มา ก็มีชื่อวัดติดอยู่
มวลสารดีครับ น่าจะมีผงสมเด็จโตผสมอยู่ด้วย
สัมผัสจากพลังพระ ไม่ได้แตกต่างจากพลังพระสมเด็จโต วัดระฆังเลยครับ


ว่าจะไม่เล่าให้ฟัง แต่ก็อดไม่ได้
ตอนนี้ใครรู้ก็หาไว้นะครับ
มีหลุดออกมา องค์ละไม่กี่สิบบาท
แต่พอไปวางแผง องค์ละเป็นร้อยขึ้น

 

ต้องขออภัยนะครับ
การตรวจพลังองค์พระของผมนั้น ต้องอาศัยใช้สัมผัสองค์พระจริงๆครับ

เพราะเคยมีเรื่องวุ่นๆมาแล้ว
จนผมไม่กล้าแตะต้องภาพพระจากเว็บอีกเลย

 

ลองดูสักครั้งครับพี่ pm มานะครับ ขอบพระคุณครับ

 

แต่ที่เชียงใหม่มีนะครับ แต่ไม่กล้าให้เขาลองครับ อิอิ เขาเป็น หญิง ครับ

 

ผมมีเรื่องมาเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์พระของหลวงพ่อกวยครับ


หลายคนที่เคยติดตามกระทู้นี้มาแต่ต้น คงจะเคยได้ยินชื่อ สมชาย

สมชาย เขาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับประสบการณ์พระหลวงพ่อ ดังนี้ครับ

เมื่อก่อนเขามีพระทั่วไปมาวางขายแบกะดิน
ตอนนั้นเขาจนมาก มีเงินติดตัว ๓ บาท
เข้าห้องน้ำจ่ายสามบาท เอาขวดเข้าไปใส่น้ำก๊อก ในห้องน้ำ
มาดื่มระงับความหิว

และจะว่าบังเอิญหรือไม่ก็ตาม
สมชายได้พบลุงคนหนึ่ง มาบอกว่า
ให้หาพระหลวงพ่อกวยมาแขวนบูชาไว้กับตัว
แล้วจะไม่เจ็บไม่จน

ตอนนั้นเขาไม่รู้จักว่าพระหลวงพ่อกวยเป็นอย่างไร
แล้วจะเป็นไปได้หรือ มีพระหลวงพ่อ จะไม่เจ็บไม่จน
แต่ก็พยายามให้พรรคพวกช่วยหาให้
จนกระทั่งได้มาองค์หนึ่ง

 

มาปู่เสื่อรออ่านเลยครับ

 

ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่ถึงไม่ได้เจอหน้ากันแต่ผมเข้าใจครับว่าพี่เป็นคนที่หน้าเครพมากๆคนหนึ่ง ว่าแต่พี่ท่านมีพระหลวงพ่อกวย เอามาลงให้ชมบ้างนะครับพี่ท่าน ว่าแต่เล่าต่อไหมครับรอฟังและชมอยู่ครับ....

 

สมชาย กำพระหลวงพ่อไว้ในมือ แล้วอธิษฐานว่า
ถ้าหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์จริง ให้ขายพระวันนี้ได้สัก ๔๐๐.-บาท
วันนั้นขายได้สามร้อยเก้าสิบกว่าบาท

แต่ก็ยังไม่แน่ใจ คิดว่าคงฟลุ๊คมั๊ง
วันต่อมา ก็ขายได้สามร้อยกว่าบาท
ไม่เกินสี่ร้อยเลย

จึงเริ่มมั่นใจว่า เป็นความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโดยแท้แน่ทีเดียว
ตั้งแต่นั้นมาสมชายก็เริ่มเก็บพระหลวงพ่อ
แล้วนำมาให้คนบูชา
จนทุกวันนี้ มีบ้านอยู่ มีรถใช้
สามารถเลี้ยงลูกได้ถึงสี่คน

จากแผงพระแบกะดิน มาเป็นแผงพระตั้งโต๊ะ จนทุกวันนี้
ลูกคนโตที่เมื่อก่อนผมเห็นตัวเล็กๆ
เดี๋ยวนี้โตเป็นหนุ่มตัวใหญ่มาก
ครอบครัวสมชายก็ยังอยู่ดีมีสุข ด้วยบารมีหลวงพ่อกวย จนทุกวันนี้

มีอีกเรื่องที่สมชายขอพึ่งบารมีหลวงพ่อกวย ซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากๆ
เกี่ยวกับบ้านที่ผ่อนส่งอยู่

รอสักครู่ครับ

 

มานั่งขัดตะหมาดรอครับ...พี่ชาย...


ขอนุญาติท่านพี่ขุนทัพนะครับภาพนี้รีบเก็บใว้นะครับ หาอยาก ชะด้วย ถ่ายที่ วัดดอยสุเทพจ้า

 

มารอฟังด้วยอีกคนครับ

 

เล่านิทานเรื่องสมชายต่อครับ


มีอยู่คราวหนึ่ง สมชายได้รับแจ้งว่า
บ้านที่สมชายผ่อนส่งอยู่นั้น
ตอนนี้เจ้าของโครงการจะทำการโอนกรรมสิทธิ์ให้แล้ว

สมชายถามไปว่าต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไร
เจ้าของโครงการบอกมีค่าโอน ค่าส่วนกลาง ค่ามิเตอร์น้ำ-ไฟ
รวมแล้วสี่หมื่นกว่าบาท ให้นำมาในวันจันทร์

วันนั้นที่ได้รับแจ้ง เป็นวันศุกร์ เหลือเวลาอีกสองวัน
จะไปหาได้ที่ไหน เงินตั้งสี่หมื่นกว่าบาท

มีทางเดียวคือ ต้องพึ่งหลวงพ่อกวยแล้ว
สมชาย จึงจุดธูป บอกกล่าวหลวงพ่อ ขอให้ผ่านพ้นอุปสรรคในช่วงนี้ไปให้ได้
ขอให้หลวงพ่อช่วยเหลือด้วย

 

เช้ามืดวันเสาร์ สมชายออกจากบ้านตั้งแต่ตีห้า
เพื่อนำวัตถุมงคลของหลวงพ่อกวย ไปวางริมฟุตบาท ที่จตุจักร
หวังว่าจะได้ปัจจัยจากการให้บูชาวัตถุมงคงหลวงพ่อ
เพื่อนำไปเป็นค่าโอนบ้าน

วันนั้นวางแผงอยู่จนถึง แปดโมงเช้า ก็ถูกเทศกิจ มาขับไล่
จึงต้องเก็บแผง แล้วนับสตางค์ที่ได้
ปรากฏว่า ได้เพียงหมื่นกว่าบาทเท่านั้น

ตอนนี้ไม่รู้จะหันไปปรึกษาใคร
จึงถามภรรยาของเขาว่า จะไปต่อที่ท่าพระจันทร์ดีไหม
เพราะเงินได้ยังไม่ครบ
ภรรยาบอกไม่รู้

สมชายเลยตัดสินใจเอง ไปท่าพระจันทร์ทันที
หลังจากวางพระหลวงพ่อบนแผงเสร็จ
ก็ไม่มีวี่แววว่า จะมีใครมาบูชาพระเลย
ใจก็เริ่มกระวนกระวาย จะทำอย่างไรดี

และแล้วสายตา ก็เหลือบมองเห็นชายวัยกลางคน
รูปร่างพุงพลุ้ย ศีรษะบาง แต่งตัวธรรมดาๆ
เหมือนผู้คนทั่วไปที่มาเดินดูแผงพระ

ชายคนนั้น เดินมาที่แผงพระของสมชาย
ถามราคาเกือบทุกองค์
ถามกลับไปกลับมา จนสมชายมีอารมณ์
บอกไปว่า ถ้าถามกลับไปองค์โน้นที องค์นี้ที ผมจำไม่ได้หรอก
จะเอาองค์ไหนก็คัดออกมา แล้วจะบอกราคาให้

ชายคนนั้นได้ฟัง ก็บอกสมชายให้ใจเย็นๆ
เอาอยู่แล้ว
ราคาพระที่มองๆไว้องค์ละเป็นพัน ขอใช้เวลาเลือกหน่อย