ผมสามารถฝีกเพ่งกสิณเบบนี้ได้ไหมครับ ?

รอผู้รู้มาตอบครับ

 

ถ้าทำแบบนั้นแล้วทำให้เกิดสมาธิได้ ก็ อนุโมทนาครับ

วิธีที่ครูบาอาจารย์บอกกันมา ส่วนใหญ่ ก็จะให้จิตเราจับกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

เพื่อให้เกิดสมาธิ ไม่วอกแวก

 

จากที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานเล่าให้ฟังท่านว่า ท่านได้ณาน4 หลังจากฝึกกับพระอาจาร์ย 3 วัน จากนั้นต่อกสินอย่างว่องไว ทีละกองวันต่อวัน
แต่เหมารวดแบบนี้ ถ้าสำเร็จได้ก็ยอดเยี่ยม ซุปเปอร์แมนครับ

 

ภาพนิมิตฝึกอย่างนี้เปลี่ยนบ่อยเกินครับ.....ฝึกกสิณนี่ไม่ใช่นึกถาพให้เป็นก็เป็นนะ.....อย่างนั้นใครเขาก็ทำได้......ไม่ต้องไปฝึกกันหลอก......ให้เด็กมันทำก็ได้......

พยายามเอาตามแบบครับ.....จับพระก็เอาพระอย่างเดียว.....ถาพอื่นเข้ามาแทรกคุณมันก็ไปจับสมาธิมันก็ไม่ก้าวหน้าสิ......อารมณ์อยากคิดอะไรก็ปล่อยอย่างนี้...จนมันไม่มีตัวจริง.....อย่างนี้มันไม่เรียกกสิณหลอกครับ....มันเรียกมโนภาพ......

ตำรามีนะ...ไปศึกษาเอาเอง.....

 

ตามความเห็นผม สมาธิมันต้องแน่วแน่ แต่ถ้าเปลี่ยนไปเรื่อยๆอย่างนั้นเรียกว่าแน่วแน่ไหม

ที่จริงท่านลองทำตามที่บอกมาก็ได้ แล้วลองมาเล่าประสบการณ์ครับ เพราะผมยังเชื่อว่ามีเป็นล้านวิธีที่จะทำสมาธิครับ

 

ผมเลือกฝึกแสงสว่างครับ แต่มีผลกับเลนส์แก้วตาเหมือนกัน

 

เจ๋งครับ วิธีนี้ คุณมีสมาธิดีมาก ถ้าเสริมปัญญาเข้าไปหน่อยก็จะดีขึ้นไปอีก คือพิจารณาว่าวันที่เราทำอะไรไปบ้าง ดีหรือไม่ดี ดีเพราะอะไร ไม่ดีเพราะอะไร ต่อไปจะทำอะไร เพื่อทำให้เกิดญาณ

 

ญาณทัศนวิสุทธิ์ครับแล้วเอาไปต่อโสดาครับ

 

ทำได้ ทำแล้วเพลินสนุก ได้แค่พอจิตสงบนะ


แต้ถ้าจะเอาเป็นเรื่องเป็นราว แบบไช้งานได้จริงๆ


ต้องทำไห้ได้เป็นอย่างๆไป เหมือนคนจับปลาทีละหลายตัว

หลุดหมด จับเป็นอย่างๆ เป็นตัวๆไปนะ ดีกว่า

อนุโมทนาครับ

 

ที่ว่ามามันก็สามารถทำได้นะ ที่เปลี่ยนบริกรรมนิมิต จาก ดิน เป็นน้ำ เป็นไฟ เป็นสีๆ
แต่ว่านั้นมันก็ต้องอยู่ในขั้น Advance (วสี) ไปแล้ว เพราะสาระสำคัญของรูปกสิณ
ที่เราเพ่งคือต้องการให้จิตจดจ่อกับอะไรสักอย่าง คือว่าง่ายๆให้จิตให้สงบ ถ้าเปลี่ยนบ่อยมันอาจฟุ้ง ไม่สงบเพราะมัวแต่ เปลี่ยนเป็นนั่นนี่บ่อยๆ ถ้ายังฝึกพื้นฐานแนะนำให้ใช้
อย่างเดียว พอชำนาญแล้ว (วสี) อยากลองแบบใหม่ก็ค่อยว่ากัน เพราะแบบฝึกสำหรับ
คนที่ชำนาญแล้วอาจารย์ท่านก็ จะแนะนำให้ฝึกแบบข้ามกสิณ ข้ามฌาน...

 

ถูกครับ..............

 

อยากให้คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->วิิญญาณนิพพาน<!-- google_ad_section_end -->

ลองฝึกอธิษฐานฤทธิ์ดูนะครับ ถ้าสามารถแสดงฤทธิ์ได้ ก็ขอ อนุโมทนาด้วยครับ
แสดงว่า คุณวิญญาณนิพพาน เป็นผู้ทรงอภิญญา5 แล้ว
และเป็นการพิสูจน์คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าเป็นจริง

และถ้าทรงอารมณ์พระอริยะเจ้าด้วย ก็จะเป็นอภิญญา6 สามารถทำลายกิเลสให้หมดสิ้นไป และเข้าสู่นิพพานในที่สุด

เจริญพร.....สวัสดี

 

ความเหมือน ที่แตกต่าง...

ปัญหาของคุณ วิญญาณนิพพาน ไม่ได้อยู่ที่ทำได้ หรือไม่ได้ มันอยู่ที่จะรู้ได้อย่างไร
ว่าคุณสามารถทำได้อย่างนั้นจริง เรื่องเหล่านี้หากเป็นไปได้ทั้งหมด ไม่จำกัดวิธีการ
แต่ที่แน่นอนอย่างที่สุดที่ผมเข้าใจตอนนี้คือ คุณยังไม่เข้าใจ เรื่องกสิณ เท่าที่ควร
เพราะคุณก็ยังถามคนอื่นอยู่ ก็แสดงว่าคุณเองยังไม่แน่ใจนั่นเอง
ผมจึงแนะนำให้ฝึกตามแบบแผนที่ถูกต้องไปก่อน การเริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง..

ผมขอเล่าประสพการณ์ส่วนตัวละกันนะ คือผมก็ฝึกตามแนว นับลมหายใจ มานานพอควร
แต่เมื่อมาถึงภาวะนึง ที่จิตมันไปต่อไม่ได้ ผมจึงเริ่มฝึกกรรมฐานแนวกสิณอยู่พักนึง
ปรากฏว่าได้ผล แค่อุคหนิมิต มันก็ไปต่อไม่ได้ ติดอยู่นาน....
ผมก็เปลี่ยนมาแนว นับลมหายใจ ที่ผมถนัดกว่า ก็ปรากฏเรื่องแปลก ที่ผมนับลมหายใจเข้า
ออก ตามวิธีเดิมที่ฝึกมา เมื่อจิตเริ่มรวมสักครู่ ภาพกสิณลอยเด่นชัด ทั้งที่ไม่ได้บริกรรม
ผมก็ลองอยู่หลายครั้ง ก็ได้ผลแบบนี้มาตลอด ทำให้ปัจจุบันนี้ผมได้แนวฝึกกรรมฐานผสม
คือจะเริ่มที่ นับลมหายใจต่อด้วย กสิณ และจบลงด้วย นับลมหายใจ....

 

ขอแสดงความเห็นสักนิดนะครับ ผมว่า ท่านเจ้าของกระทู้จะฝึกดั่งที่กล่าวมาก็ไม่ผิดครับ
ไม่มีใครห้าม กสินนั้นไม่ว่าจะกองไหนเป็นแค่ทางผ่านเท่านั้น คุญจะนึกจะคิดสลับไปเรื่ยๆ
ก็ทำได้ครับเป็นการฝึกที่ ตามจริตของตนเอง จะเร็วขึ้นสะอีก เพราะชำนาญ อะไรก็ได้
ทำไห้คล่อง ก็สุดยอดแล้วครับ ทำไมผมถึงว่ากสินคือทางผ่าน ก็เพราะจิตสงบแล้วไม่คิด
ไม่นึกแล้ว แล้วจะเอากสินมาทำอะไร ผมรู้แบบนี้มาตั่งแต่ฝึกกสินได้สามวันครับแล้วเพิง
จะมาเข้าใจว้าแท้จริงแล้วมันเป็นแบบนี้เองหลอ......ก็สามเดือนต่อมา ถ้าเรารู้จักปรับ
เปลียน ปรุงแต่ไห้เข้ากับจริตของเรา ผมเชื่อนะครับว่า มันจะเร็วกว่าการฝืนความรู้สึกเล็กๆ
ในใจ ขอไห้ท่านทำต่อไปเถิดครับทำตามแนวทางของท่าน ไปไห้สุด แล้วจะเข้าใจ
เองว่าเป็นอย่างไรคืออะไร ที่ท่านถามตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ผมว่าท่านไม่ได้สงใสหลอกครับ
ท่านรู้ มาก กว่าบางคนในนี้เสียอีก อนุโมทนาด้วยครับ น้อยคนนักที่จะเข้าใจ มือถืออะไร
ยังไม่รู้ตัวอีก จะทำอย่างไรก็ได้ไม่ผิด หรือ หรือไปผิดในใจของคนอื่น ก็ช่างเขานะครับ
สุดท้ายแล้ว ไม่นึกไม่คิด อารม์นั้นได้แค่ประคองใจในอารม์ เท่านั้น แล้วจะเอากสินมา
จากไหน ผมก็เคยฝึกกสินนะครับ แต่ตอนนี้ ผมกล้าพูดว่า ผมไม่รู้จัก กสินเลยแม้แต่น้อย
ป.ล.เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ แค่แสดงความคิดเห็น.......สาธุครับ