ใครเห็นลูกกลมๆในอากาศบ้างครับ มันคืออะไร

อยากทราบครับว่า ลูกกลมๆในอากาศที่วิ่งไปวิ่งมาคืออะไรครับ
ที่ผมเห็นด้วยตาเนื้อนะครับ ตอนแรกเป็นลูกแก้วใสๆกลมๆ กับที่เป็นแบบลูกกลมๆต่อกันเป็นเส้นๆก็มีบ้างแต่น้อย ถ้ามองลงไปในลูกกลมๆ จะเห็นแสงสีทองระยิบระยิบ เพ่งลงไปอีกเห็นรัศมีสีชมพูออกทางสีโอรสครับ แล้วถ้าดูต่อก็บางครั้งก็เห็นเป็นรุ้งครับ บางครั้งก็เห็นถึงแค่รัศมีสีชมพู แต่ลูกกลมสีทองๆนั่นถ้าอยู่เฉยๆ ไม่คิดนู่นนี่ก็เห็นตลอดเวลา ส่วนใหญ่จะเห็นในที่ๆมี แสงไม่ว่าจะเป็นแสงแดดหรือแสงจันทร์น่ะครับ แสงหลอดไฟต้องเพ่งถึงจะเห็น เคยถามครูบาอาจารย์หลายรูปแล้วครับ แต่ก็ยังไม่แน่ใจ บางรูปบอกว่าที่เห็นคือพระธาตุ บางรูปก็ว่าเป็นกสิณอากาศ อากาสานัญจายตนะ บางรูปท่านก็บอกแค่ว่าเป็นภาพติดตาไม่ต้องสนใจปฏิบัติต่อไป ก็เลยไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่ออ่ะครับ รบกวนช่วยอธิบายที

ps. มีบางลูกแก้วเหมือนกันที่เป็นสีดำส่วนใหญ่มักหมุนอยู่รอบตัวเป็นบางช่วงเวลา บางทีก็เห็นอยู่ที่หน้าของคนอื่นหรือก็วนรอบตัวเขาครับ งง O_O

 

ไม่ใช่แบบที่ก้มนานๆแล้วรีบเงย......แล้วมันเป็นพวกยิบๆ...ที่เขาเรียกไฟตาแตกนั้นนะ....

ถ้าเป็นอันนั้นเรื่องของกาย....ช่าวหัวมันเถอะ....

 

ไม่นี่ครับ เห็นตลอดเวลาเลยไม่ต้องก้มไม่ต้องเงย ขับรถอยู่ก็เห็นครับ

 

ถ้าเห็นตลอดเวลานี่ไปหาหมอดีที่สุดครับ....

 

ไม่เชิงเห็นตลอดเวลาครับ จะเห็นช่วงที่ใจมันนิ่งๆครับ ส่วนเรื่องหาหมอไปมาแล้วครับปกติดีครับ

มีครูบาอาจารย์ลูกศิษย์หลวงตาก็เห็นแบบเดียวกับผมครับ แต่ท่านไม่ได้บอกผมว่าเห็นลูกกลมนี่แล้วทำอะไรต่อครับ แต่ท่านเพียงบอกแค่ว่า ผมใจสงบง่ายอยู่แล้ว ให้ผมปฏิบัติให้ใจสงบหรือจิตรวมอย่างน้อยวันละ 1 ครั้งทุกวันครับ

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=fVk7x1q1YhU]YouTube - อังคุลิมาลสูตร[/ame]

 

จอกระจกตาขาดครับ

ถ้ามันเยอะรีบไปหาหมอเลยครับ เคยดูรายการทีวีมาเหมือนกัน
ขั้นรุนแรงถึงกับตาบอดได้เลยนะ

 

ผมสงสัยว่าคุณFarren อาจมีทิพย์จักขุญาณ จึงสามารถมองเห็นดวงเทพได้
แต่บางทีอาจเป็นโรคเกี่ยวกับตาก็ได้ หรือไม่ก็เกิดจากการเพ่งมองแสงจ้ามากๆเป็นระยะเวลานาน
เช่น มองดวงอาทิตย์ แล้วจะเกิดอาการตาพล่ามัว เห็นเป็นดวงกลมๆ สีม่วงๆ ดำๆ สีรุ้ง ฯลฯ (แบบนี้เป็นอันตรายมาก ถ้าทำบ่อยๆตาจะบอด)

ถ้าอยากพิสูจน์ ว่าคุณมีทิพย์จักขุญาณ หรือไม่ ลองไปที่ป่าช้า แล้วมองหาผี ถ้าแค่ผียังมองไม่เห็น ก็อย่าไปคิดว่าจะมองเห็นเทพเทวดาเลย (เพราะความละเอียดของดวงจิตต่างกันเยอะ) แสดงว่าคุณไม่มีทิพย์จักขุญาณ

เจริญพร....สวัสดี

 

ทิพย์จักขุญาณคงไม่ได้หรอกครับ
ส่วนสายตาน่าจะปกตินะครับ ตายังใสครับ เพราะบริษัทบังคับตรวจกับจักษุแพทย์ทุกปี แต่ที่เห็นนี้ก็เห็นมาปีกว่าๆแล้วครับ

 

ผมก็เห็น เช่นเดียวกันครับ

เป็น วงกลม ใสๆ ลอยไปลอยมา

 

ผมว่าไปหาหมอดีกว่าครับ ตามีปัญหาครับผม กระจกตาปัญหาครับ อาการมันฟ้องหน่ะครับ

 

ครับ ผมก็เห็นครับ เห็นมาแต่เด็กและชอบเหม่อมองท้องฟ้าเพลินดีนะ
ส่วนที่ว่า เกียวกับสายตานั้นแค่เห็นเยื่อในตาวิ่งไปมาช้าๆ สว่านดวงกลมๆ
นั้นเห็นทุกครั้งที่สนใจมองไม่สนใจก็ไม่เห็นเพราะไม่สนใจ
เป็นตั่งแต่จำความได้แล้วครับ แต่ก็ดีใจครับมีเพื่อนแล้ว อิอิ....

 

เออคือว่าเป็นความผิดปกติของร่างกายคะ
เม็ดเลือดขาวมันแทรกตัวลอดเข้าไปในวุ้นของลูกตา
พอมันตายแล้วก็ค้างอยู่ในนั้นสักพักหนึ่งจนกว่าจะย่อยสลายหมด
ไม่มีอะไรมากคะ แต่ถ้าเป็นเบาหวานก็อีกเรื่องหนึ่ง
หรือแก่แล้วก็จะเป็นจอประสาทตาเสื่อม AMD
ถ้าไม่สบายใจก็หาจักษุแพทย์ คนไม่เคยตรวจๆ สักครั้งก็ดีนะคะ

 

รู้ได้เลยนะว่าคนเวบนี้ไม่ได้งมงาย......

ศรัทธาแบบต้องมีปัญญา....

 

กระดากที่จะตอบเหมือนกัน .... อึม ถ้าร่างกายปกติ นะ
สิ่งที่ท่านเห็น เรียกว่าดวงเทพ หรือดวงจิตที่แผงใน อทิสมานกาย อารมณ์ที่จะเห็นต้อง ต้องทรง อย่างน้อยอุปจารสมาธิ ได้ เป็นปกติ และต้องมีศีลบริสุทธิ์
แนะนำ ไม่ควรสนใจ จนเกินไป เพราะจะเป็นนิวรณ์

เอาตัวผม นะ สิ่งที่เห็น เป็นดวงขาวบ้าง ใสบ้าง สีอื่นยังไม่เคยเห็น และเคลื่อนที่ได้เร็ว มาก และที่เห็นบ่อยกว่า คือ จุดขาวใสสว่าง เป็นจุดไม่ใหญ่ นัก แต่จะเห็นชั่วพริบตา ของบางอย่างแม้นรู้ ก็ไม่สามารถพูด ได้เหมือนกัน

 

คิดใหม่แล้วไปหาหมอ ดวงทงดวงเทพอะไรเห็นได้ด้วยการใช้แสงเข้ามากระทบลูกตา ถ้าได้ทิพจักขุหลับตายังมองเห็นได้จร้า

 

หากท่านไม่เชื่อ ผลจาก พระธรรมคำสั่งสอน ก็ควรเฉยไว้ดีกว่า เพราะ จะกลายเป็นค้านคำสอน หรือปรามาสพระรัตนตรัย ไป สิ่งที่ท่านทำไม่ได้ อย่าคิดว่า อนอื่นจะทำไม่ได้ ซิ หากได้ทิพย์จักขุญาณ จริง ไม่ต้องหลับหรอก ลืมตาก็เห็น

 

คนไม่เคยเห็นพูดให้ตายยังใงก็ไม่เชื่อ แถมยังส่งเสริมความกลัวกันอีก

ศาสนา กับ ปรัชญา ต่างกันตรงนี้ เหมือนกับว่าพูดกันคนละภาษาเลยทีเดียว

ส่วนคนที่เคยเห็นมีน้อยมาก ผมยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่เล่นเว็บจะมีพวกอย่างนี้

แสดงว่ากำลังต้องอยู่ตัวพอสมควร เพราะว่าเว็ปก็คือ สังคม ชุมชน อย่างหนึ่ง มันเป็นโลกของคฤหัส(เขียนไม่ถูก)

ถ้าเห็นพวกเจ้า ทรง ผี เปรต อสุรกาย ทั้งหลายผมพอจะรับได้ เพราะเป็นของต่ำ แต่นี่เล่นเห็นดวงแก้วเลย

ผมอธิบายการเห็นแบบของผมบ้างเพื่อมาแลกเปลี่ยนกัน เพราะผมก็ถามพระมาหลายองค์แล้ว ไม่มีคำตอบเลย

ก่อนหน้าที่ผมเห็นนั้น น้องชายผมเห็นมาก่อน บอกว่ามองไปในอากาศที่มีแสงสว่าง มองไปธรรมดา ๆ สักพักเห็นว่ามี ดวงใส ๆ กลม ๆ ขนาดใหญ่ประมาณ ๑ มิลลิเมตร วิ่งไปมามีจำนวนมากน้อย แล้วแต่สถานที่ บางที่ก็ไม่มี บางที่ก็มี ผมเองสงสัยเหมือนกันว่าน้องชายผมตาอาจมีปัญหา แต่มาสะดุดตรงที่ดวงพวกนี้วิ่งได้ และมีจำนวนไม่เท่ากันในแต่ละที่ ซ้ำร้ายบางที่ก็ไม่มี แปลว่าไม่ได้มีทุกที ทุกเวลา

ส่วนตัวผมเริ่มเห็นครั้งแรกเมื่อไปที่วัดกาขาว ดอยแม่สลอง ตอนเช้าขณะคุยกับหลวงพ่อ อยู่ดี ๆ ก็เห็นแบบน้องผม แต่หลวงพ่อก็ยังไม่เห็น หลังจากนั้นมาก็เห็นมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน แต่ต้องกำหนดจิตคล้ายเพ่งนิดหน่อย

ข้อสรุปการเห็นของผม

๑ ยังไม่รู้ว่าดวงนี้เป็นอะไร ยังไม่มีใครหาคำตอบได้ แต่ดวงที่เจ้าของกระทู้เห็นนั้นผมว่ามีรายละเอียดมากกว่าผมมาก เห็นทั้งสี และแสงภายใน ส่วนน้องชายผมขณะนี้สามารถเห็นแสงสว่างในตัวของดวงแล้ว คือสามารถเห็นได้ในที่มึดเป็นบางครั้ง

๒ ดวงนี้จะมีจำนวนหนึ่งที่ติดตามตัวผมเองไปทุกที่ เมื่อกำหนดเห็นสามารถเห็นได้ในทุกสถานที่ที่มีแสงสว่าง แต่ภายในบ้านแสงไฟฟ้าตัวผมเองยังไม่เห็น

๓ ดวงนี้จะมีปริมาณมาก ๆ ตามสถานที่ที่ผมสังเกตุไว้ คือ ภายในพื้นที่เป็นภูเขาสูง เช่นวัดที่ตั้งอยู่บนเขา และบนพื้นน้ำ ไม่ว่าน้ำทะเล หรือ สระว่ายน้ำ สรุปเอาเองว่าดวงเหล่านี้ชอบที่จะอยู่รวมกันบริเวณที่กว้าง ๆ ที่ ๆ มักเป็นที่สาธารณะ

๔ ผมมีข้อสรุปภายในใจแล้ว แต่เลือกที่จะไม่เชื่อ เพราะกล้วว่าจะเป็นอุปาทาน ก็เลยทำหน้าที่เพียงผู้เฝ้าดู (หลายปีแล้ว)

๕ ดวงสีดำนั้นผมก็เห็น แต่น้องชายผมไม่เห็น ผมมีรายละเอียดว่าผมมักจะเห็นดวงสีดำก่อนดวงสีขาว และเมื่อเห็นดวงสีขาวแล้วดวงสีดำจะไม่เห็นอีก และอีกอย่างหนึ่งดวงสีดำนั้นมักจะอยู่ใกล้ ๆ กับตัวเรามากกว่าดวงสีขาว รายละเอียดนี้เหมือนกันหรือไม่

๖ จะว่าไปแล้วดวงพวกนี้นอกจากมีลักษณะกลม ใส แล้ว คล้ายกับว่าจะส่งแสงประกายออกจากตัวเองได้ เหมือนกับมีพลังงานในนั้น ที่ผมเห็นเป็นประกายสีใส ๆ

๗ ถ้าจะสรุปอย่างหยาบ ๆ น่าจะเป็นเปลือกของรูปอย่างหนึ่ง แล้วจะต้องมีนามอยู่ภายในนั้น และน่าจะยังไม่ถึง กาล หรือ กาละเวลาที่จะแสดงตัวออกมา

แลกเปลี่ยนกันครับ กัลยานมิตรเป็นสิ่งที่จำเป็นในระหว่างการเดินทาง

 

ขอบคุณครับที่ตักเตือน ผมไม่เคยค้านคำสอนใดใดของพระพุทธองค์แต่ผมมีสติพอ ที่จะเชื่อสิ่งใดใดโดยการพิจารณาครับ

 

อตีตที่โดนอำมาทั้งประเทศสมัยยุคจตุคามรามเทพเฟื่องฟูน่าจะยังพอจำกันได้ว่ารูปถ่ายลูกกลมที่ถ่ายติดกันนักต่อนักคือ องค์พ่อจตุคาม หลังจากนั้นเมื่อมีคนมาเผยความจริงว่ามีเป็นฝุ่นละอองโดยการถ่ายรูปพิสูจน์ ความลับจึงแตกๆๆๆๆๆๆๆๆ นี่แหละที่เรียกว่าเชื่อแบบไม่มีเหตุผลพอหมดยุคปราฏิหารย์ต่าง ๆกลับไม่มีมาเสนอข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์อีกเลย ทั้ง ๆที่ก่อนหน้านี้ลงข่าวปราฏิหารย์ต่าง ๆกันพัลวัน อุทาหรนี้ไม่น่าจะลืมกันนะครับ เป็นขบวนการกันเลย