กิ๊ก:กรรมจากการฝากคนอื่นทำบุญ

จากหนังสือของหลวงพ่อดำ อายธัมโม

สตรีนางหนึ่งได้เดินทางเข้ามากราบนมัสการหลวงพ่อดำ อายธัมโม
ที่สถานปฏบัติจิตเทพเทวธรรม หรือวัดป่ารัตนพรชัย บ้านดอนมันน้ำ
ต.บ้านหวาย อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม จึงได้นำเรื่องกามราคะ
ที่ตนเองหักห้ามจิตใจไม่ได้ ที่มีสาเหตุมาจากการได้คุ้นเคยกับชายอื่น
ที่ไม่ใช่สามีของตน ด้วยความคุ้นเคยและไม่มีศีลระงับห้ามจิตใจตนเอง
จึงได้เผลอทั้งตัวและใจคบกับผู้ชายอีกคนหนึ่งในขั้นได้เสียกัน

"ทำไมผู้หญิงจึงต้องมีผัวสองคน"

หลวงพ่อดำได้รับทราบคำถามเรื่องราวชีวิตเช่นนั้น จึงได้กำหนดจิตดู
กรรมในอดีตของสตรีผู้นั้น จึงได้ทราบความหมายและบอกให้ทราบถึง
เหตุที่มาจากกรรมในอดีตชาติ

"โยม อาตมาจะบอกให้ทราบ การฝากสิ่งของกันไปทำบุญนี้แหละ
อันตราบมาก จะด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดีในการฝากของไปทำ
บุญนั่นแหละ คือที่มาของการได้มีโอกาสคุ้นเคยกันผูกพันข้าม
ภพข้ามชาติมาถึงในปัจจุบัน และเมื่อมาพบกันไม่มีจิตหักห้ามใจ
ของตนขาดศีลธรรมกั้นความถูกต้อง จึงเผลอใจคบกันและมีสามีขึ้นอีกคนทั้งๆ ที่มีสามีอยู่แล้ว"

 

จะเป็นอะไรใหมถ้าผมจะไม่เห็นด้วย....

ผมว่ามันน่าจะเป็นกรรมใหม่มากกว่า.....ถ้าหากเป็นกรรมเก่า ไม่น่าจะเกี่ยวกับการฝากของไปทำบุญ....เพราะเรื่องนี้มันมีตัวแปลคือกามเป็นตัวเกี่ยวข้อง....

ถ้ามันผิดศีลข้ามภพกันมาหลายชาติอันนี้เห็นด้วยอยู่.....

 

ไม่เข้าใจว่าการตั้งใจทำดีโดยที่ตนเองไม่สามารถไปทำเองได้จะทำให้เกิดผลร้ายอย่างนั้นได้อย่างไร แล้วการร่วมบุญต่าง ๆ เช่น กฐิน ผ้าป่าสามัคคี จะคล้ายกันไหมครับ

 

จะบ้าเหรอ ฝากของไปทำบุญ..........
คนทำบุญก็ได้บุญ คนที่รับฝากนำไปทำบุญ ก็ได้บุญด้วยนะครับ พูดง่ายๆ ว่าได้บุญได้กุศลกันทั้งคู่......

ส่วนปัจจุบันนั้น มาผิดศีลข้อ 3 นั้น มันก็เพราะตัวเองต่างหากที่ไม่รูจักหักห้ามใจ โทษอย่างอื่นไปเรื่อย ไม่โทษตนเอง

 

อย่าไปเชื่อเจ้าของกระทู้มากนัก ไร้สาระ อ่านแล้วใช้ปัญญาพิจารณาดูว่าจริงหรือไม่

 

ไม่รู้จะอธิบายยังไงเลยครับคัดลอกมาจากหนังสือ ตามที่อ่านเหมือนกับทุกคน
น่าจะขึ้นอยู่กับการหักห้ามใจของเราด้วยนะครับ คือถ้าฝากเขามาทำบุญทำให้
เรากับเขาผูกพันกันมาก คุ้นเคยกันมากหากไม่มีการหักห้ามใจก็จะกลายเป็น
ทำผิดศีลธรรมไป ประมาณว่าหักห้ามใจยากครับ ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปถามคนที่
เรานับถือดูสิครับ ผมไม่มีความสามารถพิเศษก็ยืนยันให้ไม่ได้

 

ระวังปรามาสพระ... นะครับท่านสมาชิก

การที่ได้ทำบุญร่วมกันนั้น ชาติภพหน้าย่อมมีโอกาสได้เข้ามาผูกพันธ์กันแน่นอนครับ

มีโอกาสได้เป็น เพื่อนสนิท , ญาติสนิทกันได้ครับ

แต่จะมาผูกพันธ์ในทางชู้สาวหรือเปล่าอันนี้ เราต้องหาคำตอบครับ


.

 

ต้องไปสนทนาธรรมกับท่านแล้วแหละครับ ถึงจะรู้ความจริง




วัดป่ารัตนพรชัย �Ѵ����ѵ��ê��

.

 

กระผมคิดว่ามันเป็นกรรมปัจจุบันของเขาเอง ไม่ได้คิดว่าใครฝากของฝากเงินใครไปทำบุญแล้วจะต้องมาลงเอยอย่างนี้ คนเคยทำบุญร่วมกันมันก็เป็นธรรมดาที่จะต้องมีความเกี่ยวพันกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมาเป็นชู้กันเหมือนคู่นี้ทุกคน อาจจะมาเป็นพ่อเป็นแม่เป็นพี่น้องญาติมิตรกัน คู่นี้หากเขารู้จักยับยั้งชั่งใจไม่ปล่อยให้อำนาจกิเลสเข้าครอบงำก็อาจจะมาพบกันเป็นคนรู้จักเป็นญาติมิตรกันธรรมดาๆเท่านั้น นี่คงจะเป็นกรรมปัจจุบันหรืออาจจะมีกรรมเก่าของเขาตั้งแต่ครั้งไหนก็ไม่รู้มาให้ผล เลยทำให้ไม่รู้จักคิดยับยั้งชั่งใจ กระผมเคยอ่านพบเรื่องทำนองนี้มาเหมือนกันแต่นานแล้ว คือมีสามีภรรยาอยู่คู่หนึ่ง สามีต้องไปทำงานต่างเมืองอยู่เป็นประจำ ระหว่างที่เขาไม่อยู่บ้านผู้ภรรยาก็อยู่บ้านแต่เพียงลำพัง มีอยู่คราวหนึ่งเขาต้องไปทำงานเป็นผู้ตัดสินคดีความยังต่างเมืองและได้ไปพักค้างแรมที่วัดแห่งหนึ่ง เขาได้ไปฟังธรรมและสนทนาธรรมกับพระที่มีคุณวิเศษรูปหนึ่ง ระหว่างที่สนทนากันอยู่ก็บังเอิญให้คิดถึงภรรยา ก็เลยถามพระท่านว่า ภรรยาของกระผมตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรกระผมเป็นห่วงหลวงพ่อช่วยบอกกระผมทีได้ไหมครับ พระท่านก็ไม่ยอมบอกแต่เขาก็แค่นคะยั้นคะยอจะให้ท่านบอกให้ได้ ที่สุดท่านก็อดไม่ได้แต่ก็บอกกับคนผู้เป็นสามีว่าเมื่อรู้เห็นแล้วก็ต้องไม่โกรธและจะต้องไม่พูดหรือว่ากล่าวทำอะไรกับภรรยาทั้งนั้นเพราะมันเป็นกรรมเก่า ผู้เป็นสามีก็รับปาก ปรากฎว่าท่านทำให้ผู้ที่เป็นสามีเห็นว่าภรรยาของเขากำลังทำชู้อยู่กับชายอื่น เขาทั้งแค้นใจและเสียใจก็ถามพระท่านว่าทำไมภรรยาของกระผมจึงทำอย่างนี้กับกระผมได้ กระผมดีกับภรรยาทุกอย่างไม่เคยทำให้ลำบากเดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลย พระท่านก็ว่าเพราะมันเป็นกรรมเก่านะโยม แล้วพระท่านก็ทำให้ผู้ที่เป็นสามีเห็นภาพของภรรยาตัวเองในชาติก่อนนอนตายเปลือยเปล่าอยู่ ผู้ที่เป็นชายชู้ในชาตินี้ได้เดินมาเห็นและเกิดอุจาดตาเลยเอาใบไม้หรือหมวกก็ไม่รู้กระผม(คนเล่า )จำไม่ได้ ปิดอวัยวะเพศศพเอาไว้แล้วก็เดินไป เมื่อชายชู้ในชาตินี้เดินไปแล้วผู้ที่เป็นสามีในชาตินี้ก็เดินมาพบแต่เขาได้ฝังศพนั้น เหตุนี่เองเมื่อทั้งสามคนได้เกิดมาพบกันในชาตินี้ ชายผู้ที่เป็นคนฝังศพก็ได้กลายมาเป็นสามีของหญิงนั้นและชายคนที่เอาใบไม้ปิดอวัยวะเพศนั้นก็คือชายชู้ในชาตินี้ เมื่อเขาได้รู้เรื่องดังนี้แล้วก็ได้แต่ทำใจเพราะเขารับปากกับพระท่านไว้แล้วและก็พยายามคิดว่ามันเป็นกรรมเก่า พอกลับมาบ้านเขาก็ไม่พูดไม่โกรธและไม่ได้แสดงทีท่าอะไรให้ภรรยารู้ทั้งนั้น ทำตัวเป็นปกติทุกอย่างเหมือนไม่รู้เรื่องและไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเลย แต่ที่ผู้เป็นสามีเปลี่ยนไปคือเมื่อเขาจะต้องตัดสินคดีความครั้งใดเขาก็มักจะพูดจะบอกคู่ความว่ามันเป็นกรรมเก่านะ หากตกลงยกโทษหรืออโหสิกรรมให้กันได้ก็ทำซะเพราะมันเป็นกรรมเก่าทั้งนั้น จนกระทั่งภรรยาของเขาไม่พอใจและต่อว่าผู้เป็นสามีว่าจะตัดสินอะไรคดีไหนก็บอกว่าเป็นกรรมเก่าๆทั้งนั้น มันเป็นเพราะอะไรถึงได้ตัดสินออกไปอย่างนั้นกลัวชาวบ้านเขาจะว่าเอา แรกๆเขาก็ไม่พูดพอนานไปทนภรรยาว่าไม่ไหวก็เลยบอกกับภรรยาถึงเรื่องที่ได้ไปนอนค้างที่วัดและได้รู้เรื่องว่าภรรยาคบชู้ ที่เขาบอกก็เพราะคิดว่าคงไม่เป็นอะไรเพราะเรื่องมันนานมาแล้วและเขาเองก็ไม่โกรธและได้ยกโทษอโหสิกรรมให้ภรรยาและชายชู้ด้วย แต่ผลปรากฎว่าภรรยาของเขาเกิดความละอายใจจนอยู่ไม่ได้และได้ฆ่าตัวตายไปเลย ผู้เป็นสามีก็ได้แต่เสียใจว่าไม่น่าพูดเลย หากเขาไม่บอกภรรยาก็ยังคงอยู่โดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าที่ภรรยาต้องฆ่าตัวตายก็เพราะกรรมเก่าของเธออีกเหมือนกันนั่นแหละครับ เรื่องนี้กระผมได้อ่านมานานแล้วจำไม่ได้ทั้งหมดแต่มันก็ทำนองนี้แหละครับ ทุกท่านอ่านทั้งหมดแล้วก็ไม่ต้องคิดกันมากนะครับ หากมีใครมาบอกบุญหรือมีกิจธุระจำเป็นไม่สะดวกที่จะไปวัดก็ยังคงโอนหรือยังคงฝากคนอื่นไปทำบุญได้ตามปกติครับไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าจะให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยก็ต้องไปทำด้วยตัวเอง ( ถือเอาแรงอุตสาหศรัทธา ) จะดีที่สุด

 

ผมเข้าใจที่คุณจรัลพูดแต่หลวงพ่อก็บอกว่ามันอันตรายเหมือนกัน คงไม่ใช่แค่ผูกพันกันธรรมดาแน่
ไม่งั้นท่านคงไม่พูดแบบนั้น ไอ้เรื่องเป็นชู้กันหมดทุกคู่คงไม่ใช่หรอก อย่างเรื่องที่คุณเล่ามาตอน
มีชิวิตอยู่ไม่ได้ผูกพันอะไรกันเลย คนหนึ่งช่วยฝังศพ อีกคนเอาใบไม้ปิด ยังเกิดมาเป็นสามี-ภรรยา
กันเลย ผมก็ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีที่จะบอกให้ไม่ต้องทำบุญ แต่ได้อ่านเรื่องนี้แล้วมันน่าสนใจดีก็เลย
เอามาให้อ่าน ไม่ได้มีเจตนาที่จะให้กลัวจนไม่ฝากคนอื่นทำบุญแต่อย่างใด แล้วแต่คนจะเชื่อ
ถ้าเชื่อก็ไม่ใช่ว่าจะฝากไม่ได้ อย่างแม่ชีทศพรเคยพูดเรื่องการค้าขายสัตว์ บ้านขายอาหารนี้จะ
ติดกรรมหนักหรือเปล่า แม่ชีก็บอกว่าไม่ใช่ แต่ต้องแผ่เมตตาให้สัมมาอาชีพ ถ้าฝากเพื่อน
ทำบุญก็อธิษฐานให้จิตที่มันติดค้างอยุ่จงปล่อยออก กรรมทำให้มีความผูกพันกันข้ามภพ
ข้ามชาติจงเป็นอโหสิกรรม เพื่อเป็นการป้องกัน

 

..กรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อน..เรื่องแบบนี้ใครไม่เจอกับตัวเองคงไม่รู้ค่ะ..เพราะการกระทำอะไรบางครั้งก็ขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัยหลายๆอย่างประกอบกัน..โดยส่วนตัวเชื่อว่ามีส่วนค่ะ..ว่าอดีตชาติคงคุ้นเคยผูกพันกันมากๆ...และบุญเกี่ยวเนื่องกัน..แรงบุญคงจะมากพอสมควรที่ให้มาพบกันในชาติปัจจุบัน..อยู่ที่ว่าจะเอาชนะใจตัวเองได้แค่ไหนเเท่านั้นเอง..

 

ท่านพูดไว้หมดแล้วนิครับ


- การฝากของไปทำบุญนั่นแหละ คือ ที่มาของการได้มีโอกาสคุ้นเคยกันผูกพันข้ามภพข้ามชาติมาถึงในปัจจุบัน


- และเมื่อมาพบกันไม่มีจิตหักห้ามใจของตน ขาดศีลธรรมกั้นความถูกต้อง จึงเผลอใจคบกัน

 

นั่นสิคะ การทำบุญน่าจะได้มาซึ่งกรรมดี ปัจจุบันชาติ ดิฉันฝากเงินหรือฝากของไปทำบุญกับคุณแม่บ่อย ๆ เลย ถ้าชาติหน้าต้องไปเป็นกิ๊กกับคุณแม่ล่ะแย่เลย ดิฉันว่าถ้าเราเจตนาดีและจิตบริสุทธิ์น่าจะได้สิ่งดี ๆ ตอบแทน ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกต้องไหมนะคะ แต่กามราคะเป็นกรรมชั่วไม่น่าจะอยู่ในส่วนของกรรมดีนะคะ สงสัยแบบคุณ CharnK ว่าพวกผ้าป่า กฐิน ที่ฝากกันไปทำเยอะ ๆ จะเข้าตำราแบบเจ้าของกระทู้ว่าหรือเปล่า

 

พระท่านอาจจะสอนเฉพาะจุด เฉพาะคนก็ได้ คนที่ท่านสอนอาจจะเป็นคนที่ชอบฝากคนอื่นทำบุญ จนเกิดเรื่อง สำหรับผม ผมมองว่าต้นเหตุ เพราะการไม่หักห้ามใจอยู่ดี
รสใดไม่เหมือนรสรัก หวานนักหวานใดจักเปรียบได้ เมื่อไม่ได้ชมสมใจ ขมใดไม่เทียบเปรียบปาน

 

อนุโมทนาค่ะ เห็นด้วยอย่างยิ่ง^^

 

มันก็เป็นผลจากการผิดศีล.
ถ้าเรารักษาศีลแค่ศีล ๕ ก็ไม่ต้องมานั่งเศร้าภายหลัง.
จริงมั๊ย?

 

ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ค่ะ

 

แต่ที่อ่านพบมันเกิดจากกรรมเก่า มีหลายประเด็น เช่น เคยกระทำผิดศิลข้อ 3 มาในอดีต เคยเป็นแม่สื่อแม่ชักให้คนอื่นทำผิดศิลข้อ 3 มาก่อน มีส่วนรู้เห็นให้คนทำผิดศิลข้อ 3 เคยไปสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะครองรักทุกภพชาติ (อย่าไปสาบานกับใคร จะผูกพันข้ามภพชาติ บางคนแต่งงาน 2-3 ครั้งกว่าจะเจอคู่รักที่เคยสาบานไว้)

 

ที่ท่านกล่าวมาไม่มีผิดหรอกครับ

สิ่งที่ท่านต้องการจะบอกกล่าวน่าจะเป็น

เหตุของการเกิดความผูกพัน ทำให้ชาติต่อๆมาได้มาพบกัน แล้วพอได้มาพบกันก้อเกิดความลุ่มหลง เกิดความอยากได้มาเป็นของตนเอง แล้วสุดท้ายก้อพ่ายแพ้ต่อกิเลสของตัวเอง มาเป็นกิ๊กกัน

เพราะฉะนั้นที่เจ้าของกระทู้ยกมาเรื่องการฝากทำบุญ นั่นล่ะคือเหตุที่ทำให้เกิดความผูกพัน (ซึ่งจริงๆแล้วน่าจะมีความผูกพันมาก่อนหน้านี้อีกนะครับ) จนกลายมาเป็นกิ๊กในที่สุด


ป.ล. ต้องใช้ปัญญาพิจารณาตามอีกทีแล้วจะเห็นว่า ต้นเหตุจริงๆไม่ใช่ความผูกพันหรืออะไรหรอกครับ แต่เป็นกิเลสข้างในตัวเราต่างหาก ข้างบนนั่นแค่เป็นเหตุทำให้ชาติต่อๆมาได้มาเจอกันแค่นั้นล่ะ เราต้องมีสติกำกับไว้ อย่าได้ประมาท ประมาททีกิเลสแทรกแบบที่เห็นนี่ล่ะครับ

 

ธรรมะนี้ ละเอียดลึกซึ้งยิ่งนัก เป็นการยากที่โลกียะชน และเถรใบลานเปล่าจะเข้าใจ
โมทนากับท่านเจ้าของกระทู้ด้วยครับ สาธุ สาธุ