ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

นั่งดูข่าวแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น นั่งน้ำตาซึมเลยค่ะ คุณ ลุง โชคดีที่วันนี้สามีลินออกไปทำงานที่ต่างจังหัวด ตอนนี้ก็ได้แต่ส่งกำลังและภาวนาให้คุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองทุกๆท่านในญี่ปุ่นค่ะ

 

ขอขอบคุณ
ทุกท่านที่ได้postมา........

...............................การพิจารณาพระ...ของคนรุ่นก่อน...............................

หู(ต่อ)..................

.................พระเนื้อชินเงิน.................

......๒.เนื้อชินขาว..หรือ..ชินเงิน...........
สำหรับเนื้อแบบนี้..จะพบเห็นได้มากกว่า..ผิวจะออกขาวเหมือน.ทำด้วยเงิน..ไม่ว่า
เวลาผ่านไปเท่าใด..ก็ไม่หมอง(เพราะไม่ใช่เงิน)ขนาดมีหลากหลาย..ทั้งใหญ่.เล็ก
..หนา..บาง..เนื้อชินเงินแบบนี้..จะไม่มีอะไรมาเคลือบ..แบบๆที่๑..ไล่เอาตามความนิยม
..ของยุคนั้น.(ไม่เรียงลำดับนะครับ)
...............พระมเหศวร..กรุวัดพระศรีฯ.......สุพรรณ
...............พระกำแพงขาว...............กำแพงเพชร
................พระท่ามะปราง........พิษณุโลก
...............พระชินราชใบเสมา.....พิษณุโลก
...............พระยอดขุนพลวัดไก่....ลพบุรี
...............พระซุ้มนครโกษา.....วัดนครโกษา..ลพบุรี
................พระร่วงนั่งหลังลิ่ม..วัดช้างล้อม...สุโขทัย..
................พระเชตุพนนั่ง...................สุโขทัย
...................ฯลฯ..............(มีพระดังๆ..อีกหลายกรุ..ผมไม่ได้เอ่ยไว้..เอาแค่พอ
เป็นตัวอย่าง)....................
.....พระเนื้อนี้..แข็ง..และแกร่งมาก..ถ้าจะมีผุ..หรือ..เสื่อมสภาพก็น้อย..ไม่ได้เป็น
กันทั้งองค์...ผิวจะมีการกร่อนบางก็ไม่มาก.ทนทาน..กว่าแบบที่ ๑ มาก...
..ผิวถ้าส่วนที่ไม่ได้ถูกขัด..ถู..สัมผัส..จนเงา..เมื่อเราส่องด้วยกล้อง..ผิวจะไม่เรียบ
..แบบพระชินตะกั่ว..เป็นแบบนี้ทุกองค์(ถ้าเรียบลื่น..มัน..แม้ในซอกแขน..ก็..เก๊)
..เนื่องจากเนื้อแข็ง..และ..ไม่เปราะ..จึงสามารถ..มาทดสอบ..ปล่อยลงชามกระ
เบื้องได้..โดยไม่เสียหาย(ยกเว้น..เจ้าของจะไม่ยอม)..ผมเคย..ทดสอบมา..หลาย
องค์..ก็ไม่บี้..หรือ..บิ่นแต่อย่างใด............................
.........ก่อนที่จะพูดเรื่องการทดสอบ..ก็คงต้องพูดถึง..เรื่องเนื้อโลหะของชินเงิน
..ทั้ง ๒ แบบ..เพราะจะได้เป็นไอเดีย..ในการทดสอบต่อไป...................
..............................................................................................................
.......เนื้อชินเงิน..นี้..ตัวโลหะ..หลักๆของมัน..ทั้งสองแบบ..ก็คือ.........
....................ดีบุก(TIN หรือ..ชื่อธาตุตามตารางคือ..STANNUM,Sn)............
....เมืองไทย..มีการค้นพบ..กันมาตั้งแต่..โบราณแล้ว..มีมากทางปักษ์ใต้..และ
ทางตะวันตก..ของไทย...ในสมัยโบราณ..มันมาช่วยเปลี่ยน..ยุคโลหะ..ในยุคต้น
..ซึ่ง..มีแต่การใช้...ทองแดง(COPPER)...หลอม..เพื่อทำเป็น..อาวุธ..หรือ..เครื่อง
ใช้..ต่างๆ...แต่เพราะ..ทองแดงมันอ่อน..คนโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์..จึงหา
วิธี..ที่จะผสม..โลหะ..ลงไปในทองแดง..เพื่อทำให้..มันแข็ง..จนมาประสพความ
สำเร็จ..ในการ..เอา..ดีบุก..ลงไปผสม..กับ..ทองแดง..ปรากฎว่ามันผสมกลมกลืน
กันได้ดี...ดีบุก..บริสุทธิ์นั้น..จะเป็นสีขาวมันวาว..เมื่อผสมกับ..ทองแดงในปริมาณ
ไม่มาก..มันก็ทำให้..โลหะผสมนี้.แข็งขึ้นมาได้..สีโลหะ..ก็ไม่แดงแจ๋..เช่นเดิม..สี
อ่อนลง..เมื่อเอามาใช้งาน..เป็นอาวุธ..เครื่องมือ..ทำไร่ไถนา..ภาชนะต่างๆ..ก็ไม่
ชำรุด..อ่อนตัว..และสึกง่ายอย่างทองแดง.......เราเรียกมันว่า......................
........................สัมฤทธิ์..(BRONZE)...............................................
...แล้วทำให้เกิดการแบ่งยุคโลหะออกมาเป็น...."ยุคสัมฤทธิ์(BRONZE AGE)"..
...........อย่างที่ท่านๆ..ได้ทราบกัน...........................................
.......................................ต่อตอนหน้า...............................................
...........................................สวัสดี.......................................................

 

เข้ามาเป็นกำลังใจให้ คุณ ลุง ทุกๆวันค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

หวัดดียามเช้าครับพี่modpong

 

สวัสดีครับคุณอา และ สมาชิกทุกท่านด้วยครับ

 

น้าครับ ใจเย็นๆ เวลาที่เข้าไม่ได้ก็ไม่ได้กันทุกคนละครับน้า

แต่ว่าถ้าน้าไม่เข้าซิ พวกผมก็เหมือนสึนามิถล่มซิครับ น้าจะมาวันเว้นวัน หรือสักอาทิตย์ก็

รอกันได้สำหรับข้อมูลที่น่าติดตามครับ ก็คิดดูว่าตอนน้าหายไปครั้งแรก กลับมาก็มีแฟน

คลับติดตามเหมือนเดิม แถมมากกว่าเดิมด้วย ครั้งที่คอมฯเสียก็ยังรอกันได้ แต่ว่าถ้าน้าไม่

เข้ามาเลยซิครับ คิดถึงหัวอกแฟนๆบ้างครับน้า ติดตามกันเหนียวแน่นขนาดนี้แล้วจะทิ้งกัน

ได้ลงคอได้ไงครับน้า เข้าไม่ได้ก็ชั่งมันพวกผมรอได้ครับ ขอแต่น้าอย่าทิ้งกระทู้ไปแล้วกัน

 

..........................................
...ขอบคุณ..แต่ผมมันเป็น..คนเลือดร้อน..และ..บ้าเลือด..เป็นสันดาน..ที่..ไม่มีทางล้างได้..เมียผม..ยังเรียกผมว่า.."ไอ้หมาบ้า"...
.....หงุดหงิด...จริงๆ....
แต่..คุณธีระ..มาให้กำลังใจผม..ก็ทำให้ความรู้สึกดีขึ้น..หน่อย....

 

;aa39;aa40(^)(^)(^)(^)(^)

Mini Statistics

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr valign="top"> <td width="100%"> <dl class="smallfont list_no_decoration profilefield_list"><dt class="shade">วันที่สมัคร</dt><dd>12-03-2010</dd><dt class="shade">Total Posts</dt><dd>1,199</dd></dl> </td> <td></td></tr></tbody></table>

สมัครเวปพลังจิตครบรอบ1ปีแล้วนะครับคุณลุง ขอให้คุณลุงสุขภาพแข็งแรง และมีเรื่องเล่าดีๆให้ลูก

หลานใด้อ่านกันตลอดไปนะครับ....^ ^

 

ยิ่งอ่านยิ่งได้ประโยชน์มากมายๆจริงๆครับ กับกระทู้คุณภาพอันแน่นจนล้นปรี่แบบนี้ ขอขอบพระคุณ คุณอาเจ้าของกระทู้มากๆๆครับ ขอบพระคุณครับที่ให้ปัญญา ขอบคุณที่ทำให้ตาสว่าง ขอบคุณที่ทำให้กระจ่าง ขอบคุณที่ทำให้รู้สึกตัว ผมว่ากระทู้นี้ เปิดหูเปิดตาคนชอบพระได้เป็นอย่างดีมากๆๆอยู่ที่ว่าจะ เปิดใจยอมรับความจริง กันได้แค่ไหนเท่านั้น


ผมเป็นคนนึงในหลายๆๆๆๆๆๆๆๆท่านที่เข้ามาอ่าน+ติดตามเกือบทุกวัน ยิ่งวันไหนว่างก็จะเข้ามาดูกระทู้นี้บ่อยๆๆ แต่ไม่ค่อยได้โพสครับ ผมว่ากระทู้นี้เป็นสุดยอดประโยชน์จริงๆ+สนุกตื่นเต้นและได้ให้ปัญญามากมายกับคนที่สนใจหรือมีใจรักษ์พระเครื่องรางของขลัง




ขอขอบพระคุณคุณอา <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->modpong<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4472830", true); </SCRIPT> เจ้าของกระทู้จากใจจริงๆครับ

 

".....................................
...ขอบคุณสำหรับ..คำอวยพรครับ..

 

...................................
..ขอบคุณสำหรับคำชมครับ...

......คติอย่างหนึ่ง..ของผม..ก็คือเกิดมาเป็นคนไทย..ครั้งนึง..อย่างน้อย..ก็ควรตอบแทนชาติสักครั้ง...
..นี่ก็เป็นการตอบแทน..แบบหนึ่ง..ของผม..โดยให้คนรุ่นหลัง..รู้จักวัฒนธรรมของคนรุ่นเก่า..แม้จะจำกัด..แค่วง..ของวัฒนธรรมในส่วนเล็กๆ..แต่ก็ยังดี..ไม่เสียชาติเกิดครับ..............

 

ยังติดตามกระทู้ดีๆของพี่อยู่นะครับ;ปรบมือ

 

สวัสดีครับคุณลุง อ่านเรื่องของคุณลุงแล้วทำให้นึกถึง คุณอา รงค์ วงศ์สวรรค์
คงจะเป็นลีลาที่ไม่เหมือนใคร และหาใครเหมือนไม่ นะครับ

 

ขอขอบคุณ
ทุกท่านที่ได้postมา.............

.............................................การพิจารณาพระ..ของคนรุ่นก่อน.......................

หู(ต่อ)............

...........................พระเนื้อชินเงิน........................

....ต่อจากตอนที่แล้ว...ถ้าถามว่าคนโบราณ..ทำไมเลือก..ดีบุก..เอามาผสมกับ..
ทองแดง...คงเพราะ..ดีบุกเป็น..โลหะที่มีจุดหลอมเหลวต่ำกว่าทองแดง..มาก
(ทองแดงประมาณ ๑๐๐๐ องศา...ดีบุกแค่ประมาณ ๒๓๐ องศา)..ดีบุก..จะละลาย
ก่อนทองแดง..แล้วโครงสร้างใหม่ที่จับตัวกันนี้..กลับทำให้..มันแข็งกว่า..ทองแดง
เปล่าๆ..ด้วยซ้ำ..............
...........................................ลำพัง..ตัวดีบุกเองนั้น..นิ่ม..และแวววาว....ในสมัย
อยุธยา..เอง..ก็อาศัยความสวยงาม..ของมัน..มาทำส่วนประกอบอาคาร..คือ...
กระเบิ้องหลังคา...ซึ่งมีในบันทึกเรื่องพระที่นั่งสรรเพชรปราสาท..ที่สวยที่สุด...
(สวยยังไง..ไปดูของจำลอง..ที่เมืองโบราณ บางปูได้)..นั้น..กระเบื้องที่มุงนั้นทำ
จาก..ดีบุก..นอกจากลดความร้อน(เพราะเด้งแสง..ไปได้มากแล้ว)..ยังหลอมทำ
ง่ายด้วย........หลายท่านไม่ทราบว่า..ลวดตะกั่วบัดกรีนั้น...ไม่ได้ทำด้วยตะกั่ว
๑๐๐ เปอร์เซนต์..นะครับ..ปริมาณ ๑ ใน ๓ ของลวดนั้น..คือ..ดีบุก.........
......กระป๋องน้ำผลไม้..ที่มองเห็น..ขาววาววับ..เหมือนโครเมี่ยมที่ด้านนอกนั้น
..เขาก็..เคลือบ..ด้วย..ดีบุก..เช่นกัน.....
.................................................................................................
........ดังนั้น..อย่าแปลกใจครับ...พระชินเงินผิวปรอท...ทีเห็น..ผิวด้านนอก
..แวววาวเหมือน...ปรอท..นั้นก็คือ............................
.......................................................ดีบุก(TIN)..............................
........หลายคน..อาจไม่เชื่อ..แต่หลายคน..ก็มีความรู้อยู่บ้างแล้วว่า.....
....การทำให้ปรอท...แข็ง..นั้น..ไม่ใช่เรื่องหมูๆ..ต้องใช้..ธาตุหลายๆอย่าง
ที่มีอยู่ในพืชบางชนิด..มาช่วย..และทำยาก..เมื่อทำเสร็จ..ปรอทที่เห็นแข็งนั้น
..มันก็จะเป็นเม็ดๆเล็กติดๆกัน...(ไปส่องพระปรอท..ได้เลย..จะเป็นแบบนี้..
ทั้งนั้น..)..ไม่ได้เป็นเนื้อต่อเนื่องไปอย่างที่เคลือบ..บนพระชินเงิน...........
................ผมมีตัวอย่าง..ของทีประดิษฐ์ในยุคนี้มาให้ดู..แล้วจะหายสงสัย
..เพราะ..ถ้ามันไปอยู่ในกรุวัดราชบูรณะ อยุธยา..คุณจะเห็นได้ว่าไม่ต่างกัน
เลย.............(ที่เห็นในภาพนี่..ดีบุกที่เอามาเคลือบนี่..เป็น..ดีบุกบริสุทธฺ์๙๙.๙
เปอร์เซนต์เลย
............................การเคลือบผิว..บนพระนั้น..ก็ง่าย..แค่หลอมด้วยความ
ร้อนต่ำ(ประมาณ ๒๓๐ องศา)..แล้วเทเฉพาะ..ที่เป็นของเหลวออกมา..
ก็จะได้ดีบุกบริสุทธิ์...เพราะ..ไม่ว่า..สังกะสี..พลวง..ทองแดง..เหล็ก..หรือ
โลหะอื่น..ที่ปะปน..กับ..แร่ดีบุกดิบๆ(ซึ่งมีน้อยมาก)..มีจุดหลอมเหลวมากกว่า
ดีบุก ๒-๖ เท่า..ขึ้นไปทั้งนั้น...แค่เอาพระที่ทำเสร็จแล้ว..มาวาง..แล้ว..เอา
ดีบุกเหลวที่ได้..มาใส่ภาชนะ..ที่มีปากเล็กๆ..หรือ..เทใส่ช้อนเล็กๆ..ค่อยๆเท
ราดหุ้มผิว..ไป..ทิ้งไว้ไม่นาน..มันก็แห้งแข็งจับผิวได้แล้ว................(หรือใช้
วิธีคีบองค์พระคว่ำหน้าลง..จุ่มลงในดีบุกเหลว..แล้วยกขึ้น..หงายหน้า..แล้ววางทิ้งไว้
ก็ได้..เช่นกัน..)
............................ต่อตอนหน้าครับ...................................................
..........................................................สวัสดี....................................

 

เยี่ยมครับพี่ ถ้านักการเมืองของไทย คิดตอบแทนบุญคุณของชาติบ้านเมือง เหมือนอย่างพี่ซักครึ่งหนึ่ง ของนักการเมืองที่มีทั่วประเทศไทย ผมว่าบ้านเมืองเราคงจะเจริญกว่าที่เป็นอยู่นี้เยอะ เด็กรุ่นหลังอย่างผม และน้อง ๆ หลาน ๆ ทั้งหลาย รอคอยความรู้ และสิ่งดี ๆ มีคุณค่าของพี่อยู่ครับ ขอเป็นกำลังใจให้พี่ครับ พี่ modpong

 

อยากบอกพี่อีกครั้งครับ

 

สวัสดีค่ะ คุณ ลุง และ เพื่อนๆสมาชิกทุกๆท่าน ถ้าไม่ได้อ่านบทความด้านบนที่ คุณ ลุง เขียนไว้ลินยังนึกว่า เจ้าปลาตัวนี้ทำมาจากเงิน ค่ะ เพราะสีสวยดี
เรื่องแยกประเภทของเนื้อโลหะ สงสัย ลินต้องฝึกอีกนานเลยค่ะ ไม่มีความรู้จริงๆ ลินต้องขอขอบพระคุณคุณ ลุง มากๆนะคะ ที่นำภาพมาให้ชมเปรียบเทียบด้วย รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ