ฤา จะสิ้นลมหายใจเฮืกสุดท้าย กับวิกฤติปี นี้ ....

ในห้อง 'ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และสัตว์' ตั้งกระทู้โดย bigkhuen, 20 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. bigkhuen

    bigkhuen สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +19
    ชีวิตที่ต่อสู้มายาวนาน ล้มลุกคลุกคลาน มีฝันเหมือนกับคนทั้งหลาย ฝันใว้โก้..เยี่ยงผู้อื่นแต่ ไม่ถึง และมันคงไม่โอกาศ ถึงแน่ๆ....ผมทำธุรกิจเล็กภายในครอบครัว มี4 คนแม่ลูก ฐานะปานกลาง..แต่อาศัยความขยันและจริงใจก็พอให้เป็นอาชีพที่พอยู่ได้ แต่ พอ 2-3 ปีผ่านมาธุรกิจที่ทำ เจอวิกฤติอย่างที่สุด..ธุรกิจทรุดหนักขาดทุนแทบหมดตัว ตั้งตัวไม่ติด จนเป็นหนี้สินมากมายติดตามมา.... สิ่งที่ต้องทำต่อมาก็คือขายสินทรัพย์ที่มีอยู่ แม้มันจะขาดทุนมากมาย ก็ต้องยอมทำเพราะไม่อย่างนั้นเราแทบไม่มีข้าวกิน...ค่าผ่อนบ้าน ก็ค้างหลายเดือน...รถที่เหลืออยู่คันเดียวก็ไปเข้าไฟแนนท์...ใครมีธุระพร้อมกันก็ต้องไปรถโดยสาร รถเมล์... แต่หลายคนดูเหมือนว่าไม่เชื่อว่าครอบครัวเราเจอวิกฤติเข้อย่างแรงแล้ว....อย่างที่หลายคนพูดอยากฆ่าตัวตายเพื่อหนี้ปัญหาต่างที่มันรุมเร้า...แต่ก็มาคิดตายได้แล้วคนอยู่หลังอีก 3 ชีวิตจะทำอย่างไร...ค่าโลงศพ ละ ยังไม่มี... ตอนนี้เหลือสมบัติอีก 2-3 อย่างไปใหว้วอนขายคนอื่น เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายประจำวัน ไม่ให้อดตาย..กลัวอายหมามัน....เคยไปขอความช่วยเหลือหลายคนที่ตอนที่เราไม่เจอวิกฤติ ว่าหากมีอะไรให้ช่วยให้บอก แต่พอไปเพื่อจะขอพึ่งบ้างยามตกอับครั้งนี้ กลับว่า ไม่มีคำตอย....แต่การช่วยเหลือจากที่จะขอใครนั้นผมยอมทุกเงื่อนไข...จะแลกด้วยอะไกได้ ที่ผมให้ได้... ดูหลายๆชีวิตที่เขาเคยประสพ และก็แก้ไขได้ ดี เขาทำอย่างไร...เขาคงมีพื้นฐาน หรือญาติ พี่น้องมาช่วยเหลือ แต่ เราไม่ไครเลย.... อีเมล์...chaokhuen@thaimail.com
     
  2. sorayouth

    sorayouth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +158
    ขอเป็นกำลังใจให้
    อย่าเพิ่งท้อถอยครับ
     
  3. devbara

    devbara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,086
    ค่าพลัง:
    +5,400
    เป็นกำลังใจให้ครับ มีอะไรก็ระบายออกมาทางนี้ก็ดี ดีกว่าเก็บกด มันจะทำให้เรายิ่งเครียดมาก ผมก็เป็นคนท้อแท้กับชีวิตเหมือนกัน แต่การนั่งสมาธิ อาจจะทำให้เราได้เห็นสิ่งที่ดีกว่า หรือแสงสว่างนำทางให้ สู้ๆครับอย่าท้อ
     
  4. chantima

    chantima เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    747
    ค่าพลัง:
    +407
    เป็นกำลังใจให้ค่ะ ยังมีคนที่ลำบากมากกว่าคุณอีกมากมายในโลกนี้
    ที่แม้ยังไม่เคยที่จะมีธุรกิจหรือมีบ้านของตนเอง
    สมบัติข้าวของเงินทองในโลกนี้ล้วนแต่เป็นสมบัติของโลก
    สมบัติทางโลกนั้นแม้กระทั่งเงินบาทเดียวเราก็เอาติดตัวไปไม่ได้ยามเมื่อจากโลกนี้
    สู้อริยะทรัพย์ไม่ได้ที่จะติดตัวเราไปตลอดทุกภพทุกชาติ
    ต่อให้ไม่เหลืออะไรก็ขอให้เหลือลมหายใจให้ตัวเอง
    เพราะเมื่อใดที่ยังมีลมหายใจเมื่อนั้นก็ยังมีความหวัง
    ยังมีโอกาสได้มีชีวิตอยู่เพื่อสร้างกุศลผลบุญเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป
     
  5. agga

    agga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2010
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +148
    ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยคนครับ และขอบคุณมากนะครับที่เล่าความรู้สึกให้ฟัง เราทุกคนจะได้เป็นกำลังใจให้ครับ
     
  6. มหานทีสีทันดร

    มหานทีสีทันดร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2007
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +122
    เป็นกำลังใจให้ครับ ยามวิกฤตแบบนี้ธรรมะคงช่วยปลอบประโลมจิตใจได้ ลองให้สมาชิกในครอบครัวสวดพระคาถาเงินล้าน ของหลวงพ่อวัดท่าซุงดูครับ บุญสั่งสมของแต่ละคนในปางก่อนสั่งสมมาต่างกัน เผื่อบุญของสมาชิกในบ้านบางคนจะโดดเด่นขึ้นมา ช่วยผ่อนหนักเป็นเบา
    http://palungjit.org/threads/พระคาถาเงินล้าน-พระราฃพรหมยาน-หลวงพ่อฤาษี-วัดท่าซุง.267915/
     
  7. Aooder

    Aooder เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +450
    ไหนๆก็เข้าตาจนก็ลองลุยกันซักยกหรือหลายๆยกดีไหม สวดคาถาเงินล้าน หรือสวดพาหุง+ อิติปิโส 108 รอบ(อันนี้อธิษฐานจิตถึงหลวงพ่อจรัญให้ท่านช่วยด้วยนะครับ) วันละหลายๆรอบ สวดกันทั้งบ้านก็ยิ่งดีครับ ผมเห็นดีขึ้นทั้งนั้นรวมทั้งตัวผมเองด้วย แต่ต้องศรัทธาจริงๆนะครับ เอาใจช่วยครับ คนจะเจริญในธรรมได้ก็ด้วยประสบทุกข์นี่แหละครับ เมื่อผ่านตรงนี้ไปได้คุณอาจนึกขอบคุณชะตาชีวิตที่เล่นแรงๆกับคุณก็ได้
     
  8. อุ่นจัง

    อุ่นจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +183
    ผมเข้าใจคุณและรู้สึกได้ครับ เพราะพี่ผมก็ประสบชะตาเช่นเดียวกับคุณ สุดท้ายเขาก็ สำเร็จโทษตัวเอง ขอให้คุณเข้มแข็งนะครับ เป็นกำลังใจให้สู้ ถึงแม้จะสู้ไม่ไหว ขอให้มีคนดี ๆ มาช่วยเหลือนะครับ
     
  9. bigkhuen

    bigkhuen สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +19
    ขอบคุณ..ทุกข้อความที่ให้กำลังใจ...

    ขอบคุณทุกท่านจริงๆครับตอนนี้คงไม่มีอะไรจะดีกว่ากำลังที่แบ่งปันให้กัน..ผมอ่านทุกถ้อยคำและหลายรอบ หลังจากที่เราเดินทางฝ่าทะเลทรายที่โหดเหี้ยมมาหลายพันลี้ คอแห้งผากเป็นผุยผง...ลมหานใจที่แผ่วเบาเหมือนเที่ยนที่โดนแรงลมที่จะดับมิดับแหล่....แต่ก็เดินทางมาได้...ความแช่มชื่นเริ่มโปรยปรายมา จากทุกท่านนี่แหละ.... แหงนมองเบื้องบนที่มีแต่ความร้อนแรง แสบร้อนและเจ็บปวด จะหาอะไรได้กับความว่างเปล่าเหล่านี้....ผมจะทำตามที่ท่านแนะนำ แต่ความรู้ทางธรรมะ ค่อนข้างน้อย แต่ก็จะขวนขวาย และทำตาม เผื่อท่านที่อยากแนะนำหรือด่าทอเชิญครับผมน้อมรับก่อนที่เฮือกสุดท้ายลมหายใจจะสิ้น...
     
  10. Mr.Kim

    Mr.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    3,036
    ค่าพลัง:
    +7,028
    ธรรมะสวัสดีครับ

    ในยามนี้ ขอท่านยึดมั่นพระไตรสรณคมณ์เป็นที่พึ่ง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะสูงสุด เป็นยอดอุดมมงคลแห่งชีวิตที่ประเสริฐสุด

    ข้าพขอน้อมอาราธนาบารมีแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย อำนวยอวยพรให้เคราะห์ร้าย ภัยทางโลก และอกุศลกรรมทั้งหลายทั้งปวงที่ส่งผลต่อของคุณ bigkhuen อยู่นั้น ที่เผชิญอยู่หนัก ขอให้เป็นเบาทุเลาลง เมื่อเบาทุเลาลงแล้ว ก็ขอให้มลายหายไปในเร็ววัน

    บุญที่แท้จริง สำเร็จได้ด้วยใจ และยังมีบุญอีกมากมาย ที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินใช้ทองในการสร้างบุญ เมื่อประสบวิกฤตทางการเงิน เราก็ยังบำเพ็ญกุศลผลบุญอื่นๆ ได้ เช่น รักษาศีล สวดมนต์ นั่งสมาธิ เจริญพระสมถกรรมฐาน เจริญพระวิปัสนากรรมฐาน ฯลฯ

    บุญกิริยาวัตถุ 10
    1.ทานมัย บุญที่สำเร็จด้วยการบริจากทาน
    2.สีลมัย บุญที่สำเร็จด้วยการรักษาศีล
    3.ภาวนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการเจริญภาวนา
    4.อปจายนมัย บุญที่สำเร็จด้วยการแสดงตนเป็นคนอ่อนน้อม
    5.ไวยยาวัจจมัย บุญที่สำเร็จด้วยการขวานขวายช่วยในกิจการที่ชอบ
    6.ปัตติทานมัย บุญที่สำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ
    7.ปัตตานุโมทนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ
    8.ธัมมสวนมัย บุญที่สำเร็จด้วยการฟังพระสัทธรรม
    9.ธัมมเทสนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการแสดงพระธรรมเทศนา
    10.ทิฏฐุชุกรรม การกระทำความรู้ความเห็นแห่งตนให้ตรง

    ขอเป็นกำลังใจให้คุณ bigkhuen ฟันฝ่าอุปสรรคขวากหนามเคราะห์กรรมที่ประสบอยู่ไปได้ด้วยดีนะครับ ขอให้ยึดมั่นในคุณธรรมความดี อย่าท้อถอยนะครับ เมื่อเราเพียรทำความดีแล้ว ความดีทั้งหลายเหล่านั้นย่อมรักษาเราให้ก้าวพ้นจากวิกฤตชีวิตได้ครับ


    บุญรักษา คุณพระคุ้มครองนะครับ
    ...............................................................................
     
  11. bigkhuen

    bigkhuen สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +19
    ขอบคุณ ทุกตัวอักษรผมอ่านอย่างช้าๆ..ราวกับอยากจะให้มันซึมซาบเข้าไปในก้นบึ้งของใจ....อยากจะให้มันเป็นเหมือนยาวิเศษที่จะปัดเป่าความเจ็บปวดและแสบร้อนทั้งหลายแหล่ให้มันเหือดหายลงบ้าง ...มันทรมานเหมือนตกนรกทั้งเป็นเหมือนที่ใครๆเขาประมาณใว้...ชีวิตนี้บางที่มันก็แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย... อยากจะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือใคร ก็ละอายใจ และก็คิดไปว่าใครเล่าเขาจะหยิบยื่นให้... พูดไม่ออกขณะที่ความคิดมันเตลิดไปอย่างไร้ทิศทาง..ในที่สุด ก็ลงเอยที่คำนึงถึงความตายเท่านั้น เป็นที่ตั้งก็นับวันถอยหลังกันละยอมรับทุกอย่างที่มันจะเกิดขึ้นเพื่อเป็นการลบล้างกรรมเก่า----
     
  12. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    ผมเองก้อโดนวิกฤติครับท่านแม้อาจไม่หนักหนาแบบท่าน เคยมีแวบๆๆเข้ามาว่าตายดีกว่าจะได้หมดปัญหา แต่ผมไม่เลือกทางนั้น ชีวิตเป้นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในโลกนี้แล้ว
    สิ่งต่างๆๆที่เกิดขึ้นทำให้ผมเข้าใจชีวิตได้ดีขึ้นทีเดีย เมื่อช่วงวิกฤติที่ผ่านมา

    ท่านครับผมบอกกับตัวเองเสมอครับว่า คนเรานั้นในชีวิตเสียอะไรก้อเสียได้
    แต่ต้องรักษา ใจ ไว้ไม่ให้เสีย เพราะใจเป้นประธานของสิ่งทั้งปวง ทรัพย์ภายนอก
    ไม่ตายท่านย่อมหาใหม่ได้ รักษาใจ ไว้ให้เข้มแข็งอย่าย่อท้อ อย่าตกไปในทางที่ชั่ว
    ผมคิดว่าคนเราไม่มีใครดวงดีตลอด หรือโชคร้ายตลอด ดวงเหมือนน้ำนั้นแหละครับ
    มีขึ้นได้ ก้อลงได้ วันนี้ดวงท่านตกลงแล้วยันล่างสุดผมว่าไม่ตกลงไปกว่านี้แน่ เพราะมันแย่ถึงที่สุด
    ต่อไปจะต้องขึ้นอีกแน่แท้ ถ้าท่านเหนื่อยนัก หยุดพักบ้าง ให้เวลากลับมาสู่ธรรมชาติบ้างปล่อยวางเรื่องราวทั้งหมดแล้ว หยุด ๆๆๆ คิด หยุด ทำไปชั่วคราว เมื่อมีกำลังกายใจ แล้วกลับมาสู้ใหม่ปัญหาต่างๆๆมีปัญญาเป้นอาวุธ ย่อมเอาชนะได้ครับผมเชื่อเช่นนั้น

    ในตอนนี้หากท่านคิดว่าท่านโชคร้ายที่สุด ว่างๆๆผ่าน รพ โปรดเดินไปดูผู้ป่วยมีแทบทุกวัย
    บางคนแค่หายใจเข้าก้อยังเป้นปัญหา หายใจออก้อเจ็บปวดไปหมด พวกเขาแค่ขอเพียงมีร่างกายที่ปกติ ก้อเห้นทีที่จะลำบากมากเหมือนกันหรือถึงกับเป้นไหปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ใช่ไหมครับ????
    ท่านลองพิจารณาดู ยิ่งตอนนี้ดูชาวญี่ป่นที่สูญเสียครอบครัวคนที่ตนรักแบบฟ้าผ่า ทรัพย์ทั้งหลายหายไปชั่วพริบตา เขาโชคร้ายกว่าเรามากนัก

    ขอท่านโปรดพิจารณา อย่าท้อแท้นะครับ เพื่อนๆๆในห้องนี้เป้นกำลังใจแด่ท่านเสมอ
    ปัญหามา ปัญญามี ค่อยๆๆแก้ไป หากหลายด้านนัก แก้ไปทีละด้านตามความเร่งด่วนและเงื่อไขแห่งความเสียหากเป้นหลัก นะครับ เหมือนสงครามเก้าทัพนั่นแหละ ไฟร่พลเรามีน้อยเลือกใช้เจราจาบ้าง
    หยุดปัญหาไปก่อน หันไปโจมตีทัพเล็กแทน ๆๆ ทำแบบนี้ สุดท้ายผมเชื่อว่าแก้ได้หมดครับ
    หากมันไม่ไหวจริงๆๆๆ ก้อลองพูดคุยกันดู ขอท่านพ้นทุกข์ไวๆๆๆๆ นะครับ :)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มีนาคม 2011
  13. ข้าวก้นบาตรพระดาบส

    ข้าวก้นบาตรพระดาบส Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +37
    รักษาใจนะครับ ต้องเข้มแข็ง แล้วมันก็จะผ่านไปได้
     
  14. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    แหม อุตส่าห์เขียนแนะนำจั๊ดดี พอกดส่งข้อความกรรมของท่านดันมาปิดทางเสียนี่
    แรงจริงๆ แต่ถ้าจะผ่านไปโดยไม่ช่วยเหลือกันมันก็กระไรอยู่ แต่จะให้เขียนข้อความเดิม
    มันไม่อยากมานั่งรื้อสัญญาความจำแล้ว ก็เลยขอยกบทความที่อยู่ในบล๊อกโมทนามาให้อ่านก็แล้วกันนะคะ มันค่อนข้างยาวอยู่สักหน่อยนะคะ แต่ข้าพเจ้าปฏิบัติมาแล้วมันได้ผลก็เลยจะแนะนำให้ท่านปฏิบัติดูบ้างเผื่อจะดีขึ้น สาธุ ส่งคราวนี้อย่าหลุดอีกนะคะ ขี้เกียจพิมพ์ใหม่ เทวดาช่วยรักษาข้อความของข้าพเจ้าด้วยเถิด

    คือว่าอาจจะยาวไปสักหน่อยนะคะ แต่ก็อาจจะเป็นประโยชน์กับท่านบ้างไม่มากก็น้อย ลองอ่านดูนะคะ จากประสบการณ์ของดิฉันเองล้วน ๆ ค่ะ อาจจะเขียนแนวนี้ไม่เก่ง ภาษาอาจจะไม่ตรงกับจิตเสียทีเดียว แต่ก็สื่อออกมาได้ประมาณนี้แหละค่ะ

    สมาธิตัดกรรมชำระหนี้1

    ความทุกข์ที่เกิดจากการเป็นหนี้นั้นมันแสนสาหัสไม่น้อยไปกว่าความทุกข์ใดในโลก ข้าพเจ้าเคยสงสัยว่าสมาธิตัดกรรมได้อย่างไร ก็ไปหาซื้อหนังสือมาอ่าน กี่เล่ม ๆ ก็บอกอย่างเดียวกันหมดว่า สมาธิช่วยตัดกรรม ณ ปัจจุบัน แต่กรรมเก่าก็ต้องชำระชดใช้คืนเขาไป ข้าพเจ้าก็คิดว่า อ้าว แล้วอย่างนี้จะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อปัจจุบันเราทุกข์เหลือหลาย ไม่มีเงินใช้หนี้แล้วมัวมานั่งสมาธิตัดกรรมปัจจุบัน แล้วกรรมเก่าที่เป็นหนี้เขา ถูกทวง ถูกบีบคั้นจิตใจต่าง ๆ นานาล่ะ ใครจะช่วยได้ คำตอบก็คือ ไม่มีใครช่วยได้นอกจากตนเป็นที่พึ่งของตน

    คือมันคิดอะไรไม่ออกแล้ว ไม่มีใครช่วยเราได้ ตนก็เป็นที่พึ่งของตนไม่ได้แล้วจะไปพึ่งคนอื่นได้อย่างไร ก็เลยตัดสินใจทำสมาธิไปเรื่อย ๆ โดยไม่หวังผลเลยว่าสมาธิจะช่วยอะไรได้ ระหว่างนั้นก็หาหนังสือมาอ่านเพิ่มเติมอยู่เรื่อย ๆ ติดขัดตรงไหนหนังสือที่เป็นคำสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ช่วยได้จริง ๆ จึงได้ผ่านอุปสรรคไปได้เป็นช่วง ๆ บางทีไม่มีตังค์ซื้อหนังสือก็ต้องไปหาอ่านเอาบนเวปไซต์ธรรมะต่าง ๆ แต่มันมีข้อเสียคือต้องจ้องอยู่หน้าจอทำให้เคืองตาบ้าง แสบตาบ้าง

    ทว่าผลที่ได้รับจากการทำสมาธิก็คือ ทำให้จิตใจสงบเยือกเย็น อารมณ์แจ่มใสเบิกบานแม้ว่าจะมีทุกข์มากก็ตาม สามารถแยกจิตกับทุกข์ไว้คนละทาง ทุกข์ก็ส่วนทุกข์ จิตก็ส่วนจิต กำลังของจิตก็ดีขึ้น ทุกข์ก็ลดลงไปเรื่อย ๆ จากทุกข์มากก็กลายเป็นทุกข์น้อยลง ปฏิบัติอยู่อย่างนี้ทุกวันจากเดือนเลื่อนไปเป็นปี จึงได้รู้ว่าสมาธิช่วยตัดกรรมชำระหนี้ได้จริง ไม่ว่าจะเป็นหนี้กรรมหรือหนี้สินปัจจุบัน

    คือระหว่างทำสมาธิเราก็อุทิศบุญกุศลจากการทำสมาธิให้เจ้ากรรมนายเวร เทวดารักษาเรา ญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว หรือแม้แต่พ่อแม่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ พ่อแม่พี่น้องในชาติปัจจุบัน โอปาติกะ สัมภเวสี เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก เทวดาในสวรรค์ทุกชั้นจนถึงพรหมโลก เพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ก็ดี ในจักรวาลก็ดี ในอนันตจักรวาลก็ดี เจ้านายก็ดี ลูกน้องก็ดี บริวารก็ดี โดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวรเราจะต้องอุทิศให้เขาทุกครั้งที่ทำสมาธิ หรือทำบุญอะไรมา หรือจะเบิกบุญอุทิศให้เขาบ่อย ๆ ก็ยิ่งดี (ดูเรื่องการเบิกบุญ)

    เมื่อเราทำสมาธิเป็นประจำกำลังจิตของเราจะเข้มแข็งขึ้น เราจะเริ่มสนทนากับเจ้ากรรมนายเวรได้ หมายถึงเราพูดกับเขาโดยไม่เห็นตัวนั่นแหละ บอกเขาให้มาโมทนาบุญกุศลที่เราได้ปฏิบัติธรรมและอุทิศให้ เขาจะรับหรือไม่รับก็แล้วแต่เขาจะพิจารณา เราอย่าไปหวังอะไรให้มาก ถ้าเขามีดวงจิตที่พอจะมองเห็นแสงสว่างแห่งธรรมเขาก็รับได้ ถ้าดวงจิตของเขามืดบอดเต็มไปด้วยความพยาบาทอาฆาตเคียดแค้น เขาก็อาจจะไม่รับบุญกุศลที่เราอุทิศให้ ก็ไม่เป็นไร เขาไม่รับเราก็ยังใจดีให้อยู่เหมือนเดิม ไม่หวังอะไรอยู่แล้ว ทำเพื่อความสบายใจเท่านั้นเอง อ้อ อย่าลืมบอกเขาด้วยว่า การให้อภัยเป็นอภัยทานถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นบุญกุศลอันสูงสุด

    ถ้าเราทำสมาธิทุกวันจะช่วยตัดกรรมปัจจุบันให้น้อยลง ความอยากได้ อยากเป็นก็ลดลง เมื่อกรรมปัจจุบันลดลงการชำระกรรมเก่าที่ส่งผลอยู่ก็ยิ่งตัดได้เร็วขึ้น หมดกรรมเร็วขึ้น แต่แรงกรรมนั้นห้ามไม่ได้ ทำกรรมไว้แรงก็อาจจะต้องได้รับผลสนองกลับมาแรงไม่ลดหย่อนไปกว่ากัน แต่ให้ภาวนา พุท-โธ ไว้ ทุกข์เมื่อไรให้ภาวนาถี่ขึ้น หมายถึงว่ารัวไปเลยไม่ต้องไปภาวนาตามลมหายใจก็ได้ ไม่สบาย พุท-โธ ก็รักษาได้ ปางตายแค่ไหน พุท-โธ ก็ช่วยบรรเทาได้ ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ถ้าไม่ถึงฆาตจริง ๆ

    พอเราตัดกรรมได้เร็วขึ้น หมดกรรมเร็วขึ้น เพราะเจ้ากรรมนายเวรบางส่วนได้มาโมทนาบุญที่เราอุทิศให้ เขาก็ลาจากไปเป็นชุด ๆ ต้องทำบุญใส่บาตร หรือถวายสังฆทานให้พระ แล้วอุทิศบุญกุศลให้เขาด้วย กำลังบุญตรงนั้นจะช่วยส่งให้เขาไปดี ได้ไปผุดไปเกิดตามผลบุญที่เขาเคยทำไว้ เราเพียงแต่ช่วยชี้ทาง บอกทาง และช่วยออกแรงส่งในเบื้องต้นเท่านั้น

    <?import namespace = g_vml_ urn = "urn:schemas-microsoft-com:vml" implementation = "#default#VML" declareNamespace /><g_vml_:shape style="POSITION: absolute; WIDTH: 538px; HEIGHT: 2129px; TOP: 0px; LEFT: 0px" coordsize = "5370,21300" filled = "f" fillcolor = "black" stroked = "t" strokecolor = "#ff7f7f" strokeweight = ".75pt" path = " m0,45 l0,21265 at0,21210,100,21310,-500,21210,124,21694 e"><g_vml_:stroke opacity = "1" miterlimit = "10" joinstyle = "miter" endcap = "flat"></g_vml_:stroke></g_vml_:shape><g_vml_:shape style="POSITION: absolute; WIDTH: 538px; HEIGHT: 2129px; TOP: 0px; LEFT: 0px" coordsize = "5370,21300" filled = "f" fillcolor = "black" stroked = "t" strokecolor = "#ff7f7f" strokeweight = ".75pt" path = " m5360,0 l50,0 at0,0,100,100,124,-484,-484,124 e"><g_vml_:stroke opacity = "1" miterlimit = "10" joinstyle = "miter" endcap = "flat"></g_vml_:stroke></g_vml_:shape>
    สมาธิตัดกรรมชำระหนี้2



    เจ้ากรรมนายเวรไม่ได้มีแค่คนหรือสองคน แต่มีมากจนนับไม่ถ้วน เพราะเราเกิดมาหลายภพหลายชาติ สร้างกรรมชั่วมายาวนาน ยิ่งเราเข้าสู่สายการปฏิบัติภาวนาเพื่อการหลุดพ้น หลุดพ้นอะไร ก็หลุดพ้นจากกรรมทั้งหลายที่เราเคยสร้างไว้น่ะสิ เขาจะยิ่งแย่งกันมาทวงหนี้กรรม เราก็ทำได้แค่อุทิศบุญกุศลให้เขาไปตามกำลังของเราที่สามารถทำได้ ที่ทำได้ง่ายและสะดวกคือการใส่บาตร ถวายสังฆทาน และทำบุญตามประเพณี ร่วมด้วยกับการทำสมาธิตัดกรรม ณ ปัจจุบัน และเมื่อกรรมในเรื่องใดส่งผล ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บป่วย การถูกนินทา การให้ร้ายป้ายสี การประจาน การกระทบกระทั่งทำให้เดือดร้อน ต้องโทษทัณฑ์ ถูกบีบคั้นจิตใจ สูญเสียสิ่งของหรือญาติมิตรอันเป็นที่รัก จนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัวหรือไร้ญาติขาดมิตร หรือตามแต่จะเกิด ก็ให้กำหนดรู้ว่ากรรมเก่ามาส่งผล เราก็ทำได้เพียงแค่รับรู้แล้ววางลงไป อย่าไปปรุงแต่งช่วยให้กรรมมันแรงขึ้นอีก อันนี้เป็นเรื่องจริงที่ข้าพเจ้าได้ประสบมา ถ้าเราไม่ช่วยปรุงแต่งกรรมเดี๋ยวเขาก็ซาไปเอง เพียงกำหนดรู้ว่า “มันเกิดขึ้นได้มันก็ต้องดับได้” ตามที่พระพุทธองค์ได้ตรัสสอนไว้

    สมาธิตัดกรรมก็มีอาการอย่างที่บอกมา คือตัดที่กรรมปัจจุบัน ไม่สร้างกรรมใหม่ซ้อนทับกรรมเก่า แต่กลับเป็นการสร้างบารมีให้เพิ่มขึ้น ยิ่งบารมีเพิ่มขึ้นมากเท่าไร กรรมเล็กกรรมน้อยอาจจะตามไปส่งผลไม่ได้ เพราะระนาบคลื่นความถี่ของกรรมเป็นของหยาบ แต่ระนาบคลื่นความถี่ของบุญบารมีเป็นของละเอียด ของหยาบนั้นเป็นของหนักน้ำหนักมากก็ตกอยู่ข้างล่าง ของละเอียดเป็นของเบาก็จะลอยขึ้นข้างบน อันนี้เป็นการเปรียบเทียบตามความเข้าใจของข้าพเจ้าที่ได้ปฏิบัติมา หากไม่ตรงกับตำราเล่มใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย

    เมื่อบุญบารมีเพิ่มสูงขึ้น กรรมที่จะเข้ามาส่งผลก็ยิ่งหนักขึ้นตามกำลัง จะว่าไปกรรมที่มาส่งผลขัดขวางในการปฏิบัติ ก็เปรียบเหมือนมารมาท้าประลองกำลังจิตกำลังใจว่ามันจะแน่สักแค่ไหน ถ้าไม่เอาจริงก็เลิกปฏิบัติไปเลยดีกว่า กลับไปก้มหน้าชดใช้กรรมต่อไปเถอะ ทุกข์ต่อไปเถอะ ถ้าจะเปรียบไปก็ดั่งคำกล่าวที่ว่า “มารไม่มีบารมีไม่เกิด” นั่นแหละ กรรมที่เข้ามาส่งผลในช่วงหนึ่ง ๆ เหมือนแบบทดสอบให้เราวัดสติปัญญาและกำลังใจของตนเองว่าจะมีความอดทนและรู้ทันมารหรือไม่ ถ้ารู้ไม่ทันพลาดท่าเสียทีมารก็จะเลิกปฏิบัติ แต่ถ้ารู้ทันและใช้สติปัญญาพิจารณา กำหนดรู้ว่าขึ้นชื่อว่ากรรมต้องมีการใช้ แต่ไม่ว่ากรรมดีหรือกรรมชั่วย่อมไม่เหนือไปกว่าสัจธรรม คือ คำสั่งสอนที่เป็นความจริงและถูกต้องตามหลักพุทธศาสนา หนึ่งในคำสอนนั้นก็คือ กฎของไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่มีตัวตน

    ถ้าใช้ปัญญาพิจารณาให้ละเอียดจะเห็นว่า ไม่ว่าทุกข์หรือสุข กรรมดีหรือกรรมชั่ว อยากหรือไม่อยาก ชอบหรือไม่ชอบ โกรธหรือไม่โกรธ ล้วนแต่ตั้งอยู่บนกฎไตรลักษณ์ คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่มีตัวตน มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธองค์ที่ว่า “สิ่งใดสิ่งหนึ่งทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้น สิ่งใดสิ่งหนึ่งทั้งหมดทั้งมวลย่อมดับไปเป็นธรรมดา” ใช่แล้ว กรรมมันก็เป็นแค่ธรรมดาของโลกเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรจีรังยั่งยื่น สุดท้ายกรรมที่ผจญมาไม่มีตัวไม่มีตนอะไรเลย มีแต่อารมณ์ ความคิด และการปรุงแต่งเท่านั้นเอง สิ่งที่ทำให้เกิดกรรมก็คือความยึดติดทั้งหลายทั้งปวง ความยึดติดทำให้เกิดภพชาติหมุนเวียนต้องกลับมาชดใช้ทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว ถ้ากรรมดีส่งผลอยู่ก็ทุกข์น้อย ถ้ากรรมชั่วส่งผลหนักก็ทุกข์มาก ทุกข์จมขี้หูขี้ตาเลยแหละ
    แล้วทำอย่างไรจึงจะไม่ทุกข์ ก็ต้องสร้างสติตามให้ทันกำหนดรู้อยู่ในปัจจุบันเท่านั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามนั้น ไม่ต้องไปกลัว ไม่ต้องไปฝืน คอยเฝ้าดูมัน(กรรม)ว่ามันจะแสดงไปได้สักแค่ไหน เดี๋ยวมันหมดแรงมันก็หยุดไปเองนั่นแหละ ของอย่างนี้มันขึ้นอยู่ที่กำลังใจ ถ้าใจคอหนักแน่นมั่นคงก็ทำได้ แต่ถ้าใจคออ่อนไหวก็ตกเป็นทาสของกรรมต่อไป กำลังใจนี้ก็ได้มาจากการหมั่นเจริญภาวนาสมาธินั่นเอง

    สมาธิตัดกรรมชำระหนี้3จบ

    ถ้าไม่หมั่นทำสมาธิให้สม่ำเสมอก็ยากที่จะมีอาวุธไปสู้กับกรรม อาวุธที่ว่านั้นก็คือ สติ(การระลึกรู้ตามทัน) และปัญญา(ความฉลาดรอบรู้มีไหวพริบพลิกแพลงในการแก้ปัญหา) ยิ่งทำสมาธิมากก็ยิ่งตัดกิเลสได้มาก เมื่อตัดกิเลสได้มากสติปัญญาก็แจ่มใส่ คิดอ่านอะไรก็เข้าใจง่าย เห็นของยากเป็นของง่ายไปหมด จะทำอะไรก็ง่ายไปหมด แม้แต่การชำระหนี้ เมื่อเราทำสมาธิตัดกรรมปัจจุบัน กรรมเก่าเราก็ค่อยชดใช้ไปอย่างมีน้ำใจเอื้อเฟื้อ มีเมตตา(รัก) กรุณา(สงสารเห็นอกเห็นใจผู้อื่น จะใช้กับเจ้ากรรมนายเวรก็ได้ เพราะเราอาจจะเคยไปทำให้เขาได้รับทุกขเวทนาอย่างที่เราได้รับอยู่ในปัจจุบัน) มุทิตา(ยินดีกับผู้อื่นที่ทำความดีโดยไม่อิจฉาริษยา) และอุเบกขา(เฝ้าระวังอย่าทำหรือคิดในทางอกุศล)

    ในส่วนเรื่องของหนี้สินปัจจุบัน ผลจากการทำสมาธิก็สามารถช่วยได้เป็นอย่างมาก เมื่อเจ้ากรรมนายเวรเพลาการอาฆาตลง บางเจ้าอาจจะอโหสิกรรมให้เราและเลิกราไปโดยง่าย บางเจ้าอาจจะได้ไปผุดไปเกิดใหม่ตามกุศลผลบุญที่เขาเคยทำไว้ หรือบางเจ้าอาจจะกลับมาเป็นมิตรที่ดีต่อเรา เนื่องจากเขาได้ดีเพราะมีเราช่วยบอกทางให้ไปดี ตอนนี้แหละทางที่เราเคยเห็นว่าตัน ก็เริ่มมีช่องมีรูมีทางให้แสงสว่างลอดเข้ามา สิ่งที่คิดว่ายากก็กลับเป็นง่าย เงินที่อยากได้และคิดว่าหายากก็เริ่มมองเห็นช่องทางที่จะได้เข้ามา จากที่คิดว่ามองไม่เห็นที่พึ่งก็จะเริ่มมีที่พึ่ง คนที่รู้จักและอาจจะไม่รู้จักเริ่มให้ความช่วยเหลือและแนะนำช่องทางที่จะได้เงินมา หรืออาจจะเข้ามาช่วยยกระดับจิตใจของเราไปพร้อมกัน
    ถ้าจะกล่าวไปก็เปรียบได้ว่าเมื่อกรรมชั่วที่ส่งผลเบาบางลง กรรมดีก็เร่งขึ้นมาอุปถัมภ์ค้ำชูได้ทันเวลา ก่อนที่จะแดดิ้นสิ้นใจไปเสียก่อน แต่ถ้าใครมีกรรมหนักชนิดที่เจ้ากรรมนายเวรไม่ยอมปล่อยไม่ยอมวาง จะเอากันให้ถึงตาย แต่เรามีสติรู้ทัน ท่านก็ต้องไปพึ่งผู้มีบารมีให้ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาเสียก่อน แล้วก็เร่งทำสมาธิควบคู่กันไปเพื่อสร้างบารมีของตนเองให้สูงขึ้น ตัดกรรมปัจจุบันให้มากที่สุด และชดใช้กรรมเก่าอย่างผู้มีสติปัญญา ท่านก็จะอยู่กับกรรมได้อย่างสบาย ๆ ไม่ทุกข์มากและพอมีสุขใจบ้าง

    เรื่องการชำระหนี้ก็เป็นอย่างนี้ ถ้าท่านตั้งใจทำสมาธิตัดกรรมจริงเรื่องเงินก็ไม่ต้องห่วงมันจะมาเอง ท่านจะสามารถมีกำลังชำระหนี้ได้โดยไม่ทุกข์มากเหมือนเมื่อก่อน แม้ว่าหนี้จะไม่หมดแต่ก็สามารถอยู่กับมันได้อย่างสบาย ดั่งคำสอนของหลวงพ่อชาที่บอกว่า “งูมันอยู่กับพิษงูแต่งูไม่ตายด้วยพิษงู” และอีกคำกล่าวหนึ่งที่ข้าพเจ้าได้ยินได้ฟังมาจากกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)ว่า “ยอมตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต” อย่าลืมว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ตั้งอยู่บนกฎไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน เราจึงไม่ควรยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้าว่าเป็นของเรา สมบัติภายนอกก็ไม่ใช่ของเรา เรามีแต่สมบัติภายในที่สั่งสมไว้นั่นคือความดีอันเกิดจากการให้ทาน รักษาศีล และภาวนาสมาธิเท่านั้น

    ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นประสบการณ์การทำสมาธิตัดกรรมชำระหนี้ของข้าพเจ้าที่สามารถทำได้จริงในปัจจุบัน ถ้าถามว่าใช้เวลานานไหม ก็ขึ้นอยู่กับบุญบารมีที่ท่านเคยสะสมไว้ในอดีตชาติ ถ้าสะสมไว้มากชาตินี้ทำเสริมเข้าไปอีกก็จะตัดกรรมได้เร็ว ถ้าสะสมมาน้อยก็อาจจะใช้เวลานานหน่อย แต่ได้ผลแน่นอน สำหรับข้าพเจ้าใช้เวลาหนึ่งปีครึ่งจึงทุเลาเบาบาง ก็นานนะเพราะค่อยทำค่อยไปตามกำลังของตน แต่อาศัยทำทุกวัน และทำคนเดียวอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ไปเรียนที่สำนักไหน หรือเข้าวัดเอาความทุกข์ไปเล่าให้พระฟัง เพราะรู้ดีว่าถึงนำความทุกข์ไปเล่าให้พระฟังท่านก็ช่วยอะไรเราไม่ได้ เพราะเป็นกรรมของเราเอง อีกอย่างอาจจะเป็นเพราะช่วงนั้นถูกเจ้ากรรมนายเวรปิดล้อมไว้ไม่ให้เห็นแสงสว่างก็เป็นได้ แต่ข้าพเจ้าก็ไปทำบุญนะแต่มันไม่มีแก่ใจจะไปทำสมาธิรักษาศีลที่วัดเหมือนคนอื่น ไม่รู้เป็นยังไง แต่พอกรรมเบาบางลง เรากลับเดินเข้าออกวัดได้อย่างสบายใจ เออ มันก็แปลกดี

    ข้าพเจ้าอยากจะแนะนำให้คนที่มีความทุกข์ใจเรื่องหนี้สิน ที่บังเอิญได้เข้ามาอ่านบทความนี้ลองทำตามวิธีที่ข้าพเจ้าแนะนำดู จะได้ผลหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจและความอดทนของท่าน สัจจะและขันติต้องมีอยู่ในใจเสมอ ถ้าท่านไม่ละเว้นการปฏิบัติ ไม่เพียงแต่ท่านจะสามารถชำระหนี้กรรมและชำระหนี้สินปัจจุบันให้หมดลงได้ ท่านจะสามารถเข้าถึงซึ่งความหลุดพ้นคือนิพพานได้อย่างแน่นอน เหมือนที่ข้าพเจ้าก็ตั้งใจจะไปให้ถึงที่สุดคือนิพพานเหมือนกัน ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยช่วยดลบันดาลให้ท่านทั้งหลายจงประสบแต่ความสุข ความเจริญ โชคดีมีชัย หมดเวรหมดกรรมและหมดหนี้โดยเร็วพลันเทอญ
     
  15. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    แหม กว่าจะผ่านต้องเชิญเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้ามาโมทนาด้วย บอกเขาไปว่าการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เป็นบุญกุศลอย่างหนึ่ง เป็นบันไดให้ได้ขึ้นสู่สวรรค์ ขอให้พวกเขาจงโมทนาและช่วยกันดันข้อความของข้าพเจ้าขึ้นกระทูให้ได้ ฮ่าๆๆ ในที่สุดก็สำเร็จค่า ขอบคุณเจ้ากรรมนายเวรและเทวดาทุกท่านด้วยนะคะ ขอให้ท่านจงพ้นทุกข์มีความสุขค่า สาธุ สาธุ สาธุ

    อ้อ ลืมบอกไปว่าถ้าจะให้ได้ผลเร็วกินมังสวิรัติด้วยจะดีมากๆค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 เมษายน 2011
  16. bigkhuen

    bigkhuen สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +19
    หยิบหนังธรรมมะมาอ่านทุกครั้งที่มีทุกข์..สวดมนต์เท่าที่จะสวดได้...นั่งสมาธิ เพื่อสกัดความฟุ้งซ่านที่มันคุกคามเตมแก่ ราวกับมันจะระเบิด และชักชวนให้เราจงทำลายตัวเองว่าให้ตายไปเถิดเมื่ออยู่ก็ไม่สามารถทำประโยชน์ให้ใครได้แม้แต่ตัวเอง อนิจจา จนกระทั่ง อ่านทบทวนข้อความที่ทุกท่านได้ให้กำลังใจมาตลอด ค่อยทุเลาลงบ้าง จนรู้ตัวว่า ตายไปมีประโยชน์ให้คนอยู่หลังหรือไม่.....เลยหยุดก่อนความตาย.....ขอบคุณจริงท่าผู้มีพระคุณ....
     
  17. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341
    เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้พ้นวิกฤติได้่ไวๆนะครับ ช่วงนี้สิ่งสำคัญของเราคือกำลังใจครับ หลายคนมีวันล้ม มีวันล้า แต่เค้าเหล่านั้นก็กลับมายืนอยู่ได้เพราะในหัวใจมีความเข้มแข็ง และคิดอยู่เสมอว่าต้องต่อสู้และฝ่าฟันไปให้ถึงจุดหมายให้ได้ เพื่อคนที่อยู่ข้างหลังที่เราต้องดูแล วันนี้เราอ่อนล้า ก็ขอให้หลับตาลงแล้วนึกถึงพระธรรม นึกถึงคำสอนของพุทธเจ้าไว้ครับ จะเป็นหนทางให้เรามีกำลังใจที่เข้มแข็ง ให้เป็นแรงผลักดันไปได้ต่อไป ผมได้อ่านข้อความของท่านแล้วก็รู้สึกสงสารนะครับ อยากให้ผ่านพ้นวิฤติไปได้ไวๆ จึงอยากจะขอมอบพระเครื่องไว้ให้กับท่านได้นำไปติดตัวบูชาไว้ เพื่อเป็นพุทธานุสติ ให้เป็นกำลังใจในการฝ่าฟันชีวิต ในตลาดพระอาจไม่มีราคาค่างวดอะไรมากนัก แต่เป็นพระที่ได้รับการเมตตาปลุกเสกด้วยพุทธาภาพจากพระเกจิชั้นนำของเมืองไทยอย่างแท้จริงถึง 16 ครั้ง โดยด้านหน้าเป็นรูปของพระสีวลีดวงแก้ว ซึ่งเหมาะกับทางลาภผล และด้านหลังเป็นรูปของหลวงปู่กวยซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของผมที่ผมเคารพท่านอย่างสุดหัวใจ ผมให้ท่านไว้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด มีข้อแม้เพียงข้อเดียวว่าขอให้ท่านนำมาบูชาติดตัวและระลึกถึงหลวงปู่กวยท่านเสมอ เพราะผมเชื่อมั่นว่าท่านจะช่วยให้ท่านพ้นวิกฤติได้เหมือนที่ท่านได้เคยช่วยลูกศิษย์หลายๆคนมาแล้ว หากท่านยินดีรับขอให้ pm บอกชื่อที่อยู่ให้ผมมานะครับ ผมจะจัดส่งให้ทางไปรษณีย์
     
  18. annmilk

    annmilk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +805
    ขอให้ผ่านไปได้นะค่ะ เราเองก็เป็น 1 ในคนจำนวนที่หาทางออกไม่ได้แล้ว ไม่ไหวแล้ว
    แต่ก็เดินผ่านจุดนั้นมาได้ เพื่อนที่รู้จักกันก็มีอันให้จากไป เพราะ มองไม่เห็นทางเดินต่อ
    สำหรับเรา เราก็เคยผ่านจุดๆนี้ แต่ก็เป็นเพราะบุญเก่าที่ทำให้เรารอดพ้นมาได้ เข้าใจความรู้สึกนะค่ะ ว่าเป็นอย่างไร เราถึงขนาดไม่มีเงินกินข้าว แต่เราก็ไม่โทษเจ้ากรรมนายเวรนะคะ เราคงทำเค้ามามาก จะรุ็หรือไม่รุก็ดี แม้จะทุกขนาดไหน
    หลับก็หลับไม่ลง เวลาตื่น ก็เหมือนคนบ้า นั่งนิ่งๆ เพราะมองไม่เห็นทาง รู้แค่ให้ผ่านไปแต่ละนาทีก็ดีแล้ว แต่สิ่งที่ทำและฝั่งใจคือ ทำบุญ แม้เงินไม่มีจะทำ ก็ใช้การ
    ไหว้พระ และกรวดน้ำ การขอขมาพ่อแม่ ในเรื่องใดๆก็ตาม ช่วงเวลากว่าจะผ่านพ้นไปแต่ละวัน ใช้เวลาเกือบ 2 ปี จนผ่านพ้นช่วงเวลาที่เลวร้ายมาจนถึงวันนี้ได้
    ชีวิตที่เจอทั้งเป็นหนี้ ถูกคนรักหักหลัง พ่อแม่ก็มีปัญหา ์ เพื่อน ตีตัวออกห่าง
    เน็ตก็ไม่มีให้เล่นได้ระบาย ไม่มีรถไปไหนอยู่ได้แต่้บ้าน เหมือนถูกขัง สู้ๆนะค่ะ
    คุณต้องผ่านมันไปได้ อะไรที่พยายามจนไม่ไหวแล้ว ก็ต้องเผชิญหน้า ความกัวเป็นตัวชุดรั้งทุกๆอย่าง การไม่เหลืออะไร มีเพียงตัวเปล่า ไม่ใช่จุดจบ มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น อาจมีหลายคนด่าทอ ดูถูกหรืออะไรก็ตาม ชีวิตคุณยังมีภรรยา ยังมีลูกนะค่ะ ยังมีคนที่อยู่ข้างคุณ แต่ชีวิตเรา มีแต่น้องหมาตัวเดียว ที่อยู่เคียงข้างเรากับมาบ้านมีเจ้าตัวนี้วิ่งมารับ และก็ร้องไห้กับมันสู้ๆนะค่ะ

    อย่าสนใจคำพูดของคนที่เกรียดเรา แต่จงเชื่อคำพูดของคนที่รักเราจริง

    แล้วคุณจะรู้ว่าชีวิตหลังผ่านเวลานี้ได้ มันมีความสุขขนาดไหน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2011
  19. วิบากจิต

    วิบากจิต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2007
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +90
    ชีวิตคนเรา มีทั้งช่วงน้ำขึ้น และน้ำลง ชีวิตผมก็เจอวิกฤติหนี้สินอยู่ ทำมาหากินอะไรก็ตันไปหมด มีแต่เรื่องเสียเงิน เช่น รถยนต์เสียบ่อย ขายก็ไม่มีใครเอา ไม่มีมรดกจากพ่อแม่ ไม่มีกิจการของตัวเอง ไม่มีบ้านของตัวเอง แต่อย่างน้อย ผมก็เชื่อเรื่องวิบากกรรม

    ทุกวันนี้ก็พยายามสวดคาถาเงินล้าน คาถาพาหุงมหากา ทำบุญ นั่งสมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร

    ขอเป็นกำลังใจให้คุณสู้ชีวิตต่อไปด้วยสตินะครับ
     
  20. bigkhuen

    bigkhuen สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +19
    วิบากกรรม เจ้ากรรมนายเวร...ชำระหนี้กรรม...หลายอย่าง หลายข้อความที่ชี้แนะทางออก การปฎิบัติธรรมที่ถูกวิธี คุณค่ามากล้น..มีโอกาศก็ขอเข้ามานั่งในศาลาห้องนี้...ให้จิตใจสงบ..นอกห้องนั้นมันช่างรุ่มร้อน ด้วยไฟแห่งความทุกข์มากมายเหลือเกิน....ขอเข้ามานั่งตรงนี่รับข้อความเสียงแห่งธรรมที่จะมาดับทุกข์ของคนบาปหนาด้วย....
     

แชร์หน้านี้

Loading...