มาใช้ปัญญาช่วยกันคิดว่าทำอย่างไร..UFo จึง..

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Mr.Boy_jakkrit, 6 สิงหาคม 2010.

  1. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    มาใช้ปัญญาช่วยกันคิดว่าทำอย่างไร..UFo จึง.. ได้ลอยอยู่เหนือพื้นดินได้
    และหยุดอยู่กับที่แบบจึ๊กๆได้ ในขณะที่แร่นมาด้วยความเร็วสูง
    และอะไรทำให้ยานมีความเร็วได้ขนาดนั้น


    1. ทฤษฏีเดิมที่เคยมีการคิดไว้แล้ว (ปฐมภูมิ)
    2. ทฤษฏีใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครคิดมาก่อน (ทุติยภูมิ)
    3. ทฤษฏีนอกกรอบ

    เชิญแสดงความคิดเห็น และไอเดียร์ ได้ครับ
     
  2. emaN resU

    emaN resU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,944
    ค่าพลัง:
    +3,294
    มาใช้ปัญญาช่วยกันคิดว่าทำอย่างไร..UFo จึง.. ได้ลอยอยู่เหนือพื้นดินได้
    ลวดสลิง...

    และหยุดอยู่กับที่แบบจึ๊กๆได้ ในขณะที่แร่นมาด้วยความเร็วสูง
    จานเบรคและผ้าเบรคอย่างดี ที่ใช้กับ Drift car

    และอะไรทำให้ยานมีความเร็วได้ขนาดนั้น
    แก็สโซฮอลล์
     
  3. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676

    ฮ่าฮ่า..ตลกดีครับ

    ที่ตั้งกระทู้ก็เพื่อ อยากให้บุคคลที่มีความชำนาญหรือสนใจกับสิ่งเหล่านี้มาประยุกต์ใช้กันดีกว่าจะมานั่งอ่าน แล้วก็ตัดสินใจในการที่ปลงเชื่อหรือไม่เชื่อ
    หรือแม้แต่บางคนก็เฉยๆ แต่ในความเฉยๆก็ยังมีความสงสัยอยู่ดีนั่นแหละ

    เพราะฉนั้นน่าจะเป็นการดีที่จะสรรหาทฤษฏีใหม่ๆหรือปรัชญาใหม่ๆเพิ่มเติมให้ได้มากกว่าการไปก๊อปปี้เขามาแล้วแปล จากนั้นก็ชวนกันเชื่อๆๆๆๆ ตามๆกัน

    แต่ถ้าเราจะนำมาเพื่อประยุกต์และวิเคราะห์ความเป็นไปได้มันก็น่าจะมีทางออกในเรื่องเหล่านี้

    หรือถ้าใครไม่เชื่อแม้แต่จะอยากรู้ เราก็คิดซะว่ามันเป็นยานบินชนิดไหนบ้างที่บินได้อย่างอิสระขนาดนั้น

    จิตนาการก็เหมือนเราสร้างฝันแบบหลุดโลกนอกกรอบ แล้วค่อยมาพิจารณาว่ามีความน่าจะเป็นมากน้อยเพียงใด ใครจะไปรู้ว่าจะมีคนออกไปนอกโลกได้เหมือนทุกนี้ ก็เพราะว่าวันนั้นมีคนสติเฟื่องคิดแผลงๆนี่แหละนะ..


    เอาล่ะ คุณพรานพิเศษ นั่งอยู่เฉยๆนะอย่าเท้าลงเรือ ผมจะพายไปคนเดียว และอาจจะมีคนอื่นเข้ามาพายช่วยก็เป็นไปได้ :cool:
     
  4. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    1. ทฤษฏีเดิมที่เคยมีการคิดไว้แล้ว (ปฐมภูมิ)
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=nEA8c8ZhTK8&feature=related]YouTube - ‪The UFOCopter second attempt‬‎[/ame]
    2. ทฤษฏีใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครคิดมาก่อน (ทุติยภูมิ)
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=z8qvSNkiB9M&feature=fvw]YouTube - ‪SEG voltage controlled demonstration‬‎[/ame]
    3. ทฤษฏีนอกกรอบ
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=yUwNDl3F0Js]YouTube - ‪พลังจิต หมุนกระดาษ‬‎[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=z8qvSNkiB9M&feature=fvw"][/ame]
     
  5. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    โปรดพิจารณาข้อความข้างล่าง 40+

    ปัญญามีไม่มากพอจะสร้างได้แต่เคยลองขับมาแล้ว
    ลักษณะภายใน
    ไม่รู้ยานบินเป็นแบบเดียวกันรึเปล่าแต่ที่เคยขับภายในห้องคนขับนั้น
    จะอยู่ส่วนกลาง มีฝาครอบแก้วครึ่งวงกลมครอบสองชั้น ครอบอะไรบางอย่าง
    ลักษณะคล้ายก้อนอะไรกลมๆ ชั้นในสุด ชั้นที่สองเป็นช่องว่าง ส่วนแท่นนี้ต่อ
    ท่อลงข้างล่างตัวยาน ภายในห้องคนขับไม่มีหน้าต่างซักบานเดียว มองไปโดย
    รอบเป็นสีเทาอมขาว
    ลักษณะการขับขี่
    ผมบอกว่า ขอลองขับหน่อย เขาเลยถอยมายืนข้างขวาผม บอกว่าวางมือลง
    ที่ครอบแก้ว พอผมวางมือลงที่ครอบแก้ว ก็เริ่มมีควันรอบๆก้อนนั้น แล้วก็มีแสงรอบๆ
    ครอบแก้วชั้นที่สอง พอแสงปรากฎก็เหมือนกับตัวยานหายไป กายผมหายไป เหลือเพียง
    ตาที่มองออกมาภายนอก เหมือนเรามองปกติโดยไม่มีกาย เรานึกอยากพุ่งไปก็ไป นึกหยุด
    ก็หยุด เรียกว่าเดินทางโดยจิตแท้ๆ แต่ไม่เหมือนจิตตรงที่เดินทางโดยจิตเราจะมอง
    ทะลุหมด แต่เดินทางโดยจานบิน เรามองไม่ทะลุ ยังเห็นทุกสิ่งเป็นปกติ
    พอผมเล่นได้ซักพัก ก็ถอยออกมา ถามคนข้างขวาผมต่อว่า ข้างล่างเป็นอะไร
    (ชักอยากรู้เรื่องเครื่องยนต์) เขาตอบมาว่า "รู้แต่ทำไม่ได้หรอก ไม่เจริญพอ"

    คาดว่า ใช้พลังงานจากแสงที่ครอบแก้วชั้นสอง ใช้จิตควบคุมยานโดยแสงเป็นสื่อ
    ควบคุมยาน ส่วนก้อนกลาง ก้อนพลังงานกลมๆนั้นคือส่วนที่เราสร้างไม่ได้ เป็นธาตุที่เรา
    ไม่รู้ หรือไม่มีบนโลกก็เป็นได้ (ก้อนกลมๆเหมือนดวงอาทิตย์เล็กๆแต่ไม่ร้อนเลย)
     
  6. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    โหย.. คุณพี่..

    เล่าเรื่องยาน UFO แล้ว.. เล่าเรื่อง มนุษย์ต่างดาวบ้างสิ่..

    ว่า.. พวกเขามาจากไหน มาทำไมบนโลกนี้

    แล้วเขารู้ไหมว่า สรรพสิ่งเกิดมาได้อย่างไร .. แล้วดำรงอยู่เพื่ออะไร

    ทำไมต้องมีทุกๆสิ่ง... ทำไมถึงไม่เป็นความว่างเปล่า ??? ><
     
  7. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    เรื่องพวกนี้ไม่เคยถามเลยครับ
    เพราะเรามีปัญหาพวกนี้อยู่ในสมอง ละวางไม่ได้ ก็เข้าฌาณไม่ได้
    ซึ่งเมื่อเราละวางได้เข้าฌาณได้ พอเข้าไปแล้วก็เฉยๆไม่อยากรู้ซะงั้นไป
    ปัญหาพวกนี้เลยกลายเป็นปลายสุด สองข้างของการเข้าไปรู้ มันเลยกลาย
    เป็นว่า รู้เฉพาะเรื่องที่ควรรู้ เพื่อจะมาตัดบางสิ่งบางอย่างของบุคคลคนนั้นไปครับ

    ประสบการณ์ขับยานนี่มาจากการกำหนดดูยานที่มันลอยมาพอดี เราเห็นเลยรีบนั่งลง
    เข้าสมาธิเลยแว๊ปเข้าไป มันเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะจิตนี่ถ้าไม่มีจุดหมาย มันก็ไปไม่ได้
    เลย และเป็นจุดหมายที่ไม่จริงก็ไปไม่ได้เหมือนกัน มันต้องมีสื่อ

    ตัวเขาที่เห็นตอนนั้น ก็ใส่ชุดสีล้วน เทาๆอมขาวหน้าเหมือนคนเราปกติ แต่ไม่ได้สังเกตุ
    ร่างกายเขามาก ตอนนั้นมันเหมือนเราฟังคนพูดโดยมองครอบแก้วตัวบังคับ แค่ชำเลือง
    ดูแว๊ปนึงเพราะสนใจการบังคับการบินมากกว่า
     
  8. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    เราว่า เค้าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องสุญญากาศด้วยนะ

    เห็นทาง NASA ก็เคยทำ ห้องจำลองที่ไร้แรงดึงดูด เอาไว้ให้พวกนักบินอวกาศฝึกลอยตัวในสถานะที่ไร้แรงดึงดูดอ่ะ

    (จริงๆเรื่อง ลอยตัวเนี่ย.. มนุษย์ก็ทำได้เหมือนกัน --')

    ต่อไปดีก่า...

    เราว่า มันเป็นที่ เทคโนโลยีและโครงสร้างของ มนุษย์ต่างดาว

    1 ล่ะ.. เราว่า เค้าไม่ได้หายใจเอาอ๊อกซิเจน.. เพราะตอนผ่าศพอ่ะ ไม่เห็นมีเลือดสีแดงเลย เลือดมนุษย์ต่างดาวเป็นสีอื่นอ่ะ..

    ไม่ได้หายใจแน่นอน! ><

    เค้าไม่สวมเสื้อผ้า.. ผิวหนังสีเทา.. ผิวหนังคนเรา มันต้องอมเลือด แต่นี่ สีเทา.. ไม่เหมือนหนังเลย.. เหมือนกึ่งๆ วัตถุอ่ะ..

    และการเดินทาง.. ที่เท่ากับแสง และ เร็วกว่าแสง คือ Key ของ technology มนุษย์ต่างดาวนะ เราว่า...

    ถ้าเราเดินทางไปด้วยความเร็วแสง ออกไปนอกอวกาศ... ตัวเรากับยานที่กำลังเดินทางอ่ะ.. เวลาจะไม่เดิน.. ก็คือ.. หยุดนิ่ง.. ทุกอย่างหยุดนิ่ง ไม่แก่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่มีการเคลื่อนไหว..

    เราตั้ง destination ไว้ว่าจะให้ยานไปที่ไหน.. อาจจะสั่งการด้วยจิตหรืออะไรก็ช่าง.. พอไปโผล่ที่เป้าหมายปลายทาง เวลาก็ไม่ได้ทำให้ยานพัง และไม่ได้ทำให้มนุษย์ต่างดาวแก่ลงแต่อย่างใด

    ถ้าจะย้อนเวลา ก็เดินทางให้เร็วกว่าแสง

    ถ้าไม่อยากย้อนเวลา ก็เดินทางเท่าความเร็วแสง..

    แล้วเราคิดว่า.. ไอ้จาน UFO อ่ะ.. เผลอๆ ไม่ได้ใช้พลังงาน ไม่ได้ใช้เชื้อเพลิง...

    ยานมีไว้แค่... ปกป้อง จาก ฝน ลม เป็นเหมือนที่พักพิงเฉยๆ.. เป็นที่เก็บเสบียง(เผลอๆมนุษย์ต่างดาวก็ไม่ได้กิน นานๆหลายปีค่อยกินที)

    การขับเคลื่อนยาน.. เราว่า technology หลักๆเลยคือ.. "แสง" และ "พลังจิต"

    ลำแสงอ่ะ.. กับ พลังจิต

    ตอนนี้ มนุษย์ยังเอาชนะกฎของแสงไม่ได้เลย ขนาดโครงการของ LHC ของ CERN อ่ะ เร่งอนุภาคให้เร็วยังไง ก็ได้แค่ 99.99% ของความเร็วแสง(ถ้าเร็วเท่าแสง เวลาจะหยุดนิ่ง)

    แต่เราคิดว่า มนุษย์ต่างดาว ใช้งานแสงได้เต็มกำลังแล้ว

    แล้วที่เขาค้นพบความลับของแสง และใช้งานได้เร็วกว่าเรา

    เพราะเขาไม่มีข้อจำกัดเรื่อง อายุ.. เรื่องเวลา

    มนุษย์ต่างดาว อายุต่ำๆก็ 500 ปี(แล้วแต่ species)

    มนุษย์ 1 คน มีเวลาในการทำงานวิจัยเยอะแยะ..

    แถมไม่ต้องมาคอยเติมข้าวให้กระเพราะ.. เพราะมนุษย์ต่างดาวกินน้อย.. (อาหารอะไรก็ไม่รู้) แต่กินแล้วอยู่ได้นาน

    เรื่องโลหะที่ใช้ทำยาน เราว่า ไม่เกี่ยว

    ใช้โลหะอะไรก็ได้.. ชนิดไหนก็ได้

    เพราะถ้าสามารถ เอาชนะข้อจำกัดของแสงและจิต ได้แล้ว.. จะวัตถุอะไร โลหะชนิดไหน ก็จะหายตัวได้ ย้อนอดีต หรือไปอนาคตก็ได้ เดินทางเร็วแค่ไหนก็ได้

    เนี่ยแหละ เราคิดว่าอย่างงี้แหละ ^^

    แต่เรายังไม่คิดว่า.. มนุษย์ต่างดาวจะเป็น ผู้มีปัญญาสูงสุด

    เพราะยังมีบางพวก ที่จับมนุษย์ไปทดลองและเรียกตัวเองว่า ผู้สร้าง

    ถ้าเป็นมนุษย์ต่างดาวที่มีจิตสูงส่งจริง จะไม่ทำอย่างงี้หรอก

    แต่สาเหตุที่ทำให้เทคโนโลยีก้าวหน้ากว่าเรา.. เพราะข้อจำกัดในการรับรู้ของเขา มีน้อยกว่าเรา

    เช่น.. เราจะมองของที่เล็กมากๆหรือใหญ๋มากๆไม่ได้.. แต่ตามนุษย์ต่างดาวอาจจะมองได้

    อายุพวกเรา เฉลี่ย สูงสุดก็ไม่เกิน 100 ปี .. งานวิจัยของคน 1 คน.. บางที ก็ต้องให้ รุ่นลูกสานต่อ... (เพราะคนค้นพบตายก่อน --')

    เราต้องทานข้าว ต้องนอนหลับพักผ่อน

    แล้วเรายังไม่สามารถแยกจิตออกจากกายได้.. มนุษย์ร้อยละ 80% ก็ยังคิดว่า ร่างกายเนื้อหนังนี้ เป็นของเรา ยังรักตัวกลัวตาย

    และเรายังไม่สามารถเอาชนะกฎของแสงได้...

    ถ้าให้เรานึกว่า >>> การเดินทางที่เร็วกว่าแสง

    ตอนนึกคิด เรานึกคิดได้.. แต่พอจะทำให้การนึกคิดเป็นจริง มนุษย์ยังทำไม่ได้

    แต่มนุษย์ต่างดาวที่เจริญแล้ว ทำได้!

    และยังมีอีกหลายปัจจัย

    คือ แค่จะบอกว่า.. ที่เขาเจริญกว่าเรา ก็ไม่ได้หมายความว่า จิตใจเขาจะสูงกว่าเรา..

    เพราะสาเหตุที่เขาเจริญกว่าเรา เพราะข้อจำกัดในการศึกษาเรียนรู้ของเขา มีน้อยกว่าเรา

    แค่นี้ดีก่า..

    ตอบยาวไป ไม่ค่อยตรงคำถามสักเท่าไหร่

    55555555555+ ^____^ โทษทีจ้ะ:boo:
    ----------------

    >>> เพิ่มเติมอีกหน่อยนะคะ ^^

    อีกอย่างคือ.. มนุษย์ต่างดาว ไม่ต้องหายใจ.. ไม่มีเลือด(เลือดเป็นตัวลำเลียง oxygen ไปให้พลังงานตามส่วนต่างๆของร่างกายค่ะ)

    เราคิดว่า เพราะเขาไม่ได้หายใจนี่แหละ เป็นอีก 1 เหตุผล ที่ทำให้เขา สามารถ บุกเบิก อวกาศ ได้มากวก่ามนุษย์

    มนุษย์เราทุกวันนี้ ส่วนมาก ส่งแต่หุ่นยนต์ไป.. ไม่ค่อยส่งคนไปแระ.. เพราะเสี่ยงเกินไป

    คิดดูว่า ถ้าเราไม่ต้องหายใจ ถ้าเราสามารถเดินทางด้วยแสงได้ และจะไปไหนก็ได้.. เราคงไปเยือนดาวดวงอื่นได้เหมือนกัน

    เหอๆๆ ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2010
  9. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    หวัดดีสหายจิ-โป

    เลิกท่องนรกแล้วหรือ หุหุ

    ถ้าเราไม่รู้จักสถานที่ก่อน ยานจะเดินทางไปถูกไหม

    ถ้าเรานึกถึงอนาคต หรืออดีต จะเป็นอย่างไรหนอ
     
  10. ratercracker

    ratercracker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +729

    มันคือนิวตริโน หรือที่พระอาจารย์รัตน์เรียกว่า แร่ มโนธาตุดำนั่นเอง



    Neutrinos นิวตริโน


    มีที่มาจากสุดขอบฟ้า ในพื้นที่อันกว้างไกล โดย Neutrino จะบินวนเวียนไปทั่ว ถือว่าเป็น อนุภาคสามัญของจักรวาล ที่มีคุณสมบัติ ในความหลายหลาย ต่อการเปลี่ยนรูปลักษณะ (Metamorphose) ในขณะวิ่งผ่านเข้ามาสู่บรรยากาศโลก แต่ ไม่สามารถจะตรวจจับได้ง่ายๆ

    ความมหัศจรรย์ สามารถวิ่งผ่าน มวลสสารที่หนาแน่นมากๆได้ ไม่เพียงแต่กำแพงเหล็กหนาหลายฟุต หรือวิ่งผ่านทะลุโลกได้เท่านั้น ยังสามารถวิ่งผ่านไส้แกนกลาง(Core) ของดาวที่มีความร้อนสูง ได้อย่างไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย

    แม้ขณะนี้ ทุกๆวินาที Neutrinos กำลังวิ่งผ่านตัวของเราเองอย่างมหาศาล บนร่างกายเราถูก Neutrinos วิ่งผ่านไปนั้น มีจำนวนพันอนุภาคต่อพื้นผิว 1 ตร.ซม. และหลังจากวิ่งผ่านตัวเราไปแล้ว ก็จะทะลุลงพื้นโลกไปโผล่อีกด้าน ยังวิ่งต่อไปยังขอบจักรวาลอย่างไม่หยุดยั้ง ​


    การสำรวจตรวจจับ สืบค้น Neutrinos

    อนุภาคหลายชนิด ที่มาพร้อมๆกับ Cosmic rays (รังสีจักรวาล) รวมทั้ง Neutrinos
    มีความสามารถเคลื่อนตัว ด้วยความเร็วในสููญญากาศ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที

    เป็นเรื่องยากที่จะตรวจจับ


    แต่หากอนุภาคเหล่านั้นวิ่งผ่านน้ำ จะทำให้ความเร็วลดลงได้ 70% ด้วยการชะงัก (Shock front) ทันทีพร้อม กับถ่ายพลังงานออกรอบๆ เป็นรูปกรวย จึงเป็นวิธีขั้นพื้นฐานในการดักจับเพื่อถ่ายภาพ หรือวัดหาค่าพลังงาน มีโครงการที่น่าสนใจ




    ความหวังที่อาจพบกับขุมทรัพย์มหาศาล

    แน่นอนว่า Neutrino คงไม่ใ่้ช่อนุภาคธรรมดา เป็นอนุภาคที่มีศักยภาพสูง และมีจำนวนมากกว่าอนุภาคใดๆ ความสำคัญอีกประเด็นอีก เป็นอนุภาคเก่าแก่ที่ยังคงอยู่ หากมนุษย์มีหนทางศึกษาทำความเข้าใจได้ เชื่อว่า Neutrino อาจเป็นเงื่อนไขใหม่ สำหรับแหล่งพลังงาน หรือ การนำพาเทคโนโลยี ข้ามมิติได้อย่างอัศจรรย์ อีก 100 - 200 ปีข้างหน้า

    ที่มา Neutrino - 01


    การค้นหาสัญญาณนิวตริโนจากมนุษย์ต่างดาว
     
  11. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    ข้อมูลดีมากครับ ขอบคุณทุกๆคำตอบครับ

    เรื่องการหนีแรงโน้มถ่วงนี่ มันน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสนามแม่เหล็กที่ว่าด้วยแรงดูดและแรงผลัก เหมือนคนที่โพสข้างบนเรื่องพลังงานฟรี ก็น่าคิดต่อยอดด้วยนะครับ

    ส่วนเรื่องพลังงานใหม่นี่ก็น่าคิด มันน่าจะยังมีพลังอะไรซักอย่างที่อยู่นอกเหนือการคิดและค้นพบที่มีอยู่ ณ.เวลานี้

    จิตนการเบื่องต้นยังไม่ต้องคำนวนหาหลักฐานอ้างอิง หลังจากได้ข้อสรุปแล้วก็ค่อยมาคิดต่อไปเกี่ยวกับความน่าจะเป็นไปได้ ตามขั้นตอนและวิธี
     
  12. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
  13. banpong

    banpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,437
    ค่าพลัง:
    +1,770
    ก็คงจะต้องสร้าง สนามแม่เหล็กที่ ผลักกับสนามแม่เหล็กโลก
     
  14. banpong

    banpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,437
    ค่าพลัง:
    +1,770
    แต่ของเราดีกว่าUFOเยอะ แต่ไม่ใส่ใจเอง ใส่ใจแต่วัตถุ
     
  15. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    ว่าด้วยทฤษฏีหนีแรงโน้มถ่วงก่อนนะครับ แล้วค่อยพิจารณาด้วยแรงพลักที่ต่อเนื่อง

    ไปเจอมาน่าสนใจดีครับ

    **********************************************************

    ที่มา:: http://www.oknation.net/blog/oldman2010/2010/04/12/entry-1
    มิถุนายน ๒๕๕๒<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ข้อสัณนิฐาน ว่าจานบิน บินได้อย่างไร....






    [​IMG]







    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ...เมื่อ ปี ค.ศ. ๑๙๑๑ Heike Kamerlingh Onnes นักฟิสิกส์ ชาว ดัตช์ แห่ง มหาวิทยาลัย Liniden ได้ทดลอง ทำให้ โลหะ ปรอท ลดอุณหภูมิลงเรื่อยๆ จน ใกล้เคียง ๐ องศาเคลวิน หรือ ลบ ๒๗๓ องศาเซลเซียส ด้วยการใช้ ฮีเลี่ยมเหลวเป็นสารทำความเย็น เมื่อ ลด อุณหภูมิได้ ที่ ลบ ๒๖๙ องศาเซลเซียส หรือ ๔ องศาเคลวิน ปรากฏว่า..ความต้านการใหลของ กระแสไฟฟ้า ไม่มีเลย...หลักการของ ตัวนำยวดยิ่ง จึง ถูกค้นพบ ต่อมา นักวิทยาศาสตร์ อื่นๆ ยังค้นพบด้วยว่า... สารตัวนำยวดยิ่งนี้ สามารถ ซึมซับ และ ปลดปล่อยพลังงาน สนามแม่เหล็ก ออกจากตัวมันเอง และ สร้าง แรง ดึงดูด และ แรง ผลัก อย่างมหาศาล กับ สนามแม่เหล็ก ที่อยู่ในบริเวณ ใกล้เคียง หริอ สนามแม่เหล็กโลก....ดังนั้นการนำมาใช้ เพื่อ ต่อต้านแรงดึงดูดของโลก จึง เป็นไปได้...จากนี้ ได้มีการพัฒนาสารตัวนำยวดยิ่ง เพื่อที่ให้สามารถใช้งานได้ ที่ อุณหภูมิ ไม่ต่ำมากนัก...<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ...ตารางข้างล่างนิ้ เป็นชื่อของสารตัวนำยวดยิ่ง และ อุณหภูมิใช้งานสูงสุดเท่าที่จะหาได้ในปัจจุบัน<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <TABLE style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; BORDER-COLLAPSE: collapse; BACKGROUND: rgb(249,249,249); BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" class=MsoNormalTable border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BACKGROUND: rgb(242,242,242); BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 2.4pt" colSpan=3>
    Transition temperatures of well-known superconductors (Boiling point of liquid nitrogen for comparison)<O:p></O:p>

    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: rgb(170,170,170) 1pt solid; BORDER-LEFT: rgb(170,170,170) 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; WIDTH: 15%; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BACKGROUND: rgb(242,242,242); BORDER-TOP: rgb(170,170,170) 1pt solid; BORDER-RIGHT: rgb(170,170,170) 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt" width="15%">
    Transition Temperature
    (in Kelvin)<O:p></O:p>


    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: rgb(170,170,170) 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; WIDTH: 30%; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BACKGROUND: rgb(242,242,242); BORDER-TOP: rgb(170,170,170) 1pt solid; BORDER-RIGHT: rgb(170,170,170) 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt" width="30%">
    Material<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: rgb(170,170,170) 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; WIDTH: 20%; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BACKGROUND: rgb(242,242,242); BORDER-TOP: rgb(170,170,170) 1pt solid; BORDER-RIGHT: rgb(170,170,170) 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt" width="20%">
    Class<O:p></O:p>

    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    138<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    Hg<SUB>12</SUB>Tl<SUB>3</SUB>Ba<SUB>30</SUB>Ca<SUB>30</SUB>Cu<SUB>45</SUB>O<SUB>127</SUB><O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BACKGROUND: rgb(89,249,96); BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt" rowSpan=3>
    Copper-oxide superconductors<O:p></O:p>

    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    110<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt"></TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    92<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt"></TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BACKGROUND: rgb(137,137,249); BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    77<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BACKGROUND: rgb(137,137,249); BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    Boiling point of liquid nitrogen<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BACKGROUND: rgb(137,137,249); BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    <O:p></O:p>

    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    43<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    SmFeAs(O,F)<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BACKGROUND: rgb(249,96,96); BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt" rowSpan=3>
    Iron-based superconductors<O:p></O:p>

    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    41<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    CeFeAs(O,F)<O:p></O:p>

    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    26<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    LaFeAs(O,F)<O:p></O:p>

    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    18<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    Nb<SUB>3</SUB>Sn<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BACKGROUND: gray; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt" rowSpan=3>
    Metallic low-temperature superconductors<O:p></O:p>

    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    10<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    NbTi<O:p></O:p>

    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    4.2<O:p></O:p>

    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: 1pt solid; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 2.4pt; PADDING-LEFT: 2.4pt; PADDING-RIGHT: 2.4pt; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: 1pt solid; PADDING-TOP: 2.4pt">
    Hg (Mercury)<O:p></O:p>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    <O:p></O:p>
    เห็นได้ว่า...สารประกอบประเภท อ๊อกไซด์ ของ ทองแดง มีค่า อุณหภูมิใช้งานสูงสุด เหนือ อุณหภูมิจุดเดือดของ ไนโตรเจนเหลว ที่ ประมาณ ระหว่าง ๙๒ ถึง ๑๓๘ องศาเคลวิน โดยที่ อุณหภูมิจุดเดือด ของไนโตรเจนเหลว มีค่า ประมาณ ๗๗ องศาเคลวิน หมายความว่า...ปัจจุบัน เรามี เทคโนโลยี ที่ผลิตสารตัวนำยวดยิ่ง ซึ่ง สามารถใช้งานได้ ที่อุณหภูมิ สูงสุด เท่ากับ ๗๗ + ๑๓๘ = ๒๑๕ องศาเคลวิน หรือ เท่ากับ – ๕๘ องศา เซลเซียส อุณหภูมิ ติดลบ ที่ไม่ต่ำ จนเกินไปนัก เช่นนี้ ทำให้ เป็นไปได้ว่า...ขณะนี้ อาจจะ มีบางชาติ สร้าง ยู เอฟ โอ ได้แล้ว...ชาติใหน...ใครกันหนอ..ที่เก่งขนาดนี้... ต้อง ขอ ประชาสัมพันธ์ สักเล็กน้อยว่า...ขณะนี้ เรามี เทคโนโลยี ระดับพื้นๆ ที่สามารถ ทำความเย็นได้ถึง ลบ ๗๐ องศาเซลเซียส อยู่แล้ว....งั้น..ที่บินกันให้ว่อนในขณะนี้ ..อาจไม่ใช่ของที่มาจากต่างดาว ๑๐๐%ก็ได้..ใครจะไปรู้...ที่พูดเช่นนี้ ก็ เพราะ มีผู้ประกาศตนหลายๆคน ในเวป แล้ว ว่า สามารถ สร้าง เครื่องยนต์ ยู เอฟ โอ ได้....ที่ใช้เป็นเครื่องยนต์ได้ ก็ เพราะ เขามีวิธี กระตุ้นสารตัวนำยวดยิ่งด้วยกระแสไฟฟ้า ในความถี่สูงๆ เพื่อให้ มัน ปลดปล่อย สนามพลัง แม่เหล็กไฟฟ้า หรือ สนามพลัง อีเลคโตร แม็กเนติค(พลาสม่า) เป็นช่วงๆ ทำให้ เกิด พลังขับดันของ สนามพลัง แม่เหล็กไฟฟ้า ไป ใน ทิศ ทาง ที่กำหนดให้...และ เพื่อให้ มันสามารถทำงานได้ ต่อเนื่อง...จึงมีอุปกรณ์ ทำความเย็น เพื่อรักษาอุณหภูมิ ของ ตัวนำยวดยิ่งให้คงที่... <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>


    ..ไม่แน่นัก...ในอีก ๑๐ปี ข้างหน้า...มนุษย์ อาจคิดค้นสารตัวนำยวดยิ่ง ที่สามารถ ใช้ งานได้ ที่ อุณหภูมิ ต่ำๆเพียง ๐ องศาเซลเซียสได้ ก็ หมายความว่า ความเย็น ของ เครื่องปรับอากาศในบ้านเรือน ก็ สามารถ ขับ เคลื่อนสารตัวนำยวดยิ่ง ได้ แล้ว....อะไร จะเกิดขึ้น...เราจะได้เห็น รถยนต์ ที่ไม่มีลูกล้อ และ จานบิน แบบแปลกๆ วางขายแทน รถยนต์ และ เครื่อง บิน ในปัจจุบัน...ตอนนี้ ยังไม่เห็น ก็ ฝัน ไปพลางๆก่อน ก็ แล้ว กันครับ <O:p></O:p>
     
  16. zodiacs

    zodiacs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +107
    คิดว่าส่วนหนึ่งใช้พลังจิตช่วย เห็นในเว็ปหนึ่งถ่ายรูปในยานได้เห็นเป็นรูปมือมีหก

    นิ้วอยู่ที่แป้นบังคับเครื่อง ในเว็ปนั้นเป็นภาษาอังกฤษบอกว่า ถ้าจะควบคุม

    ยานพวกเค้าจะวางมือที่มีหกนิ้วทาบลงไปที่แป้นรูปมือหกนิ้ว และใช้พลังจิตช่วย

    อันนี้ไม่ต้องเชื่อก็ได้ครับเพราะเอามาจากเว็ปของต่างประเทศ อาจจะจริงหรือไม่

    จริงก็ได้
     
  17. wacaholic

    wacaholic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +214
    1. ทฤษฏีเดิมที่เคยมีการคิดไว้แล้ว (ปฐมภูมิ)

    มนุษย์มักคิดว่ายานขับเคลื่อนด้วยจิตอย่างเดียว

    2. ทฤษฏีใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครคิดมาก่อน (ทุติยภูมิ)

    พวกเราใช้ แสง+ลม+น้ำ+ดิน+นักบิน เพื่อเป็นพลังงานในการขับเคลื่อนและลอยตัวในอากาศ เราใช้ระบบ ดูด+อัด+ระเบิด+คาย+ดูด แต่ทำยังไงดีถ้าหมดละ ? เราจะไม่ไปต่อเพราะจะทำให้ยานของเราหลงทางและเสียสมดุลย์ในทันที ส่วนเรื่องความเร็วและระบบเบรกหน่ะหรอไม่ต้องห่วงเลย พวกเรามี 4 เครื่องทำงานพร้อมกันทุกตัว ท่านว่าเร็วมั้ยละ?ส่วนเรื่องเบรกหน่ะหรอ? ง่ายๆเอง!!! เราแค่เอาสิ่งใดสิ่งหนึ่งออกยาน ก็หยุดเลยทันทีแต่เราจะมีระบบถังพักพลังงานสำรองเก็บไว้ใช้ในยานเท่าที่จำเป็นและทิ้งทั้งหมดเมื่อถึงบ้าน จะได้ไม่เปลืองพลังงาน และสร้างมลพิษทางอากาศให้กับโลกของพวกเรา เราใช้เท่าที่เราจะใช้ เพื่อนๆของพวกเราจะได้มีไว้ใช้หากจำเป็น เราตระหนักรู้เสมอว่าเราเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เราจะไม่มีวันทำลายสิ่งที่ทำให้พวกเราเกิดอย่างแน่นอน

    3. ทฤษฏีนอกโลก

    หนึ่งในจักรวาล คือ พระพุทธเจ้า

    จักรวาล คือ ร่างกายมนุษย์

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2011
  18. Sopasiri

    Sopasiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    449
    ค่าพลัง:
    +912
    1.ขับเคลื่อนโดยพลังชี่ผ่านฝ่ามือ
    2.ขับเคลื่อนผ่านเครื่องแสกนคลื่นสมองที่เชื่อมต่อกับยาน
    3.มนุษย์ต่างดาวใช้กสิณ
    (ทฤษฎีนอกกรอบ ...ขำๆค่ะ)
     
  19. Sopasiri

    Sopasiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    449
    ค่าพลัง:
    +912
    เรื่องพลังชี่นี่เอามาจากไซบอลอะค่ะ น่าจะเป็นไปได้นะคะ เพราะแค่เอามือสองข้างมาลองดูมันยังผลักกันได้เลย แล้วถ้าพลังระดับมนุษย์ต่างดาวล่ะคะ จะขนาดไหน หรือคิดอีกแบบหนึ่งก็ ตัวยานอะค่ะ อาจจะสร้างมาจากวัสดุพิเศษที่หาไม่ได้ในโลกมนุษย์ แล้ววัสดุที่สร้างยานเป็นวัสดุที่หนักหรือมีแรงดึงดูดติดกับดาว แต่เมื่อได้รับพลังคลื่นที่มาจากร่างกายของมนุษย์ต่างดาว วัสดุนั้นอาจจะสามารถเปลี่ยนคุณสมบัติได้กลายเป็นวัสดุที่เบาและลอยได้ขึ้นมาทันที หรืออาจจะเปลี่ยนขั้วแรงดึงดูดระหว่างวัสดุนั้นกับดาว ทำให้ลอยได้ แต่การจะบังคับให้มันเคลื่อนที่ตามใจชอบ คงต้องต้องใช้ความสามารถของมนุษย์ต่างดาวเองอะค่ะ น่าจะเหมือนกับมนุษย์ขับรถ ต้องสตาร์ทให้เครื่องติดก่อนขับรถ ทางนั้นก็คงต้องแตะวัสดุให้มันลอยก่อน แล้วค่อยขับ แต่การขับรถหรือจะขับยานก็ต้องขึ้นอยู่กับสกิลในการขับ มนุษย์บางคนขับรถไม่เป็นก็มี มนตด.ก็คงแล้วแต่ความสามารถด้วยอะค่ะ แล้วอีกอย่าง คิดว่าการที่ มนตด.เขาจะใช้วัสดุอะไรมาสร้างยาน เขาคงต้องเลือกวัสดุนั้นให้เข้ากับการใช้งานด้วยเหมือนกัน มนุษย์ยังต้องเลือกวัสดุมาสร้างรถให้มันเหมาะสมเลย แล้วพวกเขาก็คงจะเลือกใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติลอยได้มาสร้างยาน เราก็ไม่ได้จะรู้ละเอียดอะไรมากมายเกี่ยวกับดาวของพวกเขา ก็ไม่รู้ว่าวัสดุต่างๆของดาวเขามันมีอะไรบ้าง ต่างกับของโลกเราแค่ไหน มีคุณสมบัติแปลกแตกต่างยังไงทำอะไรได้บ้าง..เราว่านักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะของโลกเราก็มีตั้งเยอะ ถ้าจะสร้างยานก็น่าจะได้อยู่ แต่ว่าวัสดุที่ใช้สร้างยูเอฟโอ..บางทีมันหาไม่ได้..ยูเอฟโอมันมาจากต่างดาว วัสดุที่ใช้มันไม่น่าจะเหมือนกับของที่โลกเรามี..ที่คิดแบบนั้นว่าเขาเลือกใช้ เพราะเห็นยูเอฟโอลอยอยู่แต่บนฟ้า ยังไม่เคยเห็น มนตด.เอายูเอฟโอมาใช้งานแบบเรือดำน้ำซักที บางทีมันขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของวัสดุมากกว่าอะค่ะ...เราว่ามนุษย์ต่างดาวเขามีพลังจิตเยอะนะแต่ว่า ที่เขาต้องใช้ยูเอฟโอในการออกนอกดาวตัวเอง เพราะอาจจะต้องใช้ในการผ่านโซนิคบูม เพราะร่างกายอาจจะมาโล่งๆกลางอวกาศไม่ได้ (เดา)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2011
  20. นายเบทร์

    นายเบทร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +91
    1. ทฤษฏีเดิมที่เคยมีการคิดไว้แล้ว (ปฐมภูมิ)
    คิดว่า เจ้านี่ต้องเล่นอ่ะไรกับแรงโน้มถ่วงของโลก หรือสนามไฟฟ้าของโลกแน่เลยมันถึงลอยได้อย่างไว
    2. ทฤษฏีใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครคิดมาก่อน (ทุติยภูมิ)
    ติดว่า เจ้านี่มันต้องเล่นอ่ะไรกับมนุษย์แน่ๆ ที่ต้องให้เราเห็นว่ามันลอยจึกๆ หรือไปไวๆ
    3. ทฤษฏีนอกกรอบ
    คิดว่า เจ้านี่ ตดแรงมาก ตดทีไปไกลเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...