ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

..........................................
...ใจเย็นๆ..ทำแต่ละครั้ง..แล้วมาหยุด..นั่งคิด..จดใส่กระดาษแต่ละหัวข้อ..อันไหน..เป็นอุปสรรคบ้าง..อันไหน..คือ..ข้อผิดพลาด..วิเคราะห์หาทางแก้ไข..แล้วเริ่มใหม่..ค่อยๆแก้..ไป..เดี๋ยวจะดีขึ้น..ไม่ต้องรีบ..ค่อยๆทำไป..ว่างก็ทำ..อารมณ์ไม่ดีมา..อย่าทำ...
...ผมเอาใจช่วย........

 

...เท่าที่..ผมทราบเช่นกัน..มีปลอมมา..ตั้งแต่หลวงปู่ทิม..ยังไม่เสีย..ครับ..เรื่องจริง.........

 

ขอบคุณมากครับคุณลุง ,,,,,
ผมเองก็อยากทราบเรื่องราวต่างๆ ที่ไม่เคยใด้สัมผัสและเรียนรู้ในขณะนั้นเช่นกันครับ
แต่เกรงจะรกกระทู้คุณลุงซะปล่าวๆ รอศึกษาเรื่องเนื้อผงที่คุณลุงกำลังลงดีกว่าครับ ,,,,,

 

..............................
..ไม่เป็นไร..จะบอกให้(คุณ..สายนี้..ก็คงพอรู้มาบ้าง..แต่ยังมีอีกหลายท่าน..ไม่ทราบ)....
..ก่อนหน้า..การเข้ามาของ..คุณชินพร สุขสถิตย์และพวก..ที่มาเป็นลูกศิษย์..ตั้งแต่ปี๒๕๑๖..ก็มีกลุ่มลูกศิษย์..ดั้งเดิม..ที่เป็นทั้งคนระยอง..และเมืองชลอยู่แล้ว..ก็ชุดที่เริ่มทำผงพรายกุมาร..ใส่ในพระขุนแผนในปี ๒๕๑๕..นี่แหละ..ยังมีกลุ่มลูกศิษย์ก้นกุฏิ..เก่าแก่..คนเมืองแกลง..และใกล้วัดอีกชุด...คนเราเมื่อมีกลุ่มของ..ตนเอง..ธรรมชาติมนุษย์..ก็ต้องรักกลุ่มด้วย...นอกเหนือจากหลวงปู่ที่เป็นที่สุด..การเข้าใจกัน..หรือ..การแสดงออก..มันก็เรื่องนึง...แต่ละกลุ่มที่ว่า..ภายหลัง..ก็มีแยกแตก..สาขา..ออกไปอีก...สิ่งที่เกิดต่างๆนาๆ..ตั้งแต่หลวงปู่ทิมยังไม่เสีย..ก็มีสารพัด..หลังหลวงปู่ทิมเสีย..ยิ่งหนัก...แต่มันเป็นเรื่องภายใน..ที่เล็ดลอดมาข้างนอก..พระเครื่องหลวงปู่ทิม..จึงมีอยู่ช่วงนานหลายปีที่เงียบไป..แล้ว..ก็มาเมื่อสักสิบกว่าปี..จึงคืนชีพกลับมาอีก.....จนปัจจุบัน...วงการภายในนะครับ..เขาทราบกันดี..แต่ผู้นิยมพระเครื่องทั่วๆไป..ไม่ทราบ

 

สวัสดีครับพี่modpongและสมาชิกทุกท่าน

 

สวัสดีครับคุณลุง มารออ่านตอนต่อไปครับ

 

สำหรับผม..ขุนแผนผงพรายกุมาร..หรือ..ผงอะไร..หรือ..ไม่ใช่ขุนแผน..แต่เป็นผง..จากวัดละหารไร่...เฉยๆ..ครับ..
สวัสดีคุณอา modpong ผมชอบข้อความข้างบนมากครับ ผมอ่านตั้งหลายครั้ง เพราะคนที่เขียนอย่างนี้ได้ต้องรู้จริง รู้ลึกด้วย ขอบคุณมากครับ

 

........................................
...ขอบคุณครับ..คุณภูวดิท..ที่อ่าน..และ..รู้สึกได้..ในข้อความ

 

สวัสดีคุณอา และสมาชิกทุกท่านด้วยครับ

 

นานๆมา
อ่านกันตาลาย
แต่
ซึ้ง กับ มิตรภาพ คนในกระทู้นี้ ครับ

 

....................................
..ขอบคุณครับ..กระทู้นี้..ที่postกัน..นี่ก็มีแต่..พี่..น้อง..อา..หลาน..ลุง..หลาน..อาจารย์..ลูกศิษย์..กันทั้งนั้น...และอีกอย่าง..ผมก็ขอ..กันอย่างเป็นทางการ..อยู่แล้ว..ว่าห้ามมีการทะเลาะกัน..ต่อว่ากัน..ในกระทู้ผม..พวกที่นิสัยไม่ดี..ต้องไปกระทู้อื่นครับ..ไม่งั้นผม..ปิดกระทู้เลิกเขียนถาวร...เขาก็เลยเห็นใจผู้อวุโสอย่างผม..ปล่อยให้ผมเขียนไปเรื่อยๆ...

 

ขอขอบคุณ
ทุกท่านที่ได้postมา............................

...............................การพิจารณาพระ...ของคนรุ่นเก่า...............................

จมูก(ต่อ)...........
....................................พระเนื้อผงทั่วไป....................................................

........ที่มาคือ..อย่างนี้ครับ....บ้านเดิม..ของพ่อผม..ก็อยู่ใจกลางเมืองปากน้ำ......
..และบ้านนี้..เป็นของปู่ผม..ตั้งแต่หนุ่ม..ตั้งแต่..เมื่อ สามสิบกว่าปีก่อน...บ้านนี้ก็
อายุเกิน ร้อยปี..แล้ว..ก็คงนึกออกว่า..บ้านไทยโบราณ..ขนานแท้เป็นยังไง..ผมก็ไม่
ต้องเล่าใน..รายละเอียด..ต่อมา..ก็มีการขยายต่อออกไป..ตามธรรมเนียมไทยโบราณ
..ส่วนห้องหลัก..ที่อยู่ในตัวบ้านเก่า..ก็มีการเปลี่ยนเป็น"ห้องพระ"..มาตั้งแต่สมัยปู่แล้ว
..เวลาวันสงกรานต์..รวมญาติ..พวกรุ่นเด็กอย่างผม(สี่สิบปี..ก่อน..ไม่ใช่ตอนนี้)..ก็ต้อง
มีหน้าที่ช่วย..รุ่นพ่อ..ขนพระพุทธรูป..เชิงเทียน..กระถางธูป..รวมทั้งอัฎฐิบรรพบุรุษ..ที่
อยู่ในโกษฐ์..และ..ผอบกังไส..ต่างๆ(ซึ่งเยอะมาก)..ออกมาที่ระเบียง..เพราะนิมนต์พระ
มาทำบุญ..บังสกุล..และมีการสรงน้ำอัฏฐิบรรพบุรุษ..ครบเครื่อง..ธรรมเนียมไทย..ใน
วันสงกรานต์..เป็นประจำทุกปี..แต่ด้วยบ้านไทยโบราณ..หลังคาสูงมาก..ไม่มีฝ้า....
(ความจริง..ตะปูก็ไม่มี..ใช้ตอกสลักไม้..)...ถ้าเรามองแหงนหน้าขึ้นไป..จะเห็นแสงที่
ลอดผ่าน..ระหว่าง..กระเบื้องหลังคา..และ.."แป"..กับ.."ปั้นลม"..เข้ามา..ซึ่งส่วนนี้...
นอกจากแสง..ก็เป็นส่วนที่ให้..ลมร้อนที่สะสม..อยู่ด้านบน..ระบายออกไปด้วย..
..แล้วลมเย็นก็ถูก..ดูด..เข้ามาทางหน้าต่าง..และ..ร่องกระดาน..ทำให้อากาศเย็นสบาย
..ถ่ายเท..ได้ตลอด...................
.................แต่ช่องดังกล่าว..ก็เลยเป็น..ช่องทางเข้า-ออก..ของ.."ค้างคาว"..ไปได้
อย่างสบาย..ยิ่ง..ช่วงที่หลังปู่ผมเสีย..ห้องพระ..จะไม่ค่อยมีคนเข้าออก..ใต้หลังคาก็
เลยเป็น..นิวาสถานของ..ค้างคาวจำนวนไม่น้อย...เพราะไม่มีใครไล่....ผลก็คือ..มันก็
เยี่ยว-ขี้กันตาม..สะดวก..ของที่ขนไปจากห้องพระก็ต้อง..เขี่ย..ขี้ที่มันติด..อยู่มั่ง..บน
องค์พระ..หรือ..ผอบ..ก็จะมีคราบ..เยี่ยวของมันติด..อยู่..กลิ่นก็ฉุนเด็ดขาดเลย....
..อันนี้ปีละครั้ง..ก็ถือว่าไม่คุ้นเท่าไหร่....
...............พอผมมาเริ่ม..บ้าพระ..เพราะความที่ห้องพระปู่..นี่เก่าแก่..มีพระพุทธรูปเก่าๆ
เยอะพอควร..(อยุธยา..เชียงแสน..สุโขทัย..รัตนโกสินทร์)..แทบทุกอาทิตย์..ที่ผมไป
บ้านเยี่ยมย่า(ความจริง..พ่อต้องไปเยี่ยมย่าแทบทุกอาทิตย์อยู่แล้ว..ก็ลากเอาลูกไป
ด้วย..)..ผมก็จะขอย่า..เข้าไปดูพระในห้องพระ..เพราะอีกอย่างไปศึกษาพระพุทธรูป
แล้ว..ก็..ไปดูพระเครื่องด้วย..เผื่อติดไม้ติดมือ..มาบ้าง..ก็เลยได้ดมกลิ่น..จนชิน..และ
ก็มีพระบางเครื่อง..จำนวนหนึ่ง..ที่ไม่ได้เก็บใส่..ผอบ..รับชะตากรรม..คือ..เจอทั้งเยี่ยว
ทั้งขี้ค้างคาว..ขนาด..เอามาเก็บไว้ตั้งนาน..กลิ่น..ก็..แทบไม่จางลงเลย..ไอ้เรื่องกลิ่น
อื่น..ก็เลยพิจารณาต่อไม่ไหว..
..........อันนี้แถมเป็นเกร็ด..อย่างนึงนะครับ..ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้..แต่เกี่ยวกับ.."ค้างคาว"
..คือ..สมัยก่อน..เขาก็มีวิธีไล่มัน...แบบสันติครับ..แต่จะไปจุดธูป..มันก็ไม่สนหรอกครับ
..เอาไม้กวาดไปเขี่ย..มันไปแป๊บเดียว..เดี๋ยวก็กลับมาอีก...แต่ที่ไปนานเป็นอาทิตย์ๆ..
กว่าจะกลับมานี่..ต้องใช้นี่ครับ............
........................................กำยาน.................................................................
.....จุดกำยาน..ทิ้งไว้เลย..มันนานด้วยกว่าจะดับ..แถม..ควันกำยานนี่..ค้างคาว..ไม่ชอบ
เอามากๆ..ได้กลิ่นไม่นาน..เผ่นกันเรียบ..ทั้งๆที่เป็นช่วงกลางวัน..........................
(ปัจจุัน..บ้านนี้ไม่มีแล้วครับ..ไฟใหม้เรียบไปเมื่อเกือบ..สามสิบปีก่อน)
...........................................ต่อตอนหน้าครับ..............................................
....................................................................สวัสดี........................................

 

สวัสดีค่ะ คุณ ลุง ลินได้วิธีไล่ค้างคาว ไปบอกกลุ่มแม่บ้านแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

สวัสดีครับพี่ modpong ผมรุ่นหลังพี่ไม่กี่ปี เพิ่งจะเริ่มสะสมพระเครื่องเมื่อปี 2536 แต่ไม่ได้ศึกษาอย่างจริงจัง เพราะไม่ค่อยมีเวลามากนัก (เป็นครูสอนอาชีวะ สอนกันตั้งแต่เช้า จนมืด) ช่วงระหว่างวันที่พอมีเวลาว่าง ก็จะออกไปตระเวนตามบ้านชาวบ้านกับเพื่อน หาเช่าพระกัน ก็เช่าแบบตามใจชอบ คือ ดูพิมพ์ ดูเนื้อ แล้วชอบ สู้ราคาได้ ก็เช่า ไม่มีความรู้ใดๆ ส่วนหนึ่งก็ดูนิตยสารพระเครื่อง วัดไหนสร้างพระ ที่พิมพ์สวย พิธีดี ก็จะสั่งจอง (ส่วนใหญ่จะเป็นพิมพ์พระสมเด็จ กับพระกริ่ง) สะสมมาเรื่อยๆ เว้นไปก็หลายปี เมื่อสองสามปีที่ผ่านมาก็เริ่มเช่าพระอีกทั้งพระกรุ พระเกจิ เจอเก๊บ้าง แท้บ้าง เพราะไม่มีภูมิคุ้มกัน อันเนื่องมาจากไม่ได้ศึกษาให้ดีพอก่อนเช่า

เพิ่งมีโอกาสอ่านกระทู้ของพี่ในช่วงสงกรานต์นี้เอง อ่านมา 5 วันแล้ว ยอมรับว่าเป็นกระทู้ที่ให้ความรู้ในศาสตร์และศิลป์ในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับพระเครื่อง พระบูชา เครื่องรางของขลังได้อย่างลึกซึ้ง ตอนแรกก็ว่าจะอ่านไปเรื่อยๆ วันนี้อ่านถึงหน้า 125 ซึ่งพูดกันถึงเรื่องหลวงพ่อปานมาหลายหน้าแล้ว ได้เคยอ่านประวัติของท่าน แล้วรู้สึกศรัทธาและก็อยากได้พระของท่านมาบูชาบ้าง แต่ราคาก็แพงมาก โดยเฉพาะพิมพ์ทรงครุฑ ที่อยากได้ (คงเหมาะกับข้าราชการอย่างผม) ทำให้มองไปยังพระของหลวงพ่อผาด วัดดงตาล (ทรงสิงห์) ซึ่งว่ากันว่า หลวงพ่อปานให้ผงมาอุดและปลุกเสกให้ด้วย ราคาก็ถูกกว่ามาก ก็ไม่รู้ว่า ตั้งแต่หน้า 125 ไปจนถึงหน้าปัจจุบันมีพูดถึงพระกรุนี้หรือไม่ เลยตัดสินใจเข้ามาถามพี่ก่อนดีกว่า ว่าพระกรุนี้น่าใช้หรือไม่ หลวงพ่อปานปลุกเสกให้จริงหรือไม่ ในทรรศนะของพี่

 

มาแล้วค่ะ คุณ ลุง พระเนื้อดิน ที่ไม่ทราบชื่อ ความหมาย ที่จัดสร้าง เคยได้ยินลุงบางท่านบอกเป็นของ(ล่น )สะสม ของคนที่ชอบงานแบบนี้ แต่..
องค์นี้ เจ้าของนำมาเลี่ยมพลาสติกกันน้ำ แถมมีเจาะรูด้านหลังให้ด้วยค่ะ ในองค์มีการปิดทองแต่มองดูผิวดินก็ไม่ยังเก่าเท่าไรเลยค่ะ รบกวนคุณ ลุง อธิบายให้ฟังด้วยนะคะ
ปล. ลินรู้ว่า คุณ ลุง ไม่ดูเก๊แท้ จึงมาขอความรู้ด้านอื่นๆค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

"""...ขอบคุณ..และยินดีต้อนรับครับ.....
..บอกตรงๆ..ผมไม่ค่อยคุ้น..กับ..พระกรุนี้..เคยได้ยินเหมือนกัน..แต่ไม่ได้สนใจครับ..เพราะประวัติไม่แจ่มชัด..ฐานะผมอวุโสกว่า..ก็ขอเตือนว่า..อะไรก็ตามที่ประวัติไม่แจ่มชัด(ไม่มีการบันทึก..หรือ อ้างอิงอย่างชัดเจน)..และ..ยังไม่ได้ยอมรับกันแบบสากล..ไม่ว่าจะเป็นพระกรุไหน..หรือหลวงพ่อไหน..เล่นไป..ก็จะมีปัญหาภายหลัง..ถึงแม้จะชอบเป็นส่วนตัว..ก็อวดใครไม่ได้(เว้นแต่พวกมีเหมือนกัน..แต่..ไม่กี่คน..วงแคบ)..พอหลังๆไปเริ่มสงสัยเอง..แล้วจะมาเสียใจ..ภายหลัง..อย่างพระสายหลวงพ่อปาน..ก็เอาลูกศิษย์ก็ได้นี่ครับ..ชัวร์ๆ..มีหลายองค์..และเก่งกาจเป็นที่นับถือ...หลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค..หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง..หลวงพ่อมหาวีระ วัดท่าซุง..เก่งๆทั้งนั้น..เรื่อง"ครุฑ"..ผมก็ว่าไม่จำเป็น..หรอกครับ..อยู่ที่ตัวมากกว่า..รุ่นหลังผมไม่กี่ปี..อย่างน้อยก็..ห้าสิบกว่าแล้ว..วิถี..มันเปลี่ยนแปลงได้ไม่มาก..หรอกครับ..สู้ออกแนวเมตตา..แคล้วคลาด..ดีกว่าเยอะ..

 

......................................
..มา..ลบรูปออก..นี่ผมยังโกรธ..อยู่นะ....
...........พระสร้างใหม่แน่นอนครับ..ผมก็ไม่ทราบที่มา..ซะด้วย..เลยไม่รู้ว่า..ปลุกเสก..หรือไม่..ดีทางไหน..

 

ขอบคุณมากครับ แล้วกรุวัดคู้สลอดละครับ พอดีมีพิมพ์หนุมานอยู่หนึ่งองค์

 

.........................................
...พระวัดคู้สลอด..ดีกว่าครับ..ความจริง..เมื่อกว่า ๔๐ ปี..ก่อนมีคนตั้งข้อสงสัย..มาก่อนว่าจริงรึเปล่าที่ปลุกเสกโดย..หลวงพ่อปาน..ก็มีการสืบค้นกันพอสมควร..แต่ตอนหลังก็..เท่าที่สืบค้นพอยอมรับกันได้..ก็เลยยอมรับกันในวงการ..เรื่องมีพุทธคุณ..นะ..มีแน่ครับ..แต่ที่ผมบอกไปคือ..อย่างน้อย..ก็ต้องเป็นinterฯ..คือยอมรับกัน..อย่างนี้ก็ไม่มีปัญหา..ห้อยได้เล่นได้...
พระกรุนี้..ส่วนนึงเพราะเป็นเนื้อผง..ซึ่งก็ถูก..หลวงพ่อปานไม่ได้เป็นผู้สร้างเอง..แต่มีหลักฐานกันว่าหลวงพ่อเดินทาง..ไปปลุกเสกพระที่วัด..ดังนั้น..ก็จึงยอมรับกัน..แต่ก็ต้องถือว่า..พุทธคุณ..ย่อมอ่อนกว่าในบางส่วน..เพราะไม่ได้มีผงของท่านประจุอยู่..ส่วนนี้ถือตามรูปแบบพระของท่าน..ไม่มีหลักฐานว่าท่านเอาผงท่านไปผสมด้วย..เขาก็ต้องถือว่าท่านไปปลุกเสก..อย่างเดียว..ซึ่งอาจจะมี..แต่ไม่นับ.......

 

ปีที่แล้วมีปัญหากับค้างคาวเข้ามาอาศัยใต้หลังคา ไล่ไปสักพักก็มา คราวนี้ถ้ามาอีกละเจอกำยานแน่ ขอบคุณคุณอาครับ อ้อ...สูตรกำจัดกลิ่นอาหารทะเล เมื่อวานได้ใช้แล้วครับ