ด่วน!แผ่นดินไหวภูเก็ต น.4/ลูกกุ้งมังกรนับล้านเกยหาดกะรน ชาวภูเก็ตผวาธรรมชาติเตือนภัย

ธรรมชาติเตือนภัยมากมายแต่มนุษย์เราก็ไม่ค่อยรุ้ แต่พอเกิดเหตุแล้ว ถึงเข้าใจในสิ่งที่ธรรมชาติเตื่อนเรา

 

ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งเถียงกันว่าเป็น ลูกกุ้ง รึ ลูกปู นั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่ว่า มันหนีตายอะไรมา??? เกิดอะไรขึ้น??? ต่างหากล่ะ..... = =" ( อยู่ภูเก็ตเนี๊ย...หนีดีป่ะ?? )

 

น่าจะเตรียมตัวได้แล้วค่ะ ไม่เสียหายระวังไว้ก่อน

 

เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ปลานับล้านตัว ลอยตายในอ่าว แคลิฟอร์เนียร์ หลังจากนั้นก็มี สึนามิถล่มญี่ปุ่น ไม่รู้จะเป็นการเตือนจากธรรมชาติรึเปล่า

 

แสดงธรรมชาติแถวนั้นอุดมสมบูรณ์ เลยเกิดออกมาเพรียบเลย อีกหน่อยก็มีกุ้งปูปลาจับเยอะเลย

 

ท่าทางจะไม่ปกติแล้วล่ะ อยู่ทางใต้ด้วยเหมือนกัน เห็นทีต้องหาที่ปลอดภัยไว้ก่อน น่าจะดี...

 

ลูกกุ้งนับล้านเกยหาดกะรน-หวั่นลางร้าย

<style>p { margin: 0px; }</style> ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลาประมาณ 22.30น. เมื่อคืนวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมามีผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ทำมาหากินบริเวณชายหาดกะรน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต และนักท่องเที่ยวแห่กันไปที่บริเวณชายหาด เนื่องจากมีลูกกุ้งจำนวนมากนับล้านๆตัวถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นทั่วบริเวณชาย หาด ลักษณะของลูกกุ้งที่เกยหาดหากมองเผินๆจะมีลักษณะคล้าย “กุ้งเคย” ที่ชาวประมงนิยมนำมาทำกะปิ

หลังเกิดเหตุประหลาดทางเจ้าหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ทะเล นายประจวบ โมกขรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งที่ 5 จ.ภูเก็ต พร้อทีมงานได้รุดมาตรวจสอบในเบื้องต้น และเปิดเผยว่จากลักษณะของลูกกุ้งที่ถูกคลื่นซัดมาเกยหาดมีลักษณะคล้ายๆลูก กุ้งมังกร ลำตัวเป็นสีแดง ส้ม โดยทางเจ้าหน้าที่ของทางศูนย์ทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งที่ 5 จ.ภูเก็ต เก็บตัวอย่างลูกกุ้งจำนวนมากไปเพื่อทำการพิสูจน์ว่าเป็นลูกกุ้งชนิดใดที่แน่ ชัดต่อไป พร้อมหาสาเหตุที่ทำให้ลูกกุ้งมังกรจำนวนมากขึ้นมาเกยชายหาดต่อไป

จากการตระเวณสอบถามชาวบ้านและชาวประมงในละแวกที่ลูกกุ้งมังกรมาเกยหาด ต่างกล่าวว่าไม่เคยพบเห็นลูกกุ้งชนิดนี้มาก่อนในชีวิต ซึ่งตามปกติจะเคยเห็นลูกกุ้งตัวเล็กที่เรียกว่า กุ้งเคย ที่ใช้ทำกะปิมาขึ้นฝั่งบ่อยๆ สำหรับปรากฎการณ์ครั้งนี้ คงจะมีสาเหตุอะไรบางอย่างในทะเล ชาวบ้านต่างขวัญผวาต่างโจษขานกับปรากฎการณ์ครั้งนี้ว่าอาจเป็นลางร้ายที่ ธรรมชาติเตือนมนุษย์เรา เพราะคิดว่าไม่น่าจะมาจากสาเหตุเรื่องน้ำเสียที่ผู้ประกอบการโรงแรมปล่อยลง ทะเล เพราะโดยรวมน้ำทะเลบริเวณชายหาดกะรนยังคงมีความสะอาด ใส ประชาชนและนักท่องเที่ยวยังคงลงเล่นน้ำตามปกติและไม่มีปัญหาใดๆ ส่วนลูกกุ้งชนิดนี้ที่มาเกยหาดน่าจะเป็นลูกกุ้งที่อยู่ในทะเลลึก แต่ไม่ทราบเกิดจากสาเหตุใดจึงมาเกยตื้นหรือเกยชายหาดกะรนในครั้งนี้

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="295"> <tbody><tr> <td width="21" height="21"></td> <td background="http://palungjit.org/images/line_top.gif">
</td> <td width="21" height="21"></td> </tr> <tr> <td background="http://palungjit.org/images/line_left.gif">
</td> <td width="100%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3" width="100%"><tbody><tr><td align="left" valign="top">

​

</td></tr></tbody></table> </td> <td background="http://palungjit.org/images/line_right.gif">
</td> </tr> <tr> <td width="21" height="21"></td> <td background="http://palungjit.org/images/line_bottom.gif">
</td> <td width="21" height="21"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="295"><tbody><tr> <td width="21" height="21"></td> <td background="http://palungjit.org/images/line_top.gif">
</td> <td width="21" height="21"></td> </tr> <tr> <td background="http://palungjit.org/images/line_left.gif">
</td> <td width="100%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3" width="100%"><tbody><tr><td align="left" valign="top">

​

</td></tr></tbody></table> </td> <td background="http://palungjit.org/images/line_right.gif">
</td> </tr> <tr> <td width="21" height="21"></td> <td background="http://palungjit.org/images/line_bottom.gif">
</td></tr></tbody></table>

ข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์

 

ก่อนหน้าที่จะมีสึนามิที่ภาคใต้ ปลายปี 2547 ก็มีปรากฏการณ์ หอยน้ำลึกมาขึ้นที่ชายหาดภูเก็ตในราวเดือนตุลาคมจำนวนมากมายครับ จากคำบอกเล่าในเว็บ
ลางสังหรณ์ 10 วันของจีน ก่อนแผ่นดินไหว | บล็อกกาซีน ประชาไท | www.blogazine.in.th

" โดย ronin (ผู้เยี่ยมชม) | 4 กรกฎาคม, 2008 - 21:06
ก่อนเกิด

ก่อนเกิด ซึนามิ ที่ภาคใต้ ประมาณ เดือนตุลาคม
รุ่นน้องกลับบ้าน(ปิดเทอม) ไปที่ภูเก็ต
ซึ่งเธอมีบ้านอยู่ชายทะเล ซึ่งเธอเล่าให้ฟัง
ว่ากลับไปบ้านเที่ยวนี้ เจอหอยแปลกๆเยอะเลย
ซึ่งพอเอาไปให้คุณยายของเธอ (ซึ่งอยู่แถบนั้นมานาน)
คุณยาย ก็บอกว่า อาจจะเกิด กระแสน้ำ รุนแรง
เพราะหอยพวกนี้เป็นหอยน้ำลึก และไม่มีในแถบ
ทะเลภูเก็ต-กระบี่-พังงา-สตูล
แต่เป็นหอยแถบอินโดเนเซีย
ซึ่งตอนนั้นก็ยังพูดกันสนุกๆว่า
สงสัยหอยจะชอบเที่ยว ก็เลยมาเสียไกลจากบ้าน"

 

อ่านไว้เป็นความรู้ ยังไงก็ระวังๆกันด้วยนะคะ โลกเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ^^

 

จะเป็นสัตว์อะไรคงไม่รอพิสูจน์หรอก แต่เมื่อผิดธรรมชาติ คงต้องตระหนักและตรวจสอบด่วนว่าข้างล่างเกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมมากมายมันบอกเหตุอะไรให้รู้ ยิ่งคนในถิ่นบอกมไม่เคยเห็นมาก่อน ก็ให้คิดไว้ล่วงหน้าว่าธรรมชาติกำลังบอกอะไรเรา ส่วนวิชาการจะว่าอะไรก็เรื่องของเขาไปเถอะ เพราะกิจตรงหน้าชาวภูเก็ตตอตนี้ต้องเฝ้าระวัง เช็คข้อมูล แต่ไม่ต้องประสาทตื่นตกใจ เพียงแต่ต้องเช็คหลายทาง ยิ่งผู้เฒ่าที่อยู่เก่าก่อน ย่อมมีความเห็นที่ดีดี ลองไปขอความคิดเห็นหน่อย คราวนี้เทคโนโลยี่หรือจะสู้ความรู้จากบรรพบุรุษได้ มันต้องเร่งหาคำตอบแล้ว ฝากด้วย ขอให้โชคดี ไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดา

 

ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง แล้วก็ดับไปในที่สุด
ไม่มีอะไรแน่นอน จงตั้งมั่นในพระรัตนตรัยเท่านั้น อะไรจะเกิดก็ใ้ห้มันเกิด

 

คำโบราณสอนไว้ไม่มีผิด

 

เพาะเลี้ยงกุ้งมังกรในกระชัง

เมื่อวันที่ 3 มกราคม 51
กุ้งมังกรเป็นสัตว์น้ำที่หายาก มีราคาแพง การเลี้ยงกุ้งมังกรในกระชังส่วนใหญ่จะหาลูกพันธุ์กุ้งมังกรจากชาวประมงที่รวบรวมได้จากธรรมชาติ ส่วนใหญ่ที่ขนาด 1 นิ้ว ราคาตัวละ 70-80 บาท นำมาอนุบาลในกระชังตาถี่ประมาณ 2 เดือนโดยให้อาหารประเภทปลาหรือหอยสับ อนุบาลครบ 2 เดือนจะได้ลูกกุ้งมังกรขนาดประมาณ 200 กรัม ราคาขายตัวละประมาณ 250 บาทซึ่งกุ้งมังกรขนาดนี้สามารถนำไปเลี้ยงในกระชังได้เลย หากเกษตรกรที่พอมีพื้นที่ขยายให้ได้ลูกพันธุ์กุ้งมังกรรวบรวมกุ้งมังกรมาเลี้ยงไว้ในกระชังเพื่อให้เป็นพ่อแม่พันธุ์

ให้แม่กุ้งได้ผสมพันธุ์ในกระชังจนไข่ติดที่ท้องตัวเมียจากนั้นนำแม่กุ้งขึ้นมาเพาะฟักอนุบาลในบ่อซีเมนต์ก่อนนำลูกกุ้งมังกรไปปล่อยตามป่าชายเลนหรือป่าโกงกางเพื่อให้มีชีวิตรอดอยู่ตามธรรมชาติจนลูกกุ้งได้ขนาดจึงจะนำมาเลี้ยงหรืออนุบาลในกระชัง

กุ้งมังกรมีหลายสายพันธุ์ เช่น กุ้งมังกร 7 สี, หรือกุ้งมังกรสีน้ำตาลกุ้งมังกร 7 สีจะมีผู้นิยมเลี้ยงกันมากกว่าสายพันธุ์อื่นเพราะเลี้ยงง่าย เจริญเติบโตดีกว่าพันธุ์อื่น ๆ เลี้ยงประมาณ 7-8 เดือน จะได้ขนาด 800-1,000 กรัม/ตัว ราคาอยู่ในระหว่าง 1,200-1,500 บาท/กก. ส่วนกุ้งมังกรสีน้ำตาล แม้ว่าต้นทุนลูกพันธุ์จะถูกกว่ามากก็ตาม แต่ผู้เลี้ยงไม่ค่อยนิยม เพราะตลาดมีความต้องการน้อยการเลี้ยงจะโตช้ากว่า ราคาขายจะได้ก็อยู่ที่ประมาณ 600-800 บาท/กก.

ปัจจุบันสถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งสงขลาโดยกลุ่มงานวิจัยระบบฯ ได้นำกุ้งมังกรสีน้ำตาล (Polyphagus) ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์มาจากหน่วยงานประมงประเทศพม่าให้นำมาเลี้ยงประมาณ 50 ตัวลูกกุ้งมังกรที่นำมาปล่อยขนาด 50 กรัมต่อตัวทดลองเลี้ยงไว้ในบ่อซีเมนต์ระบบน้ำหมุนเวียน

การเลี้ยงกุ้งมังกรในกระชังมีการเลี้ยงกันมากแถบฝั่งอันดามันเช่นบริเวณตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต, ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งก่อนที่จะเกิดสึนามิบริเวณดังกล่าวมีการเลี้ยงกุ้งมังกรกันเป็นอาชีพบางคนก็เลี้ยงแบบผสมผสานควบคู่ไปกับการเลี้ยงปลาและหอยแมลงภู่ประมาณ 10 ราย ๆ ละ 4-6 กระชังบางรายที่มีกำลังขยับขยายก็จะหาทางเลี้ยงเพิ่มขึ้น ซึ่งทุก อย่างกำลังจะไปด้วยดีต่างคนหวังไว้ว่าจะจับขายเมื่อเวลาเหมาะมาถึงเช่นช่วงเทศกาลปีใหม่ ใกล้ตรุษจีน

กระชังที่ใช้เลี้ยงกุ้งมังกร หากผู้เลี้ยงที่ซื้อขนาด 1 นิ้วก็ต้องใช้อวนตาถี่เพื่ออนุบาลไว้ก่อน แต่หากเป็นขนาด 200 กรัมจะใช้กระชังขนาด 3x3 เมตร สามารถปล่อยเลี้ยงได้ประมาณ 50 ตัวต่อกระชัง ส่วนด้านบนกระชังต้องมีอวนปิดคลุมไว้เพื่อป้องกันไม่ให้กุ้งมังกรไต่ออกมานอกระชัง ค่าความเค็มอยู่ที่ 30-35 ppt. แต่พื้นที่บางแห่งความเค็มอาจไม่เท่ากัน แต่ไม่ควรที่จะต่ำกว่า 25 ppt. แต่ทางที่ดีควรมีความเค็มสูงเพราะจะเลี้ยงง่ายและเจริญเติบโตได้ดีกว่า

อาหารที่ใช้เลี้ยงส่วนใหญ่จะเป็นปลาหรือหอยแมลงภู่สดผู้เลี้ยงบางรายให้ทุกวัน บางรายจะให้ 2-3 วันต่อครั้ง กุ้งมังกรสามารถจับขายได้ตลอดเวลา จะมีพ่อค้ามารับซื้อตลอดตั้งแต่ขนาด 600-700 กรัมต่อตัว จะได้ราคาดีหากขนาดประมาณ 500 กรัม ก็จำหน่ายได้แล้ว แต่จะได้ราคาถูกส่วนใหญ่นำส่งร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 3 มกราคม 2551

คัดลอกมาจาก : ��������§�����ѧ��㹡�Ъѧ

--------------------------------------- ​

ถึงแม้จะเป็นลูกกุ้งมังกรจริง แต่เป็นไปได้มั้ยว่าลูกกุ้งเหล่านี้ได้หลุดมาจากกระชังเมื่อตอนที่น้ำท่วมภาคใต้ หรืออาจจะเกิดจากแม่พันธ์ที่อาจหลุดจากกระชังแล้วไปอยู่ตามธรรมชาติที่ยังใกล้ชายฝั่ง แล้วก็มีการวางไข่ออกมา ลูกกุ้งจึงถูกคลื่นซัดเข้าหาชายฝั่งดังกล่าว

การที่ลูกกุ้งมังกรขนาดเล็กที่ถูกวางไข่อยู่ในทะเลลึก จะถูกกระแสน้ำพัดขึ้นมาบนชายฝั่งพร้อมๆ กันมากมายขนาดนี้ดูแล้วไม่น่าจะสมเหตุสมผล แต่ถ้าเป็นกุ้งมังกรตัวโตเต็มไวหนีภัยจากใต้น้ำมาอยู่ถึงชายฝั่งนั่นแหละครับ ผมว่านอกจากจะต้องรีบเก็บไปขายกันให้มากที่สุดแล้ว คงจะต้องรีบหนีไปให้ไกลจากชายฝั่งกันอย่างเร็วที่สุดอีกด้วยนะครับ

 

ถ้าเป็นลูกกุ้งมังกรจริง มันขึ้นมาจากน้ำลึกก็คงจะเกิดภัยธรรมชาติ

มันถึงได้หนีมาแต่ว่าจุดที่น่าจะเกิดภัยธรรมชาติน่าจะห่างภูเก็ตพอสมควร

เพราะกุ้งมันน่าจะหนีมาด้านตรงข้ามกับจุดที่จะเกิดภัย จุดที่น่าจะเกิดภัย

รุนแรงน่าจะเป็นศรีลังกามากกว่า ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะมีคนเคยทำนายว่า

ศรีลังกาอาจจะเกิดภัยพิบัติต่อจากญี่ปุ่น

 

22 ก.พ. 54 รายงานข่าวอ้างสำนักข่าวเอเอฟพีที่ได้รายงานว่าเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดของเกาะสจ๊วต นอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะใต้ ประเทศนิวีแลนด์ ต่างก็ต้องตกตะลึง หลังพบมีวาฬนำร่องประมาณ 107ตัวได้มานอนเกยตื้นตายอยู่บริเวณชายหาดดังกล่าว
ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กรมอนุรักษ์ธรรมชาติ เผยว่า การตายหมู่ดังกล่าวอาจจะมีสาเหตุมาจากพวกมันอาจจะว่ายพลัดหลงมาเกยหาด ประกอบกับน้ำทะเลมีกำลงลดระดับลงอย่างรวดเร็ว จึงไม่สามารถที่จะทำให้ไม่สามารถว่ายกลับลงน้ำทะเลได้จึงทำให้พวกมันเสียชีวิต
อีกทั้งบริเวณดังกล่าวมักจะพบว่ามีวาฬขึ้นมานอนเกยตื้นตายบ่อยครั้งมาก โดยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มีวาฬ 14 ตัวก็ขึ้นมาเกยตื้นตายบนหาดใกล้เมืองเนลสัน แหล่งท่องเที่ยวบนเกาะใต้ และอีก 24 ตัวใกล้กับแหลมเรนกา ทางตอนเหนือของประเทศ
ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ ยังมืดแปดด้านไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุใดวาฬนำร่องเหล่านั้นจึงขึ้นมาเกยตื้นเอง อย่างไรก็ตามการตายของมันอาจจะเป็นสัญญานเตือนของภัยพิบัติก็เป็นได้
หลังจากเมื่อช่วงเวลา12.51น. วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริคเตอร์ ขึ้นในไครสต์เชิร์ช เมืองใหญ่อันดับสองของนิวซีแลนด์ ทำให้มีตึกพังถล่มหลายแก่ง และเจ้าหน้าที่ต่างต้องสั่งเร่งอพยพประชาชนเป็นการด่วนหวั่นเกิดอันตรายถึงชีวิต
เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News

100 whales die in New Zealand mass stranding
(AFP) – Feb 20, 2011
WELLINGTON — More than 100 pilot whales died in a mass stranding at a remote New Zealand beach, conservation officials said Monday.
Hikers on Sunday reported finding 107 whales beached on Stewart Island, off the South Island's southwest coast, a Department of Conservation (DoC) spokesman said.
He said some of the whales were already dead and DOC rangers had to euthanise the 48 remaining survivors as there was no prospect of refloating them.
"We were quickly aware that it would be at least 10 to 12 hours before we could attempt to refloat them and that given the hot, dry conditions many more would soon perish," he said.
The spokesman said a storm was also bearing down on the beach near Mason Bay where the whales were stranded, making it too dangerous to try to get them back into the sea.
"We were worried we would be endangering the lives of staff and volunteers," he said.
Pilot whales up to six metres (20 feet) long are the most common species of whale seen in New Zealand waters.
Mass strandings are common on the country's rugged coast. Earlier this month, 14 died after beaching near the South Island tourist city of Nelson and 24 perished last month near Cape Reinga in the country's far north.
Scientists are unsure why pilot whales beach themselves, although they speculate it may occur when their sonar becomes scrambled in shallow water or when a sick member of the pod heads for shore and others follow.
<!-- google_ad_section_end(name=article) -->Copyright © 2011 AFP. All rights reserved

เกิดก่อนสินามิที่ญี่ปุ่นประมาณ 20 วันนะ

 

ผมว่าเหมือนแพลงตอนเลย

 

Plankton - Wikipedia, the free encyclopedia

 

คราวก่อนปลาตายหมู่ที่อเมริกา ก่อนแผ่นดินไหวใหญ่ญี่ปุ่น ดูจากแผนที่โลกจะเห็นว่าอเมริกาอยู่ระนาบเดียวกับญี่ปุ่นพอดี แต่เป็นฝั่งตรงข้ามกัน

คราวนี้ ตัวอะไรเล็กๆ (ยังต้องรอผลพิสูจน์อีกวันสองวัน) ตายหมู่อีกที่ภูเก็ต โดยทฤษฎีส่วนตัวนะ น่าจะเป็นการที่สัตว์หนีภัยจากอีกฟากมามากกว่า

คิดว่า ภัยอะไรก็แล้วแต่จะเกิดที่ฝั่งตรงข้ามกับจุดที่สัตว์ทะเลพวกนี้พากันมาเกยตื้น

 

เป็นลางเตือนอะไรสักอย่างแน่ๆ

 

น่าจะนำมาทำกุ้งเต้น ดีกว่าปล่อยให้เสียของ

แต่ไม่รู้มีพิษไหม