พบรอยพระหัตถ์ใหม่ที่ถ้ำตับเต่า

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย ชัย บางโคล่, 2 พฤษภาคม 2007.

  1. ชัย บางโคล่

    ชัย บางโคล่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +77
    สัปดาห์ที่ผ่านมา (๒๒ เม.ย.๕๐) ผมและคณะอีก ๔ คน ได้มีโอกาสแวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ถ้ำตับเต่า (ถ้ำทับเถ้า--ชื่อเดิม) ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ตามที่มีบันทึกไว้ในหนังสือ "ตามรอยพระพุทธบาท" ของพระชัยวัฒน์ อชิโต สถานที่นี้มีถ้ำอยู่ ๒ แห่ง คือ ถ้ำแจ้ง กับถ้ำมืด ถ้ำแจ้งเดินเข้าไปสักการะได้เลยเพราะสว่าง แต่ถ้ำมืด ควรต้องทำบุญค่าไฟฟ้า ๑๐๐ บาทก่อนเข้าไปหลังออกจากถ้ำแจ้ง (ที่มีพระนอนขนาดใหญ่ เชื่อว่าเป็นพระที่สมเด็จพระเอกาทศรถสร้างไว้) ก็ไปกราบสักการะรอยพระพุทธบาทคู่ จำลอง ซึ่งอยู่ด้านข้างถ้ำแจ้ง ก่อนกลับ น้องในคณะเกิดเหลือบไปเห็นร่องรอยคล้ายนิ้วคน แต่ทว่าถูกกลบเกือบมิดด้วยเถ้าถ่านและกองขยะ ซึ่งไม่น่าดูเลย จึงเรียกผมให้ไปดู เมื่อพิจารณาถี่ถ้วนแล้ว ค่อนข้างมั่นใจว่าใช่แน่ จึงชวนกันขุด และลอกเอาขยะและดินต่างๆ ออก ก็ยิ่งมั่นใจเข้าไปใหญ่ เพราะเป็นลักษณะที่แสดงถึงข้อนิ้วที่งอและจิกลงไปในเนื้อหิน ด้วยมือเบื้องซ้าย (ขนาดใหญ่พอพอกับรอยพระหัตถ์ ที่ถ้ำจั๊กต่อ ดอยส่างหลง วัดหมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน) จึงรีบลงไปบอก หลวงพี่ทรงศักดิ์ ที่อยู่ ณ สถานที่นี้มานาน ให้มาพิจารณาร่วมกัน ปรากฎท่านเห็นอย่างเดียวกับเรา จึงช่วยกันชำระล้าง จนออกมาสวยอย่างในรูป สังเกตุให้ดีจะเห็นว่า ตำแหน่งของนิ้วนาง ที่จิกกดลงไปอย่างลึก จะมีคราบปูนซิเมนต์เก่าครอบ แต่กระเทาะเกือบหมด ค้างอยู่ สันนิษฐานว่า คนโบราณน่าจะเคยบูรณะและทำการเคลือบเพื่อป้องกันการเสียหายไว้แล้ว แต่ด้วยการเวลา และถูกทิ้งให้รกร้าง จึงเหลือร่อยรอยอย่างในภาพ อยากให้เพื่อนๆ ช่วยพิจารณาและแสดงความเห็น หากใช่ ก็ถือว่าเป็นการเชิญชวนเพื่อนๆ ไปกราบสักการะ เพื่อเป็นมงคล เห็นว่า ลพ. ทรงศักดิ์ จะก่อปูนโดยรอบองค์ เพื่อรักษาสภาพครับ
    อนึ่ง ชื่อของถ้ำ เดิมชื่อ "ทับเถ้า" มาจากเรื่องเล่าที่ว่า พระอรหันต์ ๕๐๐ รูป มานิพพานที่ถ้ำนี้ จึงได้นำเอาอัฐิ หรือเถ้า มากอบกันขึ้นเป็นพระเจดีย์ ให้ชื่อว่า "พระเจดีย์นิ่ม" ซึ่งอยู่ในถ้ำมืด และจารึกปี พ.ศ. ๑๔๖๓ (หนึ่งพันสี่ร้อยหกสิบสาม) ไว้ที่ฐานพระเจดีย์ด้วย ถ้ำนี้ต้องใช้เวลาเดินประมาณ ๑ ชั่วโมง และมักเจอเจ้าที่ เป็น งู นอนขดตัวเฝ้าถ้ำอยู่เสมอ
    ภายหลังค่อยเพี้ยนชื่อมาเป็น ตับเตา ตับเต่า........
     
  2. sravnane

    sravnane เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    695
    ค่าพลัง:
    +17,914
    ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

    [​IMG]
    เข้ามาพอดีเลยไปค้นในกระทู้มาให้ดูกันอีกทีครับ ถ้ำตับเต่า อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ที่เห็นนี้เป็นหลังคาของถ้ำแจ้งครับ เป็นรอยพระบาทสี่รอยซึ่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์จะเสด็จลงมาจากด้านบนนี้ครับ ไม่มีการย่อพระวรกายหรือก้มพระเศียรถ้ำจะขยายสูงตามพระวรกายขึ้นเองครับ โชคดีนะครับได้พบรอยพระหัตถ์ที่พื้นถ้ำ ต่อนี้ไปคงมีคนดูแลกราบไหว้บูชาฯทำความสะอาดแล้ว ดีครับ
    รายละเอียดอื่นที่ไปเจอมาก็ดูได้ที่นี่ครับhttp://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=28057&page=114 เริ่มตอนที่1
    :cool: :cool: :cool: :cool: :cool: :cool: :cool:
     
  3. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,390
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,382
    อนุโมทนาครับ พุทธบูชา มหาเตชะวันโต การบูชาพระพุทธเจ้ามีอานิสงส์อย่างยิ่ง ความสุขความเจริญทั้งโลกนี้และโลกหน้า มีนิพพานเป็นอันเป็นทางพ้นทุกข์เป็นที่สุด
     
  4. ชัย บางโคล่

    ชัย บางโคล่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +77
    อนุโมนาด้วยครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่า ภาพที่ผม Upload ขึ้นไปปรากฎหรือไม่ ก่อนส่งผมได้ดูการแสดงผลแล้ว ปรากฎว่ามีภาพ แต่พอ Submit กลับมองไม่เห็น ถ้าจะกรุณา ช่วยแนะนำด้วยครับ เพราะเป็นมือใหม่ เพิ่งเคยโพสต์ครั้งแรกครับ.....แต่ที่อยากจะเรียนให้ทราบคือ รอยพระหัตถ์ที่พบ อยู่นอกถ้ำครับ ไม่ใช่อยู่ที่พื้นถ้ำแจ้ง อยู่ด้านซ้ายมือของถ้ำ ด้านข้างบันไดทางขึ้นถ้ำเลย โชคดีจริงๆ ครับ ถ้าบันได (ซึ่งสร้างขึ้นมาใหม่) เปลี่ยนองศานิดเดียว ก็จะทับรอยฯ พอดี ซึ่งเราคงไม่มีโอกาสเห็นอีกต่อไปเลย ผนังถ้ำที่ส่งมาเพิ่มเติมให้ สุดยอดครับ ผมไม่ทันสังเกตุจริงๆ หากครั้งหน้ามีโอกาสต้องไปสักการะตามที่แนะนำมาแน่ครับ(verygood) ...ขอบคุณครับ
     
  5. putipongb

    putipongb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +3,843
    อนุโมทนาครับ ประเทศไทยน่าจะเป็นประเทศที่มีรอยพระพุทธบาทและพระหัตถ์มากที่สุดในโลกนะครับ
     
  6. ชัย บางโคล่

    ชัย บางโคล่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2007
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +77
    ในหนังสือ "ตามรอยพระพุทธบาท" ฉบับรวมเล่ม ๑ โดยพระชัยวัฒน์ อชิโต เท่าที่รวบรวมและระบุไว้ มีดังนี้ พระบรมธาตุ ภาคกลาง ๓๕ แห่ง ภาคตะวันออก ๖ แห่ง ภาคตะวันตก ๒๙ แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๖๒ แห่ง ภาคเหนือ ๓๖๓ แห่ง ภาคใต้ ๒๕ แห่ง รวมพระบรมธาตุในประเทศ ๕๒๐ แห่ง พระบรมธาตุต่างประเทศ ๑๕๕ แห่ง รวมทั้งสิ้น ๖๗๕ แห่ง
    รอยพระพุทธบาท ภาคกลาง ๓๙ แห่ง ภาคตะวันออก ๑๕ แห่ง ภาคตะวันตก ๓๔ แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๒๐๖ แห่ง ภาคเหนือ ๑๔๘ แห่ง ภาคใต้ ๔๙ แห่ง รวมรอยพระพุทธบาทในประเทศ ๔๙๑ แห่ง ต่างประเทศ ๖๔ แห่ง รวมทั้งสิ้น ๕๕๕ แห่ง (ทั้งนี้ยังไม่รวมต้นพระศรีมหาโพธิ์ ๙ แห่ง สถานที่สำคัญอื่นๆ เช่น พระพุทธฉายถ้ำเขางู และอื่นๆ อีก ๑๐ แห่ง และพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ อีก ๘๖ องค์ และพระบรมธาตุพิเศษ (ตามตำนาน) อีก ๑๗ แห่ง)
     
  7. ลัก...ยิ้ม

    ลัก...ยิ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    3,409
    ค่าพลัง:
    +15,762
    คัดตัดตอนบางส่วนจ๊ะ....


    พระอรหันต์ 500

    ประสบการณ์ที่เกี่ยวกับเทวดาที่เคยพบมาก็ตอนที่ไปถ้ำตับเต่า อาตมาชอบไปเที่ยวขอเทวดาว่าขอพระธาตุ ตอนนั้นไปกราบครูบาวงศ์บอกว่าจะไปถ้ำตับเต่า ท่านก็บอกเออไป พอไปแล้วมีญาติโยมตามไปด้วย ไปพักที่นั่นก็อธิษฐานว่า ถ้าถ้ำตับเต่านี้มีเทวดารักษาพระธาตุอยู่ อาตมาจะขอนำพระธาตุไปให้ชาวโลกเขาสักการะบูชา ถ้าจะให้ก็ขอให้มีนิมิต คืนนั้นก็มีนิมิตว่ามีช้างเผือกประมาณหลายร้อยเชือกนับไม่ถ้วน วิ่งผ่านหน้าพระราชวังไป อาตมาเห็นจนสุดลูกหูลูกตา ตอนเช้าตื่นขึ้นมาก็เล่าให้เจ้าอาวาสฟัง ตอนนั้นพระอาจารย์บุญช่วยไม่อยู่ ท่านน้อย รักษาการเจ้าอาวาสแทน ก็เลยเล่าให้ฟัง ท่านบอกว่าถ้ามีนิมิตอย่างนี้ก็ดีแล้วจะพาท่านเข้าไป ถ้ำนั้นจะทราบเฉพาะเจ้าอาวาสกับท่านน้อยเท่านั้น เพราะท่านเข้าไปนั่งภาวนาแต่ตอนนี้ถ้ำได้ถูกปิดแล้ว ปากถ้ำแคบมาก เหมือนกับว่าจะมีแต่พญานาคหรืองูเท่านั้นทีจะเลื้อยเข้าไปได้ เพราะปากถ้ำใหญ่เท่าลำตาลแค่นั้น แต่ลึกเข้าไปจะเป็นที่โล่ง เย็นมาก พระธาตุจะอยู่สุดถ้ำพอดี ตรงนั้นเป็นที่ภาวนาพระธาตุจะเต็มไปหมด อาตมาก็ขอเทวดาว่า ถ้าจะได้พระธาตุไปเพื่อให้ชาวโลกสักการะบูชา ก็ขอให้เทวดาช่วยด้วย คือขอให้ออกจากถ้ำได้ทันเวลา เพราะเวลานั้นบ่ายสามบ่ายสี่โมงแล้ว เป็นช่วงที่เขาจะไม่ให้คนเข้าถ้ำเพราะงูจะออกหากิน แล้วมันมืดมาก ถ้าไฟที่เราจุดเกิดดับไป เราจะออกจากถ้ำไม่ได้ จะไม่มีใครมาช่วยก็เลยใจแข็งยอมเอาพระธาตุออกมาหลายถุงมากโดยไม่รู้ว่า คือ พระธาตุอะไร ตอนแรกยังไม่ทราบ พอออกมามันติดปากถ้ำพอดี เพราะตรงนั้นแคบมาก ช่วงที่ออกมานี่ปากถ้ำแคบเกินกว่าที่เราจะเอาพระธาตุออกมาได้ เฉพาะเราจะนั่งก็นั่งไม่ได้ แล้วถุงพระธาตุจะถูลู่ถูกังมาตามทางเดินไม่ได้ เพราะทางเดินเราต้องเลื้อยออกมาเหมือนงู ถ้าถูลู่ถูกังมาอย่างนั้น ถุงก็จะขาดเอาพระธาตุออกมาไม่ได้ ก็เลยบอกเทวดาว่าถ้าอาตมาหรือข้าพเจ้าจะนำพระธาตุออกมาให้คนสักการะบูชา ให้ชาวโลกสักการะบูชาได้ ก็ขอให้เทวดาช่วยขยายปากถ้ำให้นำออกมาได้ด้วย ปากถ้ำนี่ขยายออกมาจนอาตมาสามารถนั่งได้และคนที่จะตามมาสามารถนั่งได้ เราทุกคนแปลกใจมากและก็ขนพระธาตุออกมาได้ ปรากฎว่าพระธาตุที่นำออกมานั้น เอามาถวาย ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ท่านว่านี่คือ พระธาตุของห้าร้อยอรหันต์ ซึ่งมีปรากฎเฉพาะใน ธรรมบท ที่ว่าพระสารีบุตรเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าตอนที่อยู่บนดาวดึงส์ บอกว่าสารีบุตรเธอจงนำธรรมบทนี้ไปแสดงแก่ภิกษุห้าร้อย ภิกษุห้าร้อยนี้เคยเกิดเป็นค้างคาวที่ถ้ำหนึ่งแล้วก็ได้ฟังเทศนาธรรมนี้จนเคลิ้มแล้วตกลงมาตายพร้อมกัน แล้วก็หมดบุญไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นฟ้า หลังจากหมดบุญแล้วก็ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ มาบวชในสำนักพระสารีบุตร แล้วก็ได้บรรลุอรหันต์พร้อมกันทั้งห้าร้อยรูป

    หลังจากบรรลุธรรมเป็นอรหันต์พร้อมกันแล้ว ก็ไปนิพพานบนถ้ำตับเต่า แต่ก่อนไม่มีชื่อเรียกถ้ำ บนถ้ำนี้คนขึ้นไปไม่ได้ มันสูงมาก ไม่มีใครทราบว่ามี พระอรหันต์ 500 รูป ไปนิพพานข้างบน ก็ร้อนถึงพระอินทร์ พระอินทร์ก็ได้เนรมิตไฟมาเผา จนเป็นผงแล้วความร้อนของไฟที่เผาร้อนไปถึงเมืองบาดาล พญานาคก็เลยโผล่ขึ้นมาดูว่าทำไมถึงร้อนขนาดนี้ ก็เห็นเป็นไฟกำลังลุกไหม้ เลยพ่นน้ำมาดับ ถ้ำนั้นจึงเรียกว่า ถ้ำตับเต่า ที่ทางเหนือเขาเรียกถ้ำตับเต่าก็คือ ถ้ำดับเถ้า นั่นเอ ง

    ปัจจุบันนี้รูนั้นก็ยังอยู่ อาตมาเคยไปภาวนาที่ถ้ำนั้น ครูบาวงศ์ท่านเล่าให้ฟังอย่างนี้ ก็เลยถวายพระธาตุท่านไป ท่านก็ว่านี่คือ ห้าร้อยอรหันต์ ไม่มีที่อื่น มีที่เดียว ปัจจุบันถ้ำนี้ถูกปิดไปแล้ว เพราะฉะนั้นพระธาตุห้าร้อยอรหันต์นี้อาตมาคิดว่าอาตมาได้ขอเทวดามาให้ชาวโลกได้สักการะบูชา ก็คิดว่าถ้าจะเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์โลก คือตอนนี้เมืองไทยเราทุกข์ร้อนมาก เจ้าอาวาสวัดถ้ำตับเต่าเคยพยากรณ์ไว้ตั้งแต่ปี 2538 ว่าเมืองไทยจะเป็นหนี้ชาวต่างชาติ อาตมาเห็นใจชะตากรรมของเมืองไทยมาก ว่าต้องตกเป็นหนี้เขา รัฐวิสาหกิจขายไปหมดแล้ว เมืองไทยไม่มีอะไรเหลือแล้วตอนนี้

    อาตมาบอกเทวดาว่า ถ้าพระธาตุนี้สามารถที่จะช่วยชาวโลกได้ อาตมายินดีมอบให้

    อย่างเช่น อาจารย์สุรเสียง ปัญญาวชิโร (หลวงเตี่ย) ซึ่งเป็นคนจังหวัดมหาสารคาม อาตมาเป็นคนแนะนำท่านเองว่าอาจารย์เอาข้าวสารดำนี้ไปช่วยคนนะ ท่านก็เอามาช่วยคนได้มาก มีปาฎิหาริย์มาก ตอนที่พาไปเอาพระธาตุเทวดามาเข้านิมิตท่านว่าให้อาตมาเขียนเรื่องพระธาตุ อาตมาก็บอกว่าไม่รู้จะเขียนไปทำไม ท่านก็บอกอีกว่าท่านพงษ์ศักดิ์เขียนเรื่องพระธาตุนะ ผมจะช่วยเองเรื่องจัดพิมพ์ต่าง ๆ อาตมาไม่ได้สนใจ เรื่องนี้ก็เลยไม่ได้ทำ แต่ท่านก็ยืนยันว่าเทวดาบอกผมเองว่าให้ท่านเขียนเรื่องพระธาตุ ให้คนไปบูชา ไปสักการะบูชาเขาจะดีเอง ก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง เพราะนิมิตมาอย่างนั้นก็เลยไม่กล้า เพราะอาตมาเชื่อว่านิมิตที่มานั้นคงมีบุญร่วมกันมา คงจะมีอะไรสักอย่างที่จะเกิดประโยชน์ต่อคนอื่นบ้างทั้งที่ในช่วงนั้นอาตมาไม่พร้อมนัก ตั้งใจว่าจะหลบไปภาวนาสักพักหนึ่ง ตอนนี้หาที่เจอแล้ว แต่ว่าเวลายังไม่พร้อม คงจะเป็นเพราะว่าต้องเจอพวกโยมก่อน ไม่งั้นไม่แน่ใจก่อนจะออกจากวัดนั้นมีนิมิตมาบอกแล้วว่าโยมจะมา แต่ไม่เห็นหลวงพ่อหรอก เห็นแต่โยมนั่งอย่างนี้แหละ คงจะลืมมองทางซ้ายมือ

    พระธาตุอรหันต์ในโลกนี้มีเฉพาะอาตมาและถ้ำตับเต่า เขาไม่ให้หรอก เขาไม่ให้ อาตมายินดีให้ตามสัจจะว่า ถ้าอาตมามีบุญที่จะนำพระธาตุออกมาให้ชาวโลกสักการะบูชา อาตมายินดีที่จะให้ อาตมาไม่เรียกร้อง
    อะไรเลย ให้เฉย ๆ เห็นคนไทยทุกข์มาก คือพระธาตุอรหันต์นี้ อาตมาเคยให้คนไปสักการะบูชาที่เขาใหญ่ งูจะมาเฝ้าเลย พอไปถามครูบาวงศ์ ท่านบอกว่าไม่ใช่งูนะเป็นพญานาค แต่งูนี้แปลกมาก จะขอถ่ายรูป ถ้าเป็นพญานาคจริง ขอถ่ายรูปนะ แล้วต้องชูคอให้ด้วย ให้เห็นว่ารับรู้ เขาชูคอขึ้นมาจริง ๆ แล้วก็ถ่ายรูปมาด้วย แต่ไม่ติด

    ตอนที่ไปจังหวัดเลย เอาผงไปทำพระ ช่วงนั้นมีกฐิน ปรากฎว่าเขาตามมาถึงที่นั้นจริง ๆ แล้วมีพระเต็มรถอาตมาเลย อาตมาเปิดประตูรถจะทำธุระข้างนอก พอเปิดออกมาเห็นพระเต็มรถ คืออยู่ข้างนอกนะ ท่านหลบอาตมาหลบไม่ทันผ้าเหลืองเต็มไปหมดนั่นแหละ คือ ห้าร้อยอรหันต์ แล้วมีคนเคยเอาไปเช็ก เขานั่งข้างใน เขาบอกว่าไม่ใช่ห้าร้อยนะท่าน คืออาตมาไม่ได้ไปเองหรอก โยมเขาอยากทราบว่านี่คือ ห้าร้อยอรหันต์จริงไหม มีความศักดิ์สิทธิ์ไหม ปรากฎว่ามีคนเห็นพระอรหันต์เต็มท้องฟ้า นับพัน ๆ องค์ เป็นพระอรหันต์ล้วน ๆ ไม่ใช่แค่ห้าร้อยแต่เป็นพัน ๆ เลย แสดงว่าสมัยก่อนนี้คล้าย ๆ เรียกโจรห้าร้อย อรหันต์ห้าร้อย คือ ชื่อเรียกกลุ่มอรหันต์ห้าร้อย แต่นี่มากมายก่ายกองนัก ประมาณไม่ได้ว่ามากมายแค่ไหน ก็เลยเรียกรวมกันว่า อรหันต์ห้าร้อย
     
  8. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,015
    ค่าพลัง:
    +17,915
    อนุโมนาครับ...
     
  9. lepus

    lepus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,881
    ในหนังสือเกร็ดประวัติและปกิณกะธรรม หลวงปู่มั่นท่านก็เคยกล่าวถึงถ้ำแห่งนี้ครับ
     
  10. arjarhnnop

    arjarhnnop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    37,321
    ค่าพลัง:
    +76,428
    เรียนท่านลักยิ้ม

    ผมเพิ่งจะเข้ามาอ่าน เนื่องจากกำลังรวบรวมมวลสาร ที่จะสร้างพระงวดใหม่ ที่สร้างแจกผู้ที่ร่วมทำบุญ เห็นข้อความในเมล์นี้ แต่เนื่องจากนานมามากแล้ว ไม่ทราบยังมีผงอรหันต์ 500 อยู่อีกหรือไม่ จะขอแบ่งเพื่อนำไปเป็นมวลสารครับ

    ARJARHNNOP
     
  11. wee2010

    wee2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2010
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +122
    วันนี้ก็ไปทำบุญที่นี่มาครับ เคยเข้าไปถึงพระธาตุที่ถ้ำมืดด้วยครับ เดี๋ยวนี้ค่าไฟฟ้าคนละ10บาทครับ
     
  12. จิตใส25

    จิตใส25 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +226

แชร์หน้านี้

Loading...