หลวงปู่ใหญ่หลวงพ่อเขาตก พระให้โชค-เทพให้ลาภที่...วัดราชคฤห์วรวิหาร กทม.

sithiphong · 6 กุมภาพันธ์ 2011

หลวงปู่ใหญ่หลวงพ่อเขาตก พระให้โชค-เทพให้ลาภที่...วัดราชคฤห์วรวิหาร กทม.

หลวงพ่อใหญ่

พระราชวรเวที

ปรางค์พิชัยดาบหัก

หน้าบันพระอุโบสถ

วิหารบนเขามอ หน้าวัดราชคฤห์วรวิหาร

ปรางค์พิชัยดาบหัก

วิหารบนเขามอ หน้าวัดราชคฤห์วรวิหาร

คมชัดลึก : "วัดราชคฤห์วรวิหาร" ตั้งอยู่ถนนเทอดไท เลขที่ ๔๓๔ แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม.เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย หรือก่อนสมัยกรุงธนบุรี โดยพวกนายกองมอญที่อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร และตั้งบ้านเรือนอยู่ในแขวงบางยี่เรือเป็นผู้สร้าง สืบไม่ได้ความว่า นายกองผู้นั้นชื่ออะไร เมื่อสร้างเสร็จแล้วมีชื่อเรียกตามสถานที่ตั้งว่า “วัดบางยี่เรือ” บางทีก็เรียกว่า “วัดบางยี่เรือมอญ” หรือ “วัดมอญ” เฉยๆ ที่เรียกเช่นนี้ คงสืบเนื่องมาจากเดิมมีพระมอญจำพรรษาอยู่นั่นเอง ปัจจุบันมี พระราชวรเวที (เฉลา เตชนฺโต ป.ธ.๙) รองเจ้าคณะภาค ๑๔ เป็นเจ้าอาวาส

พระราชวรเวที บอกว่า ที่วัดราชคฤกห์วรวรวิหาร มีพระพุทธรูปอยู่ ๒ องค์ ที่ขึ้นชื่อและชาวบ้านมีคติความเชื่อว่า “ใครได้มาสักการบูชา ได้ประสบโชคลาภ และเจริญในหน้าที่การงานทุกประการ” องค์แรก คือ หลวงพ่อสุขสบาย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปบรรทมหงายปางถวายพระเพลิง หรือที่เรียกว่า “พระเจ้าเข้านิพพาน” ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารน้อย
องค์ที่ ๒ คือ หลวงปู่ใหญ่ เป็นพระมหาบุรุษปางบำเพ็ญทุกริยา หรือ ปางทรมานกาย เดิมทีเป็นพระที่หลวงพ่อพิพัฒน์ธรรมคดี นำเข้าส่งประกวดที่ท้องสนามหลวง ปรากฏว่าผลการตัดสินได้รางวัลที่ ๒ จากนั้นหลวงพ่อพิพัฒน์ธรรมคดีได้นำมาประดิษฐานไว้ ณ วัดราชคฤห์วรวิหาร เพื่อเป็นที่สักการบูชา เมื่อมีคนมากราบไหว้ขอพรจำนวนมากๆ เมื่อประสบความสำเร็จก็พูดกันแบบปากต่อปาก และเรียกว่า “หลวงปู่ใหญ่ผู้ใช้โชคลาภ”
นอกจากนี้แล้ว ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกอย่างหนึ่ง ที่คนเดินทางมากราบไหว้ขอพร โดยมีคติความเชื่อเป็นเทพผู้ให้โชคลาภได้เช่นเดียวกับหลวงปู่ใหญ่ คือ “เจ้าพ่อเขาตก” ซึ่งประดิษฐานอยู่ในศาลเจ้าทรงจีน ตามตำนานเล่าว่า เทวดาตนหนึ่งซึ่งมีหน้าที่รักษาเมืองสระบุรี และเป็นเทพเจ้ารักษารอยพระพุทธบาท ดังนั้นเมื่อสร้างรอยพระพุทธบาทจำลอง จึงต้องสร้างรูปเหมือนเจ้าพ่อเขาตกด้วย
“ความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพ่อเขาตกนั้น ในหมู่คนมอญและชาวจีนมีคติความเชื่อว่า เจ้าพ่อเขาตกเป็นเทพที่มีความศักดิ์สิทธิ์ คือ ผู้ใดศรัทธาแล้วมาไหว้ขอพร ให้ความคุ้มครอง รวมทั้งให้โชคลาภทำมาค้าขึ้น ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทุกๆ วันมีคนเดินทางมากราบไหว้ขอพรไม่ขาด” พระราชวรเวที กล่าว
พร้อมกันนี้ พระราชวรเวที ยังบอกด้วยว่า ปูชนียสถานของวัดราชคฤห์วรวิหารที่สำคัญ ประกอบด้วย ๑.พระอุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ลักษณะหลังคาได้รับอิทธิพลแบบจีน หน้าบันเป็นลวดลายปูนปั้นประดับจานกระเบื้องเคลือบ ด้านนอกระหว่างประตูมีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางกวักพระหัตถ์เรียก สุทัตมาณพ (อนาถบิณฑิกเศรษฐี) ในบริเวณกำแพงแก้วรอบพระอุโบสถ มีพระเจดีย์เหลี่ยม ๒๘ องค์ พระเจดีย์กลมทรงลังกา อีก ๒ องค์
๒.พระประธาน เป็นพระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชี ด้านหน้าพระประธานบนฐานชุกชีเดียวกันนั้น มีพระพุทธรูปปางมารวิชัย ๘ องค์ประดิษฐานอยู่ด้านหลังพระประธานมีพระพุทธรูปทรงเครื่องปางมารวิชัย และพระอัครสาวกนั่งพับเพียบประนมมือ ๒ องค์ ประดิษฐานอยู่
๓.พระวิหารใหญ่ เป็นอาคารก่ออิฐ ลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทย ทรงสูงโปร่ง ฐานหย่อนโค้งท้องสำเภาหลังคาประดับช่อฟ้าใบระกาหางหงส์ ภายในพระวิหารมีภาพเขียนฝาผนังเป็นลายดอกไม้ร่วง และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ พระวิหารนี้
๔.พระเจดีย์ใหญ่ ตั้งอยู่ด้านหน้าพระวิหารใหญ่ ลักษณะเป็นพระเจดีย์เหลี่ยมย่อไม้ยี่สิบ ซ้อนกันเป็นชั้นเรียงตามลำดับจนถึงยอดแหลม และเป็นพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
และ ๖.พระปรางค์ เป็นพระปรางค์ย่อไม้ยี่สิบ อยู่คู่กับพระเจดีย์ใหญ่ ผู้เฒ่าเก่าแก่เรียกกันว่า “ปรางค์พิชัยดาบหัก”
สำหรับงานประจำปีของวัดราชคฤห์วรวิหาร คือ "งานปิดทองรอยพระพุทธบาทและไหว้เจ้าพ่อเขาตก" โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๒-๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ และวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๔ จะมีการเททองหล่อพระพุทธรูปนพเก้า ๙ องค์ เพื่อประดิษฐานในวิหารและโบสถ์ เททองหล่อรูปเหมือนพระยาพิชัยดาบหักขนาดเท่าตัวจริง เพื่อประดิษฐานหน้าพระปรางค์ เวลา ๑๖.๐๙ น. มีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ และเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กทม. มาเป็นประธานในพิธี
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พระราชวรเวทีมีดำริบูรณปฏิสังขรณ์พระวิหารและพระมณฑปครั้งใหญ่ เพื่อเป็นพุทธบูชา ผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญได้ที่ สำนักงานกลาง วัดราชคฤห์วรวิหาร โทร.๐๘-๖๙๐๔-๒๖๒๗ หรือ พระราชวรเวที โทร.๐-๒๔๖๕-๒๙๐๘, ๐๘-๑๔๒๔-๖๐๖๙ และ ๐๘-๙๒๐๔-๔๑๒๖
ตำนานแห่งเขามอ
“เขามอ” สร้างด้วยหินจากทะเล ด้านบนมีมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมไทย แบบจตุรมุข ยอดทรงประสาท และประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ชั้นล่างเป็นรูปปูนปั้นพระแม่ธรณีบีบมวยผม ด้านทิศตะวันตก มีกุฏิประดิษฐานรูปพระศรีอาริย์ และช่องทางลงบันไดลงไปพื้นชั้นล่างของถ้ำเขามอ เวียนรอบเขามอได้หมด
พระราชวรเวที บอกว่า เขามอมีมาพร้อมๆ กับการสร้างวัด ด้านใต้เขามีถ้ำ สันนิษฐานว่าเป็นหลุมหลบภัยและเป็นอุโมงค์ที่จะลอบโจมตีและตลบหลังข้าศึก เพราะเข้าใจว่ามีทางจรเข้าไป ๓ สาย คือ สายที่ ๑ จรไปทะลุเขตภาษีเจริญ สายที่ ๒ จรไปทะลุแม่น้ำเจ้าพระยา และสายที่ ๓ จรไปทะลุ จ.ปทุมธานี บางคนกล่าวว่าทะลุไปถึง จ.สระบุรี
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาวัดบางยี่เรือเหนือ (วัดมอญ) ขึ้นเป็นวัดราชคฤห์วรวิหาร เจ้าพระยาพระคลัง (หน) เสนาบดีกรมท่า ได้บูรณปฏิสังขรณ์ภูเขาด้วยหินทะเล จึงเรียกว่า เขามอ รวมทั้งสร้างมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง สร้างสถูปบรรจุพระบรมธาตุอรหันต์ และพระศรีอาริย์ไว้บนยอดเขา เพื่อเป็นที่สักการบูชาของประชาชนทั่วไป
“ในหมู่คนมอญและชาวจีนมีคติความเชื่อว่า เจ้าพ่อเขาตกเป็นเทพที่มีความศักดิ์สิทธิ์ คือ ผู้ใดศรัทธาแล้วมาไหว้ขอพร ให้ความคุ้มครอง รวมทั้งให้โชคลาภทำมาค้าขึ้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน”
เรื่อง / ภาพ ไตรเทพ ไกรงู

http://www.komchadluek.net/detail/20110204/87800/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%82%E0%B8%8A%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88...%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%84%E0%B8%A4%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1..html

.