กลุ่มชนคนดูดวง

ดวงนักปฏิบัติหมายถึงคนที่เกิดมาเพื่อสร้างบุญกุศลครับ เพื่อการแสวงหาความเจริญในการปฏิบัติตนให้พ้นจากห้วงทุกข์ อีกนัยหนึ่งคนกลุ่มนี้มักมีกรรมมามากด้วย จะเขียนไว้ในห้องเรียนโหราศาสตร์นะครับ อีกอย่างนะครับ ไม่แนะนำให้ไปตามสำนักทรงต่างๆ เนื่องจากการไปสำนักทรงแล้วเขาอาจมีวิธีผูกจิตผูกใจคุณทำให้คุณอยากไปแล้วไปอีก หากคุณไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเขาแล้วนับว่าดีครับ

ส่วนโลกียวิสัย คือ การติดอยู่ในสิ่งอันเป็นที่บันเทิงใจ ติดกับความสุขทาง รูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัสอันชอบใจ เป็นคนธรรพ์ รักความสนุกสนาน รักความสบาย

 

แสดงว่าคุณไม่ได้อ่านตั้งแต่กระทู้แรกนะครับ แต่ไม่เป็นไร เสขบุคคลเป็นคนใจดีครับ ดูอย่างที่เห็นเบื้องต้น เสาร์นั้นเป็นวิตกจริตอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าไม่อยากจะคิดมากก็ตาม แต่มันเป็นอะไรที่สมองมันไม่ว่างเอง คิดนั่นคิดนี่ แล้วลืมยากด้วยนะครับ หากใครทำอะไรๆให้เกิดเสียความรู้สึกละก็ จำไว้นานเลยละครับ แล้วจะดูดวงให้นะครับ

ดวงกำเนิดของแต่ละท่าน กลุ่มชนคนดูดวงให้เกียรติถือเป็นความลับ จึงไม่อยากมาเปิดเผยไว้ ไว้บนกระดานครับ คนสมัยก่อนๆเขาหวงดวงมากนะครับ เนื่องจากอาจนำไปทำไสยศาสตร์ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่บอกวันเดือนปีเกิดกันง่ายๆนะครับ จึงใช้วิธีส่งทางด้านข้อความส่วนตัว แต่ส่วนใดที่ผมนำมาเขียนนั้น เกิดจากคำถามของแต่ละท่าน สิ่งใดพอเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม เป็นประโยชน์ทางธรรมะอยู่บ้าง ผมก็จะนำขึ้นมาวางไว้ให้เพื่อนๆได้อ่านกันไปด้วยครับ

 

เศรษฐีขี้เหนียวกับยาจกเข็ญใจ

อยากถามเพื่อนๆว่า "เศรษฐีขี้เหนียวกับยาจกเข็ญใจ" ต่างกันยังไงครับ ???

 

การสวดมนต์

เรื่องของการสวดมนต์ ไม่ว่าจะไปหาหมอดูคนไหนๆก็ให้เราไหว้พระสวดมนต์ แล้วสวดอย่างไรจึงจะได้อานิสงส์มากๆครับ
๑ ต้องมีศรัทธาในคุณ(ความดี)ของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ก่อนเป็นอันดับแรก
๒ มีศีลเป็นพื้นฐาน คือ อาราธนาศีลก่อน ตั้งใจด้วยนะครับว่าจะไม่ละเมิดศีลที่ตนเองปฏิญาณไว้
๓ ขณะที่สวดต้องมีสมาธิอยู่กับตัวอักษร ไม่คิดออกไปข้างนอก คุณเคยร้องเพลงในใจไหมครับ อย่างนั้นแหละ ในใจร้องเพลงอย่างไร ปากก็ร้องออกมาพร้อมๆกับใจ การสวดมนต์ก็เช่นกัน ต้องให้ทันกันทั้งในใจและเปล่งเสียงออกมา ให้จิตเป็นสมาธิให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
๔ หากรู้ความหมายของบทสวดมนต์ได้จะยิ่งดีมากครับ บทสวดมนต์ต่างๆมีความหมายทุกบททุกคาถา แต่เป็นภาษาบาลีเราจึงไม่เข้าใจ หากมีโอกาสควรหาความหมายของบทสวดมาศึกษา อ่าน จะได้รู้ว่าทำไม? ที่มาของคาถา? แปลว่าอะไร?
เช่น คาถาโพชฌงค์ปริตร คนส่วนมากบอกว่าสวดแล้วจะหายป่วย จริงๆแล้วการที่ฟังสวดก็ดี สวดเองก็ดี คนที่ป่วยนำเอาหลักธรรมนั้นมาพิจารณาแล้วจะหายจากโรคได้เช่น

สติ (สติสัมโพชฌงค์) คือ มีจิตอยู่กับการรู้เท่าทันอารมณ์ ไม่หลงลืมสติ ไม่ฟุ้งไปกับอาการทางร่างกาย

ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ ความสงบทางกาย ระงับทุกข์เวทนาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

ปีติสัมโพชฌงค์ ความอิ่มเอิบใจ ดังนั้นคนที่เจริญปีติสัมโพชฌงค์ จึงหายป่วยได้เร็ว เพราะหากคนที่มีสภาพจิตใจดี อาการป่วยต่างๆจะหายเร็วกว่าคนที่หมดกำลังใจจริงไหมครับ


ดังนั้นหากเรารู้ความหมายของบทสวด แล้วๆนำเอาหมวดธรรมะนั้นไปเจริญ ผลย่อมเกิดมากกว่าการสวดแบบนกแก้วนกขุนทองนะครับ


หากตอนนี้ยังไม่รู้ความหมายก็ยังไม่เป็นไร ให้สวดด้วยความเคารพ สำรวมกาย วาจา และใจให้เป็นหนึ่ง เป็นสมาธิให้มากเท่าที่จะทำได้ ผลจะทำให้พระคาถาเกิดความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นได้นะครับ

จิตฺเตน นียติ โลโก จิตฺเตน ปริกสฺสติ
จิตฺตสฺส เอกธมฺมสฺส สพฺเพว วสมนฺวคู

กุศลจิตย่อมนำสัตวโลกไปสู่สุคติภูมิ อกุศลจิตย่อมฉุดคร่าสัตวโลกให้ไปสู่อบายภูมิ
สัตว์ทั้งหลายย่อมมีปกติเป็นไปตามอำนาจแห่งจิต​

• 

 

ลองตอบดูนะครับ อานิสงส์อาจจะได้เป็นเศรษฐีคนหนึ่งในอนาคตนะครับ

 

ขออนุญาติตอบด้วยปัญญาอันน้อยนิด ผิดถูกไม่ว่ากันนะคะ

เศรษฐีขี้เหนียว คือ คนที่มีเงินมีทองแต่ไม่รู้จักแบ่งปัน ให้ทานคนยากคนจน

ยาจกเข็ญใจ คือ คนที่มีเงินเท่าไหร่ก็เอาไปทำบุญจนหมด จนเป็นหนี้เป็นสินก็ยอม จนต้องกลายเป็นยาจก
แล้วที่เข็ญใจด้วยก็คงจะเป็นเพราะคิดว่าทำไมทำบุญไปจนหมดเนื้อหมดตัว ก็ยังไม่ได้ดีรึป่าวคะ เหอๆ เดาเอาอ่าคะ

รอฟังเฉลยนะคะ ขอบพระคุณอย่างยิ่งค่ะ

 

มีอีกอย่างนะครับ เวลาสวดนั้นให้คุณคิดเหมือนหนึ่งว่ามีเทวดามานั่งฟังการสวดมนต์ของคุณด้วย สวดให้เสียงไพเราะๆนะครับ (กุศโลบายในการทำจิตครับ ทำให้ความตั้งใจของเราดีขึ้น มีความเพียรมากขึ้น มีสมาธิมากขึ้น )เทวดาท่านชอบฟังสวดมนต์อยู่แล้วหากเหตุสมควรแก่ผลท่านก็มา หากท่านมา ท่านก็จะอำนวยพรให้ชีวิตคุณและครอบครัวมีความสุข หากไม่เกินวิสัยกฎของกรรมนะ

 

ดูดวงการกุศล

ขอประชาสัมพันธ์เรื่องการดูดวงการกุศล กลุ่มชนคนดูดวงจะไปออกงานการกุศลที่ วัดผ่องพลอย ซ. ลาซาล ๔๖ วันอาทิตย์ที่ ๑๕ พ.ค.นี้เวลาประมาณ ๑๐ - ๑๖ น. หากเพื่อนๆท่านใดสนใจไปทำบุญร่วมกันก็ขอเชิญนะครับ 087-080-8622
กลุ่มชนคนดูดวงไปช่วยอาจารย์ ดร.ทวีศักดิ์ (ชมรม ศินารา) รายได้ทำบุญครับ

 

บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ

บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ
ช่องทางในการทำกุศล ๑๐ อย่าง
บุญกิริยาวัตถุ หมายถึง ที่ตั้งแห่งการทำบุญ หนทางทำความดี​

๑. บุญสำเร็จได้ด้วยการบริจาคแบ่งปัน (ทานมัย) คือการเสียสละทรัพย์ สิ่งของ เงินทอง ของมีค่า การสละซึ่งปัจจัย ๔ คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค เป็นต้น การให้เป็นการกำจัดความตระหนี่หวงแหน การให้เป็นการฝูกมิตร ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ดังนั้นการให้ต้องให้ด้วยจิตคิดจะให้ เพื่อให้เขามีความสุข หลังจากการให้แล้วไม่ควรมีใจเศร้าหมองในภายหลัง ทานเป็นเครื่องกำจัดกิเลสส่วนหยาบของขันธสันดารของเรา การให้ทานย่อมเกิดอานิสงส์ ทำให้ไปเกิดในสวรรค์ เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ย่อมมากไปด้วยทรัพย์เครื่องอำนวยความสะดวก ​

๒. บุญสำเร็จได้ด้วยการรักษาศีล (สีลมัย) คือการตั้งใจรักษาศีล และการปฏิบัติตนไม่ให้ละเมิดศีล ศีลเป็นการขจัดกิเลสในส่วนที่ละเอียดขึ้น การไม่ทำให้คนอื่น สัตว์อื่น ทรัพย์สมบัติผู้อื่น ลูกเมียผู้อื่น ให้เดือดร้อนเสียหาย การเป็นคนมีอ่อนโยนไม่กล่าวคำไม่สุภาพ หยาบคาย โกหก การดื่มสุราเป็นเหตุแห่งการทำผิดศีลทั้งหมด คนที่ขาดสติเพราะดื่มสุราย่อมฆ่า ลักทรัพย์ ผิดกาเม กล่าวเท็จได้ทุกประการ ดังนั้นบุญข้อนี้มีอานิสงส์ คือไม่ทำชั่วทางกายกรรม วจีกรรม ศีลย่อมนำผู้ปฏิบัติให้เกิดแต่ในสุคติภูมิ มีวรรณงาม มีทรัพย์มาก มีร่างกายครบบริบูรณ์และมีสติสัมปชัญญะดี ไม่เป็นบ้า ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน การรักษาศีลจึงมีอานิสงส์มากครับ แม้ศีล ๕ ยังทำให้บรรลุพระนิพพานได้ การรักษาศีลจึงได้ชื่อว่าความเป็นผู้ไม่เบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่น​

๓. บุญสำเร็จได้ด้วยการภาวนา (ภาวนามัย )คือการอบรมจิตใจให้พ้นจากอำนาจ ราคะ โทสะ โมหะ มีสมถภาวนา วิปัสสนาเป็นต้น บุญในข้อนี้เป็นการยกระดับจิตใจของผู้ปฏิบัติให้สูงขึ้น ทานเป็นพื้นฐานของความสละสิ่งอันเป็นเครื่องยึดถือ กังวล ศีลเป็นการไม่เบียดเบียน เมื่อให้ทานดีแล้ว มีศีลอันมั่นคง ไม่ขาด ไม่ด่าง ไม่ทะลุ ย่อมทำให้การเจริญสมาธิมีผลดี การเจริญภาวนาย่อมเกิดปัญญาเห็นแจ้งในอริยสัจจธรรม ๔ ประการ เป็นการตัดภพตัดชาติ อานิสงส์ย่อมไปเกิดในพรหมโลก มีอายุยืนนาน เมื่อได้เกิดเป็นมนุษย์จะประกอบด้วยปัญญา มีจิตเมตตา มีจิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน​

๔. บุญสำเร็จได้ด้วยการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ (อปจายนมัย) คือการให้ความเคารพต่อผู้ควรเคารพ มีพ่อแม่ ครูอาจารย์ เป็นต้น ต่อผู้ที่มีพระคุณ ต่อผู้ที่มีศีลมีธรรม การแสดงความอ่อนน้อมต่อผู้อื่นเป็นจริยาที่น่ารัก ย่อมเป็นเหตุให้ผู้นั้นเกิดมาเป็นคนมีศักดิ์ มียศ มีชื่อเสียง มีคนนับถือ ให้เกียรติ เชื่อฟัง ​

๕. บุญสำเร็จได้ด้วยการขวนขวายในกิจการที่ชอบ (เวยยาวัจจมัย) คือ การกระทำสิ่งที่เป็นคุณงามความดี ที่เกิดประโยชน์ต่อคนส่วนรวม การอำนวยความสะดวกให้ผู้อื่น การช่วยเหลือในกิจของประเทศ สังคม ถ้าช่วยในทางพระพุทธศาสนาก็โดยการชักชวนบุคคลให้มาประพฤติปฏิบัติธรรม มีทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น ​

๖. บุญสำเร็จได้ด้วยการให้ส่วนบุญ (ปัตติทานมัย) คือ การอุทิศส่วนบุญกุศลที่ได้กระทำไว้ นั่นเอง เมื่อได้ทำบุญแล้ว ก็ยังมีใจยินดีที่จะทำให้ผู้อื่นมีความสุขไปด้วย การให้ส่วนบุญเป็นเมตตาอย่างหนึ่ง ดังนั้นก็กรวดน้ำจึงจัดอยู่ในบุญข้อนี้ ​

๗. บุญสำเร็จได้ด้วยการอนุโมทนา (ปัตตานุโมทนามัย) คือ การได้ร่วมอนุโมทนาในความดีที่ผู้อื่นได้ทำ การมีใจพลอยยินดีร่วมกับผู้อื่น จัดอยู่ส่วนของ มุฑิตาจิต การมีใจยินดีกับผู้อื่นนี้เป็นการกำจัดตัวริษยาในตัวของเรา หากเราไม่มีบุญข้อนี้จะทำให้กิเลสริษยากำเริบ ดังนั้นหากเราเห็นคนทำความดีก็ควรมีโยนิโสมนสิการในใจว่า สาธุๆๆ​

๘. บุญสำเร็จได้ด้วยการฟังธรรม (ธัมมัสสวนมัย) คือ การตั้งใจฟังธรรมะ การอ่านหนังสือธรรมะ ทำให้บรรเทาความสงสัยและทำความเห็นให้ถูกต้องยิ่งขึ้น จนเกิดปัญญาหรือความรู้ อานิสงส์ของการฟังจึงทำให้เกิดปัญญา ทำให้เห็นถึงความเป็นไปตามกฎแห่งกรรม เห็นถึงประโยชน์ในการทำบุญ และเห็นแจ้งในมรรคผลนิพพาน ​

๙. บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม (ธัมมเทสนามัย) คือ การแสดงธรรม หรือแนะนำการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าแก่ผู้อื่น การบอกหรือสอนให้ผู้อื่นเว้นการทำบาปทุจริตทั้งปวง ให้ผู้อื่นตั้งตนอยู่ในความเป็นคนดี มีศีล สมาธิเป็นต้น ​

๑๐. บุญสำเร็จได้ด้วยการทำความเห็นให้ตรง (ทิฏฐชุกัมม์) คือ ความเข้าใจในเรื่อง บาป บุญ คุณ โทษ สิ่งที่เป็นแก่นสารสาระหรือที่ไม่ใช่แก่นสารสาระ ทางเจริญทางเสื่อม สิ่งอันควรประพฤติสิ่งอันควรละเว้น ตลอดจนการกระทำความคิดความเห็นให้เป็นสัมมาทิฏฐิอยู่เสมอ ต้องเชื่อในกรรมและผลของกรรม ทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว (ไม่ใช่พูดแบบเขาว่าทำดีได้ดีมีที่ไหนทำชั่วได้ดีมีถมไป อันนี้ไม่ควรแม้แต่พูดนะครับ)​

 

ดังนั้นการทำบุญของเรา จึงไม่ควรพอใจอยู่กับการให้ทานเพียงอย่างเดียว ควรประกอบด้วยบุญอย่างอื่นๆด้วยนะครับ อานิสงส์จะได้เกิดกับตัวเราครบองค์ คือมีทั้งทรัพย์เครื่องอำนวยความสะดวก ปัญญาทั้งทางโลกและทางธรรม แต่สุดท้ายนะครับ แม้กุศลก็อย่าได้ติดในกุศล แม้บาปเราก็ไม่ติดยึดในบาป บุญกิริยาวัตถุเป็นเหตุให้เกิดกุศลที่ดีงาม เมื่อมีกุศลเป็นทุนของชีวิตแล้ว ความสุขต่างๆอันพึงมี พึงได้ พึงเป็น ก็จะเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยของมันเองนะครับ

 

เรื่องราวเศรษฐีขี้เหนียวเสขบุคคลมีตัวอย่างจะเล่าให้ฟังหลายคนเลย

เอาเป็นว่าความแตกต่างระหว่างความเป็นเศรษฐีกับยาจกก่อนนะครับ

ที่แตกต่างเป็นเพราะ เศรษฐีนั้นมีทรัพย์สินเงินทองมาก มีวัตถุกามมาก(สิ่งที่เป็นความน่ารื่นรมย์ด้วย รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส) มีเครื่องอำนวยความสะดวกให้มากกว่าคนจน ส่วนคนจน ไม่มีเงิน ไม่มีข้าวของเครื่องใช้ แม้แต่อาหารการกินก็ไม่ดี นั่นเป็นเพราะผลแห่งทานกุศลที่เขาได้ทำไว้ จึงส่งผลให้คนที่ให้ทานเกิดมามีทรัพย์มาก ส่วนคนที่เกิดมายากจนเพราะไม่ได้ทำบุญให้ทาน เป็นคนตระหนี่ จึงเกิดมาหาทรัพย์ได้ยาก อดอยากต่างๆ เคยได้ยินคำว่าปีศาจคลุกฝุ่น ไหมครับ เกิดมาหน้าตาอัปลักษณ์ จนแสนจน


ส่วนที่ว่าเหมือนๆกันเพราะว่า การเป็นอยู่ของเศรษฐีขี้เหนียวนั้น จะกินก็ดี จะใช้สอยก็ดี เหมือนคนจน ไม่กล้ากินกล้าใช้ เก็บเงินเหมือนตัวปลวกสร้างรัง การใช้จ่ายเขาเปรียบว่าเป็นเหมือนยาหยอดตา ใช้ทีละหยดๆมันก็ยังหมด คนที่เป็นเศรษฐีขี้เหนียว ไม่ทำบุญ ไม่ให้ทาน ความตระหนี่ หวงแหนไม่แบ่งปัน นี่เป็นกรรมอย่างหนึ่ง มีเงินแทนที่จะมีความสุข

"สุขเกิดแต่การได้ใช้จ่ายทรัพย์"
​

สุขที่เกิดเป็นเศรษฐีคือการได้ใช้จ่ายทรัพย์ มีทรัพย์ให้อำนวยความสะดวกต่างๆ หากมีแล้วไม่ได้ใช้ทรัพย์มาอำนวยความสุข ความสบายให้แก่ตนเอง ไม่ได้ทำประโยชน์ให้แก่ตนเองและสังคม มีเงินก็เหมือนไม่มีครับ


คราวหน้าจะเอาเรื่องเศรษฐีขี้เหนียวมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ

 

รอฟังต่อนะคะ ขอบคุณค่ะ

 

อิทธิพลจากตัวเลข

ขออนุญาต คั่นรายการด้วยเรื่องอิทธิพลจากตัวเลขก่อนสัก ๑ หัวข้อนะครับ เดี๋ยวพี่ๆทีมงานดูแลเวปจะบอกว่า เสขบุคคลเขียนผิดห้องหรือเปล่า ห้องดูดวงนะไม่ใช่ห้องพุทธศาสนา (ล้อเล่น)

ตัวเลขทุกตัวมีความหมาย มีอิทธิพลกับผู้ที่ใช้เลขนั้นๆ หรือมีเลขนั้นเป็นปัจจัย เป็นนิมิตในการพยากรณ์ ใช้ได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะดูนาฬิกา แล้วเอาตัวเลขมาทาย ยังแม่เลยนะครับ เอาไว้ดูนิสัยใจคอคนก็ได้ เอาบัตรประชาชนมาดูว่าคนผู้นี้นิสัยยังไง บ้านนี้คนในบ้านเป็นอะไร รถคันนี้ใครๆมาขับแล้วมันเป็นยังไง

จะมานำเสนอให้เพื่อนได้เก็บไว้ใช้ดูนะครับ ไม่ใช่ให้ผมมาดูให้นะครับ


๑ หมายถึง มีนิสัยรักยศ รักศักดิ์ศรีต้องดูดี สง่าผ่าเผย มีมานะและถือตัว หยิ่งทระนง ใจร้อนเป็นคนโกรธง่ายหายเร็วทะเยอทะยาน มักใหญ่ใฝ่สูง รักอิสระรักพวกพ้องโอบอ้อมอารีฆ่าได้หยามไม่ได้ ไม่ยอมให้ใครเห็นความบกพร่องของตัวเองหมดเปลืองเท่าไรไม่ว่า แต่เอาศักดิ์ศรีไว้ก่อน สติปัญญาเฉลียวฉลาดมีความเป็นผู้นำหรือเป็นหัวหน้า ใจร้อน
ด้านเสียเป็นคนเจ้าอารมณ์ เจ้าโทสะ โมโหร้าย หยิ่งจองหอง ถือตัว ถือดี ใจร้อนไม่ฟังใคร ชอบดูถูกดูหมิ่นคนอื่น เอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่


๒ หมายถึง รักสวยรักงาม สุภาพอ่อนโยนดูเรียบร้อยน่ารัก มีเสน่ห์ มีจริตมารยา มีเมตตาธรรม ขี้สงสาร ชอบช่วยเหลือผู้อื่นใจน้อยแสนงอน อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่ายไปตามสภาวะแวดล้อม โลเล รักง่ายหน่ายเร็วขาดความเชื่อมั่น เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ชอบสมาคม ชอบประดิษฐ์ ชอบสอนผู้อื่น
ด้านเสียอ่อนไหวอ่อนแอ หูเบาเชื่อคนง่าย ตกอยู่ในอิทธิพลของคนอื่นได้ง่าย ตื่นตกใจง่ายขลาดกลัวคล้ายกับเป็นโรคประสาทอ่อนๆ ใจน้อยแสนงอนเจ้าระเบียบเกินกว่าเหตุ


๓ หมายถึง เป็นคนทำอะไรรวดเร็ว มักไม่มีการวางแผนการร่วงหน้าก่อนคิดปุ๊บทำปั๊บ ใจคอนักเลง กล้าหาญกล้าได้กล้าเสีย ชอบการผจญภัย ขยันขันแข็ง ทำมากกว่าพูด ทำอะไรจริงจัง
ด้านเสียขาดความยับยั้ง ขาดความยั้งคิดเมื่อได้แสดงออก ใจร้อน ใจเร็ว โทสะอารมณ์รุนแรง โมโหร้าย ไม่ฟังใคร ไม่มีเหตุผลชอบหาเรื่อง วิวาท ถูกโทสะครอบงำได้ง่าย ใจคอนักเลง


๔ หมายถึง พูดเก่งปากกล้า คารมย์คมคาย อรรถาธิบายเก่ง นักโฆษณามีความสามารถในการคิดหาเหตุผลดีมีปฏิภาณในการพูด รักสงบและสันติสุข มีความเป็นธรรมเป็นผู้ฉลาดในหลักวิชาการทุกแขนง นักบรรยาย มีความสามารถในการพูดโน้มน้าวจิตใจคน
ด้านเสียปากเสียพูดไม่เป็นมงคล พูดจาเหลวไหล ก่อศัตรูได้เพราะคำพูด ถูกหลอกเพราะเชื่อคนง่าย ศรัทธางมงาย


๕ หมายถึง เป็นคนเรียบร้อย มีกฎเกณฑ์กติกามากเป็นคนที่มีคุณธรรม-มีศีลธรรม ใครทำอะไรนอกกฎเกณฑ์ไม่ได้ มีเมตตากรุณาเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีอัธยาศัยไมตรี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ กตัญญูกตเวที รักเหตุผลซื่อสัตย์สุจริต ชอบอบรมสั่งสอน ชอบเสียสละ รักสงบ
[COLOR=red][B][U]ด้านเสีย[/U][/B][/COLOR][COLOR=black]ชอบอวดรู้ในสิ่งที่ตนรู้มาไม่ว่าจะรู้จริงหรือไม่รู้จริง ด้อยปัญญา อวดฉลาด[/COLOR][COLOR=black]([/COLOR][COLOR=black]โง่อวดฉลาด) ยกตนข่มท่าน เสื่อมคุณธรรมศีลธรรม ขาดความเห็นอกเห็นใจ[/COLOR][COLOR=black]ชอบซ้ำเติมผู้ที่ตกต่ำ ขาดเหตุผล ไม่ซื่อตรง [/COLOR]


[SIZE=5]๖ หมายถึง [COLOR=black]ความสุข ความบันเทิง ความรัก [/COLOR][/SIZE][SIZE=5][COLOR=black]กามารมณ์ เป็นดาวแห่งความสวยงาม อ่อนหวาน[/COLOR][COLOR=black]น่ารัก ร่าเริง แจ่มใส เจ้าชู้ทั้งออกหน้าออกตาและกรุ้มกริ่ม เป็นดาวเจ้าเสน่ห์[/COLOR][COLOR=black]มีจริต ทำให้ผู้คนหลงใหลได้ง่าย เป็นดาวโลกียวิสัย มักอยู่ในโลกแห่งรูป รส กลิ่น[/COLOR][COLOR=black]เสียง และสัมผัสที่น่าหลงใหล[/COLOR][COLOR=black] [COLOR=black]ชอบความบันเทิง ชอบแต่งตัว ชอบสังคมชอบความหรูหรา ชอบศิลปะ [COLOR=black]เป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่เอาทุกข์ไปให้ใครเห็น ทุกข์เก็บไว้ในใจคนเดียว[/COLOR][COLOR=black]เฮไหนเฮนั่นไปกับเขา แต่พอกับบ้านมานั่งร้องไห้คนเดียว คนเกิดวันศุกร์คือคนธรรพ์[/COLOR][COLOR=black]ชอบดนตรี เสียงเพลง ชอบของสวยๆงามๆ [/COLOR][/COLOR][/COLOR][/SIZE]
[SIZE=5][COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black][COLOR=red][B][U]ด้านเสีย[/U][/B][/COLOR][COLOR=black]มักชอบอิจฉา ริษยา ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย ผิวพรรณรูปร่างไม่งดงาม กิเลส โลภ โกรธ หลง [/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/SIZE][SIZE=5][COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black]อกหัก[/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/SIZE]
[SIZE=5][COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/SIZE]

[COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black][SIZE=5]๗ หมายถึง [COLOR=black]เป็นคนเจ้าทุกข์[/COLOR][COLOR=black]แบกโลกแบกทุกข์ คิดมาก วิตกกังวล คิดมาก (ปล่อยวางไม่เป็น) จู้จี้ ขี้บ่น[/COLOR][COLOR=black]มักเป็นคนขี้ระแวงไม่เข้าเรื่อง ไม่ไว้ใจใครง่าย เป็นเสือยิ้มยาก ต้องรับภาระต่างๆ[/COLOR][COLOR=black]เฉื่อยชา อืดอาด [COLOR=black]ไม่ชอบสังคม มักมีความหึงหวงรุนแรง [COLOR=black]เก็บอารมณ์[/COLOR][COLOR=black]ซ่อนความรู้สึก [COLOR=black]มีความพากเพียรพยายามสูง อดทน อดกลั้น [/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/SIZE][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]
[COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black][SIZE=5][COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black][COLOR=red][B][U]ด้านเสีย[/U][/B][/COLOR][COLOR=black]โทษทุกข์[/COLOR][COLOR=black]เศร้าโศก คิดมากจนเป็นโรคประสาท ฟุ้งซ่าน ขี้ระแวง ขาดความไว้วางผู้อื่นขลาด กลัว[/COLOR][COLOR=black]เงียบขรึมจนน่ากลัว ล่าช้า เฉื่อยชาจนดูเหมือนไม่มีชีวิตชีวา เป็นคนเจ้าทุกข์[/COLOR][COLOR=black]อมทุกข์ ไม่ลืมเหตุการณ์ที่ผ่านมาในชีวิต คิดทบทวน วนไปวนมา ไม่ชอบสังคม เก็บตัว[/COLOR][COLOR=black]จู้จี้ขี้บ่นจนน่ารำคาญ ถ้ามีอารมณ์โกรธจะรุนแรง หนักแน่น ห้ามปรามไม่อยู่[/COLOR][COLOR=black]ไม่เลิกรา พยาบาท[/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/SIZE][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]


[COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black][COLOR=black][SIZE=5]๘ หมายถึง [COLOR=black]มักเป็นคนเจ้าอารมณ์ ทำอะไรตามใจตนเอง[/COLOR][/SIZE][COLOR=black][SIZE=5]จิตใจไม่แน่นอน [COLOR=black]ขาดความคิดยับยั้ง หุนหัน ทำอะไรไม่ค่อยไตร่ตรอง คิดแล้วมักลงมือทำเลย ใจใหญ่[/COLOR][COLOR=black]ใจนักเลง กล้าได้กล้าเสีย กล้าเสี่ยง กล้าทดลอง ไม่กลัวใคร ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบ[/COLOR][/SIZE][COLOR=black][SIZE=5] [COLOR=black]ไม่ชอบให้ใครขัดใจ ชอบให้คนยกย่อง ยกยอ สรรเสริญ มุทะลุ บ้าบิ่น [/COLOR][/SIZE]
[COLOR=black][SIZE=5][B][COLOR=red][U]ด้านดี[/U] [/COLOR][/B][COLOR=black]มีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว เป็นผู้ที่มีจิตตานุภาพสูงและเข้มแข็ง มีความเฉลียวฉลาด[/COLOR][COLOR=black]มีสามารถในการชักชวนให้ผู้อื่นเชื่อและศรัทธา แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเก่งและแนบเนียน[/COLOR][COLOR=black]คิดเร็วทำเร็ว มีความคิดล้ำหน้าผู้อื่น กล้าได้กล้าเสีย รักการผจญภัย[/COLOR][COLOR=black]รักความยุติธรรมไม่กลัวอำนาจมืด[/COLOR][/SIZE]
[SIZE=5][B][COLOR=red][U]ด้านเสีย[/U] [/COLOR][/B][COLOR=black]ลุ่มหลงมัวเมา งมงาย หลงใหลง่าย ประมาท เจ้าเล่ห์ โกหก กระล่อน ปลิ้นปล้อน หลอกลวง[/COLOR][COLOR=black]ไม่ซื่อสัตย์ ไว้ใจมิได้ ฉ้อโกง บุ่มบ่าม วู่วาม ขาดความยั้งคิด ชอบเอารัดเอาเปรียบ[/COLOR][COLOR=black]โมหะจริต ไร้คุณธรรม[/COLOR][/SIZE]
[SIZE=5][/SIZE]
[SIZE=5][/SIZE]
[SIZE=5]๙ หมายถึง จิตวิญญาณ ธาตุแห่งการรับรู้ ความรู้สึก ความแปลกประหลาด พิสดาร เป็นคนแปลกๆ มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ไม่เหมือนใคร ทันสมัย [/SIZE]
[SIZE=5]ชอบทำตัวแปลกๆ ลึกลับ ไม่ชอบให้ใครรู้ประวัติความเป็นมา ชอบอวดฤทธิ์อวดเดช อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ชอบทำแต่ในสิ่งไม่คาดคิดคาดฝัน ชอบทำตนเป็นจุดเด่น ไม่ชอบตกอยู่ใต้อำนาจของใคร ฉลาดทันคน ชอบในทางเร้นลับ จิตศาสตร์ โหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ สมาธิภาวนาและสิ่งลึกลับ[/SIZE]
[SIZE=5]๙อยู่ร่วมกับดาวใดเท่ากับไปเสริมให้ดาวอื่นๆมีกำลังมากขึ้นด้วย[/SIZE]
[SIZE=5][/SIZE]

[SIZE=5]๐ หมายถึง [FONT=Cordia New][FONT=Verdana][SIZE=5]ความแปลกประหลาดได้ในทุกแง่ เป็นสิ่งลึกลับ เป็นสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติและวิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ทำอะไรผิดปกติคนธรรมดา ไม่เหมือนคนอื่น [/SIZE][/FONT][FONT=Cordia New][FONT=Verdana][SIZE=5]ศาสตร์ลึกลับ วิญญาณ ผี เวทมนต์ คาถาอาคม ไสยศาสตร์ อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ สิ่งแปลกประหลาด ๐ เป็นส่วนที่เสริมเรื่องการทำอะไรเหนือความคาดหมาย แปลกๆไม่มีใครเมือน นอกกรอป[/SIZE][/FONT] [/FONT]
[/FONT][/SIZE]
[SIZE=5]<O</O[/SIZE]
<O</O[/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]

 

ยกตัวอย่างให้ดูสัก ๑ ตัวอย่างนะครับ
เย็นวันหนึ่ง เวลา ๑๗.๕๘ น. น้องคนหนึ่งโทรมาถามว่ากระเป๋าตังค์หาย ทำไงดีพ่อหมอ ๆก็เลยจับ ร.ป.ภ (ไม่ใช่) จับเวลาในขณะที่ถูกถาม เป็นเวลา ๑๗.๕๘ น.
ผมเลยเอา ๗๕๘ มาใช้ในคำพยากรณ์
ถามไปว่าไปวัดมาหรือไปโรงเรียนมา (๕)
เธอไปรับลูกที่โรงเรียนมา แล้วก็เลยบอกว่าถ้าหายก็หายที่โรงเรียนนั่นแหละ
มันเกิดจากความหลงลืมสติ(๘)
แล้วเธอเอารถอะไรไปละ ?
เอารถยนต์ไปรับลูกมา
งั้นไปดูที่รองพื้นแถวๆคันเร่ง แถวพื้นดูนะมันอาจอยู่แถวๆนั้นก็ได้ (๗)
หนูหาหมดจนทั่วแล้ว
เออไปหาอีกทีก็แล้วกัน ให้ไปอธิษฐานขอพระก็แล้วกัน เผื่อจะเจอ(๕)
เวลาประมาณ สองทุ่มกว่าๆน้องเขาโทรมาบอกว่าเจอแล้วนะ มันไปหลบอยู่ใกล้เบรคเท้า จบแล้วครับ.......

 

ผมได้PMข้อความไปแล้วนะคับยังไงก็ขอรบกวนด้วยนะคับ

 

เอาเวลาที่ถามมาตอบเล่นก่อนไปนะ
๑๒๒
๑-๒เป็นคู่สามีภรรยา แสดงว่าอาจจะได้ข่าวดีเรื่องเนื้อคู่เร็วๆนี้นะครับ
แต่๒-๒มันบอกว่า ลังเลเป็นสองเท่า แสดงว่าช่วงนี้ค่อนข้างสับสนในชีวิต

 

ส่ง PM แล้วนะคะ ได้รับไม๊คะ รบกวนด้วยค่ะ

 

ขอให้ทุกท่านที่จะดูดวง ทำตามนี้นะครับ และตั้งคำถามมาด้วย ๓ข้อในการที่จะดูนะครับ

 

วันนี้ผมไปปล่อยปลาดุกมาห้ากิโล หลายสิบชีวิตอยู่นะครับ ขอให้เพื่อนชาวเวปพลังจิตได้บุญได้อานิสงส์กันด้วยนะครับ

ส่วนการไปดูดวงการกุศล ของกลุ่มชนคนดูดวง ที่วัดผ่องพลอย ก็เช่นกันนะครับ สิ่งใดที่เกิดจากการให้ธรรมะเป็นวิทยาทานในวันนี้ก็ขอให้ทุกๆท่านได้ผลบุญกันด้วยนะครับ

 

สาธุ สาธุ สาธุ ขอร่วมอนุโมทนาในบุญกุศลครั้งนี้ด้วยนะคะ