ทํายังไงดีครับ เมื่อ เราหลงอยู่ใน สมาธิจนโงหัวไม่ขึ้น

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เฝ้าดู, 3 พฤษภาคม 2011.

  1. อศูนย์น้อย

    อศูนย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +495
    ครับผม แล้ว สรุป ท่านควายสนาม กับนราสภา
    นี่คนเดียวกันไหมครับ ^^ ตรงนั้นก็คือ ตรงที่โจชน์กระทู้ตั่งนั่นและครับ^^
    ส่วนมากที่นั่งกัน ก็ไม่ได้ดูหรือกำหนดอยู่แล้ว ว่าจะไปไหน ถึงไหน หรือ คั้นไหน
    ก็ปล่อย ใจกับอารม์ ไห้เป็นไปตามสภาวะ ก็เท่านั้น
    ที่คุญ นราสภา ทำอยู่ก็แฮปปี้ดีแล้ว กระผม มิกล้าแนะนำหลอกครับ
    ผมมันผู้น้อย มิอาจหารสอนสั่งหลอกครับ ^^ พูดไปก็เพราะปัญญาของเรามันมีแค่นี้
    แค่ออกความเห็นนะครับ..... ผมก็อยากได้อารม์แบบคุญ นราสภานะ แฮปปี้แบบนั้น
    คงสุขดีแน่แท้ ตัวผมเองยังก้าวข้ามผ่านทุกข์ ยังไม่ได้เลย^^
    ...........ความทุกข์.........คือ........บ่อเกิดของปัญญา............^^
     
  2. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ควายสนาม เป็น กายหยาบของน้องเองค่ะ


    อย่าเรียกว่า สอน เลยค่ะ เพราะในทุกๆ โพส ของทุกๆคน น้องมองว่าเป็น เครื่องช้วย ผยุง จิตจะดีกว่า

    จะระดับใหน เเบบไหน ยังไง มันก็มีประโยชทั้งนั้นเเหล่ะค่ะ มันอยู่ที่เราจะไปจับตรงไหนมันขึ้นมาใช้ ขึ้นมาดม ขึ้นมากิน

    ดอกไม้ เมื่อหยิบขึ้นมาดม มันก็มีกลิ่นหอมสร้างความสดชื่น เบิกบาน
    ขี้หมา เอามาดม มันก็เหม็นชวนอ๊วก ฉนั้น เราก็ต้องเลือกวิธีที่จะปฎิบัติกับขี้หมาให้ดี โดยนํามากินเเทน อย่างน้อยก็ได้ วิตามิน ได้เเคลเซียม กันไปพอเป็นกระไส

    ฉนั้น เราควรจะต้องเลือกเอาว่า จะกิน หรือจะดมดี

    ขอบคุณค๊าาาา ขอให้เจริญในธรรม
     
  3. อศูนย์น้อย

    อศูนย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +495
     
  4. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    ...ท่าน...อุปมาว่า เหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน แต่นำมาใช้ประโยชน์ไม่เป็น สุขอยู่กับการสะสม..เหมือนมีน้ำอยู่เต็มตุ่ม(หรือเกือบเต็ม)ปิดฝาไว้..แต่ไม่รู้จักใช้น้ำในตุ่ม ไม่รู้วิธีเปิดฝาตุ่ม บางท่านต้องรอใพระพุทธเจ้าเปิด บางท่านรอคำสอนของพระพุทธเจ้าบอกถึงวิธีเปิด..บางท่านต้องหาวิธีเปิดเอง...

    สมถะ ได้กำลัง
    วิปัสสนา ได้ปัญญา
    สมถะ+วิปัสสนา ใช้กำลัง ให้ได้ปัญญา พิสูจน์คำสอนแห่งพระศาสดา
     
  5. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ที่ว่ามา



    อยากใช้ของที่มีอยู่ ให้เป็น เหมือนคนอื่นเขา บ้างจัง

    เฮ้อออ
     
  6. peerasaku

    peerasaku สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2006
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +12
    เห็นด้วยกะคุณนราฯ รู้ว่าหลงแต่ยังหลง ก็คือหลง อย่างง

    ถ้าลำบากหาทางออกไม่เจอ ก็ไปออกตรงทางเข้าสิครับ ง่ายๆ
     
  7. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    คุณนราสภา ผมก็เห็นคุณใช้อยู่บ่อยๆ นี่นา

    เดี๋ยวอวตารเป็นคนโน้นที คนนี้ที น่ะครับ :cool::cool::cool:
     
  8. pigba3

    pigba3 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +4
    แถมหน่อยนะแถมๆๆ ขายังอยู่หรือป่าวคะเวลานั่งหน่ะถ้าเป็นแบบนี้คงจะขาชาขาโอวัลติน
    ลองมาทำแบบอื่นดูบ้างก็ได้นะ นั่งมันเมื้อยๆๆขนาดนั่งสวดมนต้ที่บ้านยังเมื่อยเรย เพราะขาเจ็บแก่แร้วลูกบอกว่า แม่นั่งท่าที่สบายๆๆดีกว่านะแม่เพราะเราทำที่ใจไม่ได้ทำที่ร่างกาย
    เอาให้มันสบายที่สุดท่าไหนที่สบายที่สุดก็ท่านั้นแหละถ้ามันโงไม่ขึ้นก็นอนไปดู ลองนอนสมาธิดูหรือยังคะว่ามันเกิดมั้ย ดิฉันไม่มีท่าประจำ แต่ไม่สงวนลิขสิทธิ์คนเราจะเกิดสมาธิหรือไม่นั้นขึ้นอยู่ที่ใจสงบ ไม่ใช่ไม่เชื่อตามหลักการนั่งสมาธินะคะ เพราะดิฉันเป็นโรคปวดข้อแต่อยากนั่งสมาธิ ก็เบยเอาท่าที่ตัวเองคิดว่าสบายที่สุด เออมันก็มีสมาธิดีนี่ไม่จำเป็นจะต้องนั่งอย่างเดียวเรย ไม่ใช่ลบหลู่อะไรทั้งนั้นนะคะ แต่อยากให้ลองคิดดูหน่ะคะ สมาธิจะเกิด อยู่ที่ไหนคะ นั่นแหละแร้วแต่บุคคลคะ ใครชอบท่าไหนก็ตามสบายแต่ดิฉันชอบท่าที่สบายๆๆที่สุดถึงจะเป็นสุขและเต็มอิ่ม เพราะเราไม่กังวลว่าเมื่อย เวลาเมื่อยก็เปลี่ยนไปๆๆหรือว่าจะนั่งท่าเด้วพอดีก็ไม่ต้องเดินกันเพราะลุกไม่ขึ้นนั่งนานเกินไป เดือดร้อนคนอื่นอีกใช่มั้ยคะ ปวดขาๆๆช่วยดึงแม่ทีลูกอะไรอย่างนี้แหละคะ ลูกเรยถามแม่คือดิฉันคุยกะลูกนะคะ แม่ท่าสบายแม่คือแบบไหนแม่ก็เรยตอบท่านอนแหละลูกนั่นแหละแม่ ทำแร้วสบายใจไม่เดือดร้อนลูก บางที่ยังนอนไหว้พระเรยคะคุณ ก็นอนหลับดี มันอยู่ที่ตัวเรามากกว่า บางคนยังไม่รู้เรยกราบพระพูดว่าอะไร หัวถึงหมอนก็หลับแร้ว ถ้าสวดไม่ได้ดิฉันแนะนะคะ พุทธัง
    ธรรมมัง สังฆัง มาตาบิตุลา อาจาริยะคุนัง ญาตาคุนัง เทวตาคุนัง กษัตริย์ติยะคุนัง ปูเชมิ
    แค่นี้เราก็เจริญแร้วคะคู้นๆ แถมอีกอัน สัพเพ สัตตา อเวรา โหนตุ ต้องท่องนะโมมั้ยนั้นขึ้นอยูที่ตัวของคุณเอง ทำแร้วสบายก็ท่องทำแร้วไม่สบาย มันยาวไปๆๆก็เอาสั้นๆๆ แค่ พ่อ แม่
    และญาติทั้งหลาย คุณครูอาจารย์ เทวดาฟ้าดิน และพระผู้เป็นพ่อ แม่ และ พี่น้อง แห่งแผ่นดินไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ให้เราเกิดบนผืนแผ่นดินนี้ ที่มีทุกสิ่งทุกอย่าง อย่าเป็นคนลืมตัว วัวลืมตีนนี่คือคำสุภาษิต ที่นับวันก็หายไปๆๆ รวมถึงสัตว์ต่างๆๆที่มีคุณค่ากับเรา และถ้าใครเชื่อก็เจ้ากรรมและนายเวร หรือเจ้าหนี้และลูกหนี้นั่นแหละ 555+^^
     
  9. อัฐิ

    อัฐิ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    สัมมาสมาธิ คือ ฌาน ๑ ๒ ๓ ๔

    พุทธดำรัสตอบ “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนแม่น้ำคงคาไหลไปสู่ทิศตะวันออก หลั่งไปสู่ทิศตะวันออก บ่าไปสู่ทิศตะวันออกฉันใด ภิกษุเจริญพอกพูนซึ่งฌาน ๔ ย่อมเป็นผู้น้อมไปสู่นิพพาน โน้มไปสู่นิพพาน โอนไปสู่นิพพานฉันนั้น....
    “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฌาน ๔ อันภิกษุพึงเจริญเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อกำหนดรู้ เพื่อความสิ้นไป เพื่อละสังโยชน์อันเป็นส่วนเบื้องบน ๕ (คือ รูป ราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ อวิชชา) เหล่านี้แล”

    ฌานสังยุต
     
  10. อัฐิ

    อัฐิ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    อานิสงส์สติปัฏฐาน ๔

    ปัญหา การเจริญสติปัฏฐาน ๔ มีอานิสงส์อย่างไรบ้าง ?

    พระอนุรุทธะตอบ “ ดูก่อนผู้มีอายุทั้งหลาย เราย่อมแสดงฤทธิ์ได้หลายอย่าง คือ คนเดียวเป็นหลายคนก็ได้ ฯลฯ ใช้พลังทางกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้... เราย่อมได้ยินเสียง ๒ ชนิด คือ เสียงทิพย์และเสียงมนุษย์ ทั้งที่อยู่ไกลและใกล้ ด้วยทิพยโสตอันบริสุทธิ์ล่วงโสตของมนุษย์.... เราย่อมกำหนดรู้ใจของสัตว์อื่น ของบุคคลอื่นด้วยใจ.. เราย่อมรู้ฐานะที่เป็นไปได้ว่าเป็นไปได้และฐานะที่เป็นไปไม่ได้ว่าเป็นไปไม่ได้ ตามความเป็นจริง... เราย่อมรู้วิบากของการกระทำกรรม ทั้งที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน โดยฐานะ โดยเหตุตามความเป็นจริง.... เราย่อมรู้จักปฏิปทาอันให้ถึงประโยชน์ทั้งปวงตามความเป็นจริง... เราย่อมรู้โลกที่มีธาตุต่าง ๆ มากมาย ตามความเป็นจริง..เราย่อมรู้อุปนิสัยต่าง ๆ ของสัตว์ทั้งหลาย ตามความเป็นจริง...เราย่อมรู้ความยิ่งและความหย่อนแห่งอินทรีย์ของสัตว์อื่น คนอื่น ตามความเป็นจริง... เราย่อมรู้ความเศร้าหมอง ความบริสุทธิ์ และการเข้าออกแห่งฌาน วิโมกข์ สมาธิ และสมาบัติ ตามความเป็นจริง...เราย่อมระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมาก เราย่อมเห็นหมู่สัตว์ที่กำลังจุติและกำลังอุบัติ.... เราย่อมกระทำให้แจ้ง ซึ่งเจโตวิมุติปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้...เพราะได้เจริญ ได้พอกพูนซึ่งสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้...."

    อิทธิสูตร
     
  11. อศูนย์น้อย

    อศูนย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +495
    ชอบจัง กับ บทความของท่าน ผมคิดว่าคนคนที่ไช้น้ำในโอ่งไม่เป็น คนนั้นนะ
    ผมว่าเขาไช้เป็นนะ โอ่งของเขา น้ำของเขา เขาเป็นคนซื้อโอ่ง เขาเป็นคนตักน้ำ
    ใส่โอ่ และเขาก็ปิดฝาโอ่เอง แต่ที่ไม่ไช่ก็คงจะ.....
    1 เสียดายขี้เกียดตักน้ำมาใส่---------------->ยังถืออยู่เพราะเสียดาย
    2 โอ่งมีหลายใบเพราะกันตุนไว้ไช้ตอนจำเป็น--->อันนี้รู้แล้วว่ายังไม่ถึงเวลาใช้น้ำในโอง แต่เอาโงที่มีน้ำไม่ได้ไช่ อวดชาวบ้าน
    3 มีน้ำไช้หลือเฟือ ทั้งบาดาล ทั้งปะปา------->เสียดายโอ่งไม่รู้จะเอาโอ่งไปทำอะไรเลยใส่น้ำปิดฝามิดชิดคงกลัว ยุงเข้าไปใข่ สงสัยจะดองน้ำไว้กิน ตอนแก่แน่ๆ
    4 มีจิตเมตาจะเอาโอ่งที่มีน้อไม่ได้ไช้พวกนี้----->บอกป่าวประกาศ ไห้ชาวบ้านแถวนั้นที่ไม่ค่อยมีน้ำไช้ ไห้มาเอาโอ่งน้ำไปไช้ ชาวบ้านบางคนก็ถ่ายน้ำออกแล้วก็เอาโองไปไช้ บางคนก็บอกว่า มันบ้าป่าววะโอ่ใบเท่ารถแถมมีน้ำไห้ตูไปแบกมาไช่ <--- ไอ นี่มั่นโง่ไม่มีปัญญาเอาโอ่งกลับบ้าน ชาวบ้านนะร้อยพ่อพันแม่ คนเรา คิดไม่หมือนกัน เข้าใจต่างกันจริตไม่หมือนกัน ปัญญามากน้อยต่างกัน ทุกสิ่งมันเป็นของกลาง มันอยู่ของมันแบบนั้น มันเป็นของมันแบบนั้น
    ใจเรา จิตเรา ตะหากที่ไป ปรุงต่างๆนาๆว่าแบบนั้นแบบนี้ ... เห้อๆๆๆ เข้าใจกับมันเถิดครับพี่น้อง ...
    อื่ม แล้วอีกอย่าง คุญพี่ นราสภา มีกายหญาบ เป็นท่านควายสนาม โอ่สุดยอดมากเลยครับ ว่างๆ สอนผมแบ่งภาค แบบนั้นมั่งได้ไหมครับ ผมว่าพี่ นราสภา เป็นคนที่เผยธรรมที่ไม่หมือนใคดีนะครับ สร้างเหตุขึ้นมา ไห้บรรนดาเหล่า บันดิษ ออกความเห็นลับปัญญาตามสำนวรโวหารของแต่ละบุคคล เป็นสิ่งที่ดีมากเลยครับแบบนี้ น่ารักแบบนี้ ผมตามจีบถึงหน้าบ้านแน่ แต่น่าเสียดาย ผมเกิดช้ากว่าพี่ นราสภาไปนิด คงไม่มีวันพบเจอเป็นแน่แท้.....แล้วอยากรู้จังครัยบ้างหลอ ที่จักรู้ ว่าน้ำในโอ่ง เค็ม หรือยัง ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...