อึ้ง! ลำนำชีร้อนจัด ต้มไข่จนเกือบสุก

ตามปกติแหล่งน้ำต่างๆ มันจะเกิดการหมักหมมของอินทรีย์สารใต้ท้องน้ำ และได้แก๊สต่างๆออกมา แต่มันก็ไม่ได้เกิดความร้อนจนถึงขนาดต้มไข่ได้ อย่างมากก็เห็นเป็นฟองอากาศผุดขึ้นมา

จากข่าว บอกว่าพึ่งมีเหตุเช่นนี้ขึ้นมา มันก็แปลกและน่าติดตามอย่างยิ่ง

 

เรื่องภูเขาไฟ ที่สุรินทร์ตอนแรกผมเกรงวนอุทยานเขาพนมสวายมากกว่า แต่เกิดเหตุผิดปกติใต้น้ำชี คงเหมือนกันครับ

 

เอ..หรือว่าเปลือกโลกบางลงครับ

 

หรือว่า โลกเราหมุนแกว่งๆ คล้ายลูกข่างที่กำลังจะหมแรง

หรือว่า โลกเรามีขนาดเล็กลง แต่มวลยังเท่าเดิม ของเหลวจึงปลิ้นออกมา

 

ของเหลวจึงปลิ้นออกมา....555+ เอาแค่ปลิ้นๆพอนะ
อย่าให้ถึงกะตูมตามเล้ย เจ้าประคู้ณ.......>.<"

 

สธส.คาดปรากฏการณ์น้ำร้อนที่สุรินทร์เกิดจากแก๊สมีเทน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 มิถุนายน 2554 12:52 น.



เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.เมือง และเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.สุรินทร์ ตรวจสอบและเก็บตัวอย่างน้ำในแม่น้ำชีท้ายบ้านพลวงคุ้มโคกช้าง ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์ ไปตรวจสอบ หลังพบว่า น้ำมีความร้อนและมีกลิ่นฉุนผิดปกติมากว่า 3 วัน
นายเอกรัตน์ อังคสิทธิ์ นายอำเภอเมือง พร้อมผู้นำท้องถิ่น เร่งทำความเข้าใจ พร้อมขอความร่วมมือชาวบ้านใน จ.สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ที่ยังทยอยลงไปพิสูจน์ความร้อนของน้ำด้วยการลงไปแช่อย่างต่อเนื่อง และบางคนนำน้ำไปดื่ม เพราะเชื่อว่า อุณหภูมิน้ำที่สูงขึ้นอาจเป็นน้ำแร่ และอาจช่วยรักษาอาการปวดข้อและกระดูกได้ โดยแนะนำชาวบ้านให้รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน เพราะเพิ่งพบปรากฏการณ์น้ำร้อนอีกจุดหนึ่ง ซึ่งห่างจากจุดเดิมประมาณ 500 เมตร
นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและพิบัติภัย (สธส.) ระบุว่า ปรากฏการณ์ลักษณะนี้ คล้ายกับการทำแก๊สชีวภาพ ตะกอนใต้น้ำแม่น้ำชีมีบางช่วงเป็นโคลน ซากพืช ซากสัตว์ และมีทรายปกคลุม พอน้ำแห้ง ทรายบางส่วนถูกพัดออก แก๊นหนองน้ำจึงเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน กระบวนการเกิดอาจมาจากการคลายความร้อน เนื่องจากเป็นแก๊สมีเทน ซึ่งจะมีจำนวนน้อยที่อาจเป็นแก๊สไข่เน่าได้ ซึ่งปรากฏการณ์นี้ เคยเกิดมาแล้วกับหนองน้ำเก่าที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อประมาณ 4-5 ปี ที่แล้ว และยืนยันว่า เหตุการณ์นี้ ไม่เกี่ยวกับพื้นที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นภูเขาไฟมาก่อน และไม่เกี่ยวกับรอยเลื่อนใดๆ

รายละเอียดเข้าไปที่เว็บนี้
Manager Online - ʸ

 

จบข่าว สาธุ สาธุ สาธุ รอดกันได้อีกครา ครับ พี่ น้อง ครับ

 

โดยปกติดินโคลน และดินทรายที่อยู่ในน้ำจะดูดซับความร้อนของน้ำที่โดนแสงแดดไว้ได้จึงทำให้ความร้อนไปรวมกันอยู่ที่ดินโคลน และถ้าวันไหนน้ำร้อนมากก้จะทำให้ดินเกิดความร้อนสะสม เลยทำให้สามารถทำให้ไข่สุกได้แบบไข่ลวก