อยากรู้จักพระกรรมฐานที่แนะแนวทางจากกรรมจากหนักเป็นเบา

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย wasana_behappy, 13 กรกฎาคม 2011.

  1. wasana_behappy

    wasana_behappy สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    ตั้งแต่เด็กๆจะป่วยบ่อยมาก ปอดอักเสบ ผื่น ไข้หวัด อีสุกอีไส ไมเกรน ปวดท้อง ปวดเนื้อตัว นั่งสมาธิ สวดมนต์ แผ่เมตตา ถือศีล 5 ศีล 8 ตอนนี้กำลังทุกข์เรื่องแผลในกระเพราะอักเสบ และโดนเจ้านายเขม่น ทำอะไรก็แย่ เคยไปให้หมอดูดู ก็ไม่ได้ผล อยากปฏิบัติธรรมและสนทนาธรรมกับพระผู้รู้และนำแสงสว่างให้ เพราะความรู้หรอื การปฏิบัติอาจผิดหรอื ไม่ถูก ขอคำแนะนำ ค่ะ

    วาสนา
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ลองไปที่วัด พิชยญาติการาม ดูนะครับ...

    ไปหาหลวงแม่ อาจารย์ ดร. ทศพร เทวาพิทักษ์ธรรม ดูนะครับ...
     
  3. ทศสึ

    ทศสึ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +313
    ^^

    http://palungjit.org/threads/ยารักษาโรคมะเร็ง-ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน-หลวงพ่อฤาษีลิงดำ.297414/

    �Ѵ�ѹ����� (��ҫا) - ��Ἱ���ҳ���Ѻ�Ѵ��ҫا ยาวัดท่าซุง

    ควรจะกิน น้ำมันชาตรี ทุกวันนะครับ จะช่วยบรรเทาโรคต่างๆได้ ที่ไม่ใช่ กฎแห่งกรรม ฉนั้นควร วางกำลังใจใหม่ว่า เราทำเขาไว้เยอะ ก็ต้องใช้คืนครับ

    เป็นธรรมดา ของการมีร่างกายนี้ ก็ต้อง เจ็บป่วย เป็นธรรมดา เกิดขึ้น ตั้งอยู่และแตกสลายไป เกิดมาชาตินี้ความทุกข์ถมเต็มกำลังอยู่แล้ว เกิดในชาติต่อ ๆไป ก็ทุกข์อย่างนี้อีก แล้วเรายังต้องการร่างกาย ยังอยากเกิดอีกเพื่อประโยชน์อะไร วางอารมณ์ จิตเสียใหม่ วัดอารมณ์ของการปลดร่างกายอยู่ตลอดเวลา นั่นแหละคือ การปฏิบัติพระกรรมฐาน การปฏิบัติไม่ต้องเลือกเวลา ไม่ต้องเลือกสถานที่ จิตอยู่ที่ไหน ไม่ทิ้งอารมณ์ที่นั่น นี่แหละคือ พระกรรมฐาน ร่างกายนี้เราอาศัยอยู่เพื่อประกอบความดีเท่านั้น ถึงเวลาถ้าตายเมื่อไหร่ ขอไปนิพพานเมื่อนั้น รู้ลม รู้ตาย รู้นิพพาน

    การเกิดเป็นมนุษย์ก็ดี เป็นเทวดาก็ดี เป็นพรหมก็ดี จะไม่มีสำหรับเราอีก การตายคราวนี้เราขอไปพระนิพพาน
    ก่อนจะหลับให้ภาวนาว่า พุทโธ สัก 2-3 ครั้ง แล้วภาวนาว่า
    นิพพานัง สุขัง ไปจนกว่าจะหลับ เมื่อเวลาตื่นขึ้นมาใหม่ๆ ให้ภาวนาว่า
    นิพพานัง สุขัง สัก 2-3 ครั้ง อย่างนี้ทุกคืน จะไปนิพพานได้ในชาตินี้



    -ทุกครั้งทำความดีทุกอย่าง ถึงเวลาก็อธิษฐานรวบยอดไปด้วยว่า " ผลบุญทั้งหมดที่เราทำมาตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน " เราเอาทั้งหมด ไม่ได้เอาเฉพาะครั้งนี้ แล้วที่เหลือจะอธิษฐานอย่างไรต่อก็ว่าไป เช่น "ถ้ายังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานเพียงใด ขอความข้องขัดใด ๆ อย่าได้มีในการดำรงชีวิตของข้าพเจ้าเลย ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีความเป็นอยู่คล่องตัว มีความปรารถนาที่สมหวังทุกประการ ขอให้เข้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้" แต่ถ้าเราเป็นประเภทที่ขอน้อยแล้วไม่ตรงกำลังใจของเรา ก็ขอให้มาก ๆ เอาให้เหนื่อยจนลิ้นห้อยไปเลย
    -

    ถ้ามีเงิน 25 สต. หรือ 1 บาทขึ้นไป แต่อยากได้อานิสงค์ครบ ให้ตั้งเจตนาว่า เงินนี้ ขอทำบุญสังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน และชำระหนี้สงฆ์
    -

    ทำอะไรทุกสิ่งทุกอย่าง ก็ให้อธิษฐานว่าทำเพื่อพระนิพพานจุดเดียว จิตมุ่งพระนิพพานจุดเดียว เพราะทราบสภาวะของ จิตว่าให้จิตรู้อะไร จิตมีสภาพจำ ให้เขารู้อะไรเขาก็ไปตามนั้น จิตเกาะนิพพาน กายพังเขาก็ไปนิพพาน จิตเกาะความโกรธ กายพังก็ไปนรกขุมใดขุมหนึ่ง จิตเกาะโลภ กายพังก็ไปเป็นเปรตประเภทใดประเภทหนึ่ง จิตเกาะหลง กายพังก็ไปเป็นสัตว์เดรัจฉาน



    คำสอนพระพุทธเจ้าพระองค์แรก ของทุกๆจักรวาล ( สมเด็จพระพุทธสิกขี )

    "ท่านทั้งหลาย การหลบหลีกไม่ต้องตกอบายภูมิ มีนรก เป็นต้น เป็นของไม่ยาก
    ๑. ขอทุกท่านจงอย่าลืม ความตาย จงคิดว่าความตาย อาจจะมีกับเราเดี๋ยวนี้ไว้เสมอ ๆ
    ๒. เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ด้วยศรัทธาแท้ ( ด้วยความจริงใจ )
    ๓. มีศีลบริสุทธิ์เป็นปกติ และ
    ๔. เป็นกรณีพิเศษ ไม่ต้องการเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา นางฟ้า และพรหม ในชาติต่อไป นิพพานไสวสว่างจ้า มีวิมานสีเดียวกัน คือ สีแก้วแพรวพราวเป็นระยับ เป็นแก้วสีขาว ทุกท่านเห็นนิพพานแล้ว ตั้งใจไปพระนิพพานโดยเฉพาะ เท่านี้ทุกท่านจะหนีอบายภูมิพ้น และไปพระนิพพาน ได้ในที่สุด"
    คำสอนง่ายๆและสั้นๆเพื่อเข้าสู่พระนิพพาน ทรงตรัสว่า "เจ้าจงใคร่ครวญอย่างนี้ จงคิดว่า เราเป็นผู้ไม่มีอะไรเลย ทรัพย์สินก็ไม่มี ญาติ เพื่อน ลูก หลาน เหลนไม่มี แม้ร่างกายเราก็ไม่มี เพราะทุกอย่างที่กล่าวมามี สภาพพังหมด เราจะทำกิจที่ต้องทำตามหน้าที่ เมื่อสิ้นภาระคือร่างกายพังแล้ว เราจะไปพระนิพพาน เมื่อความป่วยไข้ปรากฏ จงดีใจว่า วาระที่เราจะมีโอกาสเข้าสู่พระนิพพานมาถึงแล้ว เราสิ้นทุกข์แล้ว" คิดไว้อย่างนี้ ทุกวัน จิตจะชินจะเห็นเหตุผล เมื่อจะตายอารมณ์จะสบายดี แล้วก็จะเข้านิพพานได้ทัน
    -
    การทำงานก็ทำไปตามหน้าที่ อย่าเกาะงานมากเกินไป ตายแล้วจบกัน อย่าไปเกาะบุญเพราะเกาะบุญก็ยังต้องเกิด บุญต้องทำ แต่จิตอย่าไปยึดเกาะบุญนั้น ทำเพื่อนิพพานชาตินี้จุดเดียว จงอย่าไปสนใจกรรมของผู้อื่น เรื่องของผู้อื่น ให้ทำตัวเป็นเพียง ผู้ดู- ผู้รู้ การไปรู้เรื่องของผู้อื่น แล้วไปยึดไปยุ่งกับเรื่องของเขา อย่างน้อยก็ทำให้อารมณ์ไหวขึ้นไหวลง หาความสงบไม่ได้ อย่าตำหนิกรรมของผู้อื่น ใครจะดี จะเลว จะทำอะไร ก็เป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่ของเรา จงยอมรับกฎของกรรมซึ่งยุติธรรมที่สุด ใครทำใครได้ อย่าไปมีหุ้นส่วนกรรมกับใครๆเขา โดยการตำหนิกรรมเป็นอันขาด จำไว้นะ

    ต้องทุกข์ ให้พอ ถึงจะไม่อยาากเกิดอีก ที่เดียวที่สุข จริงคือ พระนิพพาน
    ���ҵԴ�ѹ�� � ����Թ�� - ��дҹʹ����Ѵ��Ң�ع
     
  4. เพชรกร

    เพชรกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +1,254
    ที่จริงที่คุณทำก็ถูกต้องอยู่เเล้ว
    การเเก้กรรมของพระพุทธเจ้านั้นคือ มรรค8 ย่อเหลือ ไตรสิกขา3 คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
    ขอเดาว่าคุณไม่เเน่ใจว่าการ ปฏิบัตธรรม ของคุณถูกหรือเปล่า
    เเนะนำให้ลองฟัง การเเก้กรรมจาก พุทธวจน ของพระอาจารย์ คึกฤทธิ์ ดู
    รับรองหาย 100%
    เเต่ที่สำคัญอย่าลืมไปหาหมอให้เค้าตรวจเเละเอายามากินด้วยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2011
  5. เลิกตาย

    เลิกตาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2010
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +416
    โมทนาครับ....
    บางคนมืดมาแล้วก็มืดไป
    บางคนมืดมาแล้วก็สว่างไป
    บางคนสว่างมาแล้วก็มืืดไป
    บางคนสว่างมาแล้วก็สว่างไป
     
  6. aubasok

    aubasok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +483
    มีให้โหลดที่ใหนเหรอครับ
     
  7. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    สาเหตุของอาการเจ็บป่วยมันเกิดจาก กรรม จิต อุตุ อาหาร นะ คือถ้าเรารู้ตัวว่า
    เรามีกรรมหนักสิ่งที่จะช่วยได้คืออีก 3 ตัว เราทำจิตใจให้ผ่องใสเบิกบาน จิตนี่ตัว
    สำคัญเลยถ้าจิตใจเราเข้มแข็งกายก็พลอยดีไปด้วย เช่นเวลาที่เราป่วยแทนที่จะ
    มาคิดว่าทำไมถึงป่วย เราก็ดูอาการปวดเจ็บของเราไป คืออาการเจ็บป่วยมันเป็น
    การเตือนของร่างกายนะ ร่างกายมันเตือนเราว่าเราต้องปรับเปลี่ยนบางอย่างเพื่อ
    ให้ร่างกายเข้าสู่สมดุล ถ้าไม่มีอาการพวกนี้เราก็ไม่รู้ว่าร่างกายเราผิดปกติตรง
    ไหน แล้วก็แก้ไขไม่ทัน อย่างถ้าเรานอนดึกหลายๆ วันแล้วเกิดปวดหัว อาการ
    ปวดหัวนี่มันเป็นอาการที่บอกว่าเราต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือเรามีแผลใน
    กระเพาะอาจจะเป็นการเตือนว่าเราเครียดมากเกินไป หรือรับประทานอาหารไม่
    เป็นเวลา ถ้าไม่มีอาการพวกนี้ เราก็เพิกเฉยต่อไปโรคมันก็รุมจนร่างกายพังเลยก็
    ไม่ดีเหมือนกัน เมื่อเราเจ็บป่วยเราก็ดูอาการป่วยของเราเข้าไป เราจะสัมผัสถึง
    สาเหตุได้ เราอาจจะเข้าใจว่าทำไมเราถึงป่วย ก็ปรับให้มันดีทีละอย่าง เพราะเมื่อ
    เรารู้สาเหตุเราก็แก้ให้มันดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเรื่องการปฏิบัติธรรมต้องดูที่เหมาะกับ
    จริตของเราและต้องมีครูบาอาจารย์ คอยแก้คอยปรามไม่ให้เราหลง จากที่ผมดู
    น่าจะเริ่มจากวิธีที่ทำใจสบายๆ ไม่เครียดมากกว่า พอจิตเราเป็นกุศลเราก็มีพลัง
    ต่อสู้โรคร้าย และปัญหาทางโลกต่างๆ ลองพุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ
    หรืออาจจะเดินเล่นกำหนดรู้ในสวนสาธารณะสูดอากาศตอนเช้าก็ดี
     
  8. benyapa

    benyapa ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,088
    ค่าพลัง:
    +5,431
  9. cpari

    cpari เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +184
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ เรามักเพลิดเพลินจนลืมเรื่องนิพพานไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...