ชวนเที่ยวโรงหนัง ดู "คนโขน"

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย พนมกุเลน, 2 สิงหาคม 2011.

  1. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>คนโขน เรื่องโขน เรื่องคน </TD><TD vAlign=baseline width=102 align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>2 สิงหาคม 2554 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=center><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=center>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=middle width=165 align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เบื้องหน้าคือความวิจิตรตระการตา
    เบื้องหลังคือตัณหาและมายาแห่งนาฏกรรม...

    ...
    หลังการออกฉายของ “โหมโรง” ในปีนับจากนั้นมา ดูเหมือนว่าแทบจะไม่มีหนังไทยเรื่องไหนอีกเลยที่จะหยิบหรือจับเอา “นาฏศิลป์-ดนตรีไทย” เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของหนังในการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ

    กระทั่งการมาถึงของ “คนโขน”

    ทันทีที่หลายคนได้มีโอกาสเห็นข่าวคราวความเคลื่อนไหวตลอดจนการประชาสัมพันธ์ถึงภาพยนตร์เรื่องนี้

    ทั้งในส่วนที่เป็นภาพนิ่ง และภาพยนตร์ตัวอย่าง ก็เริ่มมีกระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมามากมายทันที โดยส่วนใหญ่นั้น เป็นไปในเชิงบวก

    ขณะที่บางส่วน ก็มองด้วยความหวังว่าหนังเรื่องนี้อาจจะทำให้คนไทยได้รู้สึกถึงคุณค่าในความเป็นไทยอีกครั้งหลังจากที่โหมโรงเคยทำมาแล้ว

    “หนึ่งคือเราสงสัยมากว่า จู่ๆ ทำไมวัฒนธรรมไทยมันเริ่มหายไป ทำไมไปคลั่งเกาหลี คลั่งฝรั่งกันมาก

    ก็เลยอยากจะทำหนังที่มันจะช่วยให้ดึงสิ่งเหล่านั้นกลับมาได้

    คือมันอาจจะไม่ใช่คำตอบทั้งหมด แต่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นสิ่งเหล่านี้ได้

    เลยคิดน่าจะทำเรื่องราวที่มันสะท้อนศิลปะวัฒนธรรมไทย”

    ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง บอกเล่าถึงโจทย์แรกในการทำงานจนกลายเป็นที่มาของ “คนโขน” ผลงานการกำกับชิ้นที่ 2 ของเขา

    “ซึ่งเราก็ต้องแยกตามความถนัดของเราออกมาด้วยว่าจะทำในแง่ไหน ก็คิดว่าเราต้องไม่พูดเป็นเชิงสารคดี ต้องไม่ใช่ว่าสอนอย่างงี้ๆ

    ก็ได้เส้นร่างคร่าวๆ หมายความว่า เราทำหนังที่มันครบรสชาติ ทำหนังไทยให้คนไทยดูละกัน ทำหนังชีวิตที่มันมีรัก โลภ โกรธ หลง ตามแบบฉบับของนวนิยายไทย

    พอมันออกมาแบบนี้แล้ว เด็กจะดูหรือผู้ใหญ่จะดู หรือวัยรุ่นจะดู ก็ดูได้ทั้งนั้น เพราะมันเป็นกลางๆ แล้วเป็นหนังไทยจริงๆ”

    “พอได้ไอเดียนี้ก็เลยมีความคิดว่ามันน่าจะเป็นไปได้ โดยเอาศิลปวัฒนธรรม ที่เราจะใส่เข้าไปเนี่ยเป็นฉากหลังของภาพยนตร์

    พอพูดถึงศิลปวัฒนธรรมในความเป็นไทยอะไรที่ควรจะถูกหยิบมาพูดในหนัง ก็มีการแตกความคิดกันเยอะมาก

    และโขนก็เป็นความตั้งใจของพี่เอง นานมากแล้ว เพราะมันมีความสวยงาม ที่น่าหยิบมาทำภาพยนตร์ได้”

    ผู้กำกับที่ควบตำแหน่งเขียนบทด้วย เผยว่า หนังเรื่องนี้ตนและทีมงาน ใช้เวลาในการศึกษาหาข้อมูลนานกว่า 2 ปี

    ผ่านการลองผิดลองถูกมาหลายครั้งเพื่อให้ภาพที่ออกมานั้นมีความสมบูรณ์มากที่สุด

    โดยมีคนโขนตัวจริงอย่าง “ครูมืด ประสาท ทองอร่าม” ศิษย์เอกของ อ.เสรี หวังในธรรม เป็นที่ปรึกษา

    “ต้องขอบคุณครูมืดและครูหลายๆ คนมากที่กรุณาให้เราไปสัมภาษณ์ให้เรานั่งคุย ก็เลยเชิญครูมืดแกมาเป็นที่ปรึกษาซะเลย

    บอกแกว่า ถ้ามันมีอะไรผิดพลาดก็โทษครูคนเดียวเลยนะ เพราะว่าขึ้นชื่อครูมืดไปแล้ว

    แกก็บอก เป็นไงเป็นกัน เอาให้เต็มที่ ก็เลยทำให้หนังเรื่องนี้มีความเป็นโขนครบถ้วน และผ่านการกลั่นกลองจากครูโขน อย่างแท้จริง”

    คนโขน...เล่าย้อนกลับไปในปีพุทธศักราช 2508 ถึงเรื่องราวของ "ชาด” เด็กกำพร้าที่ถูกครูโขนฝีมือดีอย่าง “ครูหยด” เลี้ยงดูและฝึกหัดโขนให้ตั้งแต่เล็กๆ จนกระทั่งเติบใหญ่ มีฝีไม้ลายมือเก่งกาจ

    อย่างไรก็ตาม เส้นทางการก้าวเพื่อมุ่งสู่จุดสูงสุดของชีวิตนักแสดงโขนตามความทะยานอยาก ในวัยหนุ่มของชาด ก็หาได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่อย่างใด

    เมื่อ “ครูเสก” อดีตเพื่อนรักของครูหยด ที่ปัจจุบันกลายมาเป็นศัตรูตัวฉกาจด้วยปมแค้นฝังลึกได้รับรู้เรื่องการแสดงของคณะครูหยด ที่เตรียมจะเปิดตัวชาด ในบทพระรามเป็ นครั้งแรก ในงานแสดงโขนประจำปีครั้งใหญ่ที่วัดอ่างทอง

    เขาจึงหาวิธีกลั่นแกล้ง และนั่นก็เข้าทางหลานชายสายเลือดโขนของครูเสก อย่าง “คม” คู่อริเก่าของชาด ที่ต้องการแก้แค้นและเอาคืนชาดอย่างสาสมเช่นกัน

    ปัญหาที่เข้ามาหาครูหยดและชาด หาใช่แค่มายาแห่งนาฏกรรมโขน อันเกิดมาจากความอาฆาตแค้นไม่สิ้นสุด ของครูเสกและคมเท่านั้น

    หากยังมีเรื่องของตัณหาราคะจากตัวของ “รำไพ” และมิตรภาพในความเป็นเพื่อนกับ “แรม” และ “ตือ” ที่สั่นคลอน ล้วนถาโถมเข้ามาพร้อมๆ กัน...

    นอกจากความวิจิตรของการแสดง “โขน” แล้ว สิ่งที่หนังเรื่องนี้ต้องการจะสื่อก็คือ เรื่องของ “คน” นั่นเอง...

    “โดยรวมมันเป็นเรื่องพื้นฐานของชีวิตมนุษย์ ที่มีรัก โลภ โกรธ หลง มีชะตากรรมเข้ามาเป็นตัวกำหนด

    คือเรื่องนี้ ถ้าถอดเรื่องโขนออก จะชี้ให้เห็นว่าชีวิตคนเรา ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน มันคือเรื่องจิตใจ เรื่องกิเลส

    ถ้าเราให้กิเลสเป็นตัวนำพา เราตัดสินใจอะไรผิดพลาดไป ผลที่ตามมานั้นมันก็จะโยงใยหลายชีวิตเข้าด้วยกัน”

    ในส่วนของนักแสดงนั้น นอกจากจะเข้มข้นกับการโคจรมาพบกันของ 2 นักแสดงคุณภาพรุ่นใหญ่ “เอก สรพงษ์ ชาตรี” กับบท “ครูหยด”

    และ “หนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา” ในบท “ครูเสก” ร่วมด้วย “ต่าย เพ็ญพักตร์ ศิริกุล” ในบท “ซ่อนกลิ่น”

    และการพลิกบทบาทการแสดงครั้งสำคัญของ “กบ พิมลรัตน์ พิศลยบุตร” ในบทของ “รำไพ” แล้ว...

    ภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังได้นักแสดงรุ่นใหม่เข้ามาร่วมสร้างสีสันอีกหลายคน

    ทั้ง “อาร์ อภิญญา รุ่งพิทักษ์มานะ” นิสิตชั้นปีที่ 3 ภาควิชานาฏยศิลป์ไทย คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ผ่านงานแสดงโขนมาหลากหลายงาน ในบทของ “ชาด”

    พร้อมด้วยรุ่นพี่ร่วมคณะ “ตรี นันทรัตน์ เชาวราฎศร์” ซึ่งกวาดรางวัลจากการประกวดด้านดนตรีและนาฏศิลป์ากมาย มารับบท “แรม”

    รวมถึง “นัท ขจรพงศ์ พรพิสุทธิ์” หลานชายพระเอกชื่อดังของกรมศิลป์ “ปกรณ์ พรพิสุทธิ์” ที่มีความสามารถในเชิงโขนไม่แพ้กันรับบท “คม”

    และ “กอง กองทุน พงษ์พัฒนะ” หนุ่มปริญญาตรี คณะดุริยางคศาสตร์ สาขาดนตรีแจ๊ซ มหาวิทยาลัยศิลปากร รับบทเป็น “ตือ” หนุ่มที่มีความสามารถในการวาดภาพ

    โดยในส่วนของนักแสดงหน้าใหม่นี้ ทางทีมงาน ต้องใช้เวลาในการคัดเลือกตัวกัน ร่วม 5 เดือนเลยทีเดียว



    “เริ่มจากตัวพระเอก เราก็ได้นักแสดงที่เป็นโขนจริงๆ น้องอาร์ เรียนนาฏศิลป์ที่จุฬาฯ มีพื้นฐานทางนี้ดีพอตัวเลย

    นางเอกเราแคสหลายคนมากๆ จนไปเห็นรูปน้องตรีในหนังสือแฟชั่น เห็นแล้วก็สวยดี แถมกำลังเรียนนาฏศิลป์ที่จุฬาฯ เหมือนกัน ก็เข้าตาเลย

    จากนั้นคนอื่นๆ ไม่น่าเชื่อว่าแม้กระทั่งน้องกองตัวเพื่อนในเรื่องก็เคยเรียนโขน คือได้มาจากกลุ่มโขน”

    “ส่วนตัวผู้ร้ายคู่ปรับ อันนี้มาครั้งแรกก็ได้เลย น้องนัท เป็นหลานของคุณปกรณ์ พรพิสุทธิ์ พระเอกและครูโขนชื่อดัง ในกรมศิลป์ และหน้าตาก็ใช่เลยเหมาะกับยุคสมัย...

    มาถึงนักแสดงรุ่นใหญ่ ซึ่งตามบทมันก็มีบทของครูโขน 2 คนที่เป็นรุ่นใหญ่ ที่มีภูมิหลังที่เขาเป็นเพื่อนเก่ากันมา และมาหักกันในยุคนี้

    ครูคนหนึ่ง ก็เป็นครูของพระเอก ครูอีกตัวก็เป็นครูของตัวร้าย เป็นคู่อริกัน”

    “ก็ตามสูตรหนังเลย ต้องเป็นคนที่มีบารมีที่จะมาค้ำทั้งหมดของหนัง คือถ้าดูแล้วไม่เชื่อ ตรงนี้ก็จะดูไม่แข็งแรง ใ

    นโลกการแสดงเมืองไทยต้องเป็นสองคนนี้เท่านั้น สรพงษ์ ชาตรี และ นิรุตติ์ ศิริจรรยา ซึ่งดูแล้วมีบารมี มีศักดิ์ศรีค้ำกันได้

    ตามมาด้วยอีกสองคนของเรื่อง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญไม่แพ้กัน คนหนึ่งก็คือแฟนเก่าของครูหยดคือสรพงษ์

    เมื่อได้สรพงษ์มา ใครล่ะที่จะใส่ชุดนางรำได้สวยงาม เป็นคนรำแล้วสวยงาม ก็นึกถึงพี่ต่าย เพ็ญพักตร์ คุณต่ายก็ยินดีอยากใส่ชุดสวยงามเหล่านี้...”

    “และอีกคนที่เป็นหัวใจของเรื่องก็คือ ตัวที่เป็นครูสอนรำ ชื่อครูรำไพ เราก็ต้องการใครสักคนที่มีความเหมาะสมกับนางรำในยุคนั้น ต้องมีความเป็นไทย

    และต้องมีกิเลสตัณหามาจับในชีวิตของเขา ต้องสะท้อนเรื่องราวเหล่านี้ได้ ก็คิดและเลือกอยู่นาน

    สุดท้ายเราก็ต้องเลือกกบ พิมลรัตน์ ไม่มีเหตุผลใด คือเราวางกบไปแล้วมันพอดี มันตอบทุกอย่างได้

    มันไม่ได้โดดเด่นจนข่มนักแสดงคนอื่นทั้งหมด และก็ไม่ได้กลืนหายจากการเป็นนางรำคนหนึ่ง”

    อีกหนึ่งที่แสดงถึงความพิถีพิถันของผู้กำกับ ที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ การที่เจ้าตัวได้เลือกใช้กล้องฟิล์ม ในการถ่ายทำนั่นเอง...

    “พี่ยังเป็นคนรุ่นเก่าอยู่มั้ง คือถ้าดูว่าระหว่างฟิล์มกับกล้อง SD ยังไงพี่ก็ชอบฟิล์มมากกว่า

    จะเห็นความแตกต่างทางอารมณ์ ด้วยเนื้อฟิล์ม ทางด้านภาพ ก็จะสวยและมีเสน่ห์ในตัวของมัน”

    “และสิ่งที่ได้มาจากการใช้ฟิล์มถ่าย คือ สมาธิหน้ากองฯ ดีมาก คือถ้าจะถ่ายเป็น SD เป็นวิดีโอ จะถ่ายกี่เทกก็ได้ สมาธิก็น้อย

    พอเป็นฟิล์มก็ต้องซ้อมนะ พอถ่ายจริงฟิล์มพี่ก็ไม่เปลือง ไม่ถึง 200 ม้วน บางคนอาจจะไม่ชอบ ที่มันยุ่งยาก แต่พี่ชอบที่มันมีสมาธิดี

    พี่รู้เลยว่า ถ้าไม่ใช่ฟิล์มจะมีการถ่ายเผื่อเยอะมาก ซึ่งตรงนั้น จะทำให้ใช้คิวในการถ่ายเยอะไปอีก

    พอเป็นฟิล์มก็จะคิด เดี๋ยวเปลืองฟิล์มก็ต้องมีการทำงานบนโต๊ะเยอะ พอถ่าย ทุกคนก็จะมีสมาธิ ที่จะเงียบที่จะฟัง

    คือถ้ามันยังผลิตฟิล์มอยู่ พี่ก็จะใช้มันไปเรื่อยๆ นะ”

    ภาพยนตร์เรื่อง “คนโขน” ดำเนินงานสร้างโดย “นับหนึ่ง นีโอฟิล์ม” โดยมี บ.สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล รับหน้าที่บริษัทผู้สร้าง-จัดจำหน่าย

    มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 25 สิงหาคม นี้ ซึ่งทางผู้กำกับเอง ได้สรุปภาพรวมความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ทั้งหมดให้ฟังว่า...

    “ความน่าสนใจรวมๆ ของเรื่องนี้ คือวางให้หนังเรื่องนี้มันมีอิสระจากการประทับยี่ห้อทุกอย่าง

    ทั้งตัวผู้กำกับเองหนัง ก็ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองใดๆ

    อย่างชื่อหนังที่ชื่อคนโขน ผมก็ไม่อยากให้เป็นการประทับตราว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนังวัฒนธรรม ทำให้คนรุ่นใหม่ ไม่อยากดู”

    “ความโดดเด่นของหนัง ก็จะเป็นเรื่องรสชาติของความเป็นหนังไทย ไม่ได้เข้าใจยาก แต่ก็ไม่ใช่หนังที่สามารถเดาได้

    มันจะมีลีลามีปมหลังของตัวละคร สามารถกลมกลืนทำให้เราลุ้นตาม เราเชียร์ตัวละคร สงสาร เห็นใจ เข้าใจชีวิตเขาได้

    เพราะฉะนั้น คนดูก็ซึบซับเรื่องราวเหล่านี้ซึ่งเกือบจะเป็นดราม่า เป็นชีวิตน้ำเน่าด้วยซ้ำได้ แล้วแต่ว่า ใครจะมองว่าหนังน้ำเน่าเป็นแบบไหน”

    “ในมุมคนที่ชอบโขน ชอบศิลปะ แน่นอนมีครบถ้วน เพราะฉะนั้น อย่างน้อยคน 2 กลุ่มนี้สามารถดูได้

    ในมุมของวัยรุ่นทั่วไป ถ้าชอบดูหนัง คุณไม่ต้องรู้ก่อนเลยว่า คนโขนเป็นอะไร

    ถ้าเป็นคนรุ่นใหม่ที่ชอบศิลปะความเป็นภาพยนตร์ หนังเรื่องนี้มีให้ดูครบถ้วน จะครบ 100% หรือไม่ ต้องให้ท่านผู้ชมตัดสินใจเอง

    แต่ในฐานะของคนทำภาพยนตร์ เราได้ทำเต็มที่กับปัจจัยต้นทุนในการทำภาพยนตร์อย่างเต็มร้อย เท่าที่เรามีแล้ว”
    ...
    หมายเหตุ : คลิกชมภาพยนตร์ตัวอย่าง “คนโขน” ได้ที่[ame="http://www.youtube.com/watch?v=jZ2sGnmvEQk"] www.youtube.com/watch?v=jZ2sGnmvEQk[/ame]


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. tips2513

    tips2513 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +185
    เป็นหนังที่น่าดู ขอบคุณค่ะ
     
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
  4. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    ดูตัวอย่างแล้ว..นึกถึงเรื่องโหมโรงเลย (บรรยากาศคล้ายๆกัน)

    ชอบตอนท้าย ที่คาดว่าจะเป็น "ครูโขน" สองท่านคุยกัน

    "ไม่ได้สวมหัวโขนมานาน มันคิดถึงจังว่ะ"

    "ไม่ยักรู้..ว่าแกถอดหัวโขนแล้ว"

    ฮา...... :d
     
  5. เติ้ด

    เติ้ด สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +24
    น่าสนุกนะครับ

    เเล้วออกวันไหนอ่ะครับ
     
  6. toyhonda

    toyhonda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    542
    ค่าพลัง:
    +1,782
    ไม่พลาดที่จะอุดหนุนและให้กำลังใจคนทำหนัง...เพราะคนไทยสมัยนี้ลุ่มหลงกระแสเกาหลี จนลืมศิลปวัฒนธรรมไทยไปหมดแล้ว..แม้กระทั่งเพลงไทยเดี๋ยวนี้ก็ยังฟังแทบไม่รู้ว่าเป็นเพลงไทย
     
  7. teaw108

    teaw108 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2008
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +13
    ต้องไปดูครับ ผมก็เรียนโขน ต้องไม่พลาดแน่ครับ
     
  8. oon_dee

    oon_dee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +24
  9. diyhandmade

    diyhandmade สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ชวนเพื่อนไปดูหนัง

    กำลังชวนเพื่อนไปดู ดูตัวอย่างแล้ว ดีค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...