หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

สวัสดีครับพี่จ่า ยินดีต้อนรับสู่กระทู้นี้ครับ ที่นี่เราสามารถแนะนำ พูดคุยบอกเล่าประสบการณ์ต่างๆได้ทุกเรื่อง รวมทั้งบอกบุญต่างๆได้ครับ

ผมไปโคราชมาดีมากๆครับพี่ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ได้บอกกันมาครับ ไว้ว่างๆว่าจะไปอีกครับ..

 

สวัสดีครับพี่เฉียวฟง คุณฌานกร และสมาชิกทุกท่านครับ

 

พระเนื้อนาบุญของโลกที่หลวงปู่พิศดูบอกให้ไปกราบ

เมื่อเช้าของวันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2554 ซึ่งเป็นวันพระและเป็นวันสารทจีน ผมได้ขับรถไปวัดถ้ำเขาโบสถ์ ตามที่พี่เอ็กส์แนะนำไว้ว่า หลวงปู่พิศดูบอกให้มากราบท่านพระอาจารย์สมเดช ท่านเป็นพระเนื้อนาบุญของโลกอีกองค์หนึ่งของบ้านเรา ก่อนที่จะเดินทางไป ตอนเวลาตี 5 ของเช้านั้น ผมฝันว่าย่าของผมที่เสียชีวิตด้วยโรคไตเมื่อตุลา ปี52 ได้มาปลุกเรียกผมให้ตื่นเพื่อไปทำบุญ และกล่าวอีกว่า ถ้าไปวัดนี้ ย่าจะขอตามไปด้วย หลังจากสิ้นเสียงย่าในความฝัน ผมก็รีบลืมตาตื่น และเตรียมข้าวของไปทำบุญ เมื่อเดินทางไปถึงวัด พบว่าเป็นสถานที่สัปปายะดี เหมาะแล้วสำหรับพระภาวนา และเดินเข้าไปใส่บาตร ก็พบเห็นรูปหลวงปู่มั่นและรูปหลวงตามหาบัวแขวนอยู่ที่ฝาผนังก็เข้าใจและมั่นใจได้ว่าพระอาจารย์สมเดชเป็นลูกศิษย์หลวงตามหาบัว ที่วัดมีพระอยู่ประมาณ 4 รูปรวมพระอาจารย์สมเดชแล้ว ผมก็นั่งฟังเทศนาของท่าน เทศน์ของพระอาจารย์เน้นเรื่องการภาวนา ผมรู้สึกว่าถูกจริต พอคนที่มาทำบุญเริ่มน้อยลง ผมก็คลานเข้าไปสนทนาธรรมกับท่านเกี่ยวกับเรื่อง จิตของพระโสดาบันเป็นอย่างไร และถามเรื่องการภาวนาของตนเองว่าเดินมาถูกทางแล้วหรือไม่เพื่อที่จะนำไปสอนนักเรียนที่โรงเรียนจำนวน 1 พันกว่าคนให้ปฏิบัติได้ถูกทางของพระพุทธเจ้า ท่านได้เมตตาชี้แนะข้อที่ผมติดขัดอยู่นานพอสมควร หลังจากนั้นท่านก็ให้หนังสือกับผมมา 1 เล่ม เป็นหนังสือรวมเทศนาและภาพกิจวัตรประจำวันของหลวงตามหาบัวก่อนที่จะมรณภาพ ซึ่งเก็บข้อมูลอย่างละเอียดเป็นเวลา 9 เดือนก่อนหลวงตาจะละสังขาร พระอาจารย์สมเดชพูดขึ้นว่า "นี่แหล่ะของดี อาจารย์เราสุดยอดแล้ว รับไป" ผมจึงกราบลาท่านกลับด้วยความปีติใจ ผมตั้งใจว่าจะมาอีกแน่นอน วัดนี้น่ามาอบรมจิตอย่างมากครับ ชอบมาก

ขอรบกวนพี่เอ็กซ์นำภาพที่หลวงปู่ฟักกับหลวงปู่พิศดู ขณะนั่งถ่ายรูปคู่มาลงให้SAVE ด้วยได้ไหมครับ เหมือนเคยเห็นในหนังสือชีวประวัติของหลวงปู่พิศดูที่พี่เอ็กซ์เคยลงข้อมูลไว้ เป็นภาพศิษย์หลวงพ่อลี ที่ผมอยากเก็บไว้กราบไหว้มากๆ หายากจริงๆ

 

น้อมจิตกราบองค์หลวงปู่

เข้ามาอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่ ขอบคุณทุกๆ ท่านครับ

 

กราบหลวงปู่พิศดู
สวัสดีพี่ทุเรียนทอด และพี่ๆทุกท่านครับ

 

กราบหลวงปู่พิศดู
หวัดดีท่านเจ้าบ้านและสมาชิกทุกท่านครับ

 

กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีครับพี่ทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่าน ขอบคุณพี่ๆทุกท่านครับที่นำเรื่องราวและธรรมมะดีๆขององค์หลวงปู่มาเผยแผ่ให้พวกเราได้รับรู้ครับ สาธุ

 

กราบหลวงปู่พิศดู และสวัสดีสมาชิกทุกท่านครับ

 

สวัสดีสมาชิกทุกท่านครับ
พอดีเพิ่งกลับจากทำธุระที่กรุงเทพฯครับ

 

รูปมหายันต์สารพัดกัน รูปนี้เป็นรูปที่ถ่ายในกุฏิองค์หลวงปู่ ท่านบอกว่ารูปนี้ยักษ์กลัว ผีกลัว ครับ อักขระคาถาที่ล้อมเป็น คาถาวันโลกดับที่องค์หลวงปู่ท่านมอบให้ลูกศิษย์ของท่านสวดเพื่อป้องกันภัยในยุคนี้โดยเฉพาะครับ

คาถาวันโลกดับ
" ทิตะทิรา ทันมัณฑะโล กะลิลา กะละลา สะติโส จะถิโท คะหะตะเน ฯ "

คาถาบทนี้ไม่ทราบว่าองค์หลวงปู่ท่านได้มาจากไหน ทราบแต่ว่า เป็นบทพระคาถาที่พระอานนท์เถระ ได้จารึกเอาไว้ในแผ่นศิลา ในวัดเชตวันมหาวิหาร เพื่อให้ชาวพุทธใช้สวดเพื่อป้องกันภัยในยุคกึ่งพุทธกาลตามพุทธทำนาย ผู้ใดสวดได้จะอยู่รอดปลอดภัยทุกประการ..
คาถานี้องค์หลวงปู่ท่านสวดทุกวัน และเมื่อคราวเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ จ.จันทบุรี เมื่อปี พ.ศ.2542 ในช่วงนั้นฝนได้ตกติดต่อกันมาหลายวัน ในเขตพื้นที่ กิ่งอ.เขาคิชฌกูฏ ทำให้เขาคิชฌกูฏซึ่งมีพื้นที่เป็นดินทรายปนหินพังถล่มลงมา เสียงดังสนั่นหวั่นไหวราวกับโลกจะแตก ทั้งท่อนซุงต้นไม้หลายร้อยหลายพันท่อน ได้ไหลถล่มลงมากับกระแสน้ำป่าอันเชี่ยวกราก ยากที่จะมีสิ่งใดขวางกั้นได้ ทั้งน้ำป่าและท่อนซุงท่อนไม้น้อยใหญ่ ได้ไหลผ่านมาตามลำธารที่วัด ชาวบ้าน ชาวสวนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่หลวงปู่ท่านบอกว่าตอนนั้นท่านนอนก่ายเกกสวดมนต์อยู่ที่กุฏิหลังใหญ่และไม่ได้มีความกังวลต่อภัยอันใดเลย ท่านก็ใช้คาถาวันโลกดับบทนี้(บวกกับกำลังฤทธิ์) ปัดเป่าภัยต่างๆที่กำลังถาโถมเข้ามาในพื้นที่วัด ทำให้กระแสน้ำป่าที่ไหลมาพร้อมทะเลซุงได้หักเหเปลี่ยนทิศทางในทันที จึงเกิดเป็นคลองอีกสายหนึ่งขึ้นขนาบกับคลองเดิมที่มีอยู่แต่เดิม วัดของท่านจึงรอดพ้นจากภัยโดยไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่น้อย ทำให้หนังสือพิมพ์หลายฉบับได้มาทำข่าวเกี่ยวกับปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นนี้ ท่านบอกว่า " เราเลยดังเพราะท่อนซุง " และด้วยอานุภาพของพระคาถาบทนี้ หลวงปู่ท่านรับรองว่าสามารถป้องกันภัยได้จริงๆ ครับ





.

 

อนุโมทนาด้วยครับคุณปัทมินทร์ ที่ได้พบและทำบุญกับพระอริยะสงฆ์เนื้อนาบุญของ อ.ท่าใหม่บ้านเรา ท่านหลวงพ่อสมเดชเป็นพระที่มีเมตตาสูงมาก ธรรมะของท่านเน้นเรื่องภาวนา และลีลาการสอนคล้ายองค์หลวงตามหาบัวเลยครับ สาธุ

เรื่องรูปที่องค์หลวงปู่พิศถ่ายคู่กับหลวงปู่ฟัก เดี๋ยวผมค้นดูให้ครับ เป็นภาพที่น่าบูชา และหาชมได้ยากครับ



.

 

กราบหลวงปูพิศดู สวัสดีคุณทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ

 

กราบหวลงปู่พิศดูและครูบากฤษดาพระอาจารย์เพชรนำ้้้ำหนึ่งในโลกแดนดินผู้มีเมตตาและสวัสดีครับเพื่อนๆสมาชิกทุกท่านแวะมาทั๊กทายเื่พื่อนๆ วันนี้ไม่มีอะไรโชว์ของโชว์หมดแล้วอยากเห็นของท่านๆสมาชิกกันบ้างว่มีอะไรบ้างมาลงโชว์กันหน่อย

 

กราบหลวงปู่พิศดู..พระอาจารย์สมเดช..สวัสดีท่านสมาชิกทุกท่าน..วันนี้มีประสบการณ์โชคลาภมาเล่าให้ฟังครับ หลายเดือนที่ผ่านมาทุกเสาร์อาทิตย์ได้ไปทำบุญที่วัดถ้ำโบสถ์ ได้ฟังพระธรรมสั้นๆก่อนฉันจังหัน ได้ถวายปัจจัยเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนากับท่าน วันหนึ่งท่านพูดเรื่องอายุของท่านว่า..เราอายุ 56 ปี เขา(ไม่ทราบว่าใคร)อายุ 57 แก่กว่าเรา...ใจก็คิดว่างวดนี้เราไม่รู้จะซื้อล็อตตารี่เลขอะไร งั้นก็เอาเลขอายุท่าน (56)นี่แหละ พอดีท่านกำลังจะสร้างห้องสุขาถวายหลวงปู่แบน 1 ห้อง และญาติโยมที่จะมาในวันกฐินอีก 4 ห้อง คิดในใจว่าหากมีโชคจะเอาไปทำบุญเสาโบสถ์วัดสันติวนาราม กับ ห้องสุขาวัดถ้ำโบสถ์ ผมมักจะซื้อล็อตตารี่กับหนุ่มพิการคนหนึ่งที่ปั่นรถวัลแชร์ผ่านหน้าร้านเสมอ วันนั้น เขาก็มาผมจึงถามเขาว่า..มี 56 หรือเปล่าน้อง ( โดยจำไม่ได้ว่าหวยออก 56 ไป 2 งวดติดๆแล้ว ) เขาบอกว่ามี 1 คู่ ครับ พอวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมาก็ได้ตรวจล็อตตารี่ ปรากฏว่าถูกรางวัลที่ 4 ครั้งแรกในชีวิต ได้เงิน 39200 บาท( ค่าขึ้นรางวัลหัก 800 บาท ) เมื่อเช้าได้ไปทำบุญและกราบเรียนท่านว่า ขอถวายปัจจัยสร้างห้องสุขา 10000 บาท ท่านบอกว่า ให้ไปซื้อชักโครกแบบกดน้ำสำหรับห้องสุขาหลวงปู่แบนมา ผมดีใจมากครับ จึงไปที่ร้านขายวัสดุก่อสร้าง เลือกได้ที่เหมาะสม ราคา 10700 บาทพร้อมสายฉีดชำระอีก 550 บาท ของอยู่ในรถเตรียมไปถวายเย็นนี้ครับ ดีใจจริงๆครับ

 

กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีครับพี่ทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่าน

 

สาธุ อนุโมทนาด้วยครับท่านพี่ และขอแสดงความยินดีด้วยครับกับโชคลาภครั้งนี้

 

อนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

โอ้... ยินดีด้วยครับพี่ และขออนุโมทนา..สาธุ เป็นอย่างยิ่งที่พี่ได้ร่วมสร้างที่ปลดทุกข์ถวายให้กับพระอริยะสงฆ์ ฝากไว้ในพระพุทธศาสนาครับ และไม่ทราบว่าเรายังสามารถร่วมบุญนี้กันได้อีกหรือไม่ครับ
ขอรบกวนรายละเอียดสักนิดครับ สาธุ



.

 

กราบนมัสการหลวงปู่พิศดู่ ขอนำคลิปสวดลายลักษณ์พระพุทธบาท โดยหลวงปู่พิศดู่มาให้ครับ
หลวงปู่พิศดู ธัมมจารี - YouTube

 

‪พระกริ่ง‬ -‎พระชัยวัฒน์มังกรฟ้า‬

พระกริ่งมังกรฟ้า ชุดนี้เป็นวัตถุมงคลที่องค์หลวงปู่พิศดูร่วมอธิษฐานจิตไว้ด้วยหลายวาระ จึงขอยกมาแสดงไว้ในหน้ากระดานแห่งนี้ด้วย เพื่อความสมบูรณ์แบบในข้อมูล ที่สมควรนำเข้าบันทึกเอาไว้อย่างยิ่ง เพื่อการศึกษา.. ตามข้อมูลที่ผมพอทราบมา
พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์มังกรฟ้าสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2549 จัดสร้างตามดำริของท่านครูบากฤษดา สุเมโธ เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ผู้สมทบทุนร่วมสร้างวิหารทานต่างๆของทางวัดสันพระเจ้าแดง โดยท่านครูบาได้นำเอาชนวนมวลสารวัตถุมงคลทุกรุ่นของท่านตั้งแต่การสร้างยุคแรกสมัยยังเป็นสามเณร(วิเศษ)จนถึงปัจจุบัน มาหลอมรวมในเนื้อพระกริ่งมังกรฟ้านี้ ทั้งยังได้ชนวนมวลสารจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และจากครูบาอาจารย์ต่างๆอย่างคับคั่ง ทั่วทั้งแผ่นดินในหลายยุคสมัย ทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะ จีน ธิเบตอันเป็นปฐมกำเนิดของตำนานพระกริ่ง ท่านได้รวมชนวนมวลสาร แร่ธาตุต่างๆทั้งหมด หล่อหลอมรวมอยู่ในพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์มังกรฟ้าชุดนี้ล้วนๆ รวมทั้งประกอบพิธีหล่อหลอมชนวนทั้งหมดเป็นแท่งๆ และนำมาเสกตั้งธาตุปรับกระแสก่อน จึงนำมาเทเป็นองค์พระโดยกรรมวิธีเทหล่อแบบโบราณ โดยได้ควบคุมงานทุกอย่างด้วยองค์ท่านเองทั้งหมด
พระชุดนี้เดิมทีคณะศิษย์ที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมพิธีเททอง คาดการกันว่ากระแสเนื้อขององค์พระจะต้องออกมาแบบวรรณะคล้ายเนื้อทองแดงหรือแบบเนื้อนวะ แต่พอเทเป็นองค์พระโดยสมบูรณ์แล้วกลับต้องแปลกใจไปตามกันหมด เนื่องจากกระแสเนื้อขององค์พระกลับออกเป็นสีทองอร่ามทุกองค์ มองเผินๆอาจคล้ายเนื้อทองเหลือง แต่หากสังเกตุดีๆแล้วจะทราบได้ชัดเลยว่าไม่ใช่..!! เพราะต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่พระชุดนี้กระแสนั้นออกคล้ายเนื้อทองมหาสัมฤทธิ์ หรือที่เรียกกันว่า เนื้อทองสัมฤทธิ์ม้าฬ่อ (โล่โก๊ะแตก) ซึ่งเป็นเนื้อสูตรเดียวกันกับพระกริ่งจีนนอก สมัยราชวงศ์ถัง แต่จะแตกต่างกันตรงที่ว่า เนื้อของพระกริ่งมังกรฟ้าจะมีความแข็งแกร่งและมีน้ำหนักมาก และที่ผิวมีวรรณะอยู่หลายกระแสนั่นเอง ตามที่ท่านครูบาท่านได้ตั้งจิตอธิษฐาน " ให้พระกริ่งชุดนี้บังเกิดมีฉัพพรรณรังสี " ที่สำคัญที่สุดพระกริ่งมังกรฟ้านี้จะเกิดฉัพพรรณรังสีให้เห็นได้ตามผิวขององค์พระ และจะเปลี่ยนแปลงไปตามบุญบารมีของผู้ครอบครอง
สำหรับวัตถุมงคลชุดนี้ได้ชื่อว่าพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์มังกรฟ้า ก็เนื่องมาจาก เป็นอีกสมญานามหนึ่งของท่านครูบากฤษดา ที่พระบูรพาจารย์และผู้ศรัทธาชาวจีน ฮ่องกง เรียกขานท่านในนามพระเถระมังกรฟ้า(เทียนหล่งซีฝู) และท่านก็ยังมีสำนักอยู่ที่ฮ่องกง ที่ลูกศิษย์รู้จักกันดีในชื่อ "สำนักมังกรฟ้า" เพราะฉะนั้นพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์รุ่นนี้จึงอาจกล่าวได้ว่าเปรียบเสมือนองค์แทนของท่านครูบากฤษดา อีกนัยยะหนึ่งมังกรยังเป็นสัญลักษณ์ของผู้มีบุญญาธิการสูง เช่นพระเจ้าจักรพรรดิ์ และมังกรฟ้ายังเป็นสิ่งคู่บารมีขององค์พระมหาโพธิสัตว์เจ้าผู้ที่ได้ก้าวล่วงเข้าสู่ความเป็นพระอริยะมหาโพธิสัตว์ขั้นปรมัตถบารมี(บารมีเต็ม) อาทิ พระมหาโพธิสัตว์กวนอิม พระมหาไภษัชยคุรุพุทธ ...ฯลฯ เป็นต้น
และพระกริ่งชุดนี้ท่านครูบายังได้ตั้งใจอธิษฐานจิตทุกวันยาวนานเป็นพิเศษกว่า 5 ปี ในระหว่างนั้นเมื่อท่านมีกิจนิมนต์เข้าพิธีที่ไหนท่านก็จะนำไปร่วมพิธีนั้นๆด้วย เพื่อให้บังเกิดความหลากหลายในอิทธิมหาพุทธานุภาพอย่างเปี่ยมล้นเป็นที่สุด และเวลาที่ท่านครูบามากราบเยี่ยมองค์หลวงปู่พิศดูที่วัดเทพธารทองท่านยังได้นำพระกริ่งชุดนี้ติดมาด้วยแทบทุกครั้ง เพื่อขอบารมีองค์หลวงปู่ร่วมอธิษฐานฝากกระแสเอาไว้ด้วยอีกหลายวาระ และเมื่อคราวที่วัดเทพธารทองได้จัดสร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ธัมมะจารี ท่านครูบาก็ยังได้นำพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์มังกรฟ้า เข้าพิธีพุทธาภิเษก พร้อมกันในตลอดราตรีของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 อีกด้วย โดยมีองค์หลวงปู่พิศดูเป็นองค์ประธาน พร้อมด้วยท่านครูบากฤษดาเป็นผู้ร่วมสวดพุทธมนต์พระธัมจักรกัปปวัตตนสูตร พระบารมี 30 ทัศน์ และสวดพุทธมงคลคาถาสำคัญต่างๆ ซึ่งจะช่วยหนุนนำส่งเสริมกันกับองค์หลวงปู่ได้อย่างลงตัวที่สุด
ในพิธีพุทธาภิเษกกระทำอย่างเรียบง่ายที่สุด แต่ดูมีความขลังศักดิ์สิทธิ์ที่สุด และเป็นครั้งแรกที่องค์หลวงปู่ท่านได้ตั้งใจใช้สายสิญจน์ในการประกอบพิธีอธิษฐานจิต (ปกติเพียงสวดมนต์ให้เท่านั้น)
พุทธลักษณะของพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์มังกรฟ้า มีอยู่ด้วยกัน 3 พิมพ์ คือ
พิมพ์พระกริ่งใหญ่ มีลักษณะอิ่มเอิบสมบูรณ์ เหมาะมากสำหรับไว้แช่ในน้ำเพื่อทำน้ำพระพุทธมนต์ ขนาดความสูง 4.6 ซ.ม.
พระกริ่งพิมพ์กลาง ขนาดความสูง 4.2 ซ.ม. ครับ องค์นี้สำหรับใช้บูชาติดตัว เพราะขนาดกำลังพอเหมาะ
ส่วนอีกพิมพ์หนึ่งเป็นพระชัยวัฒน์ ขนาดความสูง 1.4 ซ.ม. ขนาดองค์เล็กมากเหมาะสำหรับสุภาพสตรี เด็ก และผู้ที่ชอบพกพระชุดเล็ก
จำนวนสร้าง ทั้งหมด รวมกันทั้งสามพิมพ์เพียง 900 องค์เศษ
และเมื่อคราวที่วัดเทพธารทองได้สร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ธัมมะจารีขององค์หลวงปู่พิศดู ท่านครูบากฤษดาก็ยังได้เมตตามอบชนวนพระกริ่งมังกรฟ้านี้ให้มาเป็นชนวนในการหล่อหลอมอีกด้วย..
เพราะฉะนั้น ชุดพระกริ่งมังกรฟ้า และชุดพระกริ่งธัมมะจารี จึงอาจกล่าวได้ว่าดีเยี่ยมทุกประการ องค์ครูบาอาจารย์ทั้งสองท่าน ได้ ร่วมกันสรรค์สร้างสุดยอดศิริมงคลวัตถุที่ทรงคุณค่าที่สุดแห่งยุคอีกชุดหนึ่ง ยังให้บังเกิดผลอานิสงส์ทั้งในทางโลกและทางธรรม มีคุณครอบจักวาล ด้วยอิทธิบารมีมหาพุทธานุภาพที่เปี่ยมล้น เป็นวัตถุสมบัติทางพระศาสนา เพื่อมวลมนุษยชาติไว้กราบไหว้บูชาสักการะหมายเป็นที่พึ่งทางกายและใจ..