ประกาศรายชื่อแจกลูกอมพุทธคุณ ท่านมวลสารครูบาอาจารย์

ในห้อง 'แจกฟรี' ตั้งกระทู้โดย aetipp, 4 กันยายน 2011.

  1. cast

    cast สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2011
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +3
    1/37 ถ้าตอบผิดจะเป็นไรมั๊ยเนี่ย
    คิดเอาเองนะคะว่า
    ท่าน คงจะเก่งมากถึงขนาดเทศโดยไม่ต้องอ่าน ใช้ใบลานเปล่า ก็ยังเทศ ได้ ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2011
  2. chatpimuk

    chatpimuk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +28
    1/38 อนุโมทนาครับ
    ผู้ทรงใบลานเปล่าคือ ผู้ที่ศึกษารู้ซึ่งพระธรรมแต่ไม่สามารถมาปฏิบัติให้ประสบผลแก่ตนได้
     
  3. atfirst

    atfirst เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +155
    1/39 ครับ
    ผู้ทรงใบลานเปล่าหมายถึง เป็นผู้ทรง พระไตรปิฏก แต่ปาก แต่ว่าจริยาไม่เคยประพฤติตาม พระไตรปิฏก


    อนุโมทนาครับ
     
  4. peerakan

    peerakan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +94
    ลำดับที่ 2/3 ครับ

    1.ได้ส่งแผ่นทองร่วมหล่อพระในงานต่างๆในกระทู้ คุณโยมฝนครับ
    อ้างอิงจาก http://palungjit.org/threads/ปิดกระ...อนกรกฏาคม-โมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ.296085/page-5
    2.ได้ร่วมทำบุญสร้างสมเด็จองคปฐมวัด ลำพญากลางครับ

    ได้รับแล้วจ้า...ขอโมทนาด้วยจ้า...ขอความปรารถนาของโยมที่ตั้งใจแล้วจงสำเร็จ ๆ ดังปรารถนาจงทุก ๆ ประการเถิด...[/quote]
    ดูข้อควมในกระทู้ครับ อ้างอิงจากกระทู้http://palungjit.org/threads/ใหญ่ที...หน้าตัก-๒๐-เมตร-ณ-วัดลำพญากลาง.270709/page-11
    อนุโมทนาบุญครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2011
  5. dma

    dma Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +30
    ลำดับที่ 1/40 ค่ะ
    ผู้ทรงใบลานเปล่าคือ ท่านผู้ทรงพระไตรปิฎก แต่ว่าจิตของท่านนั้นไม่ได้ตัดกิเลสให้เป็นสมุจเฉทปหาน

    อนุโมทนาค่ะ
     
  6. sky6

    sky6 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    733
    ค่าพลัง:
    +457
    ลำดับที่ 2/4 บริจาคเงินซื้อที่ดินถวายวัดโพธิ์ชัย
    (หลวงพ่อพระใส) อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย วันที่ 27 สิงหาคม 2554
    ตามหนังสือแสดงการถวายที่ดิน เล่มที่ 5743 No 287120 ให้ไว้ ณ วันที่ 27 สิงหาคม
    พ.ศ. 2554
     
  7. ohgreat

    ohgreat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +32
    ลำดับที่2/5
    ร่วมบริจาคทรัพย์เช่าบูชาพระ100บาท ณ วัดโสธรวราราม วรวิหาร
    (ตามบัตรอนุโมทนา เล่มที่9450 เลขที่472455)

    ขออนุโมทนาครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1331.jpg
      IMG_1331.jpg
      ขนาดไฟล์:
      320.3 KB
      เปิดดู:
      49
  8. แสงเทียนทอง

    แสงเทียนทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +126
    ลำดับที่ 1/41
    ผู้ทรงใบลานเปล่า คือ ผู้ที่รู้จัก แต่...ไม่รู้แจ้ง
     
  9. sayank

    sayank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,118
    ค่าพลัง:
    +2,368
    1/42
    ผู้ที่ดูเหมือนทรงความรู้ แต่ไม่รู้อะไรเลย
     
  10. looknam1235

    looknam1235 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +6
    1/ 43
    ผู้ทรงใบลานเปล่า คือ ผู้รู้เพียงปริยัติ แต่ยังไม่บรรลุมรรคผล ได้แก่ คัมภีร์ที่ปราศจากตัวอักษร เปรียบเหมือนจิตที่ปราศจากธรรม
     
  11. ชัยธัช

    ชัยธัช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +1,969
    1/44 (เหมือนกับ เถรใบลานเปล่าครับ)

    คือ ผู้แตกฉานในพระไตรปิฏก แต่ไม่ได้นำมาปฎิบัติให้เกิดประโยชน์
     
  12. magic9999

    magic9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    278
    ค่าพลัง:
    +519
    1/45
    ผู้ทรงใบลานเปล่าแปลว่า ผู้รอบรู้ในทุก ๆ ด้าน แต่ไ่ม่สามารถนำไปใช้ได้เลย

    วิชัย
     
  13. ช้างป่า

    ช้างป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +16,480
    1/46

    ผู้ทรงใบลานเปล่า ในความคิดผมน่าจะแปลว่า คนที่มีความรู้ความสามารถแต่ในตำรา เมื่อถึงเวลาจริงๆไม่สามารถนำวิชาความรู้ที่อยู่ในตำรามาประยุกต์ใช้ได้จริงเมื่อต้องการในถาคปฎิบัติ
     
  14. sanya

    sanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    455
    ค่าพลัง:
    +2,687
    1/47 ผู้ทรงใบลานเปล่า น่าจะหมายถึงผู้ที่มีความรู้ ร่ำเรียนมามาก แต่ไม่เข้าใจเนื้อหาอย่างแท้จริง เข้าใจแต่ตามตำรา ตามคำสอน แต่หารู้จักรู้เนื้อแท้ของสิ่งที่ตนเข้าใจไม่
     
  15. ttt2010

    ttt2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +905

    1/48 คือการปฏิบัติตนอยู่ในกรอบแห่งบทบัญญัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้แสดงและบันทึกไว้แต่ครั้งพุทธกาล
    อนุโมทนาสาธุ
    ttt2010 ศิษย์พระอาจารย์บุญยง อภิลาโส ภิกขุ
    _____________________________________________________
    บอกบุญแหล่งทำบุญ

    ท่องวัดและศาสนสถานที่สำนักสงฆ์พรหมรังศรี
    เปิดดวง พิธีกรรมแก้ดวงชะตา (สำนักสงฆ์พรหมรังศรี)
    ร่วมบูรณะปฏิสังขรณ์พระอุโบสถวัดดอนพัฒนาราม พระนครศรีอยุธยา
    ร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างศูนย์วิปัสสนาศิริธรรม(นายาง)ต.นายาง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี<!-- google_ad_section_end -->
     
  16. totum

    totum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +508
    1/49
    ผู้ทรงใบลานเปล่าแปลว่า ผู้ที่รู้มากแต่เอาตัวไม่รอด
     
  17. ช้างป่า

    ช้างป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +16,480
    2/6
    อันนี้ผมได้ร่วมทำบุญ "เนื่องจากวัดศรีมุงเมือง จ.เชียงใหม่ ได้รับอัฐิธาตุส่วนข้อนิ้วมือ หลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน เมื่อ 13 มีค. 54 จึงมีดำริสร้างหอธรรมธาตุกลางน้ำขึ้นเพื่อประดิษฐาน และรวมรวมอัฐิธาตุของครูบาอาจารย์องค์อื่นด้วย " และในโอกาสนี้ผมได้ร่วมทำบุญด้วย ๑,๑๐๐ บาทด้วย ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_4284.jpg
      IMG_4284.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86 KB
      เปิดดู:
      48
    • IMG_4229.jpg
      IMG_4229.jpg
      ขนาดไฟล์:
      91 KB
      เปิดดู:
      47
  18. off4949

    off4949 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +70
    ลำดับ 2/7 ได้ร่วมบริจาคเงินค่าซ่อมแซ่มกุฏิหลวงปู่ ที่วัดคงคาราม จ.ชุมพร กับพี่ที่ทำงาน

    นายธนวัตร ระย้า
     
  19. Pichetchan

    Pichetchan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +726
    ลำดับ 2/8
    คือ คัมภีร์ที่ปราศจากตัวอักษร เปรียบเหมือนจิตที่ปราศจากธรรม รู้แต่ไม่ปฏิบัติ หรือปฏิบัติไม่ถึง มาจากพระไตรปิฎกครับ

    พระโปฐิละเป็นพระเถระรูปหนึ่งที่ทรงจำและแตกฉาน ในพระธรรมวินัยมาก ท่านเป็นอาจารย์สั่งสอนศิษย์จำนวนมาก แต่ท่านก็ไม่เคยลงมือปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง คงเรียนแต่พระปริยัติธรรมเท่านั้น ในเวลาที่ท่านเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจะเรียกท่านว่า “โปฐิละๆ” เป็นการกระตุ้นให้ท่านเกิดความสำนึกตัวว่า ท่านมีแต่ความทรงจำธรรมะได้ แต่ใจไม่มีธรรม ทั้งนี้ก็ด้วยพระมหากรุณาของพระพุทธเจ้านั่นเอง

    ธรรมดาของครูบาอาจารย์ผู้มีความกรุณาต่อศิษย์ ย่อมขวนขวายที่จะให้ศิษย์ได้ดี พระพุทธเจ้าได้ชื่อว่าเป็นบรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย จึงทรงขวนขวายสั่งสอนพุทธสาวกด้วยวิธีการต่างๆ ตามจริตนิสัยและวาสนาบารมีของแต่ละคน โดยมุ่งประโยชน์ของศิษย์ผู้นั้น เป็นสำคัญ แม้บางกรณีจะต้องทรมานให้ได้อายก็ตาม

    พระโปฐิละถูกเรียกเช่นนี้ก็ได้อายจริงๆ เมื่อทนไม่ไหวท่านจึงทูลลาพระพุทธเจ้าออกไปปฏิบัติธรรม เพื่อเติมใบลานคือใจของท่านให้เต็มไปด้วยอักษรคือธรรม

    ท่านมุ่งหน้าเข้าสู่วัดป่า เข้าไปขอเรียนกรรมฐานจากพระอาจารย์ใหญ่ของวัดป่า ซึ่งพระอาจารย์ใหญ่ก็ปฏิเสธที่จะสอนท่าน เพื่อทรมานให้ท่านลดมานะละทิฏฐิเสียก่อน ท่านก็เข้าไปขอเรียนกรรมฐานจากพระเถระลำดับรองลงไปตามลำดับจนถึงพระหนุ่มๆ แต่ไม่มีพระป่าแม้ แต่รูปเดียวที่ยอมสอนท่าน

    แล้วท่านก็ยอมลดทิฏฐิมานะจริงๆ เพราะในที่สุดท่าน ก็เข้าไปขอเรียนกรรมฐานกับสามเณรน้อยในวัดป่า

    สามเณรน้อยซึ่งพระอรรถกถาจารย์ไม่ได้กล่าวว่าท่านชื่ออะไร ระบุแต่ว่าท่านเป็นพระอรหันต์ ได้ทรมานพระโปฐิละให้สิ้นพยศ ด้วยการคาดคั้นพระเถระว่า ถ้าต้องการให้สามเณรสอนจริงๆ ท่านจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของอาจารย์เณรนะ พระเถระอยากได้ธรรมก็ยอมรับปาก แล้วทันใดนั้นสามเณรก็ออกคำสั่งที่เหมือนการกลั่นแกล้ง ท่านพระโปฐิละ ด้วยการสั่งให้ท่านลุยลงไปในสระน้ำทั้งที่ครองจีวรเนื้อดีราคาแพงอยู่ พระเถระท่านก็ลุยลงน้ำทันทีโดยไม่อิดเอื้อนเลย

    นี่เป็นตัวอย่างของศิษย์กรรมฐานที่มุ่งต่ออรรถต่อธรรมจริงๆ พวกเรารุ่นนี้ควรดูตัวอย่างเอาไว้บ้าง การเรียนกรรมฐานเป็นการขัดเกลากิเลสตนเอง ถ้าเรียนด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยทิฏฐิคือความคิดเห็นส่วนตัว หรือเรียนด้วยมานะคือความถือตัว เรียนอย่างไรก็หวังความสำเร็จได้ยาก แต่ถ้าพยายามขัดเกลาตนเองให้มาก โอกาสประสบความสำเร็จก็มีมากขึ้น

    พระมหาเถระลุยลงน้ำ พอชายจีวรเปียก สามเณรก็เรียกท่านให้กลับมา แล้วกล่าวว่า “ท่านผู้เจริญ ในจอมปลวกแห่งหนึ่งมีช่องอยู่ ๖ ช่อง มีเหี้ยเข้าไปอยู่ภายใน บุคคลผู้ประสงค์จะจับมัน พึงอุดช่องทั้ง ๕ ทำลายช่องที่ ๖ แล้วจึงจับเอา แม้ท่านก็จงปิดทวารทั้ง ๕ จงเริ่มตั้งกรรมฐานไว้ในมโนทวาร” สามเณรกล่าวเพียงเท่านี้ ท่านพระโปฐิละก็เกิดความเข้าใจแจ่มแจ้งในหนทางปฏิบัติทันที

    ๒. การทำกรรมฐานทางมโนทวารง่ายกว่าการทำ กรรมฐานทั้ง ๖ ทวาร

    หลักของการเจริญวิปัสสนากรรมฐานมีอยู่ว่า ให้ผู้ปฏิบัติ “มีสติรู้รูปนามตามความเป็นจริง จนเกิดความรู้ความเข้าใจรูปนามตรงตามความเป็นจริง และปล่อยวางความถือมั่นในรูปนามลงได้” ท่านพระใบลานเปล่าจะต้องทราบหลักการปฏิบัติเหล่านี้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะท่านแตกฉานในพระไตรปิฎกเป็นอย่างยิ่ง แต่ปัญหาของท่านก็คงเหมือนๆ กับปัญหาของพวกเราผู้สนใจการปฏิบัติธรรมในยุคนี้ คือ ไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นการปฏิบัติได้อย่างไร เพราะมีประเด็นที่น่าสงสัยอยู่อีกหลายอย่าง คือ

    (๑) ที่ว่าให้มีสตินั้น สติเป็นอย่างไร และจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ประเด็นนี้ยังเป็นปัญหากับนักปฏิบัติมาจนยุคนี้ เพราะแต่ละสำนักต่างก็มีวิธีที่แตกต่างกันในการสร้างสติ บางแห่งเน้นให้รู้ลมหายใจ บางแห่งให้รู้อิริยาบถ บางแห่งให้ทำจังหวะในการเคลื่อนไหว บางแห่งให้กำหนดอารมณ์ และบางแห่งให้ทำสมาธิอย่างจริงจังเสียก่อน เป็นต้น

    (๒) รูปนามที่จะต้องรู้คืออะไร และจะรู้รูปนามใดดี เพราะรูปนามมีอยู่มากเหลือเกิน ประเด็นนี้ก็ยังเป็นปัญหากับนักปฏิบัติมาจนถึงยุคนี้ ว่าควรจะเริ่มต้นปฏิบัติ ด้วยการรู้กายหรือรู้จิตดี เป็นต้น

    (๓) จะรู้รูปนามได้อย่างไรจึงจะรู้ได้ตรงตามความเป็นจริง ในเมื่อรูปนามปรากฏและเกิดดับอยู่ทางทวารทั้ง ๖ อย่างรวดเร็วจนตั้งหลักดูไม่ทัน ประเด็นนี้ก็ยังเป็นปัญหาของนักปฏิบัติมาจนถึงยุคนี้ บางแห่งก็พยายามหน่วงให้รูปนามเกิดช้าลง บางแห่งเมื่อรู้รูปนามแล้วก็ให้กำหนดรูปนามซ้ำลงไปอีกชั้นหนึ่ง และบางแห่งให้คิดพิจารณารูปนามหรือกายใจว่าเป็นไตรลักษณ์ เป็นต้น

    ถ้าเราฟังคำสอนของสามเณรผู้เป็นพระอรหันต์ การปฏิบัติของเราจะทำได้ง่ายขึ้นมาก ไม่มีความยุ่งยากเหน็ดเหนื่อยใดๆเลย คือแทนที่จะพยายามรู้อารมณ์หรือทำกรรมฐานทางทวารทั้ง ๖ อันเป็นการพยายามจับเหี้ยหรือความปรุงแต่งโดยจ้องตะครุบอยู่ถึง ๖ ช่องทาง ก็ให้มาทำอยู่เพียงทวารเดียว คือทางมโนทวารหรือทวารใจ โดยการหัดรู้สภาวธรรมหรืออารมณ์ปรมัตถ์ที่เกิดขึ้นทางใจ อันเป็นปฏิกิริยาของจิตภายหลังการกระทบอารมณ์ทางทวารทั้ง ๖ จนกระทั่งจิตรู้จักและจดจำสภาวะของปฏิกิริยาทั้งหลายได้ แล้วสติจะเกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

    ยิ่งรู้จักสภาวธรรมมาก สติก็ยิ่งเกิดบ่อย เมื่อมีสติบ่อยๆ อนุสัยจะค่อยถูกละไป และคุณธรรมฝ่ายดีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อินทรียสังวรศีล สัมมาสมาธิ และวิปัสสนาปัญญา ย่อมเกิดตามมา จนกระทั่งจิตบรรลุถึงวิมุตติได้ด้วยปัญญาขั้นสูงสุด คืออริยมรรคที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ต่อไป

    การเจริญสติตามรู้ความเป็นจริงของอารมณ์ปรมัตถ์ที่ปรากฏทางทวารทั้ง ๖ มีข้อดีคือครอบคลุมการเจริญวิปัสสนากรรมฐานได้ทุกอย่าง และจัดอยู่ในธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน อันเป็นกรรมฐานที่เหมาะสมกับผู้มีทิฏฐิจริตที่มีปัญญากล้ามากๆ แต่สำหรับบุคคลทั่วไปที่ปัญญายังไม่แก่กล้านัก การทำกรรมฐานทั้ง ๖ ทวาร จัดเป็นงานที่มาก ยากและเกินความจำเป็น...
     
  20. tatoobuga

    tatoobuga Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    432
    ค่าพลัง:
    +76
    1/50
    ผู้ทรงใบลานเปล่า น่าจะหมายถึง ผู้ที่มีความรู้ มีสติปัญญา ร่ำเรียนมามากมายในด้านหลักธรรม (เก่งด้านทฤษฎี) แต่ไม่สามารนำหลักธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาปฎิบัติได้อย่างถูกต้อง
     

แชร์หน้านี้

Loading...