ร่างพ.ร.บ.ธนาคารพุทธฯเรียบร้อย รมต.สุรวิทย์รอ'พศ.'ชง

วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7590 ข่าวสดรายวัน


ร่างพ.ร.บ.ธนาคารพุทธฯเรียบร้อย รมต.สุรวิทย์รอ'พศ.'ชง



น.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ตนวางแผนที่จะดำเนินการงานด้านพระพุทธศาสนาใน 3 เรื่องสำคัญ คือ 1.จากการที่ไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม ตนได้หารือกับนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธฯ เห็นว่าจะต้องมีการตั้งสำนักงานกลางพระพุทธศาสนาโลกขึ้นที่ประเทศไทย โดยขณะนี้ตนได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการดำเนินการเรื่องนี้แล้ว และต้องการให้มีการวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างสำนักงานนี้ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา 2.การใช้สื่อในการเผยแพร่เรื่องราวในด้านต่างๆ เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ซึ่งในปัจจุบันมีสื่อในลักษณะนี้อยู่มากพอสมควร โดยมีทั้งโทรทัศน์และวิทยุ ดังนั้น จะให้สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลให้กับสื่อต่างๆ รวมทั้งส่งเสริมการเผยแพร่ไปยังต่างประเทศด้วย 3.การจัดตั้งธนาคารพระพุทธศาสนา ซึ่งทราบมาว่าขณะนี้มีการร่าง พ.ร.บ.ธนาคารพระพุทธศาสนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น จะให้สำนักงานพระพุทธฯ นำร่าง พ.ร.บ.นี้มานำเสนอตน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและให้สามารถจัดตั้งธนาคารพระพุทธศาสนาได้สำเร็จ

นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักพุทธฯ กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.ธนาคารพระพุทธศาสนามีอยู่เพียง 1 ฉบับ โดยเป็นร่างพ.ร.บ.ธนาคารพระพุทธศาสนาที่ร่างโดยคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ในรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งในขณะนั้นมีนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง เป็นประธานคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ นำเสนอไปยังน.พ.สุรวิทย์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงจำเป็นที่จะต้องนำร่างพ.ร.บ.นี้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ที่มีสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน เพื่อขอความเห็นชอบก่อน

[FONT=Tahoma,]หน้า 31[/FONT]

��ҧ�.�.�.��Ҥ�þط�����º���� ���.����Է����&#039��.&#039�� : ����ʴ�͹�Ź�==

 

เห็นด้วยครับ แต่กรุณาอย่าไปแซกแซง ปัจจัยพระ หรือ ปัจจัยสงฆ์ ผ้าป่า กฐิน นะครับ (คล้ายกรรมการวัดในปัจจุบัน)

 

ถ้าตั้งได้ ผมไม่อยากให้เอากำไรเป็นที่ตั้งมากเกินไป
เอาแค่พออยู่ได้ เหมือนศาสนาพุทธ ไม่หย่อน ไม่ตึง
และอีกอย่าง เวลาจะปล่อยให้กู้เงิน ผมอยากให้พิจารณาให้รอบคอบ
ภายในธนาคารอยากให้มีคำสอนต่างๆประดับไว้ เอาไว้เตือนใจคนกู้
ว่าอย่าโลภมาก ให้พอเพียง ฯลฯ รวมถึงทางธนาคารควรน่าจะมีหน่วยงาน
เป็นคณะที่ปรึกษาไปลงพื้นที่จริงสำหรับคนที่จะขอกู้ทำธุรกิจ
ช่วยแนะนำแนวทางต่างๆ

โดยในคณะนั้นควรจะประกอบไปด้วยท่านผู้ชำนาญการด้านต่างๆ เช่น

1.พระสงฆ์
2.เจ้าหน้าที่ทางด้านการเงิน
3.เจ้าหน้าที่ด้านกฎหมาย
4.วิศวกร
5.เจ้าหน้าที่ครีเอทีฟ
6.เจ้าหน้าที่เฉาพะทางสำหรับธุรกิจนั้นๆ เช่น ทางด้านเกษตร หัตถกรรม ศิลปะ ฯลฯ

ทุกวันนี้ที่มันมีปัญหาเรื่องกู้เงินก็เพราะ กู้ไปแล้วลูกหนี้ไม่มีปัญญาใช้คืน
เนื่องด้วยสาเหตุการที่ทำธุรกิจแล้วล้มเหลว ซึ่งในจุดนี้ถ้านำคณะบุคคลที่ผมว่าไป
ลงไปช่วยลูกหนี้ได้ ลูกหนี้ก็จะมีความสามารถที่จะใช้เงินคืน
แล้วก็ไม่ต้องเที่ยวไปพึ่งพวกเงินกู้นอกระบบมหาโหดกันอีกต่อไป


ถ้าทำได้ผมว่า สุดยอดเลย เหมือนธนาคารคนจนในต่างประเทศที่เคยออกข่าวอ่ะครับ
เขาปล่อยกู้ให้คนจน แต่เขาก็ลงไปแก้ปัญหาให้ลูกหนี้ด้วย
ผลสุดท้าย คนหายจน ธนาคารอยู่ได้

 

บรรจุคาถาเงินล้านไว้หน้าสมุดก็ดีนะ

 

ดีแล้วครับ...ให้สำเร็จเป็นเรื่องเป็นเรื่องไป....

พระพุทธศาสนาไทยก้าวหน้าอย่างมั่นคง....

 

ก็ดีนะคะ ให้พระเณร กู้ยืมเรียน

ถ้าเปิดอยู่ใกล้ๆบ้าน จะเอาเงินไปฝากค่ะ

 

ชอบความคิดเห็นของท่านจังครับ