เพลงยาวพยากรณ์ กรุงศรีอยุธยา

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 17 ธันวาคม 2006.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    เพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยานี้
    ข้าพเจ้าขอพิมพ์เผยแพร่ถวาย
    เป็นบุญกุศล พุทธบูชา ถวายเป็นพระราชกุศลแด่
    องค์สมเด็จนารายมหาราช

    เนื่องจากข้าพเจ้าได้คัดลอก กลอนบทนี้ทั้งหมดมาจาก
    เพลงยาวพยากรณ์ฯ ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์
    ในองค์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช

    ขอเชิญท่านทั้งหลาย ( ในบอร์ด )
    ได้อ่านและน้อมปฏิบัติบูชาด้วยทั่วกัน

    จะกล่าวถึงกรุงศรีอยุธยา
    เป็นกรุงรัตนราชพระศาสนา
    มหาดิเรกอันเลิศล้น
    เป็นที่ปรากฏรจนา
    สรรเสริญอยุธยาแห่งหน
    ทุกบุรีสีมามณฑล
    จบสกลลูกค้าวาณิช
    ทุกประเทศสิบสองภาษา
    ย่อมมาพึ่งกรุงศรีอยุธยาเป็นอกนิฐษ์
    ประชาราษฏ์ปราศจากภัยพิษ
    ทั้งความวิกลจริตแลความทุกข์
    ฝ่ายองค์พระบรมราชา
    ครองขัณฑสีมาเป็นสุข
    ด้วยพระกฤษฏีกาทํานุก
    จึงอยู่เย็นเป็นสุขสวัสดี
    เป็นที่อาศัยแก่มนุษย์ในใต้หล้า
    เป็นที่อาศัยแก่เทวดาทุกราศี
    ทุกนิกรนรชนมนตรี
    คหบดีชีพราหมณ์พฤฒา
    ประดุจดังศาลาอาศัย
    ประหนึ่งร่มพระไทรอันสาขา
    ประดุจหนึ่งแม่นํ้าพระคงคา
    เป็นที่สิเนหาเมื่อกันดาร
    ด้วยพระเดชเดชาอานุภาพ
    อาจปราบไพรีทุกทิศานต์
    ทุกประเทศเขตขัณฑ์บันดาล
    แต่งเครื่องบรรณาการมานอบนบ
    กรุงศรีอยุธยานั้นสมบูรณ์
    เพิ่มพูนด้วยพระเกียรติขจรจบ
    อุดมบรมสุขทุกแผ่นภพ
    จนคํารบศักราชได้สองพัน

    คราทีนั้นฝูงสัตว์ทั้งหลาย
    จะเกิดความอันตรายเป็นแม่นมั่น
    ด้วยพระมหากษัตริย์มิได้ทรงทศพิธราชธรรม์
    จึงเกิดเข็ญเป็นมหัศจรรย์สิบหกประการ
    คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพศ
    อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศานต์
    มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาล
    เกิดนิมิตพิสดารทุกบ้านเมือง
    พระคงคาจะแดงเดือดดังเลือดนก
    อกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง
    ฝีป่าก็จะวิ่งเข้าสิงเมือง
    ผีเมืองนั้นจะออกไปอยู่ไพร
    พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนี
    พระกาลกุรีจะเข้ามาเป็นไส้
    พระธรณีจะตีอกไห้
    อกพระกาฬจะไหม้อยู่เกรียมกรม
    ในลักษณ์ทํานายไว้บ่ห่อนผิด
    เมื่อวินิศพิศดูก็เห็นสม
    มิใช่เทศกาลร้อนก็ร้อนระงม
    มิใช่เทศกาลลมลมก็พัด
    มิใช่เทศกาลหนาว ก็หนาวพ้น
    มิใช่เทศกาลฝน ฝนก็อุบัติ
    ทุกต้นไม้หย่อมหญ้าสารพัด
    เกิดวิบัตินานาทั่วสากล
    เทวดาซึ่งรักษาพระศาสนา
    จะรักษาแต่คนฝ่ายอกุศล
    สัปปุรุษจะแพ้แก่ทรชน
    มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก
    ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว
    คนชั่วจะมล้างผู้มีศักดิ์
    ลูกศิษย์จะสู้ครูพัก
    จะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย
    ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอํานาจ
    นักปราชญ์จะตกตํ่าต้อย
    กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย
    นํ้าเต้าอันน้อยจะถอยจม
    ผู้มีตระกูลจะสูญเผ่า
    เพราะจัณฑาลมันเข้ามาเสพสม
    ผู้มีศีลนั้นจะเสียซึ่งอารมณ์
    เพราะสมัครสมาคมด้วยมารยา
    พระมหากษัตริย์จะเสื่อมสิงหนาท
    ประเทศราชจะเสื่อมซึ่งยศถา
    อาสัตย์จะเลื่องลือชา
    พระธรรมาจะตกลึกลับ
    ผู้กล้าจะเสื่อมใจหาญ
    จะสาบสูญวิชาการทั้งปวงสรรพ
    ผู้มีศีลจะถอยจากทรัพย์
    สัปปุรุษจะอับซึ่งนํ้าใจ
    ทั้งอายุจะถอยเคลื่อนจากเดือนปี
    ประเวณีจะแปรปรวนตามวิสัย
    ทั้งพืชแผ่นดินจะผ่อนไป
    ผลหมากรากไม้จะถอยรส
    ทั้งแพทย์พรรณว่านยาจะอาเพศ
    เคยเป็นคุณวิเศษก็เสื่อมหมด
    จวงจันทร์พันธ์ไม้อันหอมรส
    จะถอยถดไปตามประเพณี
    ทั้งข้าวจะยากหมากแพง
    สารพันจะแห้งแล้งเป็นถ้วนถี่
    จะบังเกิดทรพิษมิคสัญญี
    ฝูงผีจะวิ่งเข้าปลอมคน
    กรุงประเทศราชธานี
    จะเกิดการกุลีทุกแห่งหน
    จะอวดอ้างอดใจทั้งไพร่พล
    จะสาละวนทั่วโลกทั้งหญิงชาย
    จะร้อนอกสมณาประชาราษฏร์
    จะเกิดเข็นเป็นอุบาทว์นั้นมากหลาย
    จะรบราฆ่าฟันกันวุ่นวาย
    ฝูงคนจะล้มตายลงเป็นเบือ
    ทางนํ้าก็จะแห้งเป็นทางบก
    เวียงวังก็จะรกเป็นป่าเสือ
    แต่สิงสาราสัตว์เนื้อเบื้อ
    นั้นจะหลงหลอเหลือในแผ่นดิน
    ทั้งผู้คนสารพัดสัตว์ทั้งหลาย
    จะสาญสูญล้มตายเสียหมดสิ้น
    ด้วยพระกาฬจะมาผลาญแผ่นดิน
    จะสูญสิ้นการรนรงค์สงคราม
    กรุงศรีอยุธยาจะสูญแล้ว
    จะลับรัศมีแก้วเจ้าทั้งสาม
    ไปจนคํารบปีเดือนคืนยาม
    จนสิ้นนามศักราชห้าพัน
    กรุงศรีอยุธยาเกษมสุข
    แสนสนุกยิ่งลํ้าเมืองสวรรค์
    จะเป็นเมืองแพศยาอาธรรม์
    นับวันจะเสื่อมสูญเอย ฯ
     
  2. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    <CENTER>
    [​IMG]
    [​IMG]
    พระราชประวัติ

    </CENTER>
    <TABLE cellSpacing=0 border=0><TBODY><TR><TD><DD>สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าปราสาททอง กับพระราชเทวี
    ( พระราชธิดาในสมเด็จพระเอกาทศรถ ) ประสูตรเมื่อวันจันทร์ เดือนยี่ ปีวอก พุทธศักราช 2175
    พระองค์ทรงได้รับการศึกษาจากพระโหราธิบดีพระอาจารย์พรหมพระพิมลธรรม และสมเด็จพระพุทธ
    โฆษาจารย์ ทรงเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อวันพฤหัสบดี แรม 2 ค่ำเดือน 12 ปี วอก พุทธศักราช
    2199 เมื่อพระชนมายุได้ 25 พรรษา พระองค์ประทับอยู่ ณ พระราชวังบวรสถานมงคล ต่อมาเมื่อ
    ปีฉลู พุทธศักราช 2204 หรือปีขาล 2205 พระองค์จึงได้เสด็จประทับ ณ [​IMG]พระราชวังหลวงในปี
    พุทธศักราช 2209 สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
    ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมืองลพบุรีเพื่อเป็นราชธานี
    สำรอง และทรงแปรพระราชฐานเสด็จประทับปีหนึ่ง
    เป็นเวลาถึง 8-9 เดือน สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
    ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีปรีชาสามารถ พระองค์
    ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองอย่างเร่งด่วน ทรงช่วยเหลือ
    พสกนิกรด้วยการงดเก็บภาษีอากร ทรงส่งเสริมให้ประชาชนประกอบอาชีพทำนา ทรงส่งเสริมการค้าขาย
    กับชาวต่างชาติหลายประเทศ โดยใช้เรือกำปั่นหลวง และทรงโปรดที่จะคบค้า[​IMG]สมาคมกับชนทุกชนชาติ
    ด้วยประสงค์ที่จะเรียนรู้ความก้าวหน้าของประเทศต่าง ๆ เพื่อนำมา
    ปรับปรุงประเทศให้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการถ่วงดุลอำนาจของประเทศ
    ต่าง ๆ ด้วยพระองค์เป็นผู้รอบรู้ในวิชาการ ทรงนำเอาวิวัฒนาการทาง
    ด้านศิลปะกรรม และสถาปัตยกรรมของชาวยุโรปมาเป็นต้นแบบใน
    การสร้างพระราชวังใหม่

    [​IMG]
    <DD>การเจริญสัมพันธไมตรีกับอารยะประเทศเป็นสิ่งที่พระองค์
    ทรงเล็งเห็นความสำคัญ ได้ส่งราชทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับ
    พระเจ้าหลุยที่ 14 แห่งฝรั่งเศส และองค์สังฆราชแห่งกรุงโรม นับ
    เป็นการเปิดศักราชใหม่ ของการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชาว
    ยุโรปเป็นครั้งแรกของไทย ด้วยพระปรีชาสามารถของพระองค์
    ชาวไทยทุกคนจึงพรอ้มใจกันถวายพระสมัญญานาม "มหาราช"
    แด่พระองค์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสด็จดำรงราชสมบัติอยู่
    32 ปี สิริรวมพระชนมายุได้ 56 พรรษา เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 11
    กรกฎาคม 2231 ชาวจังหวัดลพบุรีได้ร่วมการสร้างพระ[​IMG]บรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
    ขนาดเท่าครึ่งพระองค์จริง ประดิษฐานไว้กลางวงเวียนเทพสตรี ซึ่งในทุกปี
    จังหวัดลพบุรีได้จัดการแสดง แสง สี เสียง พร้อมนิทรรศการเทิดพระเกียรติ
    พระองค์ท่านในงาน "แผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช" ที่บริเวณ
    พระนารายณ์ราชนิเวศน์
    [​IMG]</DD></TD></TR><TR><TD>
    </TD></TR>
    </TBODY></TABLE>
    <CENTER>[​IMG] </CENTER><CENTER>
    </CENTER><CENTER>ที่มา http://www.guide.ksc.net.th/lopburi/per.htm

    </CENTER>
     
  3. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    <CENTER>ไทยจะเป็นมหาเศรษฐี</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER><DD>ท่านสาธุชนพุทธบริษัท วันนี้ก็ยังเป็น วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๓๓ ตามเดิม แต่ว่าพูดเป็นตอนที่ ๒ ตอนนี้ขอพูดถึงตอนที่ ไทยจะเป็นมหาเศรษฐี ถ้าสงครามโลกเกิดขึ้น ท่านทั้งหลายคิดออกหรือยังว่าสงครามโลกเกิดขึ้น และมันก็ไม่ได้เกิดกับประเทศไทยโดยตรง มันเกิดภายนอกประเทศเขตของไทย
    <DD>เป็นอันว่า ลูกปืนก็ไม่มาถึงประเทศไทย เครื่องบินก็ไม่มาถึงประเทศไทย แต่ต้องระวังจรวด เรื่องจรวดนี่ต้องระวังกันหน่อย เพราะจรวดมันมาจากใต้น้ำได้ มันยิงทางไกลได้ ถ้ามันจะเกิดขึ้นบ้าง ก็เป็นขนาดย่อม ๆ ตามจุดต่าง ๆ เป็นจุดเล็ก ๆ อาจจะโผล่จุดนี้บ้างจุดนั้นบ้าง เป็นการทำให้รวนกำลังของทหาร รวนแล้วจะตั้งกลุ่มขึ้นบางจุด เป็นกลุ่มใหญ่หน่อย ก็ไม่มีอะไรน่าหนักใจ ก็รวมความว่า สงครามโลกไม่มีเรื่องหนักใจในเรื่องการตายของเรา เรื่องรังสีของวิทยาศาสตร์ รัศมีต่าง ๆ ไม่ต้องวิตกกังวล ขอยืนยันว่า " บุคคลที่นับถือพระพุทธเจ้า จะไม่ตายเพราะรังสีต่าง ๆ ตามที่บอกมาแล้ว ..."
    <DD>ทีนี้ความร่ำรวยอะไรมันจะเกิดขึ้นบ้าง ประการแรก ขอบอกว่าเรื่องน้ำมันจะเป็นเหตุให้รวย เพราะว่าทุกประเทศต้องใช้น้ำมัน และอีกประการหนึ่งนั่นก็คือว่า ถ้าสงครามโลกเกิดขึ้นจริง ๆ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เข้าสงครามโดยตรง แต่ว่าทหารของประเทศบางประเทศอาจจะต้องยกเข้ามาตั้งในจุดใดจุดหนึ่งของประเทศไทย เวลานั้นเราก็ขายน้ำมันให้เขา เราก็รวย ถ้ามีกองทหารอื่นเข้ามา มันจะดีหรือไม่ดี นี่ก็เป็นเรื่องของการเมือง แต่มีความจำเป็นเกิดขึ้นก็ต้องยอมรับ ถ้ามีการยอมรับ รายได้ต่าง ๆ ของประชาชนก็เกิดขึ้น
    <DD>ทีนี้รัศมีสงคราม ในเมื่อมันไม่ถึงประเทศไทย เราก็ไม่มีความลำบาก บรรดาท่านที่ทำนาทั้งหลาย ท่านที่มีนา อย่าเพิ่งขายนาในราคาแพงมากนัก คือ ขายก็ขายเถอะ! แต่อย่าขายให้มันหมด ... ก็มีคนหลายคนมาบอกว่า มีที่ ๒๐ ไร่บ้าง ๓๐ ไร่บ้าง ๕๐ ไร่บ้าง ๑๐๐ ไร่บ้าง อยากจะขาย ขายได้ไร่ละเป็นล้าน นี่ก็เห็นใจเหมือนกัน
    ความจริงเงินนับล้านเป็นของหายาก ก็เห็นใจ เขาอาจจะตั้งตัวอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ถ้าไม่ลืมตัว แต่ว่าบางท่านที่ไม่มีโอกาสจะขายนาของท่านได้ นาของท่านอยู่ไกลที่เจริญ อยู่ไกลแม่น้ำ ไกลถนน ถ้าเขาจะซื้อ ก็ซื้อราคาถูก ท่านก็ไม่อยากจะขาย ท่านจะขายราคาแพง ในที่สุดท่านก็ไม่มีโอกาสจะขาย ในเมื่อเวลานี้ไม่มีโอกาสจะขาย ท่านอาจจะเสียดายว่าที่นาของเราไม่ได้ขาย เราไม่รวย
    <DD>แต่ทว่าถ้าสงครามโลกเกิดขึ้นจริง ๆ ท่านจะดีใจ เพราะนาท่านไม่ได้ขาย ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะข้าวของท่านที่ออกมา ราคามันแพง มันจะขายได้ดี ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็จะแพงกันหมด ดูสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทุกสิ่งทุกอย่างมันหายาก ยิ่งเขายิ่งรบกัน โอกาสที่เขาจะทำมันก็มีน้อย เขาต้องใช้เวลารบกันมากขึ้น ทีนี้เราก็ขายได้ดี
    <DD>มาส่วนด้านอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมก็ดีมาก แต่ว่าอุตสาหกรรมก็ต้องระวังโรงงาน โรงงานต่าง ๆ ต้องระวังระเบิดภาคพื้นดิน ไม่ใช่ระเบิดจากอากาศ ระเบิดภาคพื้นดินจะอาละวาด ถ้าจะถามว่า หาทางป้องกันอย่างไร? นี่เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ - ทหาร หรือท่านเจ้าของโรงงาน ทางด้านพุทธศาสนาก็มี บอกไม่ได้ จะบอกได้อย่างไรว่า เรานับถือพระพุทธเจ้าเท่ากันหรือเปล่า ถ้านับถือเท่ากัน ก็เอาของที่ท่านให้ไว้ ท่านให้ไว้นั่นก็คือความดี ของดีถ้ามีไว้ในรัศมีนั้นจะไม่มีอันตรายจากภัยระเบิด และภัยโจมตีต่าง ๆ จะไม่เกิดขึ้น
    <DD>เหมือนกับสมัยนี้ ผ.ก.ค. ในที่ต่าง ๆ เคยถูกโจมตี และเจ้าของสถานที่นั้น เจ้าหน้าที่ในที่นั้นเกิดมีความเคารพพระพุทธเจ้าขึ้นมา มีของอย่างใดอยางหนึ่งเป็นสัญญลักษณ์แสดงไว้เป็นเขตในเขตนั้น ปรากฏว่าตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาไม่เคยถูกโจมตี หรือข้าศึกยิงเข้ามาก็ไม่เข้าสถานที่ตรงหน้าไม่เข้าฐาน เป็นอันว่าทหารในเขตนั้นก็ปลอดภัย ข้อนี้เป็นสัญญลักษณ์แสดงให้เห็นว่า
    <DD>ถ้าเรานับถือพระพุทธศาสนาจริงและยอมรับนับถือพระพุทธเจ้าจริง สิ่งใดที่ท่านให้ไว้ สิ่งนั้นเราเคารพด้วยความจริงใจ แล้วทุกท่านจะปลอดภัยจาก "สงครามโลกครั้งที่ ๓"
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    <DD>ทีนี้ถ้าโรงงานต่าง ๆ มีความเคารพพระพุทธเจ้าด้วยความจริงใจจริง ๆ โรงงานนั้น ๆ จะพ้นอันตรายจากระเบิด และการทำอันตรายต่าง ๆ จากสรรพาวุธ จะไม่เกิดขึ้นกับโรงงานนั้น โรงงานนั้นในเมื่อผลิตของได้ก็จะขายดี รวย เขารบกัน เขาไม่มีเวลาทำ เรามีเวลาทำ เพราะเราไม่ต้องรบ เขาต้องสูญ ต้องเสียเงินเพื่อการรบ การรบต้องใช้เงินมาก เราไม่ต้องสูญเสียเงินเพราะการรบ เราก็ขายของของเรา ในเมื่อของมันขาด ราคาก็แพง ในเมื่อขายของได้ราคาแพงมาก รัฐบาลก็ได้ภาษีอากรมากขึ้น ประเทศก็รวย คนในประเทศก็รวย นี่พูดถึงความร่ำรวยที่ไทยจะเป็นเศรษฐี
    <DD>โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำมันตามจุดต่าง ๆ ที่บริษัทเขาเจาะไว้ เขาบอกว่ามันไม่พอใช้ มันก็จะปรากฏขึ้น เพราะเราไม่มีโอกาสซื้อน้ำมันต่างประเทศ ถ้าน้ำมันต่างประเทศจะซื้อได้ยาก ราคาแพง อันนี้เขาจะดึงขึ้นมาใช้ ราคาเหมือนราคาต่างประเทศ อย่างนี้อุตสาหกรรมของเราก็จะรวยไม่ได้ ถ้าบังเอิญคนไทยอย่างที่ฝาง ใช้หัวเจาะลึก ๆ หัวเจาะยาว ๆ เจาะลงไปลึก ๆ แต่ตามหลักวิชาการเขามีอยู่ อาตมาก็ไม่ได้ค้านตามนั้นนะ ลองเจาะดูตามที่ ดร. สรรพศาสตร์ ท่านพูด ...
    <DD>ดร. สรรพศาสตร์ ท่านบอกว่า ที่ใดก็ตาม เจาะลงไป มันจะมีน้ำมัน แต่ว่าผิวดินมันจะลึกจะตื้นกว่ากัน นั่นอีกอย่างหนึ่งต่างหาก เท่าที่เขาเจาะเวลานี้ ยังไม่ถึงขุมน้ำมันจริง ๆ มันไปถึงต่อมเล็ก ๆ บนหลังถังของน้ำมัน ยังไม่ถึงถังน้ำมันแท้ ถ้าใช้หัวเจาะประมาณ ๖ กิโลเมตร อย่างอังกฤษเจาะ อย่างนี้ไม่ต้องใช้กี่บ่อแล้ว เพียงแค่ ๑๐ บ่อ ดึงกันวันไม่รู้จักเท่าไร เท่าไรก็ไม่รู้จักหมด เราใช้ประมาณ ๓๐ เท่า หรือ ๓๐๐ เท่าของเวลานี้ สัก ๑,๐๐๐ ปี มันก็ไม่หมด เพราะมันเป็นทะเลใหญ่ นี่ ดร. สรรพศาสตร์ท่านพูดอย่างนี้นะ ...
    <DD>ถ้าบังเอิญคนไทยของเราดึงขึ้นมาได้เอง เราก็กดราคาน้ำมันให้ต่ำลงไป อย่างแพงที่สุดก็เท่าราคาน้ำมันในปัจจุบัน รักษาราคาน้ำมันไว้ ต่างประเทศเขาต้องซื้อแพง เราถูก อุตสาหกรรมของเราก็มีราคาถูก ขายก็ได้กำไร กำไรก็จะมีมาก กำไรจากอุตสาหกรรมด้วย กำไรจากเกษตรกรรมด้วย กำไรจากน้ำมันด้วย และก็จะมีกำไรมากมาย ประเทศไทยก็จะเป็นมหาเศรษฐี
    <DD>ทีนี้ต่อไป มันก็มีเวลาเหลือ บรรดาท่านพุทธบริษํท ก็มาคุยกันว่า ถ้าสงครามโลกไม่เกิด จะว่าอย่างไร ก็ต้องตอบว่า ถ้าสงครามโลกไม่เกิดก็เป็นของดี แต่ว่าท่าน ดร. สรรพศาสตร์นี้ก็เช่นเดียวกัน ท่านบอก เขาไม่เรียก "สงครามโลก" เขาเรียก "สงครามใหญ่" มันเป็นสงครามใหญ่ ไม่ใช่สงครามโลก</B>
    <DD>ก็เป็นอันว่า ถึงแม้จะเป็นสงครามโลกก็ตาม สงครามใหญ่ก็ตาม ถ้ามันเกิดขึ้นจริง เราก็เอาบทเรียนจาก "สงครามโลกครั้งที่ ๒" มาใช้กัน
    ๑. ผ้าในสมัยนั้น หาคนนุ่งผ้าดีได้ยาก ส่วนมากก็จะมีคนนุ่งผ้าขาด ๆ เพราะเวลานั้นโรงงานทำผ้าของเรายังมีน้อย แต่เวลานี้โรงงานทำผ้าของเรามีมาก แต่ก็ไม่แน่นอนนัก บางทีระเบิดเพลิงก็เกิดจากภาคพื้นดินก็ได้ ถ้าระเบิดเพลิงจากภาคพื้นดินเกิดกับโรงงาน โรงงานทำผ้าของเราก็จะสลายตัวไป ผ้าของเราก็จะน้อย
    <DD>อันดับแรก เตรียมผ้าไว้ก่อน
    <DD>อันดับที่สอง เตรียมพื้นดินไว้ ถ้ามีอยู่บ้าง ไม่มากไม่มาย ก็อย่าเพิ่งรีบขายเกินไป ถ้าได้กำไรมาก ๆ เป็นล้าน ๆ ก็ไม่ว่าอะไร ขายเถอะ! แล้วเก็บเงินไว้ให้ดี อย่าใช้ให้มันหมดตัว จะคิดว่าถ้ามันหมดแล้ว เราไม่มีทางจะหาที่ดินมาขายได้ใหม่
    ประการที่สอง ก็เตรียมเนื้อ เตรียมกาย เตรียมใจ เตรียมใจไว้ นึกถึงความจริงตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนว่า "โลกเต็มไปด้วยทุกข์ โลกไม่มีความสุข โลกเป็นอนิจจัง หาความเที่ยงไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นอนิจจัง มันก็เป็นทุกข์ ในที่สุดก็เป็นอนัตตาตายหมด ... "
    <DD>ถ้ามันเป็นอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร ความจริงเป็นอย่างนั้น ถ้าเรายอมรับก็ไม่เป็นไร ถ้าจิตยังไม่ยอมรับมันก็มีความดิ้นรน มันก็มีความเร่าร้อน ถึงจะดิ้นรนจะเร่าร้อนขนาดไหนก็ตาม เราก็จะหนีไม่พ้นในเมื่อหนี้ไม่พ้น เราก็ต้องทนสู้ ทนสู้กับภาวะสงคราม ทีนี้เราจะสู้กับใคร เราก็สู้กับตัวเราเอง นั่นคือ ต้องใช้น้อย กินน้อย นอนมาก ๆ และตื่นไว ๆ ใช้กำลังร่างกายทำการงานให้ดี ได้พูดอย่างนี้ก็พูดเรื่อยเฉื่อยไป
    <DD>เป็นอันว่า ตามคำพยากรณ์ของ ดร. สรรพศาสตร์ ท่านบอกว่า ประเทศไทยจะเป็นมหาเศรษฐี แล้วคนไทยทุกคนจะเป็นเศรษฐีไหม ก็ต้องขอบอกว่า คนไทยทุกคนไม่เป็นมหาเศรษฐีทุกคน แต่ว่าก็มีจำนวนมากก็จะเป็นลูกศิษย์มหาเศรษฐี คือ เป็นคนงานของมหาเศรษฐี เราก็จะเป็นเศรษฐีเล็ก ในครอบครัวเล็ก ๆ ได้เหมือนกัน สมมติว่าครอบครัวใดยังไม่เคยมีเงินล้าน ครอบครัวเล็ก ๆ ประเภทนั้นจะมีเงินล้านใช้ ประเภทครอบครัวที่มีเงินแสนใช้ต้องถือว่าเป็นครอบครัวที่ยากจนมาก ถ้าบ้านไหนมีเงินล้านใช้ถือว่าเป็นบ้านที่พอมีพอกินพอใช้ พอหาได้เลี้ยงตัวรอด ที่มีเงินเหลือเป็นแสน ก็ถือว่าเลี้ยงตัวรอดเหมือนกัน ที่ได้มาอย่างนี้เพราะว่า เรามีกำไรจากสงคราม แต่เราไม่อยากให้เกิดสงคราม [​IMG]
    <DD>ทีนี้มาพูดอีกทีหนึ่ง ที่ดามุสท่านบอกว่า ศาสนาคริสต์จะสลายตัว แต่ศาสนาอิสลามท่านไม่ได้บอกว่าจะสลายตัวหรือเปล่า แต่ว่าพระพุทธเจ้าเคยตรัสบอกว่า "ถ้าสงครามเกิดขึ้น หลังกึ่งพุทธกาลแล้ว" องค์สมเด็จพระประทีปแก้วกล่าวว่า "ยักษ์นอกพุทธศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน จะตายไปฝ่ายละครึ่งจึงจะเลิกรากัน" <DD>ตอนนี้ด้านศาสนาของเขาก็จะมีการหย่อนตัวลงไป เพราะความทุกข์ความเศร้าโศกเสียใจ ความเสียหายเกิดขึ้น ตายไปฝ่ายละครึ่งนี่ไม่ใช่เล็กน้อยนะบรรดาท่านพุทธบริษัท การเชื่อพระเจ้าจะน้อยลง หรืออาจจะสลายตัวอย่างท่านดามุสบอกก็ได้
    <DD>ทีนี้มาพูดถึงพุทธศาสนาบ้าง ทางพุทธศาสนาถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้นจริง ๆ ทางพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองขึ้น ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองได้ จะมีความอุดมสมบูรณ์ได้เพราะคนเห็น "ทุกข์" ในเมื่อคนเห็นทุกข์ ก็ยอมรับนับถือศีลธรรมมากขึ้น ...
    <DD>โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักบวชฝ่ายปฏิบัติ สำหรับฝ่ายปริยัตินั้นก็อีกฝ่ายหนึ่งต่างหาก คือ ท่านเรียน แต่ท่านยังไม่ได้ทำ เรียนรู้ .. จะถือว่าไม่ดีไม่ได้ ท่านก็ดี ท่านมีความรู้ ความรู้ในด้านปริยัติก็จะเจริญขึ้น ในช่วงนั้นอาจจะมีพระที่ได้ "อภิญญา" หรือว่านักปฏิบัติที่เป็นฆราวาสที่ได้ "อภิญญา"เกิดขึ้น ..
    <DD>ถ้ามี"นักอภิญญา"เกิดขึ้น บรรดาท่านพุทธบริษัท อันตรายต่างๆ จะเกิดขึ้นได้น้อยเต็มที เพราะอาศัยอภิญญาช่วย และนอกจากนั้นความเจริญรุ่งเรืองทางด้านจิตใจของเราก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาก เพราะเราไม่เสียหายมาก เรามีความสุข ในเมื่อเขาเลิกรบกัน เขาก็ขาดเกือบทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารการบริโภค เขาก็ขาดเราก็ขาย เครื่องมือเครื่องใช้เขาขาด โรงงานประเทศไทยของเราเวลานี้มีมาก เราก็ขาย
    <DD>รวมความว่า ทุกอย่างมันก็จะมีแต่ความก้าวหน้า จะมีความร่ำรวย ดูตัวอย่างประเทศเยอรมันกับประเทศญี่ปุ่น เมื่อหลังสงครามโลกถูกบีบบังคับห้ามไม่ให้มีทหาร พอ ๒ ประเทศ ไม่มีทหารขึ้นมา ไม่ต้องเสียเงินค่างบประมาณทหาร เพราะว่างบประมาณทหารต้องเสียมาก เรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ต้องเตรียม เตรียมไว้บางทีไม่ได้ใช้ ล้าสมัยต้องซื้อใหม่ ของเก่าก็เก็บไว้ หรือว่าขายไป
    <DD>ทีนี้ในเมื่อไม่ต้องเตรียมการรบ ไม่ต้องเตรียมทหาร งบประมาณก็เหลือใช้ ประเทศก็มีความร่ำรวย ประเทศไทยเราก็ฉันนั้น ในสมัยเมื่อเขารบกัน เราก็พยายามประวิงทุกอย่าง อย่าให้มีการรบ ถ้ามันมีความจำเป็นจริง ๆ ก็จำกัดสถานที่รบ นั่นหมายความว่า สงครามใหญ่ไม่มีใครเข้ามาในประเทศไทย พวกเขาตีกันทางโน้น เขาไม่ตีมาทางนี้ เขาอาจจะตีไปทางยุโรป ตีไปทางอเมริกา เขาไม่ตีมาถึงประเทศไทย แต่ว่าประเทศไทยก็ต้องมีส่วนร่วม ส่วนร่วมในความทุกข์ที่จะเกิดสงคราม
    <DD>ทีนี้ในเมื่อเขาไม่ตีเข้ามาถึง เราก็มีความอุดมสมบูรณ์ แต่ทั้งนี้ขอทิ้งท้ายไว้นิดว่า ตีเล็กมีนะ ตีใหญ่น่ะไม่มี มีแต่ตีเล็กก่อกวน สงครามก่อกวนจะมีเป็นของธรรมดา ทั้งนี้ก็ต้องเชื่อความสามารถของรัฐบาลและทหารตำรวจเราสามารถจะควบคุมความสงบสุขไว้ได้ เหตุต่าง ๆ จะเกิดขึ้น จะไม่พ้นวิสัยของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจ จะสามารถปราบปรามได้ ถ้าถามว่าเขาใช้รัศมีอาวุธเคมี ใช้รังสีต่าง ๆ ก็ขอตอบว่า เป็นเรื่องเล็ก ๆ พุทธศาสนาป้องกันได้แน่
    <DD>อันนี้ขอยืนยัน จะเป็นนิวตรอน นิวเคลียร์ นิวอะไรก็ตามเถอะ ขอยืนยันว่า พุทธศาสนาป้องกันได้ แต่ว่าทั้งนี้ท่านทั้งหลายต้องไปหาจากพระที่เป็นนักปฏิบัติทางด้านจิตใจ ที่ท่านเข้าถึงฌานโลกีย์ทรงตัว และก็ทรงความเป็น"อภิญญา"
    <DD>ถ้าถามว่า เวลานี้จะหาที่ไหน ก็ต้องขอตอบว่าเวลานี้อย่าเพิ่งหา อาจจะมีอยู่ที่ไหนบ้างก็ได้ แต่ไม่มีใครเขาบอกกัน ถ้าถึงเวลานั้นจะปรากฏตนเอง ท่านจะแสดงออกมาให้เห็นถึงความปลอดภัยว่าท่านสามารถจะป้องกันได้ ถ้าท่านองค์ไหน จะเป็นพระก็ดี จะเป็นฆราวาสก็ดี ไม่ได้หมายความว่าพระเสมอไป ฆราวาสที่มีความสามารถก็มีมาก ก็สามารถจะป้องกันได้ สามารถจะทำได้ ก็พึ่งท่านนั้น ท่านต้องให้เป็นที่พึ่งแน่นอน
    <DD>ทั้งนี้เพราะว่า ถ้าหากว่าเราทั้งหลายตายกันหมด ท่านก็ตายเหมือนกัน ท่านอดตาย เพราะว่าท่านต้องอาศัยพวกเรากิน พวกเราหากินหาใช้เหลือ เราก็ให้ท่าน อย่างสมมติว่า ถ้าพระบิณฑบาต เราก็ถวายพระ ถ้าชาวบ้านอด ชาวบ้านตายหมด พระก็ตายเพราะไม่มีใครจะให้ ข้อนี้ฉันใด เวลานั้นก็ตาม ท่านที่ทรง "อภิญญา" จะเป็นพระก็ตาม จะเป็นฆราวาสก็ตาม ไม่มีใครปกปิดความสามารถ สามารถจะป้องกันรังสีต่าง ๆ ได้ และป้องกันสรรพาวุธได้ตามกำลัง
    <DD>แต่บุคคลที่ต้องตายไปบ้าง นั่นก็หมายความว่า บุคคลที่มีอายุถึงอายุขัย บุคคลที่มีอายุถึงอายุขัยนี่ เราป้องกันไม่ได้ มันมีความจำเป็น คนประเภทนี้จะรบก็ตาย ไม่รบก็ตาย นอนเฉย ๆ ก็ตาย กินข้าวอยู่ก็ตาย นอนหลับก็ตาย คุยกันก็ตาย เพราะถึงอายุขัย เวลานั้นมันต้องตาย
    <DD>ก็รวมความว่า ประเทศไทยไม่ต้องหนักใจ ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททุกคนยอมรับนับถือความดีของพระพุทธเจ้าไว้ ความดีที่พระพุทธเจ้าให้ไว้ก็มี ๔ อย่าง เอาสัก สอง ๔ อย่าให้เป็นการใบ้หวยละ ๔ ที่หนึ่งก็เอาอย่างง่าย ๆ คือ สังคหวัตถุ ๔ คือ :-
    ๑. ทาน การให้ ให้มีการสงเคราะห์ซึ่งกันและกันเข้าไว้ สร้างความรักเข้าไว้ อย่าสร้างศัตรู การให้ทานเป็นการทำลายล้างศัตรู ไม่ให้เกิดศัตรูขึ้นมา เพราะเราบุคคลผู้รับ ย่อมรักในบุคคลผู้ให้
    ประการที่ ๒ ปิยวาจา พูดดี พูดให้คนที่รับฟังมีความสุขจากคำพูดของท่าน เขาก็จะรักเรา ในเมื่อเขารักเรา เราก็มีความสุข
    ประการที่ ๓ ช่วยเหลือการงานซึ่งกันและกัน ถ้าเขาเกินวิสัยเราช่วยเขาก็จะเกิดความรัก
    ประการที่ ๔ เราไม่ถือตัวไม่ถือตน การไม่ถือตัวไม่ถือตน จัดเป็นปัจจัยให้เกิดความรัก
    <DD>อันนี้เป็นความดีที่พระพุทธเจ้าให้ไว้เป็นอันดับแรก รักษากฎ ๔ ประการนี้ได้ บรรดาท่านทั้งหลาย เราจะมีแต่คนรัก เราจะไม่มีคนเกลียด ทีนี้ถ้าจะถามว่า ในเมื่อเขาประกาศสงครามกัน เขาไม่รู้จักกัน เขายิงจรวดมา จะทำอย่างไร มันก็เป็นของไม่ยาก เขาจะยิงมาหรือไม่ยิงมา เราก็ภาวนา "พุทโธ" ไว้ จิตใจยอมรับนับถือพระพุทธเจ้าโดยตรง สิ่งใดที่พระพุทธเจ้าทำไว้ ท่านให้ไว้ เรานับถือด้วยความจริงใจ สิ่งนั้นท่านทั้งหลาย จะป้องกันอันตรายท่านได้อย่างแน่นอน
    และประการต่อไปอีก ๔ อย่าง ก็คือ พรหมวิหาร ๔
    ๑. เมตตา ความรัก สร้างความรัก ทำจิตใจเกิดความรักทั้งคน และสัตว์ทั้งโลก ถือว่าเราเป็นมิตรกัน
    ประการที่ ๒ มีความสงสาร คอยเกื้อกูลกันไว้เสมอ อย่าเห็นแก่ตัว
    ประการที่ ๓ ยินดีเมื่อบุคคลอื่นได้ดี ไม่อิจฉาริษยาใคร
    ประการที่ ๔ เมื่อบุคคลนั้นถึงอายุขัย ต้องตายเพราะอาวุธ ต้องตายตามกาลเวลา เราก็วางเฉย
    <DD>ในเมื่อมีความดีอีก ๔ ประการอย่างนี้แล้วบรรดาท่านพุทธบริษัท ทุกคนจะปลอดภัย อย่าลืมว่า "สังคหวัตถุ ๔" เป็นความดีเล็กน้อย ความดีขั้นต้น "พรหมวิหาร ๔" เป็นความดีสูงสุด คือ :- ๑. เมตตา ความรัก
    ๒. กรุณา ความสงสาร
    ๓. มุทิตา มีจิตอ่อนโยน เห็นใครได้ดีพลอยยินดีด้วย
    ๔. อุเบกขา วางเฉยเมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้น ไม่สามารถจะยับยั้งได้ก็ทำใจวางเฉย ไม่ดิ้นรน ยอมรับตามความเป็นจริง
    <DD>นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัทชายหญิง เวลาเหลือประมาณ ๕ นาที ก็คุยกันไปคุยกันมา ย้อนถึง "สงครามโลกครั้งที่ ๒" อีกสักนิดหนึ่งว่า ทำไมถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้น คนไทยจะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามากขึ้น? จะชี้ตัวอย่างให้เห็นสักอย่างหนึ่งเพราะสมัยนั้นผู้พูดอยู่ในกรุงเทพฯ คืนใดถ้ามีปกติ เครื่องบินไม่มาทิ้งระเบิด เมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ ตอนเช้าไปบิณฑบาต เวลานั้นคนหนีระเบิดมาบ้านนอกกันมาก มาต่างจังหวัดกันมาก คนใส่บาตรมีน้อย พอกินแค่เช้า เพลไม่พอกิน แต่ว่าบังเอิญคืนไหนถ้ามีเครื่องบินมาโจมตีทิ้งระเบิด เวลาเช้าไปบิณฑบาตปรากฏว่ามีคนใส่บาตรมากเป็นพิเศษ ไปไม่ทันถึงครึ่งทางก็เต็มบาตร ยามปรกติไปจนสุดทาง แล้วก็เดินทางกลับ ยังไม่ถึงครึ่งบาตร แต่คืนไหนมีเครื่องบินมาโจมตี รุ่งเช้าคนทำบุญกันมาก
    <DD>จะเห็นว่า คนที่มีความรู้สึกว่า ชีวิตของเราใกล้ความตาย ไม่มีความประมาท คือเขาจะถือว่า เป็นการฉลองชีวิตที่เกิดใหม่จากการโจมตีของข้าศึก ข้าศึกทิ้งระเบิดก็ทิ้ง ยิงกราดด้วย ปืนกลก็ยิง แต่เขาก็ปลอดภัย จึงทำบุญกันใหญ่ ข้อนี้ฉันใดบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ในเมื่อสงครามใหญ่มันเกิดขึ้นเป็นสงครามที่น่ากลัว อาวุธในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ถือว่าเป็นอาวุธดีแล้วนะ ล้าสมัยไปแล้ว เครื่องบินสมัยนั้น เป็นเครื่องบินที่ดีที่สุด เวลานี้เขาเลิกใช้แล้ว เครื่องบินสมัยใหม่เขาดีกว่าสมัยนั้นมาก อาวุธที่ใช้ใหม่ดีกว่าอาวุธสมัยนั้นมาก
    <DD>ทีนี้ถ้าการสงครามเกิดขึ้น ข่าวคราวก็ย่อมถึงกัน เวลานี้มีทั้งวิทยุ มีทั้งโทรทัศน์ถ่ายทอดจากดาวเทียม เราสามารถจะเห็นภาพได้ ในเมื่อเห็นการสูญเสีย ความตายเกิดขึ้น ความทุกข์ก็เกิดขึ้น จิตใจก็เริ่มเป็นกุศล เวลานั้นบรรดาท่านพุทธศาสนิกชนก็จะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามากขึ้น เพราะกลัวตาย ..
    <DD>สำหรับอีกด้านหนึ่ง ท่านนักปฏิบัติที่เจริญสมาธิจิต ก็จะเร่งรัดตัวเองให้ทำสมาธิให้ดีขึ้น โดยหวังอย่างเดียวว่า ถ้าตายแล้วไม่ขอเกิดใหม่ อย่างเลวที่สุด ตายจากความเป็นคน ไปสวรรค์ก็เอา หรือถ้าดีกว่านั้นไปเป็นพรหมก็ดี ถ้าดีกว่านั้นไปนิพพานได้ก็ดี ท่านจะเร่งรัดตัวเอง การเร่งรัดตัวเองประเภทนี้กำลังใจจะมีสมาธิ ในที่สุดอภิญญาก็จะเกิด ในเมื่ออภิญญาเกิด ก็จะใช้ผลของอภิญญาและญาณต่าง ๆ ที่ได้จากสมาธิ และวิปัสสนาญาณ เอามาช่วยบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ให้มีความสุขปลอดภัย
    <DD>เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย มองดูเวลาก็เหลือเวลานาทีเศษ ๆ ในตอนนี้ก็ขอสรุปว่า ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย อย่าลืมองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ เตรียมตัวตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปว่า เราจะบูชาพระทุกวัน นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อนหลับ ตื่นใหม่ๆ นึกถึงพระพุทธเจ้า บูชาพระ บูชาพระอย่างอื่นไม่ได้ ก็ว่า นะโม ตัสสะ ฯ ๓ หน ด้วยความเคารพใน พระพุทธเจ้าจริง แล้วว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง แค่นี้ก่อนหลับและตื่นใหม่ ๆ ทุกวัน บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ทุกท่านจะปลอดภัยและมีความร่ำรวย เวลานี้ก็หมดเวลาแล้ว ขอลาก่อน ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนผู้รับฟัง และผู้อ่านทุกท่าน สวัสดี <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </DD></CENTER>
     
  4. กัลคี

    กัลคี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2007
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +568
    อนุโมทนาครับ

    ขอเชิญร่วมทำบุญและเที่ยวงานนมัสการพระธาตุพนม 26 ม.ค. - 2 ก.พ. 2550 ณ วัดพระธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
     
  5. okilu220

    okilu220 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    293
    ค่าพลัง:
    +2,090
    ผมอ่านแล้วขนลุกเลยครับ
     
  6. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775


    ผู้มีศีลจะถอยจากทรัพย์

    ตรงนี้พวกเราหลายๆท่านโดนกันเองครับ ตอนนี้เลยกรอบกันเป็นแถว
     
  7. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,633
    จริงครับ ผมก็เหมือนกัน ต้องเริ่มต้นหยอดกระปุกใหม่เพื่อเอาไปใช้ทริปต่อไปถ้ามี เพราะแคะเอาที่สะสมไว้ไปใช้เกลี้ยงแล้ว 555
     
  8. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    กร๊อบกรอบ ขอรับ ^^
     
  9. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    อาเพศเล็กเตือนภัยระดับ 4-5 ได้มาถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ในขณะนี้ครับ

    คงมาเขย่าให้รู้สึกตัวเล่นๆกันก่อนที่ของจริงจะตามมาในอีกไม่นานหรอกครับ

    ไม่เชื่อเงยหน้าดูท้องฟ้ายามนี้ได้ หรือไม่ก็ดูเหตุการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน
    ใกล้ที่สุดก็คือ เงินในกระเป๋าของทุกท่านนั่นแหละ

    ขอรับรองว่า "เป็นของจริงแท้แน่นอน"
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** เรื่องอภิญญา ****

    เมื่อ...มี "สัจจะ" ทำได้จริง....
    อภิญญา ที่ว่าจะเกิดเอง...
    เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ต้องดิ้นรน ไปใฝ่คว้าที่ไหน
    อยู่ที่ "สัจจะ"... สัญญาใจตนเอง.... ตั้งใจ แล้วทำได้จริง

    ถ้าไม่มี "สัจจะ"...ชาญก็ไม่แก่กล้า ไม่ถาวร

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** เรื่อง เพลงยาวพยากรณ์ กรุงศรีอยุธยา ****

    ท่าน...ไม่ได้เห็น....กรุงศรีอยุธยา
    แต่ ...ท่านเห็น และเตือน.... กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
    คือ เพลงยาว...ที่กล่าวถึงยุค...."สรรพภัยทั้งปวงหลังกึ่งพุทธกาล"
    ทำนาย...สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต....คือ ปัจจุบัน นี้ !!!!!!!
    เพื่อ...เตือนสติให้คนไทย ในยุคที่กรรมกำลังจะปรากฏได้รู้ตัว และรีบหาหนทางแก้

    .......ทางแก้คือธรรมะ พึ่งโลกุตตระและสัจจะธรรม.......

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** เพลงยาวพยากรณ์ ตอน เมืองอมร มหินทรา ****

    จะกล่าวถึงกรุงมหานคร.......
    เป็นกรุงรัตนราชพระศาสนา.......มหาดิเรกอันเลิศล้น
    เป็นที่ปรากฏรจนา.......สรรเสริญเมืองอมรทุกแห่งหน
    ทุกบุรีสีมามณฑล.......จบสกลลูกค้าวาณิช
    ทุกประเทศสิบสองภาษา.......ย่อมมาพึ่งกรุงมหินทราเป็นอกนิฐษ์
    ประชาราษฏ์ปราศจากภัยพิษ.......ทั้งความวิกลจริตแลความทุกข์
    ฝ่ายองค์พระบรมราชา.......ครองขัณฑสีมาเป็นสุข
    ด้วยพระกฤษฏีกาทํานุก.......จึงอยู่เย็นเป็นสุขสวัสดี
    เป็นที่อาศัยแก่มนุษย์ในใต้หล้า.......เป็นที่อาศัยแก่เทวดาทุกราศี
    ทุกนิกรนรชนมนตรี.......คหบดีชีพราหมณ์พฤฒา
    ประดุจดังศาลาอาศัย.......ประหนึ่งร่มพระไทรอันสาขา
    ประดุจหนึ่งแม่นํ้าพระคงคา.......เป็นที่สิเนหาเมื่อกันดาร
    ด้วยพระเดชเดชาอานุภาพ.......อาจปราบไพรีทุกทิศานต์
    ทุกประเทศเขตขัณฑ์บันดาล.......แต่งเครื่องบรรณาการมานอบนบ
    เมืองอมรนั้นสมบูรณ์.......เพิ่มพูนด้วยพระเกียรติขจรจบ
    อุดมบรมสุขทุกแผ่นภพ.......จนคํารบศักราชเกินสองพัน

    คราทีนั้นฝูงสัตว์ทั้งหลาย .......จะเกิดความอันตรายเป็นแม่นมั่น
    ด้วยพระผู้นำมิทรงสัจจะธรรม.......จึงเกิดเข็ญมหัศจรรย์สิบหกประการ
    คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพศ.......อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศานต์
    มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาล.......เกิดนิมิตพิสดารทุกทั่วเมือง
    พระคงคาจะแดงเดือดดังเลือดนก.......อกแผ่นดินเป็นบ้าฟ้าจะเหลือง
    ผีป่าจะวิ่งเข้าสิงเมือง.......ผีเมืองนั้นจะออกไปอยู่ไพร
    พระเสื้อเมืองจะเอาตัวหนี.......พระกาลกุรีจะเข้ามาเป็นไส้
    พระธรณีจะตีอกไห้.......อกพระกาฬจะไหม้อยู่เกรียมกรม

    ทุกลักษณ์ทํานายไว้บ่ห่อนผิด.......เมื่อวินิศพิศดูก็เห็นสม
    มิใช่เทศกาลร้อนก็ร้อนระงม.......มิใช่เทศกาลลมลมก็พัด
    มิใช่เทศกาลหนาว ก็หนาวพ้น.......มิใช่เทศกาลฝน ฝนก็อุบัติ
    ทุกต้นไม้หย่อมหญ้าสารพัด.......เกิดวิบัตินานาทั่วสากล
    เทวดาซึ่งรักษาพระศาสนา.......จะรักษาแต่คนฝ่ายอกุศล
    สัปปุรุษจะแพ้แก่ทรชน.......มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก
    ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว.......คนชั่วจะมล้างผู้มีศักดิ์
    ลูกศิษย์จะสู้ครูพัก.......จะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย
    ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอํานาจ.......นักปราชญ์จะตกตํ่าต้อย
    กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย.......นํ้าเต้าอันน้อยจะถอยจม

    ผู้มีตระกูลจะสูญเผ่า
     
  13. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพศ
    อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศานต์
    มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาล
    เกิดนิมิตพิสดารทุกบ้านเมือง


    ท้องฟ้าเมื่อวานเย็นก่อนค่ำเป็นแบบนี้
    ไม่ทราบว่าจะเป็น "เหตุอาเพศ" ได้หรือยัง

    (b-oneeye)
    ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 101.jpg
      101.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.8 KB
      เปิดดู:
      155
    • 103.jpg
      103.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.8 KB
      เปิดดู:
      172
    • 106.jpg
      106.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.5 KB
      เปิดดู:
      144
    • 104.jpg
      104.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.7 KB
      เปิดดู:
      154
    • 102.jpg
      102.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.2 KB
      เปิดดู:
      150
    • 105.jpg
      105.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.9 KB
      เปิดดู:
      150
    • 107.jpg
      107.jpg
      ขนาดไฟล์:
      11.9 KB
      เปิดดู:
      155
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    ใช้ชีวิต ด้วยความไม่ประมาท
    "สัจจะ" คือ ผู้นำเที่ยง
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    เมฆดำ ลมหมุน...จะมาเตือน คนกรุง
     
  16. ดูที่จิต

    ดูที่จิต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2010
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +75
    มาถึงจนได้ พฤศจิกายน 2554-2556 เตรียมรับทุกขเวทนา สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม กรรมนี้มิอาจเลี่ยงได้แล้ว ทั่วทุกภาค ดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อมนุษย์มีแต่การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ฆ่ากันเหมือนผักปลา เลือดชโลมแผ่นดิน แปดเปื้อนพระแม่ธรณี ทำให้ท่านต้องพิโรธ การล้างเริ่มต้นขึ้นแล้ว
     
  17. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    กลอนท่อนสุดท้ายด้านล่างนี้ หมายความว่าอย่างไรหรือ ใครพอทราบบ้าง เราอยากรุ้มากโดยเฉพาะท่อนสีแดง

    กรุงศรีอยุธยาจะสูญแล้ว
    จะลับรัศมีแก้วเจ้าทั้งสาม
    ไปจนคํารบปีเดือนคืนยาม
    จนสิ้นนามศักราชห้าพัน

    กรุงศรีอยุธยาเกษมสุข
    แสนสนุกยิ่งลํ้าเมืองสวรรค์
    จะเป็นเมืองแพศยาอาธรรม์
    นับวันจะเสื่อมสูญเอย ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...