พระเกษม "ตายยาก"

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย yummysushi, 7 พฤศจิกายน 2011.

  1. yummysushi

    yummysushi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +6
    คลิปใหม่ของพระเกษม อืม....ตายยากก็จริง แต่ตายแน่ๆ ท่านลืมไปแล้วหรือ.....หัดเจริญมรณานุสติไว้มั่งก็ีดี ตอนนี้ ยังไม่เจ็บไม่ไข้ แต่แก่แล้วและตายแน่ ...อ่านอรรถ อ่านตำรามาก็เยอะ ทำเป็นมั๊ยนี่.....มรณานุสติ ทำเป็นมั๊ย

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=wO-dMELVcYk"]หลวงพ่อเกษมตายยาก!!! - YouTube[/ame]
     
  2. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    หากคุณชอบ ขจัดมาร

    ก็เชิญไปบวช เรียน กรรมฐาน

    หากคุณไม่ชอบ พระเกษม เป็นการส่วนตัว

    ก็ไปสร้างเว็บใหม่ ออกแนว ขจัดมาร ของคุณ

    เพราะ ณ วินาทีนี้ ชาวบ้านชาวช่อง เขามุ่ง ขจัดมารในตัวเอง กันทุกคน

    ไม่มีเวลา มานั่งอ่าน กระทุ้ ไร้สาระ หรอกค่ะ

    จริงมั้ยเอ่ย
     
  3. Gautam Das

    Gautam Das สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +13
    พระบ้าคัมภีร์ของจริง.....พึ่งเคยเห็น หัดเจริญกรรมฐานบ้าง แล้วท่านจะเข้าใจในตำราที่ท่าน อ่านเอาเป็นเอาตาย....นี่แหละเขาเรียกว่า ลิงได้แหวน....
     
  4. daeng007

    daeng007 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2009
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +84
    ไม่รู้จักพูดยังไง คลิปอื่นๆ พูดถูกครับ แต่อันนี้ไม่ค่อยเห็นด้วยในแง่ของหลวงตามหาบัว
     
  5. yummysushi

    yummysushi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +6
    ถ้าคุณไม่เข้าใจ "ข้อความ" ที่เราต้องการสื่อ ขอให้กลับไปอ่านที่ตั้งกระทู้ไว้ใหม่
    คุณพูดถูกที่ว่า ทุกคนควรมุ่ง "ขจัดมาร" ในตัวเองกันทุกคน ซึ่งควรหมายรวมถึง ตัวเรา ตัวคุณ พระเกษม หรือคนอื่นๆด้วย แต่สิ่งที่พระเกษมทำอยู่ ณ ขณะนี้ กลับกลายเป็นการพยายาม "ขจัดมาร" ในตัวผู้อื่น/พระอื่น จนลืม "ขจัดมาร" ในตัวท่านเอง

    ข้อความที่เราต้องการสื่อคือ ความตายอยู่ไม่ไกลตัวเราทุกคน ไม่ว่า ตัวเรา ตัวคุณ พระเกษม หรือใครๆ ไม่มีใครรู้หรอกว่า เราจะตายตอนไหน เมื่อไหร่ วันไหน ตายยังไง ที่ไหน เดินออกไปนี่ ตัวเราอาจจะโดนสิบล้อทับตาย ไม่ได้กลับมาเขียนกระทู้ตอบคุณต่อในวันพรุ่งนี้ก็ได้ เพราะฉะนั้น อย่าเสียเวลาในชีวิตโดยเปล่าประโยชน์ สิ่งที่เราทุกคน ควรรีบเร่งปฏิบัติ ขวนขวาย คือการกำจัดกิเลสในใจของ"ตัวเอง" เรากำจัดกิเลสในใจ "คนอื่น" ไม่ได้หรอก สิ่งที่เราทำได้ คือการให้/เตือน "สติ" ด้วยธรรมะของพระพุทธองค์

    การเจริญมรณสติ หรือมรณานุสติ เป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ สรรเสริญ และให้ถือปฏิบัติ การตายไม่ใช่ิสิ่งน่ากลัว แต่ "การเกิด"ต่างหาก ที่เป็นสิ่งน่ากลัว เราไม่สามารถจะรู้ได้ว่า เราจะมีสุขคติ หรือทุกขคติเป็นที่ไป หากเป็นประการหลัง กว่าเราจะใช้เวรใช้กรรมหมดในทุกขคติภูมิ กว่าจะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ได้ีมีโอกาสปฏิบัติธรรม ได้เจอพระพุทธศาสนา อาจสายเกินไปแล้วก็เป็นได้

    หากคุณไม่ทราบว่า ทำไมเราจึงควรเจริญมรณสติ ก็ลองอ่านพระไตรปิฎก ในอรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท โลกวรรคที่ 13 ดู

    พระพุทธองค์ทรงตรัสปริศนาธรรมกับธิดาช่างทอหูกแห่งเมืองอาฬวี ซึ่งเจริญมรณานุสติด้วยตนเองเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่อายุ 16 จนได้พบพระพุทธองค์อีกครั้งเมื่ออายุ 19
    นางสามารถตอบปริศนาธรรมที่พระพุทธองค์ได้ตรัสถาม ด้วยปัญญาทางธรรมที่นางได้จากการเจริญมรณสติ อย่างต่อเนื่อง และเมื่อจบพระธรรมเทศนาของพระพุทธองค์ นางก็ได้บรรลุโสดาบัน รอดพ้นปลอดภัยจากทุกขคติภูมิโดยสิ้นเชิง

    เราจะคัดมาเพียงบางส่วนให้คุณ ให้พระเกษม และเพื่อนๆกัลยาณมิตรในเว็บนี้ ได้เห็นว่า อย่าประมาทในชีวิต เวลาของเราแต่ละคนเหลือไม่มาก ไม่รู้ว่าจะเป็นกี่นาที กี่ชั่วโมง กี่วัน กี่เดือน กี่ปี อย่ามัวแต่เพ่งโทษผู้อื่น ควรรีบปฏิบัติเสียจะดีกว่า เรื่องของพระอื่นที่กระทำผิดต่างๆ แม้จะไม่มีคนรู้คนเห็น หรือเอาผิดเค้าไม่ได้ แต่ไม่มีใครหนี"กรรม"ของตัวเองพ้น ยิ่งเป็นกรรมชั่ว มาตรวัดที่ยุติธรรมที่สุดในโลก เค้าจะเป็นคนจัดการให้คนกระทำได้ชดใช้เอง ช้าหรือเร็วก็สุดแล้วแต่ ไม่ใช่หน้าที่ของมนุษย์ ที่ยังเป็นปุถุชนอย่างเราๆท่านๆ

    ปริศนาธรรมที่ขอคัดมาเพียงเท่านี้

    พระศาสดา: กุมาริกา เธอมาจากไหน
    กุมาริกา: ไม่ทราบ พระเจ้าข้า
    พระศาสดา: เธอจักไป ณ ที่ไหน
    กุมาริกา: ไม่ทราบ พระเจ้าข้า
    พระศาสดา: เธอไม่ทราบหรือ
    กุมาริกา: ทราบ พระเจ้าข้า
    พระศาสดา: เธอทราบหรือ
    กุมาริกา: ไม่ทราบ พระเจ้าข้า

    หากอยากทราบความหมายทั้งปุจฉาและวิสัชนา ในปริศนาธรรมดังกล่าวข้างต้นนี้ จงอ่าน และหาคำตอบด้วยตัวท่านเองเถิด เราได้แนบลิ้งค์ของพระไตรปิฎกดังกล่าวนี้มาให้แล้ว

    แต่ถ้าคุณยังคิดว่า กระทู้ของเรา "ไร้สาระ" ก็อย่าเสียเวลาอ่าน ผ่านไปได้เลย เพราะมันจะไม่เกิดประโยชน์อันใดกับคุณหรอก

    สำหรับท่านอื่น ที่เห็นว่าพอมีประโยชน์ในการปฏิบัติของท่านบ้าง ก็ขอให้ทุกท่าน จงพึงมี "สติ" ระลึกรู้อยู่กับกายใจของตน ทุกสิ่งในโลกล้วน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน นี่เป็นกฎไตรลักษณ์ที่เที่ยงแท้แน่นอนที่สุด ผู้มีปัญญาเท่านั้น จึงได้ชื่อว่า มีจักษุ หาใช่คนมืดบอดไม่
    เราเตือนเพียงเท่านี้ ท่านจะรับเอา "สาร" ของเราหรือไม่ก็สุดแล้วแต่ ขอให้ทุกท่าน เจริญในธรรม

    ��ö��� �ط���ԡ�� �ҶҸ���� �š��ä��� �� ˹�ҵ�ҧ��� � � ��

    หมายเหตุ พระไตรปิฎก เป็นสมบัติของชาวพุทธทุกคน ไม่ใช่สมบัติของบุคคลใด หรือสมมติสงฆ์เพียงรูปใดรูปหนึ่ง เราทุกท่านก็สามารถศึกษาได้ และท่านให้ศึกษาทั้งปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ไม่ใช่สักแต่เพียงอ่านตามตำรา แล้วตีความเอาเอง มิฉะนั้น จะกลายเป็นเพียง "เถรใบลานเปล่า" น่าเสียดายแท้




     
  6. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    เหมือนมีใคร เอ่ย นามสมมติสงฆ์ !
    เลยแวะเข้ามาดูนะ จ๊า...แหม ช่าง อธิบายได้ดีจริงๆ

    :cool: good good.
     
  7. yummysushi

    yummysushi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +6
    ขอบพระคุณคุณขจัดมารที่ช่วยเตือนสติค่ะ เรายังประมาทในชีวิตอยู่มาก
    ขอให้ทุกท่านมีสตินะคะ และขอให้เจริญในธรรมทุกท่านเช่นกันค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...