ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. พญาเสือดาว

    พญาเสือดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +503
    สวนตอนนี่ผมอยู่ที่จีน ผมถามเพื่อนคนจีนหว่าคุณคิดหว่าตายไปเเล้วไปใหนเขาบอกหว่าไปที่มืดๆอะ ผมเลบหัวเราะเเล้วบอกเขาหว่าทำเรื่องชั่วๆเยอะเดียวก้ใด้รู้หว่าได้ไปที่มืดๆหรือนรก
    เเล้วเขาก็หัวเราะ เขาบอกหว่านรกเเละสวรรณ์มีเเต่ในนิทาน เขาตอบอย่างนี่งง ไปเลย
     
  2. palungman

    palungman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +173
    <TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD>อึ้ง! เด็กหญิงเม็กซิกันเป็นแม่คนตั้งแต่อายุแค่ 10 ปี

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD><TABLE class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD>
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

    </TD><TD>12 พฤศจิกายน 2554 16:35 น.

    </TD><TD>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000144559</TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD><TABLE style="WIDTH: 98%" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD>
    <TABLE class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]

    </TD><TD><TABLE style="WIDTH: 468px" class=t_table cellSpacing=0><TBODY><TR><TD width=468>[​IMG] </TD></TR><TR><TD>
    เมืองปวยบลา เม็กซิโก


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เอเจนซี - หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์เผย เด็กหญิงชาวเม็กซิกันรายหนึ่งกลายเป็นคุณแม่ด้วยวัยเพียง 10 ปี โดยเธอต้องทรมานเกือบตายกับการเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด และอาการลมชัก แต่ก็โชคดีที่ลูกชายตัวน้อยๆ ของเธอปลอดภัย

    นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า เด็กหญิงคนนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองปวยบลา ห่างจากกรุงเม็กซิโกซิตีไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 60 ไมล์ เนื่องจากเจ็บท้องคลอด ซึ่งในที่สุดเธอก็ให้กำเนิดบุตรชาย หนัก 3.3 ปอนด์ ด้วยวิธีการผ่าท้อง

    ขณะที่ลูกชายของเธอยังอยู่ในห้องผู้ป่วยดูแลพิเศษ ด้วยการปอดบวม แต่ทารกน้อยก็มีสุขภาพดีแม้จะคลอดออกมาก่อนกำหนด ส่วนผู้เป็นแม่ก็กำลังฟื้นตัว และคอยแวะเวียนไปให้นมบุตรเสมอ

    อย่างไรก็ตาม โรเกลิโอ กอนซาเลซ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้แจ้งเรื่องเกี่ยวกับเด็กหญิงรายนี้ไปยังสำนักอัยการรัฐ ซึ่งกำลังสอบสวนว่าสาวน้อยคนดังกล่าวถูกข่มขืนหรือไม่ และใครเป็นพ่อของเด็ก

    ทั้งนี้ กฏหมายของเม็กซิโกห้ามไม่ให้หญิงสาวทำแท้ง โดยปราศจากข้อพิสูจน์ว่าพวกเธอเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศ ส่วนอายุของผู้หญิงที่อนุญาตให้แต่งงาน หรือร่วมประเวณีได้คือ 12 ปีขึ้นไป และหากผู้ใดทำแท้งโดยผิดกฏหมายก็จะต้องรับโทษปรับ หรือไม่ก็จำคุก

    ขณะที่กรณีน่าตกตะลึงนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เด็กหญิงอายุน้อยให้กำเนิดลูก ในเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว เด็กหญิง วัย 11 ปีรายหนึ่ง ซึ่งรู้แต่ว่าชื่อ อามาเลีย ก็คลอดลูกก่อนกำหนด 2 สัปดาห์หลังจากถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำอีกเมื่อเธออายุ 10 ปี

    ก่อนหน้านั้น ในปี 1999 เด็กหญิง วัย 13 ปี เหยื่อข่มขืนในรัฐบาฮากาลิฟอร์เนีย ซึ่งกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวขึ้นมา หลังเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ไม่ยอมทำแท้งให้เธอ ทำให้เธอต้องถือกำเนิดลูกทั้งที่อายุยังน้อย

    อย่างไรก็ดี เด็กหญิงคนดังกล่าวได้นำเรื่องของเธอยื่นต่อคณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนของอินเตอร์อเมริกา ในปี 2002 เรียกความสนใจจากนานาชาติได้อย่างมาก และกลายเป็นการรณรงค์ครั้งใหญ่ ซึ่งทำให้ในที่สุดรัฐบาลเม็กซิโกก็ยอมจ่ายค่าชดเชยให้เธอมากกว่า 20,000 ปอนด์
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  3. palungman

    palungman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +173
    คงเคยได้ยินคำทำนายเรื่องเด็ก10ขวบ ก็เป็นแม่คนได้นะครับ หรือว่าเราอยู่ในยุคนั้นแล้ว
     
  4. utheb195

    utheb195 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +0
    ใครมีคำทำนายที่เด็ก 10 ขวบเป็นแม่คนได้บ้างขอแชร์หน่อยครับ
     
  5. พญาเสือดาว

    พญาเสือดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +503
    พุทธทำนาย 16 ประกา
    ๑. โคอุสุภราช (เกิดทุกขภัยทุกทิศทาง)
    ๒. ดอกไม้ออกผลที่เยาว์ (เยาวชนมีเพศสัมพันธ์ มีครอบครัวแต่แรกรุ่น)
    ๓. แม่โคดูดนมลูกโค (คนไม่เคารพพ่อแม่ พ่อแม่ต้องอ้อนวอนลูกหลาน)
    ๔. โครุ่นเทียมแอก (เอาคนรุ่นใหม่มาปกครองประเทศ ทำให้ประเทศเสียหาย)
    ๕. ม้าสองปากคน (ผู้ตัดสินคดีความรับสินบนทั้ง สองทาง)
    ๖. ถาดทองรองฉี่หมา (คนชั่วเป็นใหญ่)
    ๗. สุนัขจิ้งจอกฝั่นเชือก (หญิงคบชู้นำเงินสามีไปบำเรอชู้โดยสามีไม่รู้)
    ๘. น้ำเต็มอยู่ตุ่มเดียว (คนรวย นายทุนเปรียบ พระราชา รวยแต่ฝ่ายเดียว)
    ๙. สระน้ำใสริม กลางสระขุ่น (ในเมืองจะถูกขูดรีด คนอพยพไปอยู่ในชนบท)
    ๑๐. ข้าวไม่สุก (ทวดายังไม่เท่าเทียมให้นำฝนไม่พอดีทำให้น้ำท่วม)
    ๑๑. แก่นจันทร์แลกเปรียง (ศาสนาเสื่อมภิกษุนำสิ่งที่มีค่า พระธรรม แลกกับปัจจัย)
    ๑๒. น้ำเต้าจม (คนโกหกจะมีคนเชื่อ คนพากันเชื่อพระผู้ทุศีล)
    ๑๓. ศิลาลอย (คนพูดความจริงคนจะไม่ฟัง พระผู้มีศีล ไม่ได้รับการเคารพ)
    ๑๔. เขียดขยองงู (เมียอ่อนวัยจะด่าว่าสามีด้วยอำนาจ ไม่ยำเกรง)
    ๑๕ หงส์ทองล้อมกา (คนชั่วได้รับอำนาจ ได้เป็นใหญ่ คนดีต้องยำเกรง)
    ๑๖ เสือกลัวแพะ (คนดี ถูกคนชั่วที่ได้รับอำนาจประทุษร้าย)

    อ้างอิง(ต้นฉบับ)
    อรรถกถา เอกกนิบาตชาดก วรุณวรรค
    ๗. มหาสุบินชาดก ว่าด้วยมหาสุบิน
     
  6. พญาเสือดาว

    พญาเสือดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    452
    ค่าพลัง:
    +503
    สุบินนิมิตข้อที่ 1 : ภัยธรรมชาติ

    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    โคล่ำสัน 4 ตัว วิ่งมาจากทิศทั้ง 4 มีลักษณะอาการเกรี้ยวกราด ประดุจจะชนกัน ด้วยความโกรธแค้นกันมานาน พอโคทั้ง 4 วิ่งเข้ามาใกล้กันแล้ว กลับถอยห่างออกจากกันไป ไม่ชนกันเลย
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น จะเกิดภัยธรรมชาติขึ้น คือ ฟ้าฝนจะไม่ตกต้องตามฤดูกาล จะมีก้อนเมฆขนาดใหญ่ลอยมาจากทิศทั้ง 4 เหมือนกับฟ้าฝนจะตกลงมาในพื้นปฐพีอย่างหนัก เมื่อก้อนเมฆทั้ง 4 ลอยเข้ามาใกล้กันแล้ว ก็ลอยถอยห่างออกจากกันไป ไม่มีฝนตกลงมาในพื้นปฐพีเลย

    สุบินนิมิตข้อที่ 2 : เยาวชนมั่วสุมเสพกาม

    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    ต้นไม้นานาชนิด ยังไม่ใหญ่โตพอที่จะมีดอกมีผล แต่ต้นไม้นั้นเต็มไปด้วยดอกและผล จนกิ่งก้านสาขาจะรอรับดอกผลนั้นไม่ไหว
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น กุมารีที่มีวัยยังไม่สมควรจะมีสามี แต่กุมารีนั้นอยากแต่งงานให้เป็นครอบครัว เพราะมีความกระสัน ใฝ่ฝันในราคะตัณหา ใจมีความกำเริบในกามคุณ มีความยินดีใน รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เป็นอย่างมาก มีความอยากในกามารมณ์แห่งความรักความใคร่ จึงได้แต่งงานกันเมื่ออายุยังวัยเด็ก ถูกต้องตามประเพณีนิยม
    บางคนมั่วสุมกัน ไม่มีความละอาย เยี่ยงสัตว์ดิรัจฉาน เมื่อตั้งครรภ์ขึ้นมา ก็หาวิธีฆ่าลูกในท้องของตัวเอง จึงเป็นบาปกรรมต่อไปในภายภาคหน้ายิ่งนัก เด็กบางคน ยังมีพ่อแม่เลี้ยงดูอยู่บ้าง เด็กบางคนพ่อแม่เลี้ยงดูไม่ไหว จึงได้ปล่อยปละละเลยให้หาขอทานกินตามลำพัง เป็นเด็กเร่ร่อนจรจัด ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีตระกูล ไม่มีการศึกษา ไม่มีที่พึ่งพาอาศัยในบ้านเรือน ค่ำที่ไหนนอนที่นั่น อดบ้าง อิ่มบ้าง น่าเวทนายิ่งนัก เหตุการณ์อย่างนี้ จะมีในภายภาคหน้าโน้นใครได้ไปเกิดในยุคนั้น สมัยนั้น ก็จะต้องเจอเหตุการณ์อย่างนี้แล

    สุบินนิมิตข้อที่ 3 : พ่อแม่ต้องเอาใจลูก

    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    ฝูงพ่อแม่โคทั้งหลายพากันดูดกิน นมลูกของตัวเอง
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น พ่อแม่ทั้งหลาย จะได้อาศัยกินหยาดเหงื่อแรงงานของลูก
    อาศัยข้าวปลาอาหารเครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ที่ลูกแสวงหามาเลี้ยงดู พร้อมทั้งเงินทอง ก็ต้องแบ่งปันให้พ่อแม่ได้จับจ่ายใช้สอย
    ในยุคนั้นสมัยนั้น พ่อแม่ก็ต้องเอาอกเอาใจลูกยิ่งนัก ต้องประจบประแจง ปะเหลาะลูกอยู่เสมอ ถ้าพูดต่อลูกดีๆ ลูกก็แบ่งปันเงินทองให้ได้ใช้บ้าง ถ้าพ่อแม่พูดไม่ดี ก็จะไม่ได้รับส่วนแบ่งอะไรจากลูกนี้เลย เหตุการณ์อย่างนี้ จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น

    สุบินนิมิตข้อที่ 4 : ผู้อ่อนประสบการณ์บริหารประเทศ

    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    ฝูงคนทั้งหลายพากันจับลูกโคตัวเล็ก ๆ เข้ามาเทียมแอกเพื่อลากล้อเกวียน เมื่อลากไปไม่ไหว ก็จะพากันเฆี่ยนตี
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนทั้งหลายจะพากันนิยมเอาเด็กที่จบปริญญามาใหม่ ๆ ไปรับราชการแผ่นดินบริหารการพัฒนาประเทศชาติ บ้านเมือง อันเป็นงานที่หนัก ถึงจะมีความรู้อยู่ก็ตาม แต่เด็กนั้นยังขาดประสบการณ์ ขาดความสามารถ ขาดความรอบรู้ ขาดความรอบคอบ ในการบริหารเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม จึงเกิดความผิดพลาด ล่าช้า ไม่ทันต่อเหตุการณ์ ขาดความรับผิดชอบ ขาดดุลการค้า ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ทำให้ถ่วงความเจริญของประเทศชาติ ทำให้คนดุด่าว่ากล่าวนานาประการ เหตุการณ์อย่างนี้ จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น

    สุบินนิมิตข้อที่ 5 : ความไม่เป็นธรรมในการตัดสินความ

    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    ม้าตัวเดียว หัวเดียว มีสองปาก กินหญ้าได้สองทาง กินเท่าไรก็ไม่มีความอิ่มพอ
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนผู้มีหน้าที่ตัดสินคดีความต่าง ๆ จะใช้อุบายวิธีอันมีเล่ห์เหลี่ยม เพื่อเอาเงินจากคู่กรณีทั้งสอง เอาทั้งฝ่ายโจทก์ เอาทั้งฝ่ายจำเลย เพื่อเป็นค่าจ้างรางวัลใน การวินิจฉัยคดีความบ้าง เอาค่านั้นบ้าง เอาค่านี้บ้าง ถ้าไม่ได้ตามความเรียกร้อง ก็จะไม่รับเรื่องที่มาร้องเรียน ต้องการเท่าไรก็เรียกร้องตามใจชอบ ถ้าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็เรียกร้องเอาน้อย ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ก็จะเรียกร้องเอาเงินอย่างเต็มที่ แล้วจึงจะมาวินิจฉัยคดี ตัดสินต่อไป เหตุการณ์อย่างนี้ จะเกิดมีภายภาคหน้าทั่วโลก

    สุบินนิมิตข้อที่ 6 : พระธรรมคำสอนถูกเหยียบย่ำ

    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    หมู่มนุษย์ ถือถาดทองคำอันมีค่ามหาศาล ไปวางไว้สุนัขจิ้งจอกถ่ายอุจจาระถ่ายปัสสาวะใส่
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น กลุ่มคนที่โง่เขลาปัญญาทราม จะเอาพระธรรมคำสอนของเราตถาคต ไปให้ลัทธิต่างๆ เหยียบย่ำทำลาย แล้วถ่ายทอดลัทธิของเขา เอาคำสอนของเขาที่สกปรกโสโครกด้วยกิเลสตัณหา มากลบเกลื่อนในคำสอนของเรา แล้วดัดแปลงแก้ไขคำสอนของเรา ให้เข้ากันกับลัทธิของเขา แล้วประกาศว่า
    คำสอนของเราตถาคต เป็นส่วนหนึ่งในลัทธิของเขา ให้คนทั้งหลายมีความเข้าใจผิดว่า คำสอนของเราเข้ากันได้กับของเขา ถือว่าเป็นอันเดียวกัน ลัทธิเหล่านั้นก็จะไม่รู้คุณค่าของคำสอนของเราตถาคตแต่อย่างใด มนุษย์อย่างนี้ก็จะมีในเมื่อเราตถาคตนิพพานไปแล้ว และจะมีลัทธิต่าง ๆ มาอวดอ้างว่าเป็นศาสนาเป็นจำนวนมาก

    สุบินนิมิตข้อที่ 7 : ผู้มีใจต่ำแอบอ้างสถาบันกษัตริย์

    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    ชายคนหนึ่ง เอาหนังสือมานั่งฟั่นให้เป็นเชือก อยู่บนม้านั่ง แล้วมีสุนัขจิ้งจอกคอยกัดกินอยู่ เมื่อฟั่นเชือกเสร็จ สุนัขจิ้งจอกก็กินหมดทันที
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนผู้มีจิตใจต่ำ ปัญญาทราม จะได้รับสมมุติ ยกย่องขึ้นเป็นผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ นั่งทำงานอยู่ในพระราชสำนักระดับสูง อาศัยอำนาจ พระบารมีของพระมหากษัตริย์
    ว่าราชการแผ่นดินแทนพระองค์อยู่เนืองนิตย์ โดยมีความโง่เขลาเบาปัญญา พูดจาขาดความสำรวม กล่าวเปิดเผยความลับต่างๆ ในพระราชสำนัก ให้หมู่ประชาชนได้รู้
    คนลัทธิต่าง ๆ ที่ไม่มีความหวังดีต่อพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว ได้ยินเข้า จึงนำเอาไปตีแผ่ โฆษณาให้คนอื่นคลายศรัทธา หมดความเคารพในวงศ์พระมหากษัตริย์ และหมดความเชื่อถือในพระราชวงศ์ต่อไป เหตุการณ์อย่างนี้ จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้นคนที่ไม่มีความหวังดีต่อพระมหากษัตริย์ จะเป็นหนอนบ่อนไส้เสียเอง

    สุบินนิมิตข้อที่ 8 : ทำบุญเลือกหน้า

    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    โอ่งน้ำใหญ่และโอ่งน้ำเล็กตั้งอยู่ในที่แห่งเดียวกัน แล้วมีคนทั้งหลาย แย่งกันตักน้ำ เทใส่โอ่งน้ำใหญ่ จนล้นเหลือ ส่วนโอ่งน้ำเล็ก ไม่มีใครตักน้ำใส่เลย
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น จะมีคนทำบุญโดยเลือกหน้า พระองค์ที่มีอายุมาก พรรษามาก มียศถาบรรดาศักดิ์ในตำแหน่งต่าง ๆ จะมีคนให้ความสนใจจะพากันถวายเครื่องไทยทานเป็นจำนวนมาก ล้วนแล้วแต่ของที่ดี ๆ มีค่า มีราคา ข้าวปลาอาหาร ปิ่นโตเถาขนาดใหญ่ ตั้งต่อหน้า จนเหลือเฟือ ส่วนพระเล็กเณรน้อยนั่งอยู่รอบข้าง ไม่มีใครคิดถวายอะไรเลย มีแต่งนั่งดูตาปริบ ๆ เหตุการณ์อย่างนี้ จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น

    สุบินนิมิตข้อที่ 9 : คอรัปชั่นในแผ่นดิน

    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    สระน้ำขนาดใหญ่ มีน้ำรอบนอกใส่สะอาดเยือกเย็น ส่วนน้ำในกลางสระขุ่นข้นเป็นโคลนตม แล้วมีสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลาย พากันแย่งชิงกินน้ำในสระที่ขุ่นข้นเป็นตมนั้น ส่วนน้ำรอบนอกที่ใสสะอาดเยือกเย็น ไม่มีสัตว์ตัวใดอยากจะกินเลย
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนจะมีความโลภ ความอยาก ไม่อิ่มพอในเงินทองมากขึ้น การงานที่สะอาด บริสุทธิ์ และสุจริต ไม่อยากทำ ถือว่า เงินเดือนน้อย ร่ำรวยช้า ไม่พอกับความโลภความอยากของตัวเอง จึงได้ลงสมัครตัวเข้ามาในสภาสันนิบาต เพื่อจะมีอำนาจในการบริหารงานและบริหารเงินของแผ่นดินได้อย่างเต็มที่ ใช้อุบายวิธี อันมีเล่ห์เหลี่ยม ทุจริต คิดมิชอบ ในเงินของแผ่นดิน มือใครยาว สาวได้สาวเอา จะได้เงินมาด้วยวิธีสกปรกอย่างไร จะไม่มีความละอายแก่ใจตัวเองเลย ขอให้ได้เงินก้อนโตมา ก็เป็นที่พอใจ ลักษณะนี้จะมีกันทั่วโลก มีทั่วทุกประเทศเขตแดน และจะเพิ่มความรุนแรงขึ้น จะเกิดความยุ่งเหยิงในสภาสันนิบาตของประเทศนั้น ๆ เพราะการแบ่งสันตำแหน่งในการดูดกินเงินภายในประเทศนั้น ไม่ลงตัว ผู้นั้นจะได้กินน้อย ผู้นั้นจะได้กินมาก ผู้นั้นจะไม่ได้กินอะไรเลย สุดท้ายก็เกิดงัดข้อกันเอง เหตุการณ์อย่างนี้ จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น

    สุบินนิมิตข้อที่ 10 : สงสัยในมรรคผลนิพพาน

    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    หม้อหุงข้าวหม้อเดียวมีความแตกต่างกัน ข้าวในหม้อซีกหนึ่งสุก ซีกหนึ่งดิบๆ สุกๆ อีกซีกหนึ่งข้าวไม่สุกเลย
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนในโลกนี้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป กลุ่มหนึ่งจะมีความเชื่อว่า เราตถาคตเป็นที่พึ่งที่เคารพจริง พระธรรมคำสอนของเราตถาคตเป็นสวากขาตธรรม เมื่อนำไปปฏิบัติให้ถึงที่สุดแล้วจะพ้นจากทุกข์ได้จริง เชื่อว่ามีมรรคผลนิพพานจริง นรกสวรรค์มีจริง กรรมดีกรรมชั่วให้ผลแก่บุคคลที่กระทำจริง ตายแล้วเมื่อยังมีกิเลสตัณหาอยู่เชื่อว่าได้มาเกิดใหม่
    อีกกลุ่มหนึ่งยังไม่แน่ใจว่า มรรคผลนิพพานในยุคนี้ สมัยนี้ มีจริงหรือไม่ เพราะพระพุทธศาสนาได้ล่วงเลยไปนาน พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า มีความสมบูรณ์อยู่หรือไม่ พระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ในยุคนี้มีจริงหรือไม่ มีแต่ความสงสัยลังเล ไม่แน่ใจ อีกกลุ่มหนึ่งปฏิเสธว่า มรรคผลนิพพานไม่มีนรกสวรรค์ไม่มี ทำดี ทำชั่วไม่ให้ผลในภายหน้าชาติหน้า ตายแล้วไม่ได้เกิดใหม่แต่อย่างใด ในช่วงปลายพุทธศาสนาโน้น คนจะเกิดเป็นมิจฉาทิฏฐิ มีความเห็นผิดมากขึ้น ๆ ดังนี้

    สุบินนิมิตข้อที่ 11 : นำพระธรรมมาขายกิน

    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    คนพวกหนึ่ง เอาแก่นจันทร์แดงที่มีค่าราคาแพง ไปแลกกับนมเปรี้ยวหม้อเดียว ซึ่งไม่สมค่าราคากันเลย
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนพวกหนึ่ง จะเอาพระธรรมคำสอนของเราตถาคต ไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินตรา จะเขียนเป็นตำราเพื่อออกจำหน่าย ขายกิน หารายได้เพื่อเลี้ยงชีวิต เอาพระธรรมคำสอนของเราตถาคต ทำเป็นการแสดง แต่งกลอน เพื่อผลประโยชน์ในกัณฑ์เทศน์ แสดงธรรมเพื่อเห็นแก่ค่าจ้างรางวัล อันเป็นอามิส ไม่สมค่าราคากันเลย สิ่งเหล่านี้ จะเกิดขึ้นในช่วงปลายศาสนาของเราตถาคตโน้น

    สุบินนิมิตข้อที่ 12 : คนดีถูกขัดขวางรังแก

    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    น้ำเต้าแห้งเปล่ากลวงใน ตามธรรมดาแล้วจะลอยอยู่บนน้ำ แต่น้ำเต้าเปล่านั้น กลับดิ่งจมลงในน้ำนั้นเสีย
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนดี มีความรู้ดี มีสติปัญญาดี มีความรอบรู้ มีความฉลาด มีความสามารถ มีทั้งพระและฆราวาส จะไม่ได้รับความยกย่องเชิดชูในสังคม จะถูกขัดขวางจากกลุ่มคนพาลสันดานชั่วอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นฆราวาส ก็ไม่มีโอกาสได้ทำงานในการบริหารแระเทศชาติบ้านเมือง คนมีความรู้ความสามารถ มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีโอกาสได้รับเลือกตั้งเข้ามาในสภาสันนิบาต หรือได้รับเลือกเข้ามาแล้ว ก็ไม่มีโอกาสได้ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่ จะมีกลุ่มทุจริตคิดมิชอบ เพื่อหวังผลประโยชน์ต่าง ๆ เบียดสีให้ตกเก้าอี้ไป ในสายตาของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ จะมองเห็นคนดี ๆ ว่าเป็นตัวกาลกิณีของเขา ไม่ยอมที่จะให้เข้าไปรู้เห็นในความทุจริตคิดมิชอบของตน
    คนดี ๆ จึงไม่มีในสังคมนี้เลย ถ้าเป็นนักบวช ก็เป็นในลักษณะนี้เช่นกันท่านองค์ใดมีใจบริสุทธิ์ผุดผ่องในพระธรรมวินัย มีความรู้ดี ปฏิบัติชอบต่อมรรคผลนิพพาน ท่านเหล่านั้นจะไม่มีใครให้ความสนใจ ไม่อยากเข้าใกล้ ไม่อยากฟังธรรม จะมองเห็นว่าเป็นพระคร่ำครึล้าสมัยไม่เกิดศรัทธา ไม่อยู่ในสายตาของเขาแต่อย่างใด เพราะใจไม่มีความเคารพเชื่อถือในท่านเหล่านั้น แม้แต่จะแบ่งปันปัจจัยทั้งสี่ ที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือ ก็ไม่เต็มใจ ถึงจะถวายให้ ก็นิดหน่อยพอเป็นพิธีเท่านั้น ท่านเหล่านี้จึงมีชีวิตอยู่ด้วยความลำบาก ใครก็ไม่อยากบวชเป็นพระในลักษณะนี้ ในที่สุด พระดี ๆ มีคุณธรรม ก็จะค่อยหมดไป ๆ ในศาสนาของเราตถาคต เรื่องเหล่านี้ จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น

    สุบินนิมิตข้อที่ 13 : คนชั่วเรืองอำนาจ

    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    ก้อนศิลาแท่งทึบ ขนาดใหญ่เท่าเรือ ลอยอยู่บนผิวน้ำเหมือนกับเรือสำเภาเปล่า ตามธรรมดาแล้ว ก้อนศิลาย่อมจมอยู่ใต้น้ำ แต่ก้อนศิลานั้นกลับลอยอยู่บนผิวน้ำ
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนพาลสันดานชั่ว คนทุศีล คนทุธรรม คนขี้โกง คนหัวประจบสอพลอ คนทุจริตคิดมิชอบ คนไม่มีความละอาย จะได้เป็นที่ยกย่องเชิดชูในสังคม เป็นผู้มีบทบาท มีอำนาจ มีชื่อเสียงเกียรติยศ มีพวกพ้องบริวารมาก ถ้าเป็นฆราวาสก็จะมีแต่ผู้เชิดหน้าชูตา ไปไหนมาไหนมีแต่คนเคารพยำเกรง มีฝูงชนให้การต้อนรับเอาใจ เรียกว่าเป็นกระจกบานใหญ่ ให้แสงสะท้อนเงาของประเทศนั้น ๆ สังคมของประเทศนั้นมีความเจริญหรือเสื่อมลง ก็ให้ดูกระจกบานใหญ่ที่ตั้งอยู่ในสภา จะเป็นสื่อบอกประตู้หน้าต่างของสังคมได้เป็นอย่างดี ประเทศใดมีตัวแทนในลักษณะใด จะรู้ได้ว่าผู้ที่เลือกเขาเข้ามา ก็เป็นลักษณะอย่างนั้น เขาจะเลือกเอาเกรดเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกัน ถ้าเป็นนักบวช นักพรต ก็เป็นลักษณะนี้ศาสนาจะมีความเจริญขึ้นหรือเสื่อมลง ก็ขึ้นอยู่กับบริษัททั้งสี่ ลำพังพระอย่างเดียว จะโดดเด่นขึ้นในท่ามกลางของสังคมนั้นไม่ได้ พระที่จะมีชื่อเสียงโด่งดัง ก็เพราะญาติโยมนำไปออกข่าวโฆษณา ว่าองค์นั้นมีความขลังอย่างนั้น องค์นี้มีความศักดิ์สิทธิ์อย่างนี้ มีอภินิหาร ไปทางไหนก็นำไปออกข่าว องค์ไหนปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ องค์ไหนเป็นพระอริยเจ้า ฆราวาสจะเป็นผู้คาดการณ์ให้เอง
    ในยุคสมัยนั้น พระอรหันต์จะเกิดจากลูกศิษย์ยกให้เอง ศิษย์แต่ละครู ศิษย์แต่ละสำนัก จะผลิตจะกำหนดรูปแบบอาจารย์ของตัวเอง ให้เป็นพระอรหันต์ขึ้น เรื่องข้อวัตรปฏิบัติของอาจารย์ มีความเคร่งครัดอย่างไร ก็นำไปโฆษณาอย่างหยดย้อย นี่เองก้อนศิลาแท่งจึงได้ลอยอยู่บนผิวน้ำมีความโดดเด่นเห็นได้อย่างชัดเจน จึงเป็นธุรกิจในคราบผ้ากาสาวพัสตร์บังหน้า เอาศาสนามาแอบอ้างหากิน เมื่อช่วงปลายศาสนาโน้น คนจะหมดความเลื่อมใสในศาสนาของเราตถาคต คนที่มีศรัทธาเบาบางก็จะค่อยจืดจางไป เพราะเห็นความชั่วร้ายในพระยุคนั้น ๆ ผู้ที่มีปัญญาดี มีความมั่นคง มีเหตุมีผล เขาจะแสวงหาพระที่เป็นพระได้อย่างถูกต้อง เมื่อปลายศาสนาโน้น เรื่องอย่างนี้จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน

    สุบินนิมิตข้อที่ 14 : นักบวชหลงลาภยศ

    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    นางเขียดน้อยไล่กินงูเห่าตัวมหึมา เมื่อไล่ทันก็กระโดดคาบกลืนกินทันที
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น นักบวชองค์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีคำพูดเป็นวาทศิลป์ เคยแผ่พังพานในการแสดงธรรม มีบทบาทในสังคม มีประชาชนให้ความเคารพเชื่อถือเป็นอย่างมาก ได้รับลาภ ยศ สรรเสริญจนลืมตัว ไม่มีสติ ไม่มีปัญญา รักษาใจไม่มีความฉลาด จึงขาดในการสำรวม ตา หู จมูก ลิ้น
    กาย และใจ ปล่อยให้ไปสัมผัสในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ จึงทำให้ใจเกิดอัฏฐารมณ์ คือ อารมณ์แห่งความรักความใคร่ในกามคุณ มีความกำหนัดย้อมใจ นางเขียดน้อย (สตรี) ได้มองเห็นช่องโหว่ จึงได้วางแผนหว่านล้อมด้วยมารยานานาประการ มีคำหวานอันหยดย้อยเหมือนน้ำอ้อยน้ำตาล ชโลมหัวใจงูเห่าจนหน้ามือตาลาย หายใจไม่เต็มปอดอีนางเขียดน้อยได้จังหวะก็กระโดดคาบกลืนกินทันทีเรียบร้อยไป

    สุบินนิมิตข้อที่ 15 : แวดล้อมด้วยพระทุศีล

    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    หงส์สีทองทั้งหลาย ไปห้อมล้อมอีกา อีกาไปไหน ฝูงหงส์สีทองทั้งหลาย ก็ห้อมล้อมเป็นบริวาร
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น พระเณรผู้บวชใหม่ ใจยังมีความบริสุทธิ์อยู่ในศีลในธรรม จะห้อมล้อมพระที่ทุศีลทุธรรม จะยกให้เป็นครูอาจารย์เพื่อเคารพกราบไหว้อย่างเหลือเฟือ อีกาฉลาด มีเล่ห์เหลี่ยมในการหาอาหารฉันใด พระทุศีลทุธรรมเหล่านี้ก็ฉลาด มีเล่ห์เหลี่ยมในการหาลาภสักการะได้ฉันนั้น และแบ่งลาภสักการะให้แก่หงส์เล็กหงส์ใหญ่ได้อย่างทั่วถึง ฝูงหงส์ทั้งหลาย จึงให้ความสำคัญในอีกาเป็นอย่างมาก ในยุคต่อไปช่วงปลายศาสนาโน้น การเปลี่ยนไปในสังคมของสมณะก็จะเป็นอย่างนี้ พระที่ทุศีลทุธรรมจะเพิ่มมากขึ้น พระเณรที่ขาดการศึกษา จะไม่รู้ธรรมวินัย ไม่เข้าใจว่าอะไรควร อะไรไม่ควร อะไรผิดศีล อะไรผิดธรรม จะไม่รู้หน้าที่ของตน เพียงบวชกันตามประเพณีเท่านั้น เหตุการณ์อย่างนี้ ก็จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น

    สุบินนิมิตข้อที่ 16 : โค่นล้มราชาธิปไตย

    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็น
    ฝูงแพะทั้งหลายพากันไล่จับเสือมาเป็นอาหาร พากันเคี้ยวกินอยู่กรอบ ๆ
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น ประชาชนทั้งหลาย ไม่พอใจการปกครองแบบราชาธิปไตย จึงพากันจับกลุ่มเพื่อเรียกร้องต่อต้านการปกครองของพระราชา ให้ได้มาซึ่งการปกครองแบบประชาธิปไตย ให้พระราชลดบทบาท ลดอำนาจลง อยู่ในการปกครองภายใต้กฎหมายเท่าเทียมกัน เมื่อพระราชาไม่ยินยอม ก็พากันปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจ ให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชน ถ้าพระราชชาองค์ใดขัดขืน ก็ลบล้างพระมหากษัตริย์ ผู้เป็นประมุขของประเทศนั้น ๆ พร้อมด้วยพระราชวงศ์ ให้หมดไปจากประเทศชาตินั้นเสีย
    มีบางประเทศที่พระราชยินยอมตามคำขอร้องของประชาชน ยอมลงจากอำนาจเดิมคือราชาธิปไตย ประชาราษฎรในบ้านนั้นเมืองนั้น ก็จะพากันให้ความเคารพเชื่อถือในองค์พระมหากษัตริย์ พากันยกย่องเชิดชูในพระราชวงศ์นั้นจนสุดชีวิต เพื่อให้เป็นร่มโพธิร่มไทร เป็นสมมุติเทพ กราบไหว้เทิดทูน ให้เป็นศูนย์รวมน้ำใจของประเทศนั้น ๆ ตลอดไปสิ้นกาลนาน เหตุการณ์อย่างนี้ ก็จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สาสน์ข้อที่ 3 ของแม่พระฟาติมา


    <CENTER class="post-body entry-content" style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WORD-SPACING: 0px; FONT: 13px/1.6em Arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; PADDING-TOP: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(249,249,249); TEXT-ALIGN: left; outline-color: initial; outline-style: initial; outline-width: 0px; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">[​IMG]</CENTER><CENTER class="post-body entry-content" style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WORD-SPACING: 0px; FONT: 13px/1.6em Arial, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(51,51,51); TEXT-INDENT: 0px; PADDING-TOP: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(249,249,249); TEXT-ALIGN: left; outline-color: initial; outline-style: initial; outline-width: 0px; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">

    อนึ่งผมได้รับเอกสารชิ้นหนึ่งจากคุณ สนธิ สารธรรม จ่าหน้าว่า "สาสน์ข้อที่ 3 ของแม่พระที่ฟาติมา" ผมจะขอคัดข้อความส่วนที่กล่าวถึงการทำนายมาลงในที่นี้ เพื่อเปรียบเทียบกับข้อความชิ้นแรก ที่ผมได้อ้างมาแล้วในตอนต้น
    </CENTER>

    "หลังจากที่สมเด็จพระสันตปาปายอห์น ปอล ได้ทรงอ่านทำนายข้อที่ 3 แล้วก็เช่นเดียวกันพระองค์ทรงโทมนัสมากจากข้อความในสาสน์นั้น และทรงอนุญาตให้เปิดเผยบางส่วนให้โลกได้รับทราบในปี ค.ศ.1983-1985 พระองค์ทรงทำดังนี้เพราะมีเวลาเหลืออยู่น้อยแล้ว"

    "เสียงจากพระแม่ได้ตรัสกับลูเซียว่า........ลูกที่รักของเราจงไปและบอกให้โลกได้รู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น หากมนุษย์ไม่ฟังคำสั่งที่พระเป็นเจ้าทรงวางไว้ต่อหน้าพวกเขา ปีศาจจะปกครองโลกและมันกำลังทำให้คนทั้งหลายเกลียดชังกัน อาวุธที่มนุษย์สร้างขึ้นนั้นก็สามารถทำลายโลกได้ในเวลาเพียงนาทีเดียว ครึ่งหนึ่งของมนุษย์ชาติจะถูกทำลาย พระศาสนาจักรเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความชั่วร้าย จนว่าไม่มีมนุษย์สักคนเข้าใจดีกันได้และมนุษย์จะสูญเสียความเชื่อ.......

    แผ่นดินไหวจะทำลายแนวเส้นแบ่งของโลก (เส้นศูนย์สูตรของโลก) ผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าจะตาย บุคคลเหล่านี้เป็นพวกที่ชีวิตของเขามีรากฐานอยู่บนวัตถุสิ่งของ คนหลายล้านคนจะเสียชีวิตภายในเวลาไม่กี่วินาที ส่วนพวกที่มีชีวิตรอดก็ปรารถนาให้ตัวเองได้อยู่ในหมู่ผู้ตาย (อยากตาย) สภาพของโลกที่อยู่เบื้องหน้าเรานั้นเป็นสภาพที่ไม่อาจจินตนาการได้ แต่สิ่งนี้จะมาอย่างแน่นอน พระเป็นเจ้าจะทรงลงโทษผู้ที่ไม่ต้องการที่จะยอมรับพระองค์ พวกที่เชื่อและสัตย์ซื่อต่อพระองค์จะมีชีวิตรอดและจะมีความเชื่อเพิ่มมากขึ้น"

    ลูเซีย เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เธอได้กลายเป็นแม่ชี และเคยกล่าวเอาไว้ว่า

    ".........แม่พระทรงโทมนัสมาก เพราะไม่มีใครสนใจในสาสน์ปี ค.ศ.1917 ของพระแม่ จงเชื่อเถิดว่าการลงโทษกำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้ และมีวิญญาณมากมายจะประสบความพินาศ หลายชาติจะหายไปจากโฉมหน้าของโลก ในระหว่างนี้ถ้ามนุษย์กลับตัวกลับใจโลกก็จะปลอดภัย........ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะเริ่มภาวนา ทำการใช้โทษบาปและส่งสาสน์นี้ให้แพร่หลายต่อไปยังครอบครัวญาติมิตร "

    "การลงโทษจะมาอย่างแน่นอน เมื่อบุรุษผู้หนึ่งซึ่งมีตำแหน่งสำคัญถูกฆาตกรรม เหตุการณ์นี้จะก่อให้เกิดมติที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหานั่นคือ กองทัพที่มีพลังมหาศาลจะบุกเข้าสู่ยุโรป แล้วสงครามนิวเคลียร์จะเริ่มขึ้น มันจะทำลายทุกสิ่ง ความมืดจะครอบคลุมโลกเป็นเวลา 72 ชั่วโมง และ 1 ใน 3 ของมนุษย์ชาติซึ่งจะมีชีวิตรอดจากช่วงเวลาแห่งความมืด 72 ชั่วโมงนั้นจะเข้าสู่ ชีวิตในยุคใหม่และเป็นคนดี"

    "ในคืนที่มีอากาศหนาวจัด เมื่อเวลา 10 นาทีก่อนเที่ยงคืน แผ่นดินไหวครั้งใหญ่จะทำให้โลกสั่นสะเทือนเป็นเวลา 8 ชั่วโมง นี่คือสัญญาณที่ 3 ซึ่งแสดงว่าพระเป็นเจ้าทรงเป็นผู้ครอบครองโลก คนดีและผู้ที่ได้เผยแพร่สาสน์ของพระแม่จะไม่ต้องหวาดกลัวเลย จะต้องทำอะไรเล่าจงคุกเข่าและภาวนาวอนขอพระเมตตาจากพระเป็นเจ้า จงอย่าออกไปข้างนอกจงอย่ายอมให้ใครก็ตามเข้าไปในบ้านของท่าน คนดีเท่านั้นจึงจะมีชีวิตรอดจากหายนะครั้งนี้ ส่วนคนชั่วจะตกอยู่ในน้ำมือของปีศาจ"

    แม่ชีลูเซียได้แนะ "ทางรอด" ให้แก่ผู้ที่เตรียมตัวพร้อมเอาไว้ดังนี้ว่า

    " ดิฉันขอให้เครื่องหมายเหล่านี้ คือคืนนั้นจะหนาวมาก ลมจะพัดแรงและในช่วงเวลาอันสั้นโลกจะเริ่มสั่นสะเทือน ที่บ้านของท่านจงปิดหน้าต่างทุกบานและอย่าพูดกับคนหนึ่งคนใดนอกจากคนในบ้าน อย่ามองออกไปภายนอก อย่าอยากรู้อยากเห็น เพราะนี่เป็นพระพิโรธของพระเป็นเจ้า จงจุดเทียนเสกเพราะจะไม่มีแสงสว่างในรูปแบบอื่นส่องแสงได้เป็นเวลา 3 วัน คุกเข่าต่อไม้กางเขนแล้วภาวนา.....

    เมื่อโลกหยุดสั่นสะเทือนแล้วท่านจึงมองออกไปภายนอกได้ แต่อย่าได้แตะต้องหรือนำสิ่งใดก็ตามที่ได้สัมผัสกับสิ่งที่เป็นพิษ มิฉะนั้นตัวท่านจะได้รับพิษนั้นด้วย ทุกคนที่ไม่เชื่อและไม่ฟังจะตาย ลมจะพัดเอาอากาศธาตุ (ก๊าซ) มาและแผ่กระจายไปทั่วโลก ในคืนที่ 3 แผ่นดินจะหยุดสั่นสะเทือน มันจะอยู่ในสภาพนิ่ง ดวงอาทิตย์จะปรากฎมา บรรดาทูตสวรรค์จะมาจากฟ้าและอวยพรแผ่นดินโลกอีกครั้งหนึ่ง "

    (คัดลอกมาจาก หนังสือ เทพอวตาร เขียนโดย ดร.สุวินัย ภรณวลัย)

    BIBLE CODE:
    AHMADINEJAD ASSASSINATED


    [​IMG]


    2010 AD: There is a date in this Bible code for the Hebrew Year of 5770 = SEPT 2009 AD to SEPT 2010 AD in our western calendar. Its possible Israel will assassinate Ahmadinejad in 5770 in another of his propoganda trips to The United Nations?

    It is also possible that Israel will assassinate Ahmadinejad in Sept 2009-2010 AD (at a UN speech) at the same time Israel launches a bombing campaign to destroy Iran's nuclear weapons program. What is interesting is the time frame for a possible war between ISRAEL vs IRAN (2009- 2010 AD), a war that will clearly trigger the Biblical Apocalypse.

    ที่มา BIBLE CODE: AHMADINEJAD ASSASSINATED - [ แปลหน้านี้ ]

    คำทำนายของนอสตราดามุส

    "มาบูซ จะตายในไม่ช้า
    จะมีการฆ่าหมู่คนและสัตว์ อย่างน่าสยดสยอง

    ทันใดนั้น การแก้แค้นจะปรากฏขึ้นจากร้อยแผ่นดิน

    ความกระหาย อดอยาก จะเกิดขึ้นเมื่อดาวผ่านโคจรผ่านมา" II 62

    ที่มา บารัค โอบาม่า บุรุษในคำทำนายของนอสตราดามุส? | Eric's box

    สาสน์ข้อที่ 3 ของแม่พระฟาติมา

    การลงโทษจะมาอย่างแน่นอน เมื่อบุรุษผู้หนึ่งซึ่งมีตำแหน่งสำคัญถูกฆาตกรรม เหตุการณ์นี้จะก่อให้เกิดมติที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหานั่นคือ กองทัพที่มีพลังมหาศาลจะบุกเข้าสู่ยุโรป แล้วสงครามนิวเคลียร์จะเริ่มขึ้น มันจะทำลายทุกสิ่ง ความมืดจะครอบคลุมโลกเป็นเวลา 72 ชั่วโมง และ 1 ใน 3 ของมนุษย์ชาติซึ่งจะมีชีวิตรอดจากช่วงเวลาแห่งความมืด 72 ชั่วโมงนั้นจะเข้าสู่ ชีวิตในยุคใหม่และเป็นคนดี"

    ที่มา http://www.palungjitrescuedisaster.com/

    คำทำนายของพระฮวน พอล วัลเดส

    สงครามโลกครั้งที่ 3 จะเกิดขึ้นจากเหตุการปลงชีพของผู้นำประเทศตะวันออกกลาง สงครามจะถึงจุดสูงสุด เมื่อประเทศตะวันตกทิศเหนือ ไม่อาจยอมทนต่อไปกับการวางระเบิดแบบสละชีพและก่อการร้าย ของชนประเทศตะวันออกลางต่ออธิปไตยของประเทศ

    ที่มา http://www.palungjitrescuedisaster.com/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2011
  8. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745



    เอ้า เราว่าของเราเจ๋งเด็กอายุ 15 ปี มาสมัครงานบอกลูกอายุสามเดือนต้องการทำงานด่วน​

     
  9. ทำไมทำไม

    ทำไมทำไม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +13
    กลุ่มอีลูมิเนท เค้าใช้พลังงานด้านลบของมนุษย์ คือ ความกลัว ถ้าหากเราไม่กลัว ก็ไม่มีพลังงาน สำหรับเราแล้ว อดีตผ่านไปแล้ว ปัจจุบันกำลังดำเนิน อนาคตยังไม่เิกิด ในเมื่อยังไม่เกิด แล้วเราจะกังวลไปทำไม ใช้ชีวิตทุกวันอยู่บนความไม่ประมาท ระลึกถึงความตายทุกนาทีดีกว่า เราจะได้ไม่เผลอไปสร้างภพสร้างชาติจะดีกว่า
     
  10. ทำไมทำไม

    ทำไมทำไม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +13
    อันนั้นเค้าถูกข่มขืนนี่ครับ แต่อันของเธออ่ะ เิกิดจากความรักสนุก แต่ไม่รู้จักป้องกัน แต่ก็ยังดี รู้จักรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดในทางที่ควรจะเป็น
     
  11. Thongkerd

    Thongkerd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +152
    วันนี้ 14/11/2011 วันนี้ King ทรงเสด็จทอดพระเนตรแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อดูระดับน้ำ กระแสน้ำ พระองค์ทรงห่วงประชาชนชาวไทยที่ถูกน้ำท่วม (ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ)
    พระองค์เสด็จออกวันนี้ ต้องมีเหตุ-ผล หรืออาจทรงเป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมอยู่ขณะนี้มาก ๆ ก็เป้นไปได้
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline style="FONT-WEIGHT: bold; FONT-SIZE: medium; COLOR: rgb(0,0,153); FONT-FAMILY: Tahoma; TEXT-DECORATION: none" vAlign=baseline align=left>นบพิตำระทึกน้ำป่าถล่มสะพานดินชั่วคราวสะบั้นซ้ำสอง 11 หมู่บ้านถูกตัดขาด</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body style="MARGIN: 0px; WORD-SPACING: 0px; FONT: x-small Tahoma; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(102,102,102); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-DECORATION: none; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px" vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 11px Tahoma; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(204,102,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255); TEXT-DECORATION: none; orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px" vAlign=center align=left>14 พฤศจิกายน 2554 19:11 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD height=40>นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านนบพิตำผวา หลังฝนตกหนักเพียง 3 ชม.ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากส่งผลให้สะพานดินชั่วคราวที่บ้านเขาเหล็ก ต.กรุงชิง พังทลาย ชาวบ้าน 11 หมู่บ้านถูกตัดขาด เจ้าหน้าที่เร่งทำทางเชื่อมเปิดการสัญจร

    วันนี้ (14 พ.ย.) หลังจากได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันกว่า 3 ชั่วโมงบนเขาปลายกัน ที่บ้านเขาเหล็ก ม.2 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงมาจากภูเขาอย่างรุนแรงกระแสน้ำเป็นสีโคลนแดงขุ่น ได้พัดพาเอาสะพานชั่วคราวซึ่งเป็นสะพานที่ถูกสร้างขึ้นทดแทนสะพานเดิมที่ถูกน้ำป่าพัดพังทลายไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้หมู่บ้านอีกราว 11 หมู่บ้านถูกตัดขาดการสัญจรรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ระหว่างทางเข้าออกหมู่บ้าน โดยเหตุการณ์ฝนตกหนักได้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเชิงเขาปลายกันต้องอพยพครอบครัวลงมาอยู่บ้านญาติในหมู่บ้านเพื่อความปลอดภัย โดยมีการอพยพออกมาตั้งแต่ช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา

    และล่าสุด เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 4 อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้นำสะพานแบริ่งเพื่อมาติดตั้งบริเวณที่สะพานขาด เพื่อให้สามารถใช้สัญจรไปมาได้ชั่วคราว สำหรับจุดเกิดเหตุนั้นเป็นสะพานดินชั่วคราวที่ทางบริษัทเหมืองแร่ในพื้นที่ อ.นบพิตำ ได้ช่วยกันสร้างเพื่อให้ได้สัญจรไปมา ก่อนการก่อสร้างสะพานคอนกรีตจะแล้วเสร็จ

    ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุ บอกว่า รู้สึกกังวลต่อสถานการณ์เป็นอย่างมากเพราะร่องรอยการเสียหายจากอุทกภัยรอบก่อนยังไม่ทันหมด ก็มาเกิดสถานการณ์ใหม่อีกเป็นห่วงว่าหากฝนตกหนักติดต่อกันนานๆ อาจจะเป็นอันตรายได้ เพราะขนาดฝนตกยังไม่มากนักก็ยังเกิดเหตุการณ์นี้

    ด้าน นายกรีฑา อินทร์ณรง กำนันตำบลนบพิตำ ได้ประสานกับผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ รวมทั้งอาสาสมัครเฝ้าระวังเหตุการณ์ให้มีการระมัดระวังอย่างเต็มที่ เนื่องจากขณะนี้ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับจากเหตุการณ์ครั้งที่แล้วยังมีดินที่ถล่มลงมาติดค้างจำนวนมากยังไม่ไหลลงมายังพื้นล่างเมื่อฝนตกเช่นนี้อาจทำให้เกิดภัยพิบัติซ้ำขึ้นอีกได้ทุกเวลา


    ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000145347
    </TR></TBODY>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2011
  13. cybermoo2005

    cybermoo2005 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +82
    ภูเขาไฟในคองโกปะทุรุนแรง พ่นลาวาสูง 400 เมตร - Voice TV

    Home> News> Global> ภูเขาไฟในคองโกปะทุรุนแรง พ่นลาวาสูง 400 เมตร



    ภูเขาไฟในคองโกปะทุรุนแรง พ่นลาวาสูง 400 เมตร



    ภูเขาไฟในอุทยานของสาธารณรัฐคองโก ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันไม่มีผลกระทบต่อประชาชนและสัตว์ป่า

    ภูเขาไฟ ยามูรากิรา(Nyamuragira) ในอุทยานแห่งชาติวิรังกา ทางภาคตะวันออกของสาธารณรัฐคองโก เกิดการปะทุขึ้นอย่างรุนแรง พ่นเถ้าถ่านและลาวา ออกมาจากปล่องภูเขาไฟ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าการปะทุครั้งนี้ถือเป็นการปะทุที่รุนแรงที่สุดในรอบร้อยปี โดยเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ

    รอยแยกของภูเขาไฟ มีระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าใหญ่มาก ลาวาที่พุ่งออกมาจากปล่อยสูงประมาณ 400 เมตร เจ้าหน้าที่สามารถจับแรงสั่นสะเทือนได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แรงปะทุก็รุนแรงมากขึ้นเช่นกัน

    ด้านเจ้าหน้าที่อุทยานฯและตัวแทนทางการคองโกที่เฝ้าสังเกตการณ์ เปิดเผยว่า การปะทุของภูเขาไฟ ยามูรากิรา จะไม่ส่งผลกระทบและเป็นอันตรายต่อชีวิตประชาชนและสัตว์ป่าอย่างแน่นอน เนื่องจากจุดที่เกิดการปะทุของภูเขาไฟ อยู่นอกเขตที่พักอาศัยของคนและห่างไกลจากที่อยู่ของสัตว์

    Produced by VoiceTV
    by Sujirat

    14 พฤศจิกายน 2554 เวลา 21:17 น.
     
  14. cybermoo2005

    cybermoo2005 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +82
    ภูเขาไฟในคองโกปะทุรุนแรง พ่นลาวาสูง 400 เมตร - Voice TV

    Home> News> Global> ภูเขาไฟในคองโกปะทุรุนแรง พ่นลาวาสูง 400 เมตร



    ภูเขาไฟในคองโกปะทุรุนแรง พ่นลาวาสูง 400 เมตร



    ภูเขาไฟในอุทยานของสาธารณรัฐคองโก ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันไม่มีผลกระทบต่อประชาชนและสัตว์ป่า

    ภูเขาไฟ ยามูรากิรา(Nyamuragira) ในอุทยานแห่งชาติวิรังกา ทางภาคตะวันออกของสาธารณรัฐคองโก เกิดการปะทุขึ้นอย่างรุนแรง พ่นเถ้าถ่านและลาวา ออกมาจากปล่องภูเขาไฟ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าการปะทุครั้งนี้ถือเป็นการปะทุที่รุนแรงที่สุดในรอบร้อยปี โดยเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ

    รอยแยกของภูเขาไฟ มีระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าใหญ่มาก ลาวาที่พุ่งออกมาจากปล่อยสูงประมาณ 400 เมตร เจ้าหน้าที่สามารถจับแรงสั่นสะเทือนได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แรงปะทุก็รุนแรงมากขึ้นเช่นกัน

    ด้านเจ้าหน้าที่อุทยานฯและตัวแทนทางการคองโกที่เฝ้าสังเกตการณ์ เปิดเผยว่า การปะทุของภูเขาไฟ ยามูรากิรา จะไม่ส่งผลกระทบและเป็นอันตรายต่อชีวิตประชาชนและสัตว์ป่าอย่างแน่นอน เนื่องจากจุดที่เกิดการปะทุของภูเขาไฟ อยู่นอกเขตที่พักอาศัยของคนและห่างไกลจากที่อยู่ของสัตว์

    Produced by VoiceTV
    by Sujirat

    14 พฤศจิกายน 2554 เวลา 21:17 น.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2011
  15. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ปัดโถ้เอ๋ยประเทศไทยเยอะแยะไม่ต้องดูประเทศอื่นหรอกครับ อายุ๑๒-๑๓น่ะ กะเหรียง บ้านผมบางคน ออกโรงเรียน ป.๖ ก็แต่งงานแล้ว คนไทยก็น่าจะมี แต่มันอาจจะคุมกำเนิด หรือยัง ไม่มีลูก หรือยังไม่มีประจำเดือน ก็เด็กมันเอากันตั้งแต่ อยู่ประถมแล้ว ไม่สังเกตุกัน มั่งหรือ ไม่ต้องดู อีก ๓๐๐๐-๔๐๐๐ ปี หลังสิ้นพระศาสนาไปแล้ว คนอายุสูงสุดก็ ๑๐ ปี ๕ ปีแต่งงาน นี่ว่าโดยรวม ที่คนแก่เขาบอกคนจะสวยมะเขือกิน เอาดูปัจจุบันดีกว่าครับ มีให้เห็นดาษดื่น มีเสื่อมก็มีเจริญ มันเป็นอย่างนี้มาคู่กับโลก แล้ว อายุของมนุย์สูงสุด หนึ่งแสนปี ต่ำสุด ๑๐ ปี ไปหาค้นคว้าเอาเอง ทางโลกเรียนไม่จบ แต่ทางธรรมมีวันจบครับ
     
  16. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    เว็บไซต์ต่างประเทศชื่อดัง รายงานข่าวสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย โดยเปิดเผยว่า มหาอุทกภัยในไทยครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อคนนับล้านทั้งต่างจังหวัดและคนกรุง ซึ่งขณะนี้มวลน้ำกำลังโจมตีกรุงเทพซึ่งเป็นเมืองหลวงของไทย
    โดยผลกระทบจากมหาอุทกภัยในครั้งนี้ นอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจในประเทศแล้ว ยังส่งผลกระทบถึงตลาดในต่างประเทศ ที่เห็นได้ชัดเจนคือราคาของข้าวที่สูงขึ้น
    อย่างไรก็ตามอีกมุมหนึ่ง เว็บไซต์ดังกล่าวชมคนไทยว่า มีการใช้ความคิดและไอเดียในการดัดแปลงวัสดุ เพื่อใช้ในการดำรงชีวิตและต่อสู้กับภาวะน้ำท่วมได้เป็นอย่างดี
    Mthai News
    เกาะติดสถานการณ์ ข่าวน้ำท่วม กับเอ็มไทย คลิ๊ก!!
    [​IMG]
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]แท็ก : น้ำท่วมกรุงเทพ, สิ่งประดิษฐ์สู้น้ำท่วม



    [​IMG]
    นายวั่น ชุ่นเสียง เผยกับเว็บไซต์เดอะอีโพช ไทมส์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์หลายภาษาของกลุ่มสนับสนุนฝ่าหลุนกงว่า เขาและครอบครัวอาศัยอยู่ในจังหวัดนนทบุรี ทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ แถวบ้านเริ่มมีน้ำท่วมระดับเท้าตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม
    เขาไปตลาดเพื่อซื้ออาหารไว้สำรองเพราะเกรงว่าราคาจะปรับขึ้นพรวดพราดแต่กลับพบว่าราคาเท่าเดิม และเห็นสังเกตเห็นชาวบ้านย่านนั้นซื้ออาหารในปริมาณปกติ พ่อค้าแม่ค้าในตลาดบอกว่า ทุกคนควรช่วยกันในยามวิกฤติ หากคนมาก่อนซื้ออาหารจำนวนมากไปกักตุนไว้ คนมาทีหลังก็จะไม่เหลืออะไรให้ซื้อ
    หลายวันต่อมาระดับเพิ่มสูงขึ้นเหนือเข่า เขาส่งครอบครัวย้ายไปยังที่พักปลอดภัยในกรุงเทพฯ แต่ตัวเองยังอยู่ช่วยเหลือแม่ลูกชาวจีนคู่หนึ่งที่สามียังไม่กลับจากต่างจังหวัด เขาเห็นชาวบ้านแถวนั้นพายเรือและแพไปตามตรอกซอกซอยอาสารับส่งเพื่อนบ้านโดยไม่เก็บเงินแม้แต่บาทเดียว
    จนกระทั่งน้ำเริ่มสูงระดับเอว เขาและชาวบ้านในย่านนั้นตัดสินใจอพยพ เขายืนแช่น้ำรอรถทหารนานกว่า 2 ชั่วโมง เพราะไม่มีรถอื่นสามารถเข้ามาได้ สตรีคนหนึ่งซึ่งยืนคุยเป็นเพื่อนเขาขอให้ทหารซึ่งลากแพยางผ่านมาช่วยรับเขาไปด้วยทั้งที่บนแพมีหญิงชราวัย 90 กว่าปี 1 คน และชายวัย 60 กว่าปี 2 คน จนแทบไม่เหลือที่ว่างแล้ว
    เขาขอแค่วางกระเป๋าเสื้อผ้าบนแพและจะเดินลุยน้ำตามไป แต่ทุกคนคะยั้นคะยอให้ขึ้นไปนั่งบนแพ ระหว่างทางมีชายคนหนึ่งขอให้ชายชราอีกคนอาศัยไปด้วย เขาคิดจะสละที่ให้ แต่ทหาร 2 นายห้ามไว้
    พร้อมกับอธิบายว่าจะต้องดูแลความปลอดภัยให้ชาวต่างชาติ ทำให้เขาตื้นตันจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ทุกครั้งที่เรือหรือแพผ่านกันผู้คนก็จะโบกไม้โบกมือ ยิ้มให้กำลังใจกัน
    นายวั่น เผยด้วยว่า เห็นคนไทยจำนวนมากหอบหิ้วสุนัขและแมวมาด้วย พวกเขายอมทิ้งข้าวของแต่ไม่อาจทิ้งสัตว์เลี้ยงได้ ระหว่างทางยังมีจุดชั่วเหลือชั่วคราวขององค์กรการกุศลคอยแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่ม
    ขณะที่นายทหารจะลงจากรถทหารคอยวัดความลึกของน้ำเป็นระยะ ๆ ก่อนขับรถผ่านเพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิตบนรถ และเมื่อเขาลงจากรถทหาร ทหารทุกนายยังอวยพรให้เขาโชคดีแล้วเริ่มภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไปทันที
    เขาประทับใจคนไทยมากที่มีน้ำใจและสุภาพแม้ประสบภัย แตกต่างจากเมื่อครั้งที่เขาเผชิญน้ำท่วมใหญ่ในจีนเมื่อปี 2541 ครั้งนั้นระดับน้ำแค่เท้าแต่ทุกคนแตกตื่นซื้อข้าวของจนหมดเกลี้ยงร้าน
    สำนักข่าวไทย
    Mthai News


    กลับมาแล้วครับ...น้ำท่วมที่ทำงานครับเลยไม่ได้โพสครับ :'(
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Video-0013.mp4
      ขนาดไฟล์:
      0 bytes
      เปิดดู:
      394
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2011
  17. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    แฉ! ทางการอินโดฯ ฆ่าหมู่สุนัขนับแสน ต้อนรับกีฬาซีเกมส์
    Mthainews: เว็บไซต์ saveindonesiadogs.weebly.com ตีแผ่เรื่องราวอันน่าสลดของบรรดาเหล่าสุนัขเร่ร่อน ที่ต้องสังเวยชีวิตนับแสนตัว ก่อนที่มหกรรมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 กีฬาเพื่อมิตรภาพจะเปิดฉากขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซีย
    โดยมีการเผยภาพเบื้องหลังของชีวิตสัตว์เร่รอนทั้งหลาย ถูกฆ่าเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 8 ตุลาคมถึงเช้าวันที่ 9 ตุลาคม พวกมันถูกให้กินยาเบื่อตามท้องถนน หากว่าพิษของยายังไม่รุนแรงทำให้มันตาย แต่ก็ทำให้ทรมานทุรนทุราย จนทนพิษไม่ไหว ตายในที่สุด ส่วนตัวไหนที่ยังไม่ตาย พวกเขาจะปล่อยให้มันนอนตากแดด หรือขุดหลุมฝังทั้งเป็น
    [​IMG][​IMG]
    รายงานระบุว่า ทางการมีการแจ้งเตือนว่า ก่อนเวลา 3 ทุ่ม เจ้าของสุนัขต้องให้สัตว์เลี้ยงไว้ในบ้านพัก ห้ามออกมาเพ่นพ่านบนท้องถนน เพราะจะมีการให้ยาเบื่อกับสุนัขเร่ร่อน หากสุนัขของใครตกเป็นเหยื่อก็จะไม่มีการรับผิดชอบแต่อย่างใด แต่ก็มีเจ้าของบางส่วนปล่อยสุนัขให้ออกมาประสบชะตากรรมเช่นกัน
    การฆ่าหมู่สุนัขกว่า 123,000 ตัว เป็นเรื่องอันน่าสลด ที่ต้องฆ่าเพื่อต้อนรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่เปิดการแข่งขันในวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่เมืองปาเลมบัง
    [​IMG][​IMG]
    เจ้าหน้าที่ทีมสัตวแพทย์ และอาสาสมัครพิทักษ์สัตว์จากเมืองปาเล็มบังและจาร์กาตาร์ จึงเร่งให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะสามารถยื้อชีวิตมันได้ สุนัขบางส่วนจึงอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ ทั้งหมดเหล่านี้ เหล่าอาสาสมัครเชื่อว่า มีการวางแผนมาเป็นอย่างดีในการเบื่อยาสุนัขเร่ร่อน จากทางการอินโดนีเซีย
    [​IMG]
    Pics : SAVE PALEMBANG DOGS FROM MASS MURDER -
    Mthai News


    [​IMG]
    เปิดภาพถ่ายปริศนา โครงสร้างประหลาด ในทะเลทรายโกบี
    Mthainews: สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ภาพดาวเทียมที่ถ่ายโดยโปรแกรม กูเกิลแมพ ซึ่งมีหลายภาพปรากฎรูปทรง ที่มีโครงสร้างประหลาดในทะเลทรายโกบี พื้นที่ชายแดนระหว่างมณฑลกานซู และมณฑลซินเจียง ตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ แหล่งที่มีการใช้พื้นที่ในการผลิตและพัฒนาอุปกรณ์นิวเคลียร์
    [​IMG]
    เป็นปริศนาภาพถ่ายว่า “โครงสร้างดังกล่าวเกิดจากอะไร และสร้างมาเพื่อจุดประสงค์ใด” ซึ่งมีบางภาพพบยานพาหนะอยู่ในพื้นที่ ทำให้มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า พื้นที่ทะเลทรายแห่งนี้อาจจะเป็นที่ตั้งของกองทัพที่มีวัตถุประสงค์ทางทหาร
    [​IMG]
    ผู้ใช้ในอินเตอร์เน็ตพยายามวางซ้อนภาพเหล่านี้กับแผนที่ของสหรัฐ สร้างความกังวลว่า อาจจะมีจุดประสงค์ร้ายทางทหารต่อพวกเขา ขณะที่บางส่วนแย้งว่า หากจีนจะโจมตีสหรัฐจีน ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องสร้างแผนที่เหล่านี้ในทะเลทราย
    [​IMG]
    แท็ก : กูเกิลแมพ, ทะเลทรายโกบี, ภาพถ่ายดาวเทียม
     
  18. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] ตอนบนอากาศเย็นถึงหนาว/ใต้ตั้งแต่จ.ชุมพรฝนตกหนักท่วมฉับพลัน </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศประจำวันที่ 15 พฤศจิกายน 2554 เมื่อเวลา 04:00 น.

    บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่อง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงมีอากาศหนาวเย็นและมีหมอกในตอนเช้า
    สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่ปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ มีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 15-16 พ.ย. นี้ ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไประวังอันตรายจากฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้บางแห่ง ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
    ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-16 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา
    ตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-18 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา
    สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ภาคตะวันออก มีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> นักท่องเที่ยวแห่ชมแม่คะนิ้งยอดดอยอิทนนท์ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>ผู้สื่อข่าวรายงานจากยอดดอยอินทนนท์ ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

    ได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามากางเต้นท์ในเขตอุทยานฯจำนวนมาก ในช่วงเช้าจะเดินทางขึ้นยอดดอยอิทนนท์จุดที่สูงที่สุดในสยาม คือ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 2,565,3341 เมตร อากาศในช่วงนี้จะหนาวเย็นมาก

    นักเที่ยวเที่ยวจะขึ้นมาตอนเช้าเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวบริเวณลานจอด ฮ.และจุดสูงสุดในสยาม

    และเฝ้ารอการเกิดแม่คะนิ้งบนยอดหญ้าหรือชาวเหนือเรียกว่าเหมยขาบ มีเกล็ดน้ำแข็งบนยอดหย้าบนยอดดอย ซึ่งในช่วงนี้จะเกิดแม่คะนิ้งจำนวนมากหลายจุดโดยเฉพาะบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์จะพบมากเป็นพิเศษ


    นายธนากฤษ ธาดาพงษ์ นักท่องเที่ยวชาวดอนเมือง กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า

    ได้หยุดงานมาแล้ว 7 วัน จากที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม เดินทางมาเที่ยวยอดดอยอิทนนท์ประทับใจที่ได้พบเห็นแม่คะนิ้งหรือเหมยขาบที่สวยงาม อากาศดีมาก และได้เที่ยวเทศกาลงานลอยกระทงของ จ.เชียงใหม่สวยงามมาก สร้างความสุขสนุกในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จากนี้ไปก็จะกลับกรุงเทพฯ เพื่อจะทำงานช่วยเหลือพี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม


    นายอินสอน กาวิละ คนขับรถสี่ล้อแดงรับจ้าง ของสหกรณ์ล้านนาเดินรถ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงนี้นักท่องเที่ยงทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่จำนวนมาก

    ในฐานะเจ้าบ้านได้มีการเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวให้ความปลอดภัยตลอดคือต้องทำการตรวจเช็ครถของตัวเองทุกครั้งหลังจากที่บริการนักท่องเที่ยวเสร็จในแต่ละกลุ่มที่เช่าเหมาในการเดินทางท่องเที่ยวในแต่ละแห่ง หากเส้นทางใดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กันก็จะพาเที่ยวให้ทั่วถึง เพราะต้องการให้นักท่องเที่ยวได้รับความสุขกลับไป โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ได้เดินทางออกจากกรุงเทพหนีน้ำท่วมมาก็ต้องการให้มีความสุข และผ่อนคลายเพื่อจะได้มีจิตใจที่ดีกลับไปกู้วิบัติภัยน้ำท่วมต่อไป


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>“สมิทธ”ออกโรงเตือนปีหน้าน้ำท่วมอีก </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>จี้”ยิ่งลักษณ์”แสดงความรับผิดชอบทำน้ำท่วมใหญ่ เตือนปีหน้าเสี่ยงน้ำท่วมใหญ่อีก แนะย้ายเมืองหลวงดีที่สุด


    เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นายสมิทธ ธรรมสโรช อดีตผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และในฐานะคณะกรรมการวางยุทธศาสตร์ทรัพยากรน้ำของประเทศ เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการวางยุทธศาสตร์ทรัพยากรน้ำ จะเชิญประชุมคณะกรรมการฯภายในสัปดาห์นี้ เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์น้ำของประเทศให้ชัดเจนว่าประเทศไทยจะเดินต่อไปอย่างไรในสภาวะของสภาพอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะปัญหาอุทกภัยใหญ่ที่เกิดขึ้นในปีนี้ ก่อนอื่นรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดและเปิดเผยความผิดพลาดทั้งหมดในการบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะความบกพร่องอย่างร้ายแรงในการประสานข้อมูลน้ำของรัฐมนตรีทุกกระทรวงที่เป็นคณะบริหารประเทศ รวมทั้งข้อมูลที่คลาดเคลื่อนของแต่ละหน่วยงานออกมาให้สาธารณะชนรับทราบ เพื่อเป็นการยืนยันต่อประชาชนว่ารัฐบาลจะไม่บริหารผิดพลาดอีกในอนาคต เพราะครั้งนี้เสียหายอย่างมหาศาล หากเตือนภัยล่างหน้าแม้จะห้ามภัยพิบัติไม่ได้ แต่ความเสียหายก็จะน้อยลงมาก

    ทั้งนี้สิ่งสำคัญคณะกรรมการชุดนี้ เมื่อประชุมเสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรี

    ซึ่งนั่งประธานการประชุมจะต้องแถลงยุทธศาสตร์น้ำของประเทศเพียงคนเดียวเท่านั้นโดยจะต้องสรุปออกมาให้ชัดเจนในครั้งแรกของการประชุมว่าจะทำโครงการใดบ้าง จะใช้เวลาสร้างเท่าใด การบริหารจัดการเป็นอย่างไรก่อนเกิดภัย เกิดภัยแล้ว และหลังเกิดภัย อย่าให้เป็นเหมือนการทำงานของศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ.ในขณะนี้ที่ประชาชนไม่เชื่อถือแล้วไม่ว่าจะพูดอย่างไร บางคนออกมาแถลงว่าไม่ท่วม แต่ความเป็นจริงน้ำท่วมหนัก หากไม่มีความชัดเจนตนจะไปประชุมเพียงครั้งเดียวเพราะเสียเวลาตน ที่เข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย

    นายสมิทธ กล่าวว่า ขณะนี้ข้อมูลจากนานาชาติ ยืนยันตรงกันว่าไทยมีโอกาสเกิดน้ำท่วมใหญ่อีกในปีหน้าถ้าขาดข้อมูลกลางที่แท้จริงจะเกิดความเสียหายอีกมาก

    รวมทั้งจะเกิดแผ่นดินไหว อาการแปรปรวน หนาวมาก ร้อนมาก โดยเฉพาะฝนจะตกมากขึ้นเป็นข้อมูลจากองค์การสภาพภูมิอากาศโลกของสหประชาชาติ และน้ำทะเลหนุนเพิ่มสูงขึ้นอีก 1.50 เมตร หากกรุงเทพฯและปริมณฑล ไม่เจอน้ำท่วมก็ต้องท่วมขังอย่างถาวร จากน้ำทะเลหนุนสูงภายใน 9-10 ปีนี้ จังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรสาคร และสมุทรปราการ จะหายไปเลย ดังนั้นการป้องกันน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนต้องเป็นวาระแห่งชาติที่นายกรัฐมนตรี ต้องตัดสินใจทำทันทีว่าจะทำเขื่อนปิดปากอ่าวไทย กั้นตั้งแต่ พัทยาถึงชะอำ หากทำจะกั้นน้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯได้อีก 40 ปี เพราะถ้าน้ำแข็งขั้วโลกละลายหมด น้ำทะเลจะท่วมไทยจนถึงสระบุรี นครสวรรค์ จะกลายเป็นชายหาด หรือทำประตูปิดเปิดปากแม่น้ำ หรือจะทำเป็นฟลัดเวย์ ขุดคลองแห่งใหม่เพื่อระบายน้ำจากเขื่อนหรือจากตัดตอนไม่ให้เข้ากรุงเทพฯและแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อลงทะเลโดยตรง เพราะทั้งคนไทยและนักลงทุนต่างชาติ รอฟังอยู่ว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไร ถ้าไม่ตัดสินใจเด็ดขาดต่างชาติก็หนีกันหมด

    อย่างไรก็ตามการย้ายเมืองหลวงแห่งใหม่ เป็นมาตรการที่ดีที่สุดซึ่งตนและนายอาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ได้เสนอมานานแล้ว จนประเทศพม่าได้ย้ายเมืองหลวงจากย่างกุ้งไปเมืองใหม่ 7-8 ปีแล้วแต่ของไทยยังไม่เริ่มคิดกันเลยเพราะคนไทยมัวแต่ทะเลาะกันอยู่.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> แผ่นดินไหวเขย่า "เกาะโมลุกกะ"อินโดฯ 6.0ริกเตอร์ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผู้เชี่ยวชาญแผ่นดินไหวและธรณีฟิสิกส์ของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นที่นอกชายฝั่งทางตะวันออกของจังหวัดโมลุกกะเหนือของ อินโดนีเซีย เมื่อเวลา 11.05 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่นและเวลาตามเวลาในไทย และมีศูนย์กลางการเกิดอยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองลาบูฮา ประมาณ 69 กิโลเมตร และลึกลงไปในทะเล 10 กิโลเมตร

    ด้านสำนักสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐ วัดแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่ เกิดขึ้นได้ 6.6 ริคเตอร์ และลึกลงไปในทะเล 19 กิโลเมตร

    แต่ทางการอินโดนีเซีย ระบุว่า แรงสั่นสะเทือนสามารถรับความรู้สึกไปถึงเมืองเทอร์เนตที่อยู่ใกล้เคียง แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพิ่งจะเกิดแผ่นดินไหวที่เกาะบาหลีวัดแรงสะเทือนได้ 6.0 ริกเตอร์ ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายสิบคน และสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักท่องเที่ยว ที่พากันวิ่งหนีออกมาจากอาคารที่สั่นไหว แต่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากอินโดนีเซียตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า " วงแหวนแห่งไฟ " ที่มีการบรรจบกันของรอยเลื่อน ที่เป็นสาเหตุให้เกิดการเคลื่อนไหวของภูเขาไฟและแผ่นดินไหว




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ

    ลุงคนเชียงใหม่ สมาชิก

    เรียนสมาชิกทุกท่านครับ หลังจากไตร่ตรองอยู่หลายวัน ผมตัดสินใจนำบันทึกทั้งหมดของพระคุณลุงออกนำมาเสนอก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติมากเกินไปกว่าที่จะคาดเดาได้ของมนุษย์ชาติ ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยที่ผมมีส่วนได้เห็นคำบันทึกอันเนื่องมากจากญานของพระคุณลุง โดยที่ผมไม่ได้นำมาเสนอให้มีการเตรียมการกัน จะเป็นบาปติดในใจผมซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์แบบในบันทึกที่เขียนไว้ แม้นว่าตัวผมเองจะได้วางอุเบกขา แต่ว่าถ้าไม่ได้เผยแพร่ออกไปผมสิ่งนี้ถือว่าผมขาดเมตตา

    จะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องของบุญกรรมของท่าน ในส่วนตัวผมเองถือว่าได้เผยแพร่สิ่งที่ติดค้างในใจผมแล้ว ผมขอแบ่งบันทึกออกเป็น 4 ตอนนะครับ

    1. เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันฟ้าดับ
    2. เรื่องราวที่จะเกิดตามมาหลังวันฟ้าดับ 3 วัน
    3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ
    4. คนไทยจะเผชิญกับสิ่งใดบ้าง


    1.เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันฟ้าดับ

    วิกรมหลานลุง หลังจากลุงได้แจ่มชัดในญานทัศนะในสิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้ว ทำให้จิตใจของลุงเองเศร้าหมอง จนไม่อาจข่มจิตให้เป็นอุเบกขาว่ามนุษย์ทุกคนล้วนมีกรรมเป็นของตัวเอง การเข้าไปก้าวล่วงกรรมของผู้อื่นนั้น ผู้ที่เข้าไปเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องเป็นผู้แบกรับกรรมนั้นๆ ไว้ หลังจากบันทึกนี้ลุงตัดสินใจที่จะออกบวช เรื่องราวที่มีการเตรียมการกันนั้น ฝากให้หลานดูแล ประสานกับคุณลุงประสิทธิ์ และกลุ่มบ้านพุทธบุตร เพื่อช่วยเหลือกันตามกำลังบุญต่อไป

    เรื่องราวที่ลุงบันทึกทิ้งไว้ให้หลานนี้ ทั้งหมดเพื่อไม่ให้หลานและคณะเกิดความประมาท ในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งในด้านการเตรียมการภายนอกและการเตรียมการภายใน เน้นย้ำเรื่องการฝึกตายก่อนตาย เพื่อให้จิตคุ้นเคยกับอาสัญกรรมในทางสว่าง ให้กับน้องๆ และหลานๆทุกคนด้วย เพราะกุญแจดอกแรกที่จะเปิดเข้าไปในโลกแห่งวิญญานนั้น กรรมที่แรงสุดคืออาสัญกรรม เพราะถ้าจิตผูกยึดกับสิ่งใดในขณะที่ขาดห้วงลมหายใจสุดท้ายนั้น ถ้าหากมีเพียงแค่เสี้ยวอึดใจ อาจจะถลำลงสู่อบายภูมิถ้าจิตเป็นอกุศล หมั่นทำทานในสิ่งที่ยากๆ เพื่อไม่ให้ตนติดยึดกับคนสัตว์สิ่งของใดๆ อันจะเป็นแรงเหนี่ยวรั้งเรา ไปสู่การเกิดที่ไม่เป็นกุศล หมั่นเจริญมรณะสติ

    เรื่องราวที่ลุงได้บันทึกไว้ให้หลานนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดจากญานทัศนะของลุง เพื่อให้หลานจะได้เตรียมตัว เตรียมใจ วันเวลาอาจจะมีการคลาดเคลื่อนบ้างตามเหตุและปัจจัย แต่เรื่องราวที่จะเกิดขึ้น สิ่งเตือนซึ่งวันเกิดภัยพิบัตินั้น ไม่เปลี่ยนแปลง

    เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นนั้น ลุงขอเรียกว่าวันฟ้าดับก็แล้วกัน เพราะในยามนั้น สิ่งที่เกิดขึ้น ทุกด้านมืดสนิท แม้แต่ในยามที่เราหลับตายังมีความสว่างมากกว่าเสียอีก ลุงบันทึกหลังจากอธิษฐาน ไปยังวันก่อนหน้า ที่จะเกิดภัยพิบัติแก่บ้านเรา สามวันเจ็ดวัน ก่อนหน้านั้นลุงเห็น คนที่มีจิตเป็นอกุศลกรรม ได้มีการฉลอง จุดพลุ ร้องเพลงปีใหม่และนับย้อนหลังในวันสิ้นปี (ลุงจึงคาดว่าเหตุการจะเกิดขึ้นหลังฉลองสิ้นปีใหม่ )ลุงเห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป ในลักษณะที่อธิบายไม่ถูก แต่มีความแตกต่างและเห็นได้ชัดเจนทั้งขนาดและความสว่าง (จุดนี้น่าจะเป็นสัญญานเตือนให้มีการเตรียมการกันนานหลายวัน) ในวันฟ้าดับ ก่อนหน้านั้นจะมีฝนตกต่อเนื่องกันหลายวัน แล้วในวันนั้นไร้ฝน ฟ้าหม่นหมองยิ่งนัก ใบไม้ เงียบจนไม่ฟลิกใบ ฝูงสัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า จะครวญครางแอบหมอบ

    ลุงเห็นฟ้าสว่างโร่อย่างไม่เคนเห็นมาก่อน( ทำให้ลุงนึกถึงเรื่องราวที่คนเล่าถึงแสงสว่างจากระเบิดปรมาณู )ในยามที่เกิดแสงสว่างลุงเตือนหลานและทุกคนอย่าพยายามที่จะมองหาต้นทางของแสง เพราะหลังจากนั้นลุงเห็นภาพคนที่ตามืดบอดเนื่องจากแสงจักรวาลที่ฟาดลงมาแทงทำลายตาของเขา แต่หลังจากเกิดแสงนี้แล้วหลานยังมีเวลาเตรียมตัว ในช่วงนี้เองสัตว์ต่างๆจะตื่นกลัววิ่งหนีแบบไม่มีทิศทาง บ้านเราถ้ามีสัตว์ใดขอให้หลานอย่าได้กักขังเขา เพราะจะเป็นอันตราย แม่แต่สัตว์ที่เชื่องที่สุด แต่ก็มีบางตัวที่จะรอดนั้นจะหมอบตัวสั่นใกล้ๆกับมนุษย์

    ในยามนี้ขอให้หลานได้เข้าไปยังสถานที่ที่มีการเตรียมการและปิดให้มิดชิด อาหาร น้ำ ยา และชุดยังชีพให้ทุกคนแยกติดตัวไว้ อย่าเอารวมกันเพื่อจะแบ่งกัน เพราะอาจจะลำบากมาก ในการติดต่อกันแม้แต่อยู่ใกล้ๆกัน ส่วนการย้ายเข้าที่ปลอดภัยและที่มีการเตรียมการอพยพ ขอให้หลานๆได้เตรียมตัวกันเต็มที่หลังจากที่เห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป หลังจากที่มีแสงจักรวาลเข้ามาแล้ว หลังอีกไม่นานนัก ลุงเห็นภาพคนกำลังทานข้าวกันอยู่ จะเกิดเหตุการณ์โลกเราเหมือนกับชนกับอะไรซักอย่าง คนที่อยู่บนผืนดิน เหมือนคนที่อยู่บนรถขนาดใหญ่ที่มีการชน ภาพคนล้มไถลไปกับพื้น ตึกพังทลายราบลงมาทันที ยังไม่ทันได้ตั้งตัว จะมีเสียงดังเหมือนวัวยักษ์ครางอือๆๆๆๆๆ ขอให้หลานและทุกคนอยู่ในห้องแข็งแรงของเรา หรือคนที่อยู่นอกพื้นที่ ให้เข้าไปยังที่มีหลังคาแข็งแรงและปิดหูด้วยอุปกรณ์ป้องกันเสียงที่ลุงได้ให้เตรียมไว้แล้ว เพราะพอเสียงวัวยักษ์ร้องเงียบลง ไม่กี่อึดใจ


    ลุงเห็นภาพผู้คนวิ่งออกจากตึกเพราะกลัวแผ่นดินไหวที่จะตามมา หลังจากนั้น จะมีเสียงดังที่สุด ซึ่งลุงก็บอกไม่ได้ว่ามันดังแค่ใหน แต่หลังจากนั้นลุงเห็นผู้คนเลือดออกจากรูหู นอนกลิ้งเกลือกไปตามพื้น ตาเถลือกถลน คนที่เอามืออุดหูทันนั้น ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้ เพราะลุงเห็นคนที่พยายามสื่อสารกัน แต่เหมือนกับว่าคนในโลกนี้แก้วหูขาดไปหมดสิ้นแล้ว เสียงตะโกนโหวกเหวก แต่ต่างคนต่างไม่รู้เรื่อง ลุงจึงขอย้ำเตือนหลานตรงนี้เรื่องการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันหู ให้ดีที่สุด อาจจะทำให้หนักเป็นเบาได้


    หลังจากนั้นลุงเห็นภาพที่ทุกคนกลับมาตื่นกลัวอีกครั้งจากแผ่นดินไหวรุนแรง และสั่นต่อเนื่องกันผิดจากครั้งแรกที่เหมือนจะชนโครมเดียวแล้วหยุด แต่คราวนี้เป็นเหมือนมีคนจับเอาเราอยู่ในกระด้งแล้วเคาะขอบมันอย่างแรงอย่างต่อเนื่อง เสียงหวีดร้องตื่นกลัวดังไประงม แต่ในยามมนั้นนิมิตลุงอาจจะมีเพียงลุงในจุดนั้นที่ได้ยินเสียง เพราะภาพคนที่วิ่งไปมามีเลือดไหลออกจากหู ช่างเป็นภาพที่น่าเวทนา ลูกหลานที่พ่อแม่หอบออกมาจากอาคารบ้านเรือนที่กลัวแผ่นดินไหว มาเจอเสียงดังก็วิ่งกลับไปในที่คิดว่าปลอดภัย และพอแผ่นดินไหว ก็พากันวิ่งกระเซอะกระเซิง ออกมาอีก

    หลานวิกรม ลุงเห็นภาพที่สร้างความน่าเวทนาสงสารสรรพสัตว์ทั้งหลาย ว่าชีวิตมนุษย์มีเพียงแค่นี้เอง ยังไม่จบสิ้นแค่นี้นะ ภาพผู้คนที่วิ่งหลบแผ่นดินไหวออกมา นั่งกอดกัน ร้องไห้ เป็นกลุ่มๆ มีควันไฟ ที่เกิดจากไฟไหม้ลอยคละคลุ้งไปหมด หลายคนที่เสียสติเริ่มต้นร้องไห้ ภาพพ่อแม่พยายามค้นหาลูกหลานที่ ติดอยู่ในซากปรักหักพัง ต่างคนต่างฟูมฟายร้องไห้ ไม่มีใครสามารถช่วยใครได้


    ในตอนค่ำลุงเห็นคนมารวมกันมีการก่อกองไฟ อากาศหนาว แต่ลมสงบนิ่ง ตอนนี้ลุงเห็นขอบฟ้าแดงจ้า จนน่ากลัว แล้วสิ่งที่ลุงเรียกว่าวันฟ้าดับก็เกิดขึ้น ลุงเห็นมีแสงสีแดงพุ่งมาจากพระอาทิตย์ วาบหนึ่งจากนั้นแสงทั้งหมดก็จะม้วนเข้าไปในรูปทรงกลม ลูงไม่รู้จะเรียกอะไร น่าจะเป็นพระจันทร์ดำ เพราะเป็นสีดำๆเหมือนจันทรุปราคาที่มาบดบังพระอาทิตย์แต่เล็กกว่ามาก แต่ตอนนั้นพระจันทร์ก็ยังเห็นอยู่ แล้วบรรยากาศที่เหมือนเราดับเทียนในห้องมืดที่สุดก็เกิดขึ้น พรึบเดียวแสงทั้งหมดจะหายไป แม้แต่ดวงดาวและพระจันทร์ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ ความมืดในขณะนั้นลุงเห็นคนพยายามยกมือของตนเองขึ้นมาดูก็ยังไม่สามารถเห็นได้

    ความตื่นกลัวก็เกิดโกลาหลอีกครั้ง คนจะกอดคนที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วร้องไห้ระงม คนที่อยู่ห่างจากคนอื่นแม้แต่วาเดียวก็ไม่สามารถหากันเจอ จนกว่าจะคลำหากันเจอ ช่างเป็นภาพที่น่าเอน็จอนาจมาก คนส่วนใหญ่ ที่หูจะแตกดับ หรือคนที่อุดหูทันก็จะมีอาการหูอื่ออึงอยู่ แต่ก็พอยังมองเห็นกัน แต่ในยามมืดสนิทแล้ว เสียงคนพยายามตะโกนหากัน เสียงหวีดร้อง โหยหวนด้วยความกลัว แต่คนส่วนใหญ่จะไม่ได้ยิน ได้แต่สะเปสะปะไขว่คว้าหากัน อย่างนี้เองลุงถึงได้ย้ำกับหลานว่าให้แยกเป้ที่จัดเตรียมไว้ให้สำหรับแต่ละคน และเมื่อเข้าไปอยู่ในที่ห้องปลอดภัยที่ได้เตรียมสร้างไว้ ขอให้หลานสร้างตามแปลนที่ลุงได้เขียนไว้ให้ ตู้คอนเทนเนอร์ที่เตรียมทั้งตู้อาหาร ตู้ปลอดภัย และโรงพยาบาลเคลื่อนที่ด้วย
    ตอนนี้ดึกมากแล้ว ลุงง่วงแล้วแต่ ยังอยากบันทึกให้หลานไว้ให่เสร็จก่อนที่เดินทางไปหาพระอาจารย์


    ภาพที่เกิดมาลุงรู้สึกเศร้า ใจกับญานทัศนะที่ลุงได้เคลื่อนไปในยามที่เด่นชัดกับเจอภาพภัยพิบัติ ที่หนักหนาสาหัสกว่าที่ลุงเตรียมการไว้ จนเกิดเวทนาในสัตว์โลก และเห็นการคร่ำครวญของคนที่ไม่เคยศึกษาทางธรรม และไม่ได้เตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นและ เตรียมมรณะสติ ไว้เลย ในส่วนที่ลุงบันทึกนี้คนที่มีกรรมและไม่เคยฝึกสมถะกรรมฐานผ่านในขั้นรูปญานและอรูปญาน4 นั้น หลานอย่าไปอธิบายเขาเลย เพราะจิตเขาหยาบกว่าที่จะเข้าใจ ในวันฟ้าดับยังมีเรื่องเอน็จอนาจซ้ำเติมมนุษย์ที่ไม่ได้เตรียมการอีก หลังจากที่มืดมิดแล้วลุงยังเห็นภาพคนคลานหนีหรือกอดกันร้องไห้ เพราะยังมีอาการแผ่นดินไหวเป็นระยะๆ มากบ้างน้อยบ้าง ภาพเพดานสิ่งของเท่าที่คนไปแอบซุกอยู่หล่นลงมา มีคนเจ็บคนตายร้องครวญคราง


    แต่วิกรมมีสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ คนที่รอดตายขณะนั้นจะตายมากอีก ลุงเห็นภาพ น้ำแข็งก้อนเท่าทีวี เท่าบาตร หรือบางก้อนขนาดเท่าตู้เย็นเล็ก ทะยอยตกลงมาจากฟ้า ส่วนก้อนขนาดกำปั้น ตกกระจายไปทั่ว คนที่หลบหนีหลังจากที่บ้านหักโครมครามออกมาท่ามกลางความมืดนั้น มาอยู่ในที่โล่ง ต้องมาตายกับฝนลูกเห็บยักษ์ที่มีความเย็นจัดมาก เพราะลุงเห็นภาพคนแข็งตายอยู่กราดเกลื่อน เต็มไปหมด แต่ภาพที่เกิดหลังจากนี้ที่หลานคงคิดว่ามนุษย์ชาติจะอยู่อย่างไร เมื่อลุงอธิษฐานไปยังหลังจากนี้แล้ว กลับเอน็จอนาจยิ่งกว่า ลุงจะได้พยายามทบทวนเรียบเรียงสิ่งที่ลุงเห็นมา บันทึกให้หลานๆได้นำไปเตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

    ทั้งหมดในสิ่งที่ลุงเห็นมานั้นไม่เคยแจ่มชัดเท่านี้มาก่อน แต่สิ่งที่ลุงได้อธิษฐานว่าถ้าลุงมีบารมี และมีบุญที่เกี่ยวเนื่องกับพระอาจารย์โสณะ ขอโปรดเมตตา ให้ญานทัศนะของลุงชัดเจนแจ่มใส จนได้เห็นภาพเหล่านี้ขึ้นมา ขอพระบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์ทุกพระองค์ได้โปรดเมตตาสรรพสัตว์ และหลานๆด้วย

    ลุงหมอ


    ****************************************
    โพสต์โดย วิกรม หลานพระคุณลุง

    ในส่วนที่เหลือผมจะทะยอยนำมาโพสต์ต่อครับ ขอโปรดเมตตาอโหสิกรรมด้วยหากบันทึกของพระคุณลุงสร้างความทุกข์แก่ผู้ใด แต่ทุกอย่างมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ขออย่าได้ประมาทกับชีวิตนะครับ

    *************************************

    ช่วงที่สองของบันทึกพระคุณลุงครับ ส่วนใหญ่เป็นการสั่งความผมครับ

    2. เรื่องราวที่จะเกิดตามมาหลังวันฟ้าดับ 3 วัน

    วิกรมที่ลุงฝากบันทึกนี้ให้หลานเพราะ ลุงคาดว่าต้องใช้เวลาสองสามวัน ที่จะบันทึกให้เสร็จหมด เพราะพิมพ์ได้ช้ามาก และที่มอบให้หลานเพราะ หลานเป็นญาติเพียงคนเดียวที่สามารถแยกกายจิต รวมทั้งฝึกสมถะกรรมฐานได้ในระดับที่จะสามารถสื่อสารทางจิตกับลุงได้ แม้ตอนนี้จะยังไม่สามารถจะไปหน้าหรือย้อนกลับในเรื่องราวของตนเองได้ดี แต่ขอให้หลานตั้งใจฝึกฝน รายชื่อพระอาจารย์ที่หลานควรจะเดินทางไปฝึกฝนต่อไป บันทึกในส่วนนี้ลุงขอเล่าในเรื่องหลังจากผ่านคืนฟ้าดับมาแล้ว เพื่อให้หลานๆได้เตรียมตัว บันทึกเมื่อคืนก่อนแม้ลุงจะไม่ได้บันทึกละเอียดได้เท่าที่ลุงเห็นมา แต่ภาพรวมก็คงไม่ขาดไปมาก ที่ลุงต้องรีบบันทึกเพราะวันที่ 17 นี้ ลุงจะเดินทางตามพระอาจารย์ไปยังหลวงน้ำทา ประเทศลาวตอนบน


    วิกรม ในส่วนของพื้นที่ๆได้มีการจัดเตรียมไว้นั้นที่ลุงประสิทธิ์เสนอย้ายให้ใกล้ลงมานั้นและรับคนในหมู่บ้านให้มากเพิ่มนั้น ลุงขอเล่าเรื่องที่ลุงเห็นมา จะตัดสินใจอย่างไรแล้วแต่หลานๆจะร่วมกันพิจารณา บันทึกในส่วนก่อนลุงเล่าถึงเรื่อง มีก้อนน้ำแข็งที่ตกมาจากท้องฟ้า ทำให้อากาศหนาวเย็นและลมแรงมาก ในส่วนของตู้คอนเทนเนอร์ที่นำมาสร้างห้องแข็งแรงนั้น ขอให้ใช้ตู้เหล็กขนาดใหญ่ที่ลุงสั่งมา และให้เร่งเสริมเหล็กกันกระแทกด้านบนและด้านข้าง ให้เลือกที่เป็นตู้ที่ใช้เป็นห้องเย็น เพราะจะช่วยเรื่องอากาศหนาวเย็นหลังจากมีก้อนน้ำแข็งตกลงมาจากฟ้าได้ดี ในส่วนของตู้สำหรับบรรจุอาหารนั้น ถ้าสามารถรวบรวมเงินได้ ก็ให้เปลี่ยนเป็นตู้แบบตู้ห้องเย็นให้หมด ก็จะปลอดภัยมากขึ้น

    เหตุผลที่ไม่ควรย้ายลงมาเพราะว่า ภาพที่ลุงเห็นถัดไปก็คือ หลังจากที่มีการหยุดของโลกกึ๊กหนึ่งนั้น ภาพน้ำข้ามภูเขามาจำนวนมากมาย ลุงเห็นภาพกรุงเทพจมหายไปกับสายน้ำ ภาพเขื่อนภมิพล และหลายๆเขื่อนลุงไม่แน่ใจว่าอะไรบ้าง บิดร้าว ตัวเขื่อนแม้ไม่แตกสลาย แต่ขอบๆเขื่อนที่เป็นภูเขาเป็นดินมีรอยร้าว และมีน้ำกัดเจาะเข้าไป จนน้ำทะลุภูเขาไปอีกด้าน จนสุดท้ายภูเขาก็แบ่งออกเป็นสองซีก ลุงเห็นภาพ น้ำกวาดบ้านไปเหมือนของเล่น

    ที่เชียงใหม่บ้านเราได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวมากไม่น้อยกว่าทีอื่นๆ แต่เรื่องน้ำนั้น เขื่อนแม่งัดแม่กวง แตกพังทะลาย น้ำที่แตกมาจากเขื่อนจะกวาดบ้านเรือนที่อยู่ในส่วนตอนล่าง ลุงเห็นภาพเจดีย์ขาวที่อยู่หน้าเทศบาล ที่ติดแม่น้ำปิงเห็นแต่ตัวยอดนิดเดียว ฝากหลานไปบอกให้เจ้านิดหน่อยกับลูกๆและแฟนเขา ย้ายบ้านมารวมกับหลาน แบ่งพื้นที่หลังบ้านในส่วนของลุงยกให้นิดเลยก็ได้ หรือถ้าไม่อยากสร้างใหม่ก็มาอยู่ที่บ้านหลังเล็กของลุงเลย เพราะแถวแม่ริมนี้จะได้รับผลกระทบจากการพังของเขื่อนน้อย ก็เป็นเพียงแต่น้ำเอ่อล้นแผ่ออกมา แต่คาดว่าแผ่มาแต่ไม่ท่วมถึงหน้าวัดบ้านเราหรือว่าขึ้นมาก็คงไม่สูงมาก เพราะปริมาณน้ำในเขื่อนแม่งัดน้อยกว่าเขื่อนแม่กวง

    ภาพที่ลุงเห็นในเมืองเชียงใหม่ ตึกรามบ้านช่องที่พังทลายจากก่อนหน้านั้นผู้คนออกมาในคืนฟ้าดับนั้น กลับโดนกวาดไปกับสายน้ำ ที่บ้านเราจะรุนแรงและต่อเนื่องกันเพราะบ้านเราอยู่ใกล้เขื่อน น้ำเดินทางเพียงสองสามชั่วโมงเท่านั้นเอง คนแถวสันทราย ดอยสะเก็ด ช่อแล คงเลี่ยงหนีไม่พ้น มวลน้ำทั้งหมดจะกวาด ไปผ่านลำพูน ไปทั้งหมด แต่ด้วยระยะทางของน้ำก็จะเสียหายน้อยกว่าแถว สันทราย เมือง สันกำแพง แถวอำเภอบ้านธิ ลำพูน ลุงจะเตือน ป้าแดงของหลาน และญาติของเราแล้วแต่เขาเคยฝึกจิต และเชื่อเรื่องการเปลี่ยนของโลกได้อย่างไร คงแล้วแต่บุญกรรมของเขา แต่การสูญเสียบ้านเราก็น้อยกว่า พื้นที่เขื่อนใหญ่ๆ ที่มีมวลน้ำจำนวนมาก อย่างเทียบไม่ได้ ลุงเห็นภาพเจดีย์วัดอรุณ เห็นเพียงยอดฉัตรเท่านั้น หมายถึงกรุงเทพ คงไม่มีที่แห้งให้ยืน

    ลุงย้ำตอนนี้ขอให้เลือกพื้นที่ อย่างไรก็ให้อยู่ตอนเหนือของเขื่อนหรือหลานจะแนะนำใคร ที่จะย้ายออกมา เพราะเชียงใหม่เองก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยทั้งหมด ในยามที่โลกมืดมิดมองไม่เห็นอะไรนั้น พ้นจากแผ่นดินไหว แล้วสายน้ำก็กวาดลงมาอีก จะมีใครซักกี่คนหนอที่จะรอดผ่านไปได้ถ้าไม่มีการเตรียมการก่อนล่วงหน้า รวมทั้งการเลือกพื้นที่ๆปลอดภัยก่อน เพราะในยามนั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว
    อดคิดถึงเชียงราย พะเยาไม่ได้ ถ้าน้ำจากเขื่อนที่จีนสร้างไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่ แตกลงมา ที่ว่าเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็หมายถึงมีการกักน้ำได้มากที่สุด จะทะลักมาตอนนั้นอีกมากเท่าไหร่ หลานอย่าแปลกใจเลยที่จุดปลอดภัยของเชียงรายอยู่ที่ดอยตุง


    มีเรื่องที่หลานต้องเตรียมไว้ด้วยนะว่า ในช่วงของการที่มีความมืดมิดของโลกนั้น ใช่ว่าจะเป็นความมืดแบบไม่มีแสงใดๆ คงไม่ใช่ แต่จะมีฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ลงมาเสียงผ่าที่ดังกว่าเสียงระเบิด เปรี้ยงๆๆ พอๆกับเสียงระเบิดหิน เป็นเวลาก่อนที่ก้อนน้ำแข็งจะร่วงมาจากฟ้า เพราะฉนั้นเวลาที่มืดมิดแล้วเริ่มเห็นแสงขึ้นมา อย่าออกจากห้อง เพราะมันจะเป็นแสงฟ้าแลบ และจะตามด้วยก้อนน้ำแข็ง ขอให้หลานๆอย่าได้พยายามที่จะเปิดอุปกรณ์ใดที่เป็นแสง เพราะจะเกิดการผ่าเข้ามาที่บริเวณนั้น แต่ว่าในห้องสามารถที่จะใช้เส้นเรืองแสงที่ลุงเตรียมไว้ให้ ในกรณีที่ต้องรักษาอาการบาดเจ็บของคน แต่ต้องปิดประตูให้มิดชิด ให้อยู่ในห้องแข็งแรง นั้นอีก 3 วันหรือจนกว่าอาหารในเป้ ที่เตรียมไว้สำหรับทุกคนหมดที่เตรียมไว้ 4 วัน จึงออกมาจากห้องแข็งแรงได้


    ในช่วงที่อยู่ในห้องแข็งแรง ขอให้หลาน นำน้องๆและลูก สวดบทสวดมนต์ที่ลุงได้บังคับท่องให้ขึ้นใจ ไม่ต้องกลัวว่าใครจะได้ยิน เพราะตอนนั้นคนส่วนใหญ่จะหูแตกหรือยังอื้ออึงอยู่ แต่จะช่วยป้องกันอมนุษย์ หรือสิ่งที่หลุดออกมาจากโลกที่ต่างมิติออกไปเข้ามา หลานเคี่ยวเข็ญให้ยายจุ๊กจิ๊ก กับหนูบ๊วย สวดด้วยอย่างน้อยต้องสวดบทชินบัญชรต้องได้

    วิกรม อย่าลืมน้ำผึ้งที่ลุงสั่งไว้ที่ฟาร์มผึ้งสุภาพเอามาเก็บไว้ในห้องด้วย เพราะจะช่วยเด็กๆไม่ต้องทานอาหารแห้งๆอย่างไร้รสชาติไปหลายๆวัน
    ย้ำเรื่องการออกจากห้องแข็งแรง อย่าออกจนกว่าจะเห็นแสงอาทิตย์จากข้างนอก หลังจากนั้น หลานอย่าได้รอที่จะย้ายขึ้นไปรวมกับลุงประสิทธิ์ แต่ต้องรอสังเกตุให้ฟ้าสว่างชัด ถ้าขอบฟ้ายังเป็นสีเหลืองอมฟ้า อย่าได้รีบเคลื่อนย้าย ระวังอย่าให้ทุกคนหรือเด็กๆโดนฝนเป็นอันขาด เพราะในก้อนน้ำแข็งที่หล่นมาจากฟ้านั้นมี เชื้อโรค ที่ยาในรายการที่ลุงเตรียมไว้ให้หามาไว้ในห้องยาของเราไม่ครอบคลุม
    ลุงได้ตรวจสอบกับครูบาอาจารย์แล้ว ตรงกันก็คือวันฟ้าดับนั้นประมาณ 3 วัน ซึ่งหลานอย่าได้กังวลเกี่ยวกับวันเวลาเพราะ ในสิ่งที่ลุงไปเห็นมา มันมืดจนแยกเวลาไม่ออกอยู่แล้วว่าผ่านไปเทียบกับกี่วันในเวลาโลกปกติ


    ในส่วนที่อื่นๆหลานอย่ารู้มากกว่านี้เลย เพราะจำทำให้จิตใจเศร้าหมองกับการจากไปของญาติพี่น้องคนที่รู้จักมากมาย ขอให้หลานอย่าได้หยุดตั้งใจฝึกจิตของหลานให้มีร่างจิตสามารถสื่อสารได้ และสามารถแยกร่างจนชำนาญนั้น ก็จะช่วยให้หลานเป็นที่พึ่งของคนอื่นๆได้ วันนี้คงได้แค่นี้สายตาลุงชักจะไม่ใหวแล้ว ในส่วนของบัญชีเงินฝากของลุง ที่มีในธนาคาร กรุงเทพ กรุงไทย และกสิกรไทย ลุงได้เซ็นใบถอนทิ้งไว้แล้ว หลานเบิกและย้ายมารวมกันในบัญชีธนาคารกรุงไทย ที่ลุงให้หลานใช้ในการซื้อของจัดเตรียมสร้างตู้คอนเทนเนอร์ให้หมด จะได้สะดวกในการทำงาน เพราะถ้าหลังจากนี้ลุงบวชเงินก้อนนี้ก็คงไม่จำเป็นสำหรับลุงแล้ว

    ****************************
    โพสต์โดย วิกรมหลานพระคุณลุง
    ****************************


    ตอนที่สามของบันทึกพระคุณลุง ครับ

    [B]3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ[/B]

    วันนี้วันที่ 15 แล้ว ลุงมีเวลาอีกสองวันที่จะบันทึก ก่อนที่จะเดินทางไปตามกำหนดที่ได้นัดหมายกับพระอาจารย์ไว้ ลุงจะพยายามบันทึกสิ่งที่มีประโยชน์กับหลานและคณะที่เตรียมการกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และความสามารถและสายตาลุงสามารถทนได้กับจอคอมพิวเตอร์นี้


    วิกรม ที่ลุงต้องรีบให้หลานอพยพหลังจากที่ฟ้าสว่างแล้วนั้น เพราะหลังจากนั้นอีกไม่เกิน 10 วัน ศพคนตายที่มีจำนวนมากได้เริ่มเน่าเหม็น แม้ส่วนใหญ่สายน้ำได้จะได้พัดพาไปด้วยแล้ว แต่มีอีกเป็นจำนวนมาก ที่เสียชีวิตเนื่องจากหนาวตายจากอุณภูมิที่ก้อนน้ำแข็งได้ตกมาจากฟ้าและไม่ได้เตรียมการเอาไว้ อย่าห่วงของที่เหลือเพราะในหมู่บ้านที่มีการเตรียมการไว้แล้วนั้น มีอาหารเพียงพอสำหรับสมาชิกที่เคลื่อนขึ้นไปทานอย่างประหยัดสามารถอยู่ได้นานกว่าสองปี ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น แกนโลกก็คงสมดุลย์และคนอื่นๆก็คงสามารถปรับตัวได้


    [COLOR=#000000]ในระหว่างเดินทางนั้น ให้สวมชุดที่ใช้สำหรับการควบคุมโรคไข้หวัดนก ที่ลุงได้ซื้อเตรียมไว้และเมื่อในระหว่างทางเจอฝนให้ใช้ผ้ายางปันโจ กางอีกครั้งอย่าให้เด็กๆลุยฝน ในช่วงหลังจากนี้วิกรมพาน้องๆ หลานๆไปออกกำลังโดยการเดินทุกวัน เพื่อในยามที่ต้องเดินเท้าจะได้ไม่ลำบาก ลุงทดลองเดินสบายๆโดยไม่หยุดเลย ออกจากบ้านแม่ริมตอนเช้า ไปถึงหมู่บ้านเรายังไม่ค่ำนัก ถ้าจำเป็นก็แบกเจ้าตัวเล็กๆ แล้วใช้ตัวลาก บรรทุกของเป้ แบบล้อสูง ก็คงไม่ทุลักทุเลนัก แต่แน่นอนทางเสียหายหมด แต่เส้นทางที่เดินไปหลานเดินทางไปบ่อยๆ ถึงจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็คงไม่คลาดเคลื่อนมากนัก [/COLOR]

    [COLOR=#000000]ในระหว่างทางถ้ามีการขออาหารหรือสิ่งของก็ให้ไปอย่าขัดขืน แต่ต้องรีบเดินทางให้ถึงก่อนค่ำ [/COLOR]
    [COLOR=#000000][COLOR=#000000]เพราะในยามค่ำคืนนั้น มีอมนุษย์ที่หลงหลุดมาจากต่างมิติ ที่คุ้นเคยกับความมืด จะมารบกวนเด็กๆได้ [/COLOR][COLOR=#000000]ลุงเล่าเรื่องที่ลุงเห็นผ่านญานให้หลานเตรียมตัวในช่วงนี้จะได้ประมาณสถานการณ์ได้ [/COLOR][COLOR=#000000]ลุงเห็นผู้คนในเมืองที่เสียสติเที่ยวไปคุ้ยเขี่ยหาอาหาร มีการปล้นฆ่ากัน ซากศพก็มีกองระเกะระกะ มีทหารถือปืนเสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่งไม่มีสภาพทหารออกมาปล้น โรงพยาบาลที่ลุงเคยทำงาน ตึกใหญ่ล้มพังเกลื่อนลงมา ถนนหนทางที่เราเคยไปถนนคนเดินกันแทบไม่เหลือสภาพให้จำได้ [/COLOR][/COLOR]


    [COLOR=#000000][COLOR=#000000]ลุงกำหนดเจิตไปที่กรุงเทพ เป็นภาพที่เอน็จอนาถใจมากกว่า[/COLOR][COLOR=#000000] น้ำยังไม่ลดลงมากท่าไร แต่สิ่งที่ลอยเกลื่อนคือซากศพคนตาย มีฝูงจรเข้ ที่ภูเขาทอง [/COLOR][COLOR=#000000]ลุงเห็นภาพคนที่แก่งแย่งกัน ค้นหา ปล้นอาหาร ที่เป็นซากห้างใหญ่ [/COLOR][/COLOR]
    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]ลุงเห็นภาพซากเขื่อน ที่จังหวัดตาก แตกกวาดน้ำไปตามเส้นทาง แทบไม่เหลือสภาพว่านี้เคยเป็นเมืองที่เคยมีผู้คนอยู่มากมาย [/COLOR][/COLOR][/COLOR][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]ลุงเห็นภาพผู้คนที่รอดมาแต่คงอดอาหาร บางคนใส่สูทอยู่เลยแต่รวมตัวกันไปปล้นแย่งอาหารของคนที่รอดตายคนอื่นๆ มีการฆ่ากัน [/COLOR][COLOR=#000000]ภาพคนเสียสติเดินไปเดินมาร้องไห้ หัวเราะ ตีอกชกตัวกันเต็มไปหมด[/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]


    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]ลุงเห็นภาพพระ 2 รูป องค์หนึ่งหน้าตามีเมตตา ขาวๆอายุประมาณ 4-50 ปี อีกองค์ อ้วนๆคล้ำๆนิดหนึ่ง อายุกะไม่ถูก พร้อมกับลูกศิษย์นับร้อย ๆ คน เดินทางลงจากเขาลูกเตี้ยๆ มีวัดอยู่ข้างบน ลุงไม่แน่ใจว่าที่ใหนนะ ช่วยกันฝังศพ และสวดศพตามมีตามเกิด แต่ที่น่าสนใจคือเขาเป็นชาวบ้านธรรมดาแต่รอดชีวิตมาได้อย่างไร มีการเตรียมการกันอย่างไร โดยที่ไม่แสดงอาการหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย สิ่งที่ลุงพบในร่างจิตนั้น ขนาดชาวบ้านก็ยังรู้ว่างลุงผ่านไป หลายคนยิ้มให้แสดงว่า มีระดับจิตที่สูงมาก คงเป็นจังหวัดที่ลุงเคยทำงาน ที่มีภูเขาเตี้ยๆละมีวัดบนภุเขา ก็น่าจะแถวนครสวรรค์หรือ ลพบุรี อะไรแถวนั้น เพราะญานทัศนะของลุงนั้นจะกำหนดจิตไปยังพื้นที่ๆกายเนื้อเคยผ่านมาแล้ว ภาพจะชัดเจนที่สุด ลุงเสนอให้หลานเดินทางไปกราบพระอาจารย์ทั้งสององค์ และหาหมู่บ้านที่มีการฝึกจิตระดับสัมผัสกับญานทัศนะของคนอื่นที่ผ่านมาได้[/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]

    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]หวังว่าหลานจะชวนน้องกิ๊บที่ทำงานกรุงเทพให้ลาออกกลับมาทำงานที่เชียงใหม่ ได้ [/COLOR][COLOR=#000000]ที่เหลือก็คงเป็นภาพคล้ายๆกันถึง ความสูญเสีย ขอหลานได้เตรียมใจในส่วนของการสูญเสียคนที่หลานรักด้วยลุงไม่อาจบอกได้ ว่าเป็นใคร แต่หลานต้องเตรียมพร้อมกับการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปของสังขารทุกคน ที่เกิดมาร่วมกัน [/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]
    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]
    [COLOR=#000000][COLOR=#000000]**************************************[/COLOR]
    [COLOR=#000000]ผู้โพสต์บันทึกพระคุณลุง ที่บันทึกไว้ให้หลานๆก่อนออกบวช [/COLOR]
    [COLOR=#000000]วิกรม หลานพระคุณลุง [/COLOR]
    [COLOR=#000000]**************************************[/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]


    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]บันทึกหน้าสุดท้ายของคุณลุงคนเชียงใหม่ ครับ[/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]

    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][B][COLOR=red]4. คนไทยจะเผชิญกับสิ่งใดบ้าง[/COLOR][/B]

    [COLOR=#000000]บันทึกหน้าสุดท้ายที่จะเขียนถึงหลานก่อนที่พรุ่งนี้ลุงจะออกเดินทางไปเพื่อติดตามพระอาจารย์โสณะ ซึ่งถ้าได้รับอนุญาตจากพระอาจารย์ ลุงคงบวช ตามที่ตัดสินใจไว้ล่วงหน้าก่อนนี้แล้ว ลุงคงไม่มีภาระในทางโลกมากอยู่แล้ว เพราะคุณป้าของหลานได้ลาโลกนี้ไปนานหลายปีแล้ว วันเวลาที่ผ่านมาลุงก็พอมีความสุขทางโลกกับลูกๆหลานๆ และช่วยเหลือคนไข้ไปตามประสา จนสามารถที่จะมีเวลาในการศึกษาในทางธรรมจนชีวิตก้าวมาถึงจุดนี้[/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]


    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]บันทึกนี้ลุงบันทึกไว้เพื่อให้ลูกหลานได้ระลึกถึงลุง เพราะหลังจากลุงบวชแล้วต้องติดตามพระอาจารย์โสณะ เท่าที่ได้กราบพระอาจารย์ พระอาจารย์จะธุดงค์เป็นส่วนใหญ่ และลุงเชื่อมั่นว่าพระอาจารย์จะมีอายุขัยมาหลายร้อยปีมาแล้ว เพราะลุงได้กราบถามพระอาจารย์ว่าพระอาจารย์ทำไมพูดได้หลายภาษา พระอาจารย์ยิ้มๆแล้วบอกว่า เมื่อจิตฝึกมาดีแล้วและมีเวลาศึกษาอะไรนานๆก็ไม่ยากที่จะเข้าใจหลายๆภาษา และถ้าไม่อยากศึกษาก็สามารถสื่อสารกันด้วยจิต ลุงได้ถามว่าพระอาจารย์ชื่อพ้องกับพระในคณะพระที่เดินทางมาจากอินเดียในสมัยพระเจ้าอโศกเพื่อมายังสุวรรณภูมิ พระอาจารย์ยิ้มๆ บอกว่าทำไมคิดว่าพ้องละ [/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]

    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]ลุงเลยบอกว่าเพราะพระที่มาจากอินเดียรูปนั้น ถ้ายังอยู่อายุคงเป็นพันกว่าปีแล้ว พระอาจารย์ไม่ตอบ แต่เบี่ยงไปว่า ในดินแดนจาตุมหาราชิกา หรือรอยต่อนั้น พรรษาหนึ่งกับบ้านเรานานกว่านั้นแล้วนะ และที่ลุงมั่นใจเพราะว่าระดับจิตเจโตของลุงไม่สามารถเทียบเคียงกับจิตของพระอาจารย์ได้ ที่สูงกว่าพระที่มีชื่อเสียงในบ้านเราที่ลุงไปกราบมาแล้วตั้งมากมาย จึงคาดว่าอาจจะได้พบกับหลาน หรือว่าไม่มีโอกาสอีกเลย ก็ได้ แต่หวังว่าหลานจะฝึกจิตจนร่างจิตสามารถที่จะติดต่อกับลุงได้ในที่สุด[/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]

    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]วิกรม สิ่งที่ลุงได้บันทึกเล่านี้เป็นการบันทึกที่ผ่านญานทัศนะของลุงในระดับจิตที่ลุงมีอยู่ สามารถเดินหน้าถอยหลังชัดเจนในพื้นที่ๆกายเนื้อของลุงเคยไปสัมผัสในบริเวณนั้นๆ แต่ที่ผ่านมาลุงมีโอกาสได้เดินทางไปเกือบทั่วทุกจังหวัด เพราะไปทั้งราชการและป้าของหลานเป็นคนชอบเที่ยว ทำให้การผูกจิตข้ากับจุดที่กายเนื้อผ่านไป มีความชัดเจนในภาพรวมที่พอจะช่วยหลานได้พอสมควร [/COLOR]

    [COLOR=#000000]สุดท้ายที่ลุงจะบอกกับหลานก็คือ ต่อไปประเทศไทยหลังวันที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ลุงไม่แน่ใจว่าในญานที่ลุงผ่านไปนั้น ลุงเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางดอยสุเทพ หรือขึ้นผิดทาง ที่เราเคยเห็นมาโลกคงเปลี่ยนไปมากทีเดียว [/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]
    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]ลุงใช้เวลาหลายคืนในระยะที่ผ่านมาเพื่อกำหนดยังที่ต่างๆ หลานจะได้เห็นประเทศไทยเปลี่ยนไป เหนือกับอีสานยังพอมีเหลือคนไทยอยู่มาก น่าสงสารคนภาคใต้ ที่โชคร้าย ที่น้ำทะเล สูงเท่าตึก 5 ชั้น 7 ชั้น กวาดเข้ามาในแผ่นดินตอนที่โลกเหมือนจะชนกับอะไรซักอย่างที่ลุงเล่าให้ฟังแล้ว จนคนที่รอดตายเหลือน้อยอยู่แล้วก็จะมาตายกับลูกเห็บยักษ์อีก หลังจากนั้นลุงเห็นคนที่รอดตาย กำลังจะไปหาอะไรทานเพราะความหิว กลับถูกน้ำทะเลมากวาดคนลงไปให้ปลากินเป็นอาหารอีกมากมาย [/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]


    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]ภาคใต้คนจะเหลือน้อยจริงๆ ในส่วนของเมืองกรุงเทพของเราก็คงจะจมลงในน้ำที่เกิดจากเขื่อนพัง มีคนตายมากมาย และกว่าน้ำจะลดลง จำนวนคนตายมากจน คนไม่กล้ามาอยู่ เพราะวิญญานที่ไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้ว วนเวียนหาคำตอบให้ตัวเองมากมายไปหมด ใครที่เข้ามาโดยจิตที่อ่อนแอแล้ว จะถูกดวงวิญญานเหล่านี้พยายามที่จะเข้ามาหาคำตอบ น่ากลัวจนคนไม่กล้ามาจนกลายเป็นเมืองร้าง [/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]คนที่มีมากที่สุดแต่กลับเดือดร้อนที่สุดกับคนๆภาคอีสาน เพราะขุดบ่อน้ำตรงไหนก็เจอแต่หิน บ่อที่เคยมีน้ำ กลับกินไม่ได้เลยกลายเป็นน้ำที่เค็มกว่าทะเล [/COLOR][COLOR=#000000]ลุงเห็นภาพคนเป็นหมื่นเป็นแสนเดินไปอยู่ริมน้ำโขงมากมาย และสุดท้ายคนอีสานข้ามไปอยู่ฝั่งน้ำโขงไปอยู่ประเทศลาว มีพระอาจารย์ที่หูเป็นปานพาชาวบ้านเดินข้ามน้ำไป[/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]
    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]
    [COLOR=#000000][COLOR=#000000]ทางเหนือของเรา อาหารการกินถ้าไม่ได้มีการกักเก็บไว้ล่วงหน้าจะเจอกับปัญหา เพราะอากาสจะหนาวมาก ลุงกำหนดจิตไปที่ภูเขา เจอหิมะบนยอดเขา ตอนแรกคิดว่าฮธิษฐานผิดที่ไปเมืองนอก แต่กลับไม่ใช่ ลุงเห็นภาพพระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่กลางหิมะขาวโพลน กว่าจะปรับตัวกันได้ก็คงจะลำบากน่าดู แต่อย่างไรก็ตาม ลุงโซ๊ะที่ปลูกพืชเมืองหนาวมาตลอดชีวิต น่าจะช่วยให้คำแนะนำหลานได้ อีกอย่างโรงเขี่ยเชื้อเห็ด เพาะเห็ด ที่ให้พะดีดูแลอยู่ก็น่าจะช่วยเรื่องอาหารได้นานพอสมควร ที่หลานๆจะได้ปรับตัวกันได้[/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]


    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]หวังว่าสิ่งที่ลุงบันทึกนี้ จะเป็นประโยชน์กับหลาน ไม่มากก็น้อย ในการเตรียมการ ส่วนอุปกรณ์ที่ลุงได้เตรียมให้พวกเราไว้ทั้งเป้อุปกรณ์ยังชีพ วิทยุสื่อสาร ชุดป้องกันโรค และอื่นๆ ขอให้หลานได้ตรวจสอบตามวงรอบที่ลูงได้ทำแผ่นบันทึกให้ตรวสอบและสับเปลี่ยนยา อาการหลอด ในเป้ รวมทั้งชุดป้องกันเชื้อ ส่วนอาวุธปืน มีดสนาม ขอให้รักษาให้ดี ปืนนั้นทะเบียนเป็นชื่อลุง ก็คงไม่เป็นไร เอาไว้ป้องกันตัวจากสัตว์ร้าย [/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]
    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]
    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]ขอหลานได้ตั้งใจฝึกจิตและพาน้องๆหลานๆฝึกด้วยกับหลาน ส่วนเจ้าตัวเล็กๆทั้งหลายให้ฝึกสวดมนต์ในบทที่ลุงเตรียมไว้ให้ ลุงเขียน Username และPassไว้ที่หน้าจอแล้ว ถ้าไม่ลำบากคิดจะทำบุญก็ให้หลานไปตามข้อมูลและติดตามข่าวจากในเวปพลังจิต ก็จะได้ประโยชน์จากการหาของที่จำเป็นและวิธีการในการเตรียมความพร้อม [/COLOR][COLOR=#000000]ขอคุณพระศรีรัตนตรัยได้คุ้มครองหลานๆด้วย สิ่งใดๆที่ลุงได้ล่วงเกินหลานๆและทุกคน โปรดเมตตาอโหสิกรรมลุงด้วย [/COLOR][/COLOR]

    [COLOR=#000000][COLOR=#000000]ลุงหมอของหลานๆทุกคน[/COLOR][/COLOR]

    [COLOR=#000000][COLOR=#000000]*********************************[/COLOR]
    [COLOR=#000000]วิกรมหลาน พระคุณลุงคนเชียงใหม่ [/COLOR][COLOR=#000000]โพสต์[/COLOR][COLOR=#000000]ข้อความในบันทึกใดๆที่มาจากบันทึกนี้ก่อให้เกิด [/COLOR][COLOR=#000000]อกุศลกรรมกับผู้ใด โปรดเมตตาอโหสิกรรมให้กระผมด้วยครับ [/COLOR][/COLOR]

    [COLOR=#000000][COLOR=#000000]วิกรม[/COLOR][/COLOR]

    [COLOR=#000000][COLOR=#000000]*********************************[/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]


    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][B][COLOR=blue]ต้องขอกราบอโหสิกรรม[/COLOR][/B]

    [COLOR=#000000]สำหรับทุกท่านที่เข้ามาอ่านบันทึกของพระคุ[/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]
    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]ณลุงที่บันทึกให้ผมไว้ [/COLOR][COLOR=#000000]เป็นเวลาเกือบ 5 ปีแล้ว หลังจากที่พระคณลุงออกบวช [/COLOR][COLOR=#000000]แล้วทำให้เกิดกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อันเกิดจากบทบันทึกนี้ [/COLOR][COLOR=#000000]ผมเองไม่ได้มุ่งหวังให้เกิดกระแสความตื่นกลัวใดๆ [/COLOR][COLOR=#000000]เพราะเชื่อว่าครูบาอาจารย์ ผู้ทรงอภิญญาทั้งหลายได้[/COLOR][COLOR=#000000]ออกมาให้ึำึำคำแนะนำตักเตือน ภัยอันตรายที่จะบังเกิดขึ้น [/COLOR][COLOR=#000000]มีมากมายหลายรูปหลายท่านหลายองค์ด้วยกัน [/COLOR][COLOR=#000000]ในวันข้างหน้า จะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้น[/COLOR][COLOR=#000000]แล้วแต่วิญจารณญานของแต่ละบุคคล[/COLOR]

    [COLOR=#000000]ขอเมตตาอย่าได้ Pm มาติเตียน ด่าทอพร[/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]
    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]ะคุณลุงอันจะเกิดบาปกรรมต่อท่านเลยครับ [/COLOR][COLOR=#000000]เป็นความผิดกระผมเองที่ตัดสินใจนำขึ้นมาโพสต์เพื่อไม่ต้องการจะเกิดจิตอันไร้เมตตา [/COLOR][COLOR=#000000]ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างเหมือนกับที่พระคุณลุงได้บันทึกไว้จริง [/COLOR][COLOR=#000000]แล้วพวกผมที่เตรียมการกันตามนี้ อย่างเต็มที่แล้ว สามารถรอดจากภัยพิบัติได้ [/COLOR][COLOR=#000000]แต่ไร้เมตตาต่อคนอื่นๆ [/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]เหตุผลที่ผมนำมาโพสต์ในห้องนี้โดยไม่เคยนำเ[/COLOR][COLOR=#000000]รื่องนี้ไปสื่อสารกับคนใดๆนอกกลุ่ม [/COLOR][COLOR=#000000]เพราะเชื่อว่า คนในห้องนี้ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมด [/COLOR][COLOR=#000000]เป็นผู้ฝักใฝ่ในธรรม คงเป็นผู้มีสติเพียงพอในการจะนำสิ่งนี้ไปพิจารณา [/COLOR][COLOR=#000000]ตามหลักกาลามสูตร ของพระองค์ [/COLOR]

    [COLOR=#000000]ในส่วนพระคุณลุงนั้น ผมเคยชวนพวกเราหลายคนไ[/COLOR][COLOR=#000000]ปก[/COLOR][COLOR=#000000]ราบในช่วงเข้าพรรษา [/COLOR][COLOR=#000000]สำนักสงฆ์ในหมู่บ้านเล็กๆนอกเมืองสิงห์ แขวงหลวงน้ำทาประเทศลาว [/COLOR][COLOR=#000000]หลังจากออกพรรษา ผมเองทราบว่าหลวงลุงและคณะสงฆ์ที่จำพรรษาร่วมกัน[/COLOR][COLOR=#000000]ออกธุดงค์ โดยมีเป้าหมายที่พม่าตอนบนและจีนตอนใต้ ซึ่งปลายทางนั้นหลวงลุง[/COLOR][COLOR=#000000]ไม่ได้แจ้งไว้ ซึ่งในช่วงหลังๆผมเองก็ไม่สามารถไปกราบหลวงลุงได้[/COLOR]

    [COLOR=#000000]หากบทความใดๆที่ผมเองได้โพสต์ลงไป [/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]
    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]อันก่อให้เกิ[/COLOR][COLOR=#000000]ดทุกข์ในทางใด [/COLOR][COLOR=#000000]ได้โปรดเมตตาอโหสิกรรมให้ผมด้วย [/COLOR][COLOR=#000000]และผมขอกราบทุกๆท่านอย่าได้โพสต์หรือ PM ด่าว่าหลวงลุงอันจะเกิดบาปกรรมด้วย [/COLOR][COLOR=#000000]เพราะเหตุที่เกิดนั้นเป็นความผิดทั้งหมดนั้นอยู่ที่ผมนำมาเผยแพร่ [/COLOR][COLOR=#000000]และผมจะหยุดโพสต์ในนามของหลวงลุงนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป [/COLOR][COLOR=#000000]เพื่อไม่ให้เกิดบาปกรรมอันจะสืบเนื่องต่อกันสืบไป[/COLOR]

    [COLOR=#000000]ขอกราบเมตตาอโหสิกรรมทุกๆคน [/COLOR][COLOR=#000000]ขอคุณแห่งพระรัตนตรัยได้โปรดเมตตาคุ้มครองปกป้องภัยทุกๆท่าน [/COLOR][/COLOR]

    [COLOR=#000000][COLOR=#000000]*************************************[/COLOR]
    [COLOR=#000000]วิกรม หลานพระคุณลุง[/COLOR]
    [COLOR=#000000]ผู้โพสต์[/COLOR][/COLOR]

    [COLOR=#000000][COLOR=#000000]************************************[/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]


    [COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000][COLOR=#000000]ที่มา [URL]http://palungjit.org/threads/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%86-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4.311084/page-15[/URL][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR][/COLOR]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2011
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ข้อมูลจากพระอาจารย์รัตน์


    Humra สมาชิก

    สุริยจักรวาลของเรามีระบบการโคจรหมุนรอบกาแลคซี่ถึง 3 กาแลคซี่ด้วยกัน ได้แก่

    1 กาแลคซี่อันโดรเมดา (Andromeda Galaxy) เป็นกาแลคซี่ที่มีขนาดใหญ่มาก แผ่อิทธิพล แรงดึงดูดครอบคลุมอีกทั้งสองกาแลคซี่
    2 กาแลคซี่ทางช้างเผือก (Miky Way Galaxy) ตั้งอยู่ทางทิศตอนเหนือ
    3 กาแลคซี่ไตรแองกุลัม (Triangulum Galaxy) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกมีขนาดเล็กกว่ากาแลคซี่ทางช้างเผือก

    ใน 1 รอบของการโคจรผ่านกาแลคซี่ทั้ง 3 ของสุริยจักรวาลใช้เวลานานเท่ากับ 1 วันของจักรวาล หรือประมาณ 26,000 ปี ( 2012)ตามเวลาของโลกนั้น จะเกิดการพุ่งปะทะชนกันระหว่างพลังงานที่มีค่าเป็นลบ หรือแรงลบ กับพลังงานที่มีค่าเป็นบวก หรือแรงบวก ซึ่งมีสาเหตุเนื่องมาจากการที่ระบบสุริยะของเราถูกดึงไปติดขอบกาแลคซี่ทั้ง 3 ถึง 5 ครั้งด้วยกัน ซึ่งการถูกดึงติดขอบแต่ละครั้งจะทำให้พลังงานแรงดึงดูดจากศูนย์กลางหรือเส้น แรงแม่เหล็กเกิดการหมุนย้อยกลับมีค่าเป็นลบ ในขณะที่พลังงานแรงดึงดูด หรือเส้นแรงแม่เหล็กจากศูนย์กลางกาแลคซี่ใหญ่ หรือกาแลคซี่อันโดรเมดา มีค่าเป็นบวกหรือแรงบวก

    หากเมื่อใดระบบสุริยะโคจรมาอยู่ในแนวกึ่งกลางระหว่างกาแลคซี่ทั้ง 3 และอยู่ในแนวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อนั้น จะเกิดการปะทะพุ่งชนอย่างรุนแรง ระหว่างพลังงาน แรงดึงดูดที่มีค่าเป็นบวกของกาแลคซี่อันโดรเมดากับพลังงานแรงดึงดูที่มีค่า เป็นลบของสองกาแลคซี่ คือ กาแลคซี่ทางช้างเผือก กับกาแลคซี่ไตรแองกุลัม ทำให้เกิดประกายไฟสว่างจ้าไปทั่วจักรวาล(เหมื่อนกับฟ้าผ่า) ดาวฤกษ์ทุกดวงในกาแลคซี่ทั้ง 3 ต่างได้รับแสงสว่างนี้โดยทั่วถึงกัน สุริยจักรวาลได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดการยุบตัวลงของทวีปและเกิดน้ำท่วม

    (ความเห็นส่วนตัวเสียงที่ดังมาก คงจะมาจากสาเหตุนี้)

    06-11-2011, 01:42 AM

    karan20 สมาชิก

    พระ อาจารย์ยังยืนยันว่าอิลินิน คือ ดาวถ่วงดุลย์ในปฏิทินมายัน เป็นดาวที่ให้คุณ ตอนนี้เค้าโดนความว่างของดวงอาทิตย์กลืนอยู่ (จากการโคจรเข้าไปใกล้ดวงอาทิตย์และธาตุลบของอิลินินปะทะกับธาตุลบของดวง อาทิตย์จนกลายเป็นความว่าง) แต่จะกลับมาให้เห็นอีกในกาลหน้า ส่วนนิบิรูพระอาจารย์ยังไม่ให้ความสำคัญในตอนนี้

    ส่วน วันที่ 21 ธันวาคม 2012 ช่วงนั้นจะยังไม่มีอะไรหนักๆ ให้เห็น แต่พระอาจารย์ ให้ช่วงเวลานั้นปลายปี 2012 ถึง กุมภาพันธ์ 2013 ซึ่งตอนนั้นจะมีทั้งแกนโลกพลิก ภัยธรรมชาติใหญ่ๆ มากมาย และผู้คนจะล้มตายกันมาก

    ตอน นี้ พลังงานที่อยู่กาแลคซี่ของเราถูกบีบอัด ดาวต่างๆ ในระบบสุริยะเปรียบเสมือนพายเรือในอ่าง ข้ามขอบไปไม่ได้ เพราะพลังจากกาแลคซี่ใหญ่อันโดรเมดร้าเบียดอยู่ จะเป็นอย่างนี้เรื่อยๆ จนในที่สุดกาแลคซี่เราจะถูกเบียดจนไปอยู่ในกาแลคซี่ไตรแองกูลั่ม (ซึ่งวงโคจรของระบบสุริยะเราคือ 26,000 ปี เราจะไปอยู่ไตรแองกูลั่ม 13,000 ปี และกลับมาอยู่ทางช้างเผือก 13,000 ปี) ซึ่งพวกเราจะอยู่ในระดับพลังงานที่ดี และจะมีความเจริญทางจิตมาก ปฏิบัติธรรมก็จะได้ผลเร็ว เป็นต้นในช่วงปลายปี 2012-กุมภา 2013 ทางกายภาพของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะ แรงอัด อีกพร้อมทั้งทางด้านพลังงาน พลังงานที่ไม่ดีจะเข้ามามาก คนไหนที่จิตใจมีพลังงานเป็นสีดำพลังงานก็จะเข้ามารวมและทำให้เสียชีวิตในที่ สุด ส่วนจิตใจของคนที่เป็นสีขาวพลังงานลบอาจทำอะไรไม่ได้หรือทำได้ก็เล็กน้อย อาจมีการบอบช้ำบ้างแต่ก็จะมีโอกาสรอดได้มาก

    วงโคจรของดวงจันทร์ผิดเพี้ยนไป ตรงนี้มีผลโดยตรงกับน้ำที่มีต่อโลก ส่วน ดวงอาทิตย์ พวกเราอาจจะมีโอกาสเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก ก่อนหน้าที่จะมีเหตุการณ์ใหญ่ (การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพครั้งใหญ่) ให้สังเกตดีๆ ดวงอาทิตย์จะเคลื่อนไปเรื่อยๆ จนในที่สุดจะขึ้นทางทิศตะวันตก


    06-11-2011, 04:20 AM

    สายธารคนดี สมาชิก

    บทความทางวิทยาศาสตร์ที่อธิบายปรากฏการณ์ช่วงโลกพลิกขั้ว (และมีพายุฟ้าผ่า..)

    "ฮารัลด์ เลสช์" (Harald Lesch) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย "มิวนิค" ได้สร้างแบบจำลองสนามแม่เหล็กโลกขึ้นมาศึกษาในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ เพื่อหาคำตอบว่าโลกเราจะเป็นอย่างไรหากไม่มีสนามแม่เหล็ก

    แบบจำลองที่ "ฮารัลด์ เลสช์" สร้างขึ้นพบว่า ถ้าโลกเราถูกพายุสุริยะกระหน่ำ ผลที่ได้สร้างความประหลาดใจอย่างยิ่ง จากภาพจำลองที่คอมพิวเตอร์สร้างขึ้นแสดงให้เห็นว่า เมื่อ มวลอนุภาคคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุสุริยะมาถึงโลก จะทำปฏิกิริยากับชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นสนามแม่เหล็กชุดใหม่มาแทนที่และทรงพลัง พอที่จะทานแรงปะทะของรังสีคอสมิก ทำให้รังสีคอสมิกที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์เบนออกสู่อวกาศ

    แต่ทว่าโลกเรานั้นสามารถรอดพ้นจากอันตรายจากรังสีคอสมิกไปได้ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากกระบวนการนี้ไม่ได้เป็นผลดีต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกเลย ตามหลักแล้วกระแสไฟฟ้าจะไหลไปสู่ที่ๆมีความต่างศักย์ที่น้อยกว่า และสนามแม่เหล็กชุดใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านั้นไม่ได้เสถียรเหมือนแม่เหล็กโลกเดิม ฉะนั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทำปฏิกิริยากับบรรยากาศโลกย่อมไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น

    สิ่งที่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะกระทำต่อไปนั้นก็คือ การปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าอันมหาศาลสู่ที่ๆมีความต่างศักย์ที่น้อยกว่า นั่นก็คือพื้นผิวโลก เหตุการณ์ที่ว่านี้คือ พายุฟ้าผ่านั้นเอง พายุฟ้าผ่านี้ อาจกินเนื้อที่ทั้งทวีปหรือทั่วโลก สายฟ้าที่กระหน่ำลงมาจากก้อนเมฆอิเล็กตรอนนั้น จะกระหน่ำผ่าลงมาทุกๆที่โดยไม่หยุดจนกว่าพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุสุริยะจะหมดลง และจะเกิดขึ้นอีกถ้าพายุสุริยะลูกต่อไปมาถึง หรือจนกว่าการกลับขั้วของแม่เหล็กโลกจะเสร็จสมบูรณ์จนทำให้กระบวนการสร้างสนามแม่เหล็กโลกจะทำงานได้อีก สิ่งมีชีวิตบนโลกมากมายจะต้องตาย และเทคโนโลยีต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้นจะถูกทำลายลงในครั้งนี้ ..


    ************************************************************************************.

    นี่คงเป็นเหตุผลที่ลุงคนเชียงใหม่ ห้ามหลานๆ
    แม้แต่ใช้แสงจากแบตเตอรี่
    ถ้าจำเป็นให้ใช้เส้นแสงที่หักๆแล้วเกิดแสง
    ขนาดว่าจำเป็นนั้นคือการดูแลคนเจ็บป่วย
    เพราะท่านคงเห็นการผ่าของสายฟ้าไปยัง
    จุดที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้า แหงๆเลย

    แต่ว่าอะไรแสดงว่าคลื่นแม่เหล็กพลังงานไฟฟ้าจากพายุสุริยะหมดลง แบบเป็นรูปธรรมสังเกตุได้ด้วยตา ไม่ต้องมีเครื่องวัดใหนๆก็หาข้อมูลแล้วฝากดูต่อทีครับ ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูล


    11-11-2011, 01:06 AM

    [​IMG][​IMG]

    ที่มา http://palungjit.org/threads/บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ-เรื่องภัยพิบัติ.311084/page-14


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...