การนั่งสมาธิครั้งแรกจริงๆจังของผม 10-15 นาทีทําให้ผมเจอสุขที่ดีกว่ากามและคําถาม

ผมขอปู เสื่อก่อนจะเล่าก่อนละกัน ก่อนที่ผมจะมานั่งสมาธิจริงๆจัง ตอนแรกนั้น ผมคิดไม่ดีกับพระพุทธเจ้า ปรามาส ท่าน มาก ( ไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริง แต่อีกใจ จะเป็นไปได้ยังไง ถ้าพระพุทธเจ้าไม่มีจริง ครอบครัวเรา พระ จะมาบวชกันให้เสียเวลากันทําไม ตอนนั้นผมก็พิจาราณาไป แล้วไปนึกถึงว่า ถ้าไม่เชื่อต้องพิสูจน์ ผมเลยอยากพิสูจน์ดู) จิตเศร้าหมอง พอผมกลับไปกรุงเทพอีกที

ไปวัดป่า ที่กรุงเทพ แถวบางแค

วันนั้นวันพระด้วย ไปกับป้าตอนเช้า ผมก็ถวายข้าว หยิบดอกบัวถวายพระพุทธรูปจุดธุป อธิฐาณ ขอให้สิ่งต่างๆที่ผมคิดไม่ดี อโหสิกรรมให้ด้วย ขอให้ผมจิตใจบริสุทธิ์แจ่มใส

พอเสร็จแล้ว พระท่านก็ให้สวดมนต์ วันนั้วันพระมีคนมา เยอะเหมือนกัน แต่วัยรุ่น แบบผม 14-15 ไม่ถึง 8 คนด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่เป็นไร ยังไงสักวัน ถ้าพระพุทธเจ้าอุบัติ ขึ้น พระพุทธเจ้าจะแสดงธรรม อย่างงดงาม แน่นอน แต่ผู้ใหญ่เยอะมาก

กับเข้าเรื่องต่อ พระท่านให้สวดมนต์ แล้วก็ให้นั่งสมาธิ10-20 นาทีนะครับ

นี่คือครั้งแรก ที่ผมนั่งสมาธิแบบว่ามีพระมาอยู่ด้วยจริงๆจัง พระท่านก็บอกว่าหายใจเข้าลึกๆ หายใจออก ไรประมาณนี้ พอไปได้สักพัก

ครับ จิตผม ครับ จิตผม เหมือนมีคนมาผลัก ตกจากเหว ตกจากหน้าผา!!! จริงๆนะครับ แต่สติยังมีอยู่แน่นอน ผมไม่ได้ตกใจอะไร พอต่อจากนั้นครับ นั่งสมาธิ ผมไม่กล้าเรียกว่า ญาณนะครับ เพราะผมก็ไม่แน่ใจใช่เปล่า แต่พอลืมตามา สุขจริงๆ แบบ ลืมตามาเป็นคนใหม่ หน้าตาผ่องใส มาก ดวงตา เฉยๆ ซื่อ ไม่ได้วอกแวก

แล้วก็ผมก็ถามอาการแบบนี้ เวปบอร์ดหนึ่ง เค้าบอกว่า พี่คนนี้เป็นเวปมาสเตอร์ นะครับ เค้าบอกมาว่า



การหล่นจากที่สูงคือจิตอีกสภาวะที่อยูในสถานะสูงกว่าลงร่าง หมายความว่าจิตที่เป็นเทพเมื่อถึงเวลานัดเขาจะลงมายังร่าง ก็คือตัวเราบนสวรรค์นั่นแหละครับ



ตัวผมนั้น ก็ไม่ค่อยเชื่อ ตัวผมกิเลศยังท่วมหัวอยู่ แต่ก็ยังเป็นไปได้ วัยรุ่น รุ่นอย่างผม พอผมจะคุยเรื่องธรรมะ ดันมาบอกว่า หุบปากไปเลย หยุดพูดได้แล้ว น่ารําคาญ ผมก็พอจะเข้าใจอยู่ ก็เลยเฉยๆ ชั่งมัน (เป็นอุเบกขาบารมี)







ผมเลยอยากบอกว่า ในอนาคต ต้องมีคนลงมาเกิด จากสวรรค์ เยอะแหงๆ ญาติผม ที่เป็นผู้หญิง อายุ 7-10 ขวบ นั่งสมาธิเป็นแล้ว พ่อแม่ สอนรึเปล่าผมไม่รู้ เลยทําให้ผมมั่นใจ ได้ว่า ในอนาคต ต้องมีคนดีเยอะแน่ๆ จะมาฟังธรรม คนไม่ดีก็จะ ไม่ดีต่อไปถ้ายังไม่หา ความดี อยูู่

แล้วก็ผมคิดว่า ต้องมีพระโพธิสัตว์ ลงมาเกิดเยอะแน่ๆ ถ้าชาวสวรรค์ลงมาเกิด พระโพธิสัตว์ ก็ต้องลงมาเกิด เพราะว่า เมื่อชาวสวรรค์ ลงมาเกิด ต้องหาความดีใส่ตัวทําตัวเองให้เป็น พระอริยะ ให้ได้ เมื่อเป็นพระอริยะ คราวนี้แหละพระโพธิสัตว์ก็จะ ได้ ทําบุญกับพระอริยะ

แต่พระโพธิสัตว์อาจจะไม่รู้ตัวเองว่าเป็นพระโพธิสัตว์ก็ได้ ผมก็ไม่รู้ เหมือนกัน
ถ้า ละลึกชาติได้คงรู้

ปล. เรื่องจุดธุปอธิฐาณเนี่ย ตัวผม (ความคิดผม) คิดว่าต้องช่วยได้แน่ เพราะ หวังในสิ่งดี ในวัด ต้องมีเหล่า พรหม เทวดา แน่ ต้องมาช่วย พรหม เทวดา ไม่ใจร้ายแน่ ถ้าจะใจร้ายก็ต้องเป็นมาร

 

มันจะเป็นอะไรก็ช่างนะครับ....แต่สิ่งหนึ่งที่น้องได้สัมผัสแน่ๆเลยก็คือ การทำสมาธิช่วยให้มีความสงบ น้องมีความสดชื่นเมื่อได้ปฏิบัติ....อย่างน้อยที่สุดน้องได้พิสูจน์ว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสั่งสอนนั้นดีจริง ตามที่น้องได้เจอ แม้ว่ามันจะเป็นเวลาเพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม....อย่างนี้ก็ได้ชื่อว่าดีแล้วหละครับ....

น้องปฏิบัติต่อไปนะครับ....แล้วน้องจะเจอความมหัศจรรย์ในคำสอนของพระองค์อีกเยอะ ด้วยตัวน้องเอง....

 

ยุคนี้เป็นยุคอภิญญาใหญ่น่ะค่ะ ตามที่พระท่านว่าเอาไว้
คนที่ลงมาเกิดในยุคนี้ ก็มีบางส่วนที่มีของเก่ามาเยอะ


และยุคนี้ก็ยังเป็นกลียุคเพราะศีลธรรมของคนเสื่อมทรามมาก
การลงมาจุติของพระโพธิสัตว์หรือเทพองค์อื่น ๆ จากสวรรค์ก็เพื่อสร้างบารมี
เพื่อพระโพธิญาณหรือพระนิพพานก็ว่ากันไป


อาการของน้องไม่ใช่ตัวน้องที่เป็นเทพสวรรค์มาลงร่างอะไรหรอกค่ะ
จิตของเราอยู่ในเมืองมนุษย์ คนที่จะลงไม่ใช่น้อง แต่อาจเป็นเทพข้างบนที่ท่านอยากจะใช้ร่างก็ได้


หน้าตาผ่องใสขึ้นอาจจะเกิดจากปีติของสมาธิค่ะ
ใคร ๆ ก็มีได้ เคยหาอ่านไหมคะ ปิติมี ๕ อย่าง อะไรบ้างลองไปสืบเสาะอ่านดู
เราต้องใช้ความฉลาดของเราให้เป็นพื้นฐาน ให้ถูกทางนะคะ




พี่เข้าใจว่าน้องอยากสื่อสารบอกกล่าวในสิ่งที่น้องรู้ น้องเห็นหรือประสพมา
และการเข้ามาในเว็บแห่งนี้ก็ขอให้เข้ามาเพื่อเรียนรู้นะคะ
มีหลายคนได้เคยบอกอะไรดี ๆ แก่น้องหลายเรื่อง
หากเราเป็นผู้มีปัญญาก็ลองทำตามที่พี่ ๆ เหล่านั้นได้เมตตาสั่งสอนดูนะคะ
พี่ว่าน้องจะก้าวหน้ากว่า ณ ปัจจุบันนี้มากนักค่ะ

 

ยังไม่ชัดเท่าไหร่กับข้อมลูที่เล่ามา ผมเองก็อยากเป็น อบากเห็นเเบบคุณบ้าง..แต่ติดนิดเดียว..มารในจิตผมมันเยอะไปหน่อย

 

เดี๋ยวๆ ผมสงสัย

ที่บอกว่า "ดีกว่ากาม"

ทำไมคุณ ถึงทราบว่า "ดีกว่า"

คุณอาศัยอะไรเปรียบเทียบ จึงเห็นว่า "ดีกว่า"

ใช่ความพอใจ หรือ กาม หรือ ตัณหา หรือเปล่า ?

เกรงว่า จะไม่ดีกว่า แต่ จะลึกกว่า ปราณีตกว่า

แต่ ทำเพื่อให้รู้ว่า กามปราณีตกว่า กามละเอียดกว่ามีอยู่ในโลก อันนี้ก็ หมดคำถาม เนาะ

 

อาศัยตัวผมจิต ผมอ่าครับ มันบอกว่านี่ดีกว่าดียังไง คือดีทุกอย่าง แค่สุขจากกาม คือต้องมีวัตถุ แต่สุข จาก เข้าญาญแค่ใช้ตัวเราจิตเราก็แค่นั้น