ทำไมพระพุทธศาสนาจึงสอนแต่เรื่องทุกข์ ?

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 21 พฤศจิกายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    [​IMG]


    พระอาจารย์ กล่าวว่า "เมื่อครู่นี้นั่งทำงานอยู่ข้างบน ก็นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เรื่องที่มี ชาวตะวันตก หลายรายบอกว่า การทำความดีตามหลักพระศาสนาก็เพื่อความสุข แต่ทำไมพระพุทธศาสนาสอนแต่เรื่องทุกข์ ? แสดงว่าฝรั่งเขาไม่เข้าใจว่า สิ่งที่คิดว่าเป็นความสุขนั้น จริงๆ แล้วก็คือความทุกข์ที่น้อยลงเท่านั้น

    ความจริงแล้วเรื่องของทุกข์ไม่มีใครอยากได้ ก็เลยพลอยผลักไสปฏิเสธไปด้วย แต่ว่า หลักของพระพุทธศาสนานั้นเป็นการย้อนทวนกระแส ความสุขทำให้คนหลงยึดติดได้ง่าย เพราะเห็นว่าสุขจึงรับเอาไว้ด้วยความยินดี หารู้ไม่ว่ามีโทษยิ่งกว่าความทุกข์อีก โดยเฉพาะบุคคลถ้าหวังความหลุดพ้น ไม่ว่าจะติดสุขหรือว่าติดทุกข์ก็ไปไม่รอดทั้งคู่

    ในเรื่องของความทุกข์นั้น ความจริงแล้วเป็นของที่มีค่ามหาศาล พระพุทธเจ้า บำเพ็ญบารมีมาอย่างน้อย ๔ อสงไขยกับอีกแสนมหากัป เกิดจนนับชาติไม่ถ้วน ถ้าเราคำนวณว่าแต่ละชาติใช้ทรัพยากรไปเป็นจำนวนเงินเท่าไร บวกลบคูณหารออกแล้วรับรองว่าจะได้ตัวเลขมหัศจรรย์ที่อ่านออกมาไม่ได้ เพราะมหาศาลจริงๆ

    ทั้งหมดที่พระองค์ท่านเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสาร ใช้ทรัพยากรไปจนประมาณเป็นตัวเลขไม่ได้ ก็เพื่อตรัสรู้ในเรื่องของความทุกข์นี่เอง เพื่อการรู้เห็นทุกข์อย่างชัดแจ้ง รู้ว่าทุกข์เกิดจากสาเหตุอะไร แล้วสามารถที่จะออกจากทุกข์อย่างไร ในเมื่อเรารู้อย่างนี้แล้ว จะเห็นว่า ความทุกข์นั้นมีค่ามหาศาลที่ประมาณเป็นตัวเลขไม่ได้ เงินทองตลอดชีวิตที่เราทำมาได้ก็ไม่พอซื้อ แต่ก็เป็นเรื่องแปลกที่ว่าพอทุกข์อยู่ตรงหน้าแล้วพวกเราดันเผ่นหนีกัน แล้วเมื่อไรเราจะรู้เสียทีว่าความทุกข์นั้นเป็นอย่างไร ในเมื่อเราไม่รู้ก็จะไม่เบื่อ ไม่เข็ด ไม่กลัว ก็ต้องทนอยู่กับทุกข์ต่อไป

    แต่หากว่ารู้แล้ว ถ้าเรามี สติ สมาธิ ปัญญา เพียงพอ ก็จะเกิดอาการเบื่อ อาการเข็ด อาการกลัว แล้วก็เร่งหาทางพ้นจากความทุกข์ ดังนั้น..ที่ฝรั่งเขาความถามว่าหลักการของพระศาสนาต่างๆ เขาปฏิบัติเพื่อความสุข แต่ทำไมศาสนาพุทธพูดถึงแต่ทุกข์ทั้งนั้น ก็เพราะว่า ความสุขที่ฝรั่งว่านั้นส่วนใหญ่แล้วเป็นโลกียสุข เป็นความสุขที่เนื่องด้วยโลกียะ ไม่ใช่ความสุขที่เป็นโลกุตระ คือหลุดพ้นออกจากกองทุกข์ทั้งปวง

    ความสุขของโลกียะนั้นไม่ยั่งยืน พอขาดตัวกระตุ้น ขาดตัวหนุนเสริม ความสุขนั้นก็หายไป แต่ความสุขที่เป็นโลกุตรสุขนั้น เมื่อเข้าถึงแล้วคงตัวอยู่ไม่ไปไหน สิ่งที่เราวิ่งหากันอยู่ทุกวันคือความสุขในการหลุดพ้น แต่จะเข้าถึงความสุขในการหลุดพ้นได้เราต้องย้อนทวนความทุกข์ไปก่อน ก้าวทะลุกำแพงทุกข์เมื่อไรก็แปลว่าพบความสุขที่ยั่งยืนและแท้จริง"


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2011
  2. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    .

    "อาตมาไม่เหมือนกับชาวบ้านเขา อะไรที่ยากลำบากนี่จะวิ่งใส่เลย ถือเป็นความมันในชีวิต คิดไม่เหมือนชาวบ้านเขา คิดว่า เราสร้างบารมีมาจนป่านนี้แล้ว ถ้าทำอะไรง่ายๆ แล้วเสียศักดิ์ศรี เพราะฉะนั้น..อะไรที่ยากเท่าไรก็มันเท่านั้น ใครจะเลียนแบบก็ได้นะ แต่ต้องอึดพอ ถ้าหน้าไม่ด้านพอเผ่นไปตั้งแต่แรกแล้ว..!

    มีดีอยู่อย่างหนึ่งคือ ถ้าเรากระโดดเข้าหาความทุกข์ เราก็จะไม่ต้องโดนบังคับให้ทุกข์ ตรงนี้เคยพูดหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่คาดว่าญาติโยมทั้งหลายจะลืมไป บุคคลที่ตั้งใจจะไปพระนิพพาน ต้องเห็นทุกข์อย่างชัดแจ้ง เกิดความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด เข็ดกลัว แล้วหาทางหลีกหนีให้พ้นจากความทุกข์นั้น ถ้าตราบใดที่ไม่เห็นความทุกข์อย่างชัดแจ้ง ก็จะหลุดพ้นไม่ได้

    แล้วพวกเราก็อธิษฐานกัน ขอถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเทอญ ไม่ดูความทุกข์สักทีแล้วเมื่อไรจะถึงพระนิพพาน พวกเราส่วนใหญ่ลงมาก่อนเวลา ในเมื่อลงมาก่อนเวลา ก็ต้องไปขออนุญาตเทวดาชั้นผู้ใหญ่ ให้ท่านช่วยรับรองให้ เทวดาที่ท่านรับรองให้ก็ต้องเป็นเจ้านายใหญ่ ก็คือ ท่านปู่พระอินทร์ แล้วก็รวม ท่านย่า ไปด้วย

    ท่านย่า เคยบอกว่า ถ้าใครไม่ยอมพิจารณาให้เห็นทุกข์แล้วอยากจะไปนิพพาน ก็จะต้องโดนบังคับให้ทุกข์ เพราะฉะนั้น..ใครที่รู้สึกว่าชีวิตกูลำบากฉิบหายเลย ถ้าอยากจะสบายขึ้นให้รีบพิจารณาทุกข์ให้ชัดเจน ท่านจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาบังคับ

    ลองนึกดูว่าถ้าเราเลี้ยงวัว วัวตัวไหนที่น่ารัก เดินอยู่ในทาง จะไปโดนตีโดนเฆี่ยนได้อย่างไร ? ส่วนประเภทที่แวะเกะกะข้างทางไม่พอ แล้วยังไปกินข้าวชาวบ้านเขาอีก ก็ต้องโดนไม้ คราวนี้พอเจ็บพอลำบากขึ้นมาก็โวยวาย หารู้ไม่ว่าตัวเองไม่ยอมเดินไปดีๆ เอง"

    "ฉะนั้น..รีบกลับไปพิจารณาเห็นทุกข์ให้ชัด จะได้ไม่ต้องถูกบังคับให้ทุกข์ วิธีบังคับให้ทุกข์ที่อาตมาเห็นมาส่วนใหญ่จะเป็น โรคมะเร็ง เจ็บปวดสาหัสดีนักแล อยากหายจากโรคมะเร็งให้รีบพิจารณาทุกข์ให้ชัด แต่อาตมาไม่ยืนยันว่าจะหายจากโรคมะเร็ง เพียงแต่บอกให้รู้ว่า ถ้าตั้งใจไปพระนิพพานต้องเห็นทุกข์จนเบื่อร่างกายนี้ก่อน

    อาตมาวิ่งใส่งานทุกอย่างที่ขวางหน้า อย่างวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาวิ่งรถ ๒,๐๐๐ กว่ากิโลเมตร ออกตีสามกลับมาถึงที่นี่เที่ยงคืน แล้วต้องมารับสังฆทานต่อ ยอมเหนื่อยเพราะรู้ว่า แค่นี้ตัวเองยังรับได้ พอทนได้กับความเหนื่อยแค่นี้ แต่ถ้าให้เขามาเองนี่ไม่รู้ว่าเขาจะมาหนักเบาเท่าไร เพราะฉะนั้น..วิ่งใส่งานดีกว่า ดีกว่าให้ความทุกข์เข้ามาบังคับเราเอง สรุปแล้วเมื่อครู่ขึ้นไปนั่งทำงาน เลยคิดอะไรได้ตั้งเยอะแยะ"


    สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๔



    ที่มา : www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2938&page=6



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2011
  3. ็HEAVEN CEMETERY

    ็HEAVEN CEMETERY Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +26
    สุสานสวรรค์

    อนุโมทนาสาธุด้วยเช่นกันครับ

    เห็นด้วยเช่นกันครับ

    เมื่อความทุกข์เกิดขึ้น
    ถ้าเราขาดสติ เราจะมองไม่เห็นทุกข์
    แต่ถ้าเรามีสติเราจะเห็นความทุกข์
    ทันทีที่เราเห็น ความทุกข์จะเปลี่ยนคุณภาพเป็นความสุข

    ด้วยเหตุนี้พระพุทธองค์จึงตรัสว่า
    ความทุกข์เป็นความจริงอันประเสริฐ
    เพราะความทุกข์นำมาซึ่งความสุข
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 พฤศจิกายน 2011
  4. beauty cosme'

    beauty cosme' สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +24
  5. ดอกสร้อย

    ดอกสร้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,842
    ค่าพลัง:
    +4,893
    "ความสุขทำให้คนหลงยึดติดได้ง่าย เพราะเห็นว่าสุขจึงรับเอาไว้ด้วยความยินดี หารู้ไม่ว่ามีโทษยิ่งกว่าความทุกข์อีก โดยเฉพาะบุคคลถ้าหวังความหลุดพ้น ไม่ว่าจะติดสุขหรือว่าติดทุกข์ก็ไปไม่รอดทั้งคู่"
    กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  6. นกยูงเงิน

    นกยูงเงิน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +25
    ขอกราบอนุโมทนาสาธุการ กับบุญ บารมี ความรู้แจ้งในธรรมกับหลวงพี่เล็กด้วยครับ
     
  7. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    [​IMG]
    เพราะว่าคนติดสุขมาก พระพุทธศาสนาจึงสอนให้รู้เท่าทันเรื่องเหตุเเห่งทุกข์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2011
  8. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    ผู้ใดเห็นทุกข์ ผู้นั้นเห็นธรรม
    จงเห็นทุกข์ แต่อย่าเป็นทุกข์

    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ

    เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่
    เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา
    และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่านเพื่อเป็นธรรมทาน

    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่www.tangnipparn.com<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    <O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา

    [​IMG]</O:p>
     
  9. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    โมมทนาบุญด้วยครับท่าน สาธุชนคนใจบุญทั้งหลาย[www.marateebook.com]
    [​IMG]
     
  10. chocolate kiss

    chocolate kiss Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +95
    กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ....:cool:

    อย่างนี้คงต้องขอบคุณความทุกข์ที่ทำให้มีโอกาสพิจารณาสภาวะธรรมอันลึกซึ้ง..
     
  11. skyroad

    skyroad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +259
    สาธุค่ะ โมทนาบุญกับเรื่องราวความรู้ดีๆที่แบ่งปันมาให้ค่ะ
     
  12. oon_dee

    oon_dee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +24
  13. นายสาธิต

    นายสาธิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2008
    โพสต์:
    409
    ค่าพลัง:
    +1,066
    เออ ติดสุขแล้วมันไม่พ้นทุกข์น่ะซี้ ทีนี้ก้อพันกันจนแก้ไม่ออก
     
  14. kkookk

    kkookk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +1,326
    พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง อนุโมทนาสาธุด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  15. puttro

    puttro Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +66
    บุคคลที่ตั้งใจจะไปพระนิพพาน ต้องเห็นทุกข์อย่างชัดแจ้ง เกิดความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด เข็ดกลัว แล้วหาทางหลีกหนีให้พ้นจากความทุกข์นั้น ถ้าตราบใดที่ไม่เห็นความทุกข์อย่างชัดแจ้ง ก็จะหลุดพ้นไม่ได้

    อนุโมทนาสาธุ เจ้าค่ะ
     
  16. เลไล

    เลไล สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    เป็นเช่นนั้นจริงๆค่ะ

    ข้าพเจ้าก็ทุกข์มาแสนสาหัส(ตั้งแต่เกิดเลย) เลยหาทางพ้นทุกข์อยู่แต่ยังไม่พบคะ่่

    แต่ก็ไม่เคยท้อต่อการทำความดีค่ะ เพราะว่ารักและบูชาองค์สมเด็จพระสัมมา

    สัมพุทธเจ้ายิ่งเจ้าค่ะ นึกถึงทีไรน้ำตาก็ท่วมหัวใจทุกที ไม่ทราบเป็นเพราะอะไรค่ะ

    นึกถึงพระอรหันต์เช่นกันค่ะ เช่น หลวงปู่โต,หลวงปู่มั่น ,หลวงพ่อจรัญ,พระ

    โพธิสัตว์กวนอิมเจ้า หรืออีกหลายพระองค์ค่ะ ท่านใดทราบสาเหตุรบกวนตอบ

    ด้วยค่ะ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งค่ะ ขอขอบคุณเว็บพลังจิตด้วยค่ะ
     
  17. oon_dee

    oon_dee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +24
  18. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ทุกข์สำหรับรู้ สุขสำหรับเป็น
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...